บทที่3.มันเป็นแค่ความฝันอย่างนั้นเหรอ?
อบเชยนอนนิ่งๆ หลังพายุพิศวาสสงบลง เธอนอนฟังเสียงลมหายใจของดีแลน จนแน่ใจว่าคนข้างตัวหลับสนิทไปแล้ว อบเชยค่อยๆ ดันแขนของดีแลนที่พาดอยู่บนเอวของตนเองออกไป เธอรีบสอดหมอนใบใหญ่แทนที่เรือนกายของเธอ เพราะคนตัวใหญ่ที่หลับสนิททำท่าฮึดฮัด จนกระทั่งได้กอดหมอนนุ่มๆ นั่น เขารั้งไปกอดกกไว้แนบอก ดีแลนจึงมีที่ท่าสงบลง
หญิงสาวพลิกตัวหนี ทิ้งตัวลงด้านข้างเตียง
พลั่ก!
แม้พื้นจะปูด้วยพรมเนื้อหนาฟู แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวอบเชยมีแค่เนื้อแท้ปราศจากเสื้อผ้าหรืออาภรณ์ชิ้นอื่น อบเชยเจ็บจนน้ำตาแทบร่วง เมื่อสะโพกกลมกลึงกระแทกกับพื้นแรงๆ เธอรีบยกมือตะปบปาก กลั้นเสียงร้องไว้แค่ในลำคอ เพราะกลัวว่าเสียงของตนเองจะทำให้ดีแลนรู้สึกตัว อบเชยข่มความเจ็บ ข่มความอาย เธอควานหาเสื้อผ้าของตนเองจนเจอ หญิงสาวรีบสวมเสื้อผ้าลวกๆ แอบสูดปากเบาๆ เมื่อร่างกายขยับไปมา ความเจ็บจากกึ่งกลางร่างกายก็กระตุ้นเตือน
น้ำตาเม็ดเล็กๆ ไหลริน จนอบเชยต้องรีบใช้หลังมือปาดคราบน้ำตาทิ้ง
เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เธอมานั่งเสียใจ ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เสียไป เรียกกลับคืนมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
และหากดีแลนลืมตาขึ้นมาเจอเธอนอนอยู่ข้างๆ เขา รับประกันได้... ชายผู้นี้คงบันดาลโทสะ ฆ่าเธอตายเสียเป็นแน่
เขาไม่เคยสนใจเธอ ไม่เคยแม้แต่ชายตาแล เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ดีแลนรังเกียจ เขาขยะแขยงเธอ และไม่เคยปิดบังความรู้สึกนั้น อบเชยรู้แก่ใจมาตลอด
อบเชยทอดสายตาอ่อนเศร้ามองไปที่เตียงเป็นครั้งสุดท้าย
ดีแลนนอนหลับสนิท สีหน้าของเขาปริ่มสุขจนอบเชยน้ำตาคลอ เธอตัดใจเดินออกไปจากห้องVIP ทางเดินเงียบกริบ และอุณหภูมิรอบตัวเย็นเฉียบเช่นเดิมจนอบเชยสั่นสะท้าน เธอรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น และคงเป็นความโชคดีของเธอ อบเชยไม่เจอคนอื่นอีกเลย แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในที่สุดอบเชยก็เดินออกมาจากคลับแห่งนั้นได้สำเร็จ หญิงสาวท่องจำไว้ในใจ นับจากนี้ไป เธอจะไม่มาเหยียบที่แห่งนี้อีก
ณรงค์มองตามผู้หญิงร่างเล็ก ที่เดินโผเผออกมาจากประตูด้านข้างผับตอนดึกสงัด
เจ้าของสกายฮอลล์ขมวดคิ้ว เขารีบปัดความสงสัยทิ้ง เมื่อเวลานี้ตนเองง่วงจนเปลือกตาแทบจะปิด แต่...ระหว่างที่ขับรถยนต์คู่ใจกลับที่พัก ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้น เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน รูปร่างหน้าตาแม้จะเห็นไกลๆ กลับรู้สึกคุ้นเคยบอกไม่ถูก
“ช่างเถอะ คงเป็นคนรู้จักสักคนแหละ”
หนุ่มหล่อเจ้าของผับดังรีบปัดความคาใจทิ้ง เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น เขาง่วง เขาอยากนอน ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น ไว้ค่อยคิดพรุ่งนี้..
รถประจำทางแล่นมาจอดป้ายพอดีกับที่อบเชยเดินไปถึง หญิงสาวรีบกระโจนขึ้นไป กวาดตามองหาที่นั่ง เธอเลือกที่นั่งแถวสุดท้าย และนั่งเงียบๆ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง
หญิงสาวถอนใจแรงๆ ไฟฟ้าในบ้านยังปิดสนิท เธอยกข้อมือมองเวลา นาฬิการาคาถูกยังทำงานได้ดี เข็มสั้นและเข็มยาวชี้บอกเวลา เหลืออีกประมาณไม่ถึงสามชั่วโมง พระอาทิตย์ก็จะออกมาทำหน้าที่ฉายแสงให้ความสว่างกับทุกผู้ทุกคน และวัฐจักรเดิมๆ ก็จะเริ่มต้นขึ้น สำหรับมนุษย์ที่ต้องหาเลี้ยงปากท้อง
อบเชยปิดประตูรั้วด้วยน้ำหนักมือที่พยายามเบาให้ถึงที่สุด เธอจรดปลายเท้า ลัดเลาะไปจนถึงห้องนอน
ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิท เรือนกายอวบอุ่นก็รูดลงไปกองที่พื้น มือเรียวรวบกอดตนเองไว้แน่น เธอยกชายเสื้อขึ้นกัดไว้ เพื่อลดเสียงสะอื้นไม่ให้ดังมากเกินไป ไม่อย่างนั้นมารดาที่กำลังหลับสนิท อาจจะตกใจตื่น เมื่อบุตรสาวร่ำไห้อย่างหนัก อบเชยคลานไปที่ฟูกนอนเก่าๆ เธอนอนซุกตัวบนที่นอนนั้น กอดตัวเองไว้แน่นๆ สะอื้นไห้จนลำตัวสั่นเทา
ดีแลนไม่ผิด คนที่ผิดคือเธอเอง เพราะความอยากรู้ ทำให้เธอยั่วยุจนดีแลนจนเขาตบะแตก
เขาข่มเหงเธอทั้งที่เขาเมามาย และอบเชยเชื่อว่า ทันทีที่สติเขาฟื้นคืนมา เขาจะไม่มีวันจำได้
เรื่องที่เกิดขึ้น จะเป็นความลับ หากเธอไม่พูด ดีแลนก็คงไม่กระโตกกระตาก
เขาคงอายหากมีคนอื่นล่วงรู้ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น คือความผิดพลาดใหญ่หลวงของเขา
กว่าอบเชยจะหลับ เธอย้ำกับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ย้ำให้ตัวเองจำขึ้นใจ...เรื่องนี้จะถูกกดลึกอยู่ในตำแหน่งที่ใครก็เอื้อมไม่ถึง และเธอจะไม่มีวันแพร่งพรายบอกใครแน่ๆ
แสงสีส้มอ่อนส่องผ่านม่านหน้าต่างที่ขยับไหว เพราะสายลมพัดแทรกเข้ามาตามรอยแตกของเนื้อไม้
คราบน้ำตาเปรอะข้างแก้ม รอยช้ำของกลีบปากอิ่ม ตัดกับสีขาวของผิวเนื้อ ร่องรอยหลายอย่างกระจายอยู่ตามเนื้อตัว เป็นรอยรักที่ดีแลนทิ้งไว้ให้อบเชยดูต่างหน้า และมันจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
ดีแลนงัวเงียตื่นเอาเกือบบ่าย เขาผุดลุกขึ้นนั่ง ยกมือตบข้างขมับ ปวดหัวเหมือนมีใครมาวางระเบิดไว้ด้านใน ชายหนุ่มปรือตามอง รอบตัวที่เหมือนพายุถล่มใส่ ข้าวของที่จัดไว้อย่างสวยงามหล่นกระจัดกระจาย รวมถึงเสื้อผ้าของเขาด้วยที่หล่นอยู่บนพื้น และกระจายไปเกือบทั่วห้อง
“เห้ย!” เขาอุทาน รีบกระโจนลงมายืนข้างเตียง
ดีแลนเป่าปากดังพรืด...เมื่อบนเตียงว่างเปล่า ไม่มีอะไร หรือใครเหมือนที่เขากลัว แต่ว่า...เขาเมาหนักถึงขนาดนอนแก้ผ้าเชียวเหรอ? อะไรไม่เท่า เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ความทรงจำก่อนหน้านี้ มีแค่ความว่างเปล่า... จำได้แค่ว่า...เขามาเจอกับอดัม ยังไม่ทันได้คุยงาน ก็พาลเมาไปเสียก่อน
เพราะยัยเด็กบ้านั่นคนเดียว!!
ดีแลนจำได้แค่ว่า เขาดื่มหนัก แต่ไม่รู้ว่ามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ไม่อดัมก็ใครสักคนแหละที่พาเขามานอนที่นี่
ดีแลนพยายามคิดในแง่ดี...แม้จะรู้สึกโหวงๆ ในอก
ชายหนุ่มส่ายใบหน้าแรงๆ เกือบสี่ปีที่เขาไม่เคยดื่มจัดแบบนี้ ดีแลนไม่ค่อยสังสรรค์ เขาตั้งหน้าตั้งตาทำงานแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ชายหนุ่มฉวยผ้าเช็ดตัวมาพันรอบสะโพก หยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้น ก่อนจะไสลด์หน้าจอเพื่อดูเวลา “ตายโหง!! ตื่นป่านนี้ ที่บริษัทคงบ่นกันเกรียว” มันไม่ใช่แค่การไปทำงานสายครั้งแรก แต่นี่เป็นการหยุดงานแบบที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แม้ดีแลนจะเป็นประธาน เขาก็ไม่เคยใช้อภิสิทธิ์นั้น เขาเป็นผู้บริหารที่เคร่งครัด เป็นแบบอย่างให้พนักงานในหวังเทียนกรุปทำตาม
สองขาพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขากดโทรศัพท์พลางหย่อนตัวแช่ลงในอ่าง “ซี๊ดดดด!” ทรงพลแบนโทรศัพท์ส่วนตัวออกห่าง เขาได้ยินเสียงแปลกๆ ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อคนที่โทรศัพท์มาหาเขา คือเจ้านายจอมเคร่งครัด ดีแลนสะดุ้ง เมื่อหย่อนตัวลงน้ำ ความเจ็บแสบพุ่งเข้าใส่ จนต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน กระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้าเฉลยให้ดีแลนรู้ รอยข่วนยาวๆ กลางหลัง นั่นคือสาเหตุที่เขาแสบ แผลสดๆ เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ดีแลนขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เขลาจนไม่รู้ รอยที่เกิดขึ้นบนแผ่นหลังของเขาเกิดขึ้นได้อย่างไร ดีแลนกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขาไม่อยากเดา ชายหนุ่มก้มหน้าลงมอง อวัยวะเบื้องล่าง เขาเกือบล้มหัวขมำ เพราะคิดอะไรบางอย่างได้ “เจ้านายครับ เจ้านายครับ!!” เสียงใครบางคนตะโกนเรียก ดีแลนลดตัวลงนั่ง ส่งเสียงแหบแห้งตอบคนปลายสายไป “มีอะไรรึทรงพล?” เมื่อเจ้านายถามแบบนั้น ลูกน้องที่ดีจะตอบอะไรได้นอกจาก “เปล่าครับ ผมเห็นเจ้านายเงียบ เลยถามกลับไปแค่นั้นครับ” “ฉันคงไม่เข้าบริษัทนะ...วันนี้” ดีแลนกรอกเสียงบอก เขาจ้องหน้าขาตัวเอง เหมือนมีอะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม เขาหลับสนิทหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้ายามหลับอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มโสดรุ่นเดียวกัน แต่ยามใดก็ตามที่ดีแลนตื่น เขาจะเคร่งขรึม และเป็นที่เกรงขามของคนรอบตัว“วันนี้ทำไมตื่นสายจัง...แล้วไม่ไปทำงานเรอะ?”เทียนถามบุตรสาว ที่กำลังก้มหน้าก้มตากินมื้อเย็น โดยที่ยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เทียนไม่ได้ถามบุตรสาว หลังจากช่วงเช้าอบเชยไม่ได้ตื่นมาช่วยเหมือนทุกวัน“เชยไม่ไปทำงานที่นั่นแล้วค่ะแม่” อบเชยตอบ รีบพุ้ยข้าวใส่ปาก ดันตัวลุกขึ้นยืน เมื่อข้าวหมดจาน“ทำไมล่ะ...” เทียนซักต่อ อบเชยไม่ใช่คนท้อถอย ต้องมีอะไรทำให้อบเชยไม่ไปทำงาน ทั้งที่เพิ่งไปทำได้แค่วันเดียว“มันเลิกดึกค่ะแม่...” คำตอบของอบเชยเทียนเลยคลายความสงสัยอีกอย่างนางก็ไม่อยากให้บุตรสาวไปทำงานกลางค่ำกลางคืน เมื่อมีแต่อันตรายอยู่รอบตัว“ดีแล้วล่ะ หางานกลางวันทำดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องนอนผวาเพราะห่วงหนูจนนอนหลับไม่สนิท” เทียนบ่น นางเช็ดใบตองระหว่างที่คุยกับอบเชย“เดี๋ยวเชยออกไปข้างนอกนะแม่ เชยจะออกไปหางานใกล้ๆ บ้านทำ”อบเชยเป็นคนขยัน เธอไม่เคยอยู่นิ่งๆ มีแรงเท่าไหร่ก็ทุ่มให้กับงาน และการเรียนก็ไม่เสียด้วย“อืม...อย่ากล
ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะกลับบ้าน แต่สมองกับความคุ้นเคยชักนำมา ดีแลนลดกระจก ส่งยิ้มให้คนดูแลประตูหน้า ชายผู้นั้นรีบกุลีกุจอเปิดประตูรั้วให้ เมื่อมองเห็นเจ้าของรถยนต์หรูถนัดตาถนนคอนกรีตทอดยาวตั้งแต่รั้วเหล็ก จนถึงโถงประตูบ้าน ทางเดินสีขาวสะอาดเพราะโรยไว้ด้วยก้อนกรวดสีขาว ขนาบกับถนนคอนกรีตที่กว้างพอให้รถยนต์สองคันวิ่งสวนกันได้ ตัวน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าโถงประตู กามเทพตัวน้อยยืนแอ่นฉี่ ปล่อยสายน้ำเย็นใสใสลงมาในอ่างใบใหญ่ที่มีปลาคราฟแหวกว่ายอยู่นับสิบตัว ดีแลนก้าวลงมายืนด้านข้าง เขามองไปรอบๆ ตัวด้วยความคิดถึง ดีแลนไม่ได้มาเหยียบบ้านใหญ่หลังนี้นานแล้ว เพราะเขามัวยุ่งๆ กับการทำงาน ประกอบกับ...ต้องการที่จะหลบใครบางคนมีคนรับใช้โผล่หน้าออกมามอง แม้จะเป็นยามวิกาลที่สมาชิกส่วนใหญ่หลับใหลไปบ้างแล้ว“คุณหนู” เสียงร้องทักผสมความตื่นเต้นยินดีเนื่องจากเจ้านายน้อยของบ้าน แทบจะไม่โผล่มาให้เห็นเลย“คุณพ่อ คุณแม่หลับหรือยัง?” ดีแลนถามถึงบิดา มารดา“คุณท่านใหญ่ยังไม่นอนค่ะ อยู่ที่โถงบ้าน ส่วนคุณผู้หญิงคงกำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ในครัว”ถึงจะมีแม่บ้าน แต่สิ่งที่ปรารถนาทำเป็นประจำ คือการตื่นเช้ามาทำอาหารให้สาม
บทที่4.แม่บ้านคนใหม่ดีแลนไม่ได้รู้สึกไปเอง บ้านของเขาสะอาดเอี่ยม มีกับข้าวของโปรดของเขาวางอยู่ที่โต๊ะกินข้าวทุกวัน เท่าที่รู้มา มารดาหาแม่บ้านคนใหม่มาให้ แต่เกือบหนึ่งเดือนมานี่ เขาไม่เคยเห็นหน้าเจ้าหล่อน ช่วงเวลางานของหล่อนคงสวนทางกับเขา ในขณะที่เขากลับเข้าบ้าน ก็เป็นเวลาเลิกงานของหล่อนพอดี แต่ดีแลนก็ชอบใจ เขาไม่ใคร่ชอบให้คนนอกมายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนตัว มือข้างหนึ่งปลดเนคไทที่คอ มืออีกข้างเอื้อมจับฝาชีที่คลุมจานอาหารไว้ “อุ้ย...น่าอร่อย...” ดีแลนคราง...วันนี้เขาเหนื่อยหนัก เหนื่อยแบบอยากนอนแช่น้ำอุ่นสักหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายคลายความเมื่อย แต่เมื่อกลับถึงบ้าน กว่าหนึ่งเดือนมานี่ สิ่งแรกที่ดีแลนทำ คือเดินตามกลิ่นอาหาร และอดไม่ได้ที่จะแวะชิม รสมือแม่บ้านคนใหม่ที่มารดาจัดหามาให้นั้น มีรสมือถูกปาก ทำกับข้าวอร่อยเสียจนดีแลนน้ำหนักขึ้น เขาเจริญอาหารมากขึ้น จนเอวกางเกงคับทุกตัว “ขออาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมาจัดการ” มันน่าจะเป็นปลาช่อนผัดขึ้นช่าย ทั้งหน้าตาผ่าน กลิ่นผ่าน และรสชาติของมันคงถูกปากเหมือนเดิม ดีแลนสัมผัสได้ถึงไอความร้อน แม่บ้านคนใหม่คงเพิ่ง
ในที่สุดเครื่องปรุงก็สามารถควานหาได้จนครบ บัตรเครดิตที่ปรารถนามอบให้ไว้ สำหรับการจับจ่ายซื้อของกินให้ดีแลน อบเชยใช้จ่ายค่าวัตถุดิบทั้งหมด เธอกระโจนขึ้นรถประจำทางทัน ก่อนที่รถคันนั้นจะแล่นออกจากที่จอดพอดี หญิงสาวเลือกนั่งเบาะหลังสุด เธอวางถุงทั้งหมดไว้บนหน้าตัก หันหน้าให้ลมจากด้านนอกพัดใส่หน้า เพื่อช่วยระบายความร้อน อบเชยเผลออมยิ้ม เมื่อเดาสีหน้าดีแลน ตอนที่เขาเห็นอาหารทุกมื้อที่เธอทำ อบเชยอยากเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ไม่ดีกว่า...การเผชิญหน้ากับดีแลน เธอควรเลี่ยง หากยังอยากอยู่สบายๆ แบบนี้ ถุงหลายใบที่หิ้วมาจนไหล่ล้า อบเชยวางถุงไว้บนโต๊ะ เธอเปิดหน้าต่างครัว และจัดการทำสตูว์ เธอเสียเวลาไปไม่น้อยเลยสำหรับการปรุงอาหารมื้อนี้ สตูว์เริ่มส่งกลิ่นฟุ้ง เมื่ออบเชยยกหม้อใบใหญ่ตั้งไว้บนเตา...เธอเหลือเวลาไม่มากสำหรับทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวปลดผ้ากันเปื้อนวางพาดไว้ที่พนักเก้าอี้ เปิดประตูห้องเก็บของ ลากเครื่องดูดฝุ่นเครื่องใหญ่ออกมา เธอต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะไม่อย่างนั้น เธอจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านไม่ได้ เขาตรงเวลาจนอบเชยไม่อยากเชื่อ หนุ่มโสดที่หล่
“คุณกลับไปเถอะปารตี” ดีแลนหมดอารมณ์ดื้อๆ เขาหยิบเช็คที่เขียนไว้ ยื่นส่งให้ปารตี เป็นค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ หากค่ำคืนนี้เขาใช้เวลากับหล่อน แต่นั้นคือก่อนที่เขาจะกลับถึงบ้าน อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจู่ๆ ก็เหือดหายไปดื้อๆ “อะไรกันคะ ตียังไม่ได้ทานมื้อเย็นที่บ้านคุณเลย” สาวโสภาไม่ได้พิศวาสอาหารมื้อเย็นที่แอบเห็นบนเตานั่นหรอก ที่เธอต้องการคือเจ้าของบ้านสุดหล่อตรงหน้านี่ต่างหาก แต่เมื่อเขาออกปากเสือกไส เธอก็ต้องหาทางยื้อไว้ก่อน บางทีดีแลนอาจจะเปลี่ยนใจ “ผมเหนื่อย!” ดีแลนวางเช็คไว้บนโต๊ะ เขาเดินเลี่ยงปารตี “คงไม่น่าเกลียดนะ หากผมจะขอให้คุณกลับเองด้วย” เสียงทุ้มๆ ดังมาจากด้านใน ตัดความหวังของปารตีดังฉับ สาวสวยสะบัดหน้าให้ประตูคอแทบเคล็ด เธอหยิบกระดาษชิ้นน้อยๆ ขึ้นมามอง ก่อนจะพอยิ้มออก ค่าเสียเวลาของเธอมากโขเชียวล่ะ “ตีกลับก่อนนะคะ หากคุณเหงา คุณโทร. หาตีได้ตลอดนะคะดีแลน” เธอส่งเสียงบอกเจ้าของบ้าน เดินเชิดหน้าออกไปด้านนอก มองหารถรับจ้างที่จะอาศัยนั่งกลับที่พำนัก พออาบน้ำจนใจหายหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง...ดีแลนก็เริ่มหิว เขาเดินออกจากห้อง
“แม่ไปตลาดค่ะ คุณท่านมีอะไรจะใช้ให้แม่ทำเหรอคะ?” อบเชยถามกลับ “ฉันจะมาจองขนมหน่ะ พรุ่งนี้จะไปบ้านเด็กกำพร้า...เอาทุกอย่างเลยนะ เด็กๆ ชอบ” ปรารถนามาอุดหนุนขนมที่ร้านมารดาอบเชยเป็นประจำ เทียนจะไม่รับเงิน ท่านก็ไม่ยอม “ขอเชยไปด้วยได้ไหมคะ” อบเชยยิ้มแป้น เธอจำได้สมัยเด็กๆ ชอบตามปรารถนาไปบ้านเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหวังอุปถัมภ์ไว้ “พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสินะ ได้สิ...อ้อ...เป็นไง งานหนักไหม ลูกชายฉันบ่นอะไรหรือเปล่า?” สาวใหญ่ถามถึงบุตรชาย เขาเป็นคนเคร่งครัด ระเบียบจัด นางเกรงว่าจะทำให้อบเชยแบกภาระมากเกินไป “งานสบายๆ ค่ะ ไม่หนักเลย เชยยังไม่เจอคุณดีเลยค่ะ เธอเลยยังไม่บ่น” หญิงสาวตอบเสียงอ่อยๆ เธอเลี่ยงการเผชิญกับหน้าดีแลน เขาเลยยังไม่ไล่ตะเพิดให้เธอลาออกจากตำแหน่งงานที่อบเชยทำอยู่นั่นเอง “คงถูกใจอยู่หรอก ขานั้นถ้าไม่พอใจคงโวยมาแล้วล่ะ” ปรารถนายิ้มรับ มองสำรวจอบเชย เด็กสาวตรงหน้า เป็นสาวมากขึ้นกว่าทุกปี ท่าทางก็เรียบร้อย คนเป็นแม่อย่างเทียนคงภูมิใจ “อบเชยเรียนปีไหนแล้วล่ะ” นางชวนคุยตามประสาคนรู้จัก
บทที่5.อรุณสวัสดิความรัก“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก” เทียนวางถุงในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยถามบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน อบเชยหยุดความคิดวกวนของตนเอง ตอบมารดาเสียงใส “รอแม่ค่ะ” เทียนรื้อของในถุงออกมากองด้านนอก “รอแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า?” “คุณดีอยากทานขนมต้ม” อบเชยตอบมารดา เธอไม่ได้บอกรายละเอียด “คุณหนูมารึ? ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้” เทียนรับคำ “คุณท่านสั่งขนมด้วยคะแม่ พรุ่งนี้คุณท่านจะไปบ้านเด็กกำพร้า” อบเชยกล่าวต่อ เธอผุดลุกขึ้นยืน เมื่อส่งสารที่รับฝากมาทั้งหมดให้มารดาเรียบร้อย “ตายล่ะ พรุ่งนี้คงไม่ได้เปิดร้านขายขนมแน่ๆ แม่ซื้อของมาแค่พอใช้” เทียนบ่น ของที่เตรียมไว้มีแค่พอดี เทียนไม่ชอบซื้อมาเผื่อเพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องใช้ของสด หากเหลือไว้ มันจะทำให้รสขนมไม่ดีเท่าที่ควร “เชยจะตื่นมาช่วยแม่ทำ พรุ่งนี้แม่ก็พักเถอะค่ะ นานๆ จะได้หยุดอยู่บ้านบ้าง” “ไม่มีเรียนหรือไงล่ะ” “วันหยุดค่ะ เชยจะไปกับคุณท่านด้วย เชยขอคุณท่านแล้ว” เทียนเตรียมจะท้วง แต่อบเชยรู้ทัน รีบพูดดักคอมารดาไว้เสียก่อน “คุณหนูไม่ไปด้วยเหรอ?”