Share

บทที่1.อบเชย 2

ฝันว่าวันหนึ่ง เจ้าชายบนปราสาทหลังนั้น จะทอดสายตามาที่ตนเองบ้าง และมันก็เป็นแค่ความฝัน

          เพราะยิ่งนานวัน...ระยะห่างของเธอกับดีแลน ก็ยิ่งห่างกันไปทุกทีๆ

          เธอได้แต่แอบมอง ได้เห็นเขาเพียงผ่านๆ กำแพงสูงชันนั่นไม่ใช่อุปสรรคหรอก แต่ความจริงต่างหากล่ะ ที่ทำให้เธอต้องเจียมตน เขาคือเจ้าชาย และเธอคือเศษฝุ่นที่ปลิวอยู่รอบกายเขา สัมผัสได้ แต่เป็นเจ้าของไม่ได้

          “อะไรดลใจให้เธอมาทำงานที่นี่หะ ยัยเชย!”

          เสียงแหบห้าวของดีแลนดึงเธอออกมาจากความคิดวกวน

          อบเชยเงยหน้ามอง เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองดีแลนเหมือนกำลังละเมอ

          มือแข็งแรงเอื้อมมาจับบ่า และหากอบเชยมีสติ เธอจะเห็นว่า...ดีแลนสะดุ้ง! เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแผดเสียงดังลั่น

          “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงยัยเด็กบ้า!!”

          “เชยได้ยินแล้วค่ะ พูดเบาๆ ก็ได้ คุณดีตะโกนจนเชยหูจะแตก” หญิงสาวบ่นอุบ ก้มหน้าหลบตาเขาเหมือนเดิม เมื่อสายตาของดีแลนเหมือนมีเปลวไฟแลบออกมา และไฟนั่นแทบจะเผาเธอจนมอดไหม้

          ดีแลนปล่อยมือ เขาชำเรืองมองอบเชย และยังยืนหันข้างให้เธอเสียด้วย เสียงถอนลมหายใจแรงๆ ดังจนอบเชยแอบย่นจมูกใส่

          “ตอบฉันมาสิยัยเชย”

          อบเชยอยากยกมือปิดหู เธอไม่อยากได้ยินคำนี้ มีดีแลนคนเดียวนั่นแหละ ที่เรียกชื่อเธอด้วยคำที่อบเชยไม่อยากได้ยิน ‘เชย’ ใช่สิ เธอไม่ได้สวยมีเสน่ห์เหมือนผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขานี่ แต่เธอก็ไม่ได้เฉิ่มเชยจนน่ารังเกียจเหมือนกัน และนั่น อบเชยได้แต่แย้งในใจ เธอไม่กล้าพูดออกมาหรอก เธอกลัวคนตรงหน้าโมโหมากกว่าเดิม เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไร ดูเหมือนดีแลนจะไม่พอใจไปหมด...แค่เธอขยับเขาก็โมโหจนหนวดกระตุก หญิงสาวถอนใจแรงๆ ก่อนตอบ

          “เชยมาหาตัง’ เรียนต่อค่ะ”

          ดีแลนขมวดคิ้ว เขาไม่เจอเด็กสาวตรงหน้ามากี่ปีแล้วนะ หล่อนโตขนาดกำลังจะเรียนต่อในรั้วมหาวิทยาลัย’ แล้วอย่างนั้นเหรอ

          “ทำที่อื่นไม่ได้หรือไง?” เสียงของดีแลนอ่อนลง “ป้าเทียน รู้ไหมว่าเธอมาทำงานในที่แบบนี้” ดีแลนเหยียดยิ้ม มารดาของอบเชยเคยเป็นแม่นมของเขา ป้าเทียนที่แสนจะเรียบร้อย รู้หรือไม่ว่าบุตรสาวของท่าน มาทำงานที่ไม่ต่างอะไรกับสาวให้บริการ “เธอออกไปกับแขกด้วยหรือเปล่ายัยเด็กบ้า!” ดีแลนตะคอกถาม อารมณ์เดือดปุดๆ เหมือนนั่งอยู่กลางกองเพลิง เมื่อนึกขึ้นมาได้ ถึงคลับแห่งนี้จะเป็นคลับชั้นสูง แต่เรื่องพรรณนั้นเลี่ยงไม่พ้นหรอก เมื่อผู้บริหารคลับทุกที่เอาใจลูกค้า ด้วยการหาสาวสวยมาล่อ มันเป็นของคู่กันของสถานบริการที่มีลูกค้าเป็นเพศชายเสียส่วนใหญ่

          “ปะ เปล่าค่ะ เชยเต้นอย่างเดียว” อบเชยตอบเสียงสั่น

          ดีแลนมองอบเชยปราดเดียว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาเหยียดยิ้มสมเพช และนั่นทำให้อบเชยเจ็บจี๊ด

          “สภาพอย่างเธอ คงไม่มีผู้ชายมองหรอกมั้ง” หญิงสาวน้ำตาตก เธอกลั้นแรงสะอื้น ฝืนตอบดีแลนด้วยเสียงสั่นพร่า

          “เชยรู้ค่ะ”

          “รู้ก็ดีแล้ว เอานี่แล้วกลับบ้านไปซะ” ดีแลนหยิบกระเป๋าสตางค์จากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง ควานหาเศษสตางค์ที่ตนเองพกไว้ ยัดใส่มืออบเชยทั้งหมด

          หญิงสาวกำมือแน่น มองเศษเงินที่คนตรงหน้ายัดเหยียดให้ผ่านม่านน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา

          “ขอบคุณค่ะ เชยขอไม่รับไว้นะคะ เชยขอตัวค่ะ ถ้าคุณดีจะพูดกับเชยแค่นี้”

          หญิงสาวยัดธนบัตรยับๆ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท เธอถอดสูทตัวนั้นออกจากลำตัว ยื่นส่งคืนให้ดีแลน รู้สึกเย็นวาบ เมื่อความอบอุ่นที่เคยห่อหุ้มตัวไว้ ห่างหายออกไป

          ดีแลนยกมือกอดอก เขาไม่ได้ยื่นมือออกมารับสูทของตนเอง ดวงตาคมดุมองหญิงสาวตรงหน้านิ่งๆ

          “เธอปีกกล้าขาแข็ง กล้าที่ปฏิเสธคำสั่งฉันแล้วเรอะ...อบเชย!!?”

          ชายหนุ่มถามเสียงเรียบเย็น...แต่อบเชยรู้ดี ยิ่งดีแลนนิ่งเท่าไหร่ เขายิ่งคล้ายระเบิดปรมาณูมากเท่านั้น

          “เปล่าค่ะ เชยไม่อยากติดหนี้บุญคุณคุณดีอีกแล้ว” อบเชยรีบปฏิเสธ

          “เธอติดหนี้ฉันเยอะแล้ว จะเพิ่มอีกครั้งจะเป็นอะไรไปหล่ะ” ดีแลนตอบเสียงแข็ง

          “นั่นแหละค่ะ ที่ทำให้เชยไม่อยากรับบุญคุณครั้งนี้ไว้” หนี้บุญคุณของดีแลน อบเชยคร้านที่จะชดใช้ เธอไม่อยากเป็นแค่ลูกหนี้ที่ต้องคอยตามใช้หนี้เขา อบเชยอยากเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีหนี้บุญคุณต่อกัน เธออยากมองเขาในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง

          “ทำยังกับว่า...เธอจะทำให้ตัวเองรวยขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องคอยรับความช่วยเหลือของฉัน”

          ดีแลนกล่าวเสียงแดกดัน สองคนแม่-ลูก ที่เขาเห็นมาตั้งแต่อบเชยตัวนิดเดียว ถึงแม้วันนี้หล่อนจะโตขึ้น แต่ต้นทุนของอบเชยไม่มี หล่อนไม่มีทางลืมตาอ้าปากได้ หากไม่ยอมให้เขาและครอบครัวช่วย

          มารดาของอบเชย ทำขนมขาย รายได้แค่พอเลี้ยงปากท้อง ไม่มีทางขยับฐานะ จากคนยากจนให้เปลี่ยนเป็นมั่งมีขึ้นได้ เด็กอายุสิบเก้าปี ก็คงไม่มีทางหาเงินได้มากมาย จนกระทั่งทำให้ฐานะทางครอบครัวของหล่อนดีขึ้นเช่นกัน

          “...” อบเชยไม่ได้ตอบ เธอเม้มปาก แย้งในใจแค่นั้น สักวัน...จะต้องมีสักวันที่เธอจะมองดีแลน โดยที่เขาจะมาดูถูกเธออีกไม่ได้

          “อย่าบอกนะว่า...เธอ” หนุ่มลูกครึ่งผงะ... เขาหรี่ตามองอบเชยอีกครั้ง

          ผู้หญิงสมัยนี้รักสบาย ทางลัดที่หล่อนจะรวยได้คือ...

          “เชยขอตัวนะคะ เชยหายมานานแบบนี้ เดี๋ยวผู้จัดการจะหาเรื่องไล่เชยออก” อบเชยพูดรัวเร็ว เธอค่อยๆ ถอยหลังและออกตัววิ่ง จนดีแลนรั้งไว้ไม่ทัน อบเชยเหลือไว้แค่สูทของเขาที่กองอยู่บนพื้น

          “@#%$#@&^^)(*&” ชายหนุ่มสบถยาวเหยียด เขายกมือทึ้งผมบนศีรษะ มองตามจนกระทั่งอบเชยหายลับเข้าไปในสถานที่เดิม

          ดีแลนแค่นยิ้ม เขาคำรามในลำคอ อบเชยหาญกล้ากว่าที่เคยพบกันครั้งสุดท้าย เด็กสาวขี้อายคนนั้นหายไปไหน ที่เขาเห็นตอนนี้ คือผู้หญิงหัวดื้อที่กำลังทำให้เขาโมโหจนแทบกระอักเลือด

          หล่อนโตแล้ว แถมยัง...

          ดีแลนหยุดคิด เขาไม่กล้าคิดต่อ ชายหนุ่มรู้ดี อบเชยเย้ายวนแค่ไหน หล่อนสดสะอาด ผิวผ่องจนเขาแทบลืมหายใจ กลิ่นตัวของหล่อนยังหอมหวานเหมือนเดิม และกลิ่นหอมๆ นั่นแหละที่ทำให้ดีแลนไม่เป็นตัวเอง...เขาพยายามอยู่ห่างหล่อนเพื่อที่จะกดความพลุ่งพล่านเอาไว้ ไม่คิดว่าสถานการณ์ชักพา ทำให้เขากับอบเชยมาเจอกัน ในสภาพกลืนไม่เข้า คายไม่ออก เขาจะทนได้แค่ไหน หากอบเชยยังพยายามยั่วอยู่แบบนี้

          เด็กบ้านั่นคงไม่รู้ตัว เขาอยากปล้ำหล่อน ตั้งแต่อบเชยอายุแค่สิบสี่ปี

          ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ผ่านมาสี่ปี ความรู้สึกนั่นก็ยังเหมือนเดิม

          นัยน์ตาใสแจ๋วของอบเชย ดึงเขาเข้าไปหา เขาอยากกอด อยากทำอะไรแบบที่ผู้หญิงและผู้ชายทำกันในที่ลับตา...แต่เวลานั้นอบเชยมีอายุแค่สิบสี่ปี ดีแลนเลยจำเป็นต้องกันให้อบเชยอยู่ไกลๆ เขาแสดงออกแบบเปิดเผยว่าไม่ชอบให้หล่อนมาวนเวียนอยู่ใกล้ตัว

          ดุ ด่า และแดกดัน จนอบเชยขยาด

          เขาไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้น ทำร้ายอบเชยแค่ไหน หากมีเขาอยู่ อบเชยจะรีบหนี หล่อนแอบมองเขา เขารู้ แต่หากปล่อยให้หล่อนเข้ามาใกล้ๆ เขาเกรงว่าตนเอง...จะกลายเป็นผู้ร้ายบ้ากาม

          และพรหมจรรย์ของอบเชย จะไม่มีวันอยู่มาจนถึงวันนี้

          ดีแลนข่มใจย้อนกลับเข้าไปที่เดิม เขาหยิบสูทที่พื้นขึ้นมาสวมไว้ ได้กลิ่นของอบเชยที่ติดอยู่บนเนื้อผ้า และพยายามทำใจให้สงบตอนที่ทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม เขาพึมพำขอโทษอดัม ที่หายไปนาน “ขอโทษนะอดัม ผมไม่คิดว่าจะมาเจอคนรู้จัก”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status