Share

   บทที่1.วิวาห์พาฝัน 2

หญิงสาวไม่เคยเกี่ยงงาน เธอมาทำงานในรีสอร์ตในฐานะเลขานุการกึ่งผู้ช่วยของรินลดา แต่งานอื่นๆ เธอก็ทำได้ ไม่เคยปฏิเสธแถมอาสาด้วยความเต็มใจ 2เดือนในรีสอร์ตแห่งนี้ ทำให้เธอผ่อนคลายและดีขึ้น จากความเมตตาของคนรอบข้าง

“ได้ค่ะ ที่ร้านอาหารใช่ไหมคะ บุษจะได้รีบไปเลย” ถังขยะถูกวางลงข้างตัว เธอเช็ดมือกับชายเสื้อ เงยหน้าขึ้นยิ้มเผล่

“เปล่าจ้ะ ที่งานข้างล่าง...แค่ช่วงสั้นๆ ก่อนที่ตัวจริงจะมาถึง...เริ่มมีแขกทยอยมาแล้ว แต่คนที่จะบริการมีไม่พอ คุณรินเลยอยากให้บุษลงไปช่วยแก้ขัดไว้ก่อน”

ใจหายวูบ!! คือสิ่งแรกที่บุษบันรู้สึก หญิงสาวยิ้มกร่อย ไม่กล้าปฏิเสธ แต่มันเป็นการฝืนตัวเองสุดๆ เมื่อความตั้งใจของบุษบัน คือเธอจะไม่เฉียดไปใกล้ชายหาด เพื่อป้องกันใจตัวเอง เธอไม่ได้เจ็บช้ำเพราะอดีตคนรัก กำลังประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าผู้หญิงที่เขาเลือกไม่ใช่เธอ แต่เธอสมเพชตัวเอง สมเพชความโง่ที่หลงบูชานักรบมาช้านาน โดยไม่รู้ว่าเนื้อแท้ของชายผู้นั้น น่าขยะแขยงเสียจนสุดที่จะรับรู้

“ค่ะ...” เมื่อเลี่ยงไม่ได้ เธอก็จำต้องทำ แต่จะพยายามที่สุดไม่ให้เจ้าของงานรู้ว่าเป็นตนเอง

“แค่ชั่วโมงเดียวจ้ะ ก่อนที่ทีมงานจะเข้ามาเปลี่ยน ฝากด้วยนะบุษ แขกชุดนี้กระเป๋าหนักทุกคน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด...เราคงมีงานแบบนี้มาอีกหลายงาน เมื่อกษิดิศชญาธรเขามีคนรู้จักเยอะ”

สาวใหญ่ยิ้มหวาน หล่อนเดินจากไปหลังสั่งงานบุษบัน รินลดาวางใจหญิงสาว เพราะนับตั้งแต่วันแรกจนถึงเวลานี้ บุษบันทำงานดีเกินตำแหน่ง

บุษบันสูดลมหายใจลึกๆ เธอเดินกลับห้องพักตัวเองก่อนที่จะเลยลงไปที่หาด เพื่อปกปิดใบหน้า อำพรางตัวจากสายตาคนอื่น ไม่ใช่กลัวการประจันหน้า เธอแค่ไม่อยากก่อความวุ่นวาย เพราะภารตีไม่เคยหยุดที่จะเสียดสีหากเจอเธอตรงๆ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นชิงชังอะไรเธอนัก ทั้งๆ ที่เธอก็อยู่ในส่วนของเธอ ไม่เคยไปก้าวก่ายในส่วนของเจ้าหล่อนเลยสักนิด

ผมสลวยถูกถักเป็นเปีย ซ่อนความเงางามไว้ด้วยหมวกฟาง แว่นตาแฟชั่นที่แพรวนราลืมทิ้งไว้ ถูกใช้บังตาอีกชั้น บุษบันเอียงคอมองตัวเองในกระจก เธอยิ้มเศร้าๆ ก่อนจะเปิดประตูห้อง ออกไปเผชิญหน้ากับความจริง...และความรวดร้าวที่รออยู่เบื้องหน้า

เอาเข้าจริงๆ บุษบันกลับมองภาพความชื่นมื่นด้วยความรู้สึกชาๆ มันไม่ได้เจ็บลึกแบบที่เธอกลัว เมื่อได้เห็นหน้ากากที่นักรบฉาบหน้าไว้หลอกสายตาคนอื่น เธอกลับนึกขำขึ้นมาเสียแบบนั้น ดังนั้นจึงมีรอยยิ้มหยันๆ แต้มมุมปากของบุษบันตลอดช่วงที่เธอทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา

แต่ที่เธอไม่รู้...ตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้ชายคนหนึ่ง เขาจับตามองเธอ นับตั้งแต่ที่หลานสาวกระซิบบอก เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น หากบุษบันนึกอยากจะป่วน

นรสิงห์ไม่สงสัยเลยว่าทำไมผู้ชายอย่างนักรบถึงไม่คิดจะปล่อยมือจากผู้หญิงคนนั้นง่ายๆ

ใต้สิ่งที่หล่อนอำพรางไว้ คือความงดงามที่แทบไม่มีที่ติ หากเขาไม่รู้มาก่อนว่าผู้หญิงอย่างบุษบันเป็นเช่นไร นรสิงห์ ก็อาจจะสนใจหล่อน ตามวิสัยของภมรหนุ่ม

“เธอว่ามั้ย? เหมือนเจ้าบ่าวจะฝืนๆ ยังไงไม่รู้”

เสียงกระซิบกระซาบของกลุ่มสาวโสดกลุ่มย่อมๆ ที่รวมตัวยืนอยู่ไม่ไกลจากที่เธอยืนให้บริการ

“ไม่ฝืนได้ยังไง ใครจะไปทนยัยตีได้ หล่อนน่ะ ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน เอาแต่ใจสุดๆ แล้วสุภาพบุรุษอย่างคุณนักรบหรือจะทนหล่อนไหว ได้ข่าวว่า...รู้แล้วเหยียบนะยะ ไม่อย่างนั้นทีหลังฉันจะไม่เล่าให้ฟังอีก” ต้นตอข่าวลือลดเสียงลง หล่อนย้ำแล้ว ย้ำอีก ทั้งๆ ที่อยากจะเปิดปากพูดใจจะขาด

“ว่ามาเลย ใช่ที่ฉันได้ยินมามั้ยแก!!” ลูกคู่รีบสนับสนุน

“ก็งานนี้น่ะ เจ้าสาวที่ใครๆ ก็ว่าโชคดี เป็นคนเนรมิตขึ้นมาเอง เจ้าบ่าวไม่ต้องออกสตางค์สักบาท”

บุษบันไม่ได้เป็นคนไม่มีมารยาท เธอไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แค่อยู่ในรัศมีที่ได้ยินเต็มสองหู

“อันนี้ไม่รู้จริงหรือไม่จริง แต่ถ้าเป็นความจริง แสดงว่าข่าวเรื่องไชยยะนันกลวงก็เป็นข่าวจริงสิ”

“หูยยย หล่อ หรู โปรไฟล์ดี มาดสุขุม ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ถ้ามีแต่ตัวก็ไม่ไหวนะเธอ”

หล่อนยกมือปิดปาก หัวเราะคิกคัก เพราะต่อให้นักรบเป็นผู้ชายในฝัน หากกระเป๋าใส่สตางค์ของเขาเบาหวิว ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจเขาหรอก

“ยัยตีคงไม่แคร์หร๊อก!! หล่อนอู้ฟู่รวยเหลือกินเหลือใช้ กะอีแค่ซื้อ ‘ผัว’ สักคน คงไม่ทำให้สมบัติหล่อนยุบยอบลงไปเท่าใดหร๊อกจ้า”

เป็นการนินทาระยะเผาขน เมื่อคู่บ่าว สาว ยืนอยู่เยื้องๆ คู่รักที่มีความสุขยิ้มเยือน หารู้ไม่ว่า รอบๆ ตัวเขา มีแต่เสียงนินทา บุษบันถอนใจ เธอเดินเลี่ยงหลบ เมื่อมองเห็นคุณรินลดาโบกมือเรียกอีกครั้ง ถาดใส่เครื่องดื่มของเธอพร่องลงไปเยอะ...เมื่อแต่ละคนที่มาร่วมงาน ต่างร่วมเฉลิมฉลองกันแบบไม่อั้น เมื่อเจ้าของงานใจป้ำเปย์ไม่ยั้งเหมือนกัน

“เดี๋ยว” เสียงห้าวร้องเรียกเธอ บุษบันหันไปยิ้มให้ เธอยื่นถาดไปตรงหน้าเขา ก่อนจะสะดุดลมหายใจตัวเอง เพราะดวงตาคู่คมนั่น ตรึงเธอจนกลายเป็นหุ่นยนต์ไปชั่วขณะ

ตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาว บุษบันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่มีดวงตาดูลึกลับและแปลความหมายไม่ออก เหมือนคนตรงหน้าสักนิด

ผู้ชายตัวใหญ่ ไหล่กว้าง ตัวสูงเหมือนนักกีฬา เขาสวมสูทผ่าหน้าแบบไร้กระดุม ใต้เสื้อสูทมีเสื้อยืดแนบเนื้อสีขาว เผยให้เห็นลอนกล้ามพอๆ กับนายแบบดังบางคนที่ถ่ายรูปแนวเซ็กซี่ ปลายคางของชายหนุ่มมีไรเคราจางๆ จมูกของเขาโด่งคม รับกับดวงตาคมกริบ เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ รีบดึงสติของตนเองกลับมา กะพริบเปลือกตาปริบๆ เมื่อเขากลับยืนเฉย ไม่ได้หยิบเครื่องดื่มในถาดที่มีไว้บริการ

“เออ...”

“เธอต้องการอะไรบุษบัน ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?”

คำถามของเขาทำให้บุษบันตกใจ เธอผงะถอยหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เมื่อช้อนสายขึ้นมองเขาตรงๆ

“แล้วทำไมบุษจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะคะ?” เธอย้อนถามเขา หากเขารู้จักเธอ แล้วทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้น

นรสิงห์หรี่เปลือกตาลง เขาประเมินผู้หญิงตรงหน้าต่ำไป หล่อนดูไม่ยี่หระ แม้จะยืนอยู่ในงานสำคัญของ ‘แฟนเก่า’

“ถ้าเธอไม่ก่อปัญหาก็แล้วไปเถอะ!! เธอจะอยู่ที่ไหนก็สิทธิ์ของเธอบุษบัน แต่...หากความวุ่นวายนั้น สาเหตุมาจากเธอละก็...เธอกับฉันคงได้เจอกันอีกแน่” ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาเย็นเฉียบ

หญิงสาวไหวไหล่ให้กับคำขู่ที่แสนน่ารังเกียจนั่น เขาคิดว่าเธอจะทำอะไรเหรอ...ถึงเธอจะถูกทิ้ง!! แต่บุษบันก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น เธอปลงได้กับความจอมปลอมที่นักรบโยนใส่ บางครั้งเธอยังนึกเวทนาภารตีด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนั้นจะเสแสร้งและปลอกลอกหล่อนไปอีกเท่าใด กับการจมไม่ลงของเขาเอง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...บุษขอตัวนะคะ”

หญิงสาวค้อมตัวลง เธอเดินจากไป พร้อมกับความระแวง เมื่อนรสิงห์ไม่คิดว่า บุษบันจะมาอย่างมิตร

“บุษรู้จักคุณสิงห์ด้วยหรือจ้ะ?” รินลดาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มด้านหลังลูกน้องสาวสวย เธอถามหญิงสาวตรงหน้าเพราะอยากรู้จริงๆ

“ใครคะ? อ้อ...ผู้ชายคนนั้น... บุษไม่รู้จักหรอกค่ะ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าเธอก็วันนี้เอง”

หญิงสาวส่งต่อถาดเครื่องดื่มให้กับพนักงานที่รับช่วงต่อ เธอตอบแก้ความกังขาของนายจ้าง

“เห็นคุยกันตั้งนาน คุณรินก็คิดว่าบุษรู้จักเธอเสียอีก”

เจ้าของรีสอร์ตเปรยลอยๆ “บุษอีกทีนะ คืนนี้คุณรินมีงานด่วน ต้องบินไปกรุงเทพฯ ดังนั้น อยากให้บุษช่วยประสานงานแทนคุณรินที”

สาวใหญ่กล่าวเซ็งๆ แทนที่จะได้อยู่ดูบรรยากาศยามค่ำ ของงานวิวาห์สุดหรู เธอกลับมีงานต้องบินด่วนเสียอย่างนั้นเอง

“จะดีเหรอคะคุณริน” หญิงสาวยิ้มแหยๆ เธอพยายามที่สุดที่จะอยู่ให้ห่างงานนี้ แต่ทำไมโชคชะตาเล่นตลกเสียเหลือเกิน ยิ่งวิ่งหนี กลับยิ่งขยับเข้าไปพัวพัน

“คุณรินไว้ใจบุษนะ เอาน่า... นึกว่าเป็นการทดลองคุมงานครั้งแรกของบุษด้วย” รินลดายิ้มให้กำลังใจ เธอไม่รู้ว่าบุษบันมีความหลังกับคนเหล่านั้น

“ชุดที่จะใส่อยู่ในห้องคุณรินนะ ไซส์บุษกับคุณรินน่าจะใกล้เคียงกัน คุณรินอนุญาต... อย่าให้เสียชื่อล่ะ”

นายสาวกล่าวให้กำลังใจ ก่อนจะเดินไปอีกทาง เธอหมุนตัวมาโบกมือให้บุษบัน...

“เห้อ...” เสียงถอนหายใจแรงๆ หลังนายจ้างสาว กระโดดขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อจะไปยังสนามบิน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status