“เขาเป็นพระเจ้าจริง ๆ !” ในเวลานี้อัลเบิร์ตไม่ใช่คนเดียวที่ตกตะลึง แต่จัสมินและคุณลุงออสก้าร์ก็ตกตะลึงเช่นกันมันน่าทึ่งจริง ๆ ที่ชาร์ลีสามารถหาท่อน้ำที่ซ่อนอยู่ภายในพื้นปูนได้สำเร็จชาร์ลีพูดขึ้นอีกครั้ง “อัลเบิร์ต ช่วยทุบท่อน้ำให้แตก แล้วปล่อยให้น้ำทะลักออกมา ทันทีที่น้ำพุ่งออกมาจากท่อ ‘กับดักมังกร’ จะพังลงทันที และรูปแบบฮวงจุ้ยแบบนี้จะไม่มีอีกต่อไป!”จัสมินรีบพูดต่อว่า “อัลเบิร์ตเร็วเข้าสิ ช่วยทำลายท่อน้ำให้แตกเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”อัลเบิร์ตพยักหน้าก่อนที่เขาจะเริ่มกระแทกท่อน้ำด้วยชะแลงโลหะจนในที่สุดมันก็แตกกระแสน้ำขนาดใหญ่พุ่งทะลักออกมาในทันที ชาร์ลี จัสมิน และคุณลุงออสก้าร์ก็ถอยห่างออกไปทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพวกเขา น่าเสียดายที่อัลเบิร์ตไม่สามารถหลบได้ทันเวลา น้ำก็กระเซ็นไปทั่วตัวเขาหลังจากที่น้ำไหลทะลักออกมา ชาร์ลีก็ตระหนักได้ว่าเขาได้ทำลาย "กับดักมังกร" แล้วจากสิ่งที่พวกเขาได้ทำกับท่อน้ำท่อนี้ชาร์ลีรีบบอกคุณลุงออสก้าร์ว่า “รบกวนช่วยปิดวาล์วน้ำหลักทีครับ "กับดักมังกร" ได้ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้วครับ"“โดนทำลายแล้ว!?” ทุกคนถามด้วยสีหน้าสงสัยชาร์ลีตอบอย่าง
จัสมินรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เธออ้าปากข้างอย่างตะลึงเนื่องจากความคิดที่เปลี่ยนไปของคุณแลมเบธแม้ว่าเธอจะยังโกรธอยู่เพราะสิ่งที่คุณแลมเบธทำมาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เธอก็อยากจะตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น!แต่เธอยังคงนิ่งและเก็บทรงไว้ขณะที่เธอพูดว่า “ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามานัดหมายเวลาและสถานที่เพื่อเซ็นข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนกันก็ได้ค่ะ”คุณแลมเบธรีบตอบว่า “ยิ่งเร็วยิ่งดีเลยครับ! ผมจะบินไปที่โอลรัสฮิลล์พรุ่งนี้เพื่อพบกับคุณด้วยตนเองเลยครับคุณมัวร์!”จัสมินจ้องไปที่ชาร์ลีด้วยความตกใจทันทีที่เธอวางสายโทรศัพท์เธอสามารถเห็นความสามารถและพลังของชาร์ลีผ่านการคุยโทรศัพท์กับคุณแลมเบธก่อนหน้านี้ตอนที่ปรมาจารย์เลนนาร์ดทำลายโชคลาภของเธอด้วยการทำ ‘กับดักมังกร’ ให้เสร็จสมบูรณ์ คุณแลมเบธได้โทรมาบอกเธอว่าเขาต้องการยุติการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจระหว่างตระกูลของพวกเขา ในเวลานั้นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยของพ่อของคุณแลมเบธก็บอกกับจัสมินเช่นกันว่าเขาบอกได้ว่าดวงของเธอนั้นไม่ดีเลย แต่ทันทีที่ชาร์ลีได้ไปทำลายรูปแบบฮวงจุ้ย คุณแลมเบธก็โทรกลับมาบอกเธอทันทีว่าปรมาจารย์ฮวงจุ้ยของพ่อของเขาบอกว่าดวงชะตาของเธอเปลี่ยนไปอย
ชาร์ลียิ้มก่อนที่เขาจะพูดว่า “จำสิ่งที่คุณพูดในวันนี้ก็แล้วกัน! ผมอาจต้องการให้คุณทำบางอย่างเพื่อผมในอนาคต!”อัลเบิร์ตพยักหน้าก่อนที่เขาจะตอบว่า “คุณเวดไม่ต้องกังวลเลยครับ! คุณสั่งให้ผมทำอะไรก็ได้เพื่อคุณเลยครับ!”ในเวลานี้ปรมาจารย์เลนนาร์ดซึ่งนอนจับท้องอยู่บนพื้นก็เริ่มโอดครวญร้องขอความเมตตา “พี่ใหญ่ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะครับ! ผมจะไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้วในอนาคต ช่วยยกโทษให้ผมด้วย ปล่อยผมไปเถอะครับ”อัลเบิร์ตหัวเราะเยาะก่อนที่เขาจะพูดว่า “แกมันคนหลอกลวง! ฉันต้องสอนบทเรียนให้แก ลูกน้องของฉันกำลังมาจัดการแกเดี๋ยวนี้ล่ะ!”ชาร์ลีถามเสียงเบา “นี่คุณจะจัดการกับเขายังไงเหรอ?”อัลเบิร์ตตอบอย่างเย็นชาว่า “ผมเคยบอกไปแล้วว่าผมจะหั่นมันเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนให้สุนัขกิน! ผมจะไม่รักษาคำพูดของผมได้ยังไงกันล่ะครับ? ผมมีเพื่อนเป็นเจ้าของศูนย์พักพิงสุนัข เขามีสุนัขที่นั่นเยอะเลย พวกมันอาจจะกินไอ้สวะอย่างเขาจนเกลี้ยง!”ทันทีที่ปรมาจารย์เลนนาร์ดได้ยินคำพูดของอัลเบิร์ตเขารู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น จากนั้นเขาก็ร้องไห้ร้องขอความเมตตาต่อไป “พี่ใหญ่ ผมมีครอบครัวที่ต้องดูแล ครั้งนี้ปล่อยผมไปเถอะครับ! ผมจะจดจำความเ
ตอนเที่ยงของวันต่อมาชาร์ลีและแคลร์ขับรถเดินทางไปที่โรงแรมเมเปิลโรงแรมเมเปิลไม่ได้แพงที่สุดในโอลรัสฮิลล์แต่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเมือง นี่บ่งบอกถึงความจริงใจของดักลาสในการปฏิบัติต่อพวกเขาในความเป็นจริง เขาใช้เวลากับอาหารมื้อนี้อย่างฟุ่มเฟือย เพราะเขาได้จองห้องรับประทานอาหารระดับพรีเมียมไว้ในโรงแรมที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและกว้างขวางพอที่จะรองรับคนได้ยี่สิบคนโดยมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำเจ็ดถึงแปดหมื่นบาทหลายคนได้มาถึงห้องสวีทเรียบร้อยแล้ว เมื่อชาร์ลีและแคลร์มาถึง นอกจากดักลาสและลอรีนแล้วยังมีเพื่อนร่วมวิทยาลัยอีกสองสามคนด้วยช่วงนี้ลอรีนไม่ค่อยได้มีเวลาพิเศษสักเท่าไหร่เธอย้ายมาอยู่ที่โอลรัสฮิลล์จากอีสต์คลิฟฟ์ได้ระยะหนึ่งแล้ว เพื่อจุดประสงค์หลักในการทำความรู้จักกับประธานเอ็มแกรนด์กรุ๊ป อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นชายคนนี้ด้วยซ้ำหลังจากทำงานในบริษัทมานานยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอเคยต้องอยู่ในสำนักงานเมื่อเธอดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร แต่หลังจากที่เธอถูกย้ายไปฝ่ายขายแล้วเธอก็มีเวลาน้อยลงในสำนักงาน นั่นช่วยลดโอกาสในการพบกับประธานมากยิ่งขึ้นอ
“โจแอนน์ นี่เธอพูดอะไรออกมาเนี่ย? ดักลาสเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ถ้าเราต้องการความช่วยเหลือเขาจะช่วยเราอย่างไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว”ผู้ชายหน้าเหลี่ยมพูดขึ้น เขาหยิบแก้วขึ้นมาแล้วกระดกหมดในครั้งเดียวชาร์ลีเหลือบมองพวกเขาสั้น ๆ เขาจำได้ว่าคนพวกนั้นเป็นเพื่อนร่วมวิทยาลัยกับเขา ผู้หญิงคนนี้ชื่อ โจแอนน์ แฮมป์ตันและชายคนนี้ชื่อ เจอร์รี่ แม็คลีนดักลาสตอบอย่างขี้อายว่า “โอ้ ไม่หรอก ฉันบอกไม่ได้หรอกว่าทั้งหมดนั่นเป็นเพราะฉัน เฮ้อ เรื่องมันยาวน่ะ ช่างมันเถอะ!”จากนั้นเขาก็มองไปที่ชาร์ลีด้วยความรู้สึกซาบซึ้งมันเป็นช่วงเวลาแห่งความโชคร้ายที่ต้องอยู่ร่วมกับคนหลอกลวงและพวกเขาทำให้เขาเกือบจะสูญเสียทุกอย่างให้กับเธอ แม้กระทั่งถูกทำร้ายร่างกายด้วยเช่นกันโชคดีที่ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของชาร์ลี เพราะเขาสามารถเรียกร้องสิทธิการเป็นเจ้าของร้านอาหารคืนมาได้และได้รับค่าตอบแทนกลับมายี่สิบล้าน ดังนั้นทุกสิ่งที่เขาเป็นเจ้าของตอนนี้จึงเป็นเพราะชาร์ลี เขาจึงไม่สามารถให้เครดิตกับตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องและเริ่มพูดว่า “ยังไงก็แล้วแต่นะเจอร์รี่ ตอนนี้นายมั่งคั่งแล้วใช่ไหม? ฉ
ชาร์ลีจ้องมองไปที่พวกเขา แต่เพื่อประโยชน์ของดักลาสเขาจึงไม่อยากที่จะใส่ใจกับคนโง่สองคนนี้แม้ชาร์ลีจะเงียบ แต่โจแอนน์และเจอร์รี่ก็ยิ่งเกลียดเขามากยิ่งขึ้นที่ไม่ปกป้องตัวเองหลังจากถูกเยาะเย้ยและดูถูก! เขามันช่างขี้แพ้อะไรอย่างนี้!เจอร์รี่ยังคงสบประมาทต่อไป “นี่ จากความคิดของฉันนะ แคลร์เธอช่างตาบอดจริง ๆ มีเหล่าสุภาพบุรุษที่ดีมากมายในชั้นเรียนของเราแต่ชาร์ลีไอ้ขี้แพ้ดันเป็นตัวเลือกสุดท้ายของเธองั้นเหรอ? แย่จัง!”ทันใดนั้นประตูห้องสวีทก็เปิดออกปังชายร่างท้วมในชุดดำหลายคนพุ่งเข้ามาในห้องและหนึ่งในนั้นคือชายหนุ่มที่มีผมทรงครูว์คัตและมีบุหรี่อยู่ในมือกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ออกไปจากที่นี่ซะ ฉันต้องการห้องนี้”เจอร์รี่ขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ “นี่คุณคิดว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่? ไม่เห็นเหรอว่าเรากำลังทานอาหารเย็นกันอยู่น่ะ”จากนั้นเขาก็กระแทกโต๊ะอย่างแรงและคำรามขึ้นว่า “ที่นี่โรงแรมเมเปิล คนที่มาก่อน จะได้สิทธิก่อน! คุณไม่รู้กฎเหรอไง?”"มาก่อน ได้ก่อน?"ชายหนุ่มหน้าตาดุร้ายเข้ามาหาเจอร์รี่และตบหน้าเขาโดยไม่มีการเตือนใด ๆ เจอร์รี่ล้มลงกับพื้นใบหน้าของเขาบวมและอาบไปด้วยเลือดสีแดงสด“นายคิดว่
“พอได้แล้วแรมโบ้ เรากำลังทานอาหารเย็นกันอยู่นะ นายออกไปได้แล้ว!”ชาร์ลีไม่อยากจะสนใจคนอย่างแรมโบ้ เขาจึงโบกมืออย่างขี้เกียจและขอให้ออกไปแรมโบ้โค้งคำนับอย่างเคารพและกล่าวว่า “ได้ครับคุณเวด ผมจะออกไปแล้วนะครับ!”จากนั้นเขาก็รีบถอยออกจากห้องเหมือนหมาตัวหนึ่งเจอร์รี่และโจแอนน์รู้สึกร้อนรนและรำคาญอย่างมาก ชาร์ลีที่พวกเขาล้อเลียนและเยาะเย้ยในทุกวิถีทางกลับกลายเป็นคุณเวด! นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!ต้องมีความเข้าใจผิดอะไรที่นี่แน่ ๆ ชาร์ลีเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ที่น่ารังเกียจ! ทำไมแรมโบ้ถึงเรียกเขาว่าคุณเวดล่ะ?! เขาไม่ควรค่ากับชื่อนี้ด้วยซ้ำ!ดักลาสหันไปหาพวกเขาและพูดอย่างเข้มงวดว่า “พวกนายสองคนดูปากของตัวเองสิ ช่วยเจียมตัวและถ่อมตัวด้วย นายฉลาดพอที่จะรู้ว่านายพูดอะไรได้หรือพูดอะไรไม่ได้ โชคดีที่วันนี้ชาร์ลีมาที่นี่ ไม่งั้นพวกนายต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่ ๆ !”เจอร์รี่และโจแอนน์นิ่งเงียบเหมือนหนูหลังจากถูกแรมโบ้ทุบตีจากนั้นดักลาสก็หันไปหาชาร์ลีและพูดอย่างซาบซึ้งว่า “ชาร์ลี ขอบใจมากนะ! ฉันขอดื่มอวยพรให้นายแทนทุกคน ขอบคุณ!”ชาร์ลียิ้ม “ด้วยความเต็มใจ”***วันรุ่งขึ้นแคลร์ได้รับคำเชิญสัมภาษณ์จากสไป
ซีคกล่าวอย่างรวดเร็ว “คุณเวดนี่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงเวลาแบบนี้ยากที่สุดที่จะเรียกแท็กซี่นะครับ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ให้ผมไปส่งดีไหมครับ?”แคลร์ทั้งอยากรู้และสงสัยเกี่ยวกับความบังเอิญนี้ แต่เธอก็หมดหวังเกินกว่าที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้ “ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือนะคะ คุณไวท์”“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ” ซีครีบลงจากรถและเปิดประตูให้พวกเขาอย่างมีความสุขชาร์ลีเพียงแค่ลูบจมูกของเขาอย่างแหย ๆ โดยไม่พูดอะไร เขารู้ดีว่าซีคได้ฉวยโอกาสที่ดีที่สุดในการประจบประแจงเขาและบังเอิญเขาต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี เขาจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอครั้งนี้คนขับขับต่อไป ขณะที่ซีคไปนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับและเริ่มการสนทนาแบบสบาย ๆ กับชาร์ลีระหว่างทางแคลร์ได้ฟังบทสนทนาของพวกเขาในขณะที่ความรู้สึกงงงวยเกิดขึ้นภายในตัวเธอซีค ไวท์เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในโอลรัสฮิลล์ซึ่งได้รับเกียรติยศและชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับคุณท่านวิลสัน บุคคลนี้มักจะมีอารมณ์ที่มั่นคงและเข้มงวด แต่ในรถแคลร์ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าซีคดูเหมือนจะพยายามเอาใจชาร์ลีเป็นอย่างมากจากนั้นเธอก็มองไปที่ชาร์ลีและพบว่าเขายั