Share

บทที่4.ผิดแผน... 4

บุษบันยิ้มแฉ่ง เมื่อหันมาท้าทายแพรวนรา แต่ดันตรงกับจังหวะที่สาวมดคันไฟเขาเรากำลังหน้ามืดพอดี

          สาวแกร่งฉบับพกได้ เปิดประตูด้านข้างเคาน์เตอร์ออกมายืนยิ้มแป้น ไหวไหล่ แบมือออกข้างๆ ตัวเหมือนต้องการยั่วเพื่อนสาวให้เต้น

          บุษบันยกหัวแม่มือให้ เธอแอบยกมือปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะ เมื่อแพรวนราเดินหน้ามึน ตรงไปหาสองหนุ่มที่เป็นหัวข้อสนทนาของเธอ

          “รับอะไรเพิ่มมั้ยคะ?”

          หญิงสาวตีมึน เดินเข้าไปแทรกถาม

          หิรัญเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง “คุณเป็นพนักงานในรีสอร์ตนี้ด้วยเหรอครับ”

          เพราะการแต่งตัวของแพรวนรา ไม่เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ หิรัญเลยอดไม่ได้ที่จะย้อนถาม

          หญิงสาวพยักหน้ารับ “ใช่ก็ได้ ไม่ใช่ก็ได้เหมือนกันค่ะ แต่คุณคนนี้หน้าคุ้นๆ” หญิงสาวรับคำกวนๆ เธอหันไปให้ความสนใจกับนรสิงห์ มากกว่าคนที่ไม่ชอบขี้หน้า

          “ผมจำคุณแพรวได้ครับ เราเจอกันบ่อยเหมือนกัน รู้สึกเหมือนว่าผลิตภัณฑ์ของเดอะเพรสหลายชิ้น บริษัทคุณแพรวจะออกแบบให้”

          นรสิงห์ยิ้มรับ เขารู้จักกับรินลดาเป็นการส่วนตัว เลยพลอยทำให้รู้จัก แพรวนราไปด้วย และเป็นเรื่องบังเอิญที่งานของเขาเกี่ยวพันกับเธอ เพียงแต่ยังไม่ได้รู้จักกันเป็นทางการ

          “เดอะเพรส คุณสิงห์เหรอคะ?” หญิงสาวแสร้งตีมึน

          “ครับใช่... ผมนรสิงห์ กษิดิศชญาธร นี่เพื่อนสนิทผมครับ หิรัญ เกศไพศาล”

          “แหมๆ โชคดีจัง วันนี้แพรวได้มีโอกาสรู้จักนักธุรกิจคนเก่ง...”

          “ผมไม่ได้เก่งอะไรเลยครับ แค่สานต่องานที่พ่อสร้างไว้” หิรัญออกตัว

          แพรวนราพูดแบบไร้เสียง เธอหันด้านข้างให้นรสิงห์เขาจึงไม่รู้ในสิ่งที่เธอพูดกับหิรัญ ‘ฉันไม่ได้หมายถึงนายยะ!!’

          หนุ่มบ้านนอกตัวดำๆ ยิ้มเก้อ

          “แล้วคุณแพรวมาทำอะไรที่นี่ครับ” นรสิงห์ย้อนถามยิ้มๆ

          “คุณรินเป็นคุณน้าของแพรวค่ะ วันหยุดว่างๆ แพรวเลยแวะมานอนเล่น ที่นี่สงบแล้วบรรยากาศก็ดีมากๆ ด้วย”

          หญิงสาวชวนคุย

          “ครับ ผมก็ลืมๆ ไปพี่รินเคยบอกครั้งนึง แต่ผมคงลืมเอง”

          แพรวนราร้องอ๋อในใจ เธอรู้แล้วว่าทำไมคนของกษิดิศชญาธรเลือกจัดงานที่รีสอร์ตรินลดา เพราะรู้จักสนิทสนมกับคุณน้าของเธอเป็นการส่วนตัวนี่เอง

          “แพรวไม่กวนดีกว่า เชิญตามสบายนะคะ”

          หญิงสาวรีบชิ่ง หลังจากพอรู้ความสัมพันธ์ของชายหนุ่มสองคนตรงหน้า

          “แกรู้จักหล่อนเหรอวะไอ้คุณเสือ?”

          หิรัญร้องถามหลังแพรวนราสะบัดก้นเดินจากไป

          “เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ มีบริษัทออกแบบเป็นของตัวเองนะเว้ย แถมงานคุณภาพด้วย ฝีมือไม่ใช่ย่อยเลย เก่งและโสด”

          นรสิงห์เอ่ยชม แพรวนราเป็นผู้หญิงฉบับกระเป๋าตัวเล็ก แต่ใจใหญ่ เมื่อเป็นผู้หญิงคนเดียวแต่หาญลงสนามสู้กับผู้ชายตัวโตๆ บนถนนนักธุรกิจ และเธอก็ประสบความสำเร็จมากพอดู ที่สำคัญ หญิงสาวไม่ขี้โอ่ เธอทำงานแบบเน้นคุณภาพมากกว่าราคาคุย

          “ใครอยากรู้วะว่าหล่อนโสดไม่โสด ที่อยากรู้น่ะแกรู้จักหล่อนด้วยหรือ แค่นั้น”

          หนุ่มบ้านนอกรีบออกตัว เขาไม่ได้อยากรู้ว่าหล่อนจะมีอิสระหรือไม่ เมื่อหล่อนดูเหมือนจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าใด

          “หึๆ” นรสิงห์หัวเราะในลำคอ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ สลับกับแอบชำเลืองมองบุษบันเงียบๆ

          หล่อนมีอะไรน่าสนใจ แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง จริงอยู่ว่าหล่อนรูปร่างหน้าตาดี แต่เมื่อมองรวมๆ ยังมีผู้หญิงอีกเยอะที่สวยกว่านี้ เก่งกว่านี้ แล้วทำไม คนใกล้ชิดของเขา ถึงพัวพันกับหล่อนหลายคนจัง ตั้งแต่นักรบ และไอ้เพื่อนยากที่หัวใจแกร่งดั่งหิน ก็ยังลงสนามด้วย

          “แกเถอะ...ทำไมยังอยู่ที่นี่ไอ้เสือ?”

          เสียงหิรัญถาม...นรสิงห์จึงหลุดออกมาจากภวังค์ของตัวเอง

          “ก็เบื่อๆ เลยอยากพักสมองบ้าง...”

          บ้านพักตากอากาศ กษิดิศชญาธรมีไว้ในหลายจังหวัด รวมถึงภูเก็ตด้วย...

          ไหนจะงานที่แสนวุ่นวาย ไหนจะเรื่องยุ่งๆ ที่ภารตีขยันสร้าง เขาตามปัดกวาดจนเวียนหัว เมื่อมีเวลาว่างจึงอยากพักสมองผ่อนคลายความตึงเครียด

          “ไม่มีสาว...แปลก!!”

          หิรัญหรี่ตามองเพื่อนรัก มันเป็นเรื่องแปลกที่นรสิงห์ขาดคนข้างกาย เมื่อเขาเป็นหนุ่มฮอต มีสาวๆ แนบข้างตลอดไม่เคยว่างเว้น เมื่อเห็นเพื่อนฉายเดี่ยวจึงรู้สึกแปลกใจ

          “แปลกใจอะไรวะ บางครั้งการพักผ่อนที่ดีก็คือการนอน มากกว่าการสะบึมผู้หญิงนี่หว่า”

          หนุ่มเสน่ห์แรงกล่าว เขาไหวไหล่เพราะความจริง เขาเริ่มเอียนกับผู้หญิงรอบตัวเอง มันเป็นความจำเจที่ไร้ความตื่นเต้น ไม่มีความสนุกเหมือนแรกเริ่ม เพราะแค่กระดิกนิ้ว พวกหล่อนก็เดินตามก้นต้อยๆ เขาเบื่อความรู้สึกแบบนั้น เลยอยากอยู่ลำพังคนเดียวบ้าง

          “แกใช้ชีวิตโคตรคุ้มเลยว่ะสิงห์...ฉันเสียอีกที่แทบจะเป็นฤาษี มองหัวมันทุกวันจนเริ่มเห็นว่าหัวมันสวยกว่าผู้หญิงแล้ววะ”

          หิรัญเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เขากล่าวพร้อมกับยิ้มแป้น แอบชำเลืองคนตัวเล็กที่หน้าเคาน์เตอร์ แต่ดันตรงช่วงที่หล่อนเองก็มองมา เลยได้ค้อนคมๆ เป็นรางวัล หนุ่มบ้านนอกตัวดำจึงได้แต่อมยิ้ม...

          “แกมัวหมกตัวอยู่ที่นั่นเอง ออกจากโกดังมัน ออกมาสนุกก็ได้นี่หว่า...”

          หนุ่มเสน่ห์แรงแย้งยิ้มๆ

          “ไม่ล่ะ ไม่รู้สิ... มันเอียนมั้ง”

          สี่ปีในต่างแดน หิรัญคิดว่านั่นเกินพอแล้วสำหรับเขา...เมื่อยังมีสิ่งอื่นน่าสนใจมากกว่าเรือนกายนุ่มนิ่มของเหล่าสาวๆ

          “ถามจริงๆ แกคิดจะจริงจังกับหล่อนเหรอ?”

          หล่อน ในที่นี้หมายถึงบุษบัน และนรสิงห์ไม่เห็นด้วยที่คนดีๆ คนหนึ่งจะร่วมหัวจมท้ายกับผู้หญิงเหลวแหลก

          “ไม่รู้สิ...แต่เท่าที่ดู คุณบุษเธอก็เหมาะกับฉันเหมือนที่พ่อกำนันบอก”

          หิรัญตอบแบบเป็นกลาง จากที่ฟังบิดากรอกหูทุกวันเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุษบัน และยิ่งมาเห็นตัวเป็นๆ หิรัญคิดว่าบิดาคิดถูก บุษบันสวยคม สุขุม มีความเป็นผู้นำสูง และคงเป็นคู่คิดในอนาคตได้แบบสบายๆ

          “ฉันไม่เห็นด้วยว่ะ ผู้หญิงอย่างหล่อน...” นรสิงห์หยุดพูด เขาแค่นยิ้มสมเพชหล่อน

          “อคติ...แกเคยฉลาดกว่านี้นะสิงห์ ผู้ชายอย่างไอ้หมอนั่น ปากมันเป็นยังไงแกก็น่าจะรู้ ฉันไม่เคยเชื่อในสิ่งที่มันพูด เพราะเท่าที่ดู คุณบุษน่าจะเป็นองุ่นเปรี้ยวสำหรับมัน”

          หากข่าวลือของบุษบันคือหล่อนเป็นเมียซุกของนักรบ มันคงถูกปล่อยมาจากปากหมาๆ ของนักรบนั่นแหละ จากเท่าที่ดูบุษบัน แม้จะยังไม่สนิทสนม เขาเชื่อว่า สิ่งที่ไอ้หมอนั่นพูด ไม่น่าจะใช่เรื่องจริง...ดูได้จากองครักษ์ตัวเล็กที่อยู่ข้างตัวบุษบันนั่นไง...หล่อนกางแขนป้องเพื่อนขนาดนั้น แล้วบุษบันจะจะเป็นเหมือนข่าวรั่วนั่นได้ยังไง

          หนุ่มเสน่ห์แรงไหวไหล่ เขายังไม่เชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ความจริง

          “เจอกันคืนนี้นะ...ฉันขอตัวไปนอนก่อน เมื่อคืนนั่งดื่มคนเดียวจนดึก”

          นรสิงห์เอ่ยลา เขาง่วงจนตาจะปิด แต่เมื่อเพื่อนส่งข่าวให้รู้จึงรีบมาหา ด้วยความดีใจ

          “เออๆ...ไปนอนก่อนก็ได้เดี๋ยวตามไปที่บ้าน...คงคุยกันไม่นาน คุณบุษเธอดูยุ่งๆ”

          หิรัญโบกมือลาเพื่อน พร้อมกับค่อนว่านรสิงห์ในใจ ขนาดมันอดนอน ออร่านรสิงห์ก็ยังฟุ้ง ดูได้จากสายตาสาวๆ หลายคนที่เหลียวมองเพื่อนรัก...จนคอแทบเคล็ดนั่นไง

          ชายหนุ่มเดินเฉียดผ่านหน้าเคาน์เตอร์ เขาชำเลืองมองใบหน้าก้มต่ำของบุษบัน พร้อมกับความรู้สึกคันยิบๆ ในใจ

          ทำไมต้องเป็นหล่อนที่เป็นคู่หมายของเพื่อน

          ทำไมต้องเป็นหล่อนที่พัวพันกับนักรบ

          สารพันคำถามที่ผุดขึ้นในห้วงความคิด แล้วที่สำคัญเลย เขาสนใจหล่อนทำไม?

          นั่นเป็นคำถามที่นรสิงห์เองไม่กล้าค้นหาความจริง...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status