ซีคกล่าวอย่างรวดเร็ว “คุณเวดนี่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงเวลาแบบนี้ยากที่สุดที่จะเรียกแท็กซี่นะครับ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ให้ผมไปส่งดีไหมครับ?”แคลร์ทั้งอยากรู้และสงสัยเกี่ยวกับความบังเอิญนี้ แต่เธอก็หมดหวังเกินกว่าที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้ “ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือนะคะ คุณไวท์”“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ” ซีครีบลงจากรถและเปิดประตูให้พวกเขาอย่างมีความสุขชาร์ลีเพียงแค่ลูบจมูกของเขาอย่างแหย ๆ โดยไม่พูดอะไร เขารู้ดีว่าซีคได้ฉวยโอกาสที่ดีที่สุดในการประจบประแจงเขาและบังเอิญเขาต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี เขาจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอครั้งนี้คนขับขับต่อไป ขณะที่ซีคไปนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับและเริ่มการสนทนาแบบสบาย ๆ กับชาร์ลีระหว่างทางแคลร์ได้ฟังบทสนทนาของพวกเขาในขณะที่ความรู้สึกงงงวยเกิดขึ้นภายในตัวเธอซีค ไวท์เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในโอลรัสฮิลล์ซึ่งได้รับเกียรติยศและชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับคุณท่านวิลสัน บุคคลนี้มักจะมีอารมณ์ที่มั่นคงและเข้มงวด แต่ในรถแคลร์ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าซีคดูเหมือนจะพยายามเอาใจชาร์ลีเป็นอย่างมากจากนั้นเธอก็มองไปที่ชาร์ลีและพบว่าเขายั
ในสำนักงานจอร์จนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานของเขาโดยวางขาบนโต๊ะอย่างสบาย ๆ ขณะที่เขากำลังจีบผู้หญิงหลายคนในแอปหาคู่ในตอนนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นและมีข้อความโผล่ขึ้นมาจอร์จเม้มริมฝีปากด้วยความรำคาญ ในขณะที่เขาเปิดข้อความอย่างไม่เต็มใจนัก เขาก็เห็นว่านั่นคือตารางการสัมภาษณ์งานจากแผนกทรัพยากรบุคคลเขาขมวดคิ้วทันทีที่เห็นสิ่งตรงหน้าด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็เยาะเย้ยถากถางพลางเขย่าโทรศัพท์ใส่คนที่นั่งข้างๆ “เฮ้ เดามาสิว่าใครมาที่สไปค์เวิร์ธ”เจอร์รี่และโจแอนน์นั่งอยู่บนโซฟา พวกเขามาที่นี่เพื่อพบกับจอร์จโดยหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเขาความเย้ายวนใจที่แผ่ออกมาจากร่างกายของโจแอนน์ขณะที่เธอนั่งไขว่ห้างในชุดกระโปรงทรงเอและผมยาวหยักศกของเธอพาดลงมาที่ไหล่ เธอตรวจดูเล็บของเธออย่างหยิ่งผยองและถามว่า “ใคร?”“ชาร์ลี เวดและแคลร์ วิลสัน!” จอร์จเดาะลิ้นอย่างดูถูกเหยียดหยามและเยาะเย้ย “แคลร์มาสมัครงานที่นี่ มันแปลกมาก”เจอร์รี่ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "พวกเขาถึงมาที่นี่ทำไม?”โจแอนน์ตอบว่า “เมื่อคืนฉันได้ยินแคลร์พูดว่าเธอกับชาร์ลีถูกไล่ออกจากตระกูลวิลสัน เธอต้องหางานใหม่เพราะเธอไม่สามารถอยู่ที่
แคลร์ไม่ได้รู้ว่าจอร์จมาที่นี่เพื่อทำอะไร เธอจึงรีบพูดตอบจากความสุภาพของเขาว่า “จอร์จ นายต้อนรับกันเกินไปแล้ว”จอร์จวางรอยยิ้มที่ดูน่าเกรงขาม เขาหยิบเรซูเม่ของแคลร์มาจากโต๊ะและพลิกดูอย่างสบาย ๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ว่า “แคลร์ ฉันต้องขอโทษด้วยนะ แต่จากสิ่งที่ฉะนเห็นในเรซูเม่ของเธอ คุณสมบัติของเธอไม่ตรงตามข้อกำหนดของเรา ไม่ว่าจะทักษะหรือประสบการณ์ก็ตาม เธอไม่เหมาะกับความต้องการของเราเลย”จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและพูดต่อว่า “ฉันขอโทษด้วยนะแคลร์ เธอไม่ผ่านการสัมภาษณ์ ฉันขอแนะนำให้เธอลองไปสมัครบริษัทอื่นจะดีกว่า โชคดีนะ!"แคลร์รู้สึกตกใจกับการปฏิเสธอย่างรุนแรงของเขาและรีบพูดว่า “แต่ฉันทำงานที่ฝ่ายบริหารของวิลสันกรุ๊ปมาหลายปีแล้วนะ! ฉันมั่นใจว่าความเป็นมืออาชีพของฉันตรงตามเกณฑ์ที่บริษัทของนายระบุไว้”จอร์จส่ายหัวและกล่าวอย่างหนักแน่นว่า "ไม่นะ สิ่งที่เธอเรียกมันว่าคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอเป็นเพียงเพราะเธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลวิลสันเท่านั้น แถมตอนนี้เธอยังถูกไล่ออกจากตระกูลแล้วด้วยซ้ำ โดยพื้นฐานแล้วเธอก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ก็ได้ เอาอย่างที่นายว่าก็ได้” แคลร์มองลงไปอย่างหดหู
จอร์จหัวเราะอย่างมีชัย "รอก่อนแล้วคอยดูได้เลย ถ้าฉันได้เข้าร่วมคณะกรรมการแล้วล่ะก็ ไอ้พวกนี้คงจะตกใจอ้าปากค้างแล้วต้องมาเทิดทูนฉันแน่ ๆ !”เจอร์รี่ถามด้วยความประหลาดใจ “จอร์จ นี่นายจะไปเป็นหนึ่งในกรรมการงั้นเหรอ?”“ใกล้แล้วล่ะ” จอร์จพูดด้วยรอยยิ้มที่พอใจ “เผอิญว่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ถ้าทุกอย่างราบรื่นฉันก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือน!”“โอ้โห เจ๋งว่ะเพื่อน!” เจอร์รี่ยกนิ้วให้เขาและอุทานว่า “จอร์จ อย่าลืมเพื่อนของนายถ้านายได้เป็นกรรมการนะ!”จอร์จพยักหน้า "แน่นอน! ไม่ต้องกังวล เพราะฉันจะคอยดูแลนายเอง”ในระหว่างการสนทนา มีเสียงดังโครมและประตูห้องทำงานของจอร์จถูกเตะจนเปิดออกอย่างรุนแรง“ไอ้เวรที่ไหนกันที่กล้าเตะประตูห้องฉัน…”จอร์จตกใจกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เขากำลังจะร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสมาชิกคณะกรรมการทุกคนยืนอยู่ที่ประตูของเขาและก้มหัวให้ชายวัยกลางคนในชุดสูทด้วยความเคารพ เขาจ้องมองพวกเขาด้วยความงุนงงราวกับว่าโดนต้องคำสาปซีคจ้องมองจอร์จอย่างน่ากลัวและถามว่า “แกคือจอร์จ แฮร์ริสใช่ไหม?”ในความมึนงงจอร์จพยักหน้าช้า ๆ “ใช่ครับ ผมเอง”โดยไม่มีการเต
จอร์จทรุดลงกับพื้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความทุกข์ทรมานสาเหตุที่เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นเกี่ยวข้องกับสัญญาจ้างงานที่เข้มงวดซึ่งเขาได้ลงนามด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมนโยบายควบคุมคุณภาพของพนักงานของพวกเขา สไปค์เวิร์ธ คอร์เปอเรชั่นได้ออกสัญญาที่มีคสามต้องการเป็นอย่างมากและมุ่งเน้นต่อพนักงานซึ่งจะรับประกันการเลื่อนตำแหน่งหลังจากลงนาม แต่พวกเขาจะได้ผูกมัดกับบริษัทอย่างเต็มที่ ซึ่งการันตีได้จากการเลื่อนตำแหน่ง แต่พวกเขาต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาคุ้มค่าพอและทำงานหนักเพื่อเป็นผู้ภักดีต่อบริษัท หากพวกเขาไม่ผ่านตัวชี้วัดประสิทธิผลหรือมีข้อขัดแย้ง บริษัทจะยื่นคำร้องที่มีมูลค่าจำนวนมากต่อพวกเขาหลายคนกลัวที่จะเซ็นสัญญาดังกล่าว เนื่องจากข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เข้มงวด แต่ในขณะนั้นจอร์จเป็นบัณฑิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงลงนามในสัญญาอย่างเด็ดขาดแม้ว่าจะได้รับผลที่ไม่ยุติธรรมก็ตามอันที่จริงแล้วเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งทันทีและบริษัทก็ชื่นชมเขามาก แต่ตอนนี้ผลลัพธ์ที่ขมขื่นกำลังรอเขาอยู่!จอร์จคุกเข่าบนพื้นอย่างสั
แคลร์ถอนหายใจหนัก ๆ และพูดว่า “ตอนนี้หางานยาก ฉันได้แต่มอง และคอยดูว่าโชคของฉันพาฉันไปที่ไหน”“แล้วเอ็มแกรนด์ล่ะ?”แคลร์ส่ายหัว “นี่คุณล้อเล่นเหรอคะ? เอ็มแกรนด์ไม่ใช่ซูเปอร์มาร์เก็ตนะคะ ฉันไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามที่ฉันต้องการ แล้วพวกเขายังมีระบบการประเมินและการให้คะแนนพนักงานที่เข้มงวดมาก มันคงเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดและน่าอายสำหรับฉันที่จะเริ่มจากศูนย์ที่นั่น”ชาร์ลีถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงชี้นำว่า “ที่รัก ผมคิดว่าบางทีคุณควรเริ่มธุรกิจของตัวเองนะ!”“เริ่มธุรกิจของตัวเอง?” แคลร์ถามด้วยความประหลาดใจ “แต่ว่าจะเริ่มยังไงล่ะคะ?”“คุณอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มาหลายปีแล้ว ผมพนันได้เลยว่าตอนนี้คุณมีเครือข่ายมืออาชีพและคอนเนคชั่นเป็นของตัวเอง ผมเห็นว่าดอริส ยังจากเอ็มแกรนด์กรุ๊ปดูเหมือนจะชอบคุณมาก แล้วซีค ไวท์ก็ไว้วางใจให้ผมดูแลและจัดการกับโชคชะตาของเขา ผมคิดว่าเขาจะให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีนะครับ”แคลร์หัวเราะเยาะเย้ยตัวเองและพูดว่า “ที่รักคะ เราต้องมีเงินทุนอย่างน้อยยี่สิบถึงสามสิบล้านบาทเพื่อเริ่มต้นธุรกิจนะ เราจำเป็นต้องเร่งหาเงินทุนที่ตามมาให้มากขึ้นในบริษัทเพื่อให้ธุรกิจนี้ดำเนินต่อไป
เนื่องจากแรงผลักดันและการให้กำลังใจของชาร์ลี แคลร์ใช้เวลาตลอดทั้งคืนในการพลิกผันและคิดเกี่ยวกับธุรกิจของเธอ เธอดูค่อนข้างอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าในเช้าวันรุ่งขึ้นเนื่องจากการนอนหลับไม่เพียงพอหลังจากตื่นขึ้นมาแคลร์ก็รีบทำให้ตัวเองสดชื่นขึ้น ชาร์ลีขมวดคิ้วกับสิ่งที่เขาเห็นแล้วถามว่า “ที่รักทำไมคุณไม่นอนล่ะ? มีอะไรเร่งรีบงั้นเหรอครับ?”“ฉันจะต้องไปมิลเลเนียม เอนเตอร์ไพรส์ ฉันไปสายไม่ได้เด็ดขาด”“มิลเลเนียม เอนเตอร์ไพรส์? สัมภาษณ์อีกแล้วเหรอครับ?”“ไม่ใช่ค่ะ” แคลร์ส่ายหัวและพูดอย่างร่าเริงหลังจากหยุดไปชั่วครู่ว่า “ฉันกำลังพยายามมองหาโครงการสำหรับตัวเองน่ะค่ะ”“เยี่ยมมาก!” ชาร์ลียิ้มอย่างมีความสุข “ถ้าคุณเริ่มต้นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ผมจะเป็นพนักงานคนแรกของคุณเอง”“คุณคิดว่าการเริ่มต้นบริษัทรับเหมาก่อสร้างก็เหมือนกับการทำอาหารเย็นหรือไงกันคะ? เงินทุนและคอนเนกชั่นเป็นเกณฑ์หลักสำหรับธุรกิจเพื่อการมุ่งมั่นดำเนินการและต้องอยู่รอด” แคลร์กล่าว “ฉันอยากเริ่มต้นจากสำนักงานเล็ก ๆ และวาดแบบออกแบบให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ถ้าฉันสร้างคอนเนกชั่นที่สำคัญให้ตัวเองและมีเงินทุนเพียงพอฉันจะจดทะเบียนบร
ชาร์ลีรีบออกจากบ้านในขณะที่การทะเลาะกันยังคงดำเนินไปอย่างรุนแรงอยู่ภายในบ้านมันจะเป็นการดีที่สุดสำหรับเขาที่จะหลีกเลี่ยงจากปัญหาเบาะแว้งที่น่ารำคาญในครอบครัวชาร์ลีเข้าไปในร้านกาแฟเล็ก ๆ สั่งของว่างและตัดสินใจใช้เวลาพักผ่อนที่นั่นจนถึงตอนเย็นที่แห่งนี้คือถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงในโอลรัสฮิลล์ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านชาร์ลีกำลังเพลิดเพลินกับอาหารของเขา เมื่อจู่ ๆ เขาก็เห็นคนสองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนซึ่งหนึ่งคนนั้นดูคุ้นเคยเป็นพิเศษนั่นคือแคลร์ไม่ใช่เหรอ?ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารที่หรูหรามาก ชาร์ลีเห็นแคลร์นั่งอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่บนชั้นสองและตรงข้ามเธอคือชายวัยกลางคนในชุดสูทและรองเท้าหนัง สวมแว่นตากรอบทองแคลร์ถือแฟ้มงานและพูดคุยกับชายคนนั้นไม่หยุดราวกับว่าเธอกำลังแสดงผลงานและบทบาทใหม่ของเธอในฐานะนักออกแบบอิสระ และหวังว่าชายคนนั้นจะลงทุนในสถานประกอบการใหม่ของเธอแม้เธอจะกระตือรือร้นแต่ชายคนนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอเลย เขาพยายามจับมือแคลร์ด้วยการเอาแฟ้มจากเธอแต่งเธอดึงมือออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะทำสำเร็จชาร์ลีโมโหเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้!ไอ้สารเลวคนนั
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล