บทที่1.อบเชย
หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ทะลึ่งพรวด!! เขาทรงตัวยืนเต็มความสูง จ้องหน้าโคโยตี้สาวคนหนึ่งที่คลับแห่งนี้ส่งมาบริการ 1ใน3 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี หล่อนชื่อ อบเชย น้ำทองเด็กสาวที่อยู่บ้านติดกัน รั้วบ้านหล่อนติดกันกับรั้วเขา เพียงแต่...บ้านของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านเขา แถมหล่อนเพิ่งจะมีอายุแค่สิบเก้าปี
“ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่!”
ดีแลนตะคอกเสียงขุ่น จ้องมองเด็กสาวตรงหน้าตาถลน
อบเชยขยุ้มมือกำชายขากางเกงแน่น ห่อตัวจนแทบจะขดเป็นก้อนกลมๆ เธอไม่อยากจะเชื่อโลกจะกลมถึงขนาดนี้? ทำไมน้อ?...ทำไมถึงให้เธอมาเจอกับคนที่ตนเองแอบชอบ ตั้งแต่การเริ่มทำงานครั้งแรก ในตำแหน่งโคโยตี้
“รู้จักกันด้วยรึ?” อดัมถามเสียงสนเท่ห์ หรี่ตามองดีแลนสลับกับสาวน้อยสุดเอ็กซ์ ที่ยืนก้มหน้างุดตรงหน้า
ดีแลนยกมือขึ้นเสยผม ทรงผมเรียบกริบแตกไม่เป็นทรง เนื่องจากตอนนี้เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่ ผิวแก้มร้อนฉ่า และใกล้จะระเบิดเต็มทน
ชายหนุ่มโกรธลมออกหู แก้วหูลั่นวิ้งๆ เขาเจอคนที่ไม่ควรเจอในสถานที่อโคจรแห่งนี้ได้อย่างไร?
ตอนที่มาเจรจาการค้ากับคู่ค้านักดื่ม
อบเชย...แม่เด็กเมื่อวานซืนที่อยู่ข้างบ้านเขา หล่อนโตขึ้นมาก
โตจนเหลือเชื่อ เขาไม่เห็นหล่อนมากี่ปีแล้วนะ? ดีแลนหรี่ตาลง มองอบเชยซ้ำอีกครั้ง
ชายหนุ่มสะบัดใบหน้าแรงๆ เห้ย! มันไม่ใช่เวลามาคิดทบทวนความหลังนะ
ที่ยืนตรงหน้า กับชุดที่เหมือนผ้าขี้ริ้วนี่ คือหล่อนแน่ๆ
“ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่?!!” ขนาดเสียงเพลงดังแสบแก้วหู
เสียงของดีแลนก็ยังดังทะลุแก้วหูเธอมาจนได้ หน้าเขายิ่งกว่ายักษ์วัดแจ้ง สีหน้าแดงสลับกับดำ จนอบเชยเริ่มกลัว
“เชยมาทำงานค่ะ”
เธอยืดอกตอบ แม้จะกลัวจนขาสั่น คนตรงหน้าคือคนอื่นที่ไหน
คน คนนี้อยู่ในใจเธอมาตลอด ไม่ว่าจะอดีต หรือปัจจุบัน
ดีแลนยกมือเท้าสะเอว เขาถอนใจแรงๆ
“แม่เธอรู้ไหม ว่าเธอมาเต้นแร้งเต้นกาอยู่ที่นี่?”
เสียงเคร่งๆ ถามกลับมา แววตาไม่ต่างอะไรกับใบมีดโกนจ้องหน้าเธอ
อบเชยกำมือกับชายเสื้อ อุ้งมือชื่นไปด้วยเหงื่อ เธอจะตอบเขาแบบไหนที่จะปลอดภัยกับตัวเองที่สุด
หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ แม่ไม่เคยวุ่นวายกับงานที่เธอทำ เทียนไว้ใจเธอ และเธอก็ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับท่านเสียใจ อบเชยต้องการทำงานเพื่อผ่อนภาระที่มารดาแบกไว้ การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่บุตรสาวยังอยู่ในวัยเรียน การทำงานขายขนมอย่างเดียว ไม่พอกบค่าใช้จ่าย อบเชยไม่อยากให้แม่เหนื่อย เธอเลยช่วยทำงานทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่อาชีพที่ผู้หญิงดีๆ จะพยายามไม่เฉียดใกล้ แต่เธอแน่ใจ เธอขายแค่แรงกาย...อบเชยเลยไม่เคยอาย...
ดีแลนดันกรอบแว่นที่ปลายจมูกแรงๆ เขาถอนใจเฮือกใหญ่ๆ คงต้องจัดการแม่สาวตาใสตรงหน้าให้หลาบจำ หล่อนไม่สมควรมาอยู่ที่นี่ หล่อนไม่รู้หรือยังไง รอบตัวของหล่อน มีแต่เสือหิว ที่จ้องจะตะครุบ!!
“ขอเวลาห้านาที เดี๋ยวผมมา” ชายหนุ่มกล่าวเสียงกดต่ำ
ก่อนจะจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้า และแทบจะกระชากหล่อนให้เดินตามตนเองมา
“ปล่อยเชยนะคะคุณดี เชยกำลังทำงานค่ะ!” หญิงสาวขืนตัวไว้ เธอโก่งตัวพยายามต้านแรงรั้ง
ดีแลนหมุนตัวมามองตาขวาง เขาพูดเสียงแหบต่ำ “ตามมาดีๆ ยัยเด็กบ้า หากเธอไม่อยากถูกฉันจับแก้ผ้าตรงนี้”
ชายหนุ่มลดสายตามองชุดแสนหมิ่นเหม่ที่อบเชยสวมไว้ เศษผ้าพวกนั้น แทบจะปิดบังความอะร้าอร่ามของหล่อนไม่ได้ ทรวงอกแตกผลิพุ่งชี้หน้าเขา กางเกงบ้าๆ นั้น เน้นรูปรอยของตรงเป้ากางเกงของหล่อน จนคนมองแทบเลือดกำเดาไหล หล่อนไม่รู้ตัวหรือไง? ไอ้ชุดที่หล่อมสวม ไม่ต่างอะไรเศษผ้าขี้ริ้ว มันเล็กและสั้น จนปิดบังอะไรๆ บนตัวหล่อนไม่ได้เลย
“แต่...”
“ไม่มีแต่ทั้งนั้น อบเชย!” ดีแลนเน้นเสียง น้ำเสียงนี้ อบเชยรู้ดี คนตรงหน้ากำลังโกรธจัด เพียงแต่เธอไม่เข้าใจ เขาโกรธอะไรล่ะ?
อบเชยเดินคอตกตามแรงลากที่ฝืนไม่ได้ไป
ดีแลนพาอบเชยเดินลัดเลาะผ่านนักเที่ยวกลางคืน ที่กำลังสนุกกับเสียงเพลงที่มีสาวสวยเต้นนำ ระหว่างที่เขาและเธอเดินฝ่ากลุ่มคนออกมาด้านนอก มีสายตาของนักเที่ยวหลายคนที่เป็นเพศชายมองตาม คนหน้าดุที่เดินนำต้องถลึงตาใส่ เมื่อดีแลนรู้ดี ไอ้พวกเวรนั่น กำลังมองอะไรอยู่ ชายหนุ่มเกือบสติแตก ดีทว่า... เดินออกมาพ้นสถานที่แห่งนั้นเสียก่อน
สูทสีน้ำเงินเข้มผ้าไหมอย่างดีถูกโยนใส่หน้าอบเชย ตามด้วยคำสั่งแสนกระด้าง ที่อบเชยจำใจต้องทำตาม
“ใส่ซะ หากเธอไม่อยากถูกข่มขืน”
อบเชยแย้งในใจ เธออยู่กับดีแลนสองคน ใครล่ะจะมาข่มขืนเธอ เพราะคนตรงหน้าคงไม่ทำแน่ๆ เขาเกลียดเธอ...ข้อนี้อบเชยจำขึ้นใจ แต่...ใครจะกล้าฝืนความต้องการของเขาได้ล่ะ ดีแลนเป็นบุตรชายของผู้มีพระคุณของเธอ มารดาของเขาเป็นอดีตนายจ้างของแม่ ความเมตตาที่คนบ้านหวังมอบให้ อบเชยหรือจะกล้าเนรคุณ มือสั่นระริกหยิบสูทผ้าเนื้อเนียนขึ้นมาสวมคลุมกายช้าๆ ยืนก้มหน้าน้ำตาคลอเบ้า รู้สึกสังเวชตัวเอง แม้คนตรงหน้าจะไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
ดีแลนข่มใจให้สงบ เขาใช้เวลามากกว่าสิบนาที ชายหนุ่มล้วงบุหรี่ออกมาจากซอกกระเป๋า และนี่เป็นครั้งแรกที่อบเชยได้เห็น คนตรงหน้าสูบบุหรี่
หญิงสาวชำเรืองมอง ผู้ชายตรงหน้าที่มีท่าทีเงียบขรึม เขาพ่นควันบุหรี่ให้ลอยไปในอากาศ ท่าทางพลุ่งพล่านเมื่อสักครู่ใหญ่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่...เธอกับใจสั่น เพราะท่าทางสุดเซ็กซี่ของเขาอีกนั่นแหละ
อบเชยอยากยกมือตบศีรษะตนเองแรงๆ เธอหลงใหล และแอบชอบดีแลนมาตั้งแต่ตนเองเริ่มเป็นสาว เขาเป็นผู้ชายในฝันของใครๆ หลายคน และใครๆ เหล่านั้น มีเธอรวมอยู่ด้วย แต่ก็ได้แค่ฝัน...เพราะดีแลนไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นทายาทหวัง ตระกูลดังที่ร่ำรวยจนเปรียบไม่ได้ เมื่อเทียบกับตนเอง เห้อ!! แม้จะบ้านเธอกับคนตรงหน้าจะอยู่ใกล้กัน ในขณะที่บ้านของดีแลนไม่ต่างอะไรกับปราสาท...บ้านของเธอก็คงคล้ายๆ เล้าหมู ที่ดินของเธอยังได้รับความกรุณาของคนตระกูลนั้น เธอกับแม่ ได้รับความอนุเคราะห์จากคนตระกูลหวัง ให้ปลูกสร้างและอาศัยอยู่ได้ แต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้พวกเขาด้วย
ยามค่ำคืน เด็กสาวทำได้แค่เงยหน้ามองพระจันทร์ และฝันลมๆ แร้งๆ ตามประสาสาวช่างเพ้อ
ฝันว่าวันหนึ่ง เจ้าชายบนปราสาทหลังนั้น จะทอดสายตามาที่ตนเองบ้าง และมันก็เป็นแค่ความฝัน เพราะยิ่งนานวัน...ระยะห่างของเธอกับดีแลน ก็ยิ่งห่างกันไปทุกทีๆ เธอได้แต่แอบมอง ได้เห็นเขาเพียงผ่านๆ กำแพงสูงชันนั่นไม่ใช่อุปสรรคหรอก แต่ความจริงต่างหากล่ะ ที่ทำให้เธอต้องเจียมตน เขาคือเจ้าชาย และเธอคือเศษฝุ่นที่ปลิวอยู่รอบกายเขา สัมผัสได้ แต่เป็นเจ้าของไม่ได้ “อะไรดลใจให้เธอมาทำงานที่นี่หะ ยัยเชย!” เสียงแหบห้าวของดีแลนดึงเธอออกมาจากความคิดวกวน อบเชยเงยหน้ามอง เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองดีแลนเหมือนกำลังละเมอ มือแข็งแรงเอื้อมมาจับบ่า และหากอบเชยมีสติ เธอจะเห็นว่า...ดีแลนสะดุ้ง! เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแผดเสียงดังลั่น “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงยัยเด็กบ้า!!” “เชยได้ยินแล้วค่ะ พูดเบาๆ ก็ได้ คุณดีตะโกนจนเชยหูจะแตก” หญิงสาวบ่นอุบ ก้มหน้าหลบตาเขาเหมือนเดิม เมื่อสายตาของดีแลนเหมือนมีเปลวไฟแลบออกมา และไฟนั่นแทบจะเผาเธอจนมอดไหม้ ดีแลนปล่อยมือ เขาชำเรืองมองอบเชย และยังยืนหันข้างให้เธอเสียด้วย เสียงถอนลมหายใจแรงๆ ดังจนอบเชยแ
เปลือกตาของดีแลนหลุบลง เขายังไม่พร้อมที่จะมองไปรอบตัว เขากลัวว่าความโกรธของตนเองจะกลับมาอีก หากเขาเห็นอบเชยตอนนี้ อดัมไหวไหล่ “คุณรู้จักกับเธอ” “อืม” ดีแลนครางตอบ ก่อนจะรีบลืมตาขึ้นเมื่อ… “เธอสวยดีนะ ผมคิดว่าเธอคงจะฮอตแน่!!” เสียงเป่าปาก เสียงโห่ฮาของบรรดาผู้ชายวัยฉกรรจ์ดังขึ้นรอบตัว ดีแลนปรือตาขึ้น เขามองหน้าอดัม ก่อนจะมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปบนเวที ตูม บรึ้ม! อารมณ์ที่คงที่ของดีแลนพุ่งสูงลิบ ผิวแก้มของเขาร้อนฉ่า เมื่อมองเห็นอบเชยบนเวทียกสูง ชุดที่หล่อนใส่ก็ยังเป็นชุดเดิม ชุดที่ดีแลนแค่นว่ามันไม่ต่างอะไรกับเศษผ้า แถมตอนนี้...อบเชยกำลังเต้น ลีลาของหล่อนดีแลนได้แต่อ้าปากค้าง ดีแลนไม่เคยรู้ อบเชยมีพื้นฐานเรื่องการเต้น หล่อนไปเรียนมาจากไหน ลีลาหล่อนไม่เบาเลยกับการโยกย้าย ส่ายเอวยั่วสายตาผู้ชาย และผู้ชายที่กำลังยืนมองอยู่ชื่นชอบ เมื่อแต่ละคนที่ยืนแหงนหน้ามอง พากันโห่ร้องแทบทั้งนั้น นี่อบเชยไปหัดเต้นท่าทางแบบนั้นมาจากไหนวะ?!! ดีแลนควานหาแก้วบรั่นดีมาดื่มแก้กระหาย เขาอ้าปากค้างนานเกินไปจนคอแห้ง ชายหนุ่มดื่มรวดเดีย
บทที่2.One night stand น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลออกมาจากหางตา อบเชยยกหลังมือขึ้นปาดทิ้ง เธอรีบเก็บของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าเมื่อเวลางานสิ้นสุดลง หากมัวชักช้าเธอจะไม่ทันรถเมล์เที่ยวสุดท้าย และหากเป็นเช่นนั้น ค่าแรงวันนี้คงไม่มีเหลือเก็บ เพราะอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ตอนดึกๆ เช่นนี้ แพงจนค่าแรงเธอแทบไม่เหลือ ลิปสติกแท่งเดียวที่เหลือบนโต๊ะถูกโยนลงกระเป๋า อบเชยฉวยเสื้อคลุมตัวใหญ่มาคลุมไหล่ กำลังจะเดินออกจากห้อง ใครบางคนก็ดันประตูให้เปิดเข้ามาเสียก่อน “หนูอบ...อยู่พอดี ช่วยพี่หน่อยสิ” ฉุน บริกรคนนั้นนั่นเอง มันซุ่มรอจังหวะที่ปลอดคน และรีบเข้ามาหาอบเชย ก่อนที่เจ้าหล่อนจะกลับบ้านไปเสียก่อน อบเชยขมวดคิ้ว...เธอคุ้นหน้า แต่ไม่ได้สนิทด้วย เธอเพิ่งมาทำงานวันแรก ยังไม่รู้จักคนมาก และยังไม่อยากสร้างความรู้สึกไม่ดีกับเพื่อนร่วมงาน “ช่วยทำอะไรเหรอพี่ เชยต้องรีบไปก่อนที่รถจะหมดค่ะ” คนรอบตัวเรียกอบเชยว่า ‘หนูอบ’ ชื่อตามที่เธอแนะนำ มีคนเดียวเท่านั้นที่เรียกเธอว่า ‘เชย’ และเขาคือดีแลน “ผู้ชายคนนั้นหน่ะ คนที่หนูอบเข้าไปคุยด้วย” ฉุนรีบอธิบาย
มันเหมือนไฟฟ้าในห้องดับพรึ่บลง!! เหมือนเวลาทั้งโลกหยุดหมุนลงชั่วขณะ อบเชยนอนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกโต จ้องมองผู้ชายที่อุกอาจถึงขนาดปล้นจูบแรกของเธอไปแบบไม่ให้ตั้งตัว เรียวปากสีเข้มทาบทับลงมาแรงๆ เขาเอียงหน้า พยายามบดแยกให้อบเชยยอมเผยอปากตอบรับ กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกโชยเข้าจมูกเธอ ดีแลนคงดื่มหนัก จนทำให้เขาขาดสติ จนกระทั่งเขาเผลอตัวมาจูบกับคนแบบเธอ อบเชยพยายามขัดขืน แต่เมื่อนึกได้ คนเมามักจะจำไม่ได้ตอนที่สร่างเมาแล้ว จูบ...ที่ตนเองได้แต่ฝันและแอบมโนเอาเองยามเหงาตามประสาสาวชั่งฝัน มันห่างไกลเหลือเกินกับที่รู้มา บทบรรยายในหนังสือนวนิยายที่เคยอ่าน บรรยายเสียจนอบเชยเคลิ้มฝัน แต่เมื่อตนเองมีบทเรียนแรกเกี่ยวกับจูบ แถมยังเป็นจูบกับคนที่แอบเก็บไว้ในใจ มันไม่เหมือนที่ฝันไว้จนอบเชยแอบผิดหวังนิดๆ คนเมาที่ครองสติไม่อยู่ แถมซ้ำฤทธิ์ยายังบีบบังคับให้ยอมเผยความปรารถนาลึกๆ ในใจออกมา กลีบปากนุ่มนิ่มที่ดีแลนเวียนดูดซับความหวานอยู่นี่ หวานล้ำยิ่งกว่าความหวานของทุกสิ่งบนโลก ขนาดน้ำผึ้งรวงเดือนห้าที่ว่าหวานยังไม่เท่า ดีแลนตะปี้ตะบันจูบ...เขาเถลปากไปทั่ว และเมื่อเถลเลยไปยังซอกคอ ริ
บทที่3.มันเป็นแค่ความฝันอย่างนั้นเหรอ? อบเชยนอนนิ่งๆ หลังพายุพิศวาสสงบลง เธอนอนฟังเสียงลมหายใจของดีแลน จนแน่ใจว่าคนข้างตัวหลับสนิทไปแล้ว อบเชยค่อยๆ ดันแขนของดีแลนที่พาดอยู่บนเอวของตนเองออกไป เธอรีบสอดหมอนใบใหญ่แทนที่เรือนกายของเธอ เพราะคนตัวใหญ่ที่หลับสนิททำท่าฮึดฮัด จนกระทั่งได้กอดหมอนนุ่มๆ นั่น เขารั้งไปกอดกกไว้แนบอก ดีแลนจึงมีที่ท่าสงบลง หญิงสาวพลิกตัวหนี ทิ้งตัวลงด้านข้างเตียง พลั่ก! แม้พื้นจะปูด้วยพรมเนื้อหนาฟู แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวอบเชยมีแค่เนื้อแท้ปราศจากเสื้อผ้าหรืออาภรณ์ชิ้นอื่น อบเชยเจ็บจนน้ำตาแทบร่วง เมื่อสะโพกกลมกลึงกระแทกกับพื้นแรงๆ เธอรีบยกมือตะปบปาก กลั้นเสียงร้องไว้แค่ในลำคอ เพราะกลัวว่าเสียงของตนเองจะทำให้ดีแลนรู้สึกตัว อบเชยข่มความเจ็บ ข่มความอาย เธอควานหาเสื้อผ้าของตนเองจนเจอ หญิงสาวรีบสวมเสื้อผ้าลวกๆ แอบสูดปากเบาๆ เมื่อร่างกายขยับไปมา ความเจ็บจากกึ่งกลางร่างกายก็กระตุ้นเตือน น้ำตาเม็ดเล็กๆ ไหลริน จนอบเชยต้องรีบใช้หลังมือปาดคราบน้ำตาทิ้ง เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เธอมานั่งเสียใจ ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เสี
สองขาพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขากดโทรศัพท์พลางหย่อนตัวแช่ลงในอ่าง “ซี๊ดดดด!” ทรงพลแบนโทรศัพท์ส่วนตัวออกห่าง เขาได้ยินเสียงแปลกๆ ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อคนที่โทรศัพท์มาหาเขา คือเจ้านายจอมเคร่งครัด ดีแลนสะดุ้ง เมื่อหย่อนตัวลงน้ำ ความเจ็บแสบพุ่งเข้าใส่ จนต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน กระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้าเฉลยให้ดีแลนรู้ รอยข่วนยาวๆ กลางหลัง นั่นคือสาเหตุที่เขาแสบ แผลสดๆ เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ดีแลนขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เขลาจนไม่รู้ รอยที่เกิดขึ้นบนแผ่นหลังของเขาเกิดขึ้นได้อย่างไร ดีแลนกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขาไม่อยากเดา ชายหนุ่มก้มหน้าลงมอง อวัยวะเบื้องล่าง เขาเกือบล้มหัวขมำ เพราะคิดอะไรบางอย่างได้ “เจ้านายครับ เจ้านายครับ!!” เสียงใครบางคนตะโกนเรียก ดีแลนลดตัวลงนั่ง ส่งเสียงแหบแห้งตอบคนปลายสายไป “มีอะไรรึทรงพล?” เมื่อเจ้านายถามแบบนั้น ลูกน้องที่ดีจะตอบอะไรได้นอกจาก “เปล่าครับ ผมเห็นเจ้านายเงียบ เลยถามกลับไปแค่นั้นครับ” “ฉันคงไม่เข้าบริษัทนะ...วันนี้” ดีแลนกรอกเสียงบอก เขาจ้องหน้าขาตัวเอง เหมือนมีอะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม เขาหลับสนิทหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้ายามหลับอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มโสดรุ่นเดียวกัน แต่ยามใดก็ตามที่ดีแลนตื่น เขาจะเคร่งขรึม และเป็นที่เกรงขามของคนรอบตัว“วันนี้ทำไมตื่นสายจัง...แล้วไม่ไปทำงานเรอะ?”เทียนถามบุตรสาว ที่กำลังก้มหน้าก้มตากินมื้อเย็น โดยที่ยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เทียนไม่ได้ถามบุตรสาว หลังจากช่วงเช้าอบเชยไม่ได้ตื่นมาช่วยเหมือนทุกวัน“เชยไม่ไปทำงานที่นั่นแล้วค่ะแม่” อบเชยตอบ รีบพุ้ยข้าวใส่ปาก ดันตัวลุกขึ้นยืน เมื่อข้าวหมดจาน“ทำไมล่ะ...” เทียนซักต่อ อบเชยไม่ใช่คนท้อถอย ต้องมีอะไรทำให้อบเชยไม่ไปทำงาน ทั้งที่เพิ่งไปทำได้แค่วันเดียว“มันเลิกดึกค่ะแม่...” คำตอบของอบเชยเทียนเลยคลายความสงสัยอีกอย่างนางก็ไม่อยากให้บุตรสาวไปทำงานกลางค่ำกลางคืน เมื่อมีแต่อันตรายอยู่รอบตัว“ดีแล้วล่ะ หางานกลางวันทำดีกว่า แม่จะได้ไม่ต้องนอนผวาเพราะห่วงหนูจนนอนหลับไม่สนิท” เทียนบ่น นางเช็ดใบตองระหว่างที่คุยกับอบเชย“เดี๋ยวเชยออกไปข้างนอกนะแม่ เชยจะออกไปหางานใกล้ๆ บ้านทำ”อบเชยเป็นคนขยัน เธอไม่เคยอยู่นิ่งๆ มีแรงเท่าไหร่ก็ทุ่มให้กับงาน และการเรียนก็ไม่เสียด้วย“อืม...อย่ากล
ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะกลับบ้าน แต่สมองกับความคุ้นเคยชักนำมา ดีแลนลดกระจก ส่งยิ้มให้คนดูแลประตูหน้า ชายผู้นั้นรีบกุลีกุจอเปิดประตูรั้วให้ เมื่อมองเห็นเจ้าของรถยนต์หรูถนัดตาถนนคอนกรีตทอดยาวตั้งแต่รั้วเหล็ก จนถึงโถงประตูบ้าน ทางเดินสีขาวสะอาดเพราะโรยไว้ด้วยก้อนกรวดสีขาว ขนาบกับถนนคอนกรีตที่กว้างพอให้รถยนต์สองคันวิ่งสวนกันได้ ตัวน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าโถงประตู กามเทพตัวน้อยยืนแอ่นฉี่ ปล่อยสายน้ำเย็นใสใสลงมาในอ่างใบใหญ่ที่มีปลาคราฟแหวกว่ายอยู่นับสิบตัว ดีแลนก้าวลงมายืนด้านข้าง เขามองไปรอบๆ ตัวด้วยความคิดถึง ดีแลนไม่ได้มาเหยียบบ้านใหญ่หลังนี้นานแล้ว เพราะเขามัวยุ่งๆ กับการทำงาน ประกอบกับ...ต้องการที่จะหลบใครบางคนมีคนรับใช้โผล่หน้าออกมามอง แม้จะเป็นยามวิกาลที่สมาชิกส่วนใหญ่หลับใหลไปบ้างแล้ว“คุณหนู” เสียงร้องทักผสมความตื่นเต้นยินดีเนื่องจากเจ้านายน้อยของบ้าน แทบจะไม่โผล่มาให้เห็นเลย“คุณพ่อ คุณแม่หลับหรือยัง?” ดีแลนถามถึงบิดา มารดา“คุณท่านใหญ่ยังไม่นอนค่ะ อยู่ที่โถงบ้าน ส่วนคุณผู้หญิงคงกำลังเตรียมมื้อเช้าอยู่ในครัว”ถึงจะมีแม่บ้าน แต่สิ่งที่ปรารถนาทำเป็นประจำ คือการตื่นเช้ามาทำอาหารให้สาม