Share

บทที่ 1 เกือบไปแล้ว (3/4)

last update Last Updated: 2025-03-19 14:52:33

          แม้ในจวนของอดีตแม่ทัพประจิมที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นจวนท่านราชเลขาฯ แล้วจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองเพราะยังมีท่านราชครูจางคอยเกื้อหนุน แต่คุณหนูของเขาก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวาดภาพบุรุษขายเพื่อหาเงิน

           

            เนิ่นนานเท่าใดไม่รู้ที่จางชิงหนี่ว์วาดภาพสลับกับลอบมองบุรุษในลานฝึกวรยุทธ์ผ่านพุ่มไม้

            แปะ แปะ แรงสะกิดของใครบางคนดึงความสนใจของนาง แต่เพราะคิดว่าคนที่สะกิดคือผู้คุ้มกันของตน นางจึงตอบกลับไปสั้นๆ โดยไม่ได้หันไปมอง

            “หากรูปนี้เสร็จข้าก็จะกลับแล้ว”

            แปะ แปะ คนที่อยู่ด้านหลังก็ยังใช้ปลายนิ้วแตะลงบนไหล่นาง

            “จื่อเป่า อย่าเร่งได้หรือไม่ ประเดี๋ยววาดเสร็จช้าเจ้าก็จะมาโทษข้าอีก” คุณหนูจางตอบในขณะที่มือกำลังลงสีภาพวาด

            แปะ แปะ แรงที่ตบลงบนไหล่นางหนักขึ้นก่อนที่นางจะทนไม่ไหวแล้วหันไปเพื่อจะต่อว่า

            “อย่าเร่งข้า...เอ่อ...” จางชิงหนี่ว์ชะงักในทันทีเมื่อเห็นว่าแท้จริงผู้ที่สะกิดเรียกนางอยู่หลายครั้งไม่ใช่ผู้คุ้มกันของตน แต่เป็นบุรุษผู้หนึ่งที่สวมหน้ากากหนังปิดบังใบหน้าตั้งแต่จมูกขึ้นไปทำให้นางเห็นเพียงริมฝีปากกับรูจมูกเพียงเท่านั้นที่ไม่ถูกปกปิดดวงตาที่จ้องมองนางผ่านหน้ากากหนังทำนางรู้สึกใจคอไม่ดี

            “กำลังทำอันใดอยู่หรือแม่นาง”

            “ขะ ข้า...กำลังฝึกวาดภาพเจ้าค่ะ” หลักฐานพร้อมเช่นนี้นางจะบอกว่ามานั่งเล่นก็คงจะมิได้

            “หืม...วาดภาพ วาดภาพอันใดหรือ” เขาหรี่ตามองอย่างจับผิด

            “วาดภาพคุณชายที่ข้าชื่นชอบเจ้าค่ะ”

            “คุณชายที่เจ้าชื่นชอบคือใครหรือ”

            “คุณชาย...คุณชายหลิวเจ้าค่ะ” เพราะคิดชื่อใครไม่ออกนางที่เพิ่งได้ยินจื่อรั่วกล่าวเรื่องงานจิบชาชมดอกไม้ที่จวนหลิวเมื่อสองวันก่อน จึงฉวยโอกาสยืมชื่อแซ่คนผู้นั้นมาใช้แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ในลานฝึกยุทธ์แห่งนี้หรือไม่ก็ตาม

            จำได้ว่างานจิบชาชมดอกไม้ ฮูหยินเอกจวนหลิวก็จัดขึ้นเพื่อหาสตรีมาแต่งกับบุตรชาย

            “คุณชายหลิว...หลิวเฟิงเหมียนน่ะหรือ”

            “ใช่เจ้าค่ะ” จะชื่ออันใดก็ช่างตอบรับไปก่อนก็แล้วกัน

            “เจ้าชื่นชอบเขา?”

            “เจ้าค่ะ คุณชายหลิวทั้งรูปงามและเก่งกาจ”

            “อืม...เจ้าเป็นคุณหนูจวนใด”

            “ข้าเป็นคุณหนูจวนเจินเจ้าค่ะ” ต้องขอบคุณจื่อรั่วอีกครั้งที่มักจะเอาเรื่องราวที่ชาวบ้านเล่าลือมาพูดให้นางฟังอยู่บ่อยครั้ง

            ล่าสุดเห็นจะเป็นเรื่องของคุณหนูเจิน ที่พึงใจบุรุษ ตามเฝ้าตามดูจนโดนบุรุษตวาดด่าทอกลางตลาด

            “ที่แท้เป็นคุณหนูเจินนี่เอง เห็นแก่ท่านที่ชื่นชอบคุณชายหลิว ให้ข้าเชิญเขามาพบท่านดีหรือไม่”

            “ไม่! ไม่ต้องเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากรบกวนเขา เพียงแค่ได้ลอบมองเช่นนี้ข้าก็ดีใจแล้วเจ้าค่ะ” ชิงหนี่ว์กล่าวพลางก้มหน้าลงเล็กน้อยราวกับเจียมเนื้อเจียมตัวพลางก่นด่าผู้ติดตามของตนที่หายหัวไปไหน เหตุใดถึงปล่อยให้นางตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้

            “คุณหนูถ่อมตัวเกินไปแล้ว แต่หากท่านอยากให้ข้าช่วยสร้างวาสนา ข้าสามารถช่วยท่านได้”

            “ช่วยหรือเจ้าคะ ท่านจะช่วยข้าอย่างไร”

            “หลิวเฟิง...อุ๊บ” ชายสวมหน้ากากยังกล่าวไม่ทันจบนางเอากระดาษที่ขยำเป็นก้อนซึ่งนางโยนทิ้งอยู่ข้างๆ มายัดใส่ปากบุรุษสวมหน้ากาก

            ‘ตายห่าแล้ว นี่ข้าทำอันใดลงไป เขาจะคว้ากระบี่มาฟันคอข้าหรือไม่’ มือมันเร็วกว่าความคิด นางจึงห้ามไม่ทันรู้ตัวอีกทีกระดาษก็อยู่ในปากเขาแล้ว

            “นี่เจ้ากล้าเอาของมายัดปากข้า” ดวงตาที่จ้องมองนางวาวโรจน์ด้วยโทสะ

            “ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” แม่นางน้อยรีบคุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเซียว

            “ไม่ได้ตั้งใจ?”

            “เจ้าค่ะข้าไม่ได้ตั้งใจ ได้โปรดให้อภัยข้าเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่สนใจหรอกว่าบุรุษผู้นี้เป็นใคร เพราะสิ่งที่นางสนใจตอนนี้คือรังสีฆ่าฟันที่แผ่ออกมาจากตัวบุรุษผู้นี้

            ‘ข้ายังไม่อยากตาย’ นางดิ้นรนออกจากบทบาทโง่เง่านั่นตั้งหลายปี แล้วจะต้องมาตายง่ายๆ เพราะเผลอไปล่วงเกินใครก็ไม่รู้แค่นี้จริงๆ หรือ

            “งิ้วที่เจ้าเล่นมันไม่แนบเนียนเอาเสียเลยคุณหนูเจิน เจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าเจ้าเข้ามาในเขตหวงห้ามนี่เพราะเหตุใด หรือมีใครส่งเจ้ามา” กล่าวจบกระบี่ที่เขาถืออยู่ก็ถูกถอดออกจากฝักแล้วพาดลงบนไหล่นาง จางชิงหนี่ว์ก้มมองกระบี่ที่พาดตรงคอด้วยแววตาหวาดกลัว

            ‘ดิ้นรนมาตั้งมากมาย ข้าจะต้องตายแล้วหรือ’ ดวงตาเมล็ดซิ่งเริ่มมีหยาดน้ำใสคลอก่อนจะไหลหยดออกมา

            “ฮึก...ข้าเพียงแค่มาวาดรูปบุรุษจริงๆ เจ้าค่ะ ไม่ได้มีใครส่งข้ามาทั้งนั้น” ท่าทางกลั้นสะอื้นแต่น้ำตาไหลรินเป็นท่าทางของสตรีที่ปกปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนลงเลยแม้แต่น้อย

            “โกหก ตอบข้ามาตามตรงใครส่งเจ้ามาแล้วข้าจะไว้ชีวิต” ดวงตาคมปราบฉายแววอำมหิต หากขยับกระบี่เพียงเล็กน้อยสตรีตรงหน้าก็จะถูกปลิดชีพทันที

            “ฮึก...ไม่มีใครส่งข้ามาจริงๆ เจ้าค่ะ ท่านอย่าฆ่าข้าเลยนะเจ้าคะ”

            “ในเมื่อเจ้าไม่พูดความจริง อย่าได้กล่าวโทษข้าเลย...” บุรุษสวมหน้ากากยังกล่าวไม่ทันจบ แม่นางน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็ปัดกระบี่ให้ออกห่างจากตัวก่อนจะโผเข้ามากอดเข่าเขา

            “นี่เจ้า!” เขาก้มลงมองสตรีใจกล้าที่เข้ามาประชิดตัวด้วยความตกใจ

            “ท่านอย่าฆ่าข้าเลยนะเจ้าคะ ข้าขอร้อง บิดามารดาข้าก็ตายหมดสิ้น หากข้าตายไปอีกคนพี่ชายข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร”

            “ปล่อยข้า” บุรุษสวมหน้ากากกล่าวแล้วพยายามดึงขาออกจากการเกาะกุม มือใหญ่สองข้างดึงรั้งตัวสตรีแปลกหน้าให้ออกห่าง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 1 เกือบไปแล้ว (4/4)

    “ปล่อยข้า” บุรุษสวมหน้ากากกล่าวแล้วพยายามดึงขาออกจากการเกาะกุม มือใหญ่สองข้างดึงรั้งตัวสตรีแปลกหน้าให้ออกห่าง “ข้าเพียงแค่เข้ามาวาดรูปบุรุษเพื่อเอาไปขายหาเงินเลี้ยงชีพเพียงเท่านั้น ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใดเลยนะเจ้าคะ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถิดเจ้าค่ะ ท่านจะให้ข้าทำอันใดก็ได้ทั้งนั้นขอแค่อย่าได้เอาชีวิตข้าเลย” “ข้าบอกให้ปล่อยขาข้าอย่างไรเล่า” น้ำเสียงของบุรุษสวมหน้ากากเริ่มแสดงออกถึงโทสะ ก่อนที่เขาจะกระชากอย่างแรงทำให้สตรีผู้นั้นกระเด็นไปอีกทาง “โอ๊ย!” เจ็บชะมัด ใช่สิ! ข้ามันไม่ใช่โฉมสะคราญเหมือนนางเอกที่จะมีบุรุษมาพึงใจตั้งแต่แรกเห็น “เจ้า!&rdq

    Last Updated : 2025-03-19
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 2 แรกพบสบตา (1/4)

    2แรกพบสบตา ในที่สุดก็ถึงวันงานจิบชาชมดอกไม้ของจวนหลิวมีคุณหนูคุณชายมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากผู้นำตระกูลหลิวเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายขวาที่มีความสำคัญต่อราชสำนัก และเนื่องจากตระกูลหลิวได้แจ้งถึงจุดประสงค์การจัดงานชัดเจน สตรีวัยออกเรือนที่เข้าร่วมจึงพากันแต่งตัวงดงามอวดโฉมโดยหวังว่าจะมีบุรุษที่เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและชาติตระกูลหมายปองตน “เจ้าอย่ามัวเหม่อมอง ประเดี๋ยวจะพลัดหลงกับพี่” “เจ้าค่ะ” อีกไม่กี่เดือนนางก็จะปักปิ่นแล้ว พี่ใหญ่ก็เป็นห่วงนางเกินไป “เจ้าต้องระวังตัวให้ดี ในงานเลี้ยงเหล่านี้มักจะเกิดเรื่องไม่ดีงาม คุณหนูบางคนพลาดท่าเสียทีศัตรูจนต้องแต่งงานกับบุรุษที่ตนไม่พึงใจมานักต่อนัก&rdquo

    Last Updated : 2025-03-19
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 2 แรกพบสบตา (2/4)

    ‘มิได้ ข้าไม่ควรสบตากับเขา แรงดึงดูดของพระเอกรุนแรงเกินไป ข้าอาจจะพลั้งเผลอเข้าไปในบทบาทเดิม’ “ชิงหนี่ว์ เจ้าฟังข้าอยู่หรือไม่” “ขออภัยเจ้าค่ะ นานๆ ทีข้าจะได้ออกมาร่วมงานเช่นนี้ ข้าจึงพลั้งเผลอมองบุรุษรูปงามนานเกินไปบ้าง” “ข้าชอบเจ้ายิ่ง เรามาเป็นสหายกันเถิด” หวังเยว่ฉิงคว้ามือน้อยมาจับไว้ด้วยความดีใจ สตรีตรงไปตรงมาไม่เสแสร้งในเมืองหลวงช่างหากได้ยากยิ่ง “ข้ายินดีเจ้าค่ะ ท่านล่ะเจ้าคะ อยากเป็นสหายของข้าด้วยหรือไม่” จางชิงหนี่ว์หันไปเอ่ยถามแล้วส่งยิ้มกว้างให้กับนางร้ายที่นั่งเงียบ “อะ...อืม” “เข่อชิงตอบรับแล้ว เช่นนั้นต่อจากนี้เราเป็นสหายกันแล้วนะ” หวังเยว่ฉิงกล่าวอย่างอารมณ์ดี พลางเอามือข้างหนึ่งของนางไปวางลงบนมือของเจิ้งเข่อชิงทำให้เจ้าตัวรีบก้มหน้าลงเพื่อซ่อนสีหน้า ‘เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงได้งดงามน่ามองเช่นนี้’ คุณหนูเจิ้งผู้เย่อหยิ่งไม่เข้าใจตนเองว่าเหตุใดถึงใจเต้นแรงยามเห็นรอยยิ้มของสหายคนใหม่ เมื่อปรับเปลี่ยนสีหน้าได้แล้วจึงเงยขึ้นมองคุณหนูจางก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างจริงใจ

    Last Updated : 2025-03-19
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 2 แรกพบสบตา (3/4)

    สตรีตัวน้อยที่กล่าวปฏิเสธข้อเสนอการหมั้นหมายกับชินอ๋องซื่อจื่อพร้อมทั้งปฏิเสธรางวัลทั้งหมดแลกกับราชโองการเลือกคู่ครองด้วยตนเอง ส่วนพี่ชายก็ปฏิเสธรางวัลแลกกับการได้เป็นขุนนางช่วยเหลืองานในวังเพื่อจะได้เป็นเสาหลักให้น้องสาว ซึ่งสุดท้ายจางชิงเทียนก็สามารถพิสูจน์ตนเองถึงความสามารถและได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ให้ทำงานอยู่ข้างกาย นั่นเป็นครั้งเดียวที่องค์รัชทายาทเช่นเขาได้เจอสตรีผู้นั้น “เฟยหลง สตรีที่พูดคุยกับคู่หมายเจ้าเป็นคุณหนูจวนใดหรือ เหตุใดข้าไม่เคยเห็นหน้า” “ข้าไม่ทราบ” องค์รัชทายาทกล่าวพลางจ้องมองไปยังว่าที่คู่หมั้นซึ่งตนไม่ได้พึงใจกำลังนั่งพูดคุยกับสตรีที่มีดวงหน้างดงามน่ามอง ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ระบายเต็มดวงหน้าหวานของเจิ้งเข่อชิง รู้จักกันมาตั้งนานเขาเพิ่งเคยเห็นนางยิ้มเช่นนี้เป็นครั้งแรก... “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน อันฉีเจ้ารู้หรือไม่” “หึ” ชินอ๋องซื่อจื่อส่งเสียงสั้นๆ เพียงแค่นั้นก่อนจะยกชาขึ้นจิบ สายตาจับจ้องไปที่กลุ่มสตรีสามคนกำลังพูดคุยกัน ในงานจิบชาชมดอก

    Last Updated : 2025-03-19
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 2 แรกพบสบตา (4/4)

    “มิเป็นไรเจ้าค่ะ จริงๆ ที่ข้าไม่กินอันใดเลยเพราะพี่ชายของข้ากำชับไว้ว่า บรรดาคุณหนูที่ชอบริษยาผู้อื่นมักจะใช้งานเลี้ยงเช่นนี้สร้างเรื่องอื้อฉาวให้ตนเอง หรือสร้างเรื่องเพื่อทำลายผู้อื่น ข้าควรระวังให้มาก” เพราะกลัวคุณหนูที่นั่งห่างออกไปจะได้ยิน จางชิงหนี่ว์จึงยื่นดวงหน้าหวานเข้าไปใกล้สหายแล้วกระซิบบอกเสียงเบาที่ข้างหู ใบหน้าหวานของคุณหนูเจิ้งเห่อร้อนกับความใกล้ชิดนี้ ความน่ารักสดใสของคุณหนูผู้นี้ทำให้ภาพลักษณ์เย่อหยิ่งของตนพังทลาย นางช่างเหมือนกระต่ายป่าขนปุกปุยที่ตนเคยเลี้ยงไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก การได้รู้จักจางชิงหนี่ว์ในวันนี้ทำให้ความนิยมชมชอบของน่ารักที่เจิ้งเข่อชิงเคยลืมเลือนไปถูกรื้อฟื้น ที่ผ่านมาเพราะถูกฝึกฝนให้เป็นว่าที่ฮองเฮา นางจึงไม่อาจแสดงออกถึงความต้องการที่แท้จริงของตนได้ บัดนี้เมื่อตัดสินใจที่จะปล่อยมือนางจึงค้นพบความสุขอีกครั้ง ‘เหตุใดหนี่ว์เอ๋อร์ของข้าถึงได้น่ารักเช่นนี้’ อยากจะรั้งตัวเข้ามากอดสักครา แต่เกรงว่านางจะตื่นตกใจ “ข้าเข้าใจแล้ว แต่การที่เจ้าปล่อยท้องให้หิวเช่นนี้ก็ไม่ดีเท่าใดนัก อย่างไรลองกินขนมนี่ดีหรื

    Last Updated : 2025-03-19
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 3 ความเก่งกาจของสหายคนใหม่ (1/4)

    3ความเก่งกาจของสหายคนใหม่ ด้านหลิวเฟิงเหมียนที่หลังจากช่วยกู้หน้าให้สาวงามแล้วกลับมานั่งที่เดิม กำลังจะยกชาขึ้นจิบต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาไม่ใคร่พอใจของสหาย “อันฉี หากเจ้าไม่พอใจข้าที่ลุกไปเก็บผ้าคลุมหน้าให้กับคุณหนูสวี่ เหตุใดเจ้าไม่ลุกไปเองเล่า” เพราะได้ยินมาจากน้องสาวว่าคุณหนูสวี่กับชินอ๋องซื่อจื่อมีใจให้กัน จึงคิดว่าสหายเกรงใจองค์รัชทายาทที่ก็มีใจให้คุณหนูสวี่จึงไม่กล้าแสดงออกมากนัก ตนเองก็เลยช่วยรักษามารยาทให้ “ข้ามาคิดดูแล้ว ใบหน้าของเจ้าควรมีรอยตำหนิสักสองสามรอยจริง” “อย่าได้คิดทำเช่นนั้นเชียว” “เช่นนั้นก็ไปทำให้ใบหน้าตนไม่น่ามองซะ” ดวงตาดำของโจวอันฉีฉายแววจริงจังจนสหายขนลุก “หากเจ้าไม่พอใจข้าเรื่องคุณหนูสวี่ เจ้าไม่ต้องห่วงไปหรอกอย่างไรนางก็ยังชื่นชอบเจ้า” “หุบปากซะ” “แค่กล่าวถึงก็ไม่ได้ เจ้ามันขี้หวงเกินไปแล้ว” ‘ต่อไปเป็นการแสดงความสามารถของคุณหนูเจิ้ง จากจวนเสนาบดีฝ่ายซ้าย’ “หากข้าจำไม่ผิดในรายชื่อคุณหนูที่จะขึ้นแสดงไม่มีชื่อของคุณหนูเจิ้งนี่” หลิ

    Last Updated : 2025-03-20
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 3 ความเก่งกาจของสหายคนใหม่ (2/4)

    ยิ่งนัยน์ตาหงส์ของสตรีผู้นั้นมองเห็นบุรุษที่นั่งในตำแหน่งเหนือกว่าผู้อื่นจ้องมองไปที่ว่าที่คู่หมั้นด้วยสายตาล้ำลึก ยิ่งทำให้นางไม่พอใจ แปะๆ ทันทีที่การบรรเลงจบลง เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องคุณหนูคุณชายต่างพร้อมใจกันปรบมือให้กับการแสดงความสามารถของคุณหนูเจิ้งผู้ที่ถูกเล่าลือว่าร้ายกาจ “ขอบคุณทุกท่านเจ้าค่ะที่ให้โอกาสข้าได้แสดงความสามารถ” เจิ้งเข่อชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เพราะเป็นรอยยิ้มที่แผ่ไปถึงดวงตาบ่งบอกถึงความสุข ทำให้บุรุษที่จ้องมองต่างเคลิบเคลิ้ม ในขณะที่สตรีต่างตกตะลึงไปกับความงามของคุณหนูผู้เย่อหยิ่ง ‘คุณหนูเจิ้งยิ้มเช่นนี้งดงามกว่าสตรีอันดับหนึ่งอย่างคุณหนูสวี่เสียอีก’ คุณหนูผู้หนึ่งกล่าว ‘ข้าเห็นด้วยกับเจ้า ไหนจะชาติตระกูล กิริยามารยาทเช่นคุณหนูตระกูลใหญ่ นางช่างเหมาะสมกับตำแหน่งฮองเฮา’ ‘นั่นสิ หากนางลงแข่งขันชิงตำแหน่งสตรีอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ข้าว่าคุณหนูเจิ้งต้องได้ตำแหน่งเป็นแน่’ เมื่อได้ยินบรรดาคุณหนูต่างพูดคุยถึงเจิ้งเข่อชิงในทางที่ดี มุมปากของสตรีตัวน้อยจึงยกยิ้มก่อนจะจิบชาอย่างอารมณ์ดี

    Last Updated : 2025-03-20
  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   บทที่ 3 ความเก่งกาจของสหายคนใหม่ (3/4)

    “นี่เจ้า! กล่าววาจาเช่นนี้ตั้งใจบีบบังคับนางหรือ” เจิ้งเข่อชิงรีบลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างสหายคนใหม่ที่น่าเอ็นดู “คุณหนูเจิ้งท่านกล่าววาจาว่าร้ายเมิ่งเอ๋อร์เช่นนี้ไม่ดีเลยนะเจ้าคะ” สวี่ลู่ฟาง หญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงก็ลุกขึ้นยืนบ้าง “ข้าน่ะหรือกล่าวว่าร้ายนาง หากคุณหนูคุณชายในที่นี้ไม่โง่เง่าก็คงจะมองเห็นและได้ยินชัดเจนว่าเป็นคุณชายหลิวและคุณหนูหลิวต่างหากที่พยายามจะลากชิงหนี่ว์ซึ่งกำลังบาดเจ็บที่มือให้ออกไปแสดงความสามารถ” เมื่อเห็นคุณหนูเจิ้งกล่าวเช่นนั้นนางจึงรีบเอ่ยวาจาต่อทันที “ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ข้ามิอาจฝืนร่างกายทำการแสดงให้ทุกคนได้ชื่นชม แต่หากคุณชายหลิวและคุณหนูหลิวยืนยันอยากจะฟัง ข้าก็คงต้องทำร้ายตนเองด้วยการใช้มือที่บาดเจ็บนี้เล่นพิณแล้ว” “เอาล่ะ คุณหนูจางบาดเจ็บเช่นนี้ เฟิงเหมียนเจ้าคงมิคิดจะให้นางต้องฝืนร่างกายแสดงความสามารถหรอกนะ” องค์รัชทายาทยื่นบันไดให้สหายได้ลง “มิได้ๆ ข้าหลิวเฟิงเหมียนต้องขออภัยคุณหนูจางด้วยที่ไม่รู้เรื่องการบาดเจ็บของเจ้า เป็นข้าที่อยากให้ทุกคนได้รู้จักเจ้ามากเกินไป แต่อย่างน้อยวัน

    Last Updated : 2025-03-20

Latest chapter

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู (1/1)

    การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮองเฮาพบปะสหาย (1/1)

    ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (2/2)

    “เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ (1/2)

    เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (2/2)

    “เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) (1/2)

    ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (4/4)

    “เอ่อ...ท่านช่วยพาข้าลงจากหลังม้าได้หรือไม่เจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าไร้ที่ติแม้จะหล่อเหลาน้อยกว่าชินอ๋องซื่อจื่อ แต่ทว่าก็มีสตรีไม่น้อยที่ชื่นชอบบุรุษผู้นี้ หลังจากที่นางได้ขี่ม้าตัวเดียวกับบุรุษที่สตรีหลายคนหมายปอง นางก็มักจะเจอเขาที่เหลาอาหารหรือโรงเตี๊ยมอยู่บ่อยครั้ง เพราะไม่สบายใจกับสายตาจาบจ้วงของบุรุษในวันนั้นนางจึงไม่กล้าไปที่ร้านบะหมี่เนื้อของท่านป้าผู้นั้นอีก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ นางมักจะเจอท่านราชเลขาฯจางผู้นั้นอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน “ดูเหมือนเจ้าจะชื่นชอบการออกมากินข้าวนอกจวน มิทราบว่าพ่อครัวจวนหวังทำอาหารไม่อร่อยหรือ” เขามานั่งร่วมโต๊ะโดยที่นางไม่ต้องเชิญทุกครา จนกลายเป็นความเคยชิ

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (3/4)

    “ข้าอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดยกเท้าที่เหยียบชายอาภรณ์ข้าด้วยเจ้าค่ะ” “เจ้ารู้หรือไม่ มีขอทานและคนยากจนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน หากคนพวกนั้นมาเห็นเจ้ากินเหลือเช่นนั้น พวกเขาคงตัดพ้อ พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กินบะหมี่น้ำธรรมดา แต่เจ้าที่เป็นคุณหนูกลับกินทิ้งกินขว้าง กินเพียงคำสองคนไม่ถูกใจก็ทิ้ง จะว่าไปก็น่าสงสารชาวบ้านที่เขาทำปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์นะ พวกเขาลำบากเพียงใดกว่าจะปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์มาเพื่อเป็นอาหารให้พวกเราได้กิน...” “พอแล้วเจ้าค่ะ ข้ากินให้หมดก็ได้” คุณหนูหวังกล่าวก่อนจะนั่งลงตามเดิม มือเรียวหยิบตะเกียบมาคีบกินบะหมี่เนื้อที่ตนกินค้างไว้ พร้อมกับบะหมี่เนื้อที่เขาสั่งถูกนำมาให้พอดี มุมปากของเขาหยักยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง จางชิงเทียนกินบะหมี่เนื้อไปลอบมองสหายของน้องสาวไป เขาเพิ่งสังเกตว่าคุณหน

  • ข้าน่ะหรือแย่งบุรุษของนางเอก   ตอนพิเศษ ฮูหยินของจางชิงเทียน (2/4)

    “ข้าเห็นเจ้าเดินออกจากโรงเตี๊ยมจึงเดินตามเพียงเท่านั้น” กล่าวจบสายตาของท่านราชเลขาฯ ก็จับจ้องดวงหน้าหวานที่มักจะส่งยิ้มให้เขาอยู่เสมอ แต่ทว่าวันนี้กลับบึ้งตึง “ท่านป้าเจ้าขา วันนี้ข้าต้องไปแล้ว ท่านมาเก็บโต๊ะเถิดเจ้าค่ะ คุณชายพวกนี้จะได้มีโต๊ะนั่งไม่ต้องมายืนจ้องผู้อื่นให้เสียมารยาทเช่นนี้” กล่าวจบนางก็วางเหรียญอีแปะลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านไป ตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่ทักทายเขาเช่นที่เคยทำ ต้องเป็นเพราะที่เขากล่าววาจาไม่ดีใส่นางในวันนั้นเป็นแน่ “ชิงเทียนเจ้ารู้จักคุณหนูผู้นั้นหรือ” “เจ้าชอบนางหรือ” “ใช่ ข้าอยากเกี้ยวพานาง ในเมืองหลวงนี้จะมีคุณหนูส

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status