Home / โรแมนติก / กับดักตัณหา / 2.คนเดียวก็ไหว

Share

2.คนเดียวก็ไหว

ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด

“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง

“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง

“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”

“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรู

ทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก

“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ

“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที

“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”

“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์สาวเปรี้ยวที่สุดในกลุ่มเสนอขึ้น

“เห็นผู้ดีกว่าเพื่อนเหรอยายดา” เอริญาเอาหมอนเอื้อมมาตีคนที่นอนอยู่ริมสุด

“อย่าเพิ่งตีกัน ฟังก่อนว่าเอริจะบอกอะไร” มนิษาซึ่งนอนอยู่ตรงกลางห้าม

“เรื่องทริปล่องเรือของเขา”

“ทำไมเหรอเอริ ตั๋วมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“เราต้องไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้เย็น คงไปเที่ยวกับนาวไม่ได้แล้ว”

“อ้าว แผนล่มเลย” มนิษาหน้าจ๋อยเพราะการเที่ยวครั้งนี้เธอจองทุกอย่างและวางแผนไว้หมดแล้ว อีกทั้งเงินที่จ่ายไปก็เป็นเงินที่เธอก็มาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เพราะอยากให้รางวัลตัวเองในวันที่เรียนจบ

“เราอยากให้นาวไปนะ” เอริญารู้ว่าเพื่อนอยากไปเที่ยวมากแค่ไหน มันเป็นการเที่ยวส่งท้ายก่อนที่จะกลับไปทำงานกับที่บ้าน

“ได้ยังไง ไปคนเดียวอันตรายนะ เลื่อนตั๋วได้ไหม รอเรากลับมาก่อนจะไปด้วย” ลดากาญจน์บอกเพราะพรุ่งนี้ตัวเองก็ต้องไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีนเหมือนกัน

“เลื่อนไม่ได้น่ะสิ พวกเธอไม่ต้องห่วงหรอกมะนาวซะอย่างเที่ยวคนเดียวสบายมาก”

“รู้จ้ะว่าเก่งมากแต่ก็อดห่วงไม่ได้”

“พวกเธอไม่ต้องห่วง เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว อีกอย่างนะถ้าไม่เที่ยวตอนนี้จะให้เที่ยวตอนไหน พอเรากลับไปช่วยงานที่บ้านก็คงไม่ได้เที่ยวอีกแล้ว”

“เรื่องเที่ยวพอเข้าใจนะ แต่เรื่องกลับไปทำงานที่บ้านนี่ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”

“อือ ไม่เปลี่ยนใจหรอก เราสงสารพ่อที่ต้องทำงานคนเดียว”

“แล้วพี่หวานล่ะ” เอริญาถามถึงพี่สาวของเพื่อนที่เคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งเวลาที่ไปรับมนิษาที่บ้าน

“พี่หวานจบดีไซเนอร์มาจะให้มาทำงานโรงแรมได้ยังไงล่ะ”

“แต่ถ้าทำงานกับที่บ้านแล้วไม่โอเคบอกเรานะ ที่โรงแรมยังพอมีตำแหน่งว่างอยู่” ลดากาญจน์บอกเพื่อน เพราะที่บ้านของเธอนอกจากจะเปิดร้านทองแล้วยังมีธุรกิจโรงแรมอีกด้วย

“ขอบใจมากนะดา”

“เอาละ ถ้าตัดสินใจจะไปคนเดียวก็ต้องเปิดมือถือไว้ตลอด มีปัญหาอะไรก็โทรหาเราหรือเฮียดิษก็ได้”

“เราจะรายงานตัวในไลน์กลุ่มตลอดโอเคไหม”

“ดีมากจ้ะ มะนาว ชีวิตเราเป็นของเราเที่ยวให้สนุก ให้สมกับที่รอคอย ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ถ้าเจอผู้หล่อก็เปิดใจบ้าง” เอริญาพูดพลางหัวเราะ

“ไปเที่ยวนะไม่ได้ไปหาผู้ แล้วล่องเรือแบบนั้นใครๆ ก็ไปกันเป็นคู่ทั้งนั้นแหละบางคนก็ไปทั้งครอบครัว”

“ใครจะรู้ล่ะ บางทีคนเราก็อยากเที่ยวคนเดียวบ้างใช่ไหมดา” เอริญาหันมาถามความคิดเห็น

“ถ้าเจอแล้วจะรีบบอกนะ พอดีเลยห้องยังว่าง” มนิษาบอกเพื่อน

“ขอให้มันจริงเหอะ แล้วนี่ต้องพกยาคุมฉุกเฉินไปกินบนเรือไหมนะ”

“พวกเธอก็พูดเป็นเล่นไป ใครเขาจะทำแบบนั้น”

“ก็ไม่รู้เคยเห็นแต่ในละคร มีอะไรกันครั้งเดียวนี่ท้องตลอด สงสัยไม่เคยเรียนเรื่องเพศศึกษา”

“ไม่ต้องห่วง เราทานยามคุมมาสองเดือนแล้ว”

คำตอบของเพื่อนทำเอาคนฟังหน้าเหวอไปตามๆ กัน

“ทำไมหรือว่า”

“อย่างคิดไปไกลนะเอริ ก็เดือนก่อนตอนเราไปหาหมอไง หมอเลยแนะนำว่าลองกินยาคุมดู บางทีมันจะช่วยได้”

“อ๋อ” เอริญาพยักหน้าเข้าใจเพราะเธอเองเป็นคนพาเพื่อนไปหาหมอแต่ไม่ได้เข้าไปในห้องตรวจด้วย

สามสาวนอนคุยกันจนถึงตีสามก่อนที่ลดากาญจน์จะบอกให้ทุกคนนอนเพราะพรุ่งนี้ตัวเองต้องรีบกลับบ้านตั้งแต่เช้า

ลดากาญจน์ตื่นนอนคนแรกเพราะต้องรีบกลับบ้าน ตอนนี้ในห้องจึงเหลือแค่เอริญากับมนิษาเพียงสองคนเท่านั้น

คนหนึ่งกำลังเก็บของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเพื่อบินกลับไปเยี่ยมคุณย่าที่ญี่ปุ่นส่วนอีกคนกำลังจัดกระเป๋าเพื่อไปล่องเรือสำราญ

“มะนาวจ๋า”

“ว่าไงเอริ มีอะไรให้ช่วยไหม” มนิษาหันไปมองเพื่อนที่กำลังเอาชุดว่ายน้ำออกจากกระเป๋าแล้วแทนที่ด้วยเสื้อกันหนาว

“ชุดนี้สวยไหม”

“สวยสิ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปใส่ด้วยกัน” มนิษามองชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สีเขียวมิ้นต์ในมือเพื่อนด้วยความเสียดาย

“นั่นสิ เราอยากให้นาวใส่ชุดนี้”

“เราก็ซื้อของเรามาแล้ว”

“แบบนั้นเรียบไปนิดนะ” หญิงสาวมองชุดว่ายน้ำของเพื่อนแล้วส่ายหน้า เพราะดูมันมิดชิดและไม่เซ็กซี่เลยสักนิด

“เราไม่กล้าใส่หรอก”

“ใส่ไปเถอะ บนเรือจะมีสักกี่คนกันที่รู้จักเรา ใส่ไปนอนจิบเครื่องดื่มริมสระแบบชิวๆ”

หญิงสาวคิดตามที่เพื่อนพูดบนเรือจะมีสักกีคนที่รู้จักบางทีอาจไม่เจอคนไทยเลยก็ได้

“ขอบใจนะ” มนิษารับชุดว่ายน้ำใส่กระเป๋า

“เอาชุดนี้ไปด้วย” พอเพื่อนรับชุดว่ายน้ำไปแล้วเอริญาก็ส่งชุดราตรีสุดเซ็กซี่สีแดงเพลิงให้เธออีกชุด เพราะบนเรือมีทั้งร้านอาหารหรูและบาร์เครื่องดื่ม การสวมชุดแบบนี้จะได้เข้ากับบรรยากาศและสถานที่

“มากไปไหม”

“เอาไปเถอะน่า อย่าลืมว่าเราไปหาซื้อไมได้นะ เตรียมไปให้พร้อม สนุกให้เต็มที่”

“เราจะเที่ยวเผื่อและจะถ่ายรูปส่งให้ดูนะ”

“แต่อย่าเองแต่ก้มหน้าเล่นมือถือนะ เสียดายเงินแย่เลย ไปเที่ยวทั้งทีก็ควรได้ผ่อนคลาย”

“เราไม่ทำอย่านั้นหรอกน่า เอริก็เห็นแล้วนี่ว่าเราจองทำกิจกรรมอะไรบนเรือบ้าง”

“นั่นสิ พูดแล้วก็อิจฉาอะ”

“เดี๋ยวเราไปกันอีกรอบก็ได้แต่ต้องเก็บเงินก่อนนะ”

“ได้สิ กลับจากญี่ปุ่นเราก็จะเริ่มหางานทำเหมือนกัน”

“ทำไมต้องหางานทำล่ะ เอริแล้วโรงแรมของญาติไม่ไปทำแล้วเหรอ”

“อยากลองหางานทำเองก่อน”

“เราก็อยากหางานทำเองบ้าง แต่พ่ออยากให้ไปช่วยงาน ช่วงนี้แขกไม่ค่อยมาพักด้วยไม่รู้เพราะอะไร กลับจากเที่ยวเราคงยุ่งน่าดูเหมือนกัน”

“ตอนเรียนก็อยากทำงาน แต่พอเรียนจบก็ไม่อยากทำงานแล้ว” เอริญาหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง

“พวกเราเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวกันแล้วสินะ” มนิษาพูด

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status