เสียงเพลงดังกระหึ่มในผับหรูกลางกรุงทำให้คนที่มาเที่ยวครึกครื้นและสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง รวมไปถึงสามสาวที่กำลังแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอร์ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วที่พวกเธอวาดลวดลายกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะคืนนี้เธอทั้งสามคนมาฉลองให้กับการจบการศึกษา แม้ผลสอบจะยังไม่ออกแต่ก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีทั้งท่วงท่าและเสื้อผ้าที่สวมใส่ดึงดูดสายตาผู้ชายเจ้าชู้ได้เป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเลยสักนิดแต่มีสายตาอยู่หนึ่งคู่ที่มองลงมาจากชั้นสอง มองตั้งแต่พวกเธอเข้ามาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน“สนใจคนไหนวะ” เมธัสถามชายอีกคนที่เอาแต่จ้องอยู่อย่างไม่วางตา“มึงลองทายดูสิ” คนตอบยิ้มเจ้าเล่ห์“กูว่าคนเสื้อดำชัวร์ งั้นกูจองเสื้อขาวนะส่วนพี่เจฟเอาเสื้อสีครีมไป” เมธัสจับคู่ให้ทุกคนอย่างเสร็จสรรพ“พวกคุณจะจองคนไหนก็เรื่องของพวกคุณเลยครับ อย่าดึงผมไปเกี่ยวด้วย ผมก็แค่อยากมาฟังเพลง มาดื่ม ไม่ได้มาหาหญิง” คนถูกพาดพิงพูดจบก็ยกแก้วในมือกระดกพรวดเดียวจนหมด“พี่เจฟ ผมพาพี่มาผ่อนคลายนะครับ พี่ถือศีลหรือไง” ราฟาเอลถามคนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนและยังเป็นเลขาของตนเอง“ผมก็ผ่อนคลายอยู่นี่ไงครับ”“แต่มันไม่สน
ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรูทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์ส
เครื่องบินลำใหญ่แตะที่พื้นรันเวย์ของสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ได้สักพักหญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีเหลืองสดออกมาจากสนามบินตากลมโตมองหาป้ายที่บอกทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าตามที่อ่านมาจากรีวิวในเพจยอดฮิต เธอลากกระเป๋าไปตามทางเดินอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงท่าเรือ Mariner of the seaเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำมนิษารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนรอไม่ไหว ขณะกำลังต่อแถวที่จุดเช็กอินเพื่อขึ้นเรือเธอก็มองไปรอบๆ เท่าที่มองด้วยสายตาทริปนี้แทบไม่มีคนไทยเลย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงมายังห้องพักที่จองไว้ ซึ่งมีสองเตียงแต่น่าเสียดายที่หญิงสาวต้องนอนตามลำพังเพียงคนเดียวห้องที่เธอเลือกเป็นห้องที่มีมองเห็นวิวทะเล ด้านนอกระเบียงมีเตียงสำหรับนอนเล่น เป็นมุมพักผ่อนที่ดูแล้วคงสบายไม่น้อย และถ้าได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดพร้อมกับมองทะเลไปด้วยคงมีความสุขไม่น้อยเพราะเดินทางตั้งแต่เช้าเธอเลยยังไม่ได้ทานอะไร หญิงสาวตรงไปยังห้องอาหารบนเรือที่เปิดให้ทานให้ฟรีอยู่หลายห้อง พอทานจนอิ่มก็เดินสำรวจเรือเพื่อย่อยอาหารเดินมาถึงโซนสระว่ายน้ำที่อนุญาตให้แต่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเธอก็นั่งลงพักขา บริเวณ
เรือออกจากฝั่งในเวลาห้าโมงเย็นตามเวลาที่แจ้งไว้ มนิษายืนมองระลอกคลื่นที่กระจายออกจากเรือด้วยความรู้สึกอิสระอย่างเต็มที่เธอไม่เคยอยู่บนเรือลำใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แม้จะกลัวอยู่บ้างในคราแรก แต่พอเรือออกจากฝั่งมาแล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป คงเพราะเรือขนาดใหญ่จึงแทบไม่รู้สึกเลยว่าตอนนี้กำลังแล่นอยู่บนผิวน้ำหญิงสาวมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า กดถ่ายรูปด้วยมือถือก่อนจะส่งไปยังไลน์กลุ่มให้เพื่อนรักทั้งสองดูว่ามันสวยแค่ไหน“ให้ผมช่วยถ่ายไหม”มนิษาตกใจแต่พอหันไปตามเสียงก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุยด้วยเมื่อตอนบ่าย“ฉันแค่อยากได้รูปส่งให้เพื่อนค่ะ”“ไม่อยากถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เหรอครับ ผมช่วยถ่ายได้นะ”มนิษาก็อยากได้รูปตัวเองอย่างที่เขาพูด หญิงสาวส่งมือถือให้เขากดถ่ายรูปอีกหลายรูป พอรับคืนมาก็ยิ้มเพราะดูแล้วคุณราฟก็ถ่ายรูปสวยเหมือนกัน“คุณล่ะคะ จะถ่ายไหมฉันถ่ายให้”“ก็อยากถ่ายครับ แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันถ่ายแล้วส่งให้คุณก็ได้”“งั้นช่วยถ่ายผมหล่อๆ นะครับจะเอาไปอวดเจ้านาย”มนิษามองภาพชายตัวสูงผ่านหน้าจอมือถือ กดถ่ายไปหลายรูปจากนั้นก็ส่งให้เจ้าตัวดูว่าพอใจไ
หลังจากอาบน้ำอีกรอบมนิษาก็รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนใหม่ตั้งแต่เช้าแม้ว่าจะยังไม่รู้จักกันดีรู้แค่เขาชื่อราฟ แต่เท่าที่ได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกและคงทำให้การมาเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ไม่เบื่อหญิงสาวมาถึงห้องอาหารก็เห็นว่าราฟาเอลมารอเธออยู่ก่อนแล้ว“มอร์นิ่งครับ หลับสบายไหม”“มอร์นิ่งค่ะ หลับสบายมากไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่บนเรือ”ทั้งสองแยกกันไปตักอาหารจากนั้นก็กลับมานั่งทานด้วยกัน ระหว่างทานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก่อนจะพากันมาเดินเล่นรับลมที่ชั้นบนสุดของเรือเช้านี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบ“กลัวความสูงไหมครับ” ราฟาเอลถามขณะที่กระเช้ากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ“ไม่กลัวค่ะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า” เธอมองลงไปยังด้านท้ายเรือที่ตอนนี้เห็นคนตัวเล็กลงไปทีละนิด“วิวบนนี้สวยดีนะครับ ถ่ายรูปไหม ผมถ่ายให้”มนิษายิ้มให้กล้องขณะที่เขากำลังกดถ่าย มือใหญ่สั่นเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มนั้นมันหวานจนอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ไปยิ้มแบบนี้กับใครที่ไหน“คุณจะถ่ายไหมคะ”“ครับ รบกวนด้วย”พอได้รูปเดี่ยวแล้วราฟาเอลก็ขอถ่ายรูปคู่ เขายื่นกล้
“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ” “เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง “แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ” “ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ” “ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้” “ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้” มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน “ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย” “แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว” “ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ” “เขาเป็นพี่รหัสค่ะ” “ความใกล้ชิดเหรอครับ” “ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉั
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู