แชร์

ตอนที่  4 หญิงแพศยา

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 02:10:52

 

“มิน่าล่ะ เป็นแบบนี้นี่เอง”

“คุณหนูเจ้าคะ หิวหรือไม่เจ้าคะข้าจะยกสำรับเข้ามาให้”

“พอพูดแล้วก็รู้สึกเลยองค์ชายนั่นกลับไปแล้วใช่หรือไม่”

“คุณหนูเรียกขานเช่นนั้นหาได้ไม่เจ้าค่ะ องค์ชายแปดเจ้าค่ะ”

“ช่างเถอะ ๆ เรื่องผู้ชายเอาไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันตอนนี้หิวข้าวแล้ว”

“เจ้าค่ะ ๆ อี้ฝูไปยกสำรับมาเร็ว ๆ เข้า ข้าจะไปดูยาที่ต้มว่าเสร็จหรือยัง”

หลังจากการมาเยือนขององค์ชายแปดในวันนั้น อีกราว ๆ สามวันฝ่าบาทก็พระราชทานอาหารบำรุงกำลังมาให้ที่จวนเสนาบดีมากมาย ว่านเยว่เฟยพักจนหายดีแล้ว นางมักจะเรียกเสี่ยวชิงมาเล่าเรื่องของเจ้าของร่างให้ฟัง นางเป็นบุตรคนโตของเสนาบดีว่านและองค์หญิงหยางเนี่ยเฟย น้องสาวของฮ่องเต้ 

หลังจากองค์หญิงสิ้นพระชนม์ “ซูหลิง” ซึ่งเป็นอนุก็ให้กำเนิดบุตรสาวอีกคนที่อายุน้อยกว่าเยว่เฟยสามปี “ว่านหนิงลี่” ซึ่งทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเยว่เฟยมาตลอด แม้ว่าซูหลิงจะไม่เคยสู้เยว่เฟยได้แต่ก็มักจะหาเรื่องทำร้ายนางมีเหตุผลในการเอาตัวรอดไปได้เสมอ

“แล้วท่านพ่อไม่เชื่อข้าหรือ”

“อนุซูมีข้ออ้างว่าสั่งสอนเจ้าค่ะ นายท่านก็เลยไม่ได้ใส่ใจ”

“ข้าพอจะรู้แล้วว่าเพราะเหตุใด ท่านพ่อละเลยถึงได้เป็นเช่นนี้”

“คุณหนู เหตุใดท่านพูดจาแปลก ๆ เจ้าคะ ข้าฟังความเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง”

“เอาเถอะ ๆ เพราะเป็นเช่นนี้….”

ว่านเยว่เฟยเดิมทีเป็นคุณหนูอยู่ในเรือนตามแบบท่านหญิง แต่เมื่อสิ้นฮูหยินใหญ่ นางไม่ต่างกับไม้หลักปักในเลนไร้ผู้สั่งสอนที่ดีอีกทั้งอนุซูที่คลอดบุตรสาวคนใหม่ยิ่งทำให้ว่านเยว่เฟยรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น

นางจึงหันมาใช้ชีวิตราวกับประชดประชันสังคมและบิดา แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงรักและเอ็นดูนางมากแต่ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของท่านหญิงว่านก็แพร่สะพัดจนแม้แต่ฝ่าบาทเองก็ทรงเป็นกังวล

“เอาล่ะเข้าใจแล้ว เช่นนั้นวันนี้เราออกไปเดินเล่นสักหน่อยดีกว่า”

“คุณหนู ท่าน…จะออกไปหรือเจ้าคะ” / เสี่ยวชิง

“แน่ใจหรือเจ้าคะ” / อี้ฝู

“ทำไมเล่า ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้นข้าอยากไปก็ไป เงินก็มีนี่นา”

“เจ้าค่ะ ไปก็ไปเจ้าค่ะ”

ตลาดเมืองหลวง

“โอ้โหคนคึกคักน่าดูเลยนะนี่”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

“คุณหนูเจ้าคะวันนี้จะแวะไปที่ร้านเครื่องหอมกับเครื่องประทินโฉมหรือไม่เจ้าคะ”

“ไปสิ ฟังดูน่าสนใจดีนี่”

เยว่เฟยพยายามทำตัวให้เหมือนเดิม หากว่านางจะต้องสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการฆาตกรรมเจ้าของร่างนี้นางก็ต้องทำตัวเช่นเดิมเพื่อมิให้ผู้อื่นรู้สึกผิดสังเกต

“ผักนี่งามนัก”

“คุณหนูช่วยซื้อสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ ผักนี่สด ๆ จากสวน…. เจ้า!! ออกไปจากหน้าร้านข้านะนังแพศยาหน้าไม่อาย”

“นี่เจ้า บังอาจนักนี่ท่านหญิงว่านนะ”

ถุย!! จะท่านหญิงหรือองค์หญิงแล้วเช่นไรเล่า วัน ๆ เอาแต่แต่งตัวและเที่ยวชายตามองชายอื่นจะลูกหรือสามีผู้ใดนางเคยสนด้วยหรือ”

“นี่มันเรื่องอันใดกัน”

“คุณหนูถอยออกมาเถอะเจ้าค่ะ อี้ฝูรีบพาคุณหนูหลบไปก่อนเร็ว”

“จะไปที่ใดข้ายังด่าไม่จบเลย แพศยาทำตัวน่ารังเกียจเป็นถึงท่านหญิงแต่กลับไร้ยางอายเที่ยวชายตามองผู้ชายให้ลุ่มหลง”

“เดี๋ยวก่อน!!”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“พวกเจ้าจงพูดความจริงมา ว่าข้าเคยทำเช่นนั้นจริงหรือ”

สาวใช้ทั้งสองยิ้มและค่อย ๆ พยักหน้าให้นาง

“ผลัวะ!!”

“ว้าย….”

ผักในมือของนางถูกโยนใส่ศีรษะของว่านเยว่เฟย หัวผักกาดนั้นค้างอยู่ที่ศีรษะจนคนอื่น ๆ ที่มองดูอยู่เริ่มหัวเราะเยาะอย่างไม่ปิดบัง เยว่เฟยไม่เคยรู้สึกอับอายเช่นนี้มาก่อนแต่นางไม่เข้าใจจึงได้เดินกลับไป เสียงโวยวายนั้นเรียกความสนใจให้ผู้ที่นั่งจิบชาอยู่ชั้นบนของ “หอต้าเหลียง”

“องค์ชาย ท่านหญิงว่านพ่ะย่ะค่ะ”

“พอหายดีแล้วก็กลับมาสร้างปัญหาอีกแล้วงั้นหรือ ครั้งนี้นางไปตบตีผู้ใดอีกเล่า”

“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ นางกำลังถูกแม่ค้าโยนผักใส่พ่ะย่ะค่ะ”

“อะไรนะ!! คนอย่างนางน่ะหรือจะยอมให้ผู้อื่นทำเช่นนั้น”

สิ่งนี้เรียกความสนใจของฮ่าวจื่อหรงได้ เขาเดินมายืนมองไปที่ด้านล่างและเห็นเช่นนั้นจริง ๆ แม่ค้าที่โยนผักใส่ท่านหญิงและค่อย ๆ ถอยออกไปเพราะเริ่มเกรงกลัว ว่านเยว่เฟยมิได้ทำสิ่งใดตอบโต้ นางแค่เดินเข้าไปหาแม่ค้าผู้นั้นเฉย ๆ เงียบ ๆ

“นั่นนางคิดจะทำอันใดกัน”

“ไม่ทราบเลยพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายจะให้....”

“ไม่ต้อง รอดูไปก่อนเถอะ”

แม่ค้าผักโยนผักไปที่ศีรษะและใบหน้าของเยว่เฟย นางห้ามสาวใช้ทั้งสองมิให้ทำอันใด และเมื่อแม่ค้าหยุดปาสิ่งของและหายใจหอบเกือบจะล้มลงนางก็ฉวยตัวแม่ค้าสูงวัยผู้นั้นลุกขึ้นมา

“นั่งลงก่อน หายใจเข้าลึก ๆ”

“ท่าน…. เหตุใด…”

“อย่าพึ่งพูด ข้าบอกให้หายใจเข้าไปลึก ๆ นับหนึ่ง…..ผ่อนลมหายใจ สูดเข้าไป…..สอง….ผ่อนลมหายใจ …..ดีขึ้นหรือไม่”

แม่ค้านิ่งลงและหันมามองนางที่สายตานิ่งกริบไร้วี่แววเอาเรื่อง ใบหน้ายังเต็มไปด้วยสีของมะเขือเทศ ที่ศีรษะยังมีหัวผักกาดอยู่นางไม่สนใจจะเอาออก

“อาการของท่านเกิดจากการพักผ่อนน้อย เครียดจากการทำงานทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว ความดันจึงสูงเพราะความโกรธ อีกทั้งมาเจออากาศร้อน ๆ และโมโหในเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้เลือดจึงไหวเวียนติดขัดทำให้หน้ามืด นี่ยาลดความดันเลือด เก็บเอาไว้กินข้าไปก่อนล่ะ”

“เดี๋ยว!!”

“ยังมีสิ่งใดอีกงั้นหรือ”

“ท่าน…. ไม่โกรธที่ข้าด่าท่านหรือ”

“ท่านด่าข้าว่ากระไรนะ”

“อะไรกัน นี่ท่านหญิงไม่ได้ฟังเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ คำด่านั้นเจ็บแสบมากพอที่จะให้นางโกรธจนสั่งเฆี่ยนแม่ค้าผู้นั้น….องค์ชาย นี่ไม่แปลกไปหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่าวจื่อหรงหรี่ตามองอย่างนึกไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าในตอนนี้ว่านเยว่เฟยคนนั้นน่ะหรือจะช่วยคนอื่นเช่นนั้น หากเป็นก่อนหน้านั้นน่าจะต้องเป็นอย่างที่องครักษ์ของเขาบอก ว่านเยว่เฟยจะต้องสั่งให้คนทุบตีแม่ค้าผู้นั้นแล้ว

“รอดูเงียบ ๆ”

แม้แต่ผู้คนที่ยืนมุงอยู่ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ไม่นานก็มีหญิงสาวซึ่งน่าจะเป็นบุตรสาวของนางที่วิ่งเข้ามาหามารดา

“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป …. ทะ ท่านหญิง!!”

“เจ้าเป็นลูกสาวนางหรือ”

“ขะ ข้า…”

“เหตุใดไม่ตอบ แม่เจ้าป่วยอยู่เหตุใดเจ้าจึงพานางมายืนตากแดดขายของในที่อากาศร้อน ๆ เช่นนี้ น้ำท่าไม่มีหรือเหตุใดปากนางจึงแห้งผากเช่นนั้น”

“เหตุใดท่านจึง ท่านแม่ท่านทำอะไรกับนางเดี๋ยวนางก็ทุบตีเอาหรอก”

“เหตุใดข้าจะต้องทุบตีพวกเจ้าด้วย”

แม่ค้าขายผักอีกคนเดินออกมาพร้อมกับท่าทางที่เกรี้ยวกราดและชี้หน้ามาที่ว่านเยว่เฟยเมื่อเห็นว่าท่านหญิงจู่ ๆ ก็ไม่เอาเรื่องจึงทำให้นางไม่เกรงกลัวท่านหญิงว่าน

“นี่ท่านหญิงข้าขอพูดหน่อยเถอะ มิใช่ท่านหรอกหรือที่เคยชายตามองสามีของอี้เหนียงจนเจ้านั่นลุ่มหลงและขอเลิกรากับอี้เหนียงไปน่ะ”

"อะไรนะ ข้างั้นหรือ"

“ท่านป้าเพราะเหตุนี้ท่านจึงขว้างข้าวของใส่ข้างั้นหรือ”

“เจ้าลูกเขยนั่นมันลุ่มหลงท่าน มันบอกว่าท่านสนใจในตัวมันจึงได้…ฮือ….”

“ใช่ นางนั่นแหละแย่งสามีผู้อื่น หน้าไม่อาย อี้เหนียงช่างน่าสงสารนัก”

“อะไรกันอีกละวะเนี่ย…”

ว่านเยว่เฟยยกมือขึ้นท่ามกลางเสียงก่นด่านางแต่นางกลับไม่ตอบโต้สักคำ เมื่อนางชูมือขึ้นและกำมือทุกเสียงก็เงียบลงในทันที

“องค์ชาย…นางรู้สัญญาณนั่น!!”

จื่อหรงเองก็แปลกใจ นั่นเป็นสัญญาณสั่งการให้เงียบของทหารในกองทัพ คิดไม่ถึงว่าบุตรีเสนาบดีที่ไม่เอาไหนเช่นนางจะทราบได้ แต่ว่านเยว่เฟยจำสัญญาณนี้มาจากการฝึกงานก่อนที่จะเป็นแอร์โฮสเตส

“อาจจะแค่บังเอิญก็ได้ เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่าง.... นางจะรู้สัญญาณที่ใช้ในกองทัพได้”

“ท่านป้าเมื่อครู่ท่านบอกว่าชายผู้นั้น ข้าหมายถึงอดีตสามีของบุตรท่าน เลิกกับบุตรสาวท่านเพราะข้างั้นหรือ”

“ใช่ หากไม่ใช่เพราะเจ้าคนเลวนั่นพบท่านที่ตลาดแล้วได้คุยไม่กี่คำ จึงตัดสินใจทิ้งลูกข้าไปมีหรือตอนนี้ลูกข้าจะให้ข้ามาลำบากเช่นนี้”

“เฮ้อ…ท่านป้า เจ้าด้วยสาวน้อยฟังข้าสักหน่อยเมื่อครู่แม่เจ้าบอกว่าข้าไปแย่งผู้ชายของเจ้ามา แล้ว…เหตุใดเขาไม่มากับข้าเล่า เจ้าดูสิข้ามาที่นี่เพียงลำพังกับสาวใช้ไหนเล่าผู้ชายที่พวกเจ้าว่า”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  5 พลิกสถานการณ์

    “นางก็พูดถูกนะ นั่นสินางก็พูดถูก”“เอ่อ…”“ท่านป้า หากว่าข้าเพียงพูดคุยกับลูกเขยท่านไม่กี่คำแล้วเขาถึงกับเลิกรากับบุตรสาวท่าน นั่นแสดงว่าเขาไม่จริงใจกับลูกสาวท่านตั้งแต่แรก เป็นโชคดีของนางที่มิได้มีบุตรกับคนใจโลเลเช่นนั้น อีกอย่างท่านคิดว่าเขาเป็นเช่นนั้นเฉพาะกับข้างั้นหรือ ต่อให้มิใช่ข้าเชื่อได้เลยว่าสันดานของเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน”อี้เหนียงเริ่มร้องไห้ออกมา และเดินมาตรงหน้าว่านเยว่เฟย“ท่านหญิงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว หลังจากที่เขาใช้ท่านเป็นข้ออ้างเพื่อเลิกกับข้า เพราะคำว่า "ท่านหญิง" ทำให้ข้าไม่กล้าห้ามเขา แต่ข้ากลับไปจับได้ทีหลังว่าเขาแอบนอกใจข้ามานานแล้วและยังมีผู้หญิงอีกหลายคน ข้าไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับท่านแม่เกรงว่าอาการของท่านแม่จะทรุดก็เลย…. ได้แต่เงียบเอาไว้และให้ท่านแม่เข้าใจว่าเขาถูกท่านหญิงแย่งสามีไป นางจะได้ไม่ต้องถามมากความอีกคิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านจะมาที่นี่"“หา อะไรนะ นี่…”“อีเหนียงเจ้าพูดจริงงั้นหรือแล้วเจ้าบ้านั่นทิ้งเจ้าไปไม่เกี่ยวกับนางจริง ๆ หรือ”“ท่านแม่... ข้าขอโทษเจ้าค่ะในตอนนั้นข้าจำเป็นต้องโกหกเพราะอาการของท่านไม่ดีขึ้นก็เลยไม่อยากให้ท่านคิดมาก” “โธ่ ทำไมเจ้าไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  6 เข้าเฝ้าฮ่องเต้

    จวนสกุลว่าน“เยว่เฟยเจ้าเองก็หายดีแล้วฝ่าบาททรงถามพ่อหลายคราแล้ว ถ้าอย่างไรเจ้าก็หาโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์สักหน่อย ฝ่่าบาทจะได้ลดความกังวลลง”“ฝ่าบาทหรือเจ้าคะท่านพ่อ”“ใช่ เจ้าแปลกใจอันใด เดิมทีเจ้าก็เป็นหลานรักของฝ่าบาทมีผู้ใดในต้าหยวนนี้จะมิรู้บ้าง”“เจ้าค่ะ”ห้องของเยว่เฟย“เข้าเฝ้างั้นหรือ เช่นนั้นต้องทำอย่างไรบ้างต้องถอนสายบัวหรือไม่”“คุณหนูจะนำสายบัวไปถวายฝ่าบาทด้วยเหตุใดเจ้าคะ พระองค์คงไม่โปรดนักหรอกเจ้าค่ะ”“ไม่ใช่เสี่ยวชิง เฮ้อ…ข้า คือว่าเจ้าเคยเข้าเฝ้าหรือไม่ ข้าลืมวิธีถวายบังคมไปสิ้นแล้ว”""หา อะไรนะเจ้าคะ""ทั้งเสี่ยวชิงและอี้ฝูต่างก็แปลกใจเมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณหนูที่เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ราวกับสารภาพผิด“เสี่ยวชิง สอนข้าหน่อยสิ”“สะ สอนหรือเจ้าคะ”“ใช่ สอนข้าทีสิ เวลาเข้าเฝ้าข้าจะได้ไม่ทำผิดพลาดจนถูกสั่งทำโทษ”“ท่านเป็นถึงท่านหญิงเชียวนะนะเจ้าคะคุณหนู ให้บ่าวสอนเช่นนี้...”“ตกลงจะไม่สอนใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะไปฟ้องแม่นม”“อ๊ะ!! สอนเจ้าค่ะ สอน…”เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและทำให้คนทั้งจวนงุนงงสงสัยกับพฤติกรรมที่แปลกไปของท่านหญิงเพราะก่อนเข้าเฝ้าเพียงสองวันนางไม่ออกไปเที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  7 ผลงานในราชสำนัก

    “เจ้าว่าอะไรนะ”“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อเรียกข้ามามีสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”“เดิมทีจะเรียกเจ้ามาร่วมดื่มชาด้วยกัน แต่ตอนนี้ลั่วเอ๋อร์กับเยว่เฟยก็ไปแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็มาเดินหมากแก้เบื่อเป็นเพื่อนพ่อสักกระดานเถอะ พ่อมีเรื่องบางอย่างอยากจะให้เจ้าช่วยคิดสักหน่อย”“พ่ะย่ะค่ะ” สิบวันถัดมา / ประชุมราชสำนัก “ทูลฝ่าบาท ตอนนี้ปัญหาชายแดนได้รับการแก้ไขแล้ว ทางต้าเสวียนยอมสวามิภักดิ์อีกทั้งภาษีค้าขายก็ได้รับการยกเว้นเพราะองค์ชายห้าที่ทรงปราดเปรื่องเป็นผู้เจรจาด้วยพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ยอดเยี่ยม ไม่ผิดหวังจริง ๆ ประทานรางวัลหนึ่งพันตำลึงให้องค์ชายห้า “หยางผิง” ครั้งนี้เจ้าเดินทางไปไกลกว่าจะได้กลับมาก็ใช้เวลาหลายเดือนอีกทั้งยังทำผลงานที่ยอดเยี่ยม สมกับที่ข้าไว้วางใจจริง ๆ”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ เป็นเพราะบารมีของเสด็จพ่อที่ลูกจึงได้เจรจาได้ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าพูดได้ดี สมกับเป็นทูตแห่งต้าหยวนจริง ๆ นับว่าทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม รัชทายาทเรื่องผู้อพยพจัดการไปถึงไหนแล้ว”“ทูลเสด็จพ่อ ตอนนี้ลูกสั่งการให้คนและอาจารย์บางส่วนไปสอนการทำเกษตรและการงานอาชีพ คัดเลือกผู้อพยพบางส่วนที่เต็มใจเข้ากองทัพเพื่อฝึกทหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  8 ไม่มีทางเชื่อ

    “เรื่องนี้มันซับซ้อน เจ้าไม่มีทางเข้าใจได้หรอก”“พี่ห้า ท่านหมายความว่าอย่างไร”“ก็…. น้องแปดน่ะแม้ว่าจะมิได้ชื่นชอบญาติผู้น้องแต่ก็มิได้ชอบลู่หวังด้วยน่ะสิ”“ระหว่างสกุลว่านที่มีว่านเยว่เฟยอยู่ กับสกุลลู่ที่แม้ว่าบุตรีจะงดงามเรียบร้อยและเป็นสตรีอันดับหนึ่งแต่ก็ติดที่มีบิดาอย่างลู่หวังผู้นี่แหละ”“ช่างซับซ้อนจริง ๆ อย่างที่พี่ใหญ่กล่าวพ่ะย่ะค่ะเช่นนี้จื่อหรงคงเลือกยากแล้วหากจะต้องแต่งงานกับหนึ่งในสองสตรีของตระกูลนี้" "หรือไม่เขาอาจจะไม่เลือกทั้งคู่”""ทำไมเล่าพ่ะย่ะค่ะ""องค์ชายห้าและองค์ชายหกหันมามองและตั้งคำถามกับองค์รัชทายาทด้วยความสงสัย ทั้งหมดหันไปมองที่องค์ชายแปดที่ยังยืนนิ่งอยู่กลางท้องพระโรงและสบตากับลู่หวัง“กระหม่อม…พระองค์ทรงตรัสได้ถูกต้อง ใต้เท้าว่านข้าต้องขออภัย ครั้งนี้ข้าล่วงเกินพวกท่านแล้ว”ว่านตงเพียงแค่คำนับตอบเพื่อมิให้เสียมารยาทเท่านั้นเพราะอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท ระหว่างสองสกุลนั้นมิได้เกลียดกันก็จริงแต่ก็มิใช่คนสนิทที่จะพูดเล่นกันได้ ฮ่าวจื่อหรงหันไปคำนับฝ่าบาทก่อนจะเดินกลับที่เดิม“พวกเจ้าเห็นหรือไม่ แม้ว่าจะบอกให้ลู่หวังกล่าวขอโทษท่านโหวว่านได้ แต่น้องแป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน    ตอนที่  9 ต้องบ้าไปแล้วเป็นแน่

    “นั่นใช่…สตรีผู้นั้นคือนางงั้นหรือ”ฮ่าวจื่อหรงขยี้ตารัวเมื่อเห็นสตรีที่เขาพึ่งจะพูดไปว่าน่ารังเกียจ ไร้แก่นสานกำลังทำบางอยู่ในสวนผักกับสตรีอีกสี่คน สองคนน่าจะเป็นสาวใช้ของนาง ส่วนชาวบ้านอีกสองคนน่าจะเป็นสองแม่ลูกที่เขาเห็นว่ามีเรื่องกับนางในวันก่อน“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าใช่เพราะนั่นคือสาวใช้ของท่านหญิง…. องค์ชาย…”ฮ่าวจื่อหรงมองไปที่สตรีที่กำลังเก็บผักกับคนอื่น ๆ สีหน้าและรอยยิ้มของคนที่เขาเห็นในวันนี้แปลกตาไปจนเขาแทบจะคิดว่านางเป็นคนละคนกับว่านเยว่เฟยที่เขารู้จักโดยสิ้นเชิง แววตานางไม่มองผู้อื่นอย่างดูถูกเหยียดหยามสายตาที่คอยหว่านเสน่ห์โปรยให้กับเหล่าบุรุษก็ไม่มีปรากฏให้เห็นอีกเลยตั้งแต่วันที่พบนางที่ตลาด วันนั้นนางก็คุยกับสาวใช้เท่านั้นโดยมิได้สนใจคนรอบข้างเลยด้วยซ้ำ“เป็นไปได้เช่นไร คนหนึ่งคนจะเปลี่ยนแปลงไปได้ในเวลาอันสั้นได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ”จางจิ้งเองก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า โดยปกติท่านหญิงว่านผู้นี้มักจะแต่งกายด้วยผ้าที่ตัดเย็บหรูหราและราคาแพง อีกทั้งเครื่องประดับไม่เคยพร่องใบหน้ามักจะแต่งแต้มสีสันจัดจ้านตามแบบสตรีชั้นสูง แต่สตรีที่พวกเขาเห็นในยามนี้นอกจากสีชุดที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  10 ผู้บุกรุก!!

    “พระองค์ ไม่เชื่อว่าท่านหญิงจะสามารถปรุงตำรับยาได้หรือพ่ะย่ะค่ะ”“กลับ”“เอ่อ…พ่ะย่ะค่ะ”ในเวลานี้จางจิ้งคิดว่าผู้ที่เอาใจยากและอารมณ์ไม่คงที่เป็นองค์ชายแปดมากกว่าท่านหญิงว่านเสียอีก จวนสกุลว่าน “คุณหนูท่านจะเอาแต่ทำยานี้ตลอดคืนไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านควรจะพักบ้าง”“ไม่ได้เดี๋ยวจะลืมสูตร”“สูตร…สิ่งใดเจ้าคะ”“เออ ช่างเถอะนี่ก็เริ่มดึกแล้วพวกเจ้ารีบไปนอนเถอะข้าจะทำต่ออีกนิด ยาบางตัวต้องทำตอนนำมาสด ๆ ถึงจะใช้ได้ผล”""คุณหนู""“ท่านไปบ้านป้าจางมาทั้งวันแล้วกลับมากินข้าวไปนิดเดียวเองนะเจ้าคะ นี่ก็เริ่มดึกแล้วกลับห้องเถิดเจ้าค่ะท่านไม่กลัวอนุซูจะมาหาเรื่องหรือเจ้าคะ”“นางไม่มาแถวนี้หรอกเชื่อข้าสิ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างซูหลิงจะเข้ามาอีกอย่างยาตำรับนี้ทำแล้วต้องทำให้เสร็จทิ้งเอาไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะไม่ได้ผลแล้วต้องทิ้งทั้งหมด ที่เหลือข้าทำเองเจ้าเช็ดขวดสำหรับใส่ยาเสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้ว ไปเถอะ ๆ”“ก็ได้เจ้าค่ะ อี้ฝูไปกันเถอะ”สองสาวใช้เดินออกไปจากห้องยาเงียบ ๆ ห้องนี้อยู่ด้านหลังเรือนตะวันออกของเยว่เฟยซึ่งเป็นห้องเก็บของเดิมของนาง เยว่เฟยสั่งสาวใช้รื้อของทั้งหมดออกไปแจกจ่ายชาวบ้านจนเกือบหมดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  11 อยากกลับบ้าน…

    “ช่วยด้วย!!! ใครก็ได้…..ฮืออ…..”“คุณหนู!! ไหนคนร้ายเจ้าคะ เร็ว ๆ เข้ารีบตามหา คุณหนูท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”“เสี่ยวชิง….”เยว่เฟยหันไปคว้าตัวเสี่ยวชิงเอาไว้และกอดสาวใช้เอาไว้แน่น นางเริ่มร้องไห้ทันที องครักษ์สกุลว่านวิ่งไปทั่วจวนแต่กลับไม่พบผู้ใดที่น่าสงสัย“คุณหนูเจ้าคะ”“ข้า…. เข้ามาเห็นว่าห้องโดนรื้อก็เลย…”“เฮ้อ โชคดีนะเจ้าคะที่มันไม่ได้ทำร้ายท่าน….”“เสี่ยวชิง พาข้ากลับไปที่ห้อง”“เจ้าค่ะ ๆ ค่อย ๆ ลุกนะเจ้าคะ อี้ฝูมาเร็วมาช่วยกันหน่อย”“คุณหนูเจ้าคะ มาเจ้าค่ะ”ว่านเยว่เฟยไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิดว่านางทนให้ผู้คนยืนด่า ทนให้ป้าจางโยนผักใส่หน้าได้อย่างหน้าตาเฉยและยังสามารถอธิบายทำความเข้าใจได้ แต่กลับฮ่าวจื่อหรงเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของเขากลับทำให้นางร้องไห้ได้เช่นนี้“คุณหนู ท่านทันเห็นตัวคนร้ายหรือไม่เจ้าคะ วันนี้นายท่านอยู่ในวังไม่ได้กลับจวน”“ไม่เห็น ช่างเถอะอาจจะเป็นหนูก็ได้ ในห้องนั้นยังไม่ได้วางกับดัก ข้าเข้าไปแล้วเห็นห้องที่ของตกก็เลยตกใจไปน่ะ ซูหลิงและหนิงลี่ไม่รู้เรื่องใช่หรือไม่”“คุณหนู แม้จะรู้แต่พวกนางก็ไม่ใส่ใจอยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านลืมไปแล้วหรือเจ้าคะว่าพวกนางอยากให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  12 งานเลี้ยงในวังหลวง

    ฮ่าวจื่อหรงหันไปมององครักษ์ของเขาแต่ก็ไม่กล้าพูดสิ่งใดออกไปเพราะเขาหลุดพูดชื่อของนางออกมาเอง ไม่ทันที่จะได้กล่าวสิ่งใด หมัวมัวของตำหนักบูรพาก็เดินนำขบวนสาวใช้เข้ามา“ถวายบังคมองค์ชายแปดเพคะ”“กุ้ยหมัวมัว มีธุระอันใดหรือ”“ทูลองค์ชายแปด องค์รัชทายาทให้นำฉลองพระองค์ชุดใหม่สำหรับงานเลี้ยงมาส่งให้พระองค์เพคะ”“งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพเสด็จพ่อ ข้าเกือบลืมไปเลยขอบใจหมัวมัว จางจิ้ง”“พ่ะย่ะค่ะ เชิญพวกท่านตามข้ามาเถิดขอรับ”เหล่าขบวนสาวใช้เดินตามจางจิ้งเพื่อนำชุดไปเก็บ จื่อหรงเดินวนอยู่ที่ด้านหน้าตำหนักซึ่งเป็นสวนเล็ก ๆ พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน“งานเลี้ยงงั้นหรือ หึ ดีล่ะ”จวนเสนาบดีว่าน “คุณหนู ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะว่าจะสวมชุดนี้ไป ท่านบอกว่าเลิกสวมชุดสีสดเช่นนี้แล้วมิใช่หรือเจ้าคะ”“ทำไมเล่าก็ข้าชอบ เอาเครื่องประดับนั่นเอาหรูหราที่สุดกำไลข้อมือหยกนี่ด้วย ใช่แบบนั้นแหละ”“คุณหนูเจ้าคะ สวมหมดนี่มันออกจะมากเกินไปหน่อยหรือไม่เจ้าคะ”“อืม ออกจะมากไปจริง ๆ เสี่ยวชิง ตามที่เจ้าเคยจัดเตรียมชุดสวมเข้าวังเวลามีงานเลี้ยงแต่เดิม พวกเจ้าทำเช่นไรไหนลองจัดให้ข้าดูหน่อยสิ”“เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษ 6 (ตอนจบ)

    “ลู่หนิงลี่” ผลักประตูเข้ามาโดยพลการ หมอฮ่าวและเยว่เฟยที่อยู่ในห้องหันมาและจื่อหรงก็ดึงคู่หมั้นของเขามาใกล้ ๆ ทันที“หนิงลี่ เธอมาทำอะไรที่นี่ พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าหากไม่มีธุระก็ไม่ต้องมา”“พี่จื่อหรง พี่จะแต่งงานกับ...เธองั้นเหรอ”“ใช่ มีอะไรน่าตกใจกันล่ะ”“แล้วฉันล่ะ ฉันละคะพี่เอาฉันไปไว้ที่ไหนพี่จื่อหรงทั้ง ๆ ที่คุณพ่อของพี่ก็บอกว่าเรา…”“แต่พี่ก็บอกคุณพ่อไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ พูดต่อหน้าเธอด้วยและวันนั้นเราก็คุยกันจบแล้ว คุณพ่อเธอก็รับรู้แล้วคุณพ่อพี่ก็เช่นกันดังนั้นระหว่างเราไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่าคนรู้จัก”“แต่ว่าฉันรักพี่นะคะ”“ตายจริงใครมาวิ่งตามผู้ชายถึงที่นี่ล่ะเนี่ยเสียงดังออกไปถึงข้างนอก อ้อ เธออีกแล้วเหรอหนิงลี่”“พี่ชิงอัน!! ฉันเป็นน้องพี่นะ”ชื่อที่ถูกเรียกทำให้ว่านเยว่เฟยหันไปมองทันที “ลู่ชิงอัน” ในชุดกาวน์สีขาวเดินมามองหน้าผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าประตูและหันเอาแฟ้มมาวางที่โต๊ะของจื่อหรง“พี่หรงนี่รายงานที่ขอไปวันก่อน ไม่มีอะไรผิดปกติวางใจได้ เธอคือ…ว่าที่พี่สะใภ้ของน้องเหรอ”“ใช่แล้วชิงอัน จริงสิเยว่เฟยนี่ลู่ชิงอัน เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ในโรงพยาบาลนี้”“อะไรนะ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 5

    คอนโดเยว่เฟย “คุณพักที่นี่เหรอ”“ค่ะ ฉันซื้อเอาไว้ตอนที่แม่เสียเมื่อหลายปีก่อน”“หรูจริง ๆ ด้วยแฮะ”“คุณหมอคงไม่รังเกียจคนว่างงานที่เอาแต่เขียนนิยายอย่างฉันหรอกใช่ไหมคะ”“คุณเคยเป็นหมอมาก่อนนี่ หมอศัลยกรรมสมองคนเก่งของโรงพยาบาลชื่อดังเสียด้วยทำไมคุณถึงลาออกล่ะ”“คุณสืบประวัติฉันเหรอคะ อยากโดนลงโทษเหรอคะคุณหมอ”“ไม่ใช่นะ ผมก็แค่… คุ้นชื่อคุณก็เลยไปสืบดูเท่านั้น ทำไมคุณถึงลาออกแล้วไปเป็นแอร์โฮสเตสละครับ”“อืม คงเพราะอยากจะพบคุณมั้งคะ สวรรค์คงจะกำหนดเอาไว้แบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว”“เยว่เฟย คำพูดของคุณทำไมดูโบราณจังเลยล่ะ”“อะไรนะ โบราณงั้นเหรอคะ”“ใช่ ผมว่าจะถามมานานแล้วแต่…”“เจ้าคือบุปผาในฤดู…”“เดี๋ยว!! อย่าพึ่งพูด”“หมอคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”“เปล่า แต่ผมเคยได้ยินประโยคนี้”“อะไรนะคะ”ว่านเยว่เฟยมองดูฮ่าวจื่อหรงที่ยืนขึ้นและจับเธอเอาไว้พร้อมกับสบตาเธออีกครั้ง“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ เยว่เฟยของข้า”ว่านเยว่เฟยยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อมองไปที่เขาอีกครั้ง ฮ่าวจื่อหรงเองก็เผลอร้องไห้ออกมาเช่นกันโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจแต่เขารู้สึกว่าประโยคนี้ควรจะพูดตอนนี้กับเธอคนนี้เพียงคนเดียว“

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 4

    เธอขยับหนีเขาไม่ได้ ราวกับร่างกายถูกสะกดเอาไว้ให้หยุดนิ่งและเมื่อเขาเริ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ เธอก็เผลอตัวยื่นหน้าขึ้นไปรับสัมผัสที่คุ้นเคยเพราะในชาติก่อนว่านเยว่เฟยและท่านอ๋องฮ่าวจื่อหรงมักจะแสดงความรักต่อกันตลอดเวลาที่มีโอกาส ตลอดเวลาที่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาเกือบหกสิบปี พวกเขารักกันจนลมหายใจสุดท้ายจริง ๆ“อือ…อ๊ะ หมอคะ”แทนที่เขาจะหยุดแต่กลับเลือกที่จะดันตัวเธอเข้าไปในห้องข้างในและเริ่มยกตัวเธอเข้าไปวางที่เตียงของเขา เสียงหายใจหอบถี่เพราะความตื่นเต้นจนเธอเองก็รู้สึกได้เพราะเธอเองก็เป็นเหมือนกับเขา“ว่านเยว่เฟย คุณเป็นแม่มดเหรอ”“คะ? คุณหมอคุณพูดอะไรนะคะ ฉัน…อื้อ”เธอกำต้นแขนเขาแน่น หมอฮ่าวยังสวมชุดกาวน์สีขาวอยู่ตอนที่วิ่งตามเธอออกมาจากโรงพยาบาลและตอนนี้ก็กำลังจูบเธออย่างกระหายและกำลังซึมซับบางอย่างพร้อมกับความสับสนของเขาที่เริ่มคลี่คลายเมื่อได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง“เยว่เฟย”“จื่อหรง…”“คุณต้องการผมหรือเปล่า”“ฉัน…”“เยว่เฟย ผมถามคุณว่า….”“อย่าถามอีกเลยค่ะ ฉันเป็นของคุณ… มาโดยตลอด”เสื้อกาวน์สีขาวและเสื้อโค้ชของเธอถูกโยนทิ้งไปคนละทาง ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่เ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 3

    ว่านเยว่เฟยมองสบตาเขา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอจึงขยับหน้าเข้าไปใกล้เขาโดยไม่รู้ตัว ฮ่าวจื่อหรงเองก็ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนกับคนไข้ของตัวเอง เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ทาบปิดกันสนิทและเริ่มขยับเข้าหากันอย่างเผลอตัว ภาพในหัวก็เกิดขึ้นในสมองของหมอฮ่าวทันที“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ… เยว่เฟยของข้า”“อ๊ะ!!”ว่านเยว่เฟยตกใจเมื่อคุณหมอฮ่าวถอยออกและกึ่งผลักเธอออกมาทันทีด้วยท่าทางที่ตกใจเมื่อหันมามองหน้าเธอชัด ๆ อีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและทำไมถึงได้เห็นภาพแบบนั้นในหัวเวลาที่เขาจูบเธอ และนี่เป็นสิ่งที่หมอไม่ควรทำกับคนไข้ของตัวเอง“ผม… ผมขอโทษ ขอตัวก่อน”“คุณ…”เยว่เฟยไม่ร้องตามเขาแม้ว่าอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สัมผัสจากริมฝีปากนั้นคุ้นเคยจนทำให้เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวที่จดจำเขาได้ไม่มีวันลืม“จื่อหรง… ท่านช่างใจร้ายนัก เหตุใดต้องปล่อยข้าเอาไว้เช่นนี้ หากรู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ข้าไม่ตามท่านมาหรอกคนใจร้าย ฮือ…”“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!”ฮ่าวจื่อหรงยืนหน้าแดงอยู่ที่หน้าห้องคนไข้พิเศษของเขา สิ่งที่เขาเห็นตอน

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน    ตอนพิเศษที่ 2

    แววตาของเธอรื้นไปด้วยน้ำตาทันที ไม่ใช่เพราะยังปรับแสงไม่ได้แต่เพราะชื่อที่พึ่งจะได้ยิน เธอพยายามลุกขึ้นมาและมองเขาใกล้ ๆ ชัด ๆ อีกครั้ง คุณหมอเห็นว่าเธอพยายามจะลุกขึ้นมาซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดที่คนไข้จะสามารถลุกขึ้นมาได้ทั้ง ๆ ที่หมดสติไปหลายวันอีกทั้งเธอยังบาดเจ็บตามตัวอยู่หลายแห่ง“คุณค่อย ๆ ลุกอย่าพึ่งรีบร้อน…คนไข้ครับ นี่คุณทำอะไร”“จะ…จื่อ…คุณ…. ชื่อ….”สายตาที่หันมามองสบตาเธอนั้นนิ่งไป และเมื่อทั้งคู่สบตากันก็เหมือนจะมีบางอย่างทำให้คุณหมอฮ่าวหยุดนิ่งไปเช่นกัน ทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเธอแบบนี้ และรู้สึกเหมือนกับเคยรู้จักเธอมาก่อนทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเจอเธอแน่ ๆ“ตอนนี้คนไข้รู้สึกยังไงบ้างครับ”“จื่อ.... หรง”หมอฮ่าวชะงักไปเมื่อเธอเรียกชื่อเขาเฉย ๆ อย่างคนคุ้นเคย เขาหันไปขมวดคิ้วและมองเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจกึ่งสงสัย สีหน้าของเธอซีดเซียวแต่ยังคงสวยมาก ๆ เพราะเธอเป็นแอร์โฮสเตสละมั้งถึงได้มีหน้าตาที่สวยแม้แต่ตอนที่ป่วยก็ยังดูสวยอยู่“คุณ รู้จักผมเหรอครับ”เพียงคำถามนั้นก็ทำเอาเธอปากสั่นและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุดจนเขาตกใจ กล่องทิชชูถูกยกมาวางที่ตรงหน้าและเขาก็รี

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 1 กลับมาอีกครั้ง

    โรงพยาบาล ติ๊ด ติ๊ด….. เสียงของใครคนหนึ่งที่คุยกับคนอีกหนึ่งหรือสองคนไม่แน่ใจเพราะสติที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เสียงที่ดังขึ้นมาแม้ว่าจะจับใจความอะไรไม่ได้แม้ว่าหูจะเริ่มได้ยินเสียงที่ชัดขึ้นแต่ร่างกายกลับยังไม่ตอบสนองอย่างที่ต้องการ เมื่อค่อย ๆ เริ่มหายใจ ลมเย็น ๆ ที่อยู่ปลายจมูกก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ต้องพยายามขนาดนั้น แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวคนพูดแต่เสียงที่เริ่มชัดขึ้นก็ทำให้ร่างที่นอนอยู่ค่อย ๆ กะพริบตาขึ้น ราวกับหลับไปนานแสนนานและแสงที่เริ่มไม่คุ้นเคยนี้ก็ทำให้ “ว่านเยว่เฟย” หลับตาลงไปอีกครั้ง “ข้าอยู่ที่ไหน เกิดใหม่อีกแล้วงั้นหรือ ท่านพี่ท่านพาข้ามาที่ใดข้าไม่อยากจากท่านไป นานเหลือเกินแล้วที่เราจากกัน แม้จะเพียงแค่ปีเดียวที่ท่านด่วนจากไปแต่ข้าไม่มีทางลืมท่าน จื่อหรง…พาข้าไปกับท่านด้วย” “เยว่เฟยยอดรักของข้า อีกไม่นานเราจะได้พบกัน…อีกครั้ง” “อย่าไปเพคะท่านพี่ รอข้าก่อนฮ่าวจื่อหรง อย่าไป!! รอข้าก่อน” “รอ…รอก่อน…หรง…จื่อหรง” เสียงงึมงำนั้นเรียกความสนใจของพยาบาลสาวที่กำลังปรับเครื่องช่วยหายใจอยู่ เมื่อคนไข้มีการตอบสนองเธอจึงเรียกคุณหมอทันที “คุณหมอคะ ดูเหมือนว่าคนไข้จะมีการตอบสนอ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  62  ความรักที่สมบูรณ์ (ตอนจบ) 

    เยว่เฟยไม่รอช้าเพราะนางเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี นางผลักเขาลงไปและเริ่มใช้ลิ้นกับองค์ชายทันที อกแน่น ๆ ที่นางเฝ้าฝันว่าสักวันจะกัดจนเขาต้องร้องขอความเห็นใจ กล้ามท้องที่เป็นลอนทุกครั้งที่กระแทกเข้าออก ทั้งหมดนี้เป็นของนางเพียงคนเดียว“อ๊าา จื่อหรง อื้อ…”"เยว่เฟยเจ้างดงามยิ่งนัก เมื่อมองเช่นนี้แล้วข้าจะ…เริ่มทนไม่ไหว"“ท่าน…จะทนได้กี่ครั้งกันนะท่านพี่”“เจ้ายั่วข้าเช่นนี้ อย่าหวังว่าคืนนี้จะได้พัก”“อ๊าา ข้าเอง ข้าขยับเองเพคะ อ๊าา ท่านพี่ เสียวมาก อื้อ…”จื่อหรงเองก็เริ่มเกร็งหน้าท้องระหว่างที่นางขย่มเขาอยู่ด้านบน ทั้งท่วงท่าและลีลาที่ยั่วยวนนี้มีหรือเขาจะทนไหว ไม่นานเขาก็แตะทางสวรรค์จนนางสั่งให้เขาเป็นผู้ทำบ้างเพราะนางไม่ยอมหยุด เป็นครั้งแรกที่จื่อหรงรู้สึกว่าเยว่เฟยร้องขอเรื่องแบบนี้ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เพียงแค่สามรอบนางก็เริ่มอยากจะพักแล้ว“อ๊าา แน่นดีจัง โอ๊วว ท่านพี่ เสียวมาก ลึกมาก อ๊าา…”“รอบนี้จบเราควรจะพักได้แล้ว เจ้าต้องพักแล้วเยว่เฟย”“อื้อ ก็ได้เพคะ อ๊าา เร่งอีกนิดจะ…ไม่ไหวแล้วว อ๊าา”กว่าพายุรักจะสงบลงก็เกือบจะรุ่งสาง คู่บ่าวสาวที่พึ่งเข้าพิธีส่งตัวนอนซุกในอกของกันและกันบนเตี

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  61 “ข้ายังไม่เหนื่อย” (NC)

    “อย่ามัวแต่พูด เข้ามาเสียทีข้ารอนานแล้ว อ๊าา….”สิ้นเสียงเรียกร้องนั้นเขาก็ตอบสนองนางทันทีเพราะตัวเขาเองก็อดทนรอเวลานี้มาแสนนานแล้วเช่นกัน หลายวันที่เกิดเรื่องขึ้นพวกเขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยแม้ว่าจะอยู่ในห้องเดียวกันก็มิอาจทำเรื่องเช่นนี้ได้เพราะเกรงคนจะสงสัย“อาา แน่นมาก...”แรงกระแทกและเสียงครางดังกว่าทุกครั้งและความต้องการของทั้งสองคนก็มีมากเช่นเดียวกัน“อ๊าา ลึกอีกเพคะ อ๊าา เสียวมากเลย อื้อ…”“เยว่เฟยข้าจะทนไม่ไหว ขอแก้ตัวอีกรอบนะไม่ไหวแล้ว อาา…”ไม่นานหลังจากนั้นองค์ชายแปดก็เกร็งตัวขึ้นมา เยว่เฟยเองก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะถึงสวรรค์เร็วเช่นนี้ ดูท่าคืนนี้นางคงต้องเหนื่อยอย่างที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ เพราะองค์ชายแปดอัดอั้นมานานหลายวัน คืนนี้คงไม่ปล่อยในนางนอนกอดเขาอย่างเดียวดังเช่นหลายคืนที่ผ่านมาเป็นแน่“จื่อหรง ข้าขอพัก อ๊ะ!! อย่าพึ่งเข้ามา ข้า อ๊าา จื่อหรง”“อีกทีนะ ไม่นานหรอกรอบนี้… เยว่เฟยเจ้ารัดข้าแน่นเกินไปแล้ว”“ก็บอกแล้วว่าขอพักก่อนท่านก็ไม่ยอม อ๊าา ต้องโดนเช่นนี้แหละ”“เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับสามี ไม่กลัวว่าข้าจะเอาคืนหรือ อาา เยว่เฟยทนไม่ไหวแล้วข้า…อาา!!”“แฮก แฮก…”“ข้ายังไม่เหนื่อ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  60  มันจบแล้วเยว่เฟย

    “ชิงอัน… ชิงอัน!! ไม่นะ”องค์ชายแปดจับชีพจรของลู่ชิงอันและค่อย ๆ จับไหล่ของลู่อี้เทียนเป็นเชิงปลอบ เขารู้ทันทีว่านางจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีกแล้ว ลู่อี้เทียนกอดร่างน้องสาวเอาไว้แน่น ร่างของซูหลิงถูกยกออกมานอกห้อง บัดนี้เรื่องราวและคดีที่ต้องไขกระจ่างจนหมดสิ้นอีกทั้งตัวผู้บงการ ฆาตกรก็ล้วนแต่จบชีวิตลงที่นี่ในวันนี้จนหมดสิ้น“เยว่เฟย… เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“จื่อหรง…”“มันจบแล้วเยว่เฟย มันจบแล้ว”“ข้าส่งนางไปได้แล้ว…”ฮ่าวจื่อหรงกอดเยว่เฟยเอาไว้แน่น นางตัวสั่นไปทั้งตัวเพราะไม่เคยเห็นเรื่องเช่นนี้มาก่อนในชีวิตนี้หรือแม้แต่ชีวิตก่อนหน้านี้เองก็ตาม หลังจากข่าวการตายของซูหลิงแพร่ออกไปราวกับว่านหนิงลี่เองก็จะรับรู้ ไม่นานหลังจากนั้นนางเองก็จากไปอย่างสงบเช่นกันเพราะพิษที่นางได้รับนั้นกัดกินภายในจนมิอาจช่วยได้ อีกอย่างเมื่อไม่มีซูหลิงหนิงลี่ก็ไม่ต่างกับผู้ที่ไร้หลักยึด นางจึงไม่มีกำลังใจจะสู้ต่อ “ท่านพ่อเจ้าคะ”“พ่อดีใจที่จนถึงตอนนี้ พ่อไม่เคยทำผิดต่อท่านแม่ของเจ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนหน้านั้นพ่อรู้สึกผิดกับท่านแม่ของเจ้าและเจ้ามาโดยตลอด”“ท่านพ่อ เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้วนะเจ้าคะ ท่านก็อย่า

DMCA.com Protection Status