“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ”
“เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง
“แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ”
“ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ”
“ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้”
“ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้”
มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน
“ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย”
“แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว”
“ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ”
“เขาเป็นพี่รหัสค่ะ”
“ความใกล้ชิดเหรอครับ”
“ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉันก็เลยชอบเขาไปทีละนิด รู้ไหมคะ ฉันนี่แหละที่ขอเขาเป็นแฟน”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“เชื่อเถอะค่ะ ฉันน่ะเปรี้ยวสมชื่อมะนาวเลย”
“ผมชักจะชอบคุณแล้วสิ” เขาพูดออกมาตรง ๆ ทำให้คนฟังชะงักเล็กน้อย
“อย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ” ได้ฟังเขาพูดแบบนั้นมนิษาใจเต้นจนแทบทะลุออกมาจากอกข้างซ้าย
“คุณคิดว่าผมล้อเล่นหรือคุณคิดว่าผมเหมาะสมกับคุณกันแน่”
“คำว่าเหมาะสมวัดจากอะไรคะ” หญิงสาวถามกลับ
“หลายอย่างครับ หน้าตา ฐานะและสถานะทางสังคม”
“แล้วคุณราฟกับฉันต่างกันตรงไหนคะ”
“อาจจะสถานะทางสังคมมั้งครับ คุณเป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรม ส่วนผมเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง”
“ฉันก็แค่ลูกเจ้าของโรงแรมที่กำลังจะเจ๊งจนต้องเอาตัวเข้าแลก”
“คุณพูดเหมือนตัดสินใจไปแล้วว่าจะกลับไปแต่งงาน” เขาถามด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าเธอจะตัดสินใจแบบนั้น
“ไม่หรอกค่ะ ฉันว่ามันน่าจะมีทางออกอื่น บางทีฉันควรไปพูดกับคนที่จะมาร่วมหุ้นดู เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ”
“ผมว่ามันเสี่ยงเกินไปนะครับ ไม่คิดบ้างเหรอครับว่าจะกลายเป็นอ้อยเข้าปากช้าง”
“อย่าพูดให้ฉันกลัวสิคะ”
“ผมก็แค่เตือนนะครับ”
“คุณช่วยฉันติดหน่อยสิว่าจะเอายังไงดี”
“ก่อนอื่นคุณก็บอกท่านไปว่าคุณเองก็มีแฟนแล้ว”
“แต่ฉันยังไม่มี”
“ผมนี่ไงแฟนคุณ”
“แต่เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะคะ”
“อยากเป็นไหม”
“นี่ขอเป็นแฟนอยู่เหรอคะ”
“ครับ”
“คุณเป็นคนที่พูดตรงมากเลยนะคะ เพิ่งเจอกันไม่เท่าไหร่กล้าขอเป็นแฟนแล้ว”
“คุณรังเกียจไหมล่ะ ผมมีดีแค่หน้าตา แต่เงินในกระเป๋าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่”
“นี่กำลังพรีเซนต์ตัวเองใช่ไหมคะ”
“ครับ สนใจไหม”
“ถ้าฉันตอบตกลง คุณก็คงคิดว่าฉันเป็นคนใจง่ายแต่ถ้าฉันปฏิเสธคุณก็จะหาว่าฉันหยิ่งและมองคนที่เปลือกนอก”
“คุณคิดเยอะแล้วนะครับมะนาว ผมถามหน่อย เราใกล้ชิดกันขนาดนี้คุณไม่รู้สึกดีกับผมบ้างสักนิดเลยเหรอครับ”
“คุณนี่ต้อนเก่งนะคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณ แต่มันยังไม่มากพอที่จะเป็นแฟน”
“งั้นก็คุยกันไปก่อนก็ได้ คุณไม่ต้องตกลงเป็นแฟนผม แต่ผมยอมให้คุณเอาชื่อไปอ้างได้ว่าผมเป็นแฟนคุณ ตกลงไหมครับ”
“คุณเสียเปรียบฉันอยู่นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเป็นผู้ชายนี่”
“จะไม่มีปัญหาภายหลังใช่ไหมคะ แบบว่าผู้หญิงของคุณ”
“ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ เพราะผมยังไม่มีผู้หญิงเป็นของตัวเอง” ราฟาเอลพูดไปตามความจริง เขาไม่ได้คบกับใครอย่างจริงจังและผู้หญิงที่ผ่านมาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขา เพราะทุกครั้งที่จบภารกิจบนเตียง พวกเธอก็จะได้ทั้งเงินและของใช้แบรนด์เนมติดไม้ติดมือไปทุกคน
“แล้วคุณว่ามันจะได้ผลไหม พ่อฉันจะยอมเชื่อไหม”
“อันนี้ตอบไม่ได้ครับ เพราะผมไม่เคยเจอพอคุณมาก่อน”
“นั้นสินะ มันเชื่อยากสักหน่อย”
“เราต้องหาแผนสอง”
“ยังไงคะ”
“บอกชื่อโรงแรมมาครับ ผมจะลองปรึกษาเจ้านายดูเพราะบริษัทของผมก็ทำเกี่ยวพวกโรงแรมรีสอร์ต บางที่เขาอาจจะสนใจก็ได้”
“ฉันไม่รบกวนขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่รบกวนคุณก็เกรงใจมากแล้ว นี่ยังต้องไปรบกวนถึงเจ้านายคุณอีก”
“อย่าเกรงใจเลย ปีที่แล้วเขาก็ซื้อโรงแรมเล็กๆ แล้วพัฒนาจนมันดีขึ้น กำไรนี่อย่าพูดถึงเลย ผมได้โบนัสตั้งเยอะ”
“ฉันกลัวคุณลำบาก”
“เอาน่า แค่บอกชื่อโรงแรมมาก็พอ ถ้าเขาสนใจเขาก็จะติดต่อไปเอง เราไม่ได้บังคับเขานี่ครับ”
มนิษาคล้อยตามคำพูดของเขาได้อย่างง่ายดาย เธอบอกชื่อโรงแรมของบิดาให้กับราฟาเอลไป ก่อนที่จะแยกย้ายกันพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่คิดไว้ว่าจะทำร่วมกัน
กลับมาถึงห้องราฟาเอลก็รับโทรหาเจโรมถึงแม่ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้วก็ตาม
“มีอะไรถึงโทรมาดึกดื่นอย่างนี้ รู้ไหม ฉันกำลังหลับฝันดีเลยนะ”
“ผมรู้พี่ยังไม่นอนหรอก”
“อย่าทำเป็นรู้ดี มีอะไรจะใช้ก็บอกมาเถอะ”
“พี่ รู้จักโรงแรมนี้ไหม” เขาบอกชื่อโรงแรมตามที่มนิษาบอก
“ก็โรงแรมที่คุณบอกว่าจะทุบทิ้งไง” เจโรมเตือนความเจ้านายอีกครั้ง
พอได้ยินเลขาบอกราฟาเอลก็นึกได้ ราคาที่ทางนั้นเสนอมาคือห้าสิบล้านแต่เขาคิดว่าราคามันสูงไปเพราะสภาพโรงแรมทั้งเก่าทั้งโทรม และเขาวางแผนจะทุบทั้งหมดทิ้งแล้วสร้างขึ้นมาใหม่
“แล้วเขาว่ายังไงบ้านผมลืมตามเรื่องเลย”
“ผมสืบมาแล้วตอนนี้โรงแรมยังติดจำนองอยู่ ถ้าเราจะซื้อก็ต้องจ่ายให้ธนาคารอีกสิบล้าน บวกกับที่เขาเสนอรวม ๆ แล้วเราต้องจ่ายถึงหกสิบล้าน ผมเลยไปว่าเราสู้ได้แค่ได้แค่ยี่สิบห้าล้านส่วนธนาคารเราจะรับผิดชอบทั้งหมด”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการแต่งงานตรงไหนเลย”
“เดี๋ยวสิ ฉันยังบอกนายไม่หมด ถ้าเราจะซื้อในราคายี่สิบห้าล้านเขาขอให้คุณแต่งงานกับลูกสาวเขาและยกหุ้นให้กับเขาหลังแต่งงานยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
“คุณโชตินี่ฉลาดเป็นกรดเลย ขายโรงแรมให้เราแล้วยังจะได้หุ้นไปแบบฟรี ๆ อีกด้วย แล้วพี่ว่าไง”
“เรื่องเงินเท่าไหร่ เรื่องแต่งงานนี่สิ ยังมีโรงแรมอีกมากที่อยากขาย ฉันว่าเราถอยเถอะ”
“ไม่ละ ตอบตกลงเขาไปตามนั้น”
“ราฟ นายกำลังคิดอะไรอยู่” สรรพนามเปลี่ยนไปแบบนี้แสดงว่ากำลังเข้าสู้โหมผู้ปกครองอีกคนของราฟาเอล
“ก็ตอบตกลงไปก่อนว่าเราจะแต่งงานกับลูกสาวของเขา”
“นายจะแต่งเหรอ ยังไม่เคยเจอกับเธอเลยนะ ถ้าไม่สวยไม่ถูกใจขึ้นมาจะทำยังไง”
“ก็ยกให้พี่ไง”
“ผมไม่ตลกด้วยนะครับ ตกลงนายจะเอายังไง”
“ก็ยอมเขาไปก่อน”
“นายมีแผนอะไรอีก อย่ามาทำให้ฉันปวดหัวนะ”
“ไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องห่วง”
“นายพูดแบบนี้ทีไรก็เป็นเรื่องทุกที”
“เอาน่า ผมสัญญา เลยเรื่องนี้จะไม่ทำให้พี่ต้องปวดหัว เอาไว้กลับไปผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกที”
“โทรมาแค่นี้ใช่ไหม”
“อือ ไปนอนเถอะผมก็ง่วงแล้ว”
“ถูกปลุกมากลางดึกใครมันจะหลับต่อได้ละ” เจโรมบ่นก่อนจะกดวางสาย
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านายเธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพังหญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้งวันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย“เหนื่อยไหมคะ”“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”“ครับ”“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมาปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุก
เสียงออดที่หน้าประตูทำให้มนิษาแปลกใจเพราะถ้าเป็นราฟาเอลเขาก็คงจะกดรหัสเข้ามาเองได้ ยังไม่ทันที่จะดูว่าใครมากดออดประตูก็ถูกเปิดออกมาก่อนแล้ว“คุณ” หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือเจ้านายของคนรัก“คุณเป็นใครแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณราฟาเอลไปไหน” เจโรมถามด้วยความแปลกใจ“ฉันเป็นคนรักของคุณราฟ คุณคงเป็นเจ้านายของเขาใช่ไหมคะ ฉันเคยเห็นคุณบนเรือ”“บนเรือ เจ้านาย”“ใช่ค่ะ ก็วันที่คุณไปตามเขามาทำงานไงคะ ฉันบังเอิญได้ยินคุณคุยกับเขา ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาทไปหน่อย”“เขาบอกแบบนั้นเหรอครับ”“ไม่ต้องให้บอกหรอกค่ะ คุณดุเขาขนาดนั้นฉันก็ดูออก ยังมีอีกเรื่องที่ต้องขอโทษคุณแทนเขา”“เรื่องอะไรครับ” เจโรมถาม เขากำลังจับต้นชนปลายว่าตอนนี้ราฟาเอลกำลังเล่นอะไรอยู่“ก็เรื่องที่เขาให้ฉันมาอยู่ที่คอนโดของคุณ”“คอนโดของผม อ่อ ใช่ ผมลืมไปเลยว่านี่เป็นคอนโดของผม”“ว่าแต่คุณมาหาเขา มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ เขาออกไปข้างนอกอีกสักพักก็คงจะกลับ”“ผมก็แค่แวะมาเองครับ ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ว่าแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”“ฉันชื่อมนิษาค่ะ คุณจะเรียกมะนาวเหมือนที่คุณราฟเรียกก็ได้ค่ะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื
“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมได้มีส่วนร่วมในโรงแรมของคุณ” ราฟาเอลกล่าวกับคุณโชติหลังจากที่เขายอมขายโรงแรมให้กับตนเองแล้ว“ยินดีครับผมหวังว่าคุณจะดูแลโรงแรมนี้เป็นอย่างดี”“แน่นอนครับผมจะดูแลทั้งโรงแรมและลูกสาวคุณอย่างดีเลยครับ”“ถ้าคุณรับปากแบบนี้ฉันก็เบาใจค่ะ ยายหวานน่ะเป็นเด็กดี แต่เรื่องงานยั้งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังไงฉันก็ขอฝากให้คุณช่วยสอนด้วยนะคะ” คุณรัญญาบอกกับชายหนุ่มฟาเอลมองลูกสาวของคุณโชติแล้วยิ้ม เขาไม่ได้บอกคุณโชติว่าลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือลูกคนเล็ก“แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ หวานไม่ได้เร่งนะคะแต่หวานเป็นผู้หญิงคนต้องใช้เวลาเตรียมตัว” มนัญญาถามด้วยความตื่นเต้น เธอเปลี่ยนใจจะแต่งงานทันทีที่เห็นหน้าของราฟาเอล“ผมเข้าใจครับ ผมเป็นผู้ชายคนไม่ค่อยถนัดเรื่องเตรียมงานเท่าไหร่ แต่ผมอยากแต่งหลังจากที่เราปรับปรุงโรงแรมเสร็จครับ อยากให้แขกที่มาเห็นว่าโรงแรมของเราพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน ทั้งสวนทางด้านนอกและห้องจัดเลี้ยง ผมอยากให้งานแต่งของผมกับลูกสาวคุณเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุด”“ความคิดคุณเฉียบแหลมมากเลยครับ” คุณโชติเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เพราะมันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้อง
เป็นอีกหนึ่งคืนที่ราฟาเอลนอนไม่หลับ มองห้องนอนกว้างที่เคยมีมนิษานอนอยู่ด้วยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอรู้จักกันประมาณหนึ่งเดือนแต่ความรู้สึกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นใครสักคนที่เขาตามหามาทั้งชีวิต เพียงแค่ติดต่อเธอไม่ได้เขายังร้อนใจถึงเพียงนี้ เรื่องที่จะต้องแต่งงานกับพี่ของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ราฟาเอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะคุยกับคุณโชติ บิดาของเธอว่าตนเองกับลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นแฟนกันและจะรีบจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้โรงแรมปรับปรุงเสร็จอย่างที่คุยไว้ในตอนแรกเขารีบตื่นเช้ากว่าทุกวันแล้วรีบตรงไปยังบ้านคุณโชติเพื่อหวังว่าจะเจอกับลูกสาวคนเล็กของเขา“อ้าว คุณราฟาเอลมาแต่เช้าเลยนะคะ พอดีเลยค่ะ มาทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคะ”“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนแต่เช้า”“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ หวานดีใจด้วยซ้ำที่คุณแวะมา”“ครับ ผมแวะมาบอกคุณก่อนว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยว่างมาดูแลโรงแรมแต่จะให้เลขามาช่วยดูแทนครับ”“เหรอคะ น่าเสียดายจังหวานคิดว่าจะได้เจอคุณทุกวันเสียอีก”“ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องไปจัดการครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หวานเข้าใจว่าคุณงานเยอะ คุณพ่อมาแล้วเราทานข้าวกันเลยไหมคะ”“บ้านคุณ
“อีกสองอาทิตย์แขกวีไอพีจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด พี่ฝากนาวไปดูแลด้วยนะ”“ค่ะพี่เดช”“หนูมะนาวขา พี่บอกกี่ครั้งแล้วไม่จำเลยนะลูก เดซี่ค่ะ พี่ชื่อเดซี่” คมเดชพยายามบีบเสียงให้เล็กขณะพูด เรียกรอยยิ้มให้กับคนฟังได้ไม่น้อยเลยทีเดียว“ขอโทษค่ะพี่เดซี่” มนิษายกมือไหว้ผู้จัดการรีสอร์ตที่หัวเราะอย่างอารมณ์หญิงสาวมาทำงานที่นี่ตำแหน่งรองผู้จัดการซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างภายในรีสอร์ต ไม่เว้นแม้กระทั่งทำห้องแทนแม่บ้าน ซึ่งมนิษาไม่ได้เกี่ยงงานเหล่านี้เลยเพราะเธอฝึกทำทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่อีกทั้งก็เคยไปทำงานที่โรงแรมของบิดามาก่อน“แขกรีเควสอะไรเป็นพิเศษไหมคะ แล้วมากี่คนค่ะ”“มาคนเดียวจ้ะ ท่านไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่ที่อยากให้คอยดูแลเพราะท่านรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ต”“ได้ค่ะ นาวเข้าใจแล้วจะดูแลอย่างดีไม่ให้เสียชื่อพี่เดซี่เลยค่ะ”สองสัปดาห์ก่อนมนิษาลงจากเครื่องในเวลาทุ่มกว่าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่สนามบิน คนขับรถของทางรีสอร์ตมารอรับอยู่แล้วพอรถจอดที่หน้ารีสอร์ตก็มีคนมายืนรอรับราวกับว่าเธอเป็นแขกคนสำคัญ“สวัสดีค่ะ” มนิษายกมือไหว้คนที่ยื่นรออยู่ซึ่งมีทั้ง
มนิษาขอลางานจากพี่เดซี่โดยบอกแค่ว่ามีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เดซี่เห็นว่าตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่รีสอร์ตก็ยังไม่เคยได้ลาพัก อีกอย่างวันหยุดที่ผ่านมามนิษาก็ถูกโทรตามให้มาทำงานกับราฟาเอลเธอออกเดินทางจากสมุยด้วยเที่ยวบินบ่าย ส่วนราฟาเอลนั้นเดินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว และตอนนี้เขาก็มารับเธอที่สนามบิน“ผมลุ้นมากเลยกลัวคุณจะเปลี่ยนใจ” เขาทักทายคนรักพร้อมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นในสนามบินเลยแม้แต่น้อย“นาวบอกว่าจะมาก็ต้องมาสิคะ คุณว่างเหรอถึงมารับนาวได้”“ไม่ว่างก็ต้องมารับเองครับ คิดถึงมากอยากเจอ”“นาวก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ถ้าคราวหน้าถ้ามีงานก็ไม่ต้องมารับนะคะ นาวกลับเองได้”“ก็ผมเป็นห่วงนี่ครับ คิดถึงคุณด้วย แล้วเดินทางเหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะ บินแค่นี้สบายมาก ว่าแต่เราจะไปไหนกันค่ะ ที่คอนโดคุณใช่ไหม”“ผมว่าเราพักที่โรงแรมดีกว่าครับสะดวกดี”“โรงแรมของคุณน่ะเหรอคะ ฉันจะไม่รบกวนใช่ไหม”“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็พักที่โรงแรม นาน ๆ ถึงจะไปค้างที่คอนโด”“ค่ะ” มนิษาเดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอเห็นด้วยกับราฟาเอลเพราะการพักที่โรงแรมจะประหยัดเวลาเดินทางมาทำงานได้ราฟาเอลส่งเธอที่ห้องพักจากนั้นก
หลังจากบอกกับบิดาว่าตนเองกำลังคบหาอยู่กับมนิษาคุณอีริคก็หัวเราะลั่นห้อง เขาคิดถึงตัวเองสมัยหนุ่ม ๆ ที่เจอกับมารดาของราฟาเอลครั้งแรก“พ่อหัวเราะทำไม ผมพูดเรื่องจริงนะครับ”“ที่หัวเราะก็เพราะมันน่ายินดียังไงล่ะ ในที่สุดแกก็หยุดเจ้าชู้ได้สักที”“พ่อไม่คิดว่ามันเร็วไปใช่ไหม ถ้าผมจะให้พ่อไปคุยกับพ่อของเธอ”“แกรู้จักกันมานานเท่าไหนแล้ว”“ถ้านับตั้งแต่เจอกับถึงตอนนี้ก็แค่สองเดือนครับ”“ตั้งสองเดือนยังไปไม่ถึงไหน เสียชื่อลูกชายฉันหมด”“ทำมาเป็นว่าผม แล้วทีพอกับแม่ละตั้งสองปีไม่ใช่เหรอถึงจะได้แต่งงานกัน”“ที่แม่แกบอกว่าสองปีล่ะ มันคือหลังจากแต่งงานสองปีแกถึงเกิด”“แล้วพ่อกับแม่แต่งงานกันตอนไหน รู้จักกันนานแค่ไหนถึงแต่งล่ะ”“สองอาทิตย์”คำตอบของอีริคทำให้คนฟังทั้งสามคนอ้าปากค้างเพราะไม่อยากจะเชื่อ“ผมว่าพ่อโม้”“ถ้าคิดว่าโม้แกลองไปถามเพื่อนแม่แกสิ”เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่เชื่ออีริคก็เลยเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังอย่างละเอียด“พ่อทำยังไงแม่ถึงยอม”“ความจริงใจไงล่ะ พ่อบอกทุกอย่างกับเขาตั้งแต่แรกว่าเป็นใครมาจากไหน ผ่านอะไรมาบ้าง รวมถึงเรื่องผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต”“นี่พ่อกำลังจะบอกว่าสิ่งที่ผมท
มนิษาก็กลัวจะเป็นอย่างนั้นจึงเดินตามไปที่ห้องนอนโดยไม่คิดอะไร แต่พอเดินไปถึงก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปถนัดราฟาเอลดึงมือเธอจนล้มลงไปกองอยู่บนที่นอน ส่วนเขาก็ทับทางลงมาอย่างรวดเร็ว ปากร้อนจูบพรมอย่างหิวกระหาย มนิษาพยามผลักออกแต่เหมือนว่าตัวเขาจะไม่กระเทือนเลยสักนิดกว่าเขาจะยอมปล่อยเธอก็ดิ้นจนแทบหมดแรง“คุณราฟ อย่าค่ะ เราต้องคุยกัน นาวไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น”“ที่รักคุณรู้ตัวไหมคุณเป็นคนหึงได้น่ารักมาก” ราฟาเอลหัวเราะกับท่าทางคนรัก“นาวไม่ตลกด้วยนะคะ”“เอาล่ะครับ ลองบอกผมมาสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง”ราฟาเอลขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงแล้วรั้งให้มนิษาเข้ามาในอ้อมกอด หญิงสาวแนบใบหน้าลงกับหน้าอกแกร่ง มันใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นรัว“เมื่อคืนคุณนิต้าให้นาวไปซื่อถุงยางเพราะที่มีในห้องเธอใช่ไปหมดแล้ว”ราฟาเอลมองหน้ามนิษาแล้วยิ้ม เขาเอื้อมไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงที่มีกล่องถุงยางอยามัยที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ในนั้นหนึ่งกล่อง“เธอคงหาไม่เจอ”“มะนาวที่ผ่านมาผมคงลืมบอกคุณไปว่านิต้าน่ะ นอกจากจะเป็นเลขาพ่อของผมแล้วเขายังพ่วงตำแหน่งแม่เลี้ยงของผมด้วย”“อะไรนะคะ แต่เมื่อวานคุณกับเธอก็ออกไปกันทั้งวัน
มนิษาเดินถือถาดอาหารมายังบ้านพักหลังริมสุด เธอเคาะประตูสามครั้งพอได้ยินเสียงอนุญาตก็เปิดเข้าไปทันที“สวัสดีค่ะคุณอีริค หลับสบายไหมคะ”“สบายมากจนตื่นสายเลย นั่นอาหารเช้าของฉันเหรอ”“ค่ะ คุณราฟาเอลบอกให้ฉันยกมาให้ที่นี่”“ขอบใจมาก ต่อวันหลังไม่ต้องยกมาให้ฉันหรอกนะ ฉันอยากไปดูสักหน่อยว่าตอนนี้ที่รีสอร์ตเป็นยังไงบ้าง”“ได้ค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ ฉันจะรออยู่ข้างนอกมีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย”“ไม่มีงานอื่นต้องไปทำหรอกเหรอ”“ตอนนี้ฉันทำหน้าที่เป็นบัตเลอร์ให้คุณราฟาเอลค่ะ”“เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีบัตเลอร์ด้วย”“ก็แค่ชั่วคราวค่ะ กับคนอื่นยังไม่มี แต่คุณราฟาเอลขอก็เลยต้องเป็นบัตเลอร์แบบเฉพาะกิจค่ะ”“แปลกจังนะ ปกติลูกชายฉันมันเป็นคนขี้รำคาญ โลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ที่ยอมให้ฉันพักบ้านเดียวกับเขาก็แปลก”สิ่งที่บิดาของราฟาเอลพูดช่างต่างจากราฟาเอลที่เธอรู้จักโดยสิ้นเชิง เพราะตั้งแต่รู้จักกันราฟาเอลชายหนุ่มมักหาเรื่องอยู่ใกล้เธออยู่เสมอ จนอดคิดว่าเขาเป็นพวกขาดความอบอุ่นการได้คุยกับคุณอีริคทำให้มนิษารู้จักราฟาเอลในอีกแง่มุมหนึ่ง รู้ว่าชายหนุ่มไม่ชอบให้บิดาจับคู่ให้ และปฏิเสธการดูตัวทุกครั้งจนเดือดร้อ
วันนี้บิดาของราฟาเอลจะเดินทางมาถึงแล้ว ชายหนุ่มและมนิษาไปรอรับที่สนามบินตั้งแต่ตอนบ่าย พอเครื่องลงจอดไม่นานก็เห็นชายชาวต่างชาติเดินคู่มากับผู้หญิงอีกคน“ราฟ ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณที่นี่” หญิงสาววิ่งเข้ามาใกล้จากนั้นก็โผเข้ากอดราฟาเอลแน่นอีกคนก็กอดกลับพร้อมกับส่งยิ้มให้ มนิษาได้แต่มองตาค้างเธอยืนนิ่งเพราะไม่คิดว่าราฟาเอลจะทำแบบนี้ต่อหน้าเธอ“เพราะผมรู้ว่าคุณจะมาด้วยไงถึงมารับ ถ้าเขามาคนเดียวผมคงไม่มาที่นี่” ราฟาเอลพูดแล้วปรายตาไปยังชายอีกที่เดินเข้ามาสมทบ“ทำอย่างกับฉันอยากเจอแก แล้วนี่เจฟไปไหนล่ะ”“เจฟทำงาน ถ้าพ่ออยากเจอผมจะโทรตามให้”“ไม่เป็นไรก่อนกลับฉันจะแวะหาเขาที่กรุงเทพเอง”“ราฟ คุณมากับใคร” แอนนิต้าถาม“ตายจริงผมลืมแนะนำเลย นี่มะนาวครับเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการที่รีสอร์ต มะนาวนี่พ่อผมอีริค ส่วนนี่แอนนิต้าเธอเป็นเลขาของพ่อผม”“สวัสดีค่ะ คุณอีริค คุณแอนนิต้า” มนิษากล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษ“เรียกนิต้าก็ได้นะคะ คุณมนิษา ว่าแต่ชื่อเล่นคุณชื่ออะไรนะคะ ฉันไม่ทันฟังที่ราฟบอก”“มะนาวค่ะ แต่คนส่วนใหญ่เรียกนาว”“อ้อ นาว ชื่อน่ารักดีนะคะเหมาะสมกับตัวเลย”“ขอบคุณค่ะ คุณเองก็สวยมาก”“ขนาดสวย
พอคุยกันจนเข้าใจแล้วมนิษาก็ชวนราฟาเอลออกไปนอนฟังเสียงคลื่นด้านนอกห้องพัก หญิงสาวเอนหลังอยู่บนเก้าอี้อาบแดดบุนวมตัวโต ขณะที่ราฟาเอลเดินถือไวน์ออกมาจากห้องพัก“แค่ไวน์ใช่ไหมคะ” ตั้งแต่พลาดคืนนั้นมนิษาก็กลัวที่จะดื่มอะไรโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน“ครับ ดูเหมือนคุณยังระแวงอยู่นะ” ราฟาเอลเดินอ้อมไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ติดกัน“ค่ะ ตั้งแต่คืนนั้นฉันก็ไม่ดื่มอีกเลย”“ถ้าอยู่กับผมคุณดื่มได้ตามสบายเลย เพราะยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คุณเป็นอันตรายอยู่แล้ว”“เพราะคุณคือคนที่อันตรายที่สุดหรือเปล่าคะ”ราฟาเอลหัวเราะพลางรินไวน์ส่งให้มนิษาอีกแก้ว“พรุ่งนี้คุณจะออกไปไหนบ้างคะ”“ผมต้องถามคุณมากกว่าว่าอยากไปไหนบ้าง ผมไปได้ทุกที่ขอแค่ไปกับคุณ”“ขอนอนอยู่ที่นี่ทั้งวันได้ไหมคะ อยากนอนมองท้องฟ้าแบบนี้ กลางวันคงสวยไปอีกแบบ”“ก็คงอย่างนั้น ว่าแต่คืนนี้คุณไม่คิดจะเข้าไปข้างในเลยเหรอ ผมว่าเราเสียวเวลานาแล้ว”“คุณง่วงก็ไปนอนก่อน”“วันนี้ผมกินกาแฟมาตั้งหลายแก้วไม่ง่วงเลยสักนิดโต้รุ่งยังได้เลย”“แล้วจะรีบเข้าไปทำไม”“อยากเข้าไปนอนกอดคุณ”“ตรงนี้ก็กอดได้ ถ้าคุณแค่อยากจะกอดอย่างเดียว” เพราะดื่มไปหลายแก้ว มนิษาเลยก
ราฟาเอลรีบกอดขยับเข้ากอดคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าบึ้งอย่างประจบ“บอกมานะคะว่าเราเจอกันครั้งที่ไหน บอกความจริงมาให้หมด”“มะนาวครับทำไมทำเสียงน่ากลัวแบบนี้ละ ผมใจคอไม่ดีเลยนะ”“คุณราฟาเอลคะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”พอมนิษากลับมาแทนตัวเองว่าฉันอีกครั้ง ราฟาเอลก็ขนลุกซู่ เขากลัวว่าเธอจะโกรธและหนีตนเองไปอีกครั้ง สองแขนกอดเธอคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น“ที่รัก ผมรักคุณนะครับ รักมาก”“อย่าโยกโย้นะคะ เล่ามาให้หมดอย่าให้ฉันรู้จากคนอื่น”ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดลง ก่อนจะหันหน้าเข้าหามนิษาบนเตียงกว้าง สองมือกุมมือคนรักไว้แน่น เขาถอนหายใจอีกครั้งแล้วเล่าเรื่องราวตั้งแต่คืนแรกที่เขาเห็นเธอในผับให้ฟังทั้งหมด“แล้วเอริรู้ไหมคะ ว่าคุณแอบฟัง”“ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังหรอกนะครับ ผมกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่บริเวณนั้นมันแคบ เขายืนขวางทางอยู่ผมก็เลยได้ยินทั้งหมด”“คุณนี่มันร้ายจริง ๆ แล้วคิดไหมว่าถ้าไม่เจอฉันบนเรือจะทำยังไง”“ผมมั่นใจเพราะช่วงนั้นมีเรือแค่ลำเดียวที่ออกจากท่า พอผมเห็นคุณเช็กอินขึ้นเรือผมก็รีบตามคุณขึ้นไปเลย”“แล้วที่ทะเลาะกับคุณเจโรมล่ะคะ แผนของคุณด้วยหรือเปล่า”“ไม่ครับ นั่นเรื่องจริงเลย เขามาตามผมไปทำงาน ผมไม่
ราฟาเอลพามนิษามาซื้อชุดว่ายน้ำและชุดนอน รวมทั้งของใช้อื่นๆ อีกหลายอย่าง เธอพยายามท้วงว่ามันมากเกินไปแต่เขาก็ทำเป็นหูทวนลม ตอนนี้ในมือชายหนุ่มเลยมีทั้งเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมอีกหลายชนิด ถ้ารวมเป็นจำนวนเงินแล้วก็มากกว่าเงินเดือนของมนิษาเกือบทั้งปีพอได้ของที่ต้องการแล้วก็พากันมานั่งยังค่าแฟ่แห่งหนึ่ง สั่งกาแฟและเค้กมาคนละชิ้น มองบรรยากาศรอบตัวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินร้านที่ทั้งสองคนมาในวันนี้อยู่คนละด้านกับรีสอร์ตจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น“แก้วที่สามของวันแล้วนะคะ คืนนี้คงได้ตาค้างกันบ้างล่ะ” มนิษามองคนที่ดื่มกาแฟเป็นแก้วที่สามของวันแล้วส่ายหัว“แล้วใครบอกว่าผมอยากนอนกันล่ะ”เพราะกำลังพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนทางไลน์มนิษาเลยไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรโรงแรมที่เข้าพักเป็นโรงแรมหรู ด้านหน้าห้องพักเป็นสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล ตัวบ้านแต่ละหลังลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันได ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมนิษาสั่งอาหารเย็นให้กับตัวเองและราฟาเอล ก่อนจะเอาถุงชุดว่ายน้ำออกมากะว่าจะส่งซักก่อนสวมมันในวันพรุ่งนี้“แต่ผมอยากเห็นมันอยู่บนตัวคุณจัง มันคงสวยมาก” ราฟาเอลมองชุดว่ายน้ำสีส้ม
มนิษามาที่ห้องอาหารช้ากว่าทุกวันเธอสั่งอาหารสำหรับราฟาเอลส่วนตัวเองก็ไปนั่งทานกับเพื่อนที่ห้องอาหารของพนักงาน“มะนาว หน้าหนูดูไม่สดชื่นเลยคุณราฟาเอลใช้งานหนูหนักไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ เมื่อคืนนาวนอนไม่ค่อยหลับ”“อ้อ งั้นก็แล้วไป ถ้ามีอะไรก็บอกพี่นะคะ”“พี่เดซี่คะ นาวมีอะไรจะถามหน่อยค่ะ” มนิษาพูดเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น“ได้สิคะ ถามมาเลยพี่ยินดีตอบหนูทุกคำถาม”“นอกจากพี่เดซี่ พี่วิและคุณลุงคนขับรถแล้วมีใครอีกที่รู้ว่าคุณราฟาเอลเขาเป็นเจ้าของที่นี่”“มะนาว หนูรู้”“เบา ๆ สิคะพี่เดซี่ เดี๋ยวคนก็ได้รู้กันทั้งรีสอร์ตหรอก”“พี่ขอโทษ พี่แค่ตกใจไม่คิดว่าหนูจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณราฟาเอลเป็นคนบอกใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วทำงานกับเขาอึดอัดไหม”“ก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็เอาแต่ใจ”“ปกติเขาไม่ค่อยมาที่นี่หรอก สงสัยครั้งนี่คงอยากจะพักผ่อนจริง ๆ ถึงได้มาอยู่ยาวเลย”“แล้วปกติใครมาดูแลที่นี่ละค่ะ”“ส่วนใหญ่ก็คุณเจโรมค่ะ ไม่รู้ว่ามาครั้งนี้จะมาจับผิดอะไรพวกเราหรือเปล่ายังไงพี่ฝากด้วยนะคะ ถ้า เขาอยากได้อะไรก็อย่าขัดใจ เผื่อสิ้นปีจะได้โบนัสก้อนโต”“นาวเพิ่งรู้ว่าทำงานโรงแรมมีโบนัสด้วย”“ที่อื่นพี่ก