หลังจากอาบน้ำอีกรอบมนิษาก็รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนใหม่ตั้งแต่เช้า
แม้ว่าจะยังไม่รู้จักกันดีรู้แค่เขาชื่อราฟ แต่เท่าที่ได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกและคงทำให้การมาเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ไม่เบื่อ
หญิงสาวมาถึงห้องอาหารก็เห็นว่าราฟาเอลมารอเธออยู่ก่อนแล้ว
“มอร์นิ่งครับ หลับสบายไหม”
“มอร์นิ่งค่ะ หลับสบายมากไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่บนเรือ”
ทั้งสองแยกกันไปตักอาหารจากนั้นก็กลับมานั่งทานด้วยกัน ระหว่างทานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก่อนจะพากันมาเดินเล่นรับลมที่ชั้นบนสุดของเรือ
เช้านี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบ
“กลัวความสูงไหมครับ” ราฟาเอลถามขณะที่กระเช้ากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่กลัวค่ะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า” เธอมองลงไปยังด้านท้ายเรือที่ตอนนี้เห็นคนตัวเล็กลงไปทีละนิด
“วิวบนนี้สวยดีนะครับ ถ่ายรูปไหม ผมถ่ายให้”
มนิษายิ้มให้กล้องขณะที่เขากำลังกดถ่าย มือใหญ่สั่นเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มนั้นมันหวานจนอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ไปยิ้มแบบนี้กับใครที่ไหน
“คุณจะถ่ายไหมคะ”
“ครับ รบกวนด้วย”
พอได้รูปเดี่ยวแล้วราฟาเอลก็ขอถ่ายรูปคู่ เขายื่นกล้องออกไปไกลจนสุดแขนแล้วให้คนตัวเล็กยืนด้านหน้า กดถ่ายไปอย่างนั้นแต่เขาไม่ได้มองไปที่กล้องเลยเพราะตอนนี้สายตาเขามองลงมาที่ใบหน้าหวานแม้เห็นเพียงแค่เสี้ยวหน้าก็ทำเอาใจเต้นแรง
มนิษามองหน้าจอแล้วยิ้ม แต่เห็นอีกคนไม่มองกล้องเลยหันมาถามเป็นจังหวะเดียวกับที่เขากำลังจะก้มมาคุยด้วย
จมูกโด่งเลยเฉียดแก้มเนียนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสองนิ่งงันราวกับถูกไปชอร์ต หญิงสาวไม่เคยใกล้ชิดใครขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง ใจเธอเต้นแรงจนกลัวว่าคนที่ยืนอยู่จะได้
“ขอโทษครับ” เรารีบถอยห่าง
“ไม่เป็นไรค่ะ เธอหันมายิ้ม” จากนั้นก็เดินไปมองวิวทะเลตรงหน้า
ราฟาเอลใกล้ชิดกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเลยที่เขาจะรู้สึกแบบนี้กับใคร กลิ่นกายหอมสะอาดบวกกับน้ำหอมที่เขาไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนทำให้เขาแทบอยากจะดึงเธอเข้ามาสูดดมให้เต็มปอด
ชายหนุ่มมองมนิษาที่ยืนเหม่อมองทะเลแล้วกระตุกยิ้ม ไม่รู้ว่ามะนาวลูกนี้เป็นใครมาจากไหน แต่เขาสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่ยอมให้เธอได้ใกล้ชิดผู้ชายคนไหนอีก ไม่สนใจว่าเธอจะมีแฟนหรือมีครอบครัวแล้วหรือเปล่า เพราะคนอย่างเขาถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้
หัวใจของมนิษากลับเต้นมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากที่ทั้งสองลงมาจากกระเช้า
เขาและเธอพากันไปทำกิจกรรมตามที่คุยกันไว้เมื่อวานจนครบทุกอย่าง
ตอนนี้ทั้งสองกำลังเดินทอดน่องไปตามถนนที่เต็มไปด้วยงานศิลปะบนเกาะปีนังก่อนจะเรียกรถและพากันไปยังปีนังฮิล์ล
ทางขึ้นค่อนข้างชั้น และรถรางคนก็แน่นจนทำให้ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกันอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
“กลัวหรือเปล่า” เพราะเห็นว่าตอนนี้เธอยืนตัวเกร็งเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
“เปล่าค่ะ แต่ไม่ค่อยชอบคนเยอะค่ะ” ราฟาเอลมองผู้ชายที่ยืนด้านหน้าและด้านข้างของเธอแล้วก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
“งั้นมายืนตรงนี้” เขาจับให้เธอมายืนด้านข้าง ส่วนตัวเองยืนหันหน้าเข้าหาใช้สองแขนยันผนังกักเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างหลวมๆ
“ไม่คิดว่าคนจะเยอะ” เธอพูดเบาๆ
“แบบนี้อึดอัดไหมครับ”
“นิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นไร” ถ้าต้องเลือกระหว่างราฟกับการยืนเบียดเสียกับผู้ชายแปลกหน้าเธอเลือกที่จะยืนแบบนี้ดีกว่า
ราฟาเอลอยากให้ระยะทางขึ้นเขายาวไปอีกสักร้อยกิโลเพราะรู้สึกดีที่ได้มองหน้าเธอใกล้ๆ ได้สูดกลิ่นหอมแบบนี้
ขาลงจากเขา ความใกล้ชิดก็ยังเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมตรงที่เขาได้จับมือเธอไปด้วยเพราะดูเหมือนว่าหลังจากเธอรับโทรศัพท์แล้วเหมือนว่าสติของเธอจะไม่ค่อยอยู่กับตัวเท่าไหร่
“มะนาว คุณเป็นอะไรหรือเปล่า เที่ยวไม่สนุกเหรอครับ” เขาถามขณะที่กำลังนั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน
“มีเรื่องที่บ้านให้คิดนิดหน่อยค่ะ”
“ถ้ามันนิดหน่อยคุณคงไม่เป็นอย่างนี้ เล่าให้ผมฟังได้ไหม”
“มันค่อนข้างน่าอาย”
“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ”
“คุณอยากฟังไหมล่ะ”
“ได้สิ ระบายมันออกมาสิ ผมยินดีรับฟังนะครับ”
เพราะคิดว่ากลับจากเที่ยวครั้งนี้คงไม่ได้เจอกันอีกเธอจึงตัดสินใจเล่าให้เขาฟังเพราะตอนนี้รู้สึกอึดอัดจนอกแทบระเบิด
เรื่องครอบครัวของเธอมันซับซ้อนถ้าจะเล่าให้เพื่อนรักอย่างเอริญาและลดากาญจน์ฟังรับรองได้ว่าทั้งสองคนนั้นต้องหาทางช่วยเหลือเธอแน่
แต่เธอก็ละอายใจเกินกว่าจะขอความช่วยเหลือเพราะครั้งนี้เรื่องมันใหญ่เกินกว่าที่เพื่อนของเธอจะช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทางบ้าน
“เฮ้อ มันน่าอายนิดหน่อยนะคะ”
มนิษาถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเล่าให้เขาฟังว่า ระหว่างที่กำลังเดินเที่ยวอยู่บนจุดชมวิวบนปีนังฮิล์ลนั้น ทางบ้านของเธอโทรมาบอกมาบอกว่าโรงแรมกำลังมีปัญหาทางการเงินจนอาจจะต้องขายหรือให้ใครสักคนเข้ามาร่วมลงทุน
แต่บิดาของเธอไม่อยากให้โรงแรมตกไปอยู่ในมือของคนอื่นจึงเสนอกับคนที่จะมาซื้อโรงแรมให้แต่งงานกับลูกสาวของเขาเพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่ยึดโรงแรมไปเป็นของตัวเองทั้งหมด
“หมายถึงคุณจะต้องไปแต่งงานเหรอครับ” แค่เพียงได้ยินเขาก็โกรธจนเก็บอารมณ์แทบไม่อยู่
“คนที่ต้องแต่งควรจะเป็นพี่น้ำหวาน”
“ควรจะเป็นเหรอครับ”
“ค่ะ ฉันลืมบอกคุณไปว่าคุณพ่อมีลูกสองคนค่ะ ฉันเป็นลูกคนเล็กและเป็นลูกเมียน้อย” มนิษาตอบอย่างไม่อาย
“แล้วทำไมพ่อคุณถึงให้คุณแต่งล่ะครับ”
“เพราะพี่หวาน พี่สาวฉันมีแฟนแล้วค่ะ และเธอก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้”
“แล้วคุณคิดว่าจะทำยังไง”
“ถ้าฉันไม่แต่งจะเป็นการอกตัญญูไหม”
“ขึ้นอยู่กับว่าที่ผ่านมาเขาดูแลคุณดีหรือเปล่า”
มนิษาไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเธอเองได้รับการดูแลจากบิดาดีหรือเปล่าเพราะตั้งแต่มารดาเสียไปตอนเธอเรียนอยู่ชั้น ม.1 พ่อก็ไปรับเธอมาอยู่ที่บ้าน แต่ให้นอนห้องเล็กที่อยู่ติดกับห้องของแม่บ้าน
พอขึ้น ม.2 เธอก็ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ แต่ก็ยังกลับมานอนที่บ้านเดือนละครั้ง พอเข้ามาหาวิทยาลัยก็ขอทุนจากทางมหาวิทยาลัย ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็มาช่วยงานที่โรงแรมแลกกับเงินค่าขนมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่บิดาจะโอนให้
“ถ้าฟังจากที่คุณเล่า ผมว่าเขาก็ดูแลในระดับหนึ่ง แต่มันไม่มากพอที่คุณจะเอาทั้งชีวิตไปอยู่กับคนที่ตัวเองไม่รักนะครับ”
“ฉันก็คิดอย่างนั้น” มนิษาไม่ใช่คนหัวอ่อนที่จะยอมบิดาแบบนั้นเพียงแต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการเรื่องยังไง
“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ” “เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง “แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ” “ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ” “ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้” “ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้” มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน “ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย” “แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว” “ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ” “เขาเป็นพี่รหัสค่ะ” “ความใกล้ชิดเหรอครับ” “ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉั
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านายเธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพังหญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้งวันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย“เหนื่อยไหมคะ”“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”“ครับ”“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมาปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุก
เสียงออดที่หน้าประตูทำให้มนิษาแปลกใจเพราะถ้าเป็นราฟาเอลเขาก็คงจะกดรหัสเข้ามาเองได้ ยังไม่ทันที่จะดูว่าใครมากดออดประตูก็ถูกเปิดออกมาก่อนแล้ว“คุณ” หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือเจ้านายของคนรัก“คุณเป็นใครแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณราฟาเอลไปไหน” เจโรมถามด้วยความแปลกใจ“ฉันเป็นคนรักของคุณราฟ คุณคงเป็นเจ้านายของเขาใช่ไหมคะ ฉันเคยเห็นคุณบนเรือ”“บนเรือ เจ้านาย”“ใช่ค่ะ ก็วันที่คุณไปตามเขามาทำงานไงคะ ฉันบังเอิญได้ยินคุณคุยกับเขา ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาทไปหน่อย”“เขาบอกแบบนั้นเหรอครับ”“ไม่ต้องให้บอกหรอกค่ะ คุณดุเขาขนาดนั้นฉันก็ดูออก ยังมีอีกเรื่องที่ต้องขอโทษคุณแทนเขา”“เรื่องอะไรครับ” เจโรมถาม เขากำลังจับต้นชนปลายว่าตอนนี้ราฟาเอลกำลังเล่นอะไรอยู่“ก็เรื่องที่เขาให้ฉันมาอยู่ที่คอนโดของคุณ”“คอนโดของผม อ่อ ใช่ ผมลืมไปเลยว่านี่เป็นคอนโดของผม”“ว่าแต่คุณมาหาเขา มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ เขาออกไปข้างนอกอีกสักพักก็คงจะกลับ”“ผมก็แค่แวะมาเองครับ ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ว่าแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”“ฉันชื่อมนิษาค่ะ คุณจะเรียกมะนาวเหมือนที่คุณราฟเรียกก็ได้ค่ะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื
“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมได้มีส่วนร่วมในโรงแรมของคุณ” ราฟาเอลกล่าวกับคุณโชติหลังจากที่เขายอมขายโรงแรมให้กับตนเองแล้ว“ยินดีครับผมหวังว่าคุณจะดูแลโรงแรมนี้เป็นอย่างดี”“แน่นอนครับผมจะดูแลทั้งโรงแรมและลูกสาวคุณอย่างดีเลยครับ”“ถ้าคุณรับปากแบบนี้ฉันก็เบาใจค่ะ ยายหวานน่ะเป็นเด็กดี แต่เรื่องงานยั้งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังไงฉันก็ขอฝากให้คุณช่วยสอนด้วยนะคะ” คุณรัญญาบอกกับชายหนุ่มฟาเอลมองลูกสาวของคุณโชติแล้วยิ้ม เขาไม่ได้บอกคุณโชติว่าลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือลูกคนเล็ก“แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ หวานไม่ได้เร่งนะคะแต่หวานเป็นผู้หญิงคนต้องใช้เวลาเตรียมตัว” มนัญญาถามด้วยความตื่นเต้น เธอเปลี่ยนใจจะแต่งงานทันทีที่เห็นหน้าของราฟาเอล“ผมเข้าใจครับ ผมเป็นผู้ชายคนไม่ค่อยถนัดเรื่องเตรียมงานเท่าไหร่ แต่ผมอยากแต่งหลังจากที่เราปรับปรุงโรงแรมเสร็จครับ อยากให้แขกที่มาเห็นว่าโรงแรมของเราพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน ทั้งสวนทางด้านนอกและห้องจัดเลี้ยง ผมอยากให้งานแต่งของผมกับลูกสาวคุณเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุด”“ความคิดคุณเฉียบแหลมมากเลยครับ” คุณโชติเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เพราะมันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้อง
เป็นอีกหนึ่งคืนที่ราฟาเอลนอนไม่หลับ มองห้องนอนกว้างที่เคยมีมนิษานอนอยู่ด้วยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอรู้จักกันประมาณหนึ่งเดือนแต่ความรู้สึกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นใครสักคนที่เขาตามหามาทั้งชีวิต เพียงแค่ติดต่อเธอไม่ได้เขายังร้อนใจถึงเพียงนี้ เรื่องที่จะต้องแต่งงานกับพี่ของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ราฟาเอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะคุยกับคุณโชติ บิดาของเธอว่าตนเองกับลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นแฟนกันและจะรีบจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้โรงแรมปรับปรุงเสร็จอย่างที่คุยไว้ในตอนแรกเขารีบตื่นเช้ากว่าทุกวันแล้วรีบตรงไปยังบ้านคุณโชติเพื่อหวังว่าจะเจอกับลูกสาวคนเล็กของเขา“อ้าว คุณราฟาเอลมาแต่เช้าเลยนะคะ พอดีเลยค่ะ มาทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคะ”“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนแต่เช้า”“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ หวานดีใจด้วยซ้ำที่คุณแวะมา”“ครับ ผมแวะมาบอกคุณก่อนว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยว่างมาดูแลโรงแรมแต่จะให้เลขามาช่วยดูแทนครับ”“เหรอคะ น่าเสียดายจังหวานคิดว่าจะได้เจอคุณทุกวันเสียอีก”“ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องไปจัดการครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หวานเข้าใจว่าคุณงานเยอะ คุณพ่อมาแล้วเราทานข้าวกันเลยไหมคะ”“บ้านคุณ
เรือสำราญลำใหญ่ออกจากท่าเรือ Mariner of the sea ในเวลา 17.00 น. คู่ฮันนีมูนเดินจูงมือกันมายังชั้นบนสุดของเรือ สายตามองไปยังผืนแผ่นดินใหญ่ ดึกสูงระฟ้ากำลังเล็กลงทีละนิดตามระยะทางที่เรือเคลื่อนออกจากฝั่ง“พี่ราฟ คิดไหมว่าเราจะได้แต่งงานกัน”“คิดสิครับ แล้วนาวล่ะ”“ไม่เลยค่ะ เพราะตอนนั้นที่อยู่บนเรือครั้งก่อนนาวไม่รู้ว่าคนที่จะแต่งงานด้วยคือพี่”“แล้วถ้าพี่บอกนาวตอนนั้นล่ะครับ มันจะเป็นยังไง”“นางก็คงขอร้องให้พี่เปลี่ยนใจ”“คิดเหรอครับว่าคนอย่างพี่จะยอมเปลี่ยนใจอะไรง่าย ๆ”“นาวไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพี่จะเป็นคนแบบไหนรู้แค่ตอนนั้นไม่อยากแต่ง ไม่อยากโดนบังคับ”“แต่ตอนนี้เราก็แต่งแล้วและกำลังอยู่บนเรือลำเดิมที่พวกเราได้คุยกันครั้งแรก”“ขอบคุณนะคะที่พานาวที่นี่อีกครั้ง”“นาวจำได้ไหม วันนั้นตอนที่เรากำลังนั่งดูเด็กเล่นต่อแถวเล่น Sky pad นาวบอกว่าถ้านาวมีลูกนาวจะพาพวกเขามาล่องเรือ”“จำได้ค่ะ วันนั้นมีแต่เด็ก ๆ น่ารักทั้งนั้นเลย”“แล้วนาวไม่อยากมีลูกกับพี่บ้างเหรอครับ” เพราะที่ผ่านมาทั้งสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนเลย ราฟาเอลไม่แน่ใจว่ามนิษาอยากมีลูกกับเขาหรือเปล่า ถ้าเธอไม่อยากมีเขาก็ไม่บังคั
“นาวพี่ขอโทษ” นี่คือประโยคแรกที่ราฟาเอลพูดกับภรรยาหลังจากทั้งสองตื่นนอนในเวลาเที่ยง“ขอโทษเรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่พี่กับเพื่อนนาวรวมถึงคุณเดซี่ ช่วยกันเตรียมงานแต่ง”“นาวไม่โกรธพี่หรอกค่ะ นาวรู้ว่าพี่หวังดี” ตอนแรกที่รู้ว่าโดนหลอกมนิษาทั้งโกรธและอาย แต่เอริญาและลดากาญจน์ก็ช่วยพูดจนเธอเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำไปทั้งหมด“แน่นะครับ”“ค่ะ หรืออยากให้โกรธล่ะคะ”“ไม่ดีกว่า บอกได้ไหมว่าทำไมถึงไม่โกรธ”“นาวจะโกรธลงได้ยังไงในเมื่อพี่ทำทุกอย่างก็เพื่อให้เราได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง นาวดีใจมากกว่าที่คุณตากับคุณยายได้ร่วมแสดงความยินดีกับนาวด้วย”“พี่ดีใจที่นาวเข้าใจ”“อันที่จริงพี่ก็น่าจะบอกนาวสักนิด นาวจะได้เตรียมตัว ดีนะคะที่ไม่ตากแดดจนหน้าดำ”“พี่ถึงให้แอนนิต้าส่งครีมมาให้นาวไงล่ะ”“วางแผนกันเก่งนะคะ”“ก็อยากให้นาวเซอร์ไพรส์ไงครับ ถ้าบอกนาวก่อนว่า จะจัดงานแล้วไปชวนคุณตาคุณยายมาไม่ได้ พี่กลัวนาวจะเสียใจ”“แล้วที่บอกว่างานหนักนั่นจริงไหมคะ”“นั่นเรื่องจริงครับ เพราะหลังจากวันแต่งงานพี่ว่าจะพานาวไปเที่ยวสักเดือน”“ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่านาวยังต้องทำงาน”“พี่ลางานให้แล้ว คุณเดซี่อนุญาตแล้วด้วยครับ”“
“วันนี้คุณสวยมากสวยเหมือนเจ้าหญิง” ราฟาเอลเอ่ยชมและมองคนรักด้วยสายตาหวานเชื่อมหลังจากญาติผู้ใหญ่ออกไปจากห้องหอแล้ว“คุณก็หล่อมาก”“ผมสัญญานะครับว่าจะเป็นสามีที่ดีของคุณจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก ผมรักคุณนะครับ”“นาวก็รักคุณค่ะ และก็ขอบคุณที่คุณจัดงานแต่งงานในแบบที่นาวฝันไว้”“ผมดีใจที่นาวชอบนะครับ เราไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้ว นาวของผมผอมไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ นาวก็ตัวเท่าเดิม เวลาที่ไม่เจอกันคุณคิดถึงนาวไหมคะ”“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากที่สุด”“คิดถึงนาวหรือคิดถึงอะไรกันแน่คะ”“นาวก็รู้”“ไม่เหนื่อยเหรอคะ เอาไว้วันหลังก็ได้”“ไม่เหนื่อยเลย คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ ถ้าเจ้าบ่าวไม่ทำหน้าที่รู้ไปถึงไหนอายถึงนั้น”“แค่ทำตามหน้าที่เหรอคะ”“ทำตามหัวใจต่างหากล่ะ หันหลังมาครับผมจะช่วยถอดชุดให้”“นาวถอดเองได้ค่ะ”“ผมถอดให้นาวแล้วนาวถอดให้ผมนะดีไหม”มนิษาเอื้อมมือมาคลายปมเนกไทออกจากนั้นมือเล็กแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ฝ่ามือลูบไล้กล้ามท้องอย่างแผ่วเบา“นาวชอบกล้ามท้องของคุณนะคะ มันเซ็กซี่มาก ต่อไปนี้ห้ามถอดเสื้อให้ใครเห็นอีกเด็ดขาดนอกจากนาวคนเดียว”“ผมไม่มีทางทำแบบนั้น ผมมีนาวคนเดี
มนิษาเดินสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานอีกครั้ง ตอนนี้รีสอร์ตตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดในโทนสีชมพูและสีขาวเหมาะกับบรรยากาศแต่งงานริมทะเลที่เธอเคยใฝ่ฝัน“พี่เดซี่คะ งานแต่งมีวันนี้แน่ใช่ไหมคะทำไมยังไม่มีใครมาเลย”“ใจร้อนจริงนะ เดี๋ยวก็คงมากันแล้วรถของรีสอร์ตไปรับแล้วล่ะ เดี๋ยวก็คงมาถึง”“นาวตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะชอบไหม”“แล้วนาวชอบไหมล่ะ”“ชอบมากค่ะ ถ้านาวแต่งงานก็อยากได้แบบนี้”“แต่แขกที่มาร่วมงานมีแค่ยี่สิบกว่าคนเอง นาวว่ามันไม่เล็กไปเหรอ”“ไม่หรอกค่ะ งานเล็ก แต่แขกทุกคนเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ แล้วพี่เดซี่ล่ะคะ”“ของพี่ของแค่มีเจ้าบ่าวมาคนเดียวก็พอค่ะ”“นั่นสิคะ ขอแค่มีเจ้าบ่าวงานแต่งก็สมบูรณ์แล้ว”“มากันแล้ว” เดซี่มองไปยังทางเข้ารีสอร์ตที่รถตู้กำลังขับเข้ามาแขกชุดแรกที่ลงจากรถเป็นแขกทางฝั่งเจ้าบ่าวมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มนิษารีบเข้าไปต้อนรับ ก่อนจะพาแขกทั้งหมดไปยังห้องพักที่เตรียมไว้ เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาจัดงาน“พักผ่อนตามสบายนะคะ ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้พนักงานก็โทรไปตามที่ล็อบบีได้เลยค่ะ ส่วนอาหารกลางวันถ้าไม่สะดวกไปทานที่ห้องอาหารก็สา
มนิษากลับทำงานบนเกาะสมุยได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่วงนี้มีแขกเข้าพักเป็นจำนวนมาก เธอสนุกกับงานทุกวันจนเหนื่อย พอกลับไปที่บ้านพักก็แทบหมดแรงแต่เธอก็ไม่เลยลืมโทรหาคนรัก มนิษากับราฟาเอลคุยกันก่อนนอนทุกคืนมันเป็นเหมือนการเติมพลังให้แก่กันและกัน“ช่วงนี้นาวยุ่งมาก แขกพักเต็มทุกวันเลยค่ะ คุณราฟล่ะคะ”“ผมก็ค่อนข้างยุ่งครับ คงไปหาคุณเร็วๆ นี้ไม่ได้ สัปดาห์หน้าอาจจะยุ่งหน่อย ถ้าวันไหนผมไม่โทรไปนาวอย่างโกรธนะครับ”“ไม่หรอกค่ะนาวเข้าใจดี คุณคงเหนื่อยมาก”“เหนื่อยแค่ไหนได้ยินเสียงคุณเห็นหน้าคุณผมก็หายเหนื่อย คุณดูผอมไปหรือเปล่าครับ” ราฟาเอลมองคนรักผ่านกล้องจากโปรแกรมสนทนาก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง”“นิดหน่อยค่ะ พี่เดซี่รับจัดงานแต่งเป็นครั้งแรก พวกเราเลยวุ่นกันนิดหน่อย อยากให้งานออกมาดีและประทับใจแขก”“ยุ่งแค่ไหนก็ควรหาเวลาดูแลตัวเองนะครับ แอนนิต้าบอกว่าส่งครีมบำรุงกับพวกครีมกันแดดให้คุณแล้ว”“ค่ะส่งมาแล้ว นาวเพิ่งเริ่มใช้ค่ะ”“ครับ ถ้าหมดก็บอกนะครับ ผมจะให้เธอจัดการให้”“ไม่เป็นไรค่ะ นาวเกรงใจเธอ”“จะเกรงใจทำไม เธอเป็นแม่สามีคุณนะ คุณมีอะไรหรืออยากได้อะไรก็บอกเธอได้ เรื่องผู้หญิงผมก็ไม่ค่อยถนัด”“อย่
ประตูห้องสวีทปิดลงราฟาเอลก็กระโจนเข้าหาคนรักราวกับสัตว์ป่า เพียงแค่คิดว่าจะต้องจากกันอีกนานหลายวันเขาก็แทบไม่อยากเสียเวลาเลยแม้แต่วินาทีเดียวปากหยักได้รูปกดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง สองแขนช้อนใต้สะโพกคนตัวเล็กก็ยกขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบอย่างรู้งานราฟาเอลอุ้มคนรักเข้ามาในห้องนอนกว้าง ปากยังคงไม่ยอมผละออกจากความหวาน ที่ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ในโพรงปากนุ่ม สองลิ้นตวัดหยอกล้อพันเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนเดรสสีสวยถูกกระชากออกโยนไปตกทุ่มห้องจากนั้นชั้นในราคาแพงก็ถูกโยนตามลงมาราฟาเอลไล้มือไปตามร่างกายเปลือยเปล่าอย่างหลงใหลฝ่ามือร้อนกอบกุมทรวงอกอวบ คลึงเคล้นหนักเบา ปลายนิ้วหยอกเย้าบนปลายถันสีสวยร่างกายของมนิษาเริ่มบิดเร่าไปมา ความเสียวซ่านลุกลามไปทั่ว ทุกจุดที่ฝ่ามือร้อนเลื่อนผ่านจมูกโด่งสูดดมความหอมไปตามพวงแก้มและซอกคอขาว ปากร้อนขบเม้มติ่งหูแผ่วเบา แล้วเรื่อยมาจนถึงลำคอระหง ก่อนจะถอยเลื่อนตัวต่ำลงไปถึงเนินอก สูดดมความหอมจากเนินอกคู่อวบจน เรียวปากร้อนกลืนกินปลายถันเข้าโพรงปากอย่างเมามัน ปลายลิ้นดุนดันเร่งเร้าหญิงสาวดิ้นพล่าน เสียวไปทั่วบริเวณท้องน้อย ร่างกายเบียดเข้าหาคนรักอย่างเชื้อเชิญเสียงหวานคราง
มนิษาและราฟานัดเจอกับเพื่อนที่ผับเดิม ที่ราฟาเอลเจอกับมนิษาครั้งแรกพอบอกข่าวดีแล้วต่างก็พากันนั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและเป็นกันเองสาว ๆ แยกมานั่งมุมหนึ่ง ส่วนหนุ่มหล่อทั้งสามก็นั่งดื่มไปด้วยคุยไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน“นาว เราดีใจด้วยนะ งานแต่งวันไหนอย่าลืมบอกเรากับดาจะไปบินไปร่วมงาน”“แน่นอนยังไงเราก็ต้องบอกเอริกับดาอยู่แล้ว ว่าแต่เอริล่ะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดี”“เรายังไม่อยากแต่งงาน อยากเที่ยวด้วยกันก่อน”“ถ้าเอริแต่งไปอีกคนเราคงเหงาแย่เลย”“ก็รีบหาสิจ้ะดา”“พูดอย่างกับมันหากันง่าย ๆ แล้วถึงดาจะหาได้ใครจะผ่านด่านม๊ากับป๊าได้ล่ะ”“นางงว่าแค่ม๊ากับป๊าคงไม่เท่าไหร่ ที่หนักสุดคงจะเป็นพี่ชายมากกว่า”“ใช่เอริเห็นด้วย ถ้าดาจะหาแฟนก็ต้องหาคนที่พี่ดิษเกรงใจ”“เราไม่เห็นพี่ดิษจะเกรงใจใครเลย แล้วลองคิดดูนะพี่ดิษอายุ 28 คนที่พี่ดิษเกรงใจนี้คงจะอายุสามสิบกว่านู่น เราไม่ชอบคนแก่”“ดา ไม่ลองจะรู้เหรอบางทีคนแก่ก็มีอะไรเด็ด ๆ ซ่อนอยู่นะ”“ใครจะเด็ดเท่าคุณเมธัสของเอริล่ะ ดูสิขนาดเรามานั่งคุยกันสามคนเขายังมองเอริไม่กะพริบเลย ถามจริงนะ ไม่อึดอัดเหรอ”“ไม่นะ เราชอบแบนี้ ชอบคนที่แสดงออกอย่างชัดเจน เ
ออกจากบ้านของคุณโชติราฟาเอลก็ตรงยังสำนักงานเขตทันที เพราะเอกสารทุกอย่างเขาเตรียมไว้หมดแล้ว“นาวไม่คิดว่าคุณจะเตรียมพร้อมขนาดนี้”“ผมเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ถ้าคุณโชติยอมให้เราแต่งงานและจัดงานที่นี่ก็คงจดทะเบียนในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อจะไม่มีการจัดงานที่ในเมืองไทยผมก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายครับ”“นาวนึกว่าคุณจะลำบากใจที่ต้องมาจดทะเบียน”“ไม่มีอะไรจะต้องลำบากใจเลยนี่ครับ เราจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว”“คุณตื่นเต้นกว่านาวอีกนะคะ”“พูดผิดแล้วครับ สองคนนั้นต่างหากที่ตื่นเต้นกว่าเรา”พอมนิษาหันไปตามทางที่ราฟาเอลชี้เธอก็แทบกลั้นขำไม่ไหว เพราะตอนนี้คุณอีริคและแอนนิต้านั่งอยู่หน้านายทะเบียนอย่างกับกับว่าทั้งสองเป็นคนมาจดทะเบียนเอง“พ่อครับ ผมว่าที่นั่งตรงนั้นน่าจะเป็นของผมนะครับ”“ชักช้ายืดยาดไม่ทันใจเลย ลูกชายใครเนี่ย”“ใครจะไวเหมือนพ่อละครับ” ราฟาเอลหัวเราะแล้วนั่งลงแทนที่บิดา โดยมีมนิษานั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวซึ่งอยู่ติดกันออกจากสำนักงานเขตทั้งสี่คนก็พากันมาฉลองที่โรงแรมก่อนจะแยกย้ายกันไปพักที่ห้องของตัวเองพรุ่งนี้เช้าอีริคกับแอนนิต้าจะพากันไปเที่ยวเชียงใหม่ ส่วนม
มนิษาขอลางานจากพี่เดซี่โดยบอกแค่ว่ามีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เดซี่เห็นว่าตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่รีสอร์ตก็ยังไม่เคยได้ลาพัก อีกอย่างวันหยุดที่ผ่านมามนิษาก็ถูกโทรตามให้มาทำงานกับราฟาเอลเธอออกเดินทางจากสมุยด้วยเที่ยวบินบ่าย ส่วนราฟาเอลนั้นเดินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว และตอนนี้เขาก็มารับเธอที่สนามบิน“ผมลุ้นมากเลยกลัวคุณจะเปลี่ยนใจ” เขาทักทายคนรักพร้อมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นในสนามบินเลยแม้แต่น้อย“นาวบอกว่าจะมาก็ต้องมาสิคะ คุณว่างเหรอถึงมารับนาวได้”“ไม่ว่างก็ต้องมารับเองครับ คิดถึงมากอยากเจอ”“นาวก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ถ้าคราวหน้าถ้ามีงานก็ไม่ต้องมารับนะคะ นาวกลับเองได้”“ก็ผมเป็นห่วงนี่ครับ คิดถึงคุณด้วย แล้วเดินทางเหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะ บินแค่นี้สบายมาก ว่าแต่เราจะไปไหนกันค่ะ ที่คอนโดคุณใช่ไหม”“ผมว่าเราพักที่โรงแรมดีกว่าครับสะดวกดี”“โรงแรมของคุณน่ะเหรอคะ ฉันจะไม่รบกวนใช่ไหม”“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็พักที่โรงแรม นาน ๆ ถึงจะไปค้างที่คอนโด”“ค่ะ” มนิษาเดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอเห็นด้วยกับราฟาเอลเพราะการพักที่โรงแรมจะประหยัดเวลาเดินทางมาทำงานได้ราฟาเอลส่งเธอที่ห้องพักจากนั้นก