“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ”
“เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง
“แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ”
“ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ”
“ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้”
“ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้”
มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน
“ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย”
“แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว”
“ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ”
“เขาเป็นพี่รหัสค่ะ”
“ความใกล้ชิดเหรอครับ”
“ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉันก็เลยชอบเขาไปทีละนิด รู้ไหมคะ ฉันนี่แหละที่ขอเขาเป็นแฟน”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“เชื่อเถอะค่ะ ฉันน่ะเปรี้ยวสมชื่อมะนาวเลย”
“ผมชักจะชอบคุณแล้วสิ” เขาพูดออกมาตรง ๆ ทำให้คนฟังชะงักเล็กน้อย
“อย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ” ได้ฟังเขาพูดแบบนั้นมนิษาใจเต้นจนแทบทะลุออกมาจากอกข้างซ้าย
“คุณคิดว่าผมล้อเล่นหรือคุณคิดว่าผมเหมาะสมกับคุณกันแน่”
“คำว่าเหมาะสมวัดจากอะไรคะ” หญิงสาวถามกลับ
“หลายอย่างครับ หน้าตา ฐานะและสถานะทางสังคม”
“แล้วคุณราฟกับฉันต่างกันตรงไหนคะ”
“อาจจะสถานะทางสังคมมั้งครับ คุณเป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรม ส่วนผมเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนคนหนึ่ง”
“ฉันก็แค่ลูกเจ้าของโรงแรมที่กำลังจะเจ๊งจนต้องเอาตัวเข้าแลก”
“คุณพูดเหมือนตัดสินใจไปแล้วว่าจะกลับไปแต่งงาน” เขาถามด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าเธอจะตัดสินใจแบบนั้น
“ไม่หรอกค่ะ ฉันว่ามันน่าจะมีทางออกอื่น บางทีฉันควรไปพูดกับคนที่จะมาร่วมหุ้นดู เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ”
“ผมว่ามันเสี่ยงเกินไปนะครับ ไม่คิดบ้างเหรอครับว่าจะกลายเป็นอ้อยเข้าปากช้าง”
“อย่าพูดให้ฉันกลัวสิคะ”
“ผมก็แค่เตือนนะครับ”
“คุณช่วยฉันติดหน่อยสิว่าจะเอายังไงดี”
“ก่อนอื่นคุณก็บอกท่านไปว่าคุณเองก็มีแฟนแล้ว”
“แต่ฉันยังไม่มี”
“ผมนี่ไงแฟนคุณ”
“แต่เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะคะ”
“อยากเป็นไหม”
“นี่ขอเป็นแฟนอยู่เหรอคะ”
“ครับ”
“คุณเป็นคนที่พูดตรงมากเลยนะคะ เพิ่งเจอกันไม่เท่าไหร่กล้าขอเป็นแฟนแล้ว”
“คุณรังเกียจไหมล่ะ ผมมีดีแค่หน้าตา แต่เงินในกระเป๋าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่”
“นี่กำลังพรีเซนต์ตัวเองใช่ไหมคะ”
“ครับ สนใจไหม”
“ถ้าฉันตอบตกลง คุณก็คงคิดว่าฉันเป็นคนใจง่ายแต่ถ้าฉันปฏิเสธคุณก็จะหาว่าฉันหยิ่งและมองคนที่เปลือกนอก”
“คุณคิดเยอะแล้วนะครับมะนาว ผมถามหน่อย เราใกล้ชิดกันขนาดนี้คุณไม่รู้สึกดีกับผมบ้างสักนิดเลยเหรอครับ”
“คุณนี่ต้อนเก่งนะคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณ แต่มันยังไม่มากพอที่จะเป็นแฟน”
“งั้นก็คุยกันไปก่อนก็ได้ คุณไม่ต้องตกลงเป็นแฟนผม แต่ผมยอมให้คุณเอาชื่อไปอ้างได้ว่าผมเป็นแฟนคุณ ตกลงไหมครับ”
“คุณเสียเปรียบฉันอยู่นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเป็นผู้ชายนี่”
“จะไม่มีปัญหาภายหลังใช่ไหมคะ แบบว่าผู้หญิงของคุณ”
“ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ เพราะผมยังไม่มีผู้หญิงเป็นของตัวเอง” ราฟาเอลพูดไปตามความจริง เขาไม่ได้คบกับใครอย่างจริงจังและผู้หญิงที่ผ่านมาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขา เพราะทุกครั้งที่จบภารกิจบนเตียง พวกเธอก็จะได้ทั้งเงินและของใช้แบรนด์เนมติดไม้ติดมือไปทุกคน
“แล้วคุณว่ามันจะได้ผลไหม พ่อฉันจะยอมเชื่อไหม”
“อันนี้ตอบไม่ได้ครับ เพราะผมไม่เคยเจอพอคุณมาก่อน”
“นั้นสินะ มันเชื่อยากสักหน่อย”
“เราต้องหาแผนสอง”
“ยังไงคะ”
“บอกชื่อโรงแรมมาครับ ผมจะลองปรึกษาเจ้านายดูเพราะบริษัทของผมก็ทำเกี่ยวพวกโรงแรมรีสอร์ต บางที่เขาอาจจะสนใจก็ได้”
“ฉันไม่รบกวนขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่รบกวนคุณก็เกรงใจมากแล้ว นี่ยังต้องไปรบกวนถึงเจ้านายคุณอีก”
“อย่าเกรงใจเลย ปีที่แล้วเขาก็ซื้อโรงแรมเล็กๆ แล้วพัฒนาจนมันดีขึ้น กำไรนี่อย่าพูดถึงเลย ผมได้โบนัสตั้งเยอะ”
“ฉันกลัวคุณลำบาก”
“เอาน่า แค่บอกชื่อโรงแรมมาก็พอ ถ้าเขาสนใจเขาก็จะติดต่อไปเอง เราไม่ได้บังคับเขานี่ครับ”
มนิษาคล้อยตามคำพูดของเขาได้อย่างง่ายดาย เธอบอกชื่อโรงแรมของบิดาให้กับราฟาเอลไป ก่อนที่จะแยกย้ายกันพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่คิดไว้ว่าจะทำร่วมกัน
กลับมาถึงห้องราฟาเอลก็รับโทรหาเจโรมถึงแม่ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้วก็ตาม
“มีอะไรถึงโทรมาดึกดื่นอย่างนี้ รู้ไหม ฉันกำลังหลับฝันดีเลยนะ”
“ผมรู้พี่ยังไม่นอนหรอก”
“อย่าทำเป็นรู้ดี มีอะไรจะใช้ก็บอกมาเถอะ”
“พี่ รู้จักโรงแรมนี้ไหม” เขาบอกชื่อโรงแรมตามที่มนิษาบอก
“ก็โรงแรมที่คุณบอกว่าจะทุบทิ้งไง” เจโรมเตือนความเจ้านายอีกครั้ง
พอได้ยินเลขาบอกราฟาเอลก็นึกได้ ราคาที่ทางนั้นเสนอมาคือห้าสิบล้านแต่เขาคิดว่าราคามันสูงไปเพราะสภาพโรงแรมทั้งเก่าทั้งโทรม และเขาวางแผนจะทุบทั้งหมดทิ้งแล้วสร้างขึ้นมาใหม่
“แล้วเขาว่ายังไงบ้านผมลืมตามเรื่องเลย”
“ผมสืบมาแล้วตอนนี้โรงแรมยังติดจำนองอยู่ ถ้าเราจะซื้อก็ต้องจ่ายให้ธนาคารอีกสิบล้าน บวกกับที่เขาเสนอรวม ๆ แล้วเราต้องจ่ายถึงหกสิบล้าน ผมเลยไปว่าเราสู้ได้แค่ได้แค่ยี่สิบห้าล้านส่วนธนาคารเราจะรับผิดชอบทั้งหมด”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการแต่งงานตรงไหนเลย”
“เดี๋ยวสิ ฉันยังบอกนายไม่หมด ถ้าเราจะซื้อในราคายี่สิบห้าล้านเขาขอให้คุณแต่งงานกับลูกสาวเขาและยกหุ้นให้กับเขาหลังแต่งงานยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
“คุณโชตินี่ฉลาดเป็นกรดเลย ขายโรงแรมให้เราแล้วยังจะได้หุ้นไปแบบฟรี ๆ อีกด้วย แล้วพี่ว่าไง”
“เรื่องเงินเท่าไหร่ เรื่องแต่งงานนี่สิ ยังมีโรงแรมอีกมากที่อยากขาย ฉันว่าเราถอยเถอะ”
“ไม่ละ ตอบตกลงเขาไปตามนั้น”
“ราฟ นายกำลังคิดอะไรอยู่” สรรพนามเปลี่ยนไปแบบนี้แสดงว่ากำลังเข้าสู้โหมผู้ปกครองอีกคนของราฟาเอล
“ก็ตอบตกลงไปก่อนว่าเราจะแต่งงานกับลูกสาวของเขา”
“นายจะแต่งเหรอ ยังไม่เคยเจอกับเธอเลยนะ ถ้าไม่สวยไม่ถูกใจขึ้นมาจะทำยังไง”
“ก็ยกให้พี่ไง”
“ผมไม่ตลกด้วยนะครับ ตกลงนายจะเอายังไง”
“ก็ยอมเขาไปก่อน”
“นายมีแผนอะไรอีก อย่ามาทำให้ฉันปวดหัวนะ”
“ไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องห่วง”
“นายพูดแบบนี้ทีไรก็เป็นเรื่องทุกที”
“เอาน่า ผมสัญญา เลยเรื่องนี้จะไม่ทำให้พี่ต้องปวดหัว เอาไว้กลับไปผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกที”
“โทรมาแค่นี้ใช่ไหม”
“อือ ไปนอนเถอะผมก็ง่วงแล้ว”
“ถูกปลุกมากลางดึกใครมันจะหลับต่อได้ละ” เจโรมบ่นก่อนจะกดวางสาย
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านายเธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพังหญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้งวันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย“เหนื่อยไหมคะ”“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”“ครับ”“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมาปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุก
เสียงออดที่หน้าประตูทำให้มนิษาแปลกใจเพราะถ้าเป็นราฟาเอลเขาก็คงจะกดรหัสเข้ามาเองได้ ยังไม่ทันที่จะดูว่าใครมากดออดประตูก็ถูกเปิดออกมาก่อนแล้ว“คุณ” หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือเจ้านายของคนรัก“คุณเป็นใครแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณราฟาเอลไปไหน” เจโรมถามด้วยความแปลกใจ“ฉันเป็นคนรักของคุณราฟ คุณคงเป็นเจ้านายของเขาใช่ไหมคะ ฉันเคยเห็นคุณบนเรือ”“บนเรือ เจ้านาย”“ใช่ค่ะ ก็วันที่คุณไปตามเขามาทำงานไงคะ ฉันบังเอิญได้ยินคุณคุยกับเขา ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาทไปหน่อย”“เขาบอกแบบนั้นเหรอครับ”“ไม่ต้องให้บอกหรอกค่ะ คุณดุเขาขนาดนั้นฉันก็ดูออก ยังมีอีกเรื่องที่ต้องขอโทษคุณแทนเขา”“เรื่องอะไรครับ” เจโรมถาม เขากำลังจับต้นชนปลายว่าตอนนี้ราฟาเอลกำลังเล่นอะไรอยู่“ก็เรื่องที่เขาให้ฉันมาอยู่ที่คอนโดของคุณ”“คอนโดของผม อ่อ ใช่ ผมลืมไปเลยว่านี่เป็นคอนโดของผม”“ว่าแต่คุณมาหาเขา มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ เขาออกไปข้างนอกอีกสักพักก็คงจะกลับ”“ผมก็แค่แวะมาเองครับ ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ว่าแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”“ฉันชื่อมนิษาค่ะ คุณจะเรียกมะนาวเหมือนที่คุณราฟเรียกก็ได้ค่ะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื
“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมได้มีส่วนร่วมในโรงแรมของคุณ” ราฟาเอลกล่าวกับคุณโชติหลังจากที่เขายอมขายโรงแรมให้กับตนเองแล้ว“ยินดีครับผมหวังว่าคุณจะดูแลโรงแรมนี้เป็นอย่างดี”“แน่นอนครับผมจะดูแลทั้งโรงแรมและลูกสาวคุณอย่างดีเลยครับ”“ถ้าคุณรับปากแบบนี้ฉันก็เบาใจค่ะ ยายหวานน่ะเป็นเด็กดี แต่เรื่องงานยั้งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังไงฉันก็ขอฝากให้คุณช่วยสอนด้วยนะคะ” คุณรัญญาบอกกับชายหนุ่มฟาเอลมองลูกสาวของคุณโชติแล้วยิ้ม เขาไม่ได้บอกคุณโชติว่าลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือลูกคนเล็ก“แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ หวานไม่ได้เร่งนะคะแต่หวานเป็นผู้หญิงคนต้องใช้เวลาเตรียมตัว” มนัญญาถามด้วยความตื่นเต้น เธอเปลี่ยนใจจะแต่งงานทันทีที่เห็นหน้าของราฟาเอล“ผมเข้าใจครับ ผมเป็นผู้ชายคนไม่ค่อยถนัดเรื่องเตรียมงานเท่าไหร่ แต่ผมอยากแต่งหลังจากที่เราปรับปรุงโรงแรมเสร็จครับ อยากให้แขกที่มาเห็นว่าโรงแรมของเราพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน ทั้งสวนทางด้านนอกและห้องจัดเลี้ยง ผมอยากให้งานแต่งของผมกับลูกสาวคุณเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุด”“ความคิดคุณเฉียบแหลมมากเลยครับ” คุณโชติเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เพราะมันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้อง
เป็นอีกหนึ่งคืนที่ราฟาเอลนอนไม่หลับ มองห้องนอนกว้างที่เคยมีมนิษานอนอยู่ด้วยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอรู้จักกันประมาณหนึ่งเดือนแต่ความรู้สึกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นใครสักคนที่เขาตามหามาทั้งชีวิต เพียงแค่ติดต่อเธอไม่ได้เขายังร้อนใจถึงเพียงนี้ เรื่องที่จะต้องแต่งงานกับพี่ของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ราฟาเอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะคุยกับคุณโชติ บิดาของเธอว่าตนเองกับลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นแฟนกันและจะรีบจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้โรงแรมปรับปรุงเสร็จอย่างที่คุยไว้ในตอนแรกเขารีบตื่นเช้ากว่าทุกวันแล้วรีบตรงไปยังบ้านคุณโชติเพื่อหวังว่าจะเจอกับลูกสาวคนเล็กของเขา“อ้าว คุณราฟาเอลมาแต่เช้าเลยนะคะ พอดีเลยค่ะ มาทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคะ”“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนแต่เช้า”“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ หวานดีใจด้วยซ้ำที่คุณแวะมา”“ครับ ผมแวะมาบอกคุณก่อนว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยว่างมาดูแลโรงแรมแต่จะให้เลขามาช่วยดูแทนครับ”“เหรอคะ น่าเสียดายจังหวานคิดว่าจะได้เจอคุณทุกวันเสียอีก”“ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องไปจัดการครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หวานเข้าใจว่าคุณงานเยอะ คุณพ่อมาแล้วเราทานข้าวกันเลยไหมคะ”“บ้านคุณ
“อีกสองอาทิตย์แขกวีไอพีจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด พี่ฝากนาวไปดูแลด้วยนะ”“ค่ะพี่เดช”“หนูมะนาวขา พี่บอกกี่ครั้งแล้วไม่จำเลยนะลูก เดซี่ค่ะ พี่ชื่อเดซี่” คมเดชพยายามบีบเสียงให้เล็กขณะพูด เรียกรอยยิ้มให้กับคนฟังได้ไม่น้อยเลยทีเดียว“ขอโทษค่ะพี่เดซี่” มนิษายกมือไหว้ผู้จัดการรีสอร์ตที่หัวเราะอย่างอารมณ์หญิงสาวมาทำงานที่นี่ตำแหน่งรองผู้จัดการซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างภายในรีสอร์ต ไม่เว้นแม้กระทั่งทำห้องแทนแม่บ้าน ซึ่งมนิษาไม่ได้เกี่ยงงานเหล่านี้เลยเพราะเธอฝึกทำทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่อีกทั้งก็เคยไปทำงานที่โรงแรมของบิดามาก่อน“แขกรีเควสอะไรเป็นพิเศษไหมคะ แล้วมากี่คนค่ะ”“มาคนเดียวจ้ะ ท่านไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่ที่อยากให้คอยดูแลเพราะท่านรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ต”“ได้ค่ะ นาวเข้าใจแล้วจะดูแลอย่างดีไม่ให้เสียชื่อพี่เดซี่เลยค่ะ”สองสัปดาห์ก่อนมนิษาลงจากเครื่องในเวลาทุ่มกว่าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่สนามบิน คนขับรถของทางรีสอร์ตมารอรับอยู่แล้วพอรถจอดที่หน้ารีสอร์ตก็มีคนมายืนรอรับราวกับว่าเธอเป็นแขกคนสำคัญ“สวัสดีค่ะ” มนิษายกมือไหว้คนที่ยื่นรออยู่ซึ่งมีทั้ง