Share

  บทที่6.หลุมพราง... 3

หิรัญตะโกนตามหลังแพรวนรา เขาชอบสีหน้าของหล่อน เมื่อหล่อนไม่เคยปิดบังความคิด ดวงตาของหล่อนเปิดเผยจนหมด และเขาไม่รู้ว่าตนเอง ทำอะไรให้หล่อนไม่พอใจ

          บุษบันอมยิ้มตามหลังคนทั้งคู่ และหากมองตามสายตาของคนไม่มีอคติ...หิรัญ กับแพรวนรา เหมาะที่จะเป็นคู่รักกันมากกว่า เธอกับหิรัญเสียอีก เมื่อชายหนุ่มอารมณ์ดี เหมาะที่จะช่วยให้คนจริงจังอย่างแพรวนราผ่อนคลายลง...

          “จะรีบไปไหนคุณ ถ้ารอโบกรถไปสนามบินละก็ คุณตกไฟล์นี้แน่”

          ชายหนุ่มตามมาทัน เมื่อแพรวนรากำลังหารถยนต์รับจ้างที่เคยวิ่งกันขวักไขว่ แต่วันนี้ถนนโล่งๆ พิกล

          “...” ไม่มีคำตอบจากสาวฉบับพกพา สิ่งที่หิรัญเห็นคือเรียวปากสีระเรื่อเม้มแน่น

          “วันนี้รถรับจ้างทั้งหมดเขารวมตัวประท้วงอยู่ที่อำเภอ เรื่องรถร่วมบริการที่กำลังเป็นข่าวดัง...ถ้าคุณยังรอรถอยู่ตรงนี้ล่ะก็... ไฟล์ที่กำลังจะบิน คุณคงไปไม่ทัน”

          ชายหนุ่มเปรยด้วยความหวังดี ไหนๆ ก็จะไปทางเดียวกัน เขาไม่รังเกียจที่จะให้แพรวนราอาศัยรถยนต์ไปด้วยอยู่แล้ว

          หญิงสาวจิปาก!! เธอเริ่มลังเล...เมื่อบนท้องถนนว่างเปล่า เงียบจนน่าวิตก ความคิดเร็วพอๆ กับการกระทำ หากมีเรื่องอย่างที่ชายหนุ่มด้านข้างว่า มันต้องเป็นข่าว สาวฉบับพกพาล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมาจากซอกกางเกง เธอกดค้นหาข่าวเด่นในGoogle เพื่อหาข่าวตามที่เขาเปรยให้ฟัง

          เห้อ!! สาวเปรี้ยวแก่นแก้วถอนใจดังเฮือก ทุกอย่างเป็นเหมือนที่หิรัญกล่าวไว้ไม่มีผิด และเรื่องคงลุกลามไปกันใหญ่ ไม่มีทางสงบลงง่ายๆ

          “ก็ได้...แต่ฉันจะจ่ายค่าจ้างให้คุณนะ...ฉันไม่อยากเอาเปรียบใคร!!”

          “ผมไม่ใช่รถรับจ้างครับ...ถ้าจะจ่ายสตางค์ รบกวนคุณรออยู่ตรงนี้นะครับ สักประมาณ...บ่ายสามโมง คงมีรถวิ่งผ่านมาสักคัน”

          หิรัญเปรยยิ้มๆ เขาหมุนตัวเดินไปที่รถยนต์ตนเอง เขาจอดไว้ที่ริมฟุตบาท มีแพรวนราถลาวิ่งไล่ พร้อมกับรีบพูดเสียงกระหืดกระหอบ “ก็ได้ๆ หึย!! มันสุดวิสัยนะ ไม่อย่างนั้น...” หญิงสาวรีบกลืนคำพูด เพราะสายตาคมดุ ของหิรัญตวัดมามองพอดี ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายยิ้มง่าย ท่าทางเป็นมิตร เวลาดุขึ้นมา ก็เอาเรื่องเหมือนกัน

          “นี่คู๊ณ!! ผมไม่ใช่คนขับรถนะครับ”

          ชายหนุ่มเอ่ยท้วง เขามองผ่านกระจกส่องหลัง เมื่อแพรวนราเปิดประตูด้านหลัง ขึ้นไปนั่งทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้

          ‘ใครจะไปรู้ล่ะ’

          หล่อนพึมพำบ่น แต่ก็ยอมมุดออกมาจากด้านหลัง ก่อนจะเปิดประตูด้านข้างคนขับ ขึ้นไปนั่งหน้าบอกบุญไม่รับ

          “ไม่ใช่เด็กแล้วนะคุณ...แต่นิสัยคุณนี่ พอๆ กับเด็กวัยรุ่นแถวบ้านผมเลย”

          ก่อนที่รถยนต์จะเคลื่อนที่ออกไปจากที่จอด เสียงของหิรัญเปรยลอยๆ แต่คนข้างตัวกลับนิ่ง เธอไม่คิดจะตอบโต้...ภายในรถยนต์จึงมีแต่ความเงียบ หากมีอะไรหล่นสักอย่าง เสียงคงดังก้องมากกว่าเสียงเครื่องยนต์ หรือเสียงลมหายใจ

          “ขอบคุณค่ะ”

          ตามมารยาท แม้จะไม่ใคร่อยากทำ เท่าใด... ก่อนจะเดินลิ่วๆ ไม่ได้สนใจคนที่มองตามด้านหลัง

          หิรัญโครงศีรษะ เขาวนหาที่จอดรถยนต์จัดการฝากรถตามขั้นตอน ก่อนจะเดินเอื่อยๆ เข้าไปเช็คอิน และรอเวลาออกเดินทาง

          ชายหนุ่มมัวแต่คุยโทรศัพท์กับพ่อกำนัน มาขึ้นเครื่องก็จวนเจียนที่จะถึงเวลาเครื่องออก

          เมื่อทรุดนั่งในที่ของตนเอง เขาจึงได้เห็นว่า แม่สาวฉบับพกพา นั่งอยู่ด้านข้าง

          แพรวนราอ้าปากพะงาบๆ ขณะที่แหงนมองคนตัวใหญ่ เขาทรุดนั่งแล้วจึงหันมาฉีกยิ้มให้เธอ

          “เห้อ!!”

          เสียงถอนใจดังๆ กับการผินหน้าหนี เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจของแพรวนรา แต่มีหรือคนหน้ามึนอย่างหิรัญจะสน

          เขาทรุดนั่ง คว้าหนังสือแมกกาซีนในชั้นตรงหน้ามาเปิดอ่าน สวมหูฟังแนบใบหู ทำเป็นไม่สนใจอาการตะบึงตะบอนของคนข้างกาย ทั้งที่คอยแอบชำเลืองมองเสี้ยวหน้าเกลี้ยงเกลาของแพรวนราบ่อยครั้ง หล่อนมีผิวขาวจัด ขาวจนออกจะเผือดซีด คงเพราะอยู่ในที่ร่มเป็นส่วนใหญ่ แต่ผิวของหล่อนกลับเรียบเนียน เขาอยู่ใกล้ยังไม่เห็นรูขุมขน กลิ่นกายของหล่อนก็หอมอ่อนๆ ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมที่ฉุนขึ้นจมูกเหมือนที่สาวๆ ส่วนใหญ่นิยม คงอาจจะเป็นกลิ่นของโลชั่นบำรุงผิวก็ได้...ไม่อย่างนั้นผิวหล่อนจะเนียนละเอียดแบบนี้ได้ยังไง

          “คุณๆ”

          แพรวนราสะดุ้ง เธอเผลอหลับ จนศีรษะเอียงมาซบอยู่ที่หัวไหล่คนข้างตัว

          “อือ...อาราย...” เสียงของหญิงสาวยังติดสะลึมสะลือ

          “น้ำมั้ยคุณ” หิรัญอมยิ้ม เวลาแพรวนราหลับ หล่อนดูน่ารักเหลือเชื่อ ช่วงเวลาที่หล่อนนิ่งๆ น่าเอ็นดูเหมือนเด็กน้อย

          “ไม่อาววว ง่วงงง” หล่อนตอบเหมือนละเมอ เปลือกตายังปิด เมื่อยังสลัดความง่วงออกไปไม่ได้

          “เอาไว้ก่อนแล้วกัน เผื่อคุณคอแห้ง” หิรัญตัดบท เขาขยับศีรษะหญิงสาวให้อิงไหล่เขามากขึ้น หล่อนจะได้ไม่ปวดคอ เวลาที่ตื่นเต็มตา

          เสียงหญิงสาวครางงึมงำ และก็หลับต่อ

          “หลับเป็นเด็กเลย มาคนเดียวอันตรายแย่...ไม่รู้ไงว่าตัวเองน่ะสวย...”

          ชายหนุ่ม บ่นเขาเอียงคอมองหล่อนยิ้มๆ ก่อนจะเปิดหนังสืออ่านไปเรื่อยๆ สลับกับมองหญิงสาวข้างตัวเป็นระยะ ปลายจมูกเล็กๆ ของแพรวนรามีเม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมา หิรัญจึงล้วงผ้าเช็ดหน้าของตนเองซับเหงื่อนั่นให้ เขาเก็บผ้าเช็ดหน้ายัดไว้ในซอกกระเป๋ากางเกง หัวใจเต้นตุ๊บๆ พิกล เมื่อเผลอมองวงหน้าเนียนใสนั่น พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในหัวใจ...

“ฮัลโหล บุษนี่ผมเอง” ชายหนุ่มหยอดเสียงหวาน เมื่อปลายสายกดรับสายเข้าของเขา

บุษบันขมวดคิ้ว “คะ” เธอแบนหน้าจอโทรศัพท์ออกห่างหู กะพริบเปลือกตาปริบ เมื่อไม่คิดว่านักรบจะกล้าโทรศัพท์มาหาเธอ

“คุณรบ!!” บุษบันถามกลับอย่างงงๆ

“ครับผมเอง...”

“มีอะไรหรือเปล่าคะ...” ความสับสนพุ่งใส่หัวใจดวงน้อย

“เดี๋ยวนี้ผมต้องมีธุระเหรอ ถึงจะโทร.หาบุษได้!!”

เสียงของนักรบฟังเหมือนจะตัดพ้อ

หญิงสาวถอนใจก่อนตอบ “เปล่าค่ะ... แต่หากเราสองคนห่างกันได้ ไม่เป็นการดีกว่าเหรอคะ”

“ทำไมล่ะ” ปลายสายตอบกลับเสียงห้วนๆ

“เอ่อ...” เป็นบุษบันที่ไม่กล้าตอบ เธอกระดากปากที่จะพูดถึง ความเหมาะสมที่ชายหนุ่มน่าจะรู้อยู่เต็มอก

“ช่างเถอะๆ ผมอยากเจอบุษ เวลานี้ผมอยู่ที่ภูเก็ต” ปลายสายต่อว่าอย่างรำคาญ

“คือ...”

“บุษมาหาผมที่ลอบบี้โรงแรม...แล้วกัน ผมอยากทำความเข้าใจกับบุษเสียใหม่”

นักรบชิงพูด เขารู้ว่าบุษบันไม่กล้าขัด อีกอย่างมันเป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งหล่อนคงวางใจในระดับหนึ่ง

“ก็ได้ค่ะ...” บุษบันยอมตกปากรับคำ เธออยากจบปัญหาหนักอกนี่เหมือนกัน

หากคุยกันเข้าใจ นับจากนี้ไป นักรบคงไม่มาวุ่นวายกับเธอ เมื่อหญิงสาวเข้าใจว่า ชายหนุ่มผู้นั้นมาพร้อมกับภรรยาของเขา

          นรสิงห์เดินกลับมาที่ลิฟต์...เขาติดต่อหิรัญไม่ได้ โทรศัพท์ของไอ้เพื่อนยากไม่มีสัญญาณ เมื่อมาหาที่ห้องพัก ประตูก็ปิดสนิท ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนภายใน เขาเดินวนหน้าห้อง พยายามกดโทร. เป็นร้อยรอบ...แต่สิ่งที่ได้ก็คือความว่าง เปล่าเหมือนเดิม...จึงตัดใจ เดินกลับมายังลิฟต์ เพื่อจะโดยสารลิฟต์ลงไปด้านล่าง เขาฝากข้อความไว้แล้ว ทันทีที่มีสัญญาณ หิรัญคงติดต่อกลับมาเอง...

          แต่แล้ว...เขากลับพบคนที่ไม่คิดว่าจะพบ...

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status