มนิษามาที่ห้องอาหารช้ากว่าทุกวันเธอสั่งอาหารสำหรับราฟาเอลส่วนตัวเองก็ไปนั่งทานกับเพื่อนที่ห้องอาหารของพนักงาน“มะนาว หน้าหนูดูไม่สดชื่นเลยคุณราฟาเอลใช้งานหนูหนักไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ เมื่อคืนนาวนอนไม่ค่อยหลับ”“อ้อ งั้นก็แล้วไป ถ้ามีอะไรก็บอกพี่นะคะ”“พี่เดซี่คะ นาวมีอะไรจะถามหน่อยค่ะ” มนิษาพูดเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น“ได้สิคะ ถามมาเลยพี่ยินดีตอบหนูทุกคำถาม”“นอกจากพี่เดซี่ พี่วิและคุณลุงคนขับรถแล้วมีใครอีกที่รู้ว่าคุณราฟาเอลเขาเป็นเจ้าของที่นี่”“มะนาว หนูรู้”“เบา ๆ สิคะพี่เดซี่ เดี๋ยวคนก็ได้รู้กันทั้งรีสอร์ตหรอก”“พี่ขอโทษ พี่แค่ตกใจไม่คิดว่าหนูจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณราฟาเอลเป็นคนบอกใช่ไหม”“ค่ะ”“แล้วทำงานกับเขาอึดอัดไหม”“ก็มีบ้างค่ะ บางครั้งเขาก็เอาแต่ใจ”“ปกติเขาไม่ค่อยมาที่นี่หรอก สงสัยครั้งนี่คงอยากจะพักผ่อนจริง ๆ ถึงได้มาอยู่ยาวเลย”“แล้วปกติใครมาดูแลที่นี่ละค่ะ”“ส่วนใหญ่ก็คุณเจโรมค่ะ ไม่รู้ว่ามาครั้งนี้จะมาจับผิดอะไรพวกเราหรือเปล่ายังไงพี่ฝากด้วยนะคะ ถ้า เขาอยากได้อะไรก็อย่าขัดใจ เผื่อสิ้นปีจะได้โบนัสก้อนโต”“นาวเพิ่งรู้ว่าทำงานโรงแรมมีโบนัสด้วย”“ที่อื่นพี่ก
ราฟาเอลพามนิษามาซื้อชุดว่ายน้ำและชุดนอน รวมทั้งของใช้อื่นๆ อีกหลายอย่าง เธอพยายามท้วงว่ามันมากเกินไปแต่เขาก็ทำเป็นหูทวนลม ตอนนี้ในมือชายหนุ่มเลยมีทั้งเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมอีกหลายชนิด ถ้ารวมเป็นจำนวนเงินแล้วก็มากกว่าเงินเดือนของมนิษาเกือบทั้งปีพอได้ของที่ต้องการแล้วก็พากันมานั่งยังค่าแฟ่แห่งหนึ่ง สั่งกาแฟและเค้กมาคนละชิ้น มองบรรยากาศรอบตัวที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลินร้านที่ทั้งสองคนมาในวันนี้อยู่คนละด้านกับรีสอร์ตจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น“แก้วที่สามของวันแล้วนะคะ คืนนี้คงได้ตาค้างกันบ้างล่ะ” มนิษามองคนที่ดื่มกาแฟเป็นแก้วที่สามของวันแล้วส่ายหัว“แล้วใครบอกว่าผมอยากนอนกันล่ะ”เพราะกำลังพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนทางไลน์มนิษาเลยไม่ได้ฟังว่าเขาพูดอะไรโรงแรมที่เข้าพักเป็นโรงแรมหรู ด้านหน้าห้องพักเป็นสระว่ายน้ำ มองออกไปเห็นวิวทะเล ตัวบ้านแต่ละหลังลดหลั่นกันเหมือนขั้นบันได ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมนิษาสั่งอาหารเย็นให้กับตัวเองและราฟาเอล ก่อนจะเอาถุงชุดว่ายน้ำออกมากะว่าจะส่งซักก่อนสวมมันในวันพรุ่งนี้“แต่ผมอยากเห็นมันอยู่บนตัวคุณจัง มันคงสวยมาก” ราฟาเอลมองชุดว่ายน้ำสีส้ม
ราฟาเอลรีบกอดขยับเข้ากอดคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าบึ้งอย่างประจบ“บอกมานะคะว่าเราเจอกันครั้งที่ไหน บอกความจริงมาให้หมด”“มะนาวครับทำไมทำเสียงน่ากลัวแบบนี้ละ ผมใจคอไม่ดีเลยนะ”“คุณราฟาเอลคะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้”พอมนิษากลับมาแทนตัวเองว่าฉันอีกครั้ง ราฟาเอลก็ขนลุกซู่ เขากลัวว่าเธอจะโกรธและหนีตนเองไปอีกครั้ง สองแขนกอดเธอคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น“ที่รัก ผมรักคุณนะครับ รักมาก”“อย่าโยกโย้นะคะ เล่ามาให้หมดอย่าให้ฉันรู้จากคนอื่น”ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดลง ก่อนจะหันหน้าเข้าหามนิษาบนเตียงกว้าง สองมือกุมมือคนรักไว้แน่น เขาถอนหายใจอีกครั้งแล้วเล่าเรื่องราวตั้งแต่คืนแรกที่เขาเห็นเธอในผับให้ฟังทั้งหมด“แล้วเอริรู้ไหมคะ ว่าคุณแอบฟัง”“ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังหรอกนะครับ ผมกำลังจะไปเข้าห้องน้ำ แต่บริเวณนั้นมันแคบ เขายืนขวางทางอยู่ผมก็เลยได้ยินทั้งหมด”“คุณนี่มันร้ายจริง ๆ แล้วคิดไหมว่าถ้าไม่เจอฉันบนเรือจะทำยังไง”“ผมมั่นใจเพราะช่วงนั้นมีเรือแค่ลำเดียวที่ออกจากท่า พอผมเห็นคุณเช็กอินขึ้นเรือผมก็รีบตามคุณขึ้นไปเลย”“แล้วที่ทะเลาะกับคุณเจโรมล่ะคะ แผนของคุณด้วยหรือเปล่า”“ไม่ครับ นั่นเรื่องจริงเลย เขามาตามผมไปทำงาน ผมไม่
เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูกลางกรุงทำให้คนที่มาเที่ยวครึกครื้นและสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปถึงสามสาวที่กำลังแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอร์ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเธอวาดลวดลายกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะคืนนี้เธอทั้งสามคนมาฉลองให้กับการจบการศึกษา แม้ผลสอบจะยังไม่ออกแต่ก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีทั้งท่วงท่าและเสื้อผ้าที่สวมใส่ดึงดูดสายตาผู้ชายเจ้าชู้ได้เป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเลยสักนิดแต่มีสายตาอยู่หนึ่งคู่ที่มองลงมาจากชั้นสอง มองตั้งแต่พวกเธอเข้ามาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน“สนใจคนไหนวะ” เมธัสถามชายอีกคนที่เอาแต่จ้องอยู่อย่างไม่วางตา“มึงลองทายดูสิ” คนตอบยิ้มเจ้าเล่ห์“กูว่าคนเสื้อดำชัวร์ งั้นกูจองเสื้อขาวนะส่วนพี่เจฟเอาเสื้อสีครีมไป” เมธัสจับคู่ให้ทุกคนอย่างเสร็จสรรพ“พวกคุณจะจองคนไหนก็เรื่องของพวกคุณเลยครับ อย่าดึงผมไปเกี่ยวด้วย ผมก็แค่อยากมาฟังเพลง มาดื่ม ไม่ได้มาหาหญิง” คนถูกพาดพิงพูดจบก็ยกแก้วในมือกระดกพรวดเดียวจนหมด“พี่เจฟ ผมพาพี่มาผ่อนคลายนะครับ พี่ถือศีลหรือไง” ราฟาเอลถามคนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนและยังเป็นเลขาของตนเอง“ผมก็ผ่อนคลายอยู่นี่ไงครับ”“แต่มันไม่สน
ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรูทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์ส
เครื่องบินลำใหญ่แตะที่พื้นรันเวย์ของสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ได้สักพักหญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีเหลืองสดออกมาจากสนามบินตากลมโตมองหาป้ายที่บอกทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าตามที่อ่านมาจากรีวิวในเพจยอดฮิต เธอลากกระเป๋าไปตามทางเดินอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงท่าเรือ Mariner of the seaเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำมนิษารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนรอไม่ไหว ขณะกำลังต่อแถวที่จุดเช็กอินเพื่อขึ้นเรือเธอก็มองไปรอบๆ เท่าที่มองด้วยสายตาทริปนี้แทบไม่มีคนไทยเลย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงมายังห้องพักที่จองไว้ ซึ่งมีสองเตียงแต่น่าเสียดายที่หญิงสาวต้องนอนตามลำพังเพียงคนเดียวห้องที่เธอเลือกเป็นห้องที่มีมองเห็นวิวทะเล ด้านนอกระเบียงมีเตียงสำหรับนอนเล่น เป็นมุมพักผ่อนที่ดูแล้วคงสบายไม่น้อย และถ้าได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดพร้อมกับมองทะเลไปด้วยคงมีความสุขไม่น้อยเพราะเดินทางตั้งแต่เช้าเธอเลยยังไม่ได้ทานอะไร หญิงสาวตรงไปยังห้องอาหารบนเรือที่เปิดให้ทานให้ฟรีอยู่หลายห้อง พอทานจนอิ่มก็เดินสำรวจเรือเพื่อย่อยอาหารเดินมาถึงโซนสระว่ายน้ำที่อนุญาตให้แต่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเธอก็นั่งลงพักขา บริเวณ
เรือออกจากฝั่งในเวลาห้าโมงเย็นตามเวลาที่แจ้งไว้ มนิษายืนมองระลอกคลื่นที่กระจายออกจากเรือด้วยความรู้สึกอิสระอย่างเต็มที่เธอไม่เคยอยู่บนเรือลำใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แม้จะกลัวอยู่บ้างในคราแรก แต่พอเรือออกจากฝั่งมาแล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป คงเพราะเรือขนาดใหญ่จึงแทบไม่รู้สึกเลยว่าตอนนี้กำลังแล่นอยู่บนผิวน้ำหญิงสาวมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า กดถ่ายรูปด้วยมือถือก่อนจะส่งไปยังไลน์กลุ่มให้เพื่อนรักทั้งสองดูว่ามันสวยแค่ไหน“ให้ผมช่วยถ่ายไหม”มนิษาตกใจแต่พอหันไปตามเสียงก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุยด้วยเมื่อตอนบ่าย“ฉันแค่อยากได้รูปส่งให้เพื่อนค่ะ”“ไม่อยากถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เหรอครับ ผมช่วยถ่ายได้นะ”มนิษาก็อยากได้รูปตัวเองอย่างที่เขาพูด หญิงสาวส่งมือถือให้เขากดถ่ายรูปอีกหลายรูป พอรับคืนมาก็ยิ้มเพราะดูแล้วคุณราฟก็ถ่ายรูปสวยเหมือนกัน“คุณล่ะคะ จะถ่ายไหมฉันถ่ายให้”“ก็อยากถ่ายครับ แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันถ่ายแล้วส่งให้คุณก็ได้”“งั้นช่วยถ่ายผมหล่อๆ นะครับจะเอาไปอวดเจ้านาย”มนิษามองภาพชายตัวสูงผ่านหน้าจอมือถือ กดถ่ายไปหลายรูปจากนั้นก็ส่งให้เจ้าตัวดูว่าพอใจไ
หลังจากอาบน้ำอีกรอบมนิษาก็รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนใหม่ตั้งแต่เช้าแม้ว่าจะยังไม่รู้จักกันดีรู้แค่เขาชื่อราฟ แต่เท่าที่ได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกและคงทำให้การมาเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ไม่เบื่อหญิงสาวมาถึงห้องอาหารก็เห็นว่าราฟาเอลมารอเธออยู่ก่อนแล้ว“มอร์นิ่งครับ หลับสบายไหม”“มอร์นิ่งค่ะ หลับสบายมากไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่บนเรือ”ทั้งสองแยกกันไปตักอาหารจากนั้นก็กลับมานั่งทานด้วยกัน ระหว่างทานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก่อนจะพากันมาเดินเล่นรับลมที่ชั้นบนสุดของเรือเช้านี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบ“กลัวความสูงไหมครับ” ราฟาเอลถามขณะที่กระเช้ากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ“ไม่กลัวค่ะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า” เธอมองลงไปยังด้านท้ายเรือที่ตอนนี้เห็นคนตัวเล็กลงไปทีละนิด“วิวบนนี้สวยดีนะครับ ถ่ายรูปไหม ผมถ่ายให้”มนิษายิ้มให้กล้องขณะที่เขากำลังกดถ่าย มือใหญ่สั่นเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มนั้นมันหวานจนอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ไปยิ้มแบบนี้กับใครที่ไหน“คุณจะถ่ายไหมคะ”“ครับ รบกวนด้วย”พอได้รูปเดี่ยวแล้วราฟาเอลก็ขอถ่ายรูปคู่ เขายื่นกล้