บทรักที่เร่าร้อนจบลงเกือบตีสอง มนิษานอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาจนกระทั่งได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของคนตัวโตเธอรีบลุกขึ้นสวมชุดทำงานที่กระดุมเสื้อขาดรุ่งริ่ง จากนั้นรีบเดินกลับบ้านพักโดยใช้เส้นทางลัด แม้จะแทบไม่มีแรงเดิน แต่ก็ไม่อยากจะนอนค้างที่นั่น เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับราฟาเอลแม้จะยอมรับว่ามีความสุขที่ได้เจอเข้าอีกครั้งมีความสุขที่ได้เติมเต็มให้แก่กันและกัน แต่มันก็เป็นเรื่องฉาบฉวยเพราะยังไงเขาก็ต้องแต่งงานกันพี่สาวของเธออยู่ดีเมื่อคิดว่าตอนนี้ตัวเองกับพี่สาวนอนกับผู้ชายคนเดียวกันน้ำตามันก็ไหลออกมาอยากอัตโนมัติ แล้วเวลาที่เหลือจากนี้เธอจะเป็นยังไง จะยอมให้เขาทำกับร่างกายของเธออีกหรือเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งขยะแขยงตัวเองขึ้นมาทุกทีมนิษาเริ่มงานวันใหม่ด้วยความอ่อนเพลีย แต่ก็ไม่อยากทำหน้าที่ของตนเองบกพร่อง หญิงสาวตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าและมาถึงห้องอาหารของพนักงานในเวลาเจ็ดโมงเช้า ทานอาหารอย่างรวดเร็วเพราะต้องรีบเอาอาหารไปให้แขกวีไอพีที่บ้านพัก“เป็นยังไงบ้างมะนาว แขกวีไอพีพอไหวไหม”“ก็ดีค่ะ”“พี่ฝากด้วยนะคะ คนนี้สำคัญจริง ๆ แล้วนั้นหนูจะเอาอาหารไปให้เขาใช่ไหม”“ค่ะ น
เวลาเที่ยงตรงมนิษาก็มารับเขาไปทานข้าวตามที่นัดไว้ ทั้งสองคนไม่ได้พูดเรื่องเดิมกันอีก เขานั่งทานข้าวคนเดียวเงียบ ๆ อย่างใช้ความคิด ขณะที่มนิษาไปทานอาหารกลางวันในส่วนของพนักงานจากนั้นก็เดินตามเขากลับมาที่บ้านพัก ราฟาเอลเข้าห้องนอนไปแล้ว มนิษาเห็นท่าทางของเขาก็พอจะรู้แล้วว่าชายหนุ่มไม่เคยคิดจะแก้ตัวหรือไขข้อเข้าใจผิดเลย แต่ถ้าจะให้เธอพูดเรื่องนี้ก่อนมันก็เหมือนกับว่าเธอนั้นอยากแต่งงานกับเขาจนตัวสั่นในเมื่อไม่ยอมพูดความจริงกับเธอ ทั้งที่เปิดโอกาสให้แล้ว จากนี้มนิษาก็ไม่คิดจะพูดเรื่องนี้กับเขาอีก สถานะระหว่างเธอกับเขาจะเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นราฟาเอลกลับออกมาอีกครั้งก็เห็นว่ามนิษายังนั่งอยู่ที่เดิม“มะนาว ไปเดินเล่นกันไหม”“ค่ะ”เธอเดินตามหลังเขาไปเว้นระยะห่างพอประมาณ“ผมมีเรื่องจะบอกคุณ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธ และไม่หนีผมไปไหน” ราฟาเอลหยุดเดินแล้วหันกลับมาเผชิญหน้า เขาคิดดีแล้วว่าจะบอกทุกเรื่องกับมนิษา“ถ้ามันลำบากใจและอยากก็ไม่ต้องพูดค่ะ คนพูดยังดูลำบากใจขนาดนั้น แล้วไม่คิดบ้างเหรอคะว่าคนฟังจะลำบากใจขนาดไหน”“มะนาว คุณพูดเหมือนไปรู้อะไรมาเลยนะครับ”“คุณปิดบังอะไรไว้ล่ะคะ
ราฟาเอลให้อิสระกับมนิษามากขึ้น เพราะกลางวันเขายังต้องทำงานเธอจึงมีเวลามาช่วยงานที่ล็อบบี แต่พอถึงเวลาทานอาหารก็จะกลับไปที่บ้านพักพร้อมกับนำอาหารไปให้เขาทานที่บ้านพัก“คุณไม่ออกไปไหนเลย ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ”“มีคุณอยู่ใกล้แบบนี้ผมจะเบื่อได้ยังไง” เขาเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์“เมื่อไหร่จะเลิกพูดจาแบบนี้คะ” เธอชอบที่เขาพูดแต่มันไม่ดีต่อหัวใจเธอเลยสักนิด ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้น ใจอ่อนกับเขามากขึ้น“ก็พูดในสิ่งที่อยากพูด เผื่อคุณจะยอมใจอ่อนกับผมบ้าง”ไม่ใช่ว่ามนิษาไม่รู้สึกอะไรแต่ดีว่าถ้าถลำลึกไปกว่านี้แล้วมันไม่เป็นอย่างที่เขาพูดคนที่เจ็บก็คงจะเป็นตัวเธอเอง เพราะกลัวเจ็บจึงต้องเก็บความรู้สึกที่มีให้เขาไว้กับตัวเองใจหนึ่งราฟาเอลก็อยากกลับไปแก้ปัญหาที่กรุงเทพ แต่เขาก็อยากอยู่ใกล้มนิษาเพิ่มอีกนิด อย่างน้อยก็จนกว่าบิดาของตนเองจะมาที่นี่ ราฟาเอลอยากแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันไว้ เพราะถ้าถึงวันที่เขาบอกว่าจะแต่งงานท่านจะได้ไม่ตกใจ“เย็นนี้คุณจะกินข้าวที่บ้านหรือไปที่ห้องอาหารค่ะ”“ผมอยากกินกับคุณตามลำพังตามลำพัง แต่ก็ไม่อยากให้คุณเสียเวลาเดินไปเดินมา เอาเป็นว่าผมไปกินที่ห้องอาห
ร่างที่ชื้นเหงื่อพอโดนความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้มนิษารู้สึกหนาว“คุณราฟ ฉันหนาว ปล่อยก่อนได้ไหมคะ ฉันจะเอาเสื้อมาใส่”เธอหันไปบอกคนที่นอนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง มือของของเขายังพาดอยู่ตรงหน้าท้องเธอจึงไม่กล้าขยับ“ผมอยากให้คุณพักเหนื่อยมากกว่านี้อีกนิด แต่ดูเหมือนคุณจะพร้อมแล้ว”“คุณฉันบอกให้ปล่อย” เธอพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดแต่เหมือนการดิ้นจะทำให้ร่างกายมันเสียดสีจนเกินความร้อน“มะนาวคุณเริ่มเองนะ” พูดจบถอนท่อนเอ็นออกอย่างเสียดายก่อนจะอุ้มเธอเข้ามายังห้องนอนทันทีราฟาเอลก้มหน้าลงจูบเพิ่มอุณหภูมิให้คนขี้หนาว ลิ้นหนาชอนไชไปทั้งโพรงปากอุ่นซึ่งทำให้รู้สึกดีทุกครั้งเมื่อได้แลกเปลี่ยนลมหายใจของกันและกันมนิษาจูบตอบด้วยความเสน่หาไม่ต่างจากเขา เรียวลิ้นเล็กหยอกล้อไปตามแรงอารมณ์ปรารถนาที่เขาส่งผ่าน“มะนาวของผมหวานมาก ผมขอได้ไหมคุณอย่าหัวเราะหรือยิ้มให้กับใครแบบนั้นอีก อย่ามองผู้ชายคนอื่นนอกจากผม ผมขอร้องครับ”“เขาก็แค่พี่ชายของเพื่อน” มนิษารู้แล้วว่าที่เขาโมโหก็คงเพราะเห็นเธอกับดิษฐาพี่ชายของลดากาญจน์คุยกันเมื่อตอนหัวค่ำ“แต่ผมหึง”“จะหึงทำไม”“ผมกลัวคุณไปชอบคนอื่น ไปมองคนอื่น”“แค่คุณคนเดียว
มนิษามาที่ห้องอาหารช้ากว่าทุกวันเธอสั่งอาหารสำหรับราฟาเอลส่วนตัวเองก็ไปนั่งทานกับเพื่อนที่ห้องอาหารของพนักงาน“มะนาว หน้าหนูดูไม่สดชื่นเลยคุณราฟาเอลใช้งานหนูหนักไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ เมื่อคืนนาวนอนไม่ค่อยหลับ”“อ้อ งั้นก็แล้วไป ถ้ามีอะไรก็บอกพี่นะคะ”“พี่เดซี่คะ นาวมีอะไรจะถามหน่อยค่ะ” มนิษาพูดเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น“ได้สิคะ ถามมาเลยพี่ยินดีตอบหนูทุกคำถาม”“นอกจากพี่เดซี่ พี่วิและคุณลุงคนขับรถแล้วมีใครอีกที่รู้ว่าคุณราฟาเอลเขาเป็นเจ้าของที่นี่”“มะนาว หนูรู้”“เบา ๆ สิคะพี่เดซี่ เดี๋ยวคนก็ได้รู้กันทั้งรีสอร์ตหรอก”“พี่ขอโทษ พี่แค่ตกใจไม่คิดว่าหนูจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณราฟาเอลเป็นคนบอกใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วทำงานกับเขาอึดอัดไหม”“ก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็เอาแต่ใจ”“ปกติเขาไม่ค่อยมาที่นี่หรอก สงสัยครั้งนี่คงอยากจะพักผ่อนจริง ๆ ถึงได้มาอยู่ยาวเลย”“แล้วปกติใครมาดูแลที่นี่ละค่ะ”“ส่วนใหญ่ก็คุณเจโรมค่ะ ไม่รู้ว่ามาครั้งนี้จะมาจับผิดอะไรพวกเราหรือเปล่ายังไงพี่ฝากด้วยนะคะ ถ้า เขาอยากได้อะไรก็อย่าขัดใจ เผื่อสิ้นปีจะได้โบนัสก้อนโต”“นาวเพิ่งรู้ว่าทำงานโรงแรมมีโบนัสด้วย”“ที่อื่นพี่ก
ราฟาเอลพามนิษามาซื้อชุดว่ายน้ำและชุดนอน รวมทั้งของใช้อื่นๆ อีกหลายอย่าง เธอพยายามท้วงว่ามันมากเกินไปแต่เขาก็ทำเป็นหูทวนลม ตอนนี้ในมือชายหนุ่มเลยมีทั้งเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมอีกหลายชนิด ถ้ารวมเป็นจำนวนเงินแล้วก็มากกว่าเงินเดือนของมนิษาเกือบทั้งปีพอได้ของที่ต้องการแล้วก็พากันมานั่งยังค่าแฟ่แห่งหนึ่ง สั่งกาแฟและเค้กมาคนละชิ้น มองบรรยากาศรอบตัวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินร้านที่ทั้งสองคนมาในวันนี้อยู่คนละด้านกับรีสอร์ตจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น“แก้วที่สามของวันแล้วนะคะ คืนนี้คงได้ตาค้างกันบ้างล่ะ” มนิษามองคนที่ดื่มกาแฟเป็นแก้วที่สามของวันแล้วส่ายหัว“แล้วใครบอกว่าผมอยากนอนกันล่ะ”เพราะกำลังพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนทางไลน์มนิษาเลยไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรโรงแรมที่เข้าพักเป็นโรงแรมหรู ด้านหน้าห้องพักเป็นสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล ตัวบ้านแต่ละหลังลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันได ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมนิษาสั่งอาหารเย็นให้กับตัวเองและราฟาเอล ก่อนจะเอาถุงชุดว่ายน้ำออกมากะว่าจะส่งซักก่อนสวมมันในวันพรุ่งนี้“แต่ผมอยากเห็นมันอยู่บนตัวคุณจัง มันคงสวยมาก” ราฟาเอลมองชุดว่ายน้ำสีส้ม
ราฟาเอลรีบกอดขยับเข้ากอดคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าบึ้งอย่างประจบ“บอกมานะคะว่าเราเจอกันครั้งที่ไหน บอกความจริงมาให้หมด”“มะนาวครับทำไมทำเสียงน่ากลัวแบบนี้ละ ผมใจคอไม่ดีเลยนะ”“คุณราฟาเอลคะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”พอมนิษากลับมาแทนตัวเองว่าฉันอีกครั้ง ราฟาเอลก็ขนลุกซู่ เขากลัวว่าเธอจะโกรธและหนีตนเองไปอีกครั้ง สองแขนกอดเธอคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น“ที่รัก ผมรักคุณนะครับ รักมาก”“อย่าโยกโย้นะคะ เล่ามาให้หมดอย่าให้ฉันรู้จากคนอื่น”ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดลง ก่อนจะหันหน้าเข้าหามนิษาบนเตียงกว้าง สองมือกุมมือคนรักไว้แน่น เขาถอนหายใจอีกครั้งแล้วเล่าเรื่องราวตั้งแต่คืนแรกที่เขาเห็นเธอในผับให้ฟังทั้งหมด“แล้วเอริรู้ไหมคะ ว่าคุณแอบฟัง”“ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังหรอกนะครับ ผมกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่บริเวณนั้นมันแคบ เขายืนขวางทางอยู่ผมก็เลยได้ยินทั้งหมด”“คุณนี่มันร้ายจริง ๆ แล้วคิดไหมว่าถ้าไม่เจอฉันบนเรือจะทำยังไง”“ผมมั่นใจเพราะช่วงนั้นมีเรือแค่ลำเดียวที่ออกจากท่า พอผมเห็นคุณเช็กอินขึ้นเรือผมก็รีบตามคุณขึ้นไปเลย”“แล้วที่ทะเลาะกับคุณเจโรมล่ะคะ แผนของคุณด้วยหรือเปล่า”“ไม่ครับ นั่นเรื่องจริงเลย เขามาตามผมไปทำงาน ผมไม่
เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูกลางกรุงทำให้คนที่มาเที่ยวครึกครื้นและสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปถึงสามสาวที่กำลังแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอร์ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเธอวาดลวดลายกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะคืนนี้เธอทั้งสามคนมาฉลองให้กับการจบการศึกษา แม้ผลสอบจะยังไม่ออกแต่ก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีทั้งท่วงท่าและเสื้อผ้าที่สวมใส่ดึงดูดสายตาผู้ชายเจ้าชู้ได้เป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเลยสักนิดแต่มีสายตาอยู่หนึ่งคู่ที่มองลงมาจากชั้นสอง มองตั้งแต่พวกเธอเข้ามาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน“สนใจคนไหนวะ” เมธัสถามชายอีกคนที่เอาแต่จ้องอยู่อย่างไม่วางตา“มึงลองทายดูสิ” คนตอบยิ้มเจ้าเล่ห์“กูว่าคนเสื้อดำชัวร์ งั้นกูจองเสื้อขาวนะส่วนพี่เจฟเอาเสื้อสีครีมไป” เมธัสจับคู่ให้ทุกคนอย่างเสร็จสรรพ“พวกคุณจะจองคนไหนก็เรื่องของพวกคุณเลยครับ อย่าดึงผมไปเกี่ยวด้วย ผมก็แค่อยากมาฟังเพลง มาดื่ม ไม่ได้มาหาหญิง” คนถูกพาดพิงพูดจบก็ยกแก้วในมือกระดกพรวดเดียวจนหมด“พี่เจฟ ผมพาพี่มาผ่อนคลายนะครับ พี่ถือศีลหรือไง” ราฟาเอลถามคนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนและยังเป็นเลขาของตนเอง“ผมก็ผ่อนคลายอยู่นี่ไงครับ”“แต่มันไม่สน