“ผมจะโทรเรียกหมอให้มาดูอาการของเธอก็แล้วกัน ป้าลิลลี่กลับไปดูแลเธอเถอะครับ ถ้ามีอะไรก็บอกผมได้ทันที”“เอ้อ...ค่ะ...เอ้อ...” แม่บ้านรับคำทว่าก็ยังมีสีหน้าลังเล / “มีอะไรอีกหรือครับ?”“คะ...เอ้อ...แล้วคุณเซอร์เรนัล์ฟกลับจากเดย์ตันเมื่อไหร่กันคะเพราะป้าเห็นคุณอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนเช้ามืด”ป้าลิลลี่ยิ้มเจื่อนด้วยเกรงคำถามซอกแซกจะทำให้เจ้านายหนุ่มรำคาญใจทว่ายิ้มจางกลับจุดประกายบนรอยปากหยัก“ผมกลับมาที่นี่ตอนดึกครับ ฝนตกหนักตลอดคืนเลยเปลี่ยนกำหนดการณ์ทุกอย่างกะทันหัน”“ค่ะ” ป้าลิลลี่ไม่ซักไซ้ต่อเพราะเริ่มคุ้นเคยกับบุคลิกอันเรียบเฉยของนายคนใหม่ เซอร์เรนัล์ฟเป็นคนเงียบขรึมและไม่พูดมาก ถ้าเขาอยากจะทำอะไรก็จะทำในทันที และสิ่งหนึ่งที่แสดงความเป็นตัวตนของประธานบริษัทใหญ่ได้เป็นอย่างดีคือ เขาเป็นคนไม่ชอบผิดคำพูด“เซจคะ” เมื่อเสียงหนึ่งที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้ป้าลิลลี่หยุดชะงักขะกำลังจะถอยออกไป เรเน่ต์ในชุดกระโปรงสั้นสีทับทิมเดินเข้าไปถึงตัวชายหนุ่มและก็ไม่ลืมที่จะเหลือบมองแม่บ้านวัยกลางคนที่เดินกลับเข้าไปในสวนอันเงียบเชียบ“มีธุระอะไรหรือ เรเน่ต์?” นอกจากบรรยากาศแปลก ๆ ในสวนไคกัตนี่แล้ว คำถามและน้ำเสี
ไม่มีความคิดเห็นใดจากบุรุษตรงหน้า เรเน่ต์เจ็บจี๊ดในใจเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าเข้มที่เคยแทบจะหลอมละลายเธอได้บัดนี้สะท้อนเพียงความเฉยเมยเฉื่อยชา เกิดอะไรขึ้น...เขายกเลิกการเดินทางไปเดย์ตันก็เพราะแม่ม่ายแสนสวยคนนั้นใช่หรือไม่ คิดมาถึงแค่นี้ก็แทบจะทนไม่ไหว ถ้าไม่คิดทำอะไรสักอย่างเซอร์เรนัล์ฟต้องหลุดมือเธอไปในสักวัน๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐อิสลินรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อความมืดโรยตัวลงมาห่มคลุมท้องฟ้าจนมืดหมองไปหมด ก่อนนิทราอันยาวนานหญิงสาวรับรู้ว่ามีนายแพทย์เข้ามาดูอาการและจัดยาให้ท่ามกลางความเป็นห่วงเป็นใยของป้าลิลลี่และอีวี่ที่คอยเฝ้าไม่ห่าง ทว่าไม่เห็นเงาของเซอร์เรนัล์ฟที่เธอรับรู้จากแม่บ้านว่าเขาไม่มีแม้แต่เวลาว่างเพราะติดว่าต้องคอยดูแลเพื่อนสาวคนใหม่ที่ชื่อเรเน่ต์ซึ่งมาหาเขาเมื่อตอนสาย ตอนที่เธอช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้เพราะไข้ขึ้นสูง เธอเห็นแต่ป้าลิลลี่เดินเข้าออกภายในห้องเพื่อเช็ดตัวให้และเห็นอีวี่หอบตุ๊กตาหมีกับบาร์บี้มาให้กำลังใจมามี้ของหนูน้อยบนเตียง ถึงแม้ตอนลืมตาตื่นในความง่วงงุนขณะความร้อนได้ทุเลาลงแล้วก็ยังเห็นลูกสาวในชุดนอนกำลังนั่งแต่งตัวให้ตุ๊กตาอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหน“อีวี่...” / “มามี้ขา...มาม
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรเก็บเวลาส่วนตัวไว้ทำอย่างอื่น สำหรับอีวี่ฉันจัดการแกเองได้ค่ะ”“คุณคิดว่าจะจัดการลูกได้ยังไง ขนาดไม่สบายอีวี่ก็ยังต้องเป็นคนเฝ้าไข้คุณอยู่เลย” / “ฮ้าว...” เสียงหาวของอีวี่ทำให้บทสนทนาของคนทั้งสองต้องสะดุดลง เซอร์เรนัล์ฟก้มมองหนูน้อยที่เปลือกตาเริ่มปิด แก้มยุ้ยทั้งสองข้างก็แดงราวกับลูกตำลึงสุก“อีวี่ง่วงแล้วค่ะ แด๊ดดี้” / “แด๊ดดี้จะพาหนูไปนอน”“ไม่ต้องค่ะ...ฉันจะพาแกไป...” อิสลินรีบซะจนลืมตัวยื่นหน้าเข้าไปหาอีวี่จนจมูกเล็กเกือบชนเข้ากับใบหน้าคร้ามคมที่ก้มลงมาพร้อมกัน ต่างคนต่างก็หยุดกึกมีเพียงสายตาเท่านั้นที่ประสานกันในนาทีแห่งความชิดใกล้ เธอโกรธเขาอยู่นะ...อิสลินท้วงตัวเองในใจ ทว่าประกายอันนุ่มนวลที่ทอดออกมาจากดวงตาสีฟ้าคู่นั้นแตกต่างกันลิบกับอสูรร้ายที่ย่ำยีร่างกายเธอเมื่อคืน“ถ้าอย่างนั้น...ทั้งแด๊ดดี้กับมามี้ ก็ไปส่งอีวี่ด้วยกัน...นะคะ” ร่างเล็กที่เงยหน้ามองคนทั้งสองประสานสายตากันอยู่นานแล้วแทรกขึ้นก่อนจะรวบตุ๊กตาไว้ในอ้อมแขนและขยับลงจากเตียง“อีฟ” เซอร์เรนัล์ฟจับข้อมมืออิสลินที่กำลังจะลุกตามลูกสาวไปที่ห้อง “คุณไม่ควรแสดงอะไรออกมาอย่างเมื่อครู่ อีวี่อาจจะไม่สบา
“ฉันจะไปหาเสื้อคลุมค่ะ” / “คุณคงไม่ต้องใช้มัน” / “แต่ฉันหนาวค่ะ ไคลน์ และก็ง่วงมากด้วย”“แน่ใจหรือว่าง่วง ป้าลิลลี่บอกผมว่าคุณหลับทั้งวัน” / “คุณสนใจด้วยหรือคะ ในเมื่อตอนกลางวันคุณกำลังมีแขก...เอ้อ...”อิสลินไม่พูดต่อและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามือที่พยายามจิกข่วนจับแขนเขาไว้แน่นตอนไหน เธอกำลังจะพลั้งเผลอพรั่งพรูสิ่งที่คิดออกไปและมันอาจเป็นเรื่องกวนใจเขาก็ได้“ช่างมันเถอะค่ะ แต่ตอนนี้ฉันอยากหลับ” หญิงสาวพูดปัดทว่าวงแขนแกร่งกลับกระชับแน่นขึ้น“คุณก็เลยบอกอีวี่ว่าผมไม่มีเวลาว่าง ผมบอกแล้วว่าผมอาจมีธุระแต่มันไม่ได้สำคัญถึงขนาดไม่มีเวลาส่วนตัว”“แต่ฉันต้องบอกลูกให้เข้าใจค่ะว่าแกไม่ควรไปรบกวนคุณให้มาก เพราะฉันรู้ดีว่าเราสองคนควรต้องทำตัวอย่างไร เราเป็นแค่คนอาศัยของคฤหาสน์หลังนี้เท่านั้นค่ะ”“และคุณคงอยากบอกผมด้วยใช่ไหมว่าผมไม่ใช่พ่อของอีวี่”ร่างบางชะงักไปกับคำพูดเชิงตัดพ้อซึ่งเธอไม่คิดว่าจะได้ยิน อิสลินหลบตาชายหนุ่มก่อนได้ยินเขาพูดต่อ“แล้วถ้าผมอยากจะรับแม่หนูน้อยไว้ ในเมื่อเดเรกทิ้งลูกของมันไปแล้ว”“เพื่ออะไรกันคะ ไคลน์?” หญิงสาวเริ่มหายใจขัดเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความดีใจและเสียใจเหมือนประดังเข้
“ค่ะ...ฉันไม่สงสัยอะไรแล้ว แต่คุณขยับออกไปหน่อยจะได้ไหมคะ” / “แล้วถ้าผมอยากนอนแบบนี้จะเป็นไรไหม?”“ฉันอึดอัดค่ะ...มากด้วย” / “อย่าเอ็ดไปซี” / “ไคลน์คะ...” / “เดี๋ยวอีวี่จะตื่นขึ้นมา...รู้ไหม” เซอร์เรนัล์ฟลดเสียงหนัก ๆ ลงจนกลายเป็นกระซิบก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะก้มลงไปหาหญิงสาวที่คราวนี้ไม่คิดหลบเลี่ยง ชายหนุ่มค่อย ๆ แทรกเรียวลิ้นผ่านกลีบปากนุ่มที่ดูเหมือนจะยิ่งร้อนมากขึ้นเมื่อมือหนาเลื่อนขึ้นมาสัมผัสเนินทรวงอวบหยุ่นพร้อมกัน อิสลินไม่โทษแม่หนูน้อยที่หลับปุ๋ยข้างห้องว่าเป็นต้นเหตุให้เธอต้องยินยอมต่อเรือนร่างแข็งแกร่งกำยำโดยปราศจากเงื่อนไข แต่โทษตัวเองที่เมื่อได้อยู่ชิดใกล้เซอร์เรนัล์ฟครั้งใดก็ต้องตกเป็นทาสเสน่หาของจอมซาตานไปเสียทุกครั้งบทที่ 12 ร่างอรชรที่นอนเหยียดยาวใต้ผ้านวมผืนใหญ่ค่อย ๆ ลืมตาตื่นเพื่อรับแสงจ้าเสียดแทงนัยน์ตายามสายก่อนผุดลุกขึ้นและรับรู้ว่าเนื้อตัวปราศจากชุดนอนผ้าไหมที่สวมใส่เมื่อวาน ใบหน้างามแม้อิดโรยแต่กลับแดงซ่านเมื่อนึกถึงร่างกายกำยำที่แนบชิดเมื่อคืนนี้ อิสลินยังร้อนรุ่มข้างในไม่หายหากไม่ใช่ด้วยพิษไข้แต่เป็นร่องรอยพิศวาสที่เซอร์เรนัล์ฟฝากไว้ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นโคโลญจน์ห
“ชุดราตรีของคุณผู้หญิงค่ะ คุณเซอร์เรนัล์ฟสั่งมาไว้ให้คุณผู้หญิงใส่ไปงานเลี้ยง”ป้าลิลลี่พูดจบก็แสร้งเหลือบมองไปทางอื่นเพราะเห็นว่าหญิงสาวเริ่มมีสีหน้าไม่ดีนัก“มันเป็นชุดที่สวยมากค่ะ แต่ว่า...งานเลี้ยงของเขาไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยนะคะป้าลิลลี่ เพราะฉะนั้นอาจไม่จำเป็นที่ฉันต้องไปร่วมด้วย”“คุณผู้หญิงคะ” หญิงวัยกลางคนถอนใจก่อนเข้าไปจับชายผ้าของชุดแสนสวย “มันเป็นคำสั่งของคุณเซอร์เรนัล์ฟค่ะ เธอบอกว่าคุณผู้หญิงอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ก็ควรมีส่วนร่วมในการจัดงาน”“เขาไม่ได้บังคับใช่ไหมคะ?” / “ไม่ได้บังคับหรอกค่ะ แต่...เป็นคำพูดที่ดูจริงจังมาก” จริงจังของเซอร์เรนัล์ฟก็มีความหมายไม่ต่างจากการบังคับนั่นแหละ อิสลินเม้มปากเข้าหากันแน่นขณะมองชุดตรงหน้าอย่างสับสน เขาอยากจะกลั่นแกล้งอะไรกันอีกในเมื่อทุกอย่างก็เป็นกิจธุระของเขา แต่หากปฏิเสธไปคนที่จะพลอยลำบากคือแม่บ้านคนเก่าแก่ที่มาคอยดูแลเธอกับลูก๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ เมื่อสนธยาโรยตัวลงมาโอบล้อม คฤหาสน์แสนสวยก็เปล่งประกายท่ามกลางแสงไฟลานตา โดยเฉพาะวิหารจำลองของเทพีอัฟโฟรไดท์ในสวนไคกัตที่สว่างไสวและเต็มไปด้วยซุ้มไม้ดอกหลากสีประดับประดาไว้เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือ
“สวัสดีครับ คุณอิสลิน ผมสตีเฟน ไมเซอร์ ครับ” / “สวัสดีค่ะ”อิสลินตอบรับสัน ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นคำทักทายรื่นหูด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานของสตีเฟนกลับไปกระทบความรู้สึกของคนอีกคน“ชุดของมิสซิสเพียซสวยมากเลยนะคะ ไมทราบว่าสั่งตัดที่ไหนคะนี่” เรเน่ต์ซักไซ้“ฉันยืมเขามาค่ะ รู้สึกอึดอัดด้วยซ้ำ คิดอีกทีน่าจะใส่ชุดที่สบายกว่านี้มางาน”“มันสวยมากต่างหากครับ และยิ่งมาอยู่บนหุ่นที่สวยอย่างคุณอิสลินก็ยิ่งเพอร์เฟ็ค” หญิงสาวในชุดราตรีออกาการเขินเล็ก ๆ กับคำชมของสตีเฟนที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขารู้สึกพึงพอใจแค่ไหน แต่คนที่ไม่ปลื้มคือเซอร์เรนัล์ฟซึ่งเริ่มมีสีหน้าบึ้งตึงขณะยืดลำตัวยืนตรงแต่ถูกอีวี่รั้งแขนไว้“แด๊ดดี้...อีวี่หิวค่ะ พาอีวี่ไปทานขนมอร่อย ๆ หน่อยซีคะ” หนูน้อยเขย่ามือคนตัวโตก่อนที่เรเน่ต์จะเข้ามาสมทบด้วยการสอดมือคล้องแขนเซอร์เรนัล์ฟไว้“โอ...หนูอีวี่หิวหรือคะ เซจ...ฉันว่าเราพาหนูอีวี่ไปที่โต๊ะตรงโน้นดีกว่านะคะ มีขนมอร่อย ๆ เต็มไปหมดเลย”“เย้ ๆ ...จริงหรือคะ ไปค่ะแด๊ดดี้ เราไปกันเลย” อีวี่ตาวาวขณะกุมมือของร่างสูงใหญ่ที่ยังมีทีท่าลังเลกระทั่งเรเน่ต์พูดขึ้น“ไปกันเถอะค่ะ เซจ...คุณอิสลินเธอไม่เหงาหรอกนะ
หญิงสาวจำต้องยุติการสนทนาซึ่งเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนักสำหรับสตีเฟน“ครับ...เชิญตามสบายครับ หวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะครับ คุณอีฟ” ชายหนุ่มจำต้องปล่อยให้ร่างบอบบางในชุดราตรีแสนสวยเดินตรงไปยังกลุ่มผู้ชายที่กำลังยืนดื่มและคุยกันอยู่ก่อนผละออกไปอีกทางของสถานที่จัดเลี้ยง อิสลินก้าวไปตามทางเดินซึ่งปูลาดด้วยหินหลังสอบถามแอนดรูว์ถึงได้รู้ว่าป้าลิลลี่พาหนูน้อยไปที่คฤหาสน์ อาจไม่มีอะไรน่าห่วงแต่เธอก็อยากเบาใจว่าแม่ลูกสาวตัวน้อยจะไม่ซุกซนไปไหนจริง ๆ ที่ตึกหลังใหญ่ทรงแอนทีกตอนนี้เงียบเชียบ ทุกคนคงเข้าไปอยู่ที่งานเลี้ยงในสวนกันหมด จะมีก็แต่แสงสว่างจากโคมไฟอาบไล้ไปทั่ว หญิงสาวไม่ได้เข้ามาที่นี่หลังเดเรกขายทุกอย่างไปหมดทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้ ทว่ากลิ่นไอแห่งวันคืนเก่า ๆ ก็ยังอบอวลในที่ซึ่งเป็น บ้าน ของเธอมาแต่ก่อน อิสลินเผลอเดินขึ้นไปถึงชั้นบนและนิ่งนึกอยู่นานว่าป้าลิลลี่จะพาอีวี่ไปอยู่ส่วนไหนของบ้าน คฤหาสน์ใหญ่โตห้องหับก็มากมายและไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไรตั้งแต่ เขา เข้ามาเป็นเจ้าของคนใหม่ของที่นี่ อาจเป็นห้องนั้นกระมัง...มีบางอย่างดึงดูดให้ร่างอรชรเดินตรงไปยังห้องซึ่งเคยเป็นห้องนอนของเธอและประตูไม่