“ขอบคุณนะครับที่ให้ผมได้มีส่วนร่วมในโรงแรมของคุณ” ราฟาเอลกล่าวกับคุณโชติหลังจากที่เขายอมขายโรงแรมให้กับตนเองแล้ว“ยินดีครับผมหวังว่าคุณจะดูแลโรงแรมนี้เป็นอย่างดี”“แน่นอนครับผมจะดูแลทั้งโรงแรมและลูกสาวคุณอย่างดีเลยครับ”“ถ้าคุณรับปากแบบนี้ฉันก็เบาใจค่ะ ยายหวานน่ะเป็นเด็กดี แต่เรื่องงานยั้งไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ยังไงฉันก็ขอฝากให้คุณช่วยสอนด้วยนะคะ” คุณรัญญาบอกกับชายหนุ่มฟาเอลมองลูกสาวของคุณโชติแล้วยิ้ม เขาไม่ได้บอกคุณโชติว่าลูกสาวที่พูดถึงนั้นคือลูกคนเล็ก“แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ หวานไม่ได้เร่งนะคะแต่หวานเป็นผู้หญิงคนต้องใช้เวลาเตรียมตัว” มนัญญาถามด้วยความตื่นเต้น เธอเปลี่ยนใจจะแต่งงานทันทีที่เห็นหน้าของราฟาเอล“ผมเข้าใจครับ ผมเป็นผู้ชายคนไม่ค่อยถนัดเรื่องเตรียมงานเท่าไหร่ แต่ผมอยากแต่งหลังจากที่เราปรับปรุงโรงแรมเสร็จครับ อยากให้แขกที่มาเห็นว่าโรงแรมของเราพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน ทั้งสวนทางด้านนอกและห้องจัดเลี้ยง ผมอยากให้งานแต่งของผมกับลูกสาวคุณเป็นงานที่คนพูดถึงมากที่สุด”“ความคิดคุณเฉียบแหลมมากเลยครับ” คุณโชติเห็นด้วยกับความคิดของชายหนุ่ม เพราะมันเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ต้อง
เป็นอีกหนึ่งคืนที่ราฟาเอลนอนไม่หลับ มองห้องนอนกว้างที่เคยมีมนิษานอนอยู่ด้วยแล้วถอนหายใจ เขากับเธอรู้จักกันประมาณหนึ่งเดือนแต่ความรู้สึกกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกับเธอเป็นใครสักคนที่เขาตามหามาทั้งชีวิต เพียงแค่ติดต่อเธอไม่ได้เขายังร้อนใจถึงเพียงนี้ เรื่องที่จะต้องแต่งงานกับพี่ของเธอคงไม่มีทางเป็นไปได้ราฟาเอลตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะคุยกับคุณโชติ บิดาของเธอว่าตนเองกับลูกสาวคนเล็กของเขาเป็นแฟนกันและจะรีบจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้โรงแรมปรับปรุงเสร็จอย่างที่คุยไว้ในตอนแรกเขารีบตื่นเช้ากว่าทุกวันแล้วรีบตรงไปยังบ้านคุณโชติเพื่อหวังว่าจะเจอกับลูกสาวคนเล็กของเขา“อ้าว คุณราฟาเอลมาแต่เช้าเลยนะคะ พอดีเลยค่ะ มาทานอาหารเช้าด้วยกันไหมคะ”“ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนแต่เช้า”“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ หวานดีใจด้วยซ้ำที่คุณแวะมา”“ครับ ผมแวะมาบอกคุณก่อนว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยว่างมาดูแลโรงแรมแต่จะให้เลขามาช่วยดูแทนครับ”“เหรอคะ น่าเสียดายจังหวานคิดว่าจะได้เจอคุณทุกวันเสียอีก”“ผมมีงานอีกหลายอย่างต้องไปจัดการครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หวานเข้าใจว่าคุณงานเยอะ คุณพ่อมาแล้วเราทานข้าวกันเลยไหมคะ”“บ้านคุณ
“อีกสองอาทิตย์แขกวีไอพีจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด พี่ฝากนาวไปดูแลด้วยนะ”“ค่ะพี่เดช”“หนูมะนาวขา พี่บอกกี่ครั้งแล้วไม่จำเลยนะลูก เดซี่ค่ะ พี่ชื่อเดซี่” คมเดชพยายามบีบเสียงให้เล็กขณะพูด เรียกรอยยิ้มให้กับคนฟังได้ไม่น้อยเลยทีเดียว“ขอโทษค่ะพี่เดซี่” มนิษายกมือไหว้ผู้จัดการรีสอร์ตที่หัวเราะอย่างอารมณ์หญิงสาวมาทำงานที่นี่ตำแหน่งรองผู้จัดการซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างภายในรีสอร์ต ไม่เว้นแม้กระทั่งทำห้องแทนแม่บ้าน ซึ่งมนิษาไม่ได้เกี่ยงงานเหล่านี้เลยเพราะเธอฝึกทำทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนอยู่อีกทั้งก็เคยไปทำงานที่โรงแรมของบิดามาก่อน“แขกรีเควสอะไรเป็นพิเศษไหมคะ แล้วมากี่คนค่ะ”“มาคนเดียวจ้ะ ท่านไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่ที่อยากให้คอยดูแลเพราะท่านรู้จักกับเจ้าของรีสอร์ต”“ได้ค่ะ นาวเข้าใจแล้วจะดูแลอย่างดีไม่ให้เสียชื่อพี่เดซี่เลยค่ะ”สองสัปดาห์ก่อนมนิษาลงจากเครื่องในเวลาทุ่มกว่าก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีตั้งแต่สนามบิน คนขับรถของทางรีสอร์ตมารอรับอยู่แล้วพอรถจอดที่หน้ารีสอร์ตก็มีคนมายืนรอรับราวกับว่าเธอเป็นแขกคนสำคัญ“สวัสดีค่ะ” มนิษายกมือไหว้คนที่ยื่นรออยู่ซึ่งมีทั้ง
วันนี้มนิษาตื่นนอนสายกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันหยุดเธอจึงไม่ได้ไปทานอาหารที่รีสอร์ต แต่เลือกที่จะนั่งทานเค้กและกาแฟที่คาแฟ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนักระหว่างนั่งดื่มกาแฟตากลมโตก็มองนั่งท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เพราะวันนี้เป็นวันพุธเป็นวันทำงาน บนเกาะจึงแทบไม่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเลยสักคนอีกอย่างค่าครองชีพบนเกาะก็ค่อนข้างจะสูงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงจะเป็นชาวต่างชาติเสียมากกว่าหลังจากอิ่มแล้วเธอเดินไปยังร้านหนังสือที่อยู่ติดกัน เลือกหนังสือนิยายกับหนังสือเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนมาหนึ่งเล่ม แวะร้านสะดวกซื้อหยิบขนมปัง แยม และโยเกิร์ตเพี่อเป็นเสบียงในวันหยุดนี้ขณะกำลังเก็บทุกอย่างใส่ตู้เย็นพี่เดซี่ก็โทรเข้ามา“สวัสดีค่ะพี่เดซี่”“นะนาว ตอนนี้หนู่อยู่ไหน ลงเรื่อไปหรือยังลูก”“อยู่บ้านพักค่ะ นาวไม่ได้ขึ้นฝั่ง”“งั้นก็ดีเลยจ้ะ เย็นนี้แขกจะเข้าพักที่บ้านหลังริมสุด”“ไหนว่ายังอีกหลายวัน”“เป็นแขกคนละคนกับที่แจ้งไว้ แต่ก็วีไอพีพอ ๆ กัน”“แล้วจะไม่เป็นไรเหรอคะ ถ้าเขาอยู่ยาวจนอีกคนมาถึง”“ไม่หรอกจ้ะ สองคนนี้สนิทกันอีกอย่างบ้านหลังนั้นก็มีตั้งสองห้องนอน ถ้าเขาจะพักด้วยกันก็ไม่
ราฟาเอลลอบมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าทานข้าวแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด เธอทำเหมือนกับเขาเป็นคนแปลกหน้า หญิงสาวเอาแต่ทานข้าวโดยไม่เงยหน้ามองมาและไม่พูดกับเขาเลยแม้แต่คำเดียวหลังทานข้าวมนิษาก็เก็บล้างความสะอาดแล้วเตรียมตัวจะกลับบ้านพัก เธอมาสำรวจเส้นทางแล้วว่าจากที่นี่ไปยังบ้านพักของเธอนั้นถ้าเดินไปตามถนนในรีสอร์ตจะต้องเสียเวลาอ้อม แต่ถ้าไปทางลัดก็ใช้เวลาเดินไม่ถึงสิบนาที“คุณจะกลับเลยเหรอ”“ค่ะ ดึกแล้วคุณควรพักผ่อนนะคะ”“ครับ”แม้จะแปลกใจที่เขาตอบรับอย่างว่าง่าย แต่ก็ดีใจเพราะเธอเองก็ไม่อยากอยู่กับเขาตามลำพังในยามวิกาลเช่นนี้หญิงสาวกลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพราะพรุ่งนี้คงต้องไปรอรับใช้แขกวีไอพีตั้งแต่เช้าเธอกำลังคิดว่าที่ราฟาเอลมาเจอกับเธอที่นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเพราะเขาตามเธอ เท่าที่จำได้ก็ยังไม่เคยบอกกับใครว่าตนเองมาทำงานที่นี่ แม้กระทั่งเพื่อนรักทั้งสองคนก็ยังไม่เคยบอก ถ้าเขาจะตามหาเธอมันก็เป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นมันก็คงเป็นแค่เรื่องบังเอิญคิดได้แล้วก็ปิดไฟเข้านอนหัวยังไม่ทันถึงหมอนโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็สั่นจนต้องลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งเมื่อเห็นเป็นเบอร
บทรักที่เร่าร้อนจบลงเกือบตีสอง มนิษานอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาจนกระทั่งได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของคนตัวโตเธอรีบลุกขึ้นสวมชุดทำงานที่กระดุมเสื้อขาดรุ่งริ่ง จากนั้นรีบเดินกลับบ้านพักโดยใช้เส้นทางลัด แม้จะแทบไม่มีแรงเดิน แต่ก็ไม่อยากจะนอนค้างที่นั่น เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับราฟาเอลแม้จะยอมรับว่ามีความสุขที่ได้เจอเข้าอีกครั้งมีความสุขที่ได้เติมเต็มให้แก่กันและกัน แต่มันก็เป็นเรื่องฉาบฉวยเพราะยังไงเขาก็ต้องแต่งงานกันพี่สาวของเธออยู่ดีเมื่อคิดว่าตอนนี้ตัวเองกับพี่สาวนอนกับผู้ชายคนเดียวกันน้ำตามันก็ไหลออกมาอยากอัตโนมัติ แล้วเวลาที่เหลือจากนี้เธอจะเป็นยังไง จะยอมให้เขาทำกับร่างกายของเธออีกหรือเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งขยะแขยงตัวเองขึ้นมาทุกทีมนิษาเริ่มงานวันใหม่ด้วยความอ่อนเพลีย แต่ก็ไม่อยากทำหน้าที่ของตนเองบกพร่อง หญิงสาวตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าและมาถึงห้องอาหารของพนักงานในเวลาเจ็ดโมงเช้า ทานอาหารอย่างรวดเร็วเพราะต้องรีบเอาอาหารไปให้แขกวีไอพีที่บ้านพัก“เป็นยังไงบ้างมะนาว แขกวีไอพีพอไหวไหม”“ก็ดีค่ะ”“พี่ฝากด้วยนะคะ คนนี้สำคัญจริง ๆ แล้วนั้นหนูจะเอาอาหารไปให้เขาใช่ไหม”“ค่ะ น
เวลาเที่ยงตรงมนิษาก็มารับเขาไปทานข้าวตามที่นัดไว้ ทั้งสองคนไม่ได้พูดเรื่องเดิมกันอีก เขานั่งทานข้าวคนเดียวเงียบ ๆ อย่างใช้ความคิด ขณะที่มนิษาไปทานอาหารกลางวันในส่วนของพนักงานจากนั้นก็เดินตามเขากลับมาที่บ้านพัก ราฟาเอลเข้าห้องนอนไปแล้ว มนิษาเห็นท่าทางของเขาก็พอจะรู้แล้วว่าชายหนุ่มไม่เคยคิดจะแก้ตัวหรือไขข้อเข้าใจผิดเลย แต่ถ้าจะให้เธอพูดเรื่องนี้ก่อนมันก็เหมือนกับว่าเธอนั้นอยากแต่งงานกับเขาจนตัวสั่นในเมื่อไม่ยอมพูดความจริงกับเธอ ทั้งที่เปิดโอกาสให้แล้ว จากนี้มนิษาก็ไม่คิดจะพูดเรื่องนี้กับเขาอีก สถานะระหว่างเธอกับเขาจะเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นราฟาเอลกลับออกมาอีกครั้งก็เห็นว่ามนิษายังนั่งอยู่ที่เดิม“มะนาว ไปเดินเล่นกันไหม”“ค่ะ”เธอเดินตามหลังเขาไปเว้นระยะห่างพอประมาณ“ผมมีเรื่องจะบอกคุณ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธ และไม่หนีผมไปไหน” ราฟาเอลหยุดเดินแล้วหันกลับมาเผชิญหน้า เขาคิดดีแล้วว่าจะบอกทุกเรื่องกับมนิษา“ถ้ามันลำบากใจและอยากก็ไม่ต้องพูดค่ะ คนพูดยังดูลำบากใจขนาดนั้น แล้วไม่คิดบ้างเหรอคะว่าคนฟังจะลำบากใจขนาดไหน”“มะนาว คุณพูดเหมือนไปรู้อะไรมาเลยนะครับ”“คุณปิดบังอะไรไว้ล่ะคะ
ราฟาเอลให้อิสระกับมนิษามากขึ้น เพราะกลางวันเขายังต้องทำงานเธอจึงมีเวลามาช่วยงานที่ล็อบบี แต่พอถึงเวลาทานอาหารก็จะกลับไปที่บ้านพักพร้อมกับนำอาหารไปให้เขาทานที่บ้านพัก“คุณไม่ออกไปไหนเลย ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ”“มีคุณอยู่ใกล้แบบนี้ผมจะเบื่อได้ยังไง” เขาเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์“เมื่อไหร่จะเลิกพูดจาแบบนี้คะ” เธอชอบที่เขาพูดแต่มันไม่ดีต่อหัวใจเธอเลยสักนิด ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้น ใจอ่อนกับเขามากขึ้น“ก็พูดในสิ่งที่อยากพูด เผื่อคุณจะยอมใจอ่อนกับผมบ้าง”ไม่ใช่ว่ามนิษาไม่รู้สึกอะไรแต่ดีว่าถ้าถลำลึกไปกว่านี้แล้วมันไม่เป็นอย่างที่เขาพูดคนที่เจ็บก็คงจะเป็นตัวเธอเอง เพราะกลัวเจ็บจึงต้องเก็บความรู้สึกที่มีให้เขาไว้กับตัวเองใจหนึ่งราฟาเอลก็อยากกลับไปแก้ปัญหาที่กรุงเทพ แต่เขาก็อยากอยู่ใกล้มนิษาเพิ่มอีกนิด อย่างน้อยก็จนกว่าบิดาของตนเองจะมาที่นี่ ราฟาเอลอยากแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันไว้ เพราะถ้าถึงวันที่เขาบอกว่าจะแต่งงานท่านจะได้ไม่ตกใจ“เย็นนี้คุณจะกินข้าวที่บ้านหรือไปที่ห้องอาหารค่ะ”“ผมอยากกินกับคุณตามลำพังตามลำพัง แต่ก็ไม่อยากให้คุณเสียเวลาเดินไปเดินมา เอาเป็นว่าผมไปกินที่ห้องอาห
เรือสำราญลำใหญ่ออกจากท่าเรือ Mariner of the sea ในเวลา 17.00 น. คู่ฮันนีมูนเดินจูงมือกันมายังชั้นบนสุดของเรือ สายตามองไปยังผืนแผ่นดินใหญ่ ดึกสูงระฟ้ากำลังเล็กลงทีละนิดตามระยะทางที่เรือเคลื่อนออกจากฝั่ง“พี่ราฟ คิดไหมว่าเราจะได้แต่งงานกัน”“คิดสิครับ แล้วนาวล่ะ”“ไม่เลยค่ะ เพราะตอนนั้นที่อยู่บนเรือครั้งก่อนนาวไม่รู้ว่าคนที่จะแต่งงานด้วยคือพี่”“แล้วถ้าพี่บอกนาวตอนนั้นล่ะครับ มันจะเป็นยังไง”“นางก็คงขอร้องให้พี่เปลี่ยนใจ”“คิดเหรอครับว่าคนอย่างพี่จะยอมเปลี่ยนใจอะไรง่าย ๆ”“นาวไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพี่จะเป็นคนแบบไหนรู้แค่ตอนนั้นไม่อยากแต่ง ไม่อยากโดนบังคับ”“แต่ตอนนี้เราก็แต่งแล้วและกำลังอยู่บนเรือลำเดิมที่พวกเราได้คุยกันครั้งแรก”“ขอบคุณนะคะที่พานาวที่นี่อีกครั้ง”“นาวจำได้ไหม วันนั้นตอนที่เรากำลังนั่งดูเด็กเล่นต่อแถวเล่น Sky pad นาวบอกว่าถ้านาวมีลูกนาวจะพาพวกเขามาล่องเรือ”“จำได้ค่ะ วันนั้นมีแต่เด็ก ๆ น่ารักทั้งนั้นเลย”“แล้วนาวไม่อยากมีลูกกับพี่บ้างเหรอครับ” เพราะที่ผ่านมาทั้งสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนเลย ราฟาเอลไม่แน่ใจว่ามนิษาอยากมีลูกกับเขาหรือเปล่า ถ้าเธอไม่อยากมีเขาก็ไม่บังคั
“นาวพี่ขอโทษ” นี่คือประโยคแรกที่ราฟาเอลพูดกับภรรยาหลังจากทั้งสองตื่นนอนในเวลาเที่ยง“ขอโทษเรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่พี่กับเพื่อนนาวรวมถึงคุณเดซี่ ช่วยกันเตรียมงานแต่ง”“นาวไม่โกรธพี่หรอกค่ะ นาวรู้ว่าพี่หวังดี” ตอนแรกที่รู้ว่าโดนหลอกมนิษาทั้งโกรธและอาย แต่เอริญาและลดากาญจน์ก็ช่วยพูดจนเธอเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำไปทั้งหมด“แน่นะครับ”“ค่ะ หรืออยากให้โกรธล่ะคะ”“ไม่ดีกว่า บอกได้ไหมว่าทำไมถึงไม่โกรธ”“นาวจะโกรธลงได้ยังไงในเมื่อพี่ทำทุกอย่างก็เพื่อให้เราได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง นาวดีใจมากกว่าที่คุณตากับคุณยายได้ร่วมแสดงความยินดีกับนาวด้วย”“พี่ดีใจที่นาวเข้าใจ”“อันที่จริงพี่ก็น่าจะบอกนาวสักนิด นาวจะได้เตรียมตัว ดีนะคะที่ไม่ตากแดดจนหน้าดำ”“พี่ถึงให้แอนนิต้าส่งครีมมาให้นาวไงล่ะ”“วางแผนกันเก่งนะคะ”“ก็อยากให้นาวเซอร์ไพรส์ไงครับ ถ้าบอกนาวก่อนว่า จะจัดงานแล้วไปชวนคุณตาคุณยายมาไม่ได้ พี่กลัวนาวจะเสียใจ”“แล้วที่บอกว่างานหนักนั่นจริงไหมคะ”“นั่นเรื่องจริงครับ เพราะหลังจากวันแต่งงานพี่ว่าจะพานาวไปเที่ยวสักเดือน”“ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่านาวยังต้องทำงาน”“พี่ลางานให้แล้ว คุณเดซี่อนุญาตแล้วด้วยครับ”“
“วันนี้คุณสวยมากสวยเหมือนเจ้าหญิง” ราฟาเอลเอ่ยชมและมองคนรักด้วยสายตาหวานเชื่อมหลังจากญาติผู้ใหญ่ออกไปจากห้องหอแล้ว“คุณก็หล่อมาก”“ผมสัญญานะครับว่าจะเป็นสามีที่ดีของคุณจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก ผมรักคุณนะครับ”“นาวก็รักคุณค่ะ และก็ขอบคุณที่คุณจัดงานแต่งงานในแบบที่นาวฝันไว้”“ผมดีใจที่นาวชอบนะครับ เราไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้ว นาวของผมผอมไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ นาวก็ตัวเท่าเดิม เวลาที่ไม่เจอกันคุณคิดถึงนาวไหมคะ”“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากที่สุด”“คิดถึงนาวหรือคิดถึงอะไรกันแน่คะ”“นาวก็รู้”“ไม่เหนื่อยเหรอคะ เอาไว้วันหลังก็ได้”“ไม่เหนื่อยเลย คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ ถ้าเจ้าบ่าวไม่ทำหน้าที่รู้ไปถึงไหนอายถึงนั้น”“แค่ทำตามหน้าที่เหรอคะ”“ทำตามหัวใจต่างหากล่ะ หันหลังมาครับผมจะช่วยถอดชุดให้”“นาวถอดเองได้ค่ะ”“ผมถอดให้นาวแล้วนาวถอดให้ผมนะดีไหม”มนิษาเอื้อมมือมาคลายปมเนกไทออกจากนั้นมือเล็กแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ฝ่ามือลูบไล้กล้ามท้องอย่างแผ่วเบา“นาวชอบกล้ามท้องของคุณนะคะ มันเซ็กซี่มาก ต่อไปนี้ห้ามถอดเสื้อให้ใครเห็นอีกเด็ดขาดนอกจากนาวคนเดียว”“ผมไม่มีทางทำแบบนั้น ผมมีนาวคนเดี
มนิษาเดินสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานอีกครั้ง ตอนนี้รีสอร์ตตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดในโทนสีชมพูและสีขาวเหมาะกับบรรยากาศแต่งงานริมทะเลที่เธอเคยใฝ่ฝัน“พี่เดซี่คะ งานแต่งมีวันนี้แน่ใช่ไหมคะทำไมยังไม่มีใครมาเลย”“ใจร้อนจริงนะ เดี๋ยวก็คงมากันแล้วรถของรีสอร์ตไปรับแล้วล่ะ เดี๋ยวก็คงมาถึง”“นาวตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะชอบไหม”“แล้วนาวชอบไหมล่ะ”“ชอบมากค่ะ ถ้านาวแต่งงานก็อยากได้แบบนี้”“แต่แขกที่มาร่วมงานมีแค่ยี่สิบกว่าคนเอง นาวว่ามันไม่เล็กไปเหรอ”“ไม่หรอกค่ะ งานเล็ก แต่แขกทุกคนเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ แล้วพี่เดซี่ล่ะคะ”“ของพี่ของแค่มีเจ้าบ่าวมาคนเดียวก็พอค่ะ”“นั่นสิคะ ขอแค่มีเจ้าบ่าวงานแต่งก็สมบูรณ์แล้ว”“มากันแล้ว” เดซี่มองไปยังทางเข้ารีสอร์ตที่รถตู้กำลังขับเข้ามาแขกชุดแรกที่ลงจากรถเป็นแขกทางฝั่งเจ้าบ่าวมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มนิษารีบเข้าไปต้อนรับ ก่อนจะพาแขกทั้งหมดไปยังห้องพักที่เตรียมไว้ เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาจัดงาน“พักผ่อนตามสบายนะคะ ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้พนักงานก็โทรไปตามที่ล็อบบีได้เลยค่ะ ส่วนอาหารกลางวันถ้าไม่สะดวกไปทานที่ห้องอาหารก็สา
มนิษากลับทำงานบนเกาะสมุยได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่วงนี้มีแขกเข้าพักเป็นจำนวนมาก เธอสนุกกับงานทุกวันจนเหนื่อย พอกลับไปที่บ้านพักก็แทบหมดแรงแต่เธอก็ไม่เลยลืมโทรหาคนรัก มนิษากับราฟาเอลคุยกันก่อนนอนทุกคืนมันเป็นเหมือนการเติมพลังให้แก่กันและกัน“ช่วงนี้นาวยุ่งมาก แขกพักเต็มทุกวันเลยค่ะ คุณราฟล่ะคะ”“ผมก็ค่อนข้างยุ่งครับ คงไปหาคุณเร็วๆ นี้ไม่ได้ สัปดาห์หน้าอาจจะยุ่งหน่อย ถ้าวันไหนผมไม่โทรไปนาวอย่างโกรธนะครับ”“ไม่หรอกค่ะนาวเข้าใจดี คุณคงเหนื่อยมาก”“เหนื่อยแค่ไหนได้ยินเสียงคุณเห็นหน้าคุณผมก็หายเหนื่อย คุณดูผอมไปหรือเปล่าครับ” ราฟาเอลมองคนรักผ่านกล้องจากโปรแกรมสนทนาก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง”“นิดหน่อยค่ะ พี่เดซี่รับจัดงานแต่งเป็นครั้งแรก พวกเราเลยวุ่นกันนิดหน่อย อยากให้งานออกมาดีและประทับใจแขก”“ยุ่งแค่ไหนก็ควรหาเวลาดูแลตัวเองนะครับ แอนนิต้าบอกว่าส่งครีมบำรุงกับพวกครีมกันแดดให้คุณแล้ว”“ค่ะส่งมาแล้ว นาวเพิ่งเริ่มใช้ค่ะ”“ครับ ถ้าหมดก็บอกนะครับ ผมจะให้เธอจัดการให้”“ไม่เป็นไรค่ะ นาวเกรงใจเธอ”“จะเกรงใจทำไม เธอเป็นแม่สามีคุณนะ คุณมีอะไรหรืออยากได้อะไรก็บอกเธอได้ เรื่องผู้หญิงผมก็ไม่ค่อยถนัด”“อย่
ประตูห้องสวีทปิดลงราฟาเอลก็กระโจนเข้าหาคนรักราวกับสัตว์ป่า เพียงแค่คิดว่าจะต้องจากกันอีกนานหลายวันเขาก็แทบไม่อยากเสียเวลาเลยแม้แต่วินาทีเดียวปากหยักได้รูปกดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง สองแขนช้อนใต้สะโพกคนตัวเล็กก็ยกขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบอย่างรู้งานราฟาเอลอุ้มคนรักเข้ามาในห้องนอนกว้าง ปากยังคงไม่ยอมผละออกจากความหวาน ที่ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ในโพรงปากนุ่ม สองลิ้นตวัดหยอกล้อพันเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อนเดรสสีสวยถูกกระชากออกโยนไปตกทุ่มห้องจากนั้นชั้นในราคาแพงก็ถูกโยนตามลงมาราฟาเอลไล้มือไปตามร่างกายเปลือยเปล่าอย่างหลงใหลฝ่ามือร้อนกอบกุมทรวงอกอวบ คลึงเคล้นหนักเบา ปลายนิ้วหยอกเย้าบนปลายถันสีสวยร่างกายของมนิษาเริ่มบิดเร่าไปมา ความเสียวซ่านลุกลามไปทั่ว ทุกจุดที่ฝ่ามือร้อนเลื่อนผ่านจมูกโด่งสูดดมความหอมไปตามพวงแก้มและซอกคอขาว ปากร้อนขบเม้มติ่งหูแผ่วเบา แล้วเรื่อยมาจนถึงลำคอระหง ก่อนจะถอยเลื่อนตัวต่ำลงไปถึงเนินอก สูดดมความหอมจากเนินอกคู่อวบจน เรียวปากร้อนกลืนกินปลายถันเข้าโพรงปากอย่างเมามัน ปลายลิ้นดุนดันเร่งเร้าหญิงสาวดิ้นพล่าน เสียวไปทั่วบริเวณท้องน้อย ร่างกายเบียดเข้าหาคนรักอย่างเชื้อเชิญเสียงหวานคราง
มนิษาและราฟานัดเจอกับเพื่อนที่ผับเดิม ที่ราฟาเอลเจอกับมนิษาครั้งแรกพอบอกข่าวดีแล้วต่างก็พากันนั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและเป็นกันเองสาว ๆ แยกมานั่งมุมหนึ่ง ส่วนหนุ่มหล่อทั้งสามก็นั่งดื่มไปด้วยคุยไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน“นาว เราดีใจด้วยนะ งานแต่งวันไหนอย่าลืมบอกเรากับดาจะไปบินไปร่วมงาน”“แน่นอนยังไงเราก็ต้องบอกเอริกับดาอยู่แล้ว ว่าแต่เอริล่ะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดี”“เรายังไม่อยากแต่งงาน อยากเที่ยวด้วยกันก่อน”“ถ้าเอริแต่งไปอีกคนเราคงเหงาแย่เลย”“ก็รีบหาสิจ้ะดา”“พูดอย่างกับมันหากันง่าย ๆ แล้วถึงดาจะหาได้ใครจะผ่านด่านม๊ากับป๊าได้ล่ะ”“นางงว่าแค่ม๊ากับป๊าคงไม่เท่าไหร่ ที่หนักสุดคงจะเป็นพี่ชายมากกว่า”“ใช่เอริเห็นด้วย ถ้าดาจะหาแฟนก็ต้องหาคนที่พี่ดิษเกรงใจ”“เราไม่เห็นพี่ดิษจะเกรงใจใครเลย แล้วลองคิดดูนะพี่ดิษอายุ 28 คนที่พี่ดิษเกรงใจนี้คงจะอายุสามสิบกว่านู่น เราไม่ชอบคนแก่”“ดา ไม่ลองจะรู้เหรอบางทีคนแก่ก็มีอะไรเด็ด ๆ ซ่อนอยู่นะ”“ใครจะเด็ดเท่าคุณเมธัสของเอริล่ะ ดูสิขนาดเรามานั่งคุยกันสามคนเขายังมองเอริไม่กะพริบเลย ถามจริงนะ ไม่อึดอัดเหรอ”“ไม่นะ เราชอบแบนี้ ชอบคนที่แสดงออกอย่างชัดเจน เ
ออกจากบ้านของคุณโชติราฟาเอลก็ตรงยังสำนักงานเขตทันที เพราะเอกสารทุกอย่างเขาเตรียมไว้หมดแล้ว“นาวไม่คิดว่าคุณจะเตรียมพร้อมขนาดนี้”“ผมเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ถ้าคุณโชติยอมให้เราแต่งงานและจัดงานที่นี่ก็คงจดทะเบียนในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อจะไม่มีการจัดงานที่ในเมืองไทยผมก็ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายครับ”“นาวนึกว่าคุณจะลำบากใจที่ต้องมาจดทะเบียน”“ไม่มีอะไรจะต้องลำบากใจเลยนี่ครับ เราจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว”“คุณตื่นเต้นกว่านาวอีกนะคะ”“พูดผิดแล้วครับ สองคนนั้นต่างหากที่ตื่นเต้นกว่าเรา”พอมนิษาหันไปตามทางที่ราฟาเอลชี้เธอก็แทบกลั้นขำไม่ไหว เพราะตอนนี้คุณอีริคและแอนนิต้านั่งอยู่หน้านายทะเบียนอย่างกับกับว่าทั้งสองเป็นคนมาจดทะเบียนเอง“พ่อครับ ผมว่าที่นั่งตรงนั้นน่าจะเป็นของผมนะครับ”“ชักช้ายืดยาดไม่ทันใจเลย ลูกชายใครเนี่ย”“ใครจะไวเหมือนพ่อละครับ” ราฟาเอลหัวเราะแล้วนั่งลงแทนที่บิดา โดยมีมนิษานั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวซึ่งอยู่ติดกันออกจากสำนักงานเขตทั้งสี่คนก็พากันมาฉลองที่โรงแรมก่อนจะแยกย้ายกันไปพักที่ห้องของตัวเองพรุ่งนี้เช้าอีริคกับแอนนิต้าจะพากันไปเที่ยวเชียงใหม่ ส่วนม
มนิษาขอลางานจากพี่เดซี่โดยบอกแค่ว่ามีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย เดซี่เห็นว่าตั้งแต่หญิงสาวมาทำงานที่รีสอร์ตก็ยังไม่เคยได้ลาพัก อีกอย่างวันหยุดที่ผ่านมามนิษาก็ถูกโทรตามให้มาทำงานกับราฟาเอลเธอออกเดินทางจากสมุยด้วยเที่ยวบินบ่าย ส่วนราฟาเอลนั้นเดินมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว และตอนนี้เขาก็มารับเธอที่สนามบิน“ผมลุ้นมากเลยกลัวคุณจะเปลี่ยนใจ” เขาทักทายคนรักพร้อมเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นในสนามบินเลยแม้แต่น้อย“นาวบอกว่าจะมาก็ต้องมาสิคะ คุณว่างเหรอถึงมารับนาวได้”“ไม่ว่างก็ต้องมารับเองครับ คิดถึงมากอยากเจอ”“นาวก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ถ้าคราวหน้าถ้ามีงานก็ไม่ต้องมารับนะคะ นาวกลับเองได้”“ก็ผมเป็นห่วงนี่ครับ คิดถึงคุณด้วย แล้วเดินทางเหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะ บินแค่นี้สบายมาก ว่าแต่เราจะไปไหนกันค่ะ ที่คอนโดคุณใช่ไหม”“ผมว่าเราพักที่โรงแรมดีกว่าครับสะดวกดี”“โรงแรมของคุณน่ะเหรอคะ ฉันจะไม่รบกวนใช่ไหม”“ไม่หรอกครับ ปกติผมก็พักที่โรงแรม นาน ๆ ถึงจะไปค้างที่คอนโด”“ค่ะ” มนิษาเดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล เธอเห็นด้วยกับราฟาเอลเพราะการพักที่โรงแรมจะประหยัดเวลาเดินทางมาทำงานได้ราฟาเอลส่งเธอที่ห้องพักจากนั้นก