เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูกลางกรุงทำให้คนที่มาเที่ยวครึกครื้นและสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปถึงสามสาวที่กำลังแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอร์
ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเธอวาดลวดลายกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะคืนนี้เธอทั้งสามคนมาฉลองให้กับการจบการศึกษา แม้ผลสอบจะยังไม่ออกแต่ก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
ทั้งท่วงท่าและเสื้อผ้าที่สวมใส่ดึงดูดสายตาผู้ชายเจ้าชู้ได้เป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเลยสักนิด
แต่มีสายตาอยู่หนึ่งคู่ที่มองลงมาจากชั้นสอง มองตั้งแต่พวกเธอเข้ามาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
“สนใจคนไหนวะ” เมธัสถามชายอีกคนที่เอาแต่จ้องอยู่อย่างไม่วางตา
“มึงลองทายดูสิ” คนตอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“กูว่าคนเสื้อดำชัวร์ งั้นกูจองเสื้อขาวนะส่วนพี่เจฟเอาเสื้อสีครีมไป” เมธัสจับคู่ให้ทุกคนอย่างเสร็จสรรพ
“พวกคุณจะจองคนไหนก็เรื่องของพวกคุณเลยครับ อย่าดึงผมไปเกี่ยวด้วย ผมก็แค่อยากมาฟังเพลง มาดื่ม ไม่ได้มาหาหญิง” คนถูกพาดพิงพูดจบก็ยกแก้วในมือกระดกพรวดเดียวจนหมด
“พี่เจฟ ผมพาพี่มาผ่อนคลายนะครับ พี่ถือศีลหรือไง” ราฟาเอลถามคนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนและยังเป็นเลขาของตนเอง
“ผมก็ผ่อนคลายอยู่นี่ไงครับ”
“แต่มันไม่สนุกนะพี่” อีกคนท้วง เขารู้จักกับเจฟหรือโรมมาตั้งแต่ตนเองอายุได้ห้าขวบจนตอนนี้ผ่านมายี่สิบห้าปีแล้ว เขาไม่เคยเห็นอีกคนใช้ชีวิตอย่าสนุกสนานเลยสักครั้ง
“ผมไม่ได้อยากสนุกนี่ครับ คุณราฟกับคุณเมธสนใจคนไหนก็เลือกเลยไม่ต้องเลือกเผื่อผม” เขารินเหล้าลงแก้วตัวเองโดยไม่สนใจตามที่บอก ไม่ใช่เพราะถือศีลอย่างที่ราฟาเอลว่าแต่เพราะเขาไม่อยากปวดหัวมากกว่า ซึ่งต่างจากคนที่เป็นเจ้านายเพราะข้างกายนั้นมีผู้หญิงมากเสียจนเลขาอย่างเขาสับรางให้แทบไม่ทัน
เมื่ออีกคนไม่สนใจราฟาเอลกับเมธัสก็เลยนั่งมองกันต่อ ตอนนี้สามสาวเมื่อครู่กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองแล้วโดยมีหนุ่มตามไปนั่งด้วยอีกสามคนครบคู่พอดี
“ช้าไปแล้วเรา” เมธัสพึมพำ
ราฟาเอลมองอย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาเล็งหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นไว้แล้ว แต่ยังมีคนที่ไวกว่าเขา แล้วชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาทีหนุ่มทั้งสามคนก็ถูกไล่กลับไปที่โต๊ะของตนเอง
“กูว่าคนเสื้อขาวหุ่นดีมากเลยนะมึง” เมธัสผู้หญิงที่สวมเสื้อสีขาวผมซอยสั้นระต้นคออย่างพอใจ
“อือ แต่กูชอบคนชุดดำว่ะ หุ่นแม่งน่าเอาฉิบหาย” ตาคมมองผู้หญิงตัวเล็กแต่สัดส่วนอย่างอื่นไม่ได้เล็กตามเลยสักนิด หุ่นแบบนี้ถูกใจเขามากที่สุด ตัวเล็ก เอวคอดหน้าอกอวบอิ่มกับสะโพกกลมกลึงนั้นสะกดสายตาจนเขามากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เอาไหมล่ะ เดี๋ยวกูติดต่อให้” เมธัสรีบเสนอเพราะนานๆ ทีราฟาเอลจะสนใจสาวๆ เนื่องจากปกติมีแต่สาวๆ ที่วิ่งเข้าหา
“ดูไปก่อน ไม่อยากให้ไก่ตื่นว่ะ”
ราฟาเอลไม่รีบร้อนเพราะยังเหลือเวลาอีกนานกว่าผับจะปิด
เสียงเพลงที่ค่อนข้างดังทำให้เอริญาเดินขึ้นมาคุยที่หน้าห้องน้ำชั้นสองเพราะสายเรียกเข้าจากมารดาในเวลาดึกเช่นนี้คงเป็นเรื่องสำคัญ
“อะไรนะคะ ทำไม่เร็วจังคะแม่” เมื่อได้ยินว่ามารดาให้บินกลับญี่ปุ่นหญิงสาวก็ตะโกนถามอย่างไม่แน่ใจ
“หนูนัดกับมะนาวไว้แล้วนะคะ ว่าจะไปล่องเรือด้วยกันตั๋วก็จองแล้วนะคะ วันมะรืนนี้หนูต้องไปขึ้นเรือที่สิงคโปร์นะคะ ถ้าหนูไม่ไปมะนาวต้องไปคนเดียว หนูเป็นห่วงเพื่อน”
“ได้ค่ะ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ไฟล์ทเที่ยงคืนใช่ไหมคะ” พอได้ยินว่าที่ต้องบินกลับไปก่อนกำหนดเพราะคุณย่าไม่สบายเอริญาก็เลยต้องยอมทำตามนั้น
พอกดวางสายแล้วก็หันหลังกลับ แต่ไม่ทันระวังก็เลยชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งอย่างจัง
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
เอริญาเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตะลึงกับใบหน้าของผู้ชายตัวสูง เขาหล่อและแต่งตัวดูดีจนเธอเผลอจ้องอย่างเสียมารยาท
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณขึ้นมาบนนี้ทำไมครับ มาหาใครหรือเปล่า” เพราะบริเวณชั้นสองเป็นโซนของแขกวีไอพีแล้วเขาก็เห็นว่าโต๊ะของเธออยู่ทางด้านล่าง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจขึ้นมารบกวนนะคะ ฉันจะคุยโทรศัพท์แต่ข้างล่างเสียงมันดังมาก จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ เดี๋ยวฉันก็กลับลงไปแล้ว” เอริญารีบบอกอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเห็นว่าตนเองแอบขึ้นมาบนชั้นสอง
“ถ้าการ์ดรู้คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ เพราะข้างบนมีแค่สมาชิกเท่านั้นที่จะขึ้นมาได้”
“คุณก็อย่าบอกสิคะ”
“ไม่บอกก็ได้ครับ แต่คุณต้องบอกผมมาก่อนว่าคุณชื่ออะไร และผู้หญิงเสื้อดำที่มากับคุณชื่ออะไร”
“ถ้าฉันไม่บอกล่ะคะ”
“ไม่บอกก็มาเป็นไรครับ เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ใช่ผมนี่ครับ” เขาทำทีว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า
“บอกแค่ชื่อใช่ไหมคะ” เพราะกลัวว่าเรื่องจะไม่จบแค่นี้เธอจึงถามกลับ
“แค่ชื่อก็พอครับ”
“ฉันชื่อเอริ ผู้หญิงเสื้อดำที่คุณถามถึงชื่อมะนาว” เอริญาคิดว่าบอกแค่ชื่อก็คงไม่เป็นอะไรเพราะคนเราชื่อซ้ำกันก็มีอยู่มาก แล้วพวกเธอก็คงไม่มาที่นี่กันอีกแล้ว
“ขอบคุณครับคุณเอริ”
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของตนเองอีกครั้ง
“หายไปนานนึกว่าหนีกลับไปแล้ว”
“กูจะกลับได้ไงมึงดูพี่กูสิ คอพับไปอย่างนั้นขืนทิ้งไวตื่นมาได้โวยวายแน่”
“พี่เจฟแม่งชอบดื่มแต่ก็คออ่อนฉิบเลย”
“อือ เขาเรียกพวกไม่เจียมไง เมาทีไรเดือดร้อนกูทุกที”
ราฟาเอลบ่นอย่างไม่จริงจัง เขานั้นทั้งรักและเคารพเจโรมยิ่งกว่าใครทั้งหมด บางทีอาจจะรักมากกว่าบิดาของตนเองด้วยซ้ำเพราะคนที่อยู่กับเขาทุกช่วงเวลาก็มีแต่เจโรมมาตลอด
“แต่มึงก็พาเขามาตลอด”
“ก็เพราะกูรู้ไงว่าเมาแล้วแม่งเป็นอย่างนี้ ขืนไม่ชวนมาแล้วพี่มันเปรี้ยวปากออกไปดื่มคนเดียว คงได้ถูกหิ้วไปลอกคราบทิ้งไว้ที่ไหนแน่ๆ”
“เอ่อ ว่ะน่าคิด ว่าแต่ทำไมไปนานนักวะ”
“กูเจอสาวของมึงไง”
“เสื้อขาวเหรอ”
“เออ”
“แล้วไงได้เบอร์มาให้กูไหม” เมธัสถามอย่างมีความหวังเพราะเธอคนนั้นถูกใจเขามาก
“โทษทีว่ะ กูลืม แต่รู้ชื่อแล้ว คงหาไม่อยากหรอก”
“มึงจะบ้าเหรอไอ้ราฟ รู้แค่ชื่อแล้วแม่งคนซื้อซ้ำกันมีตั้งเท่าไหร่ กลับไปถามชื่อมาให้กูเลยนะ”
“อย่าเพิ่งโวยวายสิ พรุ่งนี้มึงก็เจอเขาเองแหละ”
“พรุ่งนี้กูไปญี่ปุ่นนะ จะเจอเขาได้ยังไง”
“มึงบินไฟล์ทไหนล่ะ” ราฟาเอลถาม
“ไฟล์ทเที่ยงคืน มีอะไรหรือเปล่า”
“เขาก็จะไปญี่ปุ่นบินไฟล์ทเย็นเหมือนกัน”
“สุดยอด ราฟมึงมันแน่ว่ะ กูขอคาราวะเลย” เมธัสก้มตัวโค้งคำนับเก้าสิบองศาให้เพื่อน
“อย่าเวอร์ให้มาก มาช่วยกูแบกพี่เจฟไปที่รถเลย”
“อ้าว จะรีบกลับทำไม”
“พรุ่งนี้จะรีบเคลียร์งาน”
“ขยันแปลกๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ”
“วันจันทร์กูมีธุระ จะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จ อยากหาเวลาพักบ้าง”
“หูกูฝาดไหม คนอย่างมึงเนี่ยนะจะพัก”
“อือ กูก็เหนื่อยเป็นนะมึง”
“กูรู้ว่าเหนื่อยเป็นแต่กูไม่เคยเห็นมึงพักเลยขนาดควบสาวทั้งคืนพอเช้าแม่งไปทำงานเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น”
“ก็แข็งแรงไง”
“เออ กูไม่เถียงมึงหรอก”
ทั้งสองคนพาเจโรมมายังรถของราฟาเอลที่จอดอยู่ด้านหลังร้านอย่างทุลักทุเล
“พี่เจฟแม่งตัวหนักฉิบ ถึงคอนโดใครจะช่วยมึงเอาลงจากรถวะ”
“เดี๋ยวอีกชั่วโมงก็ตื่นเองแหละ” เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เจโรมเมาจนคอพับแบบนี้ และเขาก็เป็นคนพาชายหนุ่มกลับคอนโดทุกครั้ง
ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรูทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์ส
เครื่องบินลำใหญ่แตะที่พื้นรันเวย์ของสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ได้สักพักหญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีเหลืองสดออกมาจากสนามบินตากลมโตมองหาป้ายที่บอกทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าตามที่อ่านมาจากรีวิวในเพจยอดฮิต เธอลากกระเป๋าไปตามทางเดินอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงท่าเรือ Mariner of the seaเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำมนิษารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนรอไม่ไหว ขณะกำลังต่อแถวที่จุดเช็กอินเพื่อขึ้นเรือเธอก็มองไปรอบๆ เท่าที่มองด้วยสายตาทริปนี้แทบไม่มีคนไทยเลย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงมายังห้องพักที่จองไว้ ซึ่งมีสองเตียงแต่น่าเสียดายที่หญิงสาวต้องนอนตามลำพังเพียงคนเดียวห้องที่เธอเลือกเป็นห้องที่มีมองเห็นวิวทะเล ด้านนอกระเบียงมีเตียงสำหรับนอนเล่น เป็นมุมพักผ่อนที่ดูแล้วคงสบายไม่น้อย และถ้าได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดพร้อมกับมองทะเลไปด้วยคงมีความสุขไม่น้อยเพราะเดินทางตั้งแต่เช้าเธอเลยยังไม่ได้ทานอะไร หญิงสาวตรงไปยังห้องอาหารบนเรือที่เปิดให้ทานให้ฟรีอยู่หลายห้อง พอทานจนอิ่มก็เดินสำรวจเรือเพื่อย่อยอาหารเดินมาถึงโซนสระว่ายน้ำที่อนุญาตให้แต่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเธอก็นั่งลงพักขา บริเวณ
เรือออกจากฝั่งในเวลาห้าโมงเย็นตามเวลาที่แจ้งไว้ มนิษายืนมองระลอกคลื่นที่กระจายออกจากเรือด้วยความรู้สึกอิสระอย่างเต็มที่เธอไม่เคยอยู่บนเรือลำใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แม้จะกลัวอยู่บ้างในคราแรก แต่พอเรือออกจากฝั่งมาแล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป คงเพราะเรือขนาดใหญ่จึงแทบไม่รู้สึกเลยว่าตอนนี้กำลังแล่นอยู่บนผิวน้ำหญิงสาวมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า กดถ่ายรูปด้วยมือถือก่อนจะส่งไปยังไลน์กลุ่มให้เพื่อนรักทั้งสองดูว่ามันสวยแค่ไหน“ให้ผมช่วยถ่ายไหม”มนิษาตกใจแต่พอหันไปตามเสียงก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุยด้วยเมื่อตอนบ่าย“ฉันแค่อยากได้รูปส่งให้เพื่อนค่ะ”“ไม่อยากถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เหรอครับ ผมช่วยถ่ายได้นะ”มนิษาก็อยากได้รูปตัวเองอย่างที่เขาพูด หญิงสาวส่งมือถือให้เขากดถ่ายรูปอีกหลายรูป พอรับคืนมาก็ยิ้มเพราะดูแล้วคุณราฟก็ถ่ายรูปสวยเหมือนกัน“คุณล่ะคะ จะถ่ายไหมฉันถ่ายให้”“ก็อยากถ่ายครับ แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันถ่ายแล้วส่งให้คุณก็ได้”“งั้นช่วยถ่ายผมหล่อๆ นะครับจะเอาไปอวดเจ้านาย”มนิษามองภาพชายตัวสูงผ่านหน้าจอมือถือ กดถ่ายไปหลายรูปจากนั้นก็ส่งให้เจ้าตัวดูว่าพอใจไ
หลังจากอาบน้ำอีกรอบมนิษาก็รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนใหม่ตั้งแต่เช้าแม้ว่าจะยังไม่รู้จักกันดีรู้แค่เขาชื่อราฟ แต่เท่าที่ได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกและคงทำให้การมาเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ไม่เบื่อหญิงสาวมาถึงห้องอาหารก็เห็นว่าราฟาเอลมารอเธออยู่ก่อนแล้ว“มอร์นิ่งครับ หลับสบายไหม”“มอร์นิ่งค่ะ หลับสบายมากไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่บนเรือ”ทั้งสองแยกกันไปตักอาหารจากนั้นก็กลับมานั่งทานด้วยกัน ระหว่างทานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก่อนจะพากันมาเดินเล่นรับลมที่ชั้นบนสุดของเรือเช้านี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบ“กลัวความสูงไหมครับ” ราฟาเอลถามขณะที่กระเช้ากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ“ไม่กลัวค่ะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า” เธอมองลงไปยังด้านท้ายเรือที่ตอนนี้เห็นคนตัวเล็กลงไปทีละนิด“วิวบนนี้สวยดีนะครับ ถ่ายรูปไหม ผมถ่ายให้”มนิษายิ้มให้กล้องขณะที่เขากำลังกดถ่าย มือใหญ่สั่นเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มนั้นมันหวานจนอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ไปยิ้มแบบนี้กับใครที่ไหน“คุณจะถ่ายไหมคะ”“ครับ รบกวนด้วย”พอได้รูปเดี่ยวแล้วราฟาเอลก็ขอถ่ายรูปคู่ เขายื่นกล้
“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ” “เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง “แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ” “ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ” “ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้” “ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้” มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน “ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย” “แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว” “ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ” “เขาเป็นพี่รหัสค่ะ” “ความใกล้ชิดเหรอครับ” “ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉั
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท