หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก / บทที่ 5 บุรุษสวมหน้ากากกับท่าทางแปลกๆ ของเขา (2) (3/4)

แชร์

บทที่ 5 บุรุษสวมหน้ากากกับท่าทางแปลกๆ ของเขา (2) (3/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-22 21:00:26

           “พวกท่านรีบใส่อาภรณ์เถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอาได้” นางเอ่ยพลางส่งยิ้มให้กับชายงามทั้งสามที่ช่วยให้งานของนางลุล่วงไปได้

            “...” บุรุษสวมหน้ากากตวัดสายตามองเช่นกัน ทำให้ทั้งสามคนได้แต่ก้มหน้า

            คุณชายผู้นี้หวงแหนฮูหยินยิ่งนัก...

            “พวกท่านจะนั่งดื่มกินก่อนก็ได้นะเจ้าคะ ประเดี๋ยวผู้ดูแลนำบุรุษมาให้ข้าเลือกเพิ่ม พวกท่านค่อยไปก็ได้”

            “นี่เจ้ายังจะเลือกบุรุษมาเพิ่มอีกหรือ”

            “ข้ายังวาดได้ไม่มาก จึงต้องหาคนเพิ่มอีกเจ้าค่ะ”

            “ที่นี่เป็นหอชายงามอยู่นานไม่ดี เจ้าควรรีบกลับจวน” บุรุษสวมหน้ากากบอกพลางรินชา

            “ท่านก็ไม่ควรอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ มิเช่นนั้นท่านอาจจะถูกผู้อื่นเอาไปนินทาได้ว่าท่านเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ”

            “หากการที่ข้ามาอยู่ที่นี่ในตอนนี้เป็นบุรุษตัดแขนเสื้อพี่ชายเจ้าคงมิต่างกัน”

            “ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

            “ห้องที่อยู่ติดกับห้องเจ้า คือห้องที่พี่ชายของเจ้ากำลังดื่มกินกับสหาย”

            ‘พี่ใหญ่ มาเที่ยวหอชายงามจริงๆ หรือ’

            “ท่านโกหก”

            “ไม่เชื่อก็ลองออกไปด้านนอกแล้วไปลอบมองห้องข้างๆ ดู”

            “คิดว่าข้าไม่กล้าหรือ” นางกล่าวก่อนจะเดินออกไปที่ประตูแล้วเปิดออกไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากประตูนางก็รีบปิดมันอย่างรวดเร็ว

            “หรือเจ้าไม่กล้าแล้วคุณหนู...” บุรุษสวมหน้ากากยังกล่าวไม่ทันจบ สตรีตัวน้อยก็พุ่งตัวเข้ามาหาก่อนจะดันเขาให้ถอยห่างจากประตูมากที่สุด มือเรียวปิดปากเอาไว้ไม่ยอมให้เอ่ยวาจา

            ‘พี่ชายข้าอยู่หน้าห้อง’ จางชิงหนี่ว์กล่าวอย่างไร้เสียง

            ‘เชื่อข้าแล้วใช่หรือไม่’

            “ท่านช่วยหาวิธีพาข้ากลับไปส่งที่จวนก่อนที่พี่ชายข้าจะกลับได้หรือไม่” นางพยักหน้าก่อนจะยื่นดวงหน้าหวานเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูบุรุษสวมหน้ากาก

            ตอนนี้นางไม่สนแล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าพี่ชายนางอยู่ห้องข้างๆ การเอาตัวรอดให้กลับถึงจวนได้ก่อนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

            “ได้ เช่นนั้นเรารีบกลับกันเลยหรือไม่”

            “อืม” นางตอบเสียงเบาพลางพยักหน้ารัวๆ แต่ก่อนที่จะผละเพื่อถอยออกห่างร่างเล็กก็ถูกเขาช้อนอุ้มตัวลอยจากพื้น

            “ข้าขอเก็บของก่อนเจ้าค่ะ”

            “ประเดี๋ยวคนของข้าจะเก็บให้” เขาบอกแล้วทำท่าจะกระโดดออกทางหน้าต่าง

            “รอก่อนเจ้าค่ะ ข้าลืมให้ตำลึงกับเขาทั้งสามคน”

            “ก็รีบโยนไปซะ” บุรุษสวมหน้ากากบอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ

            ทันทีที่นางโยนถุงเงินหนักอึ้งออกไป บุรุษสวมหน้ากากก็พานางออกมาจากที่นั่นทันทีพร้อมกับน้ำตานางที่ตกใน

            ‘ข้าโยนเงินผิดถุง’ นั่นเป็นเงินเก็บของนางซึ่งมีจำนวนไม่น้อย

            ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อคุณหนูจางก็ถูกพากลับมาส่งถึงจวนโดยเขาเลือกวางนางลงบริเวณสวนที่นางเคยเจอเขาครั้งก่อน

            “ขอบคุณท่านที่มาส่งเจ้าค่ะ” นางบอกด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเศร้าสร้อย สีหน้ายังคงปรากฏความเสียใจ

            “เป็นอันใดไป เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนั้น”

            “ข้า...โยนเงินให้ชายงามเหล่านั้นผิดถุงเจ้าค่ะ”

            “ผิดถุงอย่างไร”

            “ข้าโยนเงินเก็บถุงใหญ่ของข้าให้ไป แทนที่จะเป็นถุงนี้เจ้าค่ะ”

            “นึกว่าเรื่องใหญ่อันใด”

            “สำหรับท่านอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับข้าเรื่องนี้มันใหญ่มากเจ้าค่ะ” เพราะมันเท่ากับความฝันที่จะทำให้บุรุษตระกูลจางที่รักนางทั้งสามคนอยู่สุขสบายมันยิ่งห่างไกลออกไป

            หรือต่อจากนี้นางควรวาดภาพบุรุษขายให้มากขึ้น

            “เช่นนั้นก็เอาของข้าไป”

            “ไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านจะมอบเงินของท่านให้ข้าได้อย่างไร” ชื่อแซ่ยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ จะเป็นตัวร้ายหรือไม่ก็ไม่รู้

            “เหตุใดข้าจะมอบเงินให้เจ้าไม่ได้”

            “เอ่อ...ข้าจะกล่าวอย่างไรดี เอาเป็นว่าชื่อแซ่ท่านข้ายังไม่รู้จัก แล้วจู่ๆ ท่านจะมอบเงินให้ข้าเช่นนี้ ข้ามิกล้ารับไว้หรอกเจ้าค่ะ”

            “เรียกข้าตงเฉิน รู้จักชื่อแซ่ข้าแล้ว เจ้าก็ยื่นมือออกมารับเงิน”

            “อย่างไรก็ไม่เหมาะสมเจ้าค่ะ”

            “เช่นนั้นต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมรับเงินข้าไป” เขาเพียงแต่ไม่อยากให้สตรีผู้นี้โศกเศร้า นางเหมาะกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากกว่า

            “ให้ข้าได้ทำประโยชน์แก่ท่านดีหรือไม่เจ้าคะ”

            “ทำประโยชน์ อย่างไร”

            “ท่านมีฮูหยินหรือยังเจ้าคะ” คำกล่าวของนางทำให้บุรุษสวมหน้ากากกวาดสายตามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า

            “ไม่”

            “เลิกมองช้าเช่นนั้นเลยนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้จะเสนอตัวเป็นฮูหยินให้ท่าน แต่ข้ามีสหายเป็นคุณหนูงดงามถึงสองนาง หากท่านสนใจข้าก็ไม่รังเกียจที่เป็นผู้เฒ่าจันทราช่วยผูกด้ายแดงให้”

         

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 5 บุรุษสวมหน้ากากกับท่าทางแปลกๆ ของเขา (2) (4/4)

    “เลิกมองช้าเช่นนั้นเลยนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้จะเสนอตัวเป็นฮูหยินให้ท่าน แต่ข้ามีสหายเป็นคุณหนูงดงามถึงสองนาง หากท่านสนใจข้าก็ไม่รังเกียจที่เป็นผู้เฒ่าจันทราช่วยผูกด้ายแดงให้” “...” “เงียบเช่นนี้ไม่สนใจสหายของข้าสินะเจ้าคะ” “อืม” “เช่นนั้นเป็นใครดีล่ะ อืม...คุณหนูสวี่ลู่ฟาง สาวงามอันดับหนึ่งก็ไม่ได้ เพราะนางเป็นคนรักของชินอ๋องซื่อจื่ออยู่” กล่าวอ้อมไปอ้อมมาตั้งนาน ได้เวลาเข้าเรื่องเสียที นัยน์ตาดำที่มองลอดผ่านหน้ากากหนังฉายแววกรุ่นโกรธ ทำให้นางยิ่งมั่นใจว่าบุรุษผู้นี้อาจจะเป็นตัวร้ายผู้นั้น แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 6 ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ (1/4)

    6ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ บนโต๊ะอาหารบุรุษตระกูลจางสามคนต่างคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจจนชามข้าวนางพูนใกล้ล้น “ท่านปู่ ท่านลุงและพี่ใหญ่เจ้าขา พวกท่านกินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่าเอาแต่คีบให้ข้าเลย” “เจ้าตัวเล็กยิ่งนัก ต้องกินให้มากหน่อย” อดีตราชครูของฮ่องเต้และชินอ๋องกล่าว “นั่นสิ เดือนหน้าก็จะปักปิ่นแล้ว ตัวยังเล็กกว่าคุณหนูวัยเดียวกันมากนัก เจ้าต้องกินให้มากๆ หน่อยนะหนี่ว์เอ๋อร์” ท่านลุงที่เป็นราชครูให้กับองค์รัชทายาทและชินอ๋องซื่อจื่อกล่าว “พูดถึงปักปิ่น เจ้าตอบรับเทียบเชิญงานปักปิ่นของคุณหนูเจิ้งแล้วใช่หรือไม่” “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ พี่ใหญ่จะไปกับข้าด้วยหรือไม่” “ชิงเทียนต้องไปอยู่แล้ว จะทิ้งเจ้าให้ไปร่วมงานจวนอื่นลำพังได้อย่างไร” เป็นท่านปู่จางจื้อกล่าวตอบ “ท่านปู่ ท่านลุงเจ้าขา ข้ามีเรื่องสงสัยอยากสอบถามพวกท่านสักนิด” “ถามแต่ท่านปู่กับท่านลุงแล้วพี่ล่ะ หรือเจ้าคิดว่าพี่มีความรู้ไม่มากพอ” จางชิงเทียนแสร้งเล่นบทโศกแย่งชิงความรักจากน้องสาว “มีสิเจ้าคะ แต่พี่ใหญ่มีง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 6 ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ (2/4)

    “อืม พอได้ยินที่เจ้าเอ่ยในงานจิบชาชมดอกไม้ ข้าก็คิดได้ทันที เหตุใดข้าต้องพยายามมากมายถึงเพียงนั้นเพื่อบุรุษที่ไม่คิดจะไยดีความรู้สึกข้า” “เจ้าคิดได้ข้าก็ดีใจ กล่าวตามตรงข้าก็ได้ยินเรื่องที่องค์รัชทายาทพึงใจคุณหนูสวี่จนทำให้สตรีนางนั้นทะเลาะกับชินอ๋องซื่อจื่อ” “เรื่องที่บุรุษผู้นั้นไปกินข้าวและไปส่งสวี่ลู่ฟางถึงจวนเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องที่ชินอ๋องซื่อจื่อเป็นคนรักของนาง ข้าก็ได้ยินผู้คนภายนอกเล่าลือ แต่ทว่าในวังหลวงกลับเงียบไม่มีท่าทีต่อเรื่องนี้ ราวกับว่ามันเป็นเพียงการปล่อยข่าวของใครคนหนึ่ง” ‘ข้าลืมไปได้อย่างไรว่าสหายผู้นี้เป็นถึงบุตรสาวของสหายสนิทของฮองเฮา’ ซึ่งได้รับความรักและความเอ็นดูอย่างล้นเหลือจึงทำให้สามารถเข้าออกวังได้อย่างตามใจตั้งแต่เด็ก แต่แล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 6 ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ (3/4)

    “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะระวังให้ดี” หากบุรุษผู้นั้นเล่นตุกติกนางก็ไม่คิดไว้ไมตรีอีก อย่าได้คิดเอานางไปเป็นเครื่องมือเพื่อค้ำจุนบัลลังก์ บทสนทนาในวันนั้นก็จบเพียงเท่านี้ แต่นางไม่คิดเลยว่าบุรุษที่สหายบอกว่าไม่ได้เชิญกลับมานั่งโดดเด่นอยู่ในงานปักปิ่นทั้งยังพาตัวซวยอย่างชินอ๋องซื่อจื่อมาด้วย พี่ใหญ่ก็มาไม่ได้โดนฮ่องเต้เรียกตัวเข้าวังด่วน เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องอันตรายใดในจวนสหายนางจึงยืนยันที่จะมาคนเดียว ส่วนหวังเยว่ฉิง ก็ล้มป่วยกะทันหันจึงไม่สามารถมาร่วมงานได้ ในคราแรกนางจึงต้องนั่งเพียงลำพัง แต่โชคดีที่เปี่ยวเม่ย[1]ของสหายเข้ากับผู้อื่นง่ายนางจึงมีเพื่อนไม่เคว้งคว้างเท่าใดนัก “ขออภัยที่เปิ่นหวางมาร่วมงานโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า” ‘ไม่ได้แจ้งหรือเขาไม่ได้อยากเชิญกันแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 6 ตัวซวยที่ไม่อยากเข้าใกล้ (4/4)

    “หึ” โกหกทั้งเพ นางเกลียดเขาเพียงเพราะเขาเป็นชินอ๋องซื่อจื่อ “พระองค์จะเชื่อที่หม่อมฉันกล่าวหรือไม่ก็แล้วแต่ หม่อมฉันขอตัวเพคะ” นางจะลุกหนี แต่มือใหญ่ของเขาคว้าข้อมือของนางเอาไว้ก่อนจะดึงรั้ง “เจ้ายังไปไม่ได้” “ชินอ๋องซื่อจื่อ พระองค์จะเอาแต่ใจเช่นนี้ไม่ได้ พระองค์ไม่มีสิทธิ์มาห้ามหม่อมฉัน” ตัวซวยผู้นี้เหตุใดถึงได้หน้าหนาหน้าทน นางแสดงตัวว่าไม่อยากอยู่ใกล้มากถึงเพียงนี้ ก็ยังดื้อรั้น “หึ” กล่าวถึงสิทธิ์หรือ หากตอนนั้นนางไม่เอ่ยปฏิเสธคำของฮ่องเต้และบิดาเขาด้วยท่าทางไร้เดียงสา วันนี้เขาและนางก็คงได้กลายเป็นคู่หมั้น “ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ” ยิ่งนางพยายามแกะมือบุรุษผู้นี้เพียงใด มือน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

    7อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ ย้อนกลับไปเมื่อเก้าปีก่อนตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบสองปี ส่วนนางเป็นเจ้าก้อนแป้งอายุห้าขวบปี เขาซึ่งเป็นศิษย์ของท่านราชครูจางเหว่ยสามารถเข้าออกจวนจางได้ราวกับจวนของตนเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะชินอ๋องและท่านราชครูจางเป็นสหายกัน จึงย้ายออกจากวังแล้วมาปลูกเรือนอยู่ข้างๆ จวนจาง “พี่ชายท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ” “ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับข้า” “รูปก็งามแต่เหตุใดปากถึงได้กล่าววาจาไม่น่าฟัง” สตรีตัวน้อยกล่าวพลางเอานิ้วชี้แตะคางตน ดวงตาที่จับจ้องเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ท่าทางน่ารักน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

    เนิ่นนานนับเค่อที่เด็กชายแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักชื่อนั่งร้องไห้ จนนางเริ่มกลัวเขาจะปวดหัว จึงลุกยืนขึ้นแล้วเข้าไปรั้งศีรษะเขามาพิงตัวนางไว้ก่อนจะโอบกอด “ท่านแม่ของท่าน แท้จริงนางไม่ได้อยากจะทิ้งท่านไปเช่นนี้หรอก แต่เพราะนางเห็นท่านเติบใหญ่เป็นคนที่ดีและน่าภูมิใจ นางจึงหมดห่วง” “ฮือ...” “แม้ว่าตอนนี้นางจะไม่ได้โอบกอดท่านแล้ว แต่นางยังคงอยู่ตรงนี้” เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่อกของเขา “ภาพความทรงจำที่ดีงามระหว่างท่านและนางจะไม่มีใครมาลบล้างไปได้ ข้าเชื่อว่านางยังคงมองดูท่านจากที่ตรงโน้น แม้ท่านจะเสียใจแต่ข้าว่านางคงอยากเห็นท่านเติบโตเป็นบุรุษที่องอาจและเก่งกาจ” “ปล่อยข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 7 อดีตที่ค้างคาของชินอ๋องซื่อจื่อ (3/4)

    เรื่องราวเกี่ยวกับนางจึงค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของเขาจนกระทั่งได้เจอกันอีกครั้งในวันนั้น... ด้านองค์รัชทายาทที่สวมรอยเดินตามสาวใช้คนสนิทของคุณหนูเจิ้งแทน กว่าเสี่ยวยาจะรู้ตัวก็พาบุรุษที่คุณหนูไม่อยากพบเจอมาหาถึงหน้าเรือนนอน “องค์...” สาวใช้ยังกล่าวไม่ทันจบก็ถูกปิดปากด้วยมือของบุรุษผู้หนึ่งก่อนที่ผู้สูงศักดิ์จะพยักหน้าส่งสัญญาณให้คนของตนพาตัวออกไป ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากผู้ที่ยืนอยู่หน้าห้อง ทำให้เจิ้งเข่อชิงรีบสาวเท้าก้าวมาที่ประตูก่อนจะเปิดออกด้วยสีหน้ายินดี รอยยิ้มของนางค้างแข็งไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่หน้าห้องหาใช่สตรีที่ตนรอคอย ดวงหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไร้รอยยิ้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24

บทล่าสุด

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู (1/1)

    การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮองเฮาพบปะสหาย (1/1)

    ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (2/2)

    “เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (1/2)

    เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (2/2)

    “เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (1/2)

    ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (4/4)

    “เอ่อ...ท่านช่วยพาข้าลงจากหลังม้าได้หรือไม่เจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าไร้ที่ติแม้จะหล่อเหลาน้อยกว่าชินอ๋องซื่อจื่อ แต่ทว่าก็มีสตรีไม่น้อยที่ชื่นชอบบุรุษผู้นี้ หลังจากที่นางได้ขี่ม้าตัวเดียวกับบุรุษที่สตรีหลายคนหมายปอง นางก็มักจะเจอเขาที่เหลาอาหารหรือโรงเตี๊ยมอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่สบายใจกับสายตาจาบจ้วงของบุรุษในวันนั้นนางจึงไม่กล้าไปที่ร้านบะหมี่เนื้อของท่านป้าผู้นั้นอีก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ นางมักจะเจอท่านราชเลขาฯจางผู้นั้นอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน “ดูเหมือนเจ้าจะชื่นชอบการออกมากินข้าวนอกจวน มิทราบว่าพ่อครัวจวนหวังทำอาหารไม่อร่อยหรือ” เขามานั่งร่วมโต๊ะโดยที่นางไม่ต้องเชิญทุกครา จนกลายเป็นความเคยชิ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (3/4)

    “ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดยกเท้าที่เหยียบชายอาภรณ์ข้าด้วยเจ้าค่ะ” “เจ้ารู้หรือไม่ มีขอทานและคนยากจนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน หากคนพวกนั้นมาเห็นเจ้ากินเหลือเช่นนั้น พวกเขาคงตัดพ้อ พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กินบะหมี่น้ำธรรมดา แต่เจ้าที่เป็นคุณหนูกลับกินทิ้งกินขว้าง กินเพียงคำสองคนไม่ถูกใจก็ทิ้ง จะว่าไปก็น่าสงสารชาวบ้านที่เขาทำปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์นะ พวกเขาลำบากเพียงใดกว่าจะปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์มาเพื่อเป็นอาหารให้พวกเราได้กิน...” “พอแล้วเจ้าค่ะ ข้ากินให้หมดก็ได้” คุณหนูหวังกล่าวก่อนจะนั่งลงตามเดิม มือเรียวหยิบตะเกียบมาคีบกินบะหมี่เนื้อที่ตนกินค้างไว้ พร้อมกับบะหมี่เนื้อที่เขาสั่งถูกนำมาให้พอดี มุมปากของเขาหยักยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง จางชิงเทียนกินบะหมี่เนื้อไปลอบมองสหายของน้องสาวไป เขาเพิ่งสังเกตว่าคุณหน

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (2/4)

    “ข้าเห็นเจ้าเดินออกจากโรงเตี๊ยมจึงเดินตามเพียงเท่านั้น” กล่าวจบสายตาของท่านราชเลขาฯ ก็จับจ้องดวงหน้าหวานที่มักจะส่งยิ้มให้เขาอยู่เสมอ แต่ทว่าวันนี้กลับบึ้งตึง “ท่านป้าเจ้าขา วันนี้ข้าต้องไปแล้ว ท่านมาเก็บโต๊ะเถิดเจ้าค่ะ คุณชายพวกนี้จะได้มีโต๊ะนั่งไม่ต้องมายืนจ้องผู้อื่นให้เสียมารยาทเช่นนี้” กล่าวจบนางก็วางเหรียญอีแปะลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านไป ตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่ทักทายเขาเช่นที่เคยทำ ต้องเป็นเพราะที่เขากล่าววาจาไม่ดีใส่นางในวันนั้นเป็นแน่ “ชิงเทียนเจ้ารู้จักคุณหนูผู้นั้นหรือ” “เจ้าชอบนางหรือ” “ใช่ ข้าอยากเกี้ยวพานาง ในเมืองหลวงนี้จะมีคุณหนูส

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status