เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูกลางกรุงทำให้คนที่มาเที่ยวครึกครื้นและสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปถึงสามสาวที่กำลังแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอร์
ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเธอวาดลวดลายกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะคืนนี้เธอทั้งสามคนมาฉลองให้กับการจบการศึกษา แม้ผลสอบจะยังไม่ออกแต่ก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
ทั้งท่วงท่าและเสื้อผ้าที่สวมใส่ดึงดูดสายตาผู้ชายเจ้าชู้ได้เป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเลยสักนิด
แต่มีสายตาอยู่หนึ่งคู่ที่มองลงมาจากชั้นสอง มองตั้งแต่พวกเธอเข้ามาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
“สนใจคนไหนวะ” เมธัสถามชายอีกคนที่เอาแต่จ้องอยู่อย่างไม่วางตา
“มึงลองทายดูสิ” คนตอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“กูว่าคนเสื้อดำชัวร์ งั้นกูจองเสื้อขาวนะส่วนพี่เจฟเอาเสื้อสีครีมไป” เมธัสจับคู่ให้ทุกคนอย่างเสร็จสรรพ
“พวกคุณจะจองคนไหนก็เรื่องของพวกคุณเลยครับ อย่าดึงผมไปเกี่ยวด้วย ผมก็แค่อยากมาฟังเพลง มาดื่ม ไม่ได้มาหาหญิง” คนถูกพาดพิงพูดจบก็ยกแก้วในมือกระดกพรวดเดียวจนหมด
“พี่เจฟ ผมพาพี่มาผ่อนคลายนะครับ พี่ถือศีลหรือไง” ราฟาเอลถามคนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนและยังเป็นเลขาของตนเอง
“ผมก็ผ่อนคลายอยู่นี่ไงครับ”
“แต่มันไม่สนุกนะพี่” อีกคนท้วง เขารู้จักกับเจฟหรือโรมมาตั้งแต่ตนเองอายุได้ห้าขวบจนตอนนี้ผ่านมายี่สิบห้าปีแล้ว เขาไม่เคยเห็นอีกคนใช้ชีวิตอย่าสนุกสนานเลยสักครั้ง
“ผมไม่ได้อยากสนุกนี่ครับ คุณราฟกับคุณเมธสนใจคนไหนก็เลือกเลยไม่ต้องเลือกเผื่อผม” เขารินเหล้าลงแก้วตัวเองโดยไม่สนใจตามที่บอก ไม่ใช่เพราะถือศีลอย่างที่ราฟาเอลว่าแต่เพราะเขาไม่อยากปวดหัวมากกว่า ซึ่งต่างจากคนที่เป็นเจ้านายเพราะข้างกายนั้นมีผู้หญิงมากเสียจนเลขาอย่างเขาสับรางให้แทบไม่ทัน
เมื่ออีกคนไม่สนใจราฟาเอลกับเมธัสก็เลยนั่งมองกันต่อ ตอนนี้สามสาวเมื่อครู่กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองแล้วโดยมีหนุ่มตามไปนั่งด้วยอีกสามคนครบคู่พอดี
“ช้าไปแล้วเรา” เมธัสพึมพำ
ราฟาเอลมองอย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาเล็งหญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นไว้แล้ว แต่ยังมีคนที่ไวกว่าเขา แล้วชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาทีหนุ่มทั้งสามคนก็ถูกไล่กลับไปที่โต๊ะของตนเอง
“กูว่าคนเสื้อขาวหุ่นดีมากเลยนะมึง” เมธัสผู้หญิงที่สวมเสื้อสีขาวผมซอยสั้นระต้นคออย่างพอใจ
“อือ แต่กูชอบคนชุดดำว่ะ หุ่นแม่งน่าเอาฉิบหาย” ตาคมมองผู้หญิงตัวเล็กแต่สัดส่วนอย่างอื่นไม่ได้เล็กตามเลยสักนิด หุ่นแบบนี้ถูกใจเขามากที่สุด ตัวเล็ก เอวคอดหน้าอกอวบอิ่มกับสะโพกกลมกลึงนั้นสะกดสายตาจนเขามากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เอาไหมล่ะ เดี๋ยวกูติดต่อให้” เมธัสรีบเสนอเพราะนานๆ ทีราฟาเอลจะสนใจสาวๆ เนื่องจากปกติมีแต่สาวๆ ที่วิ่งเข้าหา
“ดูไปก่อน ไม่อยากให้ไก่ตื่นว่ะ”
ราฟาเอลไม่รีบร้อนเพราะยังเหลือเวลาอีกนานกว่าผับจะปิด
เสียงเพลงที่ค่อนข้างดังทำให้เอริญาเดินขึ้นมาคุยที่หน้าห้องน้ำชั้นสองเพราะสายเรียกเข้าจากมารดาในเวลาดึกเช่นนี้คงเป็นเรื่องสำคัญ
“อะไรนะคะ ทำไม่เร็วจังคะแม่” เมื่อได้ยินว่ามารดาให้บินกลับญี่ปุ่นหญิงสาวก็ตะโกนถามอย่างไม่แน่ใจ
“หนูนัดกับมะนาวไว้แล้วนะคะ ว่าจะไปล่องเรือด้วยกันตั๋วก็จองแล้วนะคะ วันมะรืนนี้หนูต้องไปขึ้นเรือที่สิงคโปร์นะคะ ถ้าหนูไม่ไปมะนาวต้องไปคนเดียว หนูเป็นห่วงเพื่อน”
“ได้ค่ะ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ไฟล์ทเที่ยงคืนใช่ไหมคะ” พอได้ยินว่าที่ต้องบินกลับไปก่อนกำหนดเพราะคุณย่าไม่สบายเอริญาก็เลยต้องยอมทำตามนั้น
พอกดวางสายแล้วก็หันหลังกลับ แต่ไม่ทันระวังก็เลยชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งอย่างจัง
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
เอริญาเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตะลึงกับใบหน้าของผู้ชายตัวสูง เขาหล่อและแต่งตัวดูดีจนเธอเผลอจ้องอย่างเสียมารยาท
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณขึ้นมาบนนี้ทำไมครับ มาหาใครหรือเปล่า” เพราะบริเวณชั้นสองเป็นโซนของแขกวีไอพีแล้วเขาก็เห็นว่าโต๊ะของเธออยู่ทางด้านล่าง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจขึ้นมารบกวนนะคะ ฉันจะคุยโทรศัพท์แต่ข้างล่างเสียงมันดังมาก จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ เดี๋ยวฉันก็กลับลงไปแล้ว” เอริญารีบบอกอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเห็นว่าตนเองแอบขึ้นมาบนชั้นสอง
“ถ้าการ์ดรู้คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ เพราะข้างบนมีแค่สมาชิกเท่านั้นที่จะขึ้นมาได้”
“คุณก็อย่าบอกสิคะ”
“ไม่บอกก็ได้ครับ แต่คุณต้องบอกผมมาก่อนว่าคุณชื่ออะไร และผู้หญิงเสื้อดำที่มากับคุณชื่ออะไร”
“ถ้าฉันไม่บอกล่ะคะ”
“ไม่บอกก็มาเป็นไรครับ เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ใช่ผมนี่ครับ” เขาทำทีว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า
“บอกแค่ชื่อใช่ไหมคะ” เพราะกลัวว่าเรื่องจะไม่จบแค่นี้เธอจึงถามกลับ
“แค่ชื่อก็พอครับ”
“ฉันชื่อเอริ ผู้หญิงเสื้อดำที่คุณถามถึงชื่อมะนาว” เอริญาคิดว่าบอกแค่ชื่อก็คงไม่เป็นอะไรเพราะคนเราชื่อซ้ำกันก็มีอยู่มาก แล้วพวกเธอก็คงไม่มาที่นี่กันอีกแล้ว
“ขอบคุณครับคุณเอริ”
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ”
ชายหนุ่มเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับไปยังที่นั่งของตนเองอีกครั้ง
“หายไปนานนึกว่าหนีกลับไปแล้ว”
“กูจะกลับได้ไงมึงดูพี่กูสิ คอพับไปอย่างนั้นขืนทิ้งไวตื่นมาได้โวยวายแน่”
“พี่เจฟแม่งชอบดื่มแต่ก็คออ่อนฉิบเลย”
“อือ เขาเรียกพวกไม่เจียมไง เมาทีไรเดือดร้อนกูทุกที”
ราฟาเอลบ่นอย่างไม่จริงจัง เขานั้นทั้งรักและเคารพเจโรมยิ่งกว่าใครทั้งหมด บางทีอาจจะรักมากกว่าบิดาของตนเองด้วยซ้ำเพราะคนที่อยู่กับเขาทุกช่วงเวลาก็มีแต่เจโรมมาตลอด
“แต่มึงก็พาเขามาตลอด”
“ก็เพราะกูรู้ไงว่าเมาแล้วแม่งเป็นอย่างนี้ ขืนไม่ชวนมาแล้วพี่มันเปรี้ยวปากออกไปดื่มคนเดียว คงได้ถูกหิ้วไปลอกคราบทิ้งไว้ที่ไหนแน่ๆ”
“เอ่อ ว่ะน่าคิด ว่าแต่ทำไมไปนานนักวะ”
“กูเจอสาวของมึงไง”
“เสื้อขาวเหรอ”
“เออ”
“แล้วไงได้เบอร์มาให้กูไหม” เมธัสถามอย่างมีความหวังเพราะเธอคนนั้นถูกใจเขามาก
“โทษทีว่ะ กูลืม แต่รู้ชื่อแล้ว คงหาไม่อยากหรอก”
“มึงจะบ้าเหรอไอ้ราฟ รู้แค่ชื่อแล้วแม่งคนซื้อซ้ำกันมีตั้งเท่าไหร่ กลับไปถามชื่อมาให้กูเลยนะ”
“อย่าเพิ่งโวยวายสิ พรุ่งนี้มึงก็เจอเขาเองแหละ”
“พรุ่งนี้กูไปญี่ปุ่นนะ จะเจอเขาได้ยังไง”
“มึงบินไฟล์ทไหนล่ะ” ราฟาเอลถาม
“ไฟล์ทเที่ยงคืน มีอะไรหรือเปล่า”
“เขาก็จะไปญี่ปุ่นบินไฟล์ทเย็นเหมือนกัน”
“สุดยอด ราฟมึงมันแน่ว่ะ กูขอคาราวะเลย” เมธัสก้มตัวโค้งคำนับเก้าสิบองศาให้เพื่อน
“อย่าเวอร์ให้มาก มาช่วยกูแบกพี่เจฟไปที่รถเลย”
“อ้าว จะรีบกลับทำไม”
“พรุ่งนี้จะรีบเคลียร์งาน”
“ขยันแปลกๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ”
“วันจันทร์กูมีธุระ จะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จ อยากหาเวลาพักบ้าง”
“หูกูฝาดไหม คนอย่างมึงเนี่ยนะจะพัก”
“อือ กูก็เหนื่อยเป็นนะมึง”
“กูรู้ว่าเหนื่อยเป็นแต่กูไม่เคยเห็นมึงพักเลยขนาดควบสาวทั้งคืนพอเช้าแม่งไปทำงานเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น”
“ก็แข็งแรงไง”
“เออ กูไม่เถียงมึงหรอก”
ทั้งสองคนพาเจโรมมายังรถของราฟาเอลที่จอดอยู่ด้านหลังร้านอย่างทุลักทุเล
“พี่เจฟแม่งตัวหนักฉิบ ถึงคอนโดใครจะช่วยมึงเอาลงจากรถวะ”
“เดี๋ยวอีกชั่วโมงก็ตื่นเองแหละ” เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เจโรมเมาจนคอพับแบบนี้ และเขาก็เป็นคนพาชายหนุ่มกลับคอนโดทุกครั้ง
ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรูทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์ส
เครื่องบินลำใหญ่แตะที่พื้นรันเวย์ของสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ได้สักพักหญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีเหลืองสดออกมาจากสนามบินตากลมโตมองหาป้ายที่บอกทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าตามที่อ่านมาจากรีวิวในเพจยอดฮิต เธอลากกระเป๋าไปตามทางเดินอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงท่าเรือ Mariner of the seaเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำมนิษารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนรอไม่ไหว ขณะกำลังต่อแถวที่จุดเช็กอินเพื่อขึ้นเรือเธอก็มองไปรอบๆ เท่าที่มองด้วยสายตาทริปนี้แทบไม่มีคนไทยเลย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงมายังห้องพักที่จองไว้ ซึ่งมีสองเตียงแต่น่าเสียดายที่หญิงสาวต้องนอนตามลำพังเพียงคนเดียวห้องที่เธอเลือกเป็นห้องที่มีมองเห็นวิวทะเล ด้านนอกระเบียงมีเตียงสำหรับนอนเล่น เป็นมุมพักผ่อนที่ดูแล้วคงสบายไม่น้อย และถ้าได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดพร้อมกับมองทะเลไปด้วยคงมีความสุขไม่น้อยเพราะเดินทางตั้งแต่เช้าเธอเลยยังไม่ได้ทานอะไร หญิงสาวตรงไปยังห้องอาหารบนเรือที่เปิดให้ทานให้ฟรีอยู่หลายห้อง พอทานจนอิ่มก็เดินสำรวจเรือเพื่อย่อยอาหารเดินมาถึงโซนสระว่ายน้ำที่อนุญาตให้แต่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเธอก็นั่งลงพักขา บริเวณ
เรือออกจากฝั่งในเวลาห้าโมงเย็นตามเวลาที่แจ้งไว้ มนิษายืนมองระลอกคลื่นที่กระจายออกจากเรือด้วยความรู้สึกอิสระอย่างเต็มที่เธอไม่เคยอยู่บนเรือลำใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แม้จะกลัวอยู่บ้างในคราแรก แต่พอเรือออกจากฝั่งมาแล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป คงเพราะเรือขนาดใหญ่จึงแทบไม่รู้สึกเลยว่าตอนนี้กำลังแล่นอยู่บนผิวน้ำหญิงสาวมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า กดถ่ายรูปด้วยมือถือก่อนจะส่งไปยังไลน์กลุ่มให้เพื่อนรักทั้งสองดูว่ามันสวยแค่ไหน“ให้ผมช่วยถ่ายไหม”มนิษาตกใจแต่พอหันไปตามเสียงก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุยด้วยเมื่อตอนบ่าย“ฉันแค่อยากได้รูปส่งให้เพื่อนค่ะ”“ไม่อยากถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เหรอครับ ผมช่วยถ่ายได้นะ”มนิษาก็อยากได้รูปตัวเองอย่างที่เขาพูด หญิงสาวส่งมือถือให้เขากดถ่ายรูปอีกหลายรูป พอรับคืนมาก็ยิ้มเพราะดูแล้วคุณราฟก็ถ่ายรูปสวยเหมือนกัน“คุณล่ะคะ จะถ่ายไหมฉันถ่ายให้”“ก็อยากถ่ายครับ แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันถ่ายแล้วส่งให้คุณก็ได้”“งั้นช่วยถ่ายผมหล่อๆ นะครับจะเอาไปอวดเจ้านาย”มนิษามองภาพชายตัวสูงผ่านหน้าจอมือถือ กดถ่ายไปหลายรูปจากนั้นก็ส่งให้เจ้าตัวดูว่าพอใจไ
หลังจากอาบน้ำอีกรอบมนิษาก็รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนใหม่ตั้งแต่เช้าแม้ว่าจะยังไม่รู้จักกันดีรู้แค่เขาชื่อราฟ แต่เท่าที่ได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกและคงทำให้การมาเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ไม่เบื่อหญิงสาวมาถึงห้องอาหารก็เห็นว่าราฟาเอลมารอเธออยู่ก่อนแล้ว“มอร์นิ่งครับ หลับสบายไหม”“มอร์นิ่งค่ะ หลับสบายมากไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่บนเรือ”ทั้งสองแยกกันไปตักอาหารจากนั้นก็กลับมานั่งทานด้วยกัน ระหว่างทานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก่อนจะพากันมาเดินเล่นรับลมที่ชั้นบนสุดของเรือเช้านี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบ“กลัวความสูงไหมครับ” ราฟาเอลถามขณะที่กระเช้ากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ“ไม่กลัวค่ะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า” เธอมองลงไปยังด้านท้ายเรือที่ตอนนี้เห็นคนตัวเล็กลงไปทีละนิด“วิวบนนี้สวยดีนะครับ ถ่ายรูปไหม ผมถ่ายให้”มนิษายิ้มให้กล้องขณะที่เขากำลังกดถ่าย มือใหญ่สั่นเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มนั้นมันหวานจนอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ไปยิ้มแบบนี้กับใครที่ไหน“คุณจะถ่ายไหมคะ”“ครับ รบกวนด้วย”พอได้รูปเดี่ยวแล้วราฟาเอลก็ขอถ่ายรูปคู่ เขายื่นกล้
“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ” “เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง “แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ” “ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ” “ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้” “ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้” มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน “ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย” “แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว” “ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ” “เขาเป็นพี่รหัสค่ะ” “ความใกล้ชิดเหรอครับ” “ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉั
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท
มนิษาขอลางานจากพี่เดซี่โดยบอกแค่ว่ามีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เดซี่เห็นว่าตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่รีสอร์ตก็ยังไม่เคยได้ลาพัก อีกอย่างวันหยุดที่ผ่านมามนิษาก็ถูกโทรตามให้มาทำงานกับราฟาเอลเธอออกเดินทางจากสมุยด้วยเที่ยวบินบ่าย ส่วนราฟาเอลนั้นเดินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว และตอนนี้เขาก็มารับเธอที่สนามบิน“ผมลุ้นมากเลยกลัวคุณจะเปลี่ยนใจ” เขาทักทายคนรักพร้อมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นในสนามบินเลยแม้แต่น้อย“นาวบอกว่าจะมาก็ต้องมาสิคะ คุณว่างเหรอถึงมารับนาวได้”“ไม่ว่างก็ต้องมารับเองครับ คิดถึงมากอยากเจอ”“นาวก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ถ้าคราวหน้าถ้ามีงานก็ไม่ต้องมารับนะคะ นาวกลับเองได้”“ก็ผมเป็นห่วงนี่ครับ คิดถึงคุณด้วย แล้วเดินทางเหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะ บินแค่นี้สบายมาก ว่าแต่เราจะไปไหนกันค่ะ ที่คอนโดคุณใช่ไหม”“ผมว่าเราพักที่โรงแรมดีกว่าครับสะดวกดี”“โรงแรมของคุณน่ะเหรอคะ ฉันจะไม่รบกวนใช่ไหม”“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็พักที่โรงแรม นาน ๆ ถึงจะไปค้างที่คอนโด”“ค่ะ” มนิษาเดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอเห็นด้วยกับราฟาเอลเพราะการพักที่โรงแรมจะประหยัดเวลาเดินทางมาทำงานได้ราฟาเอลส่งเธอที่ห้องพักจากนั้นก
หลังจากบอกกับบิดาว่าตนเองกำลังคบหาอยู่กับมนิษาคุณอีริคก็หัวเราะลั่นห้อง เขาคิดถึงตัวเองสมัยหนุ่ม ๆ ที่เจอกับมารดาของราฟาเอลครั้งแรก“พ่อหัวเราะทำไม ผมพูดเรื่องจริงนะครับ”“ที่หัวเราะก็เพราะมันน่ายินดียังไงล่ะ ในที่สุดแกก็หยุดเจ้าชู้ได้สักที”“พ่อไม่คิดว่ามันเร็วไปใช่ไหม ถ้าผมจะให้พ่อไปคุยกับพ่อของเธอ”“แกรู้จักกันมานานเท่าไหนแล้ว”“ถ้านับตั้งแต่เจอกับถึงตอนนี้ก็แค่สองเดือนครับ”“ตั้งสองเดือนยังไปไม่ถึงไหน เสียชื่อลูกชายฉันหมด”“ทำมาเป็นว่าผม แล้วทีพอกับแม่ละตั้งสองปีไม่ใช่เหรอถึงจะได้แต่งงานกัน”“ที่แม่แกบอกว่าสองปีล่ะ มันคือหลังจากแต่งงานสองปีแกถึงเกิด”“แล้วพ่อกับแม่แต่งงานกันตอนไหน รู้จักกันนานแค่ไหนถึงแต่งล่ะ”“สองอาทิตย์”คำตอบของอีริคทำให้คนฟังทั้งสามคนอ้าปากค้างเพราะไม่อยากจะเชื่อ“ผมว่าพ่อโม้”“ถ้าคิดว่าโม้แกลองไปถามเพื่อนแม่แกสิ”เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่เชื่ออีริคก็เลยเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังอย่างละเอียด“พ่อทำยังไงแม่ถึงยอม”“ความจริงใจไงล่ะ พ่อบอกทุกอย่างกับเขาตั้งแต่แรกว่าเป็นใครมาจากไหน ผ่านอะไรมาบ้าง รวมถึงเรื่องผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต”“นี่พ่อกำลังจะบอกว่าสิ่งที่ผมท
มนิษาก็กลัวจะเป็นอย่างนั้นจึงเดินตามไปที่ห้องนอนโดยไม่คิดอะไร แต่พอเดินไปถึงก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปถนัดราฟาเอลดึงมือเธอจนล้มลงไปกองอยู่บนที่นอน ส่วนเขาก็ทับทางลงมาอย่างรวดเร็ว ปากร้อนจูบพรมอย่างหิวกระหาย มนิษาพยามผลักออกแต่เหมือนว่าตัวเขาจะไม่กระเทือนเลยสักนิดกว่าเขาจะยอมปล่อยเธอก็ดิ้นจนแทบหมดแรง“คุณราฟ อย่าค่ะ เราต้องคุยกัน นาวไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น”“ที่รักคุณรู้ตัวไหมคุณเป็นคนหึงได้น่ารักมาก” ราฟาเอลหัวเราะกับท่าทางคนรัก“นาวไม่ตลกด้วยนะคะ”“เอาล่ะครับ ลองบอกผมมาสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง”ราฟาเอลขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงแล้วรั้งให้มนิษาเข้ามาในอ้อมกอด หญิงสาวแนบใบหน้าลงกับหน้าอกแกร่ง มันใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นรัว“เมื่อคืนคุณนิต้าให้นาวไปซื่อถุงยางเพราะที่มีในห้องเธอใช่ไปหมดแล้ว”ราฟาเอลมองหน้ามนิษาแล้วยิ้ม เขาเอื้อมไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงที่มีกล่องถุงยางอยามัยที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ในนั้นหนึ่งกล่อง“เธอคงหาไม่เจอ”“มะนาวที่ผ่านมาผมคงลืมบอกคุณไปว่านิต้าน่ะ นอกจากจะเป็นเลขาพ่อของผมแล้วเขายังพ่วงตำแหน่งแม่เลี้ยงของผมด้วย”“อะไรนะคะ แต่เมื่อวานคุณกับเธอก็ออกไปกันทั้งวัน
มนิษาเดินถือถาดอาหารมายังบ้านพักหลังริมสุด เธอเคาะประตูสามครั้งพอได้ยินเสียงอนุญาตก็เปิดเข้าไปทันที“สวัสดีค่ะคุณอีริค หลับสบายไหมคะ”“สบายมากจนตื่นสายเลย นั่นอาหารเช้าของฉันเหรอ”“ค่ะ คุณราฟาเอลบอกให้ฉันยกมาให้ที่นี่”“ขอบใจมาก ต่อวันหลังไม่ต้องยกมาให้ฉันหรอกนะ ฉันอยากไปดูสักหน่อยว่าตอนนี้ที่รีสอร์ตเป็นยังไงบ้าง”“ได้ค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ ฉันจะรออยู่ข้างนอกมีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย”“ไม่มีงานอื่นต้องไปทำหรอกเหรอ”“ตอนนี้ฉันทำหน้าที่เป็นบัตเลอร์ให้คุณราฟาเอลค่ะ”“เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีบัตเลอร์ด้วย”“ก็แค่ชั่วคราวค่ะ กับคนอื่นยังไม่มี แต่คุณราฟาเอลขอก็เลยต้องเป็นบัตเลอร์แบบเฉพาะกิจค่ะ”“แปลกจังนะ ปกติลูกชายฉันมันเป็นคนขี้รำคาญ โลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ที่ยอมให้ฉันพักบ้านเดียวกับเขาก็แปลก”สิ่งที่บิดาของราฟาเอลพูดช่างต่างจากราฟาเอลที่เธอรู้จักโดยสิ้นเชิง เพราะตั้งแต่รู้จักกันราฟาเอลชายหนุ่มมักหาเรื่องอยู่ใกล้เธออยู่เสมอ จนอดคิดว่าเขาเป็นพวกขาดความอบอุ่นการได้คุยกับคุณอีริคทำให้มนิษารู้จักราฟาเอลในอีกแง่มุมหนึ่ง รู้ว่าชายหนุ่มไม่ชอบให้บิดาจับคู่ให้ และปฏิเสธการดูตัวทุกครั้งจนเดือดร้อ
วันนี้บิดาของราฟาเอลจะเดินทางมาถึงแล้ว ชายหนุ่มและมนิษาไปรอรับที่สนามบินตั้งแต่ตอนบ่าย พอเครื่องลงจอดไม่นานก็เห็นชายชาวต่างชาติเดินคู่มากับผู้หญิงอีกคน“ราฟ ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณที่นี่” หญิงสาววิ่งเข้ามาใกล้จากนั้นก็โผเข้ากอดราฟาเอลแน่นอีกคนก็กอดกลับพร้อมกับส่งยิ้มให้ มนิษาได้แต่มองตาค้างเธอยืนนิ่งเพราะไม่คิดว่าราฟาเอลจะทำแบบนี้ต่อหน้าเธอ“เพราะผมรู้ว่าคุณจะมาด้วยไงถึงมารับ ถ้าเขามาคนเดียวผมคงไม่มาที่นี่” ราฟาเอลพูดแล้วปรายตาไปยังชายอีกที่เดินเข้ามาสมทบ“ทำอย่างกับฉันอยากเจอแก แล้วนี่เจฟไปไหนล่ะ”“เจฟทำงาน ถ้าพ่ออยากเจอผมจะโทรตามให้”“ไม่เป็นไรก่อนกลับฉันจะแวะหาเขาที่กรุงเทพเอง”“ราฟ คุณมากับใคร” แอนนิต้าถาม“ตายจริงผมลืมแนะนำเลย นี่มะนาวครับเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการที่รีสอร์ต มะนาวนี่พ่อผมอีริค ส่วนนี่แอนนิต้าเธอเป็นเลขาของพ่อผม”“สวัสดีค่ะ คุณอีริค คุณแอนนิต้า” มนิษากล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษ“เรียกนิต้าก็ได้นะคะ คุณมนิษา ว่าแต่ชื่อเล่นคุณชื่ออะไรนะคะ ฉันไม่ทันฟังที่ราฟบอก”“มะนาวค่ะ แต่คนส่วนใหญ่เรียกนาว”“อ้อ นาว ชื่อน่ารักดีนะคะเหมาะสมกับตัวเลย”“ขอบคุณค่ะ คุณเองก็สวยมาก”“ขนาดสวย
พอคุยกันจนเข้าใจแล้วมนิษาก็ชวนราฟาเอลออกไปนอนฟังเสียงคลื่นด้านนอกห้องพัก หญิงสาวเอนหลังอยู่บนเก้าอี้อาบแดดบุนวมตัวโต ขณะที่ราฟาเอลเดินถือไวน์ออกมาจากห้องพัก“แค่ไวน์ใช่ไหมคะ” ตั้งแต่พลาดคืนนั้นมนิษาก็กลัวที่จะดื่มอะไรโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน“ครับ ดูเหมือนคุณยังระแวงอยู่นะ” ราฟาเอลเดินอ้อมไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ติดกัน“ค่ะ ตั้งแต่คืนนั้นฉันก็ไม่ดื่มอีกเลย”“ถ้าอยู่กับผมคุณดื่มได้ตามสบายเลย เพราะยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คุณเป็นอันตรายอยู่แล้ว”“เพราะคุณคือคนที่อันตรายที่สุดหรือเปล่าคะ”ราฟาเอลหัวเราะพลางรินไวน์ส่งให้มนิษาอีกแก้ว“พรุ่งนี้คุณจะออกไปไหนบ้างคะ”“ผมต้องถามคุณมากกว่าว่าอยากไปไหนบ้าง ผมไปได้ทุกที่ขอแค่ไปกับคุณ”“ขอนอนอยู่ที่นี่ทั้งวันได้ไหมคะ อยากนอนมองท้องฟ้าแบบนี้ กลางวันคงสวยไปอีกแบบ”“ก็คงอย่างนั้น ว่าแต่คืนนี้คุณไม่คิดจะเข้าไปข้างในเลยเหรอ ผมว่าเราเสียวเวลานาแล้ว”“คุณง่วงก็ไปนอนก่อน”“วันนี้ผมกินกาแฟมาตั้งหลายแก้วไม่ง่วงเลยสักนิดโต้รุ่งยังได้เลย”“แล้วจะรีบเข้าไปทำไม”“อยากเข้าไปนอนกอดคุณ”“ตรงนี้ก็กอดได้ ถ้าคุณแค่อยากจะกอดอย่างเดียว” เพราะดื่มไปหลายแก้ว มนิษาเลยก
ราฟาเอลรีบกอดขยับเข้ากอดคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าบึ้งอย่างประจบ“บอกมานะคะว่าเราเจอกันครั้งที่ไหน บอกความจริงมาให้หมด”“มะนาวครับทำไมทำเสียงน่ากลัวแบบนี้ละ ผมใจคอไม่ดีเลยนะ”“คุณราฟาเอลคะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”พอมนิษากลับมาแทนตัวเองว่าฉันอีกครั้ง ราฟาเอลก็ขนลุกซู่ เขากลัวว่าเธอจะโกรธและหนีตนเองไปอีกครั้ง สองแขนกอดเธอคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น“ที่รัก ผมรักคุณนะครับ รักมาก”“อย่าโยกโย้นะคะ เล่ามาให้หมดอย่าให้ฉันรู้จากคนอื่น”ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดลง ก่อนจะหันหน้าเข้าหามนิษาบนเตียงกว้าง สองมือกุมมือคนรักไว้แน่น เขาถอนหายใจอีกครั้งแล้วเล่าเรื่องราวตั้งแต่คืนแรกที่เขาเห็นเธอในผับให้ฟังทั้งหมด“แล้วเอริรู้ไหมคะ ว่าคุณแอบฟัง”“ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังหรอกนะครับ ผมกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่บริเวณนั้นมันแคบ เขายืนขวางทางอยู่ผมก็เลยได้ยินทั้งหมด”“คุณนี่มันร้ายจริง ๆ แล้วคิดไหมว่าถ้าไม่เจอฉันบนเรือจะทำยังไง”“ผมมั่นใจเพราะช่วงนั้นมีเรือแค่ลำเดียวที่ออกจากท่า พอผมเห็นคุณเช็กอินขึ้นเรือผมก็รีบตามคุณขึ้นไปเลย”“แล้วที่ทะเลาะกับคุณเจโรมล่ะคะ แผนของคุณด้วยหรือเปล่า”“ไม่ครับ นั่นเรื่องจริงเลย เขามาตามผมไปทำงาน ผมไม่
ราฟาเอลพามนิษามาซื้อชุดว่ายน้ำและชุดนอน รวมทั้งของใช้อื่นๆ อีกหลายอย่าง เธอพยายามท้วงว่ามันมากเกินไปแต่เขาก็ทำเป็นหูทวนลม ตอนนี้ในมือชายหนุ่มเลยมีทั้งเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมอีกหลายชนิด ถ้ารวมเป็นจำนวนเงินแล้วก็มากกว่าเงินเดือนของมนิษาเกือบทั้งปีพอได้ของที่ต้องการแล้วก็พากันมานั่งยังค่าแฟ่แห่งหนึ่ง สั่งกาแฟและเค้กมาคนละชิ้น มองบรรยากาศรอบตัวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินร้านที่ทั้งสองคนมาในวันนี้อยู่คนละด้านกับรีสอร์ตจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น“แก้วที่สามของวันแล้วนะคะ คืนนี้คงได้ตาค้างกันบ้างล่ะ” มนิษามองคนที่ดื่มกาแฟเป็นแก้วที่สามของวันแล้วส่ายหัว“แล้วใครบอกว่าผมอยากนอนกันล่ะ”เพราะกำลังพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนทางไลน์มนิษาเลยไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรโรงแรมที่เข้าพักเป็นโรงแรมหรู ด้านหน้าห้องพักเป็นสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล ตัวบ้านแต่ละหลังลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันได ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมนิษาสั่งอาหารเย็นให้กับตัวเองและราฟาเอล ก่อนจะเอาถุงชุดว่ายน้ำออกมากะว่าจะส่งซักก่อนสวมมันในวันพรุ่งนี้“แต่ผมอยากเห็นมันอยู่บนตัวคุณจัง มันคงสวยมาก” ราฟาเอลมองชุดว่ายน้ำสีส้ม
มนิษามาที่ห้องอาหารช้ากว่าทุกวันเธอสั่งอาหารสำหรับราฟาเอลส่วนตัวเองก็ไปนั่งทานกับเพื่อนที่ห้องอาหารของพนักงาน“มะนาว หน้าหนูดูไม่สดชื่นเลยคุณราฟาเอลใช้งานหนูหนักไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ เมื่อคืนนาวนอนไม่ค่อยหลับ”“อ้อ งั้นก็แล้วไป ถ้ามีอะไรก็บอกพี่นะคะ”“พี่เดซี่คะ นาวมีอะไรจะถามหน่อยค่ะ” มนิษาพูดเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น“ได้สิคะ ถามมาเลยพี่ยินดีตอบหนูทุกคำถาม”“นอกจากพี่เดซี่ พี่วิและคุณลุงคนขับรถแล้วมีใครอีกที่รู้ว่าคุณราฟาเอลเขาเป็นเจ้าของที่นี่”“มะนาว หนูรู้”“เบา ๆ สิคะพี่เดซี่ เดี๋ยวคนก็ได้รู้กันทั้งรีสอร์ตหรอก”“พี่ขอโทษ พี่แค่ตกใจไม่คิดว่าหนูจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณราฟาเอลเป็นคนบอกใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วทำงานกับเขาอึดอัดไหม”“ก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็เอาแต่ใจ”“ปกติเขาไม่ค่อยมาที่นี่หรอก สงสัยครั้งนี่คงอยากจะพักผ่อนจริง ๆ ถึงได้มาอยู่ยาวเลย”“แล้วปกติใครมาดูแลที่นี่ละค่ะ”“ส่วนใหญ่ก็คุณเจโรมค่ะ ไม่รู้ว่ามาครั้งนี้จะมาจับผิดอะไรพวกเราหรือเปล่ายังไงพี่ฝากด้วยนะคะ ถ้า เขาอยากได้อะไรก็อย่าขัดใจ เผื่อสิ้นปีจะได้โบนัสก้อนโต”“นาวเพิ่งรู้ว่าทำงานโรงแรมมีโบนัสด้วย”“ที่อื่นพี่ก