กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที
“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี
“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”
“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”
“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”
“ทำไม”
“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”
“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”
“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”
“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”
“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”
“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด
“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”
“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”
“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”
“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”
“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”
“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”
“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”
“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”
“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”
“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”
“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ นาวว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าพ่อถึงได้ยัดเยียดให้นาวไปแต่งงาน”
“ไม่มีหรอก ก็แค่เรื่องโรงแรมเรื่องเดียว”
“นาวอยากเจอเขาก่อน”
“เขาไม่ว่างให้เราเจอง่าย ๆ หรอกนะลูก” หลายครั้งแล้วที่คุณโชติขอพบกับคนที่จะซื้อโรงแรม แต่เขาก็ไม่เคยมาเจอ อย่างมากก็แค่ส่งตัวแทนมาเท่านั้น
“แสดงว่านาวจะต้องแต่งงานกับเขาทั้งที่ไม่เคยเจอกันน่ะเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ” รัญญาตอบคำถามแทนสามี
“นาวว่าผู้ชายคนนี้คงไม่ปกติแน่”
“อย่าคิดมากเลย คนรวยล้นฟ้าอย่างั้นเขาก็ไม่มีเวลามาเจอพวกเรา หรอก แล้วบางทีไอ้เรื่องแต่งงานเขาก็แค่รับปากไปอย่างนั้น คนอย่างเขาคงมีผู้หญิงอีกเยอะ”
“หมายความว่ายังไงคะ” มนิษาหันไปถามคุณรัญญา
“แหม ยังต้องให้อธิบายอีกเหรอ เธอก็อาจเป็นได้แค่นางบำเรอไงล่ะ”
“นางบำเรอ” มนิษาไม่คิดว่าตัวเองจะต้องไปเป็นนางบำเรอของใครที่ไหนก็ไม่รู้ หน้าก็ไม่เคยเห็นและยังไม่รู้ด้วยว่าอายุเท่าไหร่ แต่รวยระดับนี้อย่างต่ำก็คงห้าสิบกว่าขึ้นไปแน่
“นาวไม่แต่ง”
“นาว พ่อขอร้องครั้งสุดท้าย”
“พ่อคะ ชีวิตนาวทั้งชีวิตเลยนะคะ”
“ครั้งสุดท้าย ถ้านาวยอมแต่งงานกับเขา พ่อจะไม่ยุ่งกับนาวอีกเลย” เสียงของผู้เป็นบิดาฟังดูสิ้นหวัง
มนิษาไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ ถ้าเธอยอมก็เท่ากับว่าต้องแต่งงานกับคนที่ยังไม่เคยเจอกันเลย แต่ถ้าไม่ยอมโรงแรมที่อาจจะถูกธนาคารยึดเพราะติดจำนองมานานเกินไปแล้ว
“พ่อคะ นาวขอเวลาได้ไหม ขอนาวใช้ชีวิตให้เต็มที่ก่อน แล้วนาวจะยอมแต่งงานค่ะ”
“จริงนะลูก”
“ค่ะ ขอแค่เดือนเดียว นาวจะกลับมา”
มนิษากลับมาที่คอนโดของเอริญาอีกครั้ง เก็บของออกจากกระเป๋าแล้วนอนพัก ส่วนเจ้าของคอนโดนั้นบอกว่าจะกลับไทยในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ตอนนี้เธอแทบไม่เหลือใครให้คุยด้วยเลย ทั้งเอริญาและลดากาญจน์ต่างใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ซึ่งคำคำนี้สำหรับเธอแล้วแทบไม่เคยมีอยู่ในหัวเลย
หญิงสาวอยากคุยกับราฟาเอลแต่ไม่รู้จะติดต่อเขายังเพราะตลอดเวลาที่คุยกันทั้งสองไม่ได้ขอเบอร์ของกันและกันไว้เลย
หลังจากนอนอุดอู้อยู่ที่คอนโดถึงสามวันเต็ม มนิษาก็ตัดสินใจว่าคืนนี้จะออกไปเที่ยว ไปสนุกให้เต็มที่ก่อนจะกลับไปรับหน้าที่ลูกกตัญญูซึ่งเธอไม่เต็มใจจะรับตำแหน่งนั้นเลยสักนิด
เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืน มนิษาจึงเลือกที่จะมาร้านเดิมที่เคยมาสนุกกับเพื่อนในคืนที่พวกเธอพากันมาฉลองหลังเรียนจบ
หญิงสาวเลือกนั่งมุมในสุด มองดูผู้คนออกมาวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนาน เธอเองก็อยากจะออกไปเต้นแบบนั้นแต่ติดที่ว่าคืนนี้เธอมาคนเดียว จึงได้แต่นั่งมองด้วยความเสียดาย
“มะนาว” เสียงทักทายท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มทำเธอไม่แน่ใจนักว่ามีใครรู้จักเธอที่นี่ แต่พอเงยหน้าขึ้นมามองก็เจอกับเขา คนที่เธอกำลังอยากเจอ
“คุณราฟ”
“ผมเอง ไม่นึกเลยว่าจะเจอกันอีก”
“ไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันหน่อยดีไหม” ราฟาเอลไม่อยากตะโกนคุยกับเธอแบบนี้ อีกอย่างเขาก็คุยกับเธอในบรรยากาศที่ดีกว่านี้สักหน่อย
“ได้สิ ฉันกำลังอยากเจอคุณอยู่พอดีเลย”
ราฟาเอลพามนิษาขึ้นมายังบาร์หรูบนชั้นดาดฟ้า เขาเลือกนั่งโซฟาตัวใหญ่ริมสุดที่มองลงไปเห็นวิวกรุงเทพอย่างชัดเจน
“ดื่มแอลกอฮอล์ได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
ชายหนุ่มจัดการสั่งเครื่องดื่มให้เธอและตัวเองอย่างคล่องแคล่ว
“ทำไมมาเที่ยวคนเดียวละครับ”
“เพื่อนฉันไม่มีใครว่าเลยค่ะ”
“ครั้งหน้าถ้าจะมาอีกบอกผมนะ จะได้มาด้วยกัน จริงสิ ผมยังไม่มีเบอร์คุณเลย” เพราะตอนที่อยู่บนเรือทั้งสองอยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลายกเว้นตอนนอนจึงไม่คิดที่จะขอเบอร์ของอีกฝ่ายไว้เลย
พอแลกเบอร์โทรจากนั้นก็แอดไลน์และส่งรูปให้
“ขอบคุณครับ รู้ไหมผมดีใจมากที่เจอคุณ”
“นึกว่าจะลืมกันไปแล้ว” เธอเองก็ดีใจที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง
“ใครจะลืมแฟนตัวเองได้ล่ะครับ”
“เรื่องแฟนมันไม่ได้ผลหรอกนะคะ พ่อไม่ยอมฟังฉันเลย”
“แล้วคุณจะเอายังไงต่อ ต้องยอมจริงๆ ใช่ไหม”
“ฉันขอเวลาพ่อหนึ่งเดือนค่ะ ประวิงเวลาไว้ก่อนเผื่อระหว่างนี้จะคิดอะไรออก”
“ระหว่างนี้คุณจะทำอะไร”
“ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ คงเที่ยว ใช้ชีวิตให้เต็มที่มั้งคะ”
“คนที่คุณจะแต่งงานด้วยเขาเป็นใครพอรู้ไหมครับ”
“ไม่รู้ค่ะ ไม่เคยเจอ พ่อก็มาเคยเจอ”
“ถ้าเขาแก่ หัวล้าน อ้วนลงพุง คุณจะโอเคไหม”
“คุณราฟ คุณทำให้ฉันกลัวนะคะ”
“ผมก็แค่เดาเอาน่ะครับ เขามีเงินขนาดนั้นก็คงมีอายุมากแล้ว สงสัยจะเป็นคนแก่ตัณหากลับ”
“อย่าพูดถึงเขาเลย ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่อยากเอาเขามาพูดให้เสียหายหรอกค่ะ บางที่เขาก็อาจจะแค่ยอมตกลงแต่งงานเพราะอยากได้โรงแรมเท่านั้น เขาอาจจะมีภรรยาอยู่แล้ว”
“หมายถึงคุณจะต้องเป็นเมียน้อยเขาน่ะเหรอครับ”
“ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ ฉันภาวนาให้เขาเป็นคนแก่ใจดี แต่งงานก็เพื่อนธุรกิจเท่านั้น”
“คุณไม่รู้อะไร ผู้ชายน่ะ ต่อให้อายุมากแค่ไหน เรื่องอย่างว่ามันก็ต้องมันกันบ้าง”
“ไม่เอาแล้ว ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว พูดเรื่องของคุณดีกว่า”
“เรื่องของผมมีอะไรน่าสนใจกัน”
“ฉันอยากรู้ กลับไปแล้วเจ้านายคุณบ่นอะไรไหม”
“หูชาเลยครับ ตั้งแต่กลับมาผงก็เพิ่งได้พักเนี่ยแหละ แล้วก็โชคดีมากที่ได้เจอคุณ ผมว่าคงเป็นพรหมลิขิตแน่ ๆ” ราฟาเอลพูดราวกับตนเองเป็นหนุ่มช่างฝัน แต่ความจริงแล้วเขาจ้างนักสืบตามเธอต่างห่างล่ะ พอนักสืบบอกว่าเธอมาเที่ยวที่นี่เขาเลยรีบมาหาเธอ
“คุณมาที่นี่บ่อยเหรอคะ”
“ไม่เท่าไหร่ครับ ว่างก็มา”
“แล้วข้างบนนี้ล่ะคะ”
“มาครั้งสองครั้งครับ พอดีเจ้าของที่นี่เป็นเพื่อนเจ้านายครับ ผมก็เลยไม่ต้องจ่ายเต็มราคา”
“วิวสาวยมากเลยมากเลยค่ะ ขอเอาลงไอจีนะคะ ฉันชอบเก็บความทรงจำไว้ในนั้น ว่าแต่คุณมีไอจีไหม”
“ผมไม่เล่นครับ ไม่เคยสมัคร”
“อยากเล่นไหม เผื่อว่างจะได้นั่งดูอะไรในนั้นเพลินๆ”
“สมัครให้ผมได้ไหม” เขาส่งโทรศัพท์ของตัวเองให้พร้อมบอกรหัสปลดล็อกหน้าจอ
ใช้เวลาไม่นานมนิษาก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย
“เรียบร้อยค่ะ คุณจะกดติดตามใครก็ค้นหาตรงนี้”
“ผมติดตามคุณคนเดียวได้ไหม”
“ทำไมล่ะ”
“ผมไม่อยากรู้เรื่องของคนอื่นนอกจากคุณ”
“พูดเหมือนจะจีบ”
“ทำไมต้องจีบ เราเป็นแฟนกันอยู่แล้ว หรือที่คุณไม่ตกลงสักทีเพราะรอให้จีบอยู่”
“ใครรอกัน ฉันก็แค่ไม่อยากให้คุณเสียเวลาค่ะ ถ้าเราเป็นแฟนกันก็มีเวลาแค่ 27 วันที่จะคบกันเอง”
“ถ้าคุณให้โอกาสผม รับรองเลยว่าเวลาที่เหลือคุณจะมีความสุขที่สุด”
“ฉันกลัวว่าถึงวันนั้นแล้วคนที่เสียใจจะเป็นฉัน ถ้าเกิดฉันรักคุณขึ้นมา”
“ถ้าคุณรักผม ผมก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณอยู่กับผม แม้กระทั่งยกเลิกงานแต่งงาน”
“คุณไม่คิดเหรอคะว่าฉันอาจจะแกล้งรักคุณเพื่อให้คุณช่วยยกเลิกงานแต่ง”
“เรื่องความรักมันโกหกกันไม่ได้หรอกครับและผมก็ดูออกว่าใครรักผมหรือว่าใครกำลังรู้สึกดีกับผมอยู่ในตอนนี้”
“ฉันว่าคุณกำลังเข้าข้างตัวเองอยู่”
“ไม่เลย แววตาคุณมันฟ้องหมดแล้วว่าคุณก็รู้สึกที่ดีกับผม นะครับมะนาวเราเป็นแฟนกันนะ”
มนิษากำลังใช้ความคิดเพราะมีเวลาแค่ 27 วันจะเป็นตัวของตัวเอง มีอิสระที่จะคบกับใครสักคนที่ตัวเองรู้สึกดีด้วย ถ้าเธอยอมทิ้งโอกาสนี้ไปก็เท่ากับว่าเธอทิ้งความสุขไปอย่างน่าเสียดาย
“ตกลงค่ะ 27 วันที่เหลือฉันยกให้คุณ”
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านายเธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพังหญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้งวันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย“เหนื่อยไหมคะ”“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”“ครับ”“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมาปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุก
เสียงออดที่หน้าประตูทำให้มนิษาแปลกใจเพราะถ้าเป็นราฟาเอลเขาก็คงจะกดรหัสเข้ามาเองได้ ยังไม่ทันที่จะดูว่าใครมากดออดประตูก็ถูกเปิดออกมาก่อนแล้ว“คุณ” หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือเจ้านายของคนรัก“คุณเป็นใครแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณราฟาเอลไปไหน” เจโรมถามด้วยความแปลกใจ“ฉันเป็นคนรักของคุณราฟ คุณคงเป็นเจ้านายของเขาใช่ไหมคะ ฉันเคยเห็นคุณบนเรือ”“บนเรือ เจ้านาย”“ใช่ค่ะ ก็วันที่คุณไปตามเขามาทำงานไงคะ ฉันบังเอิญได้ยินคุณคุยกับเขา ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาทไปหน่อย”“เขาบอกแบบนั้นเหรอครับ”“ไม่ต้องให้บอกหรอกค่ะ คุณดุเขาขนาดนั้นฉันก็ดูออก ยังมีอีกเรื่องที่ต้องขอโทษคุณแทนเขา”“เรื่องอะไรครับ” เจโรมถาม เขากำลังจับต้นชนปลายว่าตอนนี้ราฟาเอลกำลังเล่นอะไรอยู่“ก็เรื่องที่เขาให้ฉันมาอยู่ที่คอนโดของคุณ”“คอนโดของผม อ่อ ใช่ ผมลืมไปเลยว่านี่เป็นคอนโดของผม”“ว่าแต่คุณมาหาเขา มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ เขาออกไปข้างนอกอีกสักพักก็คงจะกลับ”“ผมก็แค่แวะมาเองครับ ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ว่าแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”“ฉันชื่อมนิษาค่ะ คุณจะเรียกมะนาวเหมือนที่คุณราฟเรียกก็ได้ค่ะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื
“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมได้มีส่วนร่วมในโรงแรมของคุณ” ราฟาเอลกล่าวกับคุณโชติหลังจากที่เขายอมขายโรงแรมให้กับตนเองแล้ว“ยินดีครับผมหวังว่าคุณจะดูแลโรงแรมนี้เป็นอย่างดี”“แน่นอนครับผมจะดูแลทั้งโรงแรมและลูกสาวคุณอย่างดีเลยครับ”“ถ้าคุณรับปากแบบนี้ฉันก็เบาใจค่ะ ยายหวานน่ะเป็นเด็กดี แต่เรื่องงานยั้งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังไงฉันก็ขอฝากให้คุณช่วยสอนด้วยนะคะ” คุณรัญญาบอกกับชายหนุ่มฟาเอลมองลูกสาวของคุณโชติแล้วยิ้ม เขาไม่ได้บอกคุณโชติว่าลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือลูกคนเล็ก“แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ หวานไม่ได้เร่งนะคะแต่หวานเป็นผู้หญิงคนต้องใช้เวลาเตรียมตัว” มนัญญาถามด้วยความตื่นเต้น เธอเปลี่ยนใจจะแต่งงานทันทีที่เห็นหน้าของราฟาเอล“ผมเข้าใจครับ ผมเป็นผู้ชายคนไม่ค่อยถนัดเรื่องเตรียมงานเท่าไหร่ แต่ผมอยากแต่งหลังจากที่เราปรับปรุงโรงแรมเสร็จครับ อยากให้แขกที่มาเห็นว่าโรงแรมของเราพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน ทั้งสวนทางด้านนอกและห้องจัดเลี้ยง ผมอยากให้งานแต่งของผมกับลูกสาวคุณเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุด”“ความคิดคุณเฉียบแหลมมากเลยครับ” คุณโชติเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เพราะมันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้อง
เป็นอีกหนึ่งคืนที่ราฟาเอลนอนไม่หลับ มองห้องนอนกว้างที่เคยมีมนิษานอนอยู่ด้วยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอรู้จักกันประมาณหนึ่งเดือนแต่ความรู้สึกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นใครสักคนที่เขาตามหามาทั้งชีวิต เพียงแค่ติดต่อเธอไม่ได้เขายังร้อนใจถึงเพียงนี้ เรื่องที่จะต้องแต่งงานกับพี่ของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ราฟาเอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะคุยกับคุณโชติ บิดาของเธอว่าตนเองกับลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นแฟนกันและจะรีบจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้โรงแรมปรับปรุงเสร็จอย่างที่คุยไว้ในตอนแรกเขารีบตื่นเช้ากว่าทุกวันแล้วรีบตรงไปยังบ้านคุณโชติเพื่อหวังว่าจะเจอกับลูกสาวคนเล็กของเขา“อ้าว คุณราฟาเอลมาแต่เช้าเลยนะคะ พอดีเลยค่ะ มาทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคะ”“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนแต่เช้า”“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ หวานดีใจด้วยซ้ำที่คุณแวะมา”“ครับ ผมแวะมาบอกคุณก่อนว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยว่างมาดูแลโรงแรมแต่จะให้เลขามาช่วยดูแทนครับ”“เหรอคะ น่าเสียดายจังหวานคิดว่าจะได้เจอคุณทุกวันเสียอีก”“ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องไปจัดการครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หวานเข้าใจว่าคุณงานเยอะ คุณพ่อมาแล้วเราทานข้าวกันเลยไหมคะ”“บ้านคุณ
“อีกสองอาทิตย์แขกวีไอพีจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด พี่ฝากนาวไปดูแลด้วยนะ”“ค่ะพี่เดช”“หนูมะนาวขา พี่บอกกี่ครั้งแล้วไม่จำเลยนะลูก เดซี่ค่ะ พี่ชื่อเดซี่” คมเดชพยายามบีบเสียงให้เล็กขณะพูด เรียกรอยยิ้มให้กับคนฟังได้ไม่น้อยเลยทีเดียว“ขอโทษค่ะพี่เดซี่” มนิษายกมือไหว้ผู้จัดการรีสอร์ตที่หัวเราะอย่างอารมณ์หญิงสาวมาทำงานที่นี่ตำแหน่งรองผู้จัดการซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างภายในรีสอร์ต ไม่เว้นแม้กระทั่งทำห้องแทนแม่บ้าน ซึ่งมนิษาไม่ได้เกี่ยงงานเหล่านี้เลยเพราะเธอฝึกทำทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่อีกทั้งก็เคยไปทำงานที่โรงแรมของบิดามาก่อน“แขกรีเควสอะไรเป็นพิเศษไหมคะ แล้วมากี่คนค่ะ”“มาคนเดียวจ้ะ ท่านไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่ที่อยากให้คอยดูแลเพราะท่านรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ต”“ได้ค่ะ นาวเข้าใจแล้วจะดูแลอย่างดีไม่ให้เสียชื่อพี่เดซี่เลยค่ะ”สองสัปดาห์ก่อนมนิษาลงจากเครื่องในเวลาทุ่มกว่าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่สนามบิน คนขับรถของทางรีสอร์ตมารอรับอยู่แล้วพอรถจอดที่หน้ารีสอร์ตก็มีคนมายืนรอรับราวกับว่าเธอเป็นแขกคนสำคัญ“สวัสดีค่ะ” มนิษายกมือไหว้คนที่ยื่นรออยู่ซึ่งมีทั้ง
วันนี้มนิษาตื่นนอนสายกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันหยุดเธอจึงไม่ได้ไปทานอาหารที่รีสอร์ต แต่เลือกที่จะนั่งทานเค้กและกาแฟที่คาแฟ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนักระหว่างนั่งดื่มกาแฟตากลมโตก็มองนั่งท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เพราะวันนี้เป็นวันพุธเป็นวันทำงาน บนเกาะจึงแทบไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเลยสักคนอีกอย่างค่าครองชีพบนเกาะก็ค่อนข้างจะสูงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงจะเป็นชาวต่างชาติเสียมากกว่าหลังจากอิ่มแล้วเธอเดินไปยังร้านหนังสือที่อยู่ติดกัน เลือกหนังสือนิยายกับหนังสือเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนมาหนึ่งเล่ม แวะร้านสะดวกซื้อหยิบขนมปัง แยม และโยเกิร์ตเพี่อเป็นเสบียงในวันหยุดนี้ขณะกำลังเก็บทุกอย่างใส่ตู้เย็นพี่เดซี่ก็โทรเข้ามา“สวัสดีค่ะพี่เดซี่”“นะนาว ตอนนี้หนู่อยู่ไหน ลงเรื่อไปหรือยังลูก”“อยู่บ้านพักค่ะ นาวไม่ได้ขึ้นฝั่ง”“งั้นก็ดีเลยจ้ะ เย็นนี้แขกจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด”“ไหนว่ายังอีกหลายวัน”“เป็นแขกคนละคนกับที่แจ้งไว้ แต่ก็วีไอพีพอ ๆ กัน”“แล้วจะไม่เป็นไรเหรอคะ ถ้าเขาอยู่ยาวจนอีกคนมาถึง”“ไม่หรอกจ้ะ สองคนนี้สนิทกันอีกอย่างบ้านหลังนั้นก็มีตั้งสองห้องนอน ถ้าเขาจะพักด้วยกันก็ไม่