ยังไม่ทันเที่ยงคืน สามสาวก็พากันมานั่งอยู่บนรถเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอยู่จนถึงเวลาปิด
“หาอะไรกินก่อนกลับดีไหม” เอริญาที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับเสนอ เพราะเมื่อสักครู่พากันเต้นจนแทบหมดแรง
“อือ เอาสิ หมดแรงเหมือนกันนะ ดาล่ะจะไปกินกับพวกเราหรือจะให้ไปส่งที่บ้านก่อน” มนิษาหันมาถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“คืนนี้เราจะไปค้างด้วย บอกป๊ากับม๊าไปแล้ว”
“ดีเลยจะได้คุยกันถึงเช้า” เอริญาพูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากหน้าผับหรู
ทั้งสามคนแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะกลับมายังคอนโดของเอริญาซึ่งพักอยู่กับมนิษาโดยคิดว่าเช่าในราคาที่แสนถูก
“นาว เรามีอะไรจะบอก” เอริญาตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องบอกก่อน เพื่อให้เพื่อนตัดสินใจเองว่าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือจะยอมเสียค่าตั๋วไปแบบฟรีๆ
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดจัง เรื่องคอนโดหรือเปล่า เดี๋ยวเราก็ย้ายออกแล้ว เรียนจบแล้วนี่” เธออยู่กับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนปีสองจนถึงตอนนี้เรียนจบแล้วก็ควรจะย้ายออกเสียที
“ใครจะให้ย้ายออกกัน อยู่อย่างนี้แหละ อยู่ด้วยกันจนแก่เลย”
“ใครจะอยู่กับเพื่อนจนแก่ล่ะเอริ เรียนจบแล้ว ทำงานหาผู้หล่อๆ สักคนแล้วค่อยย้ายออกดีไหมนาว” ลดากาญจน์สาวเปรี้ยวที่สุดในกลุ่มเสนอขึ้น
“เห็นผู้ดีกว่าเพื่อนเหรอยายดา” เอริญาเอาหมอนเอื้อมมาตีคนที่นอนอยู่ริมสุด
“อย่าเพิ่งตีกัน ฟังก่อนว่าเอริจะบอกอะไร” มนิษาซึ่งนอนอยู่ตรงกลางห้าม
“เรื่องทริปล่องเรือของเขา”
“ทำไมเหรอเอริ ตั๋วมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“เราต้องไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้เย็น คงไปเที่ยวกับนาวไม่ได้แล้ว”
“อ้าว แผนล่มเลย” มนิษาหน้าจ๋อยเพราะการเที่ยวครั้งนี้เธอจองทุกอย่างและวางแผนไว้หมดแล้ว อีกทั้งเงินที่จ่ายไปก็เป็นเงินที่เธอก็มาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เพราะอยากให้รางวัลตัวเองในวันที่เรียนจบ
“เราอยากให้นาวไปนะ” เอริญารู้ว่าเพื่อนอยากไปเที่ยวมากแค่ไหน มันเป็นการเที่ยวส่งท้ายก่อนที่จะกลับไปทำงานกับที่บ้าน
“ได้ยังไง ไปคนเดียวอันตรายนะ เลื่อนตั๋วได้ไหม รอเรากลับมาก่อนจะไปด้วย” ลดากาญจน์บอกเพราะพรุ่งนี้ตัวเองก็ต้องไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีนเหมือนกัน
“เลื่อนไม่ได้น่ะสิ พวกเธอไม่ต้องห่วงหรอกมะนาวซะอย่างเที่ยวคนเดียวสบายมาก”
“รู้จ้ะว่าเก่งมากแต่ก็อดห่วงไม่ได้”
“พวกเธอไม่ต้องห่วง เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว อีกอย่างนะถ้าไม่เที่ยวตอนนี้จะให้เที่ยวตอนไหน พอเรากลับไปช่วยงานที่บ้านก็คงไม่ได้เที่ยวอีกแล้ว”
“เรื่องเที่ยวพอเข้าใจนะ แต่เรื่องกลับไปทำงานที่บ้านนี่ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
“อือ ไม่เปลี่ยนใจหรอก เราสงสารพ่อที่ต้องทำงานคนเดียว”
“แล้วพี่หวานล่ะ” เอริญาถามถึงพี่สาวของเพื่อนที่เคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งเวลาที่ไปรับมนิษาที่บ้าน
“พี่หวานจบดีไซเนอร์มาจะให้มาทำงานโรงแรมได้ยังไงล่ะ”
“แต่ถ้าทำงานกับที่บ้านแล้วไม่โอเคบอกเรานะ ที่โรงแรมยังพอมีตำแหน่งว่างอยู่” ลดากาญจน์บอกเพื่อน เพราะที่บ้านของเธอนอกจากจะเปิดร้านทองแล้วยังมีธุรกิจโรงแรมอีกด้วย
“ขอบใจมากนะดา”
“เอาละ ถ้าตัดสินใจจะไปคนเดียวก็ต้องเปิดมือถือไว้ตลอด มีปัญหาอะไรก็โทรหาเราหรือเฮียดิษก็ได้”
“เราจะรายงานตัวในไลน์กลุ่มตลอดโอเคไหม”
“ดีมากจ้ะ มะนาว ชีวิตเราเป็นของเราเที่ยวให้สนุก ให้สมกับที่รอคอย ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ถ้าเจอผู้หล่อก็เปิดใจบ้าง” เอริญาพูดพลางหัวเราะ
“ไปเที่ยวนะไม่ได้ไปหาผู้ แล้วล่องเรือแบบนั้นใครๆ ก็ไปกันเป็นคู่ทั้งนั้นแหละบางคนก็ไปทั้งครอบครัว”
“ใครจะรู้ล่ะ บางทีคนเราก็อยากเที่ยวคนเดียวบ้างใช่ไหมดา” เอริญาหันมาถามความคิดเห็น
“ถ้าเจอแล้วจะรีบบอกนะ พอดีเลยห้องยังว่าง” มนิษาบอกเพื่อน
“ขอให้มันจริงเหอะ แล้วนี่ต้องพกยาคุมฉุกเฉินไปกินบนเรือไหมนะ”
“พวกเธอก็พูดเป็นเล่นไป ใครเขาจะทำแบบนั้น”
“ก็ไม่รู้เคยเห็นแต่ในละคร มีอะไรกันครั้งเดียวนี่ท้องตลอด สงสัยไม่เคยเรียนเรื่องเพศศึกษา”
“ไม่ต้องห่วง เราทานยามคุมมาสองเดือนแล้ว”
คำตอบของเพื่อนทำเอาคนฟังหน้าเหวอไปตามๆ กัน
“ทำไมหรือว่า”
“อย่างคิดไปไกลนะเอริ ก็เดือนก่อนตอนเราไปหาหมอไง หมอเลยแนะนำว่าลองกินยาคุมดู บางทีมันจะช่วยได้”
“อ๋อ” เอริญาพยักหน้าเข้าใจเพราะเธอเองเป็นคนพาเพื่อนไปหาหมอแต่ไม่ได้เข้าไปในห้องตรวจด้วย
สามสาวนอนคุยกันจนถึงตีสามก่อนที่ลดากาญจน์จะบอกให้ทุกคนนอนเพราะพรุ่งนี้ตัวเองต้องรีบกลับบ้านตั้งแต่เช้า
ลดากาญจน์ตื่นนอนคนแรกเพราะต้องรีบกลับบ้าน ตอนนี้ในห้องจึงเหลือแค่เอริญากับมนิษาเพียงสองคนเท่านั้น
คนหนึ่งกำลังเก็บของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเพื่อบินกลับไปเยี่ยมคุณย่าที่ญี่ปุ่นส่วนอีกคนกำลังจัดกระเป๋าเพื่อไปล่องเรือสำราญ
“มะนาวจ๋า”
“ว่าไงเอริ มีอะไรให้ช่วยไหม” มนิษาหันไปมองเพื่อนที่กำลังเอาชุดว่ายน้ำออกจากกระเป๋าแล้วแทนที่ด้วยเสื้อกันหนาว
“ชุดนี้สวยไหม”
“สวยสิ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปใส่ด้วยกัน” มนิษามองชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สีเขียวมิ้นต์ในมือเพื่อนด้วยความเสียดาย
“นั่นสิ เราอยากให้นาวใส่ชุดนี้”
“เราก็ซื้อของเรามาแล้ว”
“แบบนั้นเรียบไปนิดนะ” หญิงสาวมองชุดว่ายน้ำของเพื่อนแล้วส่ายหน้า เพราะดูมันมิดชิดและไม่เซ็กซี่เลยสักนิด
“เราไม่กล้าใส่หรอก”
“ใส่ไปเถอะ บนเรือจะมีสักกี่คนกันที่รู้จักเรา ใส่ไปนอนจิบเครื่องดื่มริมสระแบบชิวๆ”
หญิงสาวคิดตามที่เพื่อนพูดบนเรือจะมีสักกีคนที่รู้จักบางทีอาจไม่เจอคนไทยเลยก็ได้
“ขอบใจนะ” มนิษารับชุดว่ายน้ำใส่กระเป๋า
“เอาชุดนี้ไปด้วย” พอเพื่อนรับชุดว่ายน้ำไปแล้วเอริญาก็ส่งชุดราตรีสุดเซ็กซี่สีแดงเพลิงให้เธออีกชุด เพราะบนเรือมีทั้งร้านอาหารหรูและบาร์เครื่องดื่ม การสวมชุดแบบนี้จะได้เข้ากับบรรยากาศและสถานที่
“มากไปไหม”
“เอาไปเถอะน่า อย่าลืมว่าเราไปหาซื้อไมได้นะ เตรียมไปให้พร้อม สนุกให้เต็มที่”
“เราจะเที่ยวเผื่อและจะถ่ายรูปส่งให้ดูนะ”
“แต่อย่าเองแต่ก้มหน้าเล่นมือถือนะ เสียดายเงินแย่เลย ไปเที่ยวทั้งทีก็ควรได้ผ่อนคลาย”
“เราไม่ทำอย่านั้นหรอกน่า เอริก็เห็นแล้วนี่ว่าเราจองทำกิจกรรมอะไรบนเรือบ้าง”
“นั่นสิ พูดแล้วก็อิจฉาอะ”
“เดี๋ยวเราไปกันอีกรอบก็ได้แต่ต้องเก็บเงินก่อนนะ”
“ได้สิ กลับจากญี่ปุ่นเราก็จะเริ่มหางานทำเหมือนกัน”
“ทำไมต้องหางานทำล่ะ เอริแล้วโรงแรมของญาติไม่ไปทำแล้วเหรอ”
“อยากลองหางานทำเองก่อน”
“เราก็อยากหางานทำเองบ้าง แต่พ่ออยากให้ไปช่วยงาน ช่วงนี้แขกไม่ค่อยมาพักด้วยไม่รู้เพราะอะไร กลับจากเที่ยวเราคงยุ่งน่าดูเหมือนกัน”
“ตอนเรียนก็อยากทำงาน แต่พอเรียนจบก็ไม่อยากทำงานแล้ว” เอริญาหัวเราะให้กับความคิดของตัวเอง
“พวกเราเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวกันแล้วสินะ” มนิษาพูด
เครื่องบินลำใหญ่แตะที่พื้นรันเวย์ของสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ได้สักพักหญิงสาวคนหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีเหลืองสดออกมาจากสนามบินตากลมโตมองหาป้ายที่บอกทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าตามที่อ่านมาจากรีวิวในเพจยอดฮิต เธอลากกระเป๋าไปตามทางเดินอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงท่าเรือ Mariner of the seaเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำมนิษารู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนรอไม่ไหว ขณะกำลังต่อแถวที่จุดเช็กอินเพื่อขึ้นเรือเธอก็มองไปรอบๆ เท่าที่มองด้วยสายตาทริปนี้แทบไม่มีคนไทยเลย หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ตรงมายังห้องพักที่จองไว้ ซึ่งมีสองเตียงแต่น่าเสียดายที่หญิงสาวต้องนอนตามลำพังเพียงคนเดียวห้องที่เธอเลือกเป็นห้องที่มีมองเห็นวิวทะเล ด้านนอกระเบียงมีเตียงสำหรับนอนเล่น เป็นมุมพักผ่อนที่ดูแล้วคงสบายไม่น้อย และถ้าได้นอนอ่านหนังสือเล่มโปรดพร้อมกับมองทะเลไปด้วยคงมีความสุขไม่น้อยเพราะเดินทางตั้งแต่เช้าเธอเลยยังไม่ได้ทานอะไร หญิงสาวตรงไปยังห้องอาหารบนเรือที่เปิดให้ทานให้ฟรีอยู่หลายห้อง พอทานจนอิ่มก็เดินสำรวจเรือเพื่อย่อยอาหารเดินมาถึงโซนสระว่ายน้ำที่อนุญาตให้แต่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเธอก็นั่งลงพักขา บริเวณ
เรือออกจากฝั่งในเวลาห้าโมงเย็นตามเวลาที่แจ้งไว้ มนิษายืนมองระลอกคลื่นที่กระจายออกจากเรือด้วยความรู้สึกอิสระอย่างเต็มที่เธอไม่เคยอยู่บนเรือลำใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แม้จะกลัวอยู่บ้างในคราแรก แต่พอเรือออกจากฝั่งมาแล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป คงเพราะเรือขนาดใหญ่จึงแทบไม่รู้สึกเลยว่าตอนนี้กำลังแล่นอยู่บนผิวน้ำหญิงสาวมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า กดถ่ายรูปด้วยมือถือก่อนจะส่งไปยังไลน์กลุ่มให้เพื่อนรักทั้งสองดูว่ามันสวยแค่ไหน“ให้ผมช่วยถ่ายไหม”มนิษาตกใจแต่พอหันไปตามเสียงก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เธอคุยด้วยเมื่อตอนบ่าย“ฉันแค่อยากได้รูปส่งให้เพื่อนค่ะ”“ไม่อยากถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้เหรอครับ ผมช่วยถ่ายได้นะ”มนิษาก็อยากได้รูปตัวเองอย่างที่เขาพูด หญิงสาวส่งมือถือให้เขากดถ่ายรูปอีกหลายรูป พอรับคืนมาก็ยิ้มเพราะดูแล้วคุณราฟก็ถ่ายรูปสวยเหมือนกัน“คุณล่ะคะ จะถ่ายไหมฉันถ่ายให้”“ก็อยากถ่ายครับ แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันถ่ายแล้วส่งให้คุณก็ได้”“งั้นช่วยถ่ายผมหล่อๆ นะครับจะเอาไปอวดเจ้านาย”มนิษามองภาพชายตัวสูงผ่านหน้าจอมือถือ กดถ่ายไปหลายรูปจากนั้นก็ส่งให้เจ้าตัวดูว่าพอใจไ
หลังจากอาบน้ำอีกรอบมนิษาก็รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อนใหม่ตั้งแต่เช้าแม้ว่าจะยังไม่รู้จักกันดีรู้แค่เขาชื่อราฟ แต่เท่าที่ได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คุยสนุกและคงทำให้การมาเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ไม่เบื่อหญิงสาวมาถึงห้องอาหารก็เห็นว่าราฟาเอลมารอเธออยู่ก่อนแล้ว“มอร์นิ่งครับ หลับสบายไหม”“มอร์นิ่งค่ะ หลับสบายมากไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่บนเรือ”ทั้งสองแยกกันไปตักอาหารจากนั้นก็กลับมานั่งทานด้วยกัน ระหว่างทานก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงก่อนจะพากันมาเดินเล่นรับลมที่ชั้นบนสุดของเรือเช้านี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ทั้งสองคนเลยเดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบ“กลัวความสูงไหมครับ” ราฟาเอลถามขณะที่กระเช้ากำลังไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ“ไม่กลัวค่ะ แต่ตื่นเต้นมากกว่า” เธอมองลงไปยังด้านท้ายเรือที่ตอนนี้เห็นคนตัวเล็กลงไปทีละนิด“วิวบนนี้สวยดีนะครับ ถ่ายรูปไหม ผมถ่ายให้”มนิษายิ้มให้กล้องขณะที่เขากำลังกดถ่าย มือใหญ่สั่นเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มนั้นมันหวานจนอยากจะสั่งห้ามไม่ให้ไปยิ้มแบบนี้กับใครที่ไหน“คุณจะถ่ายไหมคะ”“ครับ รบกวนด้วย”พอได้รูปเดี่ยวแล้วราฟาเอลก็ขอถ่ายรูปคู่ เขายื่นกล้
“แล้วคุณไม่มีแฟนเหรอครับ” “เคยมีค่ะ แต่เลิกไปแล้ว” มนิษาเคยคบกับพี่รหัสอยู่หนึ่งปี พอเขาเรียนจบทั้งสองก็เริ่มห่างกันไปทีละนิด จนในที่สุดก็ตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง “แสดงว่าตอนนี้โสดสนิทเหรอครับ” “ค่ะ ทำไมคุณทำหน้าเหมือนไม่เชื่อล่ะคะ” “ผมไม่คิดว่าสวยๆ อย่างคุณจะยังโสดอยู่จนถึงตอนนี้” “ขอบคุณที่ชมว่าฉันสวย และก็เพราะความสวยนี่แหละค่ะที่ทำให้ฉันโสดแบบนี้” มนิษาไม่ได้หลงตัวเองว่าเป็นคนสวยแต่เพราะเธอสวยมากจริง ๆ จนไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ กับแฟนคนแรกที่คบกันก็เพราะเขาเป็นพี่รหัสที่เข้ามาคอยเทคแคร์จนสนิทมากขึ้นและเธอเป็นคนขอเขาเป็นแฟน “ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบคนสวย” “แต่มีไม่กี่คนที่กล้าเข้ามาจีบ ส่วนใหญ่ก็แค่มองแล้วคิดเอาเองว่าฉันคงมีแฟนแล้ว” “ผมเข้าใจแล้ว กก็จริงของคุณนะครับสวยมากๆ ผู้ชายธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาจีบ แล้วแฟนที่เลิกไปล่ะครับเขาคงมีอะไรดีถึงกล้ามาจีบคุณ” “เขาเป็นพี่รหัสค่ะ” “ความใกล้ชิดเหรอครับ” “ค่ะ ความใกล้ชิดและความเอาใจใส่ เขาคอยดูแลเทคแคร์ในฐานะพี่รหัสฉั
กลับมาจากสิงคโปร์มนิษาก็ตรงกลับมาที่บ้านทันที“กว่าจะมาได้นะ ต้องให้ผู้ใหญ่รอตั้งกี่วัน” คุณรัญญาต่อว่าลูกสาวคนเล็กของสามี“นาวไปลงเรือนะคะ จะให้กลับปุ๊บปั๊บได้ยังไง”“อย่าเพิ่งเถียงกันเลย”“พ่อคะ เรื่องแต่งงาน นาวไม่แต่งได้ไหมคะ”“ทำไม”“นาวเป็นลูกพ่อ พี่หวานก็เป็นลูกพ่อ แล้วทำไมที่แต่งต้องเป็นนาวล่ะคะ”“ก็เพราะลูกสาวฉันมีคนรักอยู่แล้วยังไงล่ะ”“นาวก็มีแฟนแล้ว มีคนรักแล้ว”“เอาอะไรมาพูด พ่อรู้ว่านาวยังไม่มีแฟน”“มีแล้วค่ะ เราเจอกันที่สิงคโปร์”“เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเป็นแฟนกันแล้วเหรอ ไวไฟดีเหมือนกันนะ” คุณรัญญามองหญิงสาวด้วยสายตาเหยียด“ค่ะ นาวไวไฟไปนิดขอโทษด้วยนะคะ”“เพิ่งคบกัน เลิกกันตอนนี้ยังทัน”“ทำไมนาวต้องเลิกล่ะคะ ทำไมพ่อไม่บังคับพี่หวานบ้าง”“นาว ถือว่าพ่อขอนะ”“พ่อค่ะ แต่นาวไม่อยากแต่ง”“ถ้านาวไม่แต่งโรงแรมของเราคงแน่แย่”“พ่อก็ขายไปเลยสิคะ”“ยายนาว นั่นมันโรงแรมที่พ่อสร้างมากับมือนะจะให้ขายไปได้ยังไง”“พ่อก็เลยเลือกขายลูกสาวเหรอคะ”“พ่อไม่ได้ขาย เพียงแต่ให้นาวแต่งงานกับเขา เวลาเขาจะทำอะไรกับโรงแรมของเรา เขาก็จะได้เกรงใจเราบ้าง”“คนมีเงินเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเกรงใจกันหรอกค่ะ น
หลังจากตกลงเป็นแฟนกันแล้วราฟาเอลก็นัดเจอกับมนิษาบ่อยขึ้น บางวันเขาก็มารับไปทานข้าว บางครั้งก็ไปดูหนัง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเย็นเพราะเขายังต้องทำงานในเวลากลางวันแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เหมือนทุกอย่างมันจะราบรื่นและมีความสุข มนิษารู้สึกว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ผิดเลยสักนิดวันนี้ทั้งสองคนมานั่งฟังเพลงที่บาร์แห่งหนึ่ง เพราะเขามีนัดคุยงานนอกรอบกับเสี่ยอดุลย์“เจ้านายคุณไม่มาด้วยเหรอคะ” มนิษาเห็นว่าเขาจะคุยเรื่องงาน ก็แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้านายหน้าโหดมาด้วย“เขาไม่ว่างครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะ ผมคุยไม่นาน”“ค่ะ ขอให้คุยงานสำเร็จนะคะ”มนิษามองตามชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง หญิงสาวนั่งฟังเพลงและจิบเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ก่อนหน้านี้ ยังดื่มไม่หมดแล้วพนักงานก็เอาแบบเดิมมาเสิร์ฟให้อีกแล้ว“คุณราฟาเอลสั่งให้ครับ”“ใครนะคะ” เธอถามย้ำเพราะไม่เคยรู้ว่าเขาชื่อจริงว่าอะไร“คุณราฟาเอลครับ ผู้ชายคนที่มากับคุณ”“อ๋อ ราฟ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวรับมาจากนั้นก็นั่งจิบไปเรื่อย ๆเธอเห็นราฟาเอลเดินออกมาจากห้องนั้น เขาส่งยิ้มให้แล้วเดินหายเข้าไปอีกห้องมนิษาดื่มเครื่องดื่มแก้วใหม่จนหมดก็มีผู
มนิษาตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเที่ยงวัน หญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องมันดูไม่คุ้นเลยสักนิด“คุณราฟ” เธอเรียกชื่อเขาเป็นคนแรกเพราะจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเขาอยู่กับเธอที่นี่ แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับหญิงสาวก้าวขาลงจากเตียงแล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็เล่นงานจนทรุดลงกับพื้น พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอกับเขามีอะไรกันแล้ว เธอจำได้ว่าเป็นคนร้องขอให้เขาทำเรื่องแบบนั้นเอง แทบไม่ต้องเดาเลยว่านแก้วที่เธอดื่มแก้วสุดท้ายในบาร์นั้นต้องมีใครใส่อะไรลงไปในนั้นและคิดว่ามันคงเป็นยาอะไรสักอย่างที่ทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่มแบบนั้นเธอก้มมองตัวเอง ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผิวขาวนั้นมีแต่ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วไปหมด เธอดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองไว้ ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนไปหมด ผู้ชายที่ชื่อราฟ หรือราฟาเอลนั้นเป็นใครกันแน่ทำไมเขาพาเธอไปในที่แบบนั้น ทำไม่คนที่เขาคุยด้วยถึงทำแบบนั้นกับเธอ ตอนนี้คำถามอยู่เต็มหัวไปหมดถ้าหากเป็นแผนของเขาที่จะพาเธอไปให้เสี่ยคนนั้นแล้วเขาจะตามไปช่วยทำไม หรือเป็นแผนที่เขาทำเพื่อที่จะให้ตัวเองดูเป็นพระเอกในสายตาเธอ แต่มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยท
ตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นมนิษาก็ยังไม่ได้ออกจากคอนโดแห่งนี้ ราฟาเอลบอกกับเธอว่าที่นี่เป็นคอนโดของเจ้านายเธอขอกลับไปที่คอนโดของเอริญา แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้เสี่ยอดุลย์โกรธมากเรื่องที่โดนเขาทำร้ายจนจมูกหัก เขากลัวเสี่ยจะไม่ยอมจบแค่นั้นจึงไม่อยากให้มนิษากลับไปอยู่ตามลำพังหญิงสาวนึกถึงใบหน้าเปื้อนเลือดของเสี่ยคนนั้นและใบหน้าลูกน้องของเขาแล้วเธอจึงยอมอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็คงต้องรอให้เอริญากลับมาก่อนเธอจะขอเข้ากลับไปส่งที่นั่นอีกครั้งวันนี้ราฟาเอลออกไปทำงานตอนกลางวันและแวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้ามาอย่างเคย“เหนื่อยไหมคะ”“ครับ วันนี้มีประชุมทั้งวันเลย”“คุณต้องเข้าประชุมกับเจ้านายทุกครั้งเหรอคะ”“ครับ ผมน่ะมือขวาของเจ้านายเลยนะครับ”“เชื่อแล้วค่ะ ว่าเป็นลูกน้องคนโปรดถ้าไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่ให้มาพักที่นี่หรอกค่ะ หิวหรือยังคะ”“ครับ”“ถ้างั้นกินข้าวแล้วค่อยไปอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวรีบเอาอาหารออกจากล่องจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมาปกติแล้วหลังเลิกงานราฟาเอลมักจะออกไปดื่มกับเพื่อนแต่พอเขาพามนิษามาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ออกไปดื่มที่ไหน เขาอยากใช้เวลากับเธอให้เต็มที่ อยากรู้จักเธอในทุก