มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด
“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ
หญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้น
เธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมด
ถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะทำแบบนั้นเพราะเธอไม่ใช่คนรวยหรือคนที่มีชื่อเสียง
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจนแทบระเบิด มนิษาฟุบใบหน้าลงกับที่นอนแล้วร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง เธอร้องจนแทบไม่เหลือน้ำตาอีกแล้ว
ราฟาเอลกลับเข้ามาในคอนโดหลังจากที่ไปจัดการเรื่องเสี่ยอดุลย์ตั้งแต่เช้า จากนั้นก็แวะไปซื้อเสื้อผ้ามาให้มนิษาอีกหลายชุด เขาฝากให้แม่บ้านของคอนโดเอาไปซักก่อนจะขึ้นมาหาหญิงสาว
“นาว” ชายหนุ่มนั่งลงข้างเธอซึ่งตอนนี้ยังฟุบอยู่ข้างเตียง
“คุณราฟ” เธอเงยหน้ามองเขาคราบน้ำตายังไม่แห้งเหือด
ราฟาเอลดึงเธอเข้ากอด กดจมูกลงบนเรือนผมสีดำอย่างห่วงแหน
“คุณเป็นยังไงบ้าง ผมเป็นห่วงคุณนะ เรื่องไอ้เสี่ยนั้นผมจัดการเรียบร้อยแล้ว มันจะไม่มายุ่งกับคุณอีก”
“เมื่อคืน ฉัน..” เมื่อคิดว่าตัวเองเกือบจะตกเป็นของตาแก่ตัณหากลับเธอก็พูดไม่ออก
“ผมขอโทษที่พาคุณไปด้วยผมไม่รู้ว่ามันจะมันจะทำแบบนั้นกับคุณ”
“แต่เขาบอกว่าคุณให้ฉันตามขึ้นไป”
“เปล่าเลย ตอนนั้นผมตามลูกน้องของมันไปที่รถ พอกลับมาคุณก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว”
“คุณไม่ได้ร่วมมือกับมันใช่ไหมคะ” มนิษาถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ผมจะทำอย่างนั้นทำไม คุณเป็นแฟนผมนะ เป็นคนที่ผมรัก”
“ขอบคุณนะคะที่เข้าไปช่วย ฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าคุณไปช้ากว่านั้น ฉันจะเป็นยังไง”
“อย่าคิดถึงมันอีกเลย มันผ่านมาแล้ว”
“คุณราฟคะ ฉันขอร้องอะไรสักอย่างได้ไหม”
“ครับ”
“เรื่องเมื่อคืน เรื่องที่ฉัน เอ่อ..”
“ผมขอโทษที่ล่วงเกินคุณ”
“ฉันรู้คุณไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่อยากขอร้องให้ลืมมันไปได้ไหม”
“จะให้ลืมได้ยังไง”
“มันน่าอายที่ฉันเป็นแบบนั้น มันดูไม่ดีเลย”
“ผมรู้ว่าที่เป็นแบบนั้นเป็นเพราะยาที่คุณกินเข้าไป ผมขอโทษที่ไม่ห้ามใจตัวเอง แต่ผมยินดีจะรับผิดชอบคุณ”
“คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ฉันไม่มีค่าพอหรอกค่ะ”
“ใครบอก คุณมีค่ามากที่สุดสำหรับผมเลยนะ เรารู้จักกันไม่นานแต่ผมอยากใช้ชีวิตกับคุณจริง ๆ นะ คุณไม่อยากใช่ชีวิตกับผมเหรอ ผมเป็นคนแรกของคุณเลยนะ”
“เอาอะไรมาพูด ฉันน่ะ เหลวแหลกมานักต่อนักแล้ว”
“แล้วบนที่นอนนั่นคืออะไร”
มนิษามองบนที่นอนเห็นรอยสีแดงคล้ำ เธออ่านนิยายมามากส่วนใหญ่ก็จะมีเลือดประมาณหนึ่งแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อคืนเธอจำได้ว่ารู้สึกเจ็บแค่ช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอีกเลย รู้แต่ว่าตัวเองเรียกร้องมากแค่ไหน เธออายจนต้องก้มหน้าลงกับที่นอนอีกครั้ง
“ทำไม เสียใจเหรอที่ผมเป็นคนแรก” เขาถามเสียงเบาเหมือนกำลังน้อยใจ
“คุณกำลังทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองหน้าไม่อาย”
“ผมขอโทษผมก็แค่ดีใจ ตอนนี้เราไม่ใช่แค่แฟนแล้ว เราเป็นมากกว่านั้น”
“ที่คุณจะรับผิดชอบก็เพราะเรื่องนี้หรือเปล่า”
“มะนาว มองหน้ามองก่อน สิ” ฝ่ามือหนาเชยคางเรียวให้ขึ้นมามองหน้า
มนิษามองเขาผ่านม่านน้ำตา เห็นถึงความจริงใจในแววตานั้น ความรู้สึกของเธอตอนนี้ทั้งดีใจและเสียใจ มันปะปนกันไปหมด ดีใจที่ผู้ชายคนแรกคือเขา เสียใจที่มีเวลาอีกไม่มากที่จะได้อยู่กับเขา
“เวลาของเรามันเหลืออีกไม่กี่วันแล้ว คุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”
“ผมจะเป็นคนต่อเวลานั้นเอง คุณสบายใจได้เลย ส่วนเรื่องที่ผมรับผิดชอบ ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดที่เป็นคนทำลายคุณ แต่เพราะผมรักคุณจริงๆ ตอนที่เข้ามาจีบก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ผมไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอดีตของคุณจะเป็นยังไง แต่พอรู้ว่าตัวเองเป็นคนแรก มันก็ทั้งรักทั้งห่วง ไม่อยากให้คุณเป็นของคนอื่น”
“ถ้าพ่อรู้เรื่องของเรา พ่อจะเปลี่ยนใจไหมคะ”
“ผมตอบคำถามนี้ของคุณไม่ได้เพราะผมไม่รู้ว่าพ่อของคุณเป็นคนยังไง”
“พ่อรักโรงแรมมากกว่าฉัน พ่อกลัวเสียโรงแรมให้กับคนอื่น เงื่อนไขที่เสนอให้หุ้นส่วนก็คือต้องให้ฉันแต่งงานกับเขาแลกกับหุ้นอีกจำนวนหนึ่งหลังแต่งงาน”
“ผมจะพยายามให้เต็มที่กับเรื่องของเรา”
“ราฟค่ะ ถ้าฉันหนีไปตอนนี้จะเป็นอะไรไหมคะ”
“ดีสี เราหนีไปด้วยกัน ส่วนเรื่องโรงแรมนั้นก็ปล่อยให้พ่อคุณจัดการเอง ถ้าเขาหาคุณไม่เจอ คนที่ต้องแต่งงานก็เป็นพี่สาวของคุณ”
“ฉันเห็นแก่ตัวมากไปไหม ฉันจะเป็นลูกอกตัญญูใช่ไหมคะ”
“การทดแทนบุญคุณมีตั้งหลายวิธีนะ คุณลองคิดดูชีวิตทั้งชีวิตของคุณจะไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ ถึงเขาจะรวยล้นฟ้า แต่คุณคิดว่าจะมีความสุขไหม”
“คุณจะโกรธไหมฉันตัดสินใจแต่งงานกับเขา”
“ยังไม่ถึงวันนั้นเลยเหลืออีกตั้งหลายวัน” ราฟาเอลเลี่ยงที่จะตอบ
“แต่มันก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะคะ”
“คุณตอบผมมาก่อนว่าคุณยินดีจะใช่ชีวิตกับผมไหม ผมอาจไม่รวยเท่าเขา แต่ผมสัญญาจะทำให้คุณลำบากเลย”
“ถึงจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่ฉันคิดฉันเชื่อใจคุณได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ไปอาบน้ำดีไหม เสร็จแล้วจะได้หาอะไรรองท้อง แล้วค่อยคุยกันต่อ”
“คุณออกไปก่อนได้ไหม”
“แน่ใจนะว่าลุกไปห้องน้ำคนเดียวได้”
“ค่ะ ออกไปก่อนนะคะ”
“ผมช่วยคุณได้นะ ไม่ต้องอายหรอกครับ ผมน่ะ เห็นมาหมดทั้งตัวแล้วนะครับ”
“คุณราฟ” มนิษาทำเสียงดุใส่คนตัวโตที่กำลังจะอุ้มเธอขึ้นจากพื้น
“โอ๊ะ เมียใครดุจัง” ราฟาเอลหัวเราะแล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปทันที
มนิษาไม่อยากหัวเราะได้อย่างเขาบ้าง แต่ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันหนักอึ้ง จนไม่สามารถหัวเราะออกมาแบบนั้นได้เลย ยอมรับว่าดีใจที่ราฟาเอลไม่คิดจะทอดทิ้ง แต่มันเหมือนกับเธอเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะเขาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความทรมาน
แล้วถ้าบิดารู้เรื่องนี้ เขาจะยังให้เธอไปแต่งงานกับคนอื่น มันก็เหมือนกับการย้อมแมวหรือเปล่า หรือคนที่จะมาเป็นหุ้นส่วนไม่ได้สนใจเรื่องนี้
ระหว่างที่มนิษาอาบน้ำราฟาเอลก็เอาชุดที่ซื้อมาแขวนในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องแต่งตัวติดกับห้องน้ำ เขาตะโกนบอกเธอจากข้างนอก แล้วกลับออกมานั่งรอในห้องรับแขก
ราฟาเอลนั่งมองข้อมูลของโรงแรมที่เขาตัดสินใจจะเข้าไปมีส่วนร่วม ครั้งแรกที่ติดต่อไปคือจะซื้อขาดแล้วทุบทิ้งสร้างเป็นโรงแรมแรมแห่งใหม่เพราะเขาไม่ชอบตัวโรงแรม แต่อยากได้ที่ดินผืนนั้นมากกว่า
ถ้าไม่ได้เจอมนิษาเขาก็คงยอมปล่อยโรงแรมนี้ไปแล้วหาซื้อที่อื่น แต่เพราะข้อเสนอของคุณโชติที่ยอมขายในราคาที่ต่ำกว่าเดิมแต่ต้องแต่งงานและมอบหุ้นให้เขาอีกจำนวนหนึ่ง ราฟาเอลคิดว่าเรื่องนี้เขายอมรับได้ เพราะในวันแต่งงานเขาจะใส่ชื่อมนิษาแทนชื่อพ่อของเธอ คุณโชติคงไม่กล้าโวยวายต่อหน้าคนอื่น
เขาเองยังไม่เคยเจอกับคุณโชติเลย เพราะที่ผ่านมาเจโรมเป็นคนติดต่อทางนั้นตลอด
ราฟาเอลคิดว่าคงจะเข้าพบคุณโชติสักครั้ง เพื่อตกลงเรื่องรายละเอียดกันอีกที เรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกมนิษาแต่มั่นใจว่าบอกไปแล้วเธอคงจะไม่โกรธเขา เพราะทุกอย่างที่ทำก็เพื่อจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านายเธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพังหญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้งวันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย“เหนื่อยไหมคะ”“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”“ครับ”“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมาปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุก
เสียงออดที่หน้าประตูทำให้มนิษาแปลกใจเพราะถ้าเป็นราฟาเอลเขาก็คงจะกดรหัสเข้ามาเองได้ ยังไม่ทันที่จะดูว่าใครมากดออดประตูก็ถูกเปิดออกมาก่อนแล้ว“คุณ” หญิงสาวจำได้ว่าเขาคือเจ้านายของคนรัก“คุณเป็นใครแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณราฟาเอลไปไหน” เจโรมถามด้วยความแปลกใจ“ฉันเป็นคนรักของคุณราฟ คุณคงเป็นเจ้านายของเขาใช่ไหมคะ ฉันเคยเห็นคุณบนเรือ”“บนเรือ เจ้านาย”“ใช่ค่ะ ก็วันที่คุณไปตามเขามาทำงานไงคะ ฉันบังเอิญได้ยินคุณคุยกับเขา ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาทไปหน่อย”“เขาบอกแบบนั้นเหรอครับ”“ไม่ต้องให้บอกหรอกค่ะ คุณดุเขาขนาดนั้นฉันก็ดูออก ยังมีอีกเรื่องที่ต้องขอโทษคุณแทนเขา”“เรื่องอะไรครับ” เจโรมถาม เขากำลังจับต้นชนปลายว่าตอนนี้ราฟาเอลกำลังเล่นอะไรอยู่“ก็เรื่องที่เขาให้ฉันมาอยู่ที่คอนโดของคุณ”“คอนโดของผม อ่อ ใช่ ผมลืมไปเลยว่านี่เป็นคอนโดของผม”“ว่าแต่คุณมาหาเขา มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ เขาออกไปข้างนอกอีกสักพักก็คงจะกลับ”“ผมก็แค่แวะมาเองครับ ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ว่าแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร”“ฉันชื่อมนิษาค่ะ คุณจะเรียกมะนาวเหมือนที่คุณราฟเรียกก็ได้ค่ะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื
“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมได้มีส่วนร่วมในโรงแรมของคุณ” ราฟาเอลกล่าวกับคุณโชติหลังจากที่เขายอมขายโรงแรมให้กับตนเองแล้ว“ยินดีครับผมหวังว่าคุณจะดูแลโรงแรมนี้เป็นอย่างดี”“แน่นอนครับผมจะดูแลทั้งโรงแรมและลูกสาวคุณอย่างดีเลยครับ”“ถ้าคุณรับปากแบบนี้ฉันก็เบาใจค่ะ ยายหวานน่ะเป็นเด็กดี แต่เรื่องงานยั้งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังไงฉันก็ขอฝากให้คุณช่วยสอนด้วยนะคะ” คุณรัญญาบอกกับชายหนุ่มฟาเอลมองลูกสาวของคุณโชติแล้วยิ้ม เขาไม่ได้บอกคุณโชติว่าลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือลูกคนเล็ก“แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ หวานไม่ได้เร่งนะคะแต่หวานเป็นผู้หญิงคนต้องใช้เวลาเตรียมตัว” มนัญญาถามด้วยความตื่นเต้น เธอเปลี่ยนใจจะแต่งงานทันทีที่เห็นหน้าของราฟาเอล“ผมเข้าใจครับ ผมเป็นผู้ชายคนไม่ค่อยถนัดเรื่องเตรียมงานเท่าไหร่ แต่ผมอยากแต่งหลังจากที่เราปรับปรุงโรงแรมเสร็จครับ อยากให้แขกที่มาเห็นว่าโรงแรมของเราพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน ทั้งสวนทางด้านนอกและห้องจัดเลี้ยง ผมอยากให้งานแต่งของผมกับลูกสาวคุณเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุด”“ความคิดคุณเฉียบแหลมมากเลยครับ” คุณโชติเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เพราะมันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้อง
เป็นอีกหนึ่งคืนที่ราฟาเอลนอนไม่หลับ มองห้องนอนกว้างที่เคยมีมนิษานอนอยู่ด้วยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอรู้จักกันประมาณหนึ่งเดือนแต่ความรู้สึกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นใครสักคนที่เขาตามหามาทั้งชีวิต เพียงแค่ติดต่อเธอไม่ได้เขายังร้อนใจถึงเพียงนี้ เรื่องที่จะต้องแต่งงานกับพี่ของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ราฟาเอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะคุยกับคุณโชติ บิดาของเธอว่าตนเองกับลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นแฟนกันและจะรีบจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้โรงแรมปรับปรุงเสร็จอย่างที่คุยไว้ในตอนแรกเขารีบตื่นเช้ากว่าทุกวันแล้วรีบตรงไปยังบ้านคุณโชติเพื่อหวังว่าจะเจอกับลูกสาวคนเล็กของเขา“อ้าว คุณราฟาเอลมาแต่เช้าเลยนะคะ พอดีเลยค่ะ มาทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคะ”“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนแต่เช้า”“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ หวานดีใจด้วยซ้ำที่คุณแวะมา”“ครับ ผมแวะมาบอกคุณก่อนว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยว่างมาดูแลโรงแรมแต่จะให้เลขามาช่วยดูแทนครับ”“เหรอคะ น่าเสียดายจังหวานคิดว่าจะได้เจอคุณทุกวันเสียอีก”“ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องไปจัดการครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หวานเข้าใจว่าคุณงานเยอะ คุณพ่อมาแล้วเราทานข้าวกันเลยไหมคะ”“บ้านคุณ
“อีกสองอาทิตย์แขกวีไอพีจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด พี่ฝากนาวไปดูแลด้วยนะ”“ค่ะพี่เดช”“หนูมะนาวขา พี่บอกกี่ครั้งแล้วไม่จำเลยนะลูก เดซี่ค่ะ พี่ชื่อเดซี่” คมเดชพยายามบีบเสียงให้เล็กขณะพูด เรียกรอยยิ้มให้กับคนฟังได้ไม่น้อยเลยทีเดียว“ขอโทษค่ะพี่เดซี่” มนิษายกมือไหว้ผู้จัดการรีสอร์ตที่หัวเราะอย่างอารมณ์หญิงสาวมาทำงานที่นี่ตำแหน่งรองผู้จัดการซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างภายในรีสอร์ต ไม่เว้นแม้กระทั่งทำห้องแทนแม่บ้าน ซึ่งมนิษาไม่ได้เกี่ยงงานเหล่านี้เลยเพราะเธอฝึกทำทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่อีกทั้งก็เคยไปทำงานที่โรงแรมของบิดามาก่อน“แขกรีเควสอะไรเป็นพิเศษไหมคะ แล้วมากี่คนค่ะ”“มาคนเดียวจ้ะ ท่านไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่ที่อยากให้คอยดูแลเพราะท่านรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ต”“ได้ค่ะ นาวเข้าใจแล้วจะดูแลอย่างดีไม่ให้เสียชื่อพี่เดซี่เลยค่ะ”สองสัปดาห์ก่อนมนิษาลงจากเครื่องในเวลาทุ่มกว่าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่สนามบิน คนขับรถของทางรีสอร์ตมารอรับอยู่แล้วพอรถจอดที่หน้ารีสอร์ตก็มีคนมายืนรอรับราวกับว่าเธอเป็นแขกคนสำคัญ“สวัสดีค่ะ” มนิษายกมือไหว้คนที่ยื่นรออยู่ซึ่งมีทั้ง
วันนี้มนิษาตื่นนอนสายกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันหยุดเธอจึงไม่ได้ไปทานอาหารที่รีสอร์ต แต่เลือกที่จะนั่งทานเค้กและกาแฟที่คาแฟ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนักระหว่างนั่งดื่มกาแฟตากลมโตก็มองนั่งท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เพราะวันนี้เป็นวันพุธเป็นวันทำงาน บนเกาะจึงแทบไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเลยสักคนอีกอย่างค่าครองชีพบนเกาะก็ค่อนข้างจะสูงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงจะเป็นชาวต่างชาติเสียมากกว่าหลังจากอิ่มแล้วเธอเดินไปยังร้านหนังสือที่อยู่ติดกัน เลือกหนังสือนิยายกับหนังสือเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนมาหนึ่งเล่ม แวะร้านสะดวกซื้อหยิบขนมปัง แยม และโยเกิร์ตเพี่อเป็นเสบียงในวันหยุดนี้ขณะกำลังเก็บทุกอย่างใส่ตู้เย็นพี่เดซี่ก็โทรเข้ามา“สวัสดีค่ะพี่เดซี่”“นะนาว ตอนนี้หนู่อยู่ไหน ลงเรื่อไปหรือยังลูก”“อยู่บ้านพักค่ะ นาวไม่ได้ขึ้นฝั่ง”“งั้นก็ดีเลยจ้ะ เย็นนี้แขกจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด”“ไหนว่ายังอีกหลายวัน”“เป็นแขกคนละคนกับที่แจ้งไว้ แต่ก็วีไอพีพอ ๆ กัน”“แล้วจะไม่เป็นไรเหรอคะ ถ้าเขาอยู่ยาวจนอีกคนมาถึง”“ไม่หรอกจ้ะ สองคนนี้สนิทกันอีกอย่างบ้านหลังนั้นก็มีตั้งสองห้องนอน ถ้าเขาจะพักด้วยกันก็ไม่
ราฟาเอลลอบมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าทานข้าวแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด เธอทำเหมือนกับเขาเป็นคนแปลกหน้า หญิงสาวเอาแต่ทานข้าวโดยไม่เงยหน้ามองมาและไม่พูดกับเขาเลยแม้แต่คำเดียวหลังทานข้าวมนิษาก็เก็บล้างความสะอาดแล้วเตรียมตัวจะกลับบ้านพัก เธอมาสำรวจเส้นทางแล้วว่าจากที่นี่ไปยังบ้านพักของเธอนั้นถ้าเดินไปตามถนนในรีสอร์ตจะต้องเสียเวลาอ้อม แต่ถ้าไปทางลัดก็ใช้เวลาเดินไม่ถึงสิบนาที“คุณจะกลับเลยเหรอ”“ค่ะ ดึกแล้วคุณควรพักผ่อนนะคะ”“ครับ”แม้จะแปลกใจที่เขาตอบรับอย่างว่าง่าย แต่ก็ดีใจเพราะเธอเองก็ไม่อยากอยู่กับเขาตามลำพังในยามวิกาลเช่นนี้หญิงสาวกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพราะพรุ่งนี้คงต้องไปรอรับใช้แขกวีไอพีตั้งแต่เช้าเธอกำลังคิดว่าที่ราฟาเอลมาเจอกับเธอที่นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเพราะเขาตามเธอ เท่าที่จำได้ก็ยังไม่เคยบอกกับใครว่าตนเองมาทำงานที่นี่ แม้กระทั่งเพื่อนรักทั้งสองคนก็ยังไม่เคยบอก ถ้าเขาจะตามหาเธอมันก็เป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นมันก็คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญคิดได้แล้วก็ปิดไฟเข้านอนหัวยังไม่ทันถึงหมอนโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็สั่นจนต้องลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งเมื่อเห็นเป็นเบอร
บทรักที่เร่าร้อนจบลงเกือบตีสอง มนิษานอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาจนกระทั่งได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของคนตัวโตเธอรีบลุกขึ้นสวมชุดทำงานที่กระดุมเสื้อขาดรุ่งริ่ง จากนั้นรีบเดินกลับบ้านพักโดยใช้เส้นทางลัด แม้จะแทบไม่มีแรงเดิน แต่ก็ไม่อยากจะนอนค้างที่นั่น เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับราฟาเอลแม้จะยอมรับว่ามีความสุขที่ได้เจอเข้าอีกครั้งมีความสุขที่ได้เติมเต็มให้แก่กันและกัน แต่มันก็เป็นเรื่องฉาบฉวยเพราะยังไงเขาก็ต้องแต่งงานกันพี่สาวของเธออยู่ดีเมื่อคิดว่าตอนนี้ตัวเองกับพี่สาวนอนกับผู้ชายคนเดียวกันน้ำตามันก็ไหลออกมาอยากอัตโนมัติ แล้วเวลาที่เหลือจากนี้เธอจะเป็นยังไง จะยอมให้เขาทำกับร่างกายของเธออีกหรือเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งขยะแขยงตัวเองขึ้นมาทุกทีมนิษาเริ่มงานวันใหม่ด้วยความอ่อนเพลีย แต่ก็ไม่อยากทำหน้าที่ของตนเองบกพร่อง หญิงสาวตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าและมาถึงห้องอาหารของพนักงานในเวลาเจ็ดโมงเช้า ทานอาหารอย่างรวดเร็วเพราะต้องรีบเอาอาหารไปให้แขกวีไอพีที่บ้านพัก“เป็นยังไงบ้างมะนาว แขกวีไอพีพอไหวไหม”“ก็ดีค่ะ”“พี่ฝากด้วยนะคะ คนนี้สำคัญจริง ๆ แล้วนั้นหนูจะเอาอาหารไปให้เขาใช่ไหม”“ค่ะ น
มนิษาขอลางานจากพี่เดซี่โดยบอกแค่ว่ามีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เดซี่เห็นว่าตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่รีสอร์ตก็ยังไม่เคยได้ลาพัก อีกอย่างวันหยุดที่ผ่านมามนิษาก็ถูกโทรตามให้มาทำงานกับราฟาเอลเธอออกเดินทางจากสมุยด้วยเที่ยวบินบ่าย ส่วนราฟาเอลนั้นเดินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว และตอนนี้เขาก็มารับเธอที่สนามบิน“ผมลุ้นมากเลยกลัวคุณจะเปลี่ยนใจ” เขาทักทายคนรักพร้อมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นในสนามบินเลยแม้แต่น้อย“นาวบอกว่าจะมาก็ต้องมาสิคะ คุณว่างเหรอถึงมารับนาวได้”“ไม่ว่างก็ต้องมารับเองครับ คิดถึงมากอยากเจอ”“นาวก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ถ้าคราวหน้าถ้ามีงานก็ไม่ต้องมารับนะคะ นาวกลับเองได้”“ก็ผมเป็นห่วงนี่ครับ คิดถึงคุณด้วย แล้วเดินทางเหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะ บินแค่นี้สบายมาก ว่าแต่เราจะไปไหนกันค่ะ ที่คอนโดคุณใช่ไหม”“ผมว่าเราพักที่โรงแรมดีกว่าครับสะดวกดี”“โรงแรมของคุณน่ะเหรอคะ ฉันจะไม่รบกวนใช่ไหม”“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็พักที่โรงแรม นาน ๆ ถึงจะไปค้างที่คอนโด”“ค่ะ” มนิษาเดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอเห็นด้วยกับราฟาเอลเพราะการพักที่โรงแรมจะประหยัดเวลาเดินทางมาทำงานได้ราฟาเอลส่งเธอที่ห้องพักจากนั้นก
หลังจากบอกกับบิดาว่าตนเองกำลังคบหาอยู่กับมนิษาคุณอีริคก็หัวเราะลั่นห้อง เขาคิดถึงตัวเองสมัยหนุ่ม ๆ ที่เจอกับมารดาของราฟาเอลครั้งแรก“พ่อหัวเราะทำไม ผมพูดเรื่องจริงนะครับ”“ที่หัวเราะก็เพราะมันน่ายินดียังไงล่ะ ในที่สุดแกก็หยุดเจ้าชู้ได้สักที”“พ่อไม่คิดว่ามันเร็วไปใช่ไหม ถ้าผมจะให้พ่อไปคุยกับพ่อของเธอ”“แกรู้จักกันมานานเท่าไหนแล้ว”“ถ้านับตั้งแต่เจอกับถึงตอนนี้ก็แค่สองเดือนครับ”“ตั้งสองเดือนยังไปไม่ถึงไหน เสียชื่อลูกชายฉันหมด”“ทำมาเป็นว่าผม แล้วทีพอกับแม่ละตั้งสองปีไม่ใช่เหรอถึงจะได้แต่งงานกัน”“ที่แม่แกบอกว่าสองปีล่ะ มันคือหลังจากแต่งงานสองปีแกถึงเกิด”“แล้วพ่อกับแม่แต่งงานกันตอนไหน รู้จักกันนานแค่ไหนถึงแต่งล่ะ”“สองอาทิตย์”คำตอบของอีริคทำให้คนฟังทั้งสามคนอ้าปากค้างเพราะไม่อยากจะเชื่อ“ผมว่าพ่อโม้”“ถ้าคิดว่าโม้แกลองไปถามเพื่อนแม่แกสิ”เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่เชื่ออีริคก็เลยเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังอย่างละเอียด“พ่อทำยังไงแม่ถึงยอม”“ความจริงใจไงล่ะ พ่อบอกทุกอย่างกับเขาตั้งแต่แรกว่าเป็นใครมาจากไหน ผ่านอะไรมาบ้าง รวมถึงเรื่องผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต”“นี่พ่อกำลังจะบอกว่าสิ่งที่ผมท
มนิษาก็กลัวจะเป็นอย่างนั้นจึงเดินตามไปที่ห้องนอนโดยไม่คิดอะไร แต่พอเดินไปถึงก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปถนัดราฟาเอลดึงมือเธอจนล้มลงไปกองอยู่บนที่นอน ส่วนเขาก็ทับทางลงมาอย่างรวดเร็ว ปากร้อนจูบพรมอย่างหิวกระหาย มนิษาพยามผลักออกแต่เหมือนว่าตัวเขาจะไม่กระเทือนเลยสักนิดกว่าเขาจะยอมปล่อยเธอก็ดิ้นจนแทบหมดแรง“คุณราฟ อย่าค่ะ เราต้องคุยกัน นาวไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่น”“ที่รักคุณรู้ตัวไหมคุณเป็นคนหึงได้น่ารักมาก” ราฟาเอลหัวเราะกับท่าทางคนรัก“นาวไม่ตลกด้วยนะคะ”“เอาล่ะครับ ลองบอกผมมาสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง”ราฟาเอลขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงแล้วรั้งให้มนิษาเข้ามาในอ้อมกอด หญิงสาวแนบใบหน้าลงกับหน้าอกแกร่ง มันใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นรัว“เมื่อคืนคุณนิต้าให้นาวไปซื่อถุงยางเพราะที่มีในห้องเธอใช่ไปหมดแล้ว”ราฟาเอลมองหน้ามนิษาแล้วยิ้ม เขาเอื้อมไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงที่มีกล่องถุงยางอยามัยที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ในนั้นหนึ่งกล่อง“เธอคงหาไม่เจอ”“มะนาวที่ผ่านมาผมคงลืมบอกคุณไปว่านิต้าน่ะ นอกจากจะเป็นเลขาพ่อของผมแล้วเขายังพ่วงตำแหน่งแม่เลี้ยงของผมด้วย”“อะไรนะคะ แต่เมื่อวานคุณกับเธอก็ออกไปกันทั้งวัน
มนิษาเดินถือถาดอาหารมายังบ้านพักหลังริมสุด เธอเคาะประตูสามครั้งพอได้ยินเสียงอนุญาตก็เปิดเข้าไปทันที“สวัสดีค่ะคุณอีริค หลับสบายไหมคะ”“สบายมากจนตื่นสายเลย นั่นอาหารเช้าของฉันเหรอ”“ค่ะ คุณราฟาเอลบอกให้ฉันยกมาให้ที่นี่”“ขอบใจมาก ต่อวันหลังไม่ต้องยกมาให้ฉันหรอกนะ ฉันอยากไปดูสักหน่อยว่าตอนนี้ที่รีสอร์ตเป็นยังไงบ้าง”“ได้ค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ ฉันจะรออยู่ข้างนอกมีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย”“ไม่มีงานอื่นต้องไปทำหรอกเหรอ”“ตอนนี้ฉันทำหน้าที่เป็นบัตเลอร์ให้คุณราฟาเอลค่ะ”“เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีบัตเลอร์ด้วย”“ก็แค่ชั่วคราวค่ะ กับคนอื่นยังไม่มี แต่คุณราฟาเอลขอก็เลยต้องเป็นบัตเลอร์แบบเฉพาะกิจค่ะ”“แปลกจังนะ ปกติลูกชายฉันมันเป็นคนขี้รำคาญ โลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ที่ยอมให้ฉันพักบ้านเดียวกับเขาก็แปลก”สิ่งที่บิดาของราฟาเอลพูดช่างต่างจากราฟาเอลที่เธอรู้จักโดยสิ้นเชิง เพราะตั้งแต่รู้จักกันราฟาเอลชายหนุ่มมักหาเรื่องอยู่ใกล้เธออยู่เสมอ จนอดคิดว่าเขาเป็นพวกขาดความอบอุ่นการได้คุยกับคุณอีริคทำให้มนิษารู้จักราฟาเอลในอีกแง่มุมหนึ่ง รู้ว่าชายหนุ่มไม่ชอบให้บิดาจับคู่ให้ และปฏิเสธการดูตัวทุกครั้งจนเดือดร้อ
วันนี้บิดาของราฟาเอลจะเดินทางมาถึงแล้ว ชายหนุ่มและมนิษาไปรอรับที่สนามบินตั้งแต่ตอนบ่าย พอเครื่องลงจอดไม่นานก็เห็นชายชาวต่างชาติเดินคู่มากับผู้หญิงอีกคน“ราฟ ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณที่นี่” หญิงสาววิ่งเข้ามาใกล้จากนั้นก็โผเข้ากอดราฟาเอลแน่นอีกคนก็กอดกลับพร้อมกับส่งยิ้มให้ มนิษาได้แต่มองตาค้างเธอยืนนิ่งเพราะไม่คิดว่าราฟาเอลจะทำแบบนี้ต่อหน้าเธอ“เพราะผมรู้ว่าคุณจะมาด้วยไงถึงมารับ ถ้าเขามาคนเดียวผมคงไม่มาที่นี่” ราฟาเอลพูดแล้วปรายตาไปยังชายอีกที่เดินเข้ามาสมทบ“ทำอย่างกับฉันอยากเจอแก แล้วนี่เจฟไปไหนล่ะ”“เจฟทำงาน ถ้าพ่ออยากเจอผมจะโทรตามให้”“ไม่เป็นไรก่อนกลับฉันจะแวะหาเขาที่กรุงเทพเอง”“ราฟ คุณมากับใคร” แอนนิต้าถาม“ตายจริงผมลืมแนะนำเลย นี่มะนาวครับเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการที่รีสอร์ต มะนาวนี่พ่อผมอีริค ส่วนนี่แอนนิต้าเธอเป็นเลขาของพ่อผม”“สวัสดีค่ะ คุณอีริค คุณแอนนิต้า” มนิษากล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษ“เรียกนิต้าก็ได้นะคะ คุณมนิษา ว่าแต่ชื่อเล่นคุณชื่ออะไรนะคะ ฉันไม่ทันฟังที่ราฟบอก”“มะนาวค่ะ แต่คนส่วนใหญ่เรียกนาว”“อ้อ นาว ชื่อน่ารักดีนะคะเหมาะสมกับตัวเลย”“ขอบคุณค่ะ คุณเองก็สวยมาก”“ขนาดสวย
พอคุยกันจนเข้าใจแล้วมนิษาก็ชวนราฟาเอลออกไปนอนฟังเสียงคลื่นด้านนอกห้องพัก หญิงสาวเอนหลังอยู่บนเก้าอี้อาบแดดบุนวมตัวโต ขณะที่ราฟาเอลเดินถือไวน์ออกมาจากห้องพัก“แค่ไวน์ใช่ไหมคะ” ตั้งแต่พลาดคืนนั้นมนิษาก็กลัวที่จะดื่มอะไรโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน“ครับ ดูเหมือนคุณยังระแวงอยู่นะ” ราฟาเอลเดินอ้อมไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ติดกัน“ค่ะ ตั้งแต่คืนนั้นฉันก็ไม่ดื่มอีกเลย”“ถ้าอยู่กับผมคุณดื่มได้ตามสบายเลย เพราะยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คุณเป็นอันตรายอยู่แล้ว”“เพราะคุณคือคนที่อันตรายที่สุดหรือเปล่าคะ”ราฟาเอลหัวเราะพลางรินไวน์ส่งให้มนิษาอีกแก้ว“พรุ่งนี้คุณจะออกไปไหนบ้างคะ”“ผมต้องถามคุณมากกว่าว่าอยากไปไหนบ้าง ผมไปได้ทุกที่ขอแค่ไปกับคุณ”“ขอนอนอยู่ที่นี่ทั้งวันได้ไหมคะ อยากนอนมองท้องฟ้าแบบนี้ กลางวันคงสวยไปอีกแบบ”“ก็คงอย่างนั้น ว่าแต่คืนนี้คุณไม่คิดจะเข้าไปข้างในเลยเหรอ ผมว่าเราเสียวเวลานาแล้ว”“คุณง่วงก็ไปนอนก่อน”“วันนี้ผมกินกาแฟมาตั้งหลายแก้วไม่ง่วงเลยสักนิดโต้รุ่งยังได้เลย”“แล้วจะรีบเข้าไปทำไม”“อยากเข้าไปนอนกอดคุณ”“ตรงนี้ก็กอดได้ ถ้าคุณแค่อยากจะกอดอย่างเดียว” เพราะดื่มไปหลายแก้ว มนิษาเลยก
ราฟาเอลรีบกอดขยับเข้ากอดคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าบึ้งอย่างประจบ“บอกมานะคะว่าเราเจอกันครั้งที่ไหน บอกความจริงมาให้หมด”“มะนาวครับทำไมทำเสียงน่ากลัวแบบนี้ละ ผมใจคอไม่ดีเลยนะ”“คุณราฟาเอลคะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”พอมนิษากลับมาแทนตัวเองว่าฉันอีกครั้ง ราฟาเอลก็ขนลุกซู่ เขากลัวว่าเธอจะโกรธและหนีตนเองไปอีกครั้ง สองแขนกอดเธอคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น“ที่รัก ผมรักคุณนะครับ รักมาก”“อย่าโยกโย้นะคะ เล่ามาให้หมดอย่าให้ฉันรู้จากคนอื่น”ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดลง ก่อนจะหันหน้าเข้าหามนิษาบนเตียงกว้าง สองมือกุมมือคนรักไว้แน่น เขาถอนหายใจอีกครั้งแล้วเล่าเรื่องราวตั้งแต่คืนแรกที่เขาเห็นเธอในผับให้ฟังทั้งหมด“แล้วเอริรู้ไหมคะ ว่าคุณแอบฟัง”“ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังหรอกนะครับ ผมกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่บริเวณนั้นมันแคบ เขายืนขวางทางอยู่ผมก็เลยได้ยินทั้งหมด”“คุณนี่มันร้ายจริง ๆ แล้วคิดไหมว่าถ้าไม่เจอฉันบนเรือจะทำยังไง”“ผมมั่นใจเพราะช่วงนั้นมีเรือแค่ลำเดียวที่ออกจากท่า พอผมเห็นคุณเช็กอินขึ้นเรือผมก็รีบตามคุณขึ้นไปเลย”“แล้วที่ทะเลาะกับคุณเจโรมล่ะคะ แผนของคุณด้วยหรือเปล่า”“ไม่ครับ นั่นเรื่องจริงเลย เขามาตามผมไปทำงาน ผมไม่
ราฟาเอลพามนิษามาซื้อชุดว่ายน้ำและชุดนอน รวมทั้งของใช้อื่นๆ อีกหลายอย่าง เธอพยายามท้วงว่ามันมากเกินไปแต่เขาก็ทำเป็นหูทวนลม ตอนนี้ในมือชายหนุ่มเลยมีทั้งเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมอีกหลายชนิด ถ้ารวมเป็นจำนวนเงินแล้วก็มากกว่าเงินเดือนของมนิษาเกือบทั้งปีพอได้ของที่ต้องการแล้วก็พากันมานั่งยังค่าแฟ่แห่งหนึ่ง สั่งกาแฟและเค้กมาคนละชิ้น มองบรรยากาศรอบตัวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินร้านที่ทั้งสองคนมาในวันนี้อยู่คนละด้านกับรีสอร์ตจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น“แก้วที่สามของวันแล้วนะคะ คืนนี้คงได้ตาค้างกันบ้างล่ะ” มนิษามองคนที่ดื่มกาแฟเป็นแก้วที่สามของวันแล้วส่ายหัว“แล้วใครบอกว่าผมอยากนอนกันล่ะ”เพราะกำลังพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนทางไลน์มนิษาเลยไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรโรงแรมที่เข้าพักเป็นโรงแรมหรู ด้านหน้าห้องพักเป็นสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล ตัวบ้านแต่ละหลังลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันได ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมนิษาสั่งอาหารเย็นให้กับตัวเองและราฟาเอล ก่อนจะเอาถุงชุดว่ายน้ำออกมากะว่าจะส่งซักก่อนสวมมันในวันพรุ่งนี้“แต่ผมอยากเห็นมันอยู่บนตัวคุณจัง มันคงสวยมาก” ราฟาเอลมองชุดว่ายน้ำสีส้ม
มนิษามาที่ห้องอาหารช้ากว่าทุกวันเธอสั่งอาหารสำหรับราฟาเอลส่วนตัวเองก็ไปนั่งทานกับเพื่อนที่ห้องอาหารของพนักงาน“มะนาว หน้าหนูดูไม่สดชื่นเลยคุณราฟาเอลใช้งานหนูหนักไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ เมื่อคืนนาวนอนไม่ค่อยหลับ”“อ้อ งั้นก็แล้วไป ถ้ามีอะไรก็บอกพี่นะคะ”“พี่เดซี่คะ นาวมีอะไรจะถามหน่อยค่ะ” มนิษาพูดเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น“ได้สิคะ ถามมาเลยพี่ยินดีตอบหนูทุกคำถาม”“นอกจากพี่เดซี่ พี่วิและคุณลุงคนขับรถแล้วมีใครอีกที่รู้ว่าคุณราฟาเอลเขาเป็นเจ้าของที่นี่”“มะนาว หนูรู้”“เบา ๆ สิคะพี่เดซี่ เดี๋ยวคนก็ได้รู้กันทั้งรีสอร์ตหรอก”“พี่ขอโทษ พี่แค่ตกใจไม่คิดว่าหนูจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณราฟาเอลเป็นคนบอกใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วทำงานกับเขาอึดอัดไหม”“ก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็เอาแต่ใจ”“ปกติเขาไม่ค่อยมาที่นี่หรอก สงสัยครั้งนี่คงอยากจะพักผ่อนจริง ๆ ถึงได้มาอยู่ยาวเลย”“แล้วปกติใครมาดูแลที่นี่ละค่ะ”“ส่วนใหญ่ก็คุณเจโรมค่ะ ไม่รู้ว่ามาครั้งนี้จะมาจับผิดอะไรพวกเราหรือเปล่ายังไงพี่ฝากด้วยนะคะ ถ้า เขาอยากได้อะไรก็อย่าขัดใจ เผื่อสิ้นปีจะได้โบนัสก้อนโต”“นาวเพิ่งรู้ว่าทำงานโรงแรมมีโบนัสด้วย”“ที่อื่นพี่ก