WILLESS NIGHTCLUBS
ภายในผับหรูตอนนี้บนชั้นของผู้บริหารนั้นมีร่างสูงของกวินทร์นั่งดื่มเหล้า อึก อึก อยู่คนเดียวพร้อมทั้งมีพนักงานคอยยืนรับใช้อยู่ ร่างสูงทำราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ถ้ากินแบบนี้นะต่อให้เป็นพวกคอหินแค่ไหนก็ไม่รอดอ่ะ
“เอาเหล้ามาอีก!” ขวดที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ไม่ได้นับ พนักงานได้ยินรีบวิ่งไปเอาเหล้ามาให้ร่างสูงที่ตอนนี้คอพับ ตัวก็เอนเอียงไปมา
“เฮ้ยยย ไอ้วิน ทำไมสภาพมึงเหมือนหมาแบบนี้วะ”
“อย่ามายุ่งงงงงกาบบบกู” กวินทร์เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง
“เฮ้อออ เมาทีไร แม่งลำบากพวกกูตลอด ไอ้เพื่อนเวร” ธีสิตพูดอย่างเบื่อหน่าย
“เหล้ามาแล้วครับ” เหล้าเพียวๆ ถูกยกมาโดยพนักงานชายคนหนึ่ง เขากำลังจะรินเหล้าให้กวินทร์แต่ก็ต้องชะงักเพราะธีสิตเอ่ยห้ามแล้วไล่เขาออกจากห้อง
“เอามาให้ฉัน นายมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ”
“ครับ” ตอบแล้วเดินออกไป
“เอาเหล้ามาาาาา~~~”
“มึงพอได้ละ นั่งจะไม่ได้อยู่ละ” อลันบอกคนเมา
“เอามาา...! @##%^&**<>$#”
“บ่นเหี้ยไรของมัน ไอ้ห่านี่”
“แล้วใครจะพามันไปส่ง” อลันถามพลางมองหน้าเพื่อนทุกคน
“มึงกับกูไง” ธีสิตเป็นคนตอบคำถาม
“อีกละ เออก็ได้วะ” อลันได้แต่ยอมรับอย่างจำใจ ได้แต่คิดว่ายังไงมันก็เป็นเพื่อนเขา
ณ โรงจอดรถ
“อืมมม.......ซินน” ธีสิตกับอลันพยุงกวินทร์กันคนละข้างแต่ร่างสูงนี่สิ ไม่อยู่นิ่งสักทีเดี๋ยวเอนซ้าเอนขวา ไหนจะเพ้อห่าอะไรของมันก็ไม่รู้ วุ๊
“ไอ้วิน มึงอยู่นิ่งๆ ดิ”
“เออ แม่งมึงคิดว่ามึงตัวเล็กรึไงวะ ตัวหนักยังกับควาย” ขนาดตัวพอๆ กันกับกวินทร์ยังแบกมันลำบากเลย
ตุ๊บ!!
พวกเขาโยนร่างสูงเข้าไปในรถของธีสิตเสร็จแล้วอลันก็เดินไปที่รถของร่างสูง เพื่อขับไปส่งมันจะได้ไม่ต้องกลับมาเอาอีกให้วุ่นวาย
“ไอ้วินเอ้ย เพื่อนดีขนาดนี้มึงหาจากที่ไหนไม่ได้แล้วล่ะ” อลันบ่นคนเดียว ส่วนธีสิตหลังปิดประตูรถให้กวินทร์แล้วก็เดินไปฝั่งคนขับปิดประตูรถแล้วขับตามอลันออกไป เพื่อส่งกวินทร์ที่คอนโดฯทันที
10:30 PM
กว่าเพื่อนทั้งสองคนจะแบกร่างสูงของกวินทร์มาจนถึงหน้าประตูห้องของคอนโดทำเอาเหงื่อตก อลันเอื้อมมือไปกดออดอีกมือก็พยุงกวินทร์ช่วยธีสิต
อออดด ออดดด ไม่นานนักก็มีคนมาเปิดประตู
...แกร๊กก!...
“วิน!” ซินดี้ตกใจเมื่อเห็นสภาพของร่างสูง แต่ไม่ทันจะได้ถามอะไรก็ต้องหลีกทางให้เพื่อนของร่างสูง แบกเขาเข้าในห้องแล้วโยนลงบนโซฟาหรูทันที
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ”
“มันมีเรื่องที่มหาลัยนิดหน่อยน่ะครับ” ซินดี้เลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“มันตื่นพี่ก็ถามมันเองแล้วกันนะครับ ฝากดูแลมันด้วยนะ” ไม่ฝากยังไงเธอก็ต้องดูแลเขาอยู่แล้วแฟนทั้งคนนี่นา
“พวกผมกลับล่ะนี่กุญแจรถมันครับ” อลันยื่นกุญแจรถกวินทร์ให้ซิ้นดี้ ร่างบางรับมาแล้วเดินไปส่งทั้งสองคนที่หน้าประตูจากนั้นก็กลับมาดูร่างสูงซึ่งนอนหลับไม่รู้เรื่องต่อ
“เฮ้ออ ทำไมดื่มเยอะแบบนี้เนี่ย”
จากนั้นซินดี้จัดท่านอนให้ร่างสูงนอนดีๆ แต่กว่าจะได้ก็หนักเอาการเหงื่อแทบเล็ดก็ตัวเขาทั้งใหญ่และสูงกว่าเธอมากโข ร่างบางถอดรองเท้าและถุงเท้าออกให้เขา แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเตรียมน้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้ เขาจะได้นอนหลับสบาย ซินดี้ปลดกระดุมเสื้อให้ร่างสูงเพื่อจะได้เช็ดตัวสะดวก มือเล็กใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดตัวให้เขาตั้งแต่ใบหน้าที่ตอนนี้แดงแจ๋เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ไล่ลงลำคอ แขนยาวทั้งสองข้าง แผ่นอกหนา ลงมาจนถึงหน้าท้องแกร่งมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ จนถึงขอบกางเกงหน้าเริ่มแดง ลังเลอยู่ว่าจะเช็ดดีมั้ยสุดท้ายก็ได้คำตอบ
“ไม่ดีกว่า” ถึงจะเคยเห็นกันมาหลายต่อหลายครั้งยังไงเธอก็อายอยู่ดี คิดได้ดังนั้นก็ลุกออกจากร่างสูงเพื่อเอาของไปเก็บแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไป…
พรึบ! อ๊ะ! มือหนาจับแขนเล็กดึงลงมาอย่างรวดเร็ว จนเซล้มปะทะอกแกร่งอย่างจัง ดีนะยังไม่ทันได้ถือกะละมังไม่งั้นเปียกหมดแน่
“อื้ออ วินน ปล่อยนะ”
“อืมมมอย่าไป”
“วิน ปล่อยก่อนซินจะเอาของไปเก็บ....วิน” ไม่มีเสียงตอบรับมีแต่เสียงลมหายที่เข้าออกสม่ำเสมอจากร่างสูง
“เฮ้ออ ละเมอนี่เอง” แขนแกร่งโอบกอดเอวบางแน่น ซินดี้พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ให้กับคนขี้เมา ในเมื่อลุกไปไหนไม่ได้งั้นก็นอนมันบนตัวเขานี่แหละ
“ตื่นขึ้นมาแล้วปวดตัวก็อย่ามาว่ากันนะ.....เข้าใจมั้ย...คิคิ” พูดเองเออเองหัวเราะคิกคัก อยู่คนเดียว นอนซุกหน้าลงกับอกแกร่งของร่างสูงไม่นานก็หลับไป
เช้าวันถัดมา
“อื้อออ....อ่าาาา ปวดหัวชิบ” กวินทร์ตื่นมาก็บ่นนู่นนี่ทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตาอีกทั้งขายังปวดหัว ปวดแขน ปวดขา ปวดไปหมดทั้งตัว ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่ามีคนนอนอยู่บนตัวของตน มือหนายกมานวดขมับตัวเองไปด้วย ทำให้คนตัวเล็กบนตัวของเขานั้นเริ่มรำคาญกับการขยับตัวของเขา
“อืมมม” เสียงของซินดี้ทำให้กวินทร์ลืมตาขึ้นดู และเมื่อเห็นซินดี้ก็เลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่าเธอมานอนบนตัวเขาได้ยังไง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้คนตัวเล็กนอนไปอย่างนั้นแหละ ส่วนเขาก็นอนลูบหัวอีกคนไปเบาๆ
ผ่านไปได้สักพัก
อืมม..เสียงครางของซินดี้ที่ตอนนี้ตื่นแล้วเรียบร้อยเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากกวินทร์ไม่น้อย
“ตื่นแล้วหรอ”
“อื้ออ วะ..วิน ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” รีบลุกออกจากตัวร่างสูง
“สักพักแล้ว”
“ห๊ะ! แล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ ปล่อยให้ซินนอนทับตัวเองอยู่ได้ ไม่หนักรึไง” จากตอนแรกตกใจตอนนี้กลับบ่นเขาซะงั้น กวินทร์ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ แล้วเงยหน้ามองซินดี้ที่ยืนอยู่ข้างโซฟายิ้มๆ
“ไม่เห็นเป็นไร” เขาว่าเสียงทุ้ม ก็มันจริงนี่นาซินดี้น่ะตัวเบาอย่างกับนุ่น แค่นี้ไม่ทำให้เขาเมื่อยหรอก
“เฮ้อวินหิวมั้ย”
“อืม”
“งั้นวินไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวซินจะไปทำอาหารให้” พูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นกำลังจะเดินไปห้องน้ำก็ ฟอด! หอมแก้มเนียนใสหนักๆ ทีนึง แล้วรีบวิ่งออกไป
“วิน!!” คนตัวเล็กหน้าร้อนผ่าวๆ
“คนบ้า” พูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วเข้าไปห้องครัวเพื่อทำอาหารให้ร่างสูง
ห้องครัว
กวินทร์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินออกมาหาซินดี้ที่ห้องครัว แล้วสวมกอดร่างบางจากด้านหลังและหอมแก้มนวลของคนตัวเล็กไปฟอดหนึ่ง
หมับ!
“อ๊ะ วิน!” คนตัวเล็กทำหน้าตื่นเนื่องเพราะตกใจที่คนตัวสูงมาไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ฟอดด หอมจัง”
“วินปล่อย ซินทำกับข้าาอยู่นะ”
“แล้วไงอ่ะ”
“มันทำไม่ถนัด”
“วิน” กวินทร์ไม่สนใจเขากอดเอวบางไว้อย่างนั้น จนซินดี้เริ่มรำคาญจึงวางทัพพีลงแล้วหมุนตัวกลับมาหาร่างสูงแต่ไม่ทันจะได้ว่าอะไรเขาก็ประกบปากลงมาแล้ว
อุ๊ปส์!
“อื้ออ...” แขนใหญ่กระชับเอวบางแน่นขึ้น ร่างสูงสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปากหวานทุกซอกทุกมุม ลิ้นร้อนดูดดึงลิ้นเล็ก คนตัวเล็กจากตอนแรกที่ตกใจตอนนี้กลับเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบเร่าร้อนและจูบตอบเขาอย่างไม่ประสีประสานัก
“อื้ออ อืม” มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบางที่มีเนื้อผ้ากั้นอยู่ เขาเลื่อนมันมายังหน้าอกอวบที่มีบราเซียหุ้มและบีบเคล้นมันอย่างหนัก มืออีกข้างก็ไม่แพ้กันละจากแผ่นหลังบางล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นของร่างบาง กำลังจะถึงจุดสงวนแต่ร่างบางรีบผลักเขาออกรวดเร็ว เพราะเกรงว่าจะเลยเถิดไปมากกว่านี้อีกทั้งวันนี้เธอยังไม่พร้อม ผลั๊ก
“พะ...พอแแล้ว”
“อืม” ในเมื่อคนตัวเล็กไม่ต้องการเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แม้ว่าตอนนี้น้องชายของเขามันจะตื่นแล้วก็ตาม ร่างสูงรีบไปห้องน้ำทันที เมียไม่ให้ก็แม่นางทั้งห้านี่แหละ ซินดี้เห็นเขาเดินออกไปเธอก็รีบหันกลับมาทำอาหารต่อให้เสร็จ ทั้งที่ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย
“น่าอายที่สุดเลย” ใช่ ร่างบางรู้ว่าเขารีบวิ่งออกไปทำไมก็เธอเห็นน่ะสิ งว่าเป้ากางเกงของร่างสูงนั้นมันโป่งพองแค่ไหน คนบ้า!
ในขณะที่ซินดี้กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่กวินทร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ทั้งสองมองหน้ากันนิดหน่อยหลังจากนั้นก็พากันลงมือกินข้าว กินเสร็จซินดี้ก็เอาจานไปล้าง เสร็จแล้วก็เดินออกมาหากวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นพวกเขานอนดูหนังกันไปเรื่อยๆ
นานๆ ทีจะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ลำพังซินดี้น่ะไม่เท่าไหร่หรอก เพราะว่างจากการเรียนส่วนมากก็จะอยู่คอนโด แต่กวินทร์นี่สิไม่ค่อยจะอยู่หรอก หาเรื่องออกไปข้างนอกตลอด แบบนี้ซินดี้เลยดีใจมากไงล่ะที่ได้อยู่กับคนรักเต็มๆวัน
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเพราะเป็นวันที่ซินดี้และเพื่อนๆ ของเธอรอคอย มีคนมาเพิ่มมาอีกสองคนซึ่งก็คือกวินทร์และอลัน เพื่อนของซินดี้ทุกคนรู้จากเธอนานแล้วว่ากวินทร์จะไปด้วยแต่อลันนี่สิเห็นพี่สาวเก็บกระเป๋าเมื่อคืน เลยถามว่าเจ้เก็บกระเป๋าทำไมอ่ะ ไปไหนหรอ ไปทะเล เท่านั้นแหละเขาก็อ้อนขอมาด้วยทันที กะทันหันจนอลิสไม่ได้โทรบอกเพื่อนก่อน ทริปนี้เป็นทริปที่พวกเขาทั้งห้าคนตกลงกันไว้ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วว่าวันหยุดของมหาลัยฯซึ่งตรงกับวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ พวกเขาจะไปเที่ยวทะเลภูเก็ตเนื่องจากไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็อยู่บนเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อย“ตื่นเต้นจัง” ซินดี้พูดออกมาอย่างดีใจจนกวินทร์ที่นั่งข้างอดแซวขึ้นมาไม่ได้“ขนาดนั้นเลย?”“ก็ไม่ได้ไปทะเลตั้งนานแล้วนี่นา”“หรองั้นเดี๋ยววินพามาบ่อยๆ เอามั้ย”“จริงนะ!?”“อืม”“วินน่ารักที่สุดเลยย” มือเรียวรีบยกขึ้นจับแก้มกวินทร์ส่ายไปมาด้วยความดีใจ“พอแล้ว” กวินทร์จับมือคนตัวเล็กออกจากหน้าตัวเองรีสอร์ต เกาะ…จังหวัดภูเก็ตตอนนี้ทุกคนถึงรีสอร์ตที่จองไว้เรียบร้อยที่นี่ค่อนข้างร่มรื่น เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ห้องพักแต่ละห้อ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา