สองขาพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขากดโทรศัพท์พลางหย่อนตัวแช่ลงในอ่าง “ซี๊ดดดด!” ทรงพลแบนโทรศัพท์ส่วนตัวออกห่าง เขาได้ยินเสียงแปลกๆ ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อคนที่โทรศัพท์มาหาเขา คือเจ้านายจอมเคร่งครัด ดีแลนสะดุ้ง เมื่อหย่อนตัวลงน้ำ ความเจ็บแสบพุ่งเข้าใส่ จนต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน กระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้าเฉลยให้ดีแลนรู้ รอยข่วนยาวๆ กลางหลัง นั่นคือสาเหตุที่เขาแสบ แผลสดๆ เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ดีแลนขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เขลาจนไม่รู้ รอยที่เกิดขึ้นบนแผ่นหลังของเขาเกิดขึ้นได้อย่างไร ดีแลนกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขาไม่อยากเดา ชายหนุ่มก้มหน้าลงมอง อวัยวะเบื้องล่าง เขาเกือบล้มหัวขมำ เพราะคิดอะไรบางอย่างได้ “เจ้านายครับ เจ้านายครับ!!” เสียงใครบางคนตะโกนเรียก ดีแลนลดตัวลงนั่ง ส่งเสียงแหบแห้งตอบคนปลายสายไป “มีอะไรรึทรงพล?” เมื่อเจ้านายถามแบบนั้น ลูกน้องที่ดีจะตอบอะไรได้นอกจาก “เปล่าครับ ผมเห็นเจ้านายเงียบ เลยถามกลับไปแค่นั้นครับ” “ฉันคงไม่เข้าบริษัทนะ...วันนี้” ดีแลนกรอกเสียงบอก เขาจ้องหน้าขาตัวเอง เหมือนมีอะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม เขาหลับสนิทหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้ายามหลับอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มโสดรุ่นเดียวกัน แต่ยามใดก็ตามที่ดีแลนตื่น เขาจะเคร่งขรึม และเป็นที่เกรงขามของคนรอบตัว“วันนี้ทำไมตื่นสายจัง...แล้วไม่ไปทำงานเรอะ?”เทียนถามบุตรสาว ที่กำลังก้มหน้าก้มตากินมื้อเย็น โดยที่ยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เทียนไม่ได้ถามบุตรสาว หลังจากช่วงเช้าอบเชยไม่ได้ตื่นมาช่วยเหมือนทุกวัน“เชยไม่ไปทำงานที่นั่นแล้วค่ะแม่” อบเชยตอบ รีบพุ้ยข้าวใส่ปาก ดันตัวลุกขึ้นยืน เมื่อข้าวหมดจาน“ทำไมล่ะ...” เทียนซักต่อ อบเชยไม่ใช่คนท้อถอย ต้องมีอะไรทำให้อบเชยไม่ไปทำงาน ทั้งที่เพิ่งไปทำได้แค่วันเดียว“มันเลิกดึกค่ะแม่...” คำตอบของอบเชยเทียนเลยคลายความสงสัยอีกอย่างนางก็ไม่อยากให้บุตรสาวไปทำงานกลางค่ำกลางคืน เมื่อมีแต่อันตรายอยู่รอบตัว“ดีแล้วล่ะ หางานกลางวันทำดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องนอนผวาเพราะห่วงหนูจนนอนหลับไม่สนิท” เทียนบ่น นางเช็ดใบตองระหว่างที่คุยกับอบเชย“เดี๋ยวเชยออกไปข้างนอกนะแม่ เชยจะออกไปหางานใกล้ๆ บ้านทำ”อบเชยเป็นคนขยัน เธอไม่เคยอยู่นิ่งๆ มีแรงเท่าไหร่ก็ทุ่มให้กับงาน และการเรียนก็ไม่เสียด้วย“อืม...อย่ากล
ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะกลับบ้าน แต่สมองกับความคุ้นเคยชักนำมา ดีแลนลดกระจก ส่งยิ้มให้คนดูแลประตูหน้า ชายผู้นั้นรีบกุลีกุจอเปิดประตูรั้วให้ เมื่อมองเห็นเจ้าของรถยนต์หรูถนัดตาถนนคอนกรีตทอดยาวตั้งแต่รั้วเหล็ก จนถึงโถงประตูบ้าน ทางเดินสีขาวสะอาดเพราะโรยไว้ด้วยก้อนกรวดสีขาว ขนาบกับถนนคอนกรีตที่กว้างพอให้รถยนต์สองคันวิ่งสวนกันได้ ตัวน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าโถงประตู กามเทพตัวน้อยยืนแอ่นฉี่ ปล่อยสายน้ำเย็นใสใสลงมาในอ่างใบใหญ่ที่มีปลาคราฟแหวกว่ายอยู่นับสิบตัว ดีแลนก้าวลงมายืนด้านข้าง เขามองไปรอบๆ ตัวด้วยความคิดถึง ดีแลนไม่ได้มาเหยียบบ้านใหญ่หลังนี้นานแล้ว เพราะเขามัวยุ่งๆ กับการทำงาน ประกอบกับ...ต้องการที่จะหลบใครบางคนมีคนรับใช้โผล่หน้าออกมามอง แม้จะเป็นยามวิกาลที่สมาชิกส่วนใหญ่หลับใหลไปบ้างแล้ว“คุณหนู” เสียงร้องทักผสมความตื่นเต้นยินดีเนื่องจากเจ้านายน้อยของบ้าน แทบจะไม่โผล่มาให้เห็นเลย“คุณพ่อ คุณแม่หลับหรือยัง?” ดีแลนถามถึงบิดา มารดา“คุณท่านใหญ่ยังไม่นอนค่ะ อยู่ที่โถงบ้าน ส่วนคุณผู้หญิงคงกำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ในครัว”ถึงจะมีแม่บ้าน แต่สิ่งที่ปรารถนาทำเป็นประจำ คือการตื่นเช้ามาทำอาหารให้สาม
บทที่4.แม่บ้านคนใหม่ดีแลนไม่ได้รู้สึกไปเอง บ้านของเขาสะอาดเอี่ยม มีกับข้าวของโปรดของเขาวางอยู่ที่โต๊ะกินข้าวทุกวัน เท่าที่รู้มา มารดาหาแม่บ้านคนใหม่มาให้ แต่เกือบหนึ่งเดือนมานี่ เขาไม่เคยเห็นหน้าเจ้าหล่อน ช่วงเวลางานของหล่อนคงสวนทางกับเขา ในขณะที่เขากลับเข้าบ้าน ก็เป็นเวลาเลิกงานของหล่อนพอดี แต่ดีแลนก็ชอบใจ เขาไม่ใคร่ชอบให้คนนอกมายุ่มย่ามในพื้นที่ส่วนตัว มือข้างหนึ่งปลดเนคไทที่คอ มืออีกข้างเอื้อมจับฝาชีที่คลุมจานอาหารไว้ “อุ้ย...น่าอร่อย...” ดีแลนคราง...วันนี้เขาเหนื่อยหนัก เหนื่อยแบบอยากนอนแช่น้ำอุ่นสักหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายคลายความเมื่อย แต่เมื่อกลับถึงบ้าน กว่าหนึ่งเดือนมานี่ สิ่งแรกที่ดีแลนทำ คือเดินตามกลิ่นอาหาร และอดไม่ได้ที่จะแวะชิม รสมือแม่บ้านคนใหม่ที่มารดาจัดหามาให้นั้น มีรสมือถูกปาก ทำกับข้าวอร่อยเสียจนดีแลนน้ำหนักขึ้น เขาเจริญอาหารมากขึ้น จนเอวกางเกงคับทุกตัว “ขออาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมาจัดการ” มันน่าจะเป็นปลาช่อนผัดขึ้นช่าย ทั้งหน้าตาผ่าน กลิ่นผ่าน และรสชาติของมันคงถูกปากเหมือนเดิม ดีแลนสัมผัสได้ถึงไอความร้อน แม่บ้านคนใหม่คงเพิ่ง
ในที่สุดเครื่องปรุงก็สามารถควานหาได้จนครบ บัตรเครดิตที่ปรารถนามอบให้ไว้ สำหรับการจับจ่ายซื้อของกินให้ดีแลน อบเชยใช้จ่ายค่าวัตถุดิบทั้งหมด เธอกระโจนขึ้นรถประจำทางทัน ก่อนที่รถคันนั้นจะแล่นออกจากที่จอดพอดี หญิงสาวเลือกนั่งเบาะหลังสุด เธอวางถุงทั้งหมดไว้บนหน้าตัก หันหน้าให้ลมจากด้านนอกพัดใส่หน้า เพื่อช่วยระบายความร้อน อบเชยเผลออมยิ้ม เมื่อเดาสีหน้าดีแลน ตอนที่เขาเห็นอาหารทุกมื้อที่เธอทำ อบเชยอยากเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ไม่ดีกว่า...การเผชิญหน้ากับดีแลน เธอควรเลี่ยง หากยังอยากอยู่สบายๆ แบบนี้ ถุงหลายใบที่หิ้วมาจนไหล่ล้า อบเชยวางถุงไว้บนโต๊ะ เธอเปิดหน้าต่างครัว และจัดการทำสตูว์ เธอเสียเวลาไปไม่น้อยเลยสำหรับการปรุงอาหารมื้อนี้ สตูว์เริ่มส่งกลิ่นฟุ้ง เมื่ออบเชยยกหม้อใบใหญ่ตั้งไว้บนเตา...เธอเหลือเวลาไม่มากสำหรับทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวปลดผ้ากันเปื้อนวางพาดไว้ที่พนักเก้าอี้ เปิดประตูห้องเก็บของ ลากเครื่องดูดฝุ่นเครื่องใหญ่ออกมา เธอต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะไม่อย่างนั้น เธอจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านไม่ได้ เขาตรงเวลาจนอบเชยไม่อยากเชื่อ หนุ่มโสดที่หล่
“คุณกลับไปเถอะปารตี” ดีแลนหมดอารมณ์ดื้อๆ เขาหยิบเช็คที่เขียนไว้ ยื่นส่งให้ปารตี เป็นค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ หากค่ำคืนนี้เขาใช้เวลากับหล่อน แต่นั้นคือก่อนที่เขาจะกลับถึงบ้าน อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจู่ๆ ก็เหือดหายไปดื้อๆ “อะไรกันคะ ตียังไม่ได้ทานมื้อเย็นที่บ้านคุณเลย” สาวโสภาไม่ได้พิศวาสอาหารมื้อเย็นที่แอบเห็นบนเตานั่นหรอก ที่เธอต้องการคือเจ้าของบ้านสุดหล่อตรงหน้านี่ต่างหาก แต่เมื่อเขาออกปากเสือกไส เธอก็ต้องหาทางยื้อไว้ก่อน บางทีดีแลนอาจจะเปลี่ยนใจ “ผมเหนื่อย!” ดีแลนวางเช็คไว้บนโต๊ะ เขาเดินเลี่ยงปารตี “คงไม่น่าเกลียดนะ หากผมจะขอให้คุณกลับเองด้วย” เสียงทุ้มๆ ดังมาจากด้านใน ตัดความหวังของปารตีดังฉับ สาวสวยสะบัดหน้าให้ประตูคอแทบเคล็ด เธอหยิบกระดาษชิ้นน้อยๆ ขึ้นมามอง ก่อนจะพอยิ้มออก ค่าเสียเวลาของเธอมากโขเชียวล่ะ “ตีกลับก่อนนะคะ หากคุณเหงา คุณโทร. หาตีได้ตลอดนะคะดีแลน” เธอส่งเสียงบอกเจ้าของบ้าน เดินเชิดหน้าออกไปด้านนอก มองหารถรับจ้างที่จะอาศัยนั่งกลับที่พำนัก พออาบน้ำจนใจหายหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง...ดีแลนก็เริ่มหิว เขาเดินออกจากห้อง
“แม่ไปตลาดค่ะ คุณท่านมีอะไรจะใช้ให้แม่ทำเหรอคะ?” อบเชยถามกลับ “ฉันจะมาจองขนมหน่ะ พรุ่งนี้จะไปบ้านเด็กกำพร้า...เอาทุกอย่างเลยนะ เด็กๆ ชอบ” ปรารถนามาอุดหนุนขนมที่ร้านมารดาอบเชยเป็นประจำ เทียนจะไม่รับเงิน ท่านก็ไม่ยอม “ขอเชยไปด้วยได้ไหมคะ” อบเชยยิ้มแป้น เธอจำได้สมัยเด็กๆ ชอบตามปรารถนาไปบ้านเด็กกำพร้าที่ครอบครัวหวังอุปถัมภ์ไว้ “พรุ่งนี้ไม่มีเรียนสินะ ได้สิ...อ้อ...เป็นไง งานหนักไหม ลูกชายฉันบ่นอะไรหรือเปล่า?” สาวใหญ่ถามถึงบุตรชาย เขาเป็นคนเคร่งครัด ระเบียบจัด นางเกรงว่าจะทำให้อบเชยแบกภาระมากเกินไป “งานสบายๆ ค่ะ ไม่หนักเลย เชยยังไม่เจอคุณดีเลยค่ะ เธอเลยยังไม่บ่น” หญิงสาวตอบเสียงอ่อยๆ เธอเลี่ยงการเผชิญกับหน้าดีแลน เขาเลยยังไม่ไล่ตะเพิดให้เธอลาออกจากตำแหน่งงานที่อบเชยทำอยู่นั่นเอง “คงถูกใจอยู่หรอก ขานั้นถ้าไม่พอใจคงโวยมาแล้วล่ะ” ปรารถนายิ้มรับ มองสำรวจอบเชย เด็กสาวตรงหน้า เป็นสาวมากขึ้นกว่าทุกปี ท่าทางก็เรียบร้อย คนเป็นแม่อย่างเทียนคงภูมิใจ “อบเชยเรียนปีไหนแล้วล่ะ” นางชวนคุยตามประสาคนรู้จัก
บทที่5.อรุณสวัสดิความรัก“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก” เทียนวางถุงในมือลงบนโต๊ะ เอ่ยถามบุตรสาวที่ยังนั่งอยู่กลางบ้าน อบเชยหยุดความคิดวกวนของตนเอง ตอบมารดาเสียงใส “รอแม่ค่ะ” เทียนรื้อของในถุงออกมากองด้านนอก “รอแม่ทำไม มีอะไรหรือเปล่า?” “คุณดีอยากทานขนมต้ม” อบเชยตอบมารดา เธอไม่ได้บอกรายละเอียด “คุณหนูมารึ? ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้” เทียนรับคำ “คุณท่านสั่งขนมด้วยคะแม่ พรุ่งนี้คุณท่านจะไปบ้านเด็กกำพร้า” อบเชยกล่าวต่อ เธอผุดลุกขึ้นยืน เมื่อส่งสารที่รับฝากมาทั้งหมดให้มารดาเรียบร้อย “ตายล่ะ พรุ่งนี้คงไม่ได้เปิดร้านขายขนมแน่ๆ แม่ซื้อของมาแค่พอใช้” เทียนบ่น ของที่เตรียมไว้มีแค่พอดี เทียนไม่ชอบซื้อมาเผื่อเพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ต้องใช้ของสด หากเหลือไว้ มันจะทำให้รสขนมไม่ดีเท่าที่ควร “เชยจะตื่นมาช่วยแม่ทำ พรุ่งนี้แม่ก็พักเถอะค่ะ นานๆ จะได้หยุดอยู่บ้านบ้าง” “ไม่มีเรียนหรือไงล่ะ” “วันหยุดค่ะ เชยจะไปกับคุณท่านด้วย เชยขอคุณท่านแล้ว” เทียนเตรียมจะท้วง แต่อบเชยรู้ทัน รีบพูดดักคอมารดาไว้เสียก่อน “คุณหนูไม่ไปด้วยเหรอ?”
“คุณดีบ้า...ถ้ามีคนเห็น เชยคงถูกนินทายับ” ดีแลนเงยหน้าหัวเราะร่วน นั่นไม่ใช่คำปฏิเสธ มันหมายความว่า อบเชยยินยอมที่จะทำตามคำขอของเขา ชายหนุ่มเลยโน้มตัวเข้าไปใกล้ “เร็วๆ เชย กำลังปลอดคน...ไม่มีใครเห็นหรอก ฉันจะดูต้นทางให้เอง” อบเชยกลั้นใจกดปลายจมูกกับแก้มสากๆ ของคนตรงหน้า แต่คนที่รอจังหวะอยู่ เบี่ยงหน้า จนปากสีระเรื่อทาบลงบนปากสีเข้มแทน อบเชยผงะ เธอรีบเอนตัวออกห่าง แต่สายไปเสียแล้วสำหรับอบเชยและดีแลน เมื่อทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นไปมอง เงาดำๆ ที่ทอดยาวบนพื้น ณ.จุดนั้น เดวิด ปรารถนา เทียน รวมทั้งน้อยยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น “ดีแลน!!&rd
ก่อนจะตัดสินใจถามตรงๆ “คุณดีรู้ใช่ไหมคะว่าคุณท่านเรียกแม่เชยไปพูดเรื่องอะไร?” ดีแลนพยักหน้ารับ เขาสอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง ลักษณะเหมือนต้องการท้าทายอบเชย ผู้หญิงตรงหน้าจะมีความสามรถมากพอที่จะง้างปากให้เขาพูดได้หรือไม่!!? อบเชยคิดเอง เธอเดาจากท่าทางของเขานั่นแหละ “คุณดีบอกเชยได้ไหมคะ?” น้ำเสียงอ้อนๆ แววตาเว้าวอน จนดีแลนแอบขำ “ได้!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขึงขัง “ขอบคุณค่ะ” อบเชยยิ้มตาพราวแต่ก็ต้องชะงักหัวแทบขมำ ปลายนิ้วเรียวสวยแตะที่ข้างแก้ม เขากดย้ำไปมาหลายรอบ เหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่าง อบเชยกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอพยายามทำความเข้าใจผ่านการบอกเล่า
‘ชอบแบบนี้ ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบแววตาแบบนี้ ชอบรอยยิ้มแบบนี้ ก็ชอบคนนี้ โฮ้วววว จะเอาแบบนี้ จะเอาที่เป็นแบบนี้ จะเอาแววตาแบบนี้ จะเอารอยยิ้มแบบนี้ จะเอาคนนี้ ฮู้ววว ก็ชอบที่เป็นแบบเธอ’ จู่ๆ อบเชยก้ได้ยินเสียงเพลงดังเบาๆ เธอเงยหน้ามอง ผู้ชายตัวใหญ่กำลังฮัมเพลง เนื้อเพลงที่ฟังแล้วถึงกับสะท้านวูบในอก ‘เพียงแค่เธอยิ้มมา ใจมันสั่นยังไงไม่รู้ ทุกอย่างกลายเป็นสีชมพูทันใด เธอ โอเธอ เธอรู้ไหมใจฉันไหวหวั่น เวลาที่ได้ใกล้กัน หัวใจฉันแทบจะวาย ตอนที่เธอสบตา ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตาย รู้ไหมใจฉันจะละลายแล้ว’ ดีแลนยิ้มเก๋ เขาซ้อมร้องเพลงนี้มานานหลายสัปดาห์ แค่ฟังครั้งแรกก็สะดุดหู มันช่างเหมือนกับชีวิตตนเองเหลือเกิน แรกสบตากับอบเชยเมื่อหลายสิบปีก่อน ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เป็นแบบนี้เลย เสียงระเบิดตูมตามดังในใจ รอยยิ้มของเธอ ทำให้หัวใจเขาเต้นกระหน่ำ หัวใจเขาทำงานหนั
ตามธรรมดาปรารถนาจะแวะเวียนมาเยี่ยมเทียนที่ร้านขนมเป็นประจำ หลังจากนางใส่บาตรทำบุญเสร็จ แต่วันนี้คงเพราะฝนตก อากาศไม่เป็นใจ คุณท่านจึงเรียกมารดาของเธอเข้าไปพบแทน อบเชยไม่ได้สงสัย ไม่ได้ติดใจท่าทางร้อนรนของคนมาตามสักนิด คงเป็นเพราะหญิงสาวกำลังสนุกกับการปิ้งข้าวเหนียวปิ้ง ไอเดียใหม่ที่เพิ่งทดลองทำ “เชยสอบเสร็จหรือยัง?” คุยกันด้วยเรื่องมารดาของเธออยู่ดีๆ ดีแลนก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมาดื้อๆ เป็นคำถามเดิมที่ทำให้ดีแลนรู้สึกไม่พอใจตนเองด้วย อบเชยเลยรีบตอบ เธอกลัวว่าจะทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าไม่พอใจซ้ำอีกครั้ง “ยังเลยค่ะ เหลือสอบอีกสองวัน สามวิชา แล้วก็ส่งรายงานค่ะ” ดีแลนพยักหน้าหงึกหงัก เขารับห่อข้าวเหนียวที่อบเชยส่งให้มาแกะใบตองออก แล้วกินต่อ เมื่อตนเองได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้จนหมด&
“อืม...” ดีแลนทิ้งตัวนั่งที่เดิม อบเชยเลยจำใจต้องปล่อยแขนข้างที่จับเอาไว้ เธอรีบใช้ที่คีบ คีบข้าวเหนียวปิ้งที่เกือบไหม้ลงมาจากเตา“คุณดีโกรธอะไรเชยคะ บอกเชยตรงๆ ได้ไหมคะ เชยไม่ใช่เด็กแล้ว เชยยอมรับได้หากสิ่งที่เชยทำ ทำให้คุณดีไม่พอใจ”ดีแลนหรี่เปลือกตาลง เขาเม้มปาก ท่าทางเหมือนวัยรุ่นโดนผู้ใหญ่ขัดใจ“ฉันรู้ ว่าเชยโตแล้ว”หลังพูดจบ แววตาของดีแลนก็เต้นระริกอบเชยมองตามสายตาของคนตัวโต ที่คีบในมือแทบจะพลัดหลุด เพราะสายตาของเขามองสิ่งที่ ‘โต’ แล้วของเธอตาเป็นมัน “คุณดี!!”“ฮ่าๆ” ดีแลนหัวเราะร่วน เขายิ้มแฉ่งเมื่อโดนคนตัวเล็กสะบัดค้อนให้“ระวังคอเคล็ดนะเชย” ดีแลนกระเซ้าต่อ“คุณดีว่างขนาดมีเวลามาแหย่เชยเล่นเลยเหรอคะ”“เปล่า วันนี้ฉันมีธุระสำคัญ”ดีแลนตอบเสียงนุ่ม มุมปากมีรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนเองทำลงไปวันนี้‘แม่ครับ ผมอยากมีเมีย’ชายหนุ่มพูดโพล่งกับบิดา มารดา ระหว่างรั
แม่ค้าขนมยิ้มหวาน มองธนบัตรที่อัดเกือบเต็มกระป๋องใส่สตางค์ตาพราว “ข้าวเหนียวปิ้งขายดีจริ๊งๆ” เทียนสัพยอกบุตรสาว นางเก็บถาดใส่ขนมเตรียมนำไปล้าง “ต้องยกความดีความชอบให้แม่เลยค่ะ ข้าวเหนียวมูลของแม่คนแถวนี้รู้ดีว่าทั้งหอมทั้งมัน” อบเชยกล่าวชม มือเป็นระวิง เมื่อต้องคอยพลิกกลับห่อข้าวเหนียวปิ้งไม่ให้ใบตองไหม้ เทียนไม่ได้พูดต่อความ นางเดินไปหลังร้าน เพื่อล้างถาดขนมที่ใช้แล้ว ลูกค้าบางตา เทียนเลยวางใจให้อบเชยอยู่คนเดียว อีกทั้งห่อข้าวเหนียวที่รอปิ้งก็ใกล้หมดแล้ว “ว้าว...ไม่รู้ว่าวันนี้จะมีข้าวเหนียวปิ้งด้วย” น้อย คนสนิทของปรารถนาเดินผ่านและตามกลิ่นไหม้ของใบตองมา “ป้าน้อยลองชิมไหมคะ เ
“ฉันหนาว...” อบเชยอยากสลัดผ้าห่มออก แล้วลุกขึ้นจ้องหน้าเขา มนุษย์ขี้ร้อนอย่างดีแลน รู้สึกหนาวในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ เธอไม่ได้เปิดแอร์อบเชยมั่นใจ เธอไม่ชอบนอนขดในห้องที่มีอากาศเย็นจัด ที่สำคัญ อบเชยชินแล้ว เธอกลัวต้องจายค่าไฟแพงๆ อะไรที่อดทนได้ เธอเลยไม่พยายามสร้างความเคยตัวให้กับตัวเอง แต่คนตัวใหญ่ข้างๆ เธอ เขาร่ำรวยมาก ขนหน้าแข้งไม่มีทางร่วง หากต้องจ่ายค่าไฟที่มีจำนวนเลขห้าหลัก “คุณดีโกหก” หญิงสาวกล่าวแดกดัน เป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลนจะหนาว นอกจากเขาสำออย “ฉันจะโกหกเชยทำไมล่ะ เชยดูสิ หนาวจนขนลุกเลย” ดีแลนสอดแขนผ่านโปงผ้า เขาขนลุกจริงๆ แต่ไม่เพราะหนาว แต่เพราะอะไรนั่นอบเชยน่าจะรู้ดี เธอถึงได้พยายามสุดชีวิตที่จะยึดผ้าห่มไว้กับตัวให้นานที่สุด ไอร้
“ไม่จริงอะ คุณดีเกลียดเชยจะตาย เชยเข้าใกล้คุณดีทีไรเชยถูกไล่ตะเพิดทุกที” อบเชยแย้ง ความทรงจำของเธอ มีแต่สีหน้าตึงๆ กับคำพูดหยาบคายที่ทำให้เธอขยาดการเข้าไปอยู่ในรัศมีสายตาของเขา “หากไม่กันเชยออกห่าง ฉันคงติดคุกไปแล้ว” ดีแลนสารภาพ เขาคิดมิดีมิร้ายกับคนตรงหน้า ตั้งแต่หล่อนยังมีคำนำหน้าว่าเด็กหญิง “จริงอะ” “จริงเส้!” ท่าทางไม่เชื่อของอบเชยทำเอาดีแลนชักฉุน “คุณดีมีสาวในสต็อกเยอะจะตาย มาสนใจอะไรกับเด็กอย่างเชย” ถึงดีแลนช่วงนี้จะปฏิบัติตัวกับเธอดีขึ้น แต่ความทรงจำในอดีตก็ยังทำให้อบเชยอดระแวงไม่ได้ “
หญิงสาวรีบตอบ นั่นเป็นข้อห้ามที่ปรารถนาย้ำแล้วย้ำอีก แม้อบเชยจะสงสัย แต่เธอก็ไม่เคยย่างกลายเข้าไปในห้องนอนของเขา เพราะประตูห้องมันล็อกอยู่ตลอดเวลานั่นเอง “อยากเห็นไหมล่ะ?” ดีแลนถามเสียงปร่า อบเชยส่ายหน้าแรงๆ “อยากเข้าไปดูไหม?” ดีแลนถามย้ำ...แต่ก็เหมือนเดิม อบเชยส่ายหน้าแรงขึ้นกว่าเก่าเสียอีก เขตหวงห้ามตอนที่ดีแลนคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในหัวแถมบ้านทั้งหลังมีแค่เธอกับเขา หากไม่อยากพลาดซ้ำ อบเชยควรอยู่ห่างๆ เขาไว้ก่อน “แต่ฉันอยากให้เชยเห็นนี่” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย ก่อนจะร