แชร์

ตอนที่  5 พลิกสถานการณ์

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 02:10:58

 

“นางก็พูดถูกนะ นั่นสินางก็พูดถูก”

“เอ่อ…”

“ท่านป้า หากว่าข้าเพียงพูดคุยกับลูกเขยท่านไม่กี่คำแล้วเขาถึงกับเลิกรากับบุตรสาวท่าน นั่นแสดงว่าเขาไม่จริงใจกับลูกสาวท่านตั้งแต่แรก เป็นโชคดีของนางที่มิได้มีบุตรกับคนใจโลเลเช่นนั้น อีกอย่างท่านคิดว่าเขาเป็นเช่นนั้นเฉพาะกับข้างั้นหรือ ต่อให้มิใช่ข้าเชื่อได้เลยว่าสันดานของเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน”

อี้เหนียงเริ่มร้องไห้ออกมา และเดินมาตรงหน้าว่านเยว่เฟย

“ท่านหญิงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว หลังจากที่เขาใช้ท่านเป็นข้ออ้างเพื่อเลิกกับข้า เพราะคำว่า "ท่านหญิง" ทำให้ข้าไม่กล้าห้ามเขา แต่ข้ากลับไปจับได้ทีหลังว่าเขาแอบนอกใจข้ามานานแล้วและยังมีผู้หญิงอีกหลายคน ข้าไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับท่านแม่เกรงว่าอาการของท่านแม่จะทรุดก็เลย…. ได้แต่เงียบเอาไว้และให้ท่านแม่เข้าใจว่าเขาถูกท่านหญิงแย่งสามีไป นางจะได้ไม่ต้องถามมากความอีกคิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านจะมาที่นี่"

“หา อะไรนะ นี่…”

“อีเหนียงเจ้าพูดจริงงั้นหรือแล้วเจ้าบ้านั่นทิ้งเจ้าไปไม่เกี่ยวกับนางจริง ๆ หรือ”

“ท่านแม่... ข้าขอโทษเจ้าค่ะในตอนนั้นข้าจำเป็นต้องโกหกเพราะอาการของท่านไม่ดีขึ้นก็เลยไม่อยากให้ท่านคิดมาก”

 “โธ่ ทำไมเจ้าไม่บอกแม่เล่า ให้ข้าเข้าใจท่านหญิงผิด ข้า…”

“อย่าคิดมากเลยตอนนี้ท่านก็เข้าใจข้าแล้วนี่ ทุกอย่างย่อมมีเหตุและผล ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วให้ข้าซื้อผักได้หรือยัง”

ว่านเยว่เฟยหันไปยิ้มให้กับสองแม่ลูกที่ยิ้มกลับมาด้วยความตื้นตันที่นางทั้งไม่เอาเรื่องและยังขอซื้อผักทั้งหมดกลับไปที่จวนเพื่อไม่ให้แม่ของอี้เหนียงต้องยืนตากแดดขายอีก

“ยานั่นกินหลังอาหาร ท่านต้องพักผ่อนให้มากจากนี้อย่าได้กังวล ผักที่ท่านปลูกหากขายไม่ได้ ก็นำไปส่งที่จวนเสนาบดีข้าจะรับเอาไว้ทั้งหมด คนในจวนข้ามีหลายครัวแค่ผักของท่านไม่พอเลี้ยงหรอกส่งไปได้เลย”

“ท่านหญิงพูดจริงหรือเจ้าคะ”

“ผักของท่านมองดูก็รู้ว่าปลูกเอง ทั้งสดและใหม่อีกอย่างดูได้จากสีของมะเขือเทศนี่ ข้าคิดว่าผักของท่านคุณภาพดีมากเลยล่ะ ข้ารับซื้อทั้งหมด”

สีหน้าของแม่ค้าขายผักยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปทันทีเมื่อมองมาที่ว่านเยว่เฟยอีกครั้ง

“ขอบคุณท่านหญิงเจ้าค่ะ ขอบคุณมากจริง ๆ”

“อี้เหนียงจากนี้เจ้าดูแลแม่เจ้าให้ดี คนชั่วนั้นออกจากชีวิตไปถือว่าสวรรค์ให้โอกาสเจ้าเริ่มต้นใหม่ขอให้เจ้าพบคนที่ดี อ้อ แล้วยานั่นหากว่าหมดก็ส่งคนมาบอกข้าจะนำมาเพิ่มให้ เสี่ยวชิงเจ้าจัดการด้วย”

“เจ้าค่ะ” 

“ข้าไปก่อนนะ”

“ช้าก่อนท่านหญิงเจ้าคะ”

“อะไรหรือ”

สตรีสูงวัยยื่นผ้าสะอาด แม้ว่ามันจะดูมอมไปสักหน่อยแต่ก็สะอาดที่สุดที่นางมีแล้วยื่นมาให้นาง

“ข้าขอโทษท่านหญิงจริง ๆ เจ้าค่ะ ข้ามันโง่มองคนเพียงแค่ตาเห็น ท่านโปรดเช็ดหน้าของท่านเสียก่อน แต่หากว่าท่านหญิงรังเกียจ…”

เยว่เฟยหยิบผ้านั้นมาและเช็ดไปที่ใบหน้าของนางทันที ผู้ที่ได้พบเห็นต่างเริ่มพูดกันไปต่าง ๆ นานา ถึงความเปลี่ยนไปของท่านหญิงว่าผู้นี้

“กลิ่นหอมจริง ท่านป้าท่านใช้สิ่งใดอบผ้านี้งั้นหรือ”

“หาได้ไม่เจ้าค่ะ นี่คือกลิ่นดอกไม้ที่ข้านำมาตากแห้งและใช้อบผ้าเจ้าค่ะก็เลย…”

“ท่านป้าข้าชอบกลิ่นนี้ยิ่งนัก หากเป็นไปได้ท่านช่วยชี้แนะและสอนข้าได้หรือไม่ ข้าอยากทำมาขาย”

“จริงหรือเจ้าคะท่านหญิง หากว่าท่านหญิงกล่าวเช่นนั้นข้าย่อมยินดีอย่างยิ่ง ท่านหญิงท่านช่าง…”

“พอแล้ว ๆ เช่นนั้นข้าจะหาเวลาไปเรียนวิธีอบผ้ากับท่าน หากว่าท่านไม่รังเกียจ”

“ไม่เจ้าค่ะ ไม่รังเกียจ ข้ารู้สึก ฮือ…. อี้เหนียงเราได้พบทางสว่างแล้วจริง ๆ ฮือ”

“ขอบคุณท่านหญิงว่านเจ้าค่ะ"

“เอาล่ะ ๆ เจ้าก็จัดการเรื่องผักนี่เถอะ ข้ากลับล่ะอี้ฝูอย่าลืมจ่ายเงินให้พวกนางด้วยนะ”

“เจ้าค่ะ”

ผู้คนเริ่มแหวกทางให้ว่านเยว่เฟยเดินออกมาพร้อมกับเสียงชื่นชมที่ไม่ขาดปาก เรื่องนี้คงเป็นที่พูดถึงไปทั่วเมืองหลวงอีกนานหลังจากนี้ไป แม้แต่ผู้ที่เฝ้ามองเหตุการณ์เงียบ ๆ อยู่บนชั้นสองของโรงน้ำชาชื่อดังก็ต้องแปลกใจกับท่าทางที่แปลกไปเช่นนี้ของผู้ที่เขาเคยนึกรังเกียจและเป็นสตรีที่เขาไม่อยากพบเจอมากที่สุด

“เป็นไปได้เช่นไร เจ้ามีแผนการอันใดกันแน่ว่านเยว่เฟย”

“องค์ชาย ดูเหมือนว่าผู้คนจะชื่นชมท่านหญิงไม่น้อยเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปเถอะ”

“ไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ตามมา”

“พ่ะย่ะค่ะ” 

ว่านเยว่เฟยเดินออกมาพร้อมกับผ้าที่เช็ดและดมไปอีกครั้ง นางรู้สึกดีที่ได้ดมกลิ่นหอมนี้เพราะกลิ่นคล้ายดอกมะลิที่นางชื่นชอบ 

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านจะกลับจวนเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“อืม กลับเลยก็ได้ตัวเปื้อนเช่นนี้คงจะเดินลำบากแล้วล่ะ”

“ท่านก็ยังอุตส่าห์ซื้อของนางอีกนะเจ้าคะ”

“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดนี่ เอ๊ะ แต่ว่าไม่ได้เปื้อนมาก เราก็แค่ไปซื้อชุดใหม่ก็พอแล้วนี่ รู้จักร้านหรือไม่”

“รู้เจ้าค่ะ ทางนี้เจ้าค่ะ”

พวกนางเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าและโชคดีที่ทางร้านมีห้องให้เปลี่ยน เยว่เฟยจึงสามารถทำความสะอาดร่างกายได้ เมื่อเปลี่ยนชุดออกมาและเลือกซื้อชุดอีกสามสี่ชุดให้ร้านไปส่งที่จวน สาวใช้ต่างก็ลงความเห็นว่าชุดที่นางเลือกแม้ว่าสีจะไม่จัดจ้านเหมือนเคยแต่พอสวมแล้วก็งดงามยิ่งนัก

“คุณหนู ไม่คิดเลยว่าท่านสวมชุดเรียบ ๆ เช่นนี้ก็ดูน่านับถือไม่ต่างกับเหล่าสตรีในวังหลวงเลยนะเจ้าคะ”

“งั้นหรือ ชุดที่มีอยู่ก็สวยมากนะข้าเองก็ชอบแต่ก็อยากเปลี่ยนบ้างจะได้ไม่ซ้ำซาก ไปดื่มชากันสักหน่อยเถอะ”

“เจ้าค่ะ ทางนี้เจ้าค่ะ”

พวกนางเดินออกมาจากร้านตัดชุด สายตาของบุรุษหนุ่มต่างมองไปที่นางทั้งสิ้นเพราะความงามของว่านเยว่เฟยเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้อีกทั้งในยามนี้ที่นางพูดคุยกับสาวใช้ของนางยิ่งชวนให้นางน่ามองมากกว่าท่านหญิงที่เอาแต่เดินชายตามองบุรุษไปทั่วเหมือนเช่นเคย

“นั่นท่านหญิงว่านมิใช่หรือ”

“ใช่ ๆ แต่เหตุใดวันนี้นางเดินไม่มองผู้คนเลยเล่า”

“เจ้าไม่รู้อะไร เมื่อครู่นี้….”

เรื่องที่นางช่วยสองแม่ลูกเอาไว้และอธิบายเกี่ยวกับชายหนุ่มมากรักที่หักหลังบุตรสาวของแม่เฒ่าขายผักร่ำลือกันทั้งตลาด ความสามารถและน้ำใจที่ท่านหญิงมอบทั้งยาและซื้อผักของพวกนางอีกทั้งยังขอให้แม่เฒ่าผู้นั้นสอนนางเป็นเรื่องที่ชวนเหลือเชื่อที่ควรจะเกิดขึ้นในเมืองหลวงแห่งนี้

“อะไรนะคนอย่างท่านหญิงว่านเยว่เฟยน่ะหรือ ยอมก้มหัวให้ชาวบ้านต่ำต้อยให้สอนนาง”

“องค์ชาย เหตุใดหลังจากท่านหญิงว่านหายป่วยก็ดูเหมือนว่า…”

“เจ้าก็คิดเช่นเดียวกับข้าสินะจางจิ้ง ข้าก็คิดว่านางแปลกไปแต่ข้ามิอาจไว้ใจเล่ห์เหลี่ยมมารยาสตรีเช่นนาง ข้าเชื่อว่านางก็ยังเป็นว่านเยว่เฟยคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

จวนแม่ทัพลู่

“เจ้าต้องฟังผิดแน่”

“ไม่ผิดเจ้าค่ะคุณหนู ตอนนี้ข่าวลือที่ว่าท่านหญิงว่านเยว่เฟยเปลี่ยนไปราวกับเป็นนางฟ้าแพร่ไปทั่วเมืองหลวงเลยเจ้าค่ะ”

“เจ็บใจนัก!! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”

“ลู่ชิงอัน” บุตรีแม่ทัพใหญ่กององครักษ์ในวังโมโหอยู่ในจวนจนไม่เป็นอันทำสิ่งใดเมื่อได้ยินข่าวจากสาวใช้ที่ออกไปรับของนอกจวนมาถึงเรื่องราวของว่านเยว่เฟย

“ข่าวนี้ไปถึงในวังหรือยัง”

“ยังเจ้าค่ะ คาดว่าคงอีกไม่นาน แต่ว่าที่นั่นอยู่ใกล้โรงน้ำชาต้าเหลียงที่องค์ชายแปดชอบแวะไปนะเจ้าคะ”

“เหอะ ข้านึกแล้วเชียว นี่ก็คงเป็นหนึ่งในแผนการของนางที่จะเรียกร้องความสนใจจากองค์ชายแปดเท่านั้นเอง เจ้าให้คนไปสืบมาว่าผู้ที่นางคุยด้วยเป็นคนที่นางว่าจ้างมาให้แสดงละครหรือไม่ หากว่ามีพิรุธข้าจะใช้เรื่องนี้เล่นงานนาง”

“เจ้าค่ะ”

ท้ายตลาด

“ที่นี่ขนมเยอะเสียจริง เอ๋…สุดทางนั่นคือที่ใดหรือ เราไป…”

“ไม่ได้เจ้าค่ะ”

“ทำไม มีอะไรอี้ฝูเจ้าดึงข้าทำไม”

“ที่นั่นเป็นค่ายอพยพจากเมืองเฉินตูที่พึ่งมีสงครามไปเจ้าค่ะ หากท่านไปในตอนนี้เกรงว่าจะไม่ดีนัก”

"ค่ายผู้อพยพงั้นหรือ"

“คุณหนู หรือว่าท่านกำลังคิดจะช่วยเหลือผู้อพยพหรือเจ้าคะ”

“ข้าหรือ”

“เจ้าค่ะ บ่าวเห็นท่านช่วยสองแม่ลูกเมื่อครู่นี้ก็เลยคิดว่า…”

“ไม่ เหตุใดข้าต้องช่วยด้วยล่ะเรื่องแบบนั้นมันเกินกำลังพวกเรามากเกินไปไม่ใช่หน้าที่อย่าหาเรื่องเลยรีบกลับกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

ทั้งสามเดินกลับไปยังรถม้าของสกุลว่านทันที เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกไป ผู้ที่ยืนอยู่ที่มุมถนนก็เดินออกมา

“ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรจางจิ้ง ว่านางไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย สิ่งที่นางทำก็แค่เสแสร้งเพื่อตบตาผู้อื่นเท่านั้น แต่นางหาได้ตบตาข้าได้ไม่”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  6 เข้าเฝ้าฮ่องเต้

    จวนสกุลว่าน“เยว่เฟยเจ้าเองก็หายดีแล้วฝ่าบาททรงถามพ่อหลายคราแล้ว ถ้าอย่างไรเจ้าก็หาโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์สักหน่อย ฝ่่าบาทจะได้ลดความกังวลลง”“ฝ่าบาทหรือเจ้าคะท่านพ่อ”“ใช่ เจ้าแปลกใจอันใด เดิมทีเจ้าก็เป็นหลานรักของฝ่าบาทมีผู้ใดในต้าหยวนนี้จะมิรู้บ้าง”“เจ้าค่ะ”ห้องของเยว่เฟย“เข้าเฝ้างั้นหรือ เช่นนั้นต้องทำอย่างไรบ้างต้องถอนสายบัวหรือไม่”“คุณหนูจะนำสายบัวไปถวายฝ่าบาทด้วยเหตุใดเจ้าคะ พระองค์คงไม่โปรดนักหรอกเจ้าค่ะ”“ไม่ใช่เสี่ยวชิง เฮ้อ…ข้า คือว่าเจ้าเคยเข้าเฝ้าหรือไม่ ข้าลืมวิธีถวายบังคมไปสิ้นแล้ว”""หา อะไรนะเจ้าคะ""ทั้งเสี่ยวชิงและอี้ฝูต่างก็แปลกใจเมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณหนูที่เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ราวกับสารภาพผิด“เสี่ยวชิง สอนข้าหน่อยสิ”“สะ สอนหรือเจ้าคะ”“ใช่ สอนข้าทีสิ เวลาเข้าเฝ้าข้าจะได้ไม่ทำผิดพลาดจนถูกสั่งทำโทษ”“ท่านเป็นถึงท่านหญิงเชียวนะนะเจ้าคะคุณหนู ให้บ่าวสอนเช่นนี้...”“ตกลงจะไม่สอนใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะไปฟ้องแม่นม”“อ๊ะ!! สอนเจ้าค่ะ สอน…”เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและทำให้คนทั้งจวนงุนงงสงสัยกับพฤติกรรมที่แปลกไปของท่านหญิงเพราะก่อนเข้าเฝ้าเพียงสองวันนางไม่ออกไปเที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  7 ผลงานในราชสำนัก

    “เจ้าว่าอะไรนะ”“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อเรียกข้ามามีสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”“เดิมทีจะเรียกเจ้ามาร่วมดื่มชาด้วยกัน แต่ตอนนี้ลั่วเอ๋อร์กับเยว่เฟยก็ไปแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็มาเดินหมากแก้เบื่อเป็นเพื่อนพ่อสักกระดานเถอะ พ่อมีเรื่องบางอย่างอยากจะให้เจ้าช่วยคิดสักหน่อย”“พ่ะย่ะค่ะ” สิบวันถัดมา / ประชุมราชสำนัก “ทูลฝ่าบาท ตอนนี้ปัญหาชายแดนได้รับการแก้ไขแล้ว ทางต้าเสวียนยอมสวามิภักดิ์อีกทั้งภาษีค้าขายก็ได้รับการยกเว้นเพราะองค์ชายห้าที่ทรงปราดเปรื่องเป็นผู้เจรจาด้วยพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ”“อืม ยอดเยี่ยม ไม่ผิดหวังจริง ๆ ประทานรางวัลหนึ่งพันตำลึงให้องค์ชายห้า “หยางผิง” ครั้งนี้เจ้าเดินทางไปไกลกว่าจะได้กลับมาก็ใช้เวลาหลายเดือนอีกทั้งยังทำผลงานที่ยอดเยี่ยม สมกับที่ข้าไว้วางใจจริง ๆ”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ เป็นเพราะบารมีของเสด็จพ่อที่ลูกจึงได้เจรจาได้ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าพูดได้ดี สมกับเป็นทูตแห่งต้าหยวนจริง ๆ นับว่าทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม รัชทายาทเรื่องผู้อพยพจัดการไปถึงไหนแล้ว”“ทูลเสด็จพ่อ ตอนนี้ลูกสั่งการให้คนและอาจารย์บางส่วนไปสอนการทำเกษตรและการงานอาชีพ คัดเลือกผู้อพยพบางส่วนที่เต็มใจเข้ากองทัพเพื่อฝึกทหาร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  8 ไม่มีทางเชื่อ

    “เรื่องนี้มันซับซ้อน เจ้าไม่มีทางเข้าใจได้หรอก”“พี่ห้า ท่านหมายความว่าอย่างไร”“ก็…. น้องแปดน่ะแม้ว่าจะมิได้ชื่นชอบญาติผู้น้องแต่ก็มิได้ชอบลู่หวังด้วยน่ะสิ”“ระหว่างสกุลว่านที่มีว่านเยว่เฟยอยู่ กับสกุลลู่ที่แม้ว่าบุตรีจะงดงามเรียบร้อยและเป็นสตรีอันดับหนึ่งแต่ก็ติดที่มีบิดาอย่างลู่หวังผู้นี่แหละ”“ช่างซับซ้อนจริง ๆ อย่างที่พี่ใหญ่กล่าวพ่ะย่ะค่ะเช่นนี้จื่อหรงคงเลือกยากแล้วหากจะต้องแต่งงานกับหนึ่งในสองสตรีของตระกูลนี้" "หรือไม่เขาอาจจะไม่เลือกทั้งคู่”""ทำไมเล่าพ่ะย่ะค่ะ""องค์ชายห้าและองค์ชายหกหันมามองและตั้งคำถามกับองค์รัชทายาทด้วยความสงสัย ทั้งหมดหันไปมองที่องค์ชายแปดที่ยังยืนนิ่งอยู่กลางท้องพระโรงและสบตากับลู่หวัง“กระหม่อม…พระองค์ทรงตรัสได้ถูกต้อง ใต้เท้าว่านข้าต้องขออภัย ครั้งนี้ข้าล่วงเกินพวกท่านแล้ว”ว่านตงเพียงแค่คำนับตอบเพื่อมิให้เสียมารยาทเท่านั้นเพราะอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท ระหว่างสองสกุลนั้นมิได้เกลียดกันก็จริงแต่ก็มิใช่คนสนิทที่จะพูดเล่นกันได้ ฮ่าวจื่อหรงหันไปคำนับฝ่าบาทก่อนจะเดินกลับที่เดิม“พวกเจ้าเห็นหรือไม่ แม้ว่าจะบอกให้ลู่หวังกล่าวขอโทษท่านโหวว่านได้ แต่น้องแป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน    ตอนที่  9 ต้องบ้าไปแล้วเป็นแน่

    “นั่นใช่…สตรีผู้นั้นคือนางงั้นหรือ”ฮ่าวจื่อหรงขยี้ตารัวเมื่อเห็นสตรีที่เขาพึ่งจะพูดไปว่าน่ารังเกียจ ไร้แก่นสานกำลังทำบางอยู่ในสวนผักกับสตรีอีกสี่คน สองคนน่าจะเป็นสาวใช้ของนาง ส่วนชาวบ้านอีกสองคนน่าจะเป็นสองแม่ลูกที่เขาเห็นว่ามีเรื่องกับนางในวันก่อน“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าใช่เพราะนั่นคือสาวใช้ของท่านหญิง…. องค์ชาย…”ฮ่าวจื่อหรงมองไปที่สตรีที่กำลังเก็บผักกับคนอื่น ๆ สีหน้าและรอยยิ้มของคนที่เขาเห็นในวันนี้แปลกตาไปจนเขาแทบจะคิดว่านางเป็นคนละคนกับว่านเยว่เฟยที่เขารู้จักโดยสิ้นเชิง แววตานางไม่มองผู้อื่นอย่างดูถูกเหยียดหยามสายตาที่คอยหว่านเสน่ห์โปรยให้กับเหล่าบุรุษก็ไม่มีปรากฏให้เห็นอีกเลยตั้งแต่วันที่พบนางที่ตลาด วันนั้นนางก็คุยกับสาวใช้เท่านั้นโดยมิได้สนใจคนรอบข้างเลยด้วยซ้ำ“เป็นไปได้เช่นไร คนหนึ่งคนจะเปลี่ยนแปลงไปได้ในเวลาอันสั้นได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ”จางจิ้งเองก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า โดยปกติท่านหญิงว่านผู้นี้มักจะแต่งกายด้วยผ้าที่ตัดเย็บหรูหราและราคาแพง อีกทั้งเครื่องประดับไม่เคยพร่องใบหน้ามักจะแต่งแต้มสีสันจัดจ้านตามแบบสตรีชั้นสูง แต่สตรีที่พวกเขาเห็นในยามนี้นอกจากสีชุดที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  10 ผู้บุกรุก!!

    “พระองค์ ไม่เชื่อว่าท่านหญิงจะสามารถปรุงตำรับยาได้หรือพ่ะย่ะค่ะ”“กลับ”“เอ่อ…พ่ะย่ะค่ะ”ในเวลานี้จางจิ้งคิดว่าผู้ที่เอาใจยากและอารมณ์ไม่คงที่เป็นองค์ชายแปดมากกว่าท่านหญิงว่านเสียอีก จวนสกุลว่าน “คุณหนูท่านจะเอาแต่ทำยานี้ตลอดคืนไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านควรจะพักบ้าง”“ไม่ได้เดี๋ยวจะลืมสูตร”“สูตร…สิ่งใดเจ้าคะ”“เออ ช่างเถอะนี่ก็เริ่มดึกแล้วพวกเจ้ารีบไปนอนเถอะข้าจะทำต่ออีกนิด ยาบางตัวต้องทำตอนนำมาสด ๆ ถึงจะใช้ได้ผล”""คุณหนู""“ท่านไปบ้านป้าจางมาทั้งวันแล้วกลับมากินข้าวไปนิดเดียวเองนะเจ้าคะ นี่ก็เริ่มดึกแล้วกลับห้องเถิดเจ้าค่ะท่านไม่กลัวอนุซูจะมาหาเรื่องหรือเจ้าคะ”“นางไม่มาแถวนี้หรอกเชื่อข้าสิ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างซูหลิงจะเข้ามาอีกอย่างยาตำรับนี้ทำแล้วต้องทำให้เสร็จทิ้งเอาไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะไม่ได้ผลแล้วต้องทิ้งทั้งหมด ที่เหลือข้าทำเองเจ้าเช็ดขวดสำหรับใส่ยาเสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้ว ไปเถอะ ๆ”“ก็ได้เจ้าค่ะ อี้ฝูไปกันเถอะ”สองสาวใช้เดินออกไปจากห้องยาเงียบ ๆ ห้องนี้อยู่ด้านหลังเรือนตะวันออกของเยว่เฟยซึ่งเป็นห้องเก็บของเดิมของนาง เยว่เฟยสั่งสาวใช้รื้อของทั้งหมดออกไปแจกจ่ายชาวบ้านจนเกือบหมดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  11 อยากกลับบ้าน…

    “ช่วยด้วย!!! ใครก็ได้…..ฮืออ…..”“คุณหนู!! ไหนคนร้ายเจ้าคะ เร็ว ๆ เข้ารีบตามหา คุณหนูท่านเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”“เสี่ยวชิง….”เยว่เฟยหันไปคว้าตัวเสี่ยวชิงเอาไว้และกอดสาวใช้เอาไว้แน่น นางเริ่มร้องไห้ทันที องครักษ์สกุลว่านวิ่งไปทั่วจวนแต่กลับไม่พบผู้ใดที่น่าสงสัย“คุณหนูเจ้าคะ”“ข้า…. เข้ามาเห็นว่าห้องโดนรื้อก็เลย…”“เฮ้อ โชคดีนะเจ้าคะที่มันไม่ได้ทำร้ายท่าน….”“เสี่ยวชิง พาข้ากลับไปที่ห้อง”“เจ้าค่ะ ๆ ค่อย ๆ ลุกนะเจ้าคะ อี้ฝูมาเร็วมาช่วยกันหน่อย”“คุณหนูเจ้าคะ มาเจ้าค่ะ”ว่านเยว่เฟยไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิดว่านางทนให้ผู้คนยืนด่า ทนให้ป้าจางโยนผักใส่หน้าได้อย่างหน้าตาเฉยและยังสามารถอธิบายทำความเข้าใจได้ แต่กลับฮ่าวจื่อหรงเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของเขากลับทำให้นางร้องไห้ได้เช่นนี้“คุณหนู ท่านทันเห็นตัวคนร้ายหรือไม่เจ้าคะ วันนี้นายท่านอยู่ในวังไม่ได้กลับจวน”“ไม่เห็น ช่างเถอะอาจจะเป็นหนูก็ได้ ในห้องนั้นยังไม่ได้วางกับดัก ข้าเข้าไปแล้วเห็นห้องที่ของตกก็เลยตกใจไปน่ะ ซูหลิงและหนิงลี่ไม่รู้เรื่องใช่หรือไม่”“คุณหนู แม้จะรู้แต่พวกนางก็ไม่ใส่ใจอยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านลืมไปแล้วหรือเจ้าคะว่าพวกนางอยากให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  12 งานเลี้ยงในวังหลวง

    ฮ่าวจื่อหรงหันไปมององครักษ์ของเขาแต่ก็ไม่กล้าพูดสิ่งใดออกไปเพราะเขาหลุดพูดชื่อของนางออกมาเอง ไม่ทันที่จะได้กล่าวสิ่งใด หมัวมัวของตำหนักบูรพาก็เดินนำขบวนสาวใช้เข้ามา“ถวายบังคมองค์ชายแปดเพคะ”“กุ้ยหมัวมัว มีธุระอันใดหรือ”“ทูลองค์ชายแปด องค์รัชทายาทให้นำฉลองพระองค์ชุดใหม่สำหรับงานเลี้ยงมาส่งให้พระองค์เพคะ”“งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพเสด็จพ่อ ข้าเกือบลืมไปเลยขอบใจหมัวมัว จางจิ้ง”“พ่ะย่ะค่ะ เชิญพวกท่านตามข้ามาเถิดขอรับ”เหล่าขบวนสาวใช้เดินตามจางจิ้งเพื่อนำชุดไปเก็บ จื่อหรงเดินวนอยู่ที่ด้านหน้าตำหนักซึ่งเป็นสวนเล็ก ๆ พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน“งานเลี้ยงงั้นหรือ หึ ดีล่ะ”จวนเสนาบดีว่าน “คุณหนู ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะว่าจะสวมชุดนี้ไป ท่านบอกว่าเลิกสวมชุดสีสดเช่นนี้แล้วมิใช่หรือเจ้าคะ”“ทำไมเล่าก็ข้าชอบ เอาเครื่องประดับนั่นเอาหรูหราที่สุดกำไลข้อมือหยกนี่ด้วย ใช่แบบนั้นแหละ”“คุณหนูเจ้าคะ สวมหมดนี่มันออกจะมากเกินไปหน่อยหรือไม่เจ้าคะ”“อืม ออกจะมากไปจริง ๆ เสี่ยวชิง ตามที่เจ้าเคยจัดเตรียมชุดสวมเข้าวังเวลามีงานเลี้ยงแต่เดิม พวกเจ้าทำเช่นไรไหนลองจัดให้ข้าดูหน่อยสิ”“เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  13  ไม่มีทางเชื่อใจนาง

    “อะไรนะ!! น้องแปดไม่มีทางกล่าววาจาเหลวไหลเช่นนั้นเป็นอันขาด”“องค์ชายห้า พอเถอะเพคะ”เมื่อได้ยินเพียงนามของเขาเยว่เฟยก็รู้สึกจุกที่อกมากกว่าที่จะอยากรับรู้เรื่องราวต่อไป นางรู้แล้วว่าสิ่งที่ผุดขึ้นมาเป็นเรื่องที่เจ้าของร่างคงต้องการเตือนความจำนางเมื่อเยว่เฟยกวาดตามองจึงได้เห็นว่า “ลู่ชิงอัน” สวมชุดสีฉูดฉาดและประโคมเครื่องประดับเกือบจะทั้งตัว ไม่ต่างกับที่สาวใช้ของนางเตรียมให้ในจวนก่อนที่นางจะสั่งให้ถอดเลยสักนิด เยว่เฟยจึงนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ขอโทษทีเจ้าคงเข้าใจผิดแล้ว น้ำในสระนั่นมิได้ทำอันตรายข้าหรอก ข้าหายดีแล้วแต่ที่เมื่อครู่นี้เผลอสะดุดไปเพราะแสงของเครื่องประดับบนกายเจ้ามันสะท้อนเข้าตาข้ามากเกินไป ข้าไม่คิดว่าจะมีผู้ใดบ้าสมบัติจนไม่เก็บเอาไว้ในจวนและหอบมันมาสวมบนร่างกายได้มากเท่านี้มาก่อนจึงตกใจน่ะ”องค์ชายห้ากลั้นหัวเราะเมื่อสิ่งที่เยว่เฟยพูดมานั้นไม่ได้เกินจริงแม้แต่น้อย ลู่ชิงอันเองก็ดูเหมือนจะรู้ตัวเพราะนางเองก็ทั้งหนักและเดินได้ช้าเพราะเครื่องประดับเหล่านี้แต่ที่นางแต่งตัวเช่นนี้ก็เพราะต้องการแข่งกับว่านเยว่เฟยเพราะนางมักจะชอบสวมเครื่องประดับมาก ๆ มาอวดผู้คน นางก็เลยทำบ้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษ 6 (ตอนจบ)

    “ลู่หนิงลี่” ผลักประตูเข้ามาโดยพลการ หมอฮ่าวและเยว่เฟยที่อยู่ในห้องหันมาและจื่อหรงก็ดึงคู่หมั้นของเขามาใกล้ ๆ ทันที“หนิงลี่ เธอมาทำอะไรที่นี่ พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าหากไม่มีธุระก็ไม่ต้องมา”“พี่จื่อหรง พี่จะแต่งงานกับ...เธองั้นเหรอ”“ใช่ มีอะไรน่าตกใจกันล่ะ”“แล้วฉันล่ะ ฉันละคะพี่เอาฉันไปไว้ที่ไหนพี่จื่อหรงทั้ง ๆ ที่คุณพ่อของพี่ก็บอกว่าเรา…”“แต่พี่ก็บอกคุณพ่อไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ พูดต่อหน้าเธอด้วยและวันนั้นเราก็คุยกันจบแล้ว คุณพ่อเธอก็รับรู้แล้วคุณพ่อพี่ก็เช่นกันดังนั้นระหว่างเราไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่าคนรู้จัก”“แต่ว่าฉันรักพี่นะคะ”“ตายจริงใครมาวิ่งตามผู้ชายถึงที่นี่ล่ะเนี่ยเสียงดังออกไปถึงข้างนอก อ้อ เธออีกแล้วเหรอหนิงลี่”“พี่ชิงอัน!! ฉันเป็นน้องพี่นะ”ชื่อที่ถูกเรียกทำให้ว่านเยว่เฟยหันไปมองทันที “ลู่ชิงอัน” ในชุดกาวน์สีขาวเดินมามองหน้าผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าประตูและหันเอาแฟ้มมาวางที่โต๊ะของจื่อหรง“พี่หรงนี่รายงานที่ขอไปวันก่อน ไม่มีอะไรผิดปกติวางใจได้ เธอคือ…ว่าที่พี่สะใภ้ของน้องเหรอ”“ใช่แล้วชิงอัน จริงสิเยว่เฟยนี่ลู่ชิงอัน เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ในโรงพยาบาลนี้”“อะไรนะ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 5

    คอนโดเยว่เฟย “คุณพักที่นี่เหรอ”“ค่ะ ฉันซื้อเอาไว้ตอนที่แม่เสียเมื่อหลายปีก่อน”“หรูจริง ๆ ด้วยแฮะ”“คุณหมอคงไม่รังเกียจคนว่างงานที่เอาแต่เขียนนิยายอย่างฉันหรอกใช่ไหมคะ”“คุณเคยเป็นหมอมาก่อนนี่ หมอศัลยกรรมสมองคนเก่งของโรงพยาบาลชื่อดังเสียด้วยทำไมคุณถึงลาออกล่ะ”“คุณสืบประวัติฉันเหรอคะ อยากโดนลงโทษเหรอคะคุณหมอ”“ไม่ใช่นะ ผมก็แค่… คุ้นชื่อคุณก็เลยไปสืบดูเท่านั้น ทำไมคุณถึงลาออกแล้วไปเป็นแอร์โฮสเตสละครับ”“อืม คงเพราะอยากจะพบคุณมั้งคะ สวรรค์คงจะกำหนดเอาไว้แบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว”“เยว่เฟย คำพูดของคุณทำไมดูโบราณจังเลยล่ะ”“อะไรนะ โบราณงั้นเหรอคะ”“ใช่ ผมว่าจะถามมานานแล้วแต่…”“เจ้าคือบุปผาในฤดู…”“เดี๋ยว!! อย่าพึ่งพูด”“หมอคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”“เปล่า แต่ผมเคยได้ยินประโยคนี้”“อะไรนะคะ”ว่านเยว่เฟยมองดูฮ่าวจื่อหรงที่ยืนขึ้นและจับเธอเอาไว้พร้อมกับสบตาเธออีกครั้ง“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ เยว่เฟยของข้า”ว่านเยว่เฟยยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อมองไปที่เขาอีกครั้ง ฮ่าวจื่อหรงเองก็เผลอร้องไห้ออกมาเช่นกันโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจแต่เขารู้สึกว่าประโยคนี้ควรจะพูดตอนนี้กับเธอคนนี้เพียงคนเดียว“

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 4

    เธอขยับหนีเขาไม่ได้ ราวกับร่างกายถูกสะกดเอาไว้ให้หยุดนิ่งและเมื่อเขาเริ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ เธอก็เผลอตัวยื่นหน้าขึ้นไปรับสัมผัสที่คุ้นเคยเพราะในชาติก่อนว่านเยว่เฟยและท่านอ๋องฮ่าวจื่อหรงมักจะแสดงความรักต่อกันตลอดเวลาที่มีโอกาส ตลอดเวลาที่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาเกือบหกสิบปี พวกเขารักกันจนลมหายใจสุดท้ายจริง ๆ“อือ…อ๊ะ หมอคะ”แทนที่เขาจะหยุดแต่กลับเลือกที่จะดันตัวเธอเข้าไปในห้องข้างในและเริ่มยกตัวเธอเข้าไปวางที่เตียงของเขา เสียงหายใจหอบถี่เพราะความตื่นเต้นจนเธอเองก็รู้สึกได้เพราะเธอเองก็เป็นเหมือนกับเขา“ว่านเยว่เฟย คุณเป็นแม่มดเหรอ”“คะ? คุณหมอคุณพูดอะไรนะคะ ฉัน…อื้อ”เธอกำต้นแขนเขาแน่น หมอฮ่าวยังสวมชุดกาวน์สีขาวอยู่ตอนที่วิ่งตามเธอออกมาจากโรงพยาบาลและตอนนี้ก็กำลังจูบเธออย่างกระหายและกำลังซึมซับบางอย่างพร้อมกับความสับสนของเขาที่เริ่มคลี่คลายเมื่อได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง“เยว่เฟย”“จื่อหรง…”“คุณต้องการผมหรือเปล่า”“ฉัน…”“เยว่เฟย ผมถามคุณว่า….”“อย่าถามอีกเลยค่ะ ฉันเป็นของคุณ… มาโดยตลอด”เสื้อกาวน์สีขาวและเสื้อโค้ชของเธอถูกโยนทิ้งไปคนละทาง ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่เ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 3

    ว่านเยว่เฟยมองสบตาเขา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอจึงขยับหน้าเข้าไปใกล้เขาโดยไม่รู้ตัว ฮ่าวจื่อหรงเองก็ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนกับคนไข้ของตัวเอง เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ทาบปิดกันสนิทและเริ่มขยับเข้าหากันอย่างเผลอตัว ภาพในหัวก็เกิดขึ้นในสมองของหมอฮ่าวทันที“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ… เยว่เฟยของข้า”“อ๊ะ!!”ว่านเยว่เฟยตกใจเมื่อคุณหมอฮ่าวถอยออกและกึ่งผลักเธอออกมาทันทีด้วยท่าทางที่ตกใจเมื่อหันมามองหน้าเธอชัด ๆ อีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและทำไมถึงได้เห็นภาพแบบนั้นในหัวเวลาที่เขาจูบเธอ และนี่เป็นสิ่งที่หมอไม่ควรทำกับคนไข้ของตัวเอง“ผม… ผมขอโทษ ขอตัวก่อน”“คุณ…”เยว่เฟยไม่ร้องตามเขาแม้ว่าอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สัมผัสจากริมฝีปากนั้นคุ้นเคยจนทำให้เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวที่จดจำเขาได้ไม่มีวันลืม“จื่อหรง… ท่านช่างใจร้ายนัก เหตุใดต้องปล่อยข้าเอาไว้เช่นนี้ หากรู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ข้าไม่ตามท่านมาหรอกคนใจร้าย ฮือ…”“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!”ฮ่าวจื่อหรงยืนหน้าแดงอยู่ที่หน้าห้องคนไข้พิเศษของเขา สิ่งที่เขาเห็นตอน

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน    ตอนพิเศษที่ 2

    แววตาของเธอรื้นไปด้วยน้ำตาทันที ไม่ใช่เพราะยังปรับแสงไม่ได้แต่เพราะชื่อที่พึ่งจะได้ยิน เธอพยายามลุกขึ้นมาและมองเขาใกล้ ๆ ชัด ๆ อีกครั้ง คุณหมอเห็นว่าเธอพยายามจะลุกขึ้นมาซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดที่คนไข้จะสามารถลุกขึ้นมาได้ทั้ง ๆ ที่หมดสติไปหลายวันอีกทั้งเธอยังบาดเจ็บตามตัวอยู่หลายแห่ง“คุณค่อย ๆ ลุกอย่าพึ่งรีบร้อน…คนไข้ครับ นี่คุณทำอะไร”“จะ…จื่อ…คุณ…. ชื่อ….”สายตาที่หันมามองสบตาเธอนั้นนิ่งไป และเมื่อทั้งคู่สบตากันก็เหมือนจะมีบางอย่างทำให้คุณหมอฮ่าวหยุดนิ่งไปเช่นกัน ทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเธอแบบนี้ และรู้สึกเหมือนกับเคยรู้จักเธอมาก่อนทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเจอเธอแน่ ๆ“ตอนนี้คนไข้รู้สึกยังไงบ้างครับ”“จื่อ.... หรง”หมอฮ่าวชะงักไปเมื่อเธอเรียกชื่อเขาเฉย ๆ อย่างคนคุ้นเคย เขาหันไปขมวดคิ้วและมองเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจกึ่งสงสัย สีหน้าของเธอซีดเซียวแต่ยังคงสวยมาก ๆ เพราะเธอเป็นแอร์โฮสเตสละมั้งถึงได้มีหน้าตาที่สวยแม้แต่ตอนที่ป่วยก็ยังดูสวยอยู่“คุณ รู้จักผมเหรอครับ”เพียงคำถามนั้นก็ทำเอาเธอปากสั่นและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุดจนเขาตกใจ กล่องทิชชูถูกยกมาวางที่ตรงหน้าและเขาก็รี

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 1 กลับมาอีกครั้ง

    โรงพยาบาล ติ๊ด ติ๊ด….. เสียงของใครคนหนึ่งที่คุยกับคนอีกหนึ่งหรือสองคนไม่แน่ใจเพราะสติที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เสียงที่ดังขึ้นมาแม้ว่าจะจับใจความอะไรไม่ได้แม้ว่าหูจะเริ่มได้ยินเสียงที่ชัดขึ้นแต่ร่างกายกลับยังไม่ตอบสนองอย่างที่ต้องการ เมื่อค่อย ๆ เริ่มหายใจ ลมเย็น ๆ ที่อยู่ปลายจมูกก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ต้องพยายามขนาดนั้น แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวคนพูดแต่เสียงที่เริ่มชัดขึ้นก็ทำให้ร่างที่นอนอยู่ค่อย ๆ กะพริบตาขึ้น ราวกับหลับไปนานแสนนานและแสงที่เริ่มไม่คุ้นเคยนี้ก็ทำให้ “ว่านเยว่เฟย” หลับตาลงไปอีกครั้ง “ข้าอยู่ที่ไหน เกิดใหม่อีกแล้วงั้นหรือ ท่านพี่ท่านพาข้ามาที่ใดข้าไม่อยากจากท่านไป นานเหลือเกินแล้วที่เราจากกัน แม้จะเพียงแค่ปีเดียวที่ท่านด่วนจากไปแต่ข้าไม่มีทางลืมท่าน จื่อหรง…พาข้าไปกับท่านด้วย” “เยว่เฟยยอดรักของข้า อีกไม่นานเราจะได้พบกัน…อีกครั้ง” “อย่าไปเพคะท่านพี่ รอข้าก่อนฮ่าวจื่อหรง อย่าไป!! รอข้าก่อน” “รอ…รอก่อน…หรง…จื่อหรง” เสียงงึมงำนั้นเรียกความสนใจของพยาบาลสาวที่กำลังปรับเครื่องช่วยหายใจอยู่ เมื่อคนไข้มีการตอบสนองเธอจึงเรียกคุณหมอทันที “คุณหมอคะ ดูเหมือนว่าคนไข้จะมีการตอบสนอ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  62  ความรักที่สมบูรณ์ (ตอนจบ) 

    เยว่เฟยไม่รอช้าเพราะนางเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี นางผลักเขาลงไปและเริ่มใช้ลิ้นกับองค์ชายทันที อกแน่น ๆ ที่นางเฝ้าฝันว่าสักวันจะกัดจนเขาต้องร้องขอความเห็นใจ กล้ามท้องที่เป็นลอนทุกครั้งที่กระแทกเข้าออก ทั้งหมดนี้เป็นของนางเพียงคนเดียว“อ๊าา จื่อหรง อื้อ…”"เยว่เฟยเจ้างดงามยิ่งนัก เมื่อมองเช่นนี้แล้วข้าจะ…เริ่มทนไม่ไหว"“ท่าน…จะทนได้กี่ครั้งกันนะท่านพี่”“เจ้ายั่วข้าเช่นนี้ อย่าหวังว่าคืนนี้จะได้พัก”“อ๊าา ข้าเอง ข้าขยับเองเพคะ อ๊าา ท่านพี่ เสียวมาก อื้อ…”จื่อหรงเองก็เริ่มเกร็งหน้าท้องระหว่างที่นางขย่มเขาอยู่ด้านบน ทั้งท่วงท่าและลีลาที่ยั่วยวนนี้มีหรือเขาจะทนไหว ไม่นานเขาก็แตะทางสวรรค์จนนางสั่งให้เขาเป็นผู้ทำบ้างเพราะนางไม่ยอมหยุด เป็นครั้งแรกที่จื่อหรงรู้สึกว่าเยว่เฟยร้องขอเรื่องแบบนี้ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เพียงแค่สามรอบนางก็เริ่มอยากจะพักแล้ว“อ๊าา แน่นดีจัง โอ๊วว ท่านพี่ เสียวมาก ลึกมาก อ๊าา…”“รอบนี้จบเราควรจะพักได้แล้ว เจ้าต้องพักแล้วเยว่เฟย”“อื้อ ก็ได้เพคะ อ๊าา เร่งอีกนิดจะ…ไม่ไหวแล้วว อ๊าา”กว่าพายุรักจะสงบลงก็เกือบจะรุ่งสาง คู่บ่าวสาวที่พึ่งเข้าพิธีส่งตัวนอนซุกในอกของกันและกันบนเตี

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  61 “ข้ายังไม่เหนื่อย” (NC)

    “อย่ามัวแต่พูด เข้ามาเสียทีข้ารอนานแล้ว อ๊าา….”สิ้นเสียงเรียกร้องนั้นเขาก็ตอบสนองนางทันทีเพราะตัวเขาเองก็อดทนรอเวลานี้มาแสนนานแล้วเช่นกัน หลายวันที่เกิดเรื่องขึ้นพวกเขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยแม้ว่าจะอยู่ในห้องเดียวกันก็มิอาจทำเรื่องเช่นนี้ได้เพราะเกรงคนจะสงสัย“อาา แน่นมาก...”แรงกระแทกและเสียงครางดังกว่าทุกครั้งและความต้องการของทั้งสองคนก็มีมากเช่นเดียวกัน“อ๊าา ลึกอีกเพคะ อ๊าา เสียวมากเลย อื้อ…”“เยว่เฟยข้าจะทนไม่ไหว ขอแก้ตัวอีกรอบนะไม่ไหวแล้ว อาา…”ไม่นานหลังจากนั้นองค์ชายแปดก็เกร็งตัวขึ้นมา เยว่เฟยเองก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะถึงสวรรค์เร็วเช่นนี้ ดูท่าคืนนี้นางคงต้องเหนื่อยอย่างที่เขาพูดเอาไว้จริง ๆ เพราะองค์ชายแปดอัดอั้นมานานหลายวัน คืนนี้คงไม่ปล่อยในนางนอนกอดเขาอย่างเดียวดังเช่นหลายคืนที่ผ่านมาเป็นแน่“จื่อหรง ข้าขอพัก อ๊ะ!! อย่าพึ่งเข้ามา ข้า อ๊าา จื่อหรง”“อีกทีนะ ไม่นานหรอกรอบนี้… เยว่เฟยเจ้ารัดข้าแน่นเกินไปแล้ว”“ก็บอกแล้วว่าขอพักก่อนท่านก็ไม่ยอม อ๊าา ต้องโดนเช่นนี้แหละ”“เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับสามี ไม่กลัวว่าข้าจะเอาคืนหรือ อาา เยว่เฟยทนไม่ไหวแล้วข้า…อาา!!”“แฮก แฮก…”“ข้ายังไม่เหนื่อ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนที่  60  มันจบแล้วเยว่เฟย

    “ชิงอัน… ชิงอัน!! ไม่นะ”องค์ชายแปดจับชีพจรของลู่ชิงอันและค่อย ๆ จับไหล่ของลู่อี้เทียนเป็นเชิงปลอบ เขารู้ทันทีว่านางจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีกแล้ว ลู่อี้เทียนกอดร่างน้องสาวเอาไว้แน่น ร่างของซูหลิงถูกยกออกมานอกห้อง บัดนี้เรื่องราวและคดีที่ต้องไขกระจ่างจนหมดสิ้นอีกทั้งตัวผู้บงการ ฆาตกรก็ล้วนแต่จบชีวิตลงที่นี่ในวันนี้จนหมดสิ้น“เยว่เฟย… เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“จื่อหรง…”“มันจบแล้วเยว่เฟย มันจบแล้ว”“ข้าส่งนางไปได้แล้ว…”ฮ่าวจื่อหรงกอดเยว่เฟยเอาไว้แน่น นางตัวสั่นไปทั้งตัวเพราะไม่เคยเห็นเรื่องเช่นนี้มาก่อนในชีวิตนี้หรือแม้แต่ชีวิตก่อนหน้านี้เองก็ตาม หลังจากข่าวการตายของซูหลิงแพร่ออกไปราวกับว่านหนิงลี่เองก็จะรับรู้ ไม่นานหลังจากนั้นนางเองก็จากไปอย่างสงบเช่นกันเพราะพิษที่นางได้รับนั้นกัดกินภายในจนมิอาจช่วยได้ อีกอย่างเมื่อไม่มีซูหลิงหนิงลี่ก็ไม่ต่างกับผู้ที่ไร้หลักยึด นางจึงไม่มีกำลังใจจะสู้ต่อ “ท่านพ่อเจ้าคะ”“พ่อดีใจที่จนถึงตอนนี้ พ่อไม่เคยทำผิดต่อท่านแม่ของเจ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนหน้านั้นพ่อรู้สึกผิดกับท่านแม่ของเจ้าและเจ้ามาโดยตลอด”“ท่านพ่อ เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้วนะเจ้าคะ ท่านก็อย่า

DMCA.com Protection Status