"ฮ่าฮ่า"
"นิทานอะไร"
"รุ่นพี่จะบ้าระบบกฎบ้าบออะไรของรุ่นพี่"
"เราต้องจัดให้มีการรวมตัวกัน"
"รุ่นพี่คะรุ่นพี่รับบทเป็นพระเอกละครเวทีเยอะไปไหม"
"เธออย่าทำเป็นเล่นสิ"
"ก็ได้ค่ะห้ามรักก็ห้ามรักอยู่แล้วอย่ามาหลงรักเค้าแล้วกัน" สโนว์หรือสโนไวท์เธอเป็นบุตรคนที่สองในพลโทกองทัพหรือเธอยังคงเป็นของผู้นำไทนั่นเอง
และกว่าที่ทุกวันนี้ก็ผ่านมาที่สำคัญที่สุดแล้วนักรบผู้พันกองทัพเลื่อนขั้นเป็นพลโทกองทัพ
ที่พูดถึงเรื่องการรวมเข้าด้วยกันเพราะคุณปู่ของเลื่องไปแล้วและเขาคือหลานชายคนโตเป้าหมายที่จะรับช่วงต่อ
แต่ด้วยวุฒิภาวะของเขายังไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้จักรพรรดิอย่างมากรับตอนนี้เหลือบไรต้องเล่นงานเขาแน่เรตินจึงคิดแผนนี้โดยรู้กันกับสโนไวท์แค่ประสิทธิภาพเพราะเหตุที่บุตรสาวของพลโทกองทัพซึ่งกองทัพก็มีอยู่แล้วที่บริษัทด้วยและเป็นรุ่นน้องในคณะของเขา
เฟินมีปัญหาเรื่องเรียนตั้งแต่อนุบาลจะต้องเป็นไปตามที่ติดตามคุณปู่จับตัวมาเลยเรียนเลยช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ส่วนสโนไวท์เป็นเด็กที่หัวดีและหัวไวมากเธอสามารถสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้ร้านอาหารเพื่อนรุ่นเดียวกันหมายถึงว่าตอนนี้เธอเรียนปีเดียวกับพี่ชายตัวเองเป็นผู้นำไทไม่เชื่อไม่ได้บอกใครๆ โดยตรงเรียนคนละคณะก็เลยได้โดยตรงได้...
และที่สโนไวท์ยอมจดทะเบียนกับเทวินเพราะเธอชอบการบริหารที่บ่งบอกถึงความสามารถในการบริหารบริษัทที่พ่อมีต่ออยู่ด้วย
"อนาคตข้างหน้าถ้าเธอมีแฟนฉันจะค่อยๆ ให้" หมายถึงสาเหตุว่าทำไมเขาคงทราบเรื่องนี้แล้ว
"เรื่องของฉันไม่ใช่ปัญหาหรอกค่ะ แต่รุ่นพี่บอกแฟนตัวเองหรือยังอาจจะเป็นเรื่องปกติในคณะบริหารธุรกิจและเทินหนุ่มหล่อประจำคณะบริหารมีแฟนอยู่แล้ว"
"เรื่องนั้นเราจะทำกันแบบเงียบๆยังไงถึงบริษัทของเราในกรุงเทพฯ" ตรวจสอบแล้วช่วงแรกๆอาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะเรียนจบยังไม่เดินทางเข้าบริษัทให้บ่อยที่สุด
หลังจากที่คุยกันเสร็จทั้งสองก็แยกย้าย
"บ้าไปแล้ว ใครจะไปรัก ชิ! กฎบ้าอะไร" สโนไวท์คิดถึงตอนที่เทวินพูด ..กฎเดียวที่มีอยู่ก็คือห้ามรักอีกฝ่าย เพราะเราแค่ร่วมมือกัน
เธอกับเขารู้จักกันมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ได้คบค้าสมาคมกัน จนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีกทีถึงได้โคจรมาพบกัน
ตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็พาเจอกันอยู่เป็นครั้งคราว เพราะพวกท่านเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่มาถึงรุ่นลูกไม่ใช่ว่าจะสนิทเหมือนพ่อแม่ เพราะทุกคนต่างก็มีสังคมเป็นของตัวเอง
สโนไวท์มีใบหน้าที่งดงามคล้ายคลึงกับแม่ และเธอก็เป็นคนที่ชอบแต่งเนื้อแต่งตัว ด้วยครอบครัวของเธอเป็นคนมีฐานะ สโนไวท์ก็เลยชอบใช้แต่ของแบรนด์เนม ถึงไม่ชอบก็มีคนจัดหามาให้
วันต่อมา..
"บ้านเราก็มีรถ ทำไมถึงอยากไปพักที่หอล่ะลูก" มโนราห์ไม่สบายใจมากเมื่อสโนไวท์ขอไปอยู่ที่หอพัก
"แม่คะลูกโตแล้วนะ แม่คิดว่าลูกจะทำตัวเหลวไหลหรือไง"
"แม่เชื่อใจลูก แต่แม่ว่ามันยังอันตรายอยู่ดี" ลูกสาวของเธอถือว่ายังเด็กมาก จะเรียกว่าเด็กกว่าทุกคนในมหาวิทยาลัยก็ได้ เพราะสโนไวท์สอบเทียบเข้าได้
"ทีพี่ทัพไทยังให้ไปพักกับเพื่อนได้เลย"
"มันไม่เหมือนกันนะลูก พี่เขาเป็นผู้ชาย"
"แม่ก็คิดว่าสโนว์เป็นผู้ชายได้นี่คะ"
"มันคิดแบบนั้นกันได้ด้วยเหรอ"
"ยังตกลงกันไม่ได้อีกเหรอแม่กับลูก" คนเป็นพ่อได้ยินคุยกันตั้งแต่เช้าแล้ว จนแต่งตัวจะออกไปทำงาน แม่กับลูกก็ยังคงคุยเรื่องเดิม
"คุณหาลูกน้องไปเฝ้าลูกหน่อยได้ไหมคะ" รู้แล้วว่าตัวเองคงห้ามลูกสาวไม่ได้
"ลูกน้องงั้นเหรอ" พลโทกองทัพใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เลยนึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ "เราเรียนคณะเดียวกับพี่เทวินไม่ใช่เหรอ"
"ใช่ค่ะ"
"พี่เขาก็พักอยู่หอนี่"
"แต่เทวินเป็นผู้ชายนะคะ"
"พูดเหมือนลูกน้องผมไม่ใช่ผู้ชาย และอีกอย่างตาเทวินก็เป็นเด็กดี" กองทัพยังเคยพูดเปรยๆ ไว้เลย ว่าอยากจะได้เทวินมาเป็นลูกเขย
"นะคะแม่ ขนาดพ่อยังไม่ว่าอะไรเลย"
"หึ.. ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของคุณนะ" พอพูดไปแล้วก็กลัวภรรยาจะงอนเอา ก็เลยรีบออกตัว
"คุณก็เลี้ยงลูกเสียแบบนี้ ลูกเป็นผู้หญิงนะคะ" คนเป็นแม่เริ่มใจอ่อน เพราะลูกของเธอไม่เคยนอกลู่นอกทาง แถมตั้งใจเรียน หาได้น้อยมากที่จะสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้ก่อนวัย เพราะมันยากยิ่งกว่าเอนทรานซ์เสียอีก
"เดี๋ยวผมจะโทรไปหาเจ้าเทวิน ฝากให้ดูแลน้อง" กองทัพคิดว่าดีเหมือนกันทั้งสองจะได้สนิทสนมกันไว้ เผื่ออนาคตข้างหน้าได้ดองกับเพื่อนจริงๆ คงสนุกน่าดู
มโนราห์เคยถูกแม่ทอดทิ้ง พ่อไม่สนใจ เธอก็เลยคิดว่าจะทุ่มเทเวลาให้กับลูกๆ แต่มันไม่ใช่แบบที่คิดเลย เพราะลูกๆ ต้องการอิสระมากกว่า
หลายวันต่อมา..
ตั้งแต่เล็กจนโต สโนไวท์ไม่ค่อยมีอิสระ เพราะแม่หวงมาก แต่พอได้ออกมาใช้ชีวิตนอกกรอบ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด แต่เธอชอบแบบนี้นะ
"แม่?" ก่อนถึงคณะก็เห็นว่าแม่ยืนรออยู่หน้าคณะ "แม่มาทำไมคะ"
"เป็นไงบ้างจ๊ะ อยากกลับบ้านเราหรือยัง"
"แม่คะ สโนว์เพิ่งออกมาได้สองวันเอง"
"ถ้าวันไหนลูกเหงาก็โทรหาแม่นะ เดี๋ยวแม่มาอยู่เป็นเพื่อน" จริงๆ แล้วไม่ใช่ลูกเหงาหรอกแม่ต่างหากที่เหงา
"ค่ะแม่" ทำไมสโนไวท์จะไม่รู้ แต่ถ้าเธอไม่ออกมาแบบนี้ ก็คงไม่ได้เดินตามฝันที่อยากเป็นนักธุรกิจ เพราะแม่คงไม่ให้ทำ
"แม่กลับเถอะค่ะ สโนว์มีเรียนเช้า"
"แม่ยังไม่กลับหรอก แม่ว่าจะไปหาพี่ชายเราก่อน"
"ถ้างั้นสโนว์ไปนะคะ บายค่ะ" สโนไวท์สดใสร่าเริงด้วยวัยของเธอ ที่ไม่เป็นห่วงแม่มากมาย เพราะที่บ้านก็มีแม่บ้านที่จะเป็นเพื่อนแม่อยู่อีกเป็นสิบ ถ้าคุณปู่กับคุณย่ากลับมาจากไปเที่ยวรอบโลกก็คงจะดี แม่จะได้ไม่ต้องเหงาแบบนี้ ตั้งแต่ปลดเกษียณพลเอกเกษมราษฎร์ก็พาภรรยารักเที่ยวไปทุกที่ที่เคยคุยกันว่าอยากจะไป
"อีกสามวันจะมีการประชุม ที่บริษัท"
"อุ๊ย รุ่นพี่ทำไมโผล่มาแบบนี้ล่ะคะ" พอแยกจากแม่แล้ว เดินมายังไม่ถึงไหน เทวินที่หลบอยู่มุมหนึ่งของตึกก็ได้พูดขึ้นมา
"เพราะฉะนั้นเรื่องจดทะเบียนสมรสเราต้องทำให้จบภายในสองวัน"
"รุ่นพี่ก็พูดเป็นการ์ตูนไปได้ ฉันเพิ่งจะ 18 รู้ไหมว่าการจดทะเบียนสมรสกับเด็กต่ำกว่า 20 ต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม"
ความฉลาดของเธอทำให้เขาเพิ่งคิดขึ้นมาได้ แล้วจะให้ใครเซ็นดีล่ะ เพราะผู้ปกครองของเธอก็คงมีแต่พ่อกับแม่ พูดถึงแม่แล้วคงเป็นไปไม่ได้ หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไรดี
"เราต้องเล่นละครกันแล้วล่ะ"
"เล่นละครยังไงคะ"
"เย็นนี้เจอกัน เรามาพักที่หอแล้วไม่ใช่เหรอ"
สโนไวท์ไม่ได้ถามหรอกว่าเขารู้ได้ยังไง คงรู้จากพ่อของเธอนั่นแหละ "ค่ะ"
"เทวิน?" พอได้ยินเสียงนี้เรียกทั้งสองก็รีบแยกกัน แต่คนที่มาใหม่ก็เห็นมาแต่ไกลแล้วว่าพวกเขากำลังคุยกันอยู่
"เมื่อกี้คุยอยู่กับใคร" เธอคนที่เข้ามาใหม่ มองตามผู้หญิงคนเมื่อสักครู่ไป ด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ปลื้มเอามากๆ"รุ่นน้องที่คณะ""วิรู้แล้วค่ะ ที่วิถาม หมายถึงอยากให้เทวินอธิบายมากกว่านี้" วิหรือวิชุดาคนนี้แหละที่สโนไวท์พูดถึง เธอคือหญิงคนรักของเทวิน ถึงแม้เทวินจะอายุเยอะกว่าเพื่อนในห้องหนึ่งปี แต่เขาก็ให้พวกเพื่อนๆคุยกับเขาเหมือนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน"ผมก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวบ้าง""เราเป็นแฟนกัน วินยืนคุยอยู่กับรุ่นน้องที่เป็นผู้หญิงจะไม่ให้วิหึงเลยเหรอคะ""ก่อนที่จะตกลงเป็นแฟน เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน" นี่แหละมันคือนิสัยของเทวินเลย เหมือนที่เขาตั้งกฎกับสโนไวท์นั่นแหละ"วิน!" วิชุดาหน้าบึ้งเดินไปทางที่ผู้หญิงคนนั้นไป"วิชุดากลับมา""วิจะไปคุยกับมันค่ะ""ผมบอกให้กลับมา"ฟังแค่น้ำเสียงก็รู้แล้วว่าเทวินกำลังปกป้องเธอคนนั้น "อย่าให้รู้นะว่าวินกำลังคบซ้อน""ผมว่าเราควรจะทบทวนความสัมพันธ์ของเราก่อนดีไหม""ไม่นะวิน วิขอโทษ"ถ้าให้เลือกระหว่างบริษัทของคุณปู่กับผู้หญิง เทวินจะไม่คิดให้เสียเวลาเลย เพราะยังไงเขาต้องเลือกบริษัทของคุณปู่อยู่แล้ว ช่วงหลังที่พ่อ
"ทำไมเหรอ..น้องมีปัญหาอะไร""ปัญหานะมีแน่ค่ะ คนเขายืนรอกันมาตั้งหลายนาทีแล้ว รุ่นพี่มาถึงจะมาแย่งเข้าข้างหน้าไม่ได้นะคะ""ก็ฉันจองไว้ก่อนแล้วนี่""รุ่นพี่จองตั้งแต่เมื่อไร""ตั้งแต่เมื่อวาน""ถ้างั้นรุ่นพี่คงต้องได้จองใหม่แล้วล่ะค่ะ""ฉันว่าพอเถอะ" ข้าวหอมกลัวมากกลัวว่าจะมีเรื่องกับรุ่นพี่ เพราะทั้งสองก็เพิ่งเข้ามาเรียน ถ้ามีเรื่องกับรุ่นพี่การเรียนคงไม่ราบรื่นแน่"ตกลงจะซื้อกันไหม ถ้าไม่ซื้อก็หลบให้คนข้างหลังเข้ามา" แม่ค้าเริ่มจะไม่ปลื้ม เพราะคนที่ทะเลาะกันยืนขวางหน้าร้านอยู่"ป้าอ่อนคะ เฟิร์นขออันนี้ อันนี้" แม่ค้าที่เฟิร์นเรียกว่าป้าอ่อนก็ลงมือตักอาหาร ตักสองอย่างนั้นยังไม่เสร็จด้วยซ้ำเฟิร์นก็ชี้อันอื่นอีกจนบางคนเปลี่ยนใจไปซื้อร้านอื่น เพราะเห็นแล้วว่าคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหน้าถูกรุ่นพี่แกล้ง"เฟิร์นฉันฝากซื้อเผื่อแฟนฉันด้วยนะ" ขณะที่เฟิร์นกำลังคิดอยู่ว่าจะเอาอะไรอีกดี เสียงวิชุดาก็ดังขึ้นและจงใจให้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ยิน"เทวินน่ะเหรอ เธอจำได้ไหมว่าแฟนชอบทานอะไรเป็นพิเศษ"สายตาสโนไวท์เริ่มเก็บรายละเอียด และสมองของเธอก็ประมวลผล รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่รุ่นพี่เฟิร์นทำไป คงเพราะแรงยุ
"อะไรคือห้อง 44" วิชุดาหันมองตามสโนไวท์ที่พูดแล้วก็รีบเดินหนีไป "บอกมาเดี๋ยวนี้นะวิน ว่าอะไรคือห้อง 44"แต่เทวินไม่ได้ตอบ เขายังคงตักอาหารขึ้นมาทานเหมือนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น"เธออย่ายอมนะวิ ฉันคิดว่าต้องเป็นเบอร์ห้องที่แม่นั่นอยู่แน่เลย" บ่างช่างยุสะกิดพูดเบาๆ"วิไม่หิวแล้วค่ะ" วิชุดาพูดพร้อมกับขยับถ้วยออกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทานอะไร แล้วก็ลุกขึ้น"แกจะยอมแพ้เหรอ"เทวินเหลือบตามองเพื่อนของวิชุดาเล็กน้อย ก่อนที่จะหันกลับมาสนใจอาหารหลายคนต่างก็ให้ความสนใจตอนที่วิชุดาและเฟิร์นเดินตามรุ่นน้องคนนั้นออกไป เพราะคิดว่าคงมีเรื่องแล้ว"เธอไม่น่าหาเรื่องเลยนะ" ข้าวหอมที่เดินตามมาคิดว่าจะเรียกสติเพื่อน"ถ้าเธอกลัว จะไม่คบกับฉันก็ได้นะข้าวหอม" สโนไวท์เปิดใจคบกับข้าวหอมคนแรก ที่จริงในมหาวิทยาลัยยังไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นใคร"กลัวน่ะฉันกลัวแน่ แต่ฉันคงไม่ทิ้งเพื่อนเพราะเรื่องแค่นี้หรอก เธอก็ระวังตัวหน่อยแล้วกันควบคุมอารมณ์ให้ได้" แต่ขณะที่ทั้งสองหยุดคุยกัน งานก็ได้เข้าอีกครั้ง ..รุ่นพี่สองคนนั้นเดินมาถึง คนหนึ่งดักหน้า อีกคนอยู่ด้านหลัง"ถึงฉันไม่หา..เรื่องก็มาหาฉันอยู่ดี" ใครอยากจะสร้างศัตรูไม่มีหรอก แ
สโนไวท์กลับมาที่ห้อง ก็เห็นว่าหน้าห้องของเธอมีถุงขยะวางอยู่ แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใคร"เล่นอะไรเหมือนเด็กไปได้" หญิงสาวไม่สนใจถุงขยะ เธอใช้เท้าเขี่ยออกจากหน้าห้องเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดประตู"มันอยู่ห้องนี้จริงด้วย" พวกเขาเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว ไม่มีหรอกหอแยกหญิงชาย ห้องเบอร์ 44 ก็ไม่ได้มีแค่ตึกเดียวด้วย ทั้งสองลองไปดูมา 2-3 ตึกแล้ว"ห้อง 45 ว่าง พรุ่งนี้เราไปขอจองกัน" มองไปเห็นป้ายติดไว้ว่าห้องว่าง วิชุดาคิดว่าอยู่ใกล้หูใกล้ตาดีกว่า"มันต้องเด็ดขาดแบบนี้สิเพื่อน""เธอต้องช่วยฉันนะเฟิร์น ฉันไม่ยอมเสียเทวินง่ายๆ แน่""ฉันจะช่วยเธอสุดใจขาดดิ้นไปเลย" เฟิร์นรู้ดีว่าถ้าช่วยเรื่องนี้ได้ วิชุดาต้องตบรางวัลให้อย่างงามแน่เช้าวันต่อมา.."อะไรนะคะ? ห้องเบอร์ 45 มีคนจองไปแล้วเหรอ?""จองเมื่อคืนนี้เองค่ะ""เจ้าของห้องย้ายเข้ามาอยู่หรือยังคะ""ยังหรอกค่ะ""ถ้างั้นฉันให้สองเท่า""ไม่ได้หรอกค่ะ ทางนั้นจ่ายค่าห้องมาเป็นปีแล้ว""อะไรนะ?"พอไม่ได้ห้องจริงๆ ทั้งสองก็เลยกลับมาที่ห้องของตัวเอง"เสียดายจัง เราน่าจะมาจองตั้งแต่เมื่อคืนนี้""ฉันไม่มีวันยอมแพ้แค่นี้แน่" เอาแม่นั่นไม่อยู่ก็หันมาเอาคนของ
"เชิญที่ห้องนี้เลยค่ะ" พนักงานของร้านอาหารออกมารอต้อนรับท่านนายพลทั้งสอง ก๊อก..ก๊อก.. ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้อง พนักงานได้เคาะส่งสัญญาณบอกคนด้านในก่อนเพื่อเป็นมารยาท "??/???" พอประตูเปิดออกเท่านั้นแหละ จากที่คุยหัวเราะเดินตามกันมาเมื่อสักครู่ถึงกับพูดไม่ออก"เทวิน!" ศิลาตะคอกลูกชายให้ปล่อยคนที่กำลังกอดอยู่ "ทำอะไรกัน" กองทัพก็ตกใจไม่แพ้เพื่อนเลย เพราะผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของลูกชายเพื่อนก็คือลูกสาวของเขานั่นเอง"คุณพ่อคะ" สโนไวท์ใช้มือดันหน้าอกเทวินเล็กน้อย เพื่อไม่ให้หน้าอกของเธอสัมผัสกับอีกฝ่าย "ปล่อยน้องนะเทวิน" ถึงแม้กองทัพไม่พูดศิลาก็ต้องห้ามลูกชายไม่ให้ทำแบบนี้ถ้าคนที่กอดลูกสาวอยู่ไม่ใช่ลูกชายเพื่อนรัก ปืนที่พกติดรถประจำคงได้ใช้งานก็วันนี้แหละ"ผมกับสโนว์เรารักกันครับ" เขาไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดเธอแน่นกว่าเดิม "อะไรนะ?!" ประโยคนี้พ่อทั้งสองพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน"คุณพ่อฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมรักเธอ" "ตั้งแต่เมื่อไร" กองทัพถามเพราะไม่คิดว่าพวกเขาจะสนิทสนมกันจนถึงขั้นที่เรียกว่ารัก"ตอนที่น้องเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยครับ" ถ้าจะบอกว่าก่อนหน้านั้น พวกท่านต้องสงสัยแน่ เพราะเธอกับเ
"เมื่อกี้พ่อฟังผิดใช่ไหม" ศิลาพูดพร้อมกับปลายหางตามองไปดูเพื่อน ตอนนี้เริ่มกลัวแล้ว..กลัวว่าเพื่อนจะลุกขึ้นมากระทืบลูกชายตัวเอง"พ่อฟังไม่ผิดหรอกครับ อย่าขัดขวางความรักของเราทั้งสองคนเลยนะครับ""พวกเราสองคนกำลังเรียนอยู่ เอาไว้เรียนจบค่อยคุยเรื่องนี้ กลับบ้านกันลูก" กองทัพเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว คนเป็นพ่อยื่นมือไปกำลังจะคว้าแขนลูกสาว ให้ออกมาจากอ้อมกอดของลูกชายเพื่อน"ไม่ค่ะพ่อ สโนว์รักพี่เทวิน สโนว์ไม่ได้ขู่ถ้าพ่อไม่ให้เราสองคนจดทะเบียนกัน ลูกจะหนีตามพี่เขาไป" พอพูดจบใบหน้าสวยหวานนั้นก็แนบลงกับลำตัวของคนที่เธอบอกรักอึก! ถ้าตั้งใจฟังคงได้ยินเสียงกลืนน้ำลายลงคอของอีกฝ่าย ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆ ก็รู้อยู่ว่าที่เธอทำไปแค่เล่นละคร"เอาเป็นว่าพ่อจะเก็บไปพิจารณา แต่วันนี้พ่อจะพาน้องกลับบ้านก่อน" กองทัพยังคงพูดแบบใจเย็น"ไม่ค่ะ สโนว์ไม่กลับ" สโนไวท์กอดเทวินแน่นขึ้น "พ่อคะตอนนี้เราสองคนพักอยู่ด้วยกันแล้วค่ะ"จากที่ยืนอยู่กองทัพถึงกับทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมแบบไม่มีแล้วเรี่ยวแรงที่จะยืน คงแบบนี้สินะที่ลูกสาวอยากย้ายออกมาอยู่หอพัก"เทวิน!" ศิลาจ้องลูกชายตาเขม็ง ไม่คิดว่าลูกชายจะชิงสุกก่อนห่าม แถมกับลูกส
ถ้าเขาเจรจากับพ่อทั้งสองท่านไม่ได้ ก็ยังไม่ให้นายทะเบียนเข้ามา เพราะถ้านายทะเบียนเข้ามาเห็นว่ามีการแย้งเรื่องนี้จากผู้ใหญ่ การจดทะเบียนสมรสครั้งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้"ลุกขึ้นทั้งสองคน มาคุยกันดีๆ" กองทัพคิดว่าตายเป็นตาย ในเมื่อเด็กรักกันขนาดนี้ ค่อยเคลียร์กับเมียทีหลังแล้วกัน เพราะเขารู้ดีว่าถ้า มโนราห์ภรรยารักรู้เรื่อง สโนไวท์คงไม่เห็นเดือนเห็นตะวันอีกแน่"คุณพ่อยอมให้เราทั้งสองจดทะเบียนสมรสกันแล้วใช่ไหมคะ""ท่านบอกว่าให้ลุกขึ้นไปคุยกัน" เทวินกระซิบพูด เพราะถ้าเธอไม่ลุกตอนนี้ มือของเขามีหวังได้ตัดทิ้งแน่"ไม่ค่ะ ถ้าคุณพ่อไม่ตกลง สโนว์ก็ไม่ลุก"แม่คุณเอ้ยจะเล่นสมบทบาทไปถึงไหน "ลุกขึ้นมา""เย่ดีใจจังเลยค่ะ" ก่อนที่จะลุกสโนไวท์ทิ้งแรงลงที่เข่าแบบลืมตัว ซี๊ดดดด อย่าให้ถึงทีเอาคืนแล้วกัน ..ชายหนุ่มค่อยๆ ยกมือที่เพิ่งเป็นอิสระขึ้นมามองดู เพราะตอนนี้มันแทบจะขยับนิ้วไม่ได้"ไหวไหมล่ะเรา" ศิลามองลูกชายก็รู้แล้ว ให้ผู้หญิงทับนานขนาดนั้น"ไหวสิครับพ่อ ก็ผมรักของผมนี่" ปากบอกรักแต่สายตาเอาเรื่อง จนคนที่แกล้งเมื่อสักครู่ไม่กล้ามอง "โทรศัพท์ในกระเป๋า" ชายหนุ่มกระซิบบอกหญิงสาวเบาๆ"รุ่นพี่ก็หย
พอไม่ได้คำตอบจากลูกๆ เรื่องคุมกำเนิด กองทัพคิดว่าตัวเองต้องเป็นคนจัดการให้แล้วล่ะ ถึงยังไงเขาจะปล่อยให้ลูกสาวท้องตอนที่กำลังเรียนอยู่ไม่ได้หอพักตึก C"รุ่นพี่ตามมาทำไม ฉันแค่โกหกพ่อว่าเราพักด้วยกัน" ทีแรกคิดว่าเขาแค่จะมาส่งที่ตึก แต่พออีกฝ่ายเดินตามเข้ามาในลิฟต์เธอก็เลยแปลกใจ"พี่ก็พักที่นี่" ทั้งสองไม่ได้มีท่าทีเหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าพ่อเลย"ฉันไม่ยักรู้ว่าพี่พักอยู่ตึก C"เทวินยังไม่ตอบประตูลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้น 4 เขาเดินนำหน้าเธอออกจากลิฟต์แบบไม่ได้สนใจ"เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันทางไปห้องฉัน" สโนไวท์รีบเดินตามไป "หือ?"แต่พอเขาเดินผ่านห้องเบอร์ 44 ไปหยุดอยู่หน้าห้องเบอร์ 45 มันก็ยิ่งทำให้เธอแปลกใจมากกว่าเดิม"พี่เพิ่งย้ายเข้ามา เราจะอยู่ไกลกันไม่ได้ เดี๋ยวพวกท่านสงสัย""ฉลาดนี่ อุ้ยขอโทษค่ะ""ประตูระเบียงไม่ต้องล็อกนะ" พูดจบชายหนุ่มก็เข้าไปในห้องของตัวเอง"อะไรของเขา" สโนไวท์ไม่เข้าใจ แทนที่จะบอกไม่ต้องล็อกประตูหน้าห้อง แต่นี่บอกไม่ให้ล็อกประตูระเบียง "เป็นซุปเปอร์แมนหรือไง"กว่าจะกลับมาถึงห้องก็ค่ำมืดแล้วเข้ามาถึงในห้องเธอก็เดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียงแบบใช้ความคิด พอคิดมาถึงตอนที่ทั้งส
"จะไปไหน" เทวินรีบเดินตามสโนไวท์ออกไป ส่วนเทวายังคงนั่งอยู่ที่เดิมแบบทำอะไรไม่ถูก เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่าเขาไม่ต้องการมีครอบครัว ชีวิตโสดมันสุดแสนที่จะอิสระอยู่แล้วแต่สโนไวท์ไม่ได้บอกว่าเธอจะไปไหน พอออกจากห้องมาได้ สโนไวท์ก็เดินตรงไปจุดที่เกิดเรื่อง ..นั่นคือโต๊ะทำงานของข้าวหอม"บอสครับ" ก้าวหน้าและกุ้งนางที่นั่งอยู่หน้าห้องเห็นทั้งสองออกมาก็รีบเดินตามไปแกร็ก! มาถึงเธอไม่เสียเวลาเคาะเลยด้วยซ้ำ..สโนไวท์ก็เปิดประตูเข้าไป"??" อันอันที่มัวสนใจผลตรวจเลือดของข้าวหอมอยู่ เงยหน้าขึ้นมองคนที่เสียมารยาทเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตเพี๊ยะ! "เธอ!" พอถูกตบอันอันก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ "แกตบฉันทำไม?""ครั้งแรกฉันชำระบัญชีที่เธอตบเพื่อนฉัน""ครั้งแรก?"เพี้ยะ!!"โอ๊ย! นี่แก!!"คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มอง ไม่เคยเห็นสโนไวท์โมโหขนาดนี้มาก่อน และก็สงสัยด้วยว่าครั้งที่สองตบทำไมอีก เพราะอันอันก็ตบข้าวหอมเพียงแค่ครั้งเดียว"ครั้งนี้ฉันตบสั่งสอนหมาที่อยู่ในปากของเธอ""กรี๊ดดด! อีบ้า!!" อันอันรีบเดินอ้อมออกจากโต๊ะทำงานเพื่อจะมาเอาคืน แต่ยังอ้อมมาไม่ถึงก็ถูกขัดขวางจากก้าวหน้าก่อน ตามด้วยกุ้งนาง และอีก
เป็นแบบที่สโนไวท์คิดไว้ ข้อมูลของกล้องนั้นถูกลบ "ทำไมตอนที่ผมถามแผนกควบคุมกล้องวงจรปิดของบริษัท พวกเขาถึงบอกว่ากล้องนั้นอยู่ในช่วงที่กำลังซ่อมแซม" ก้าวหน้าซึ่งยืนอยู่ในห้องนั้นด้วยเห็นว่าตอนนี้เครื่องบันทึกภาพกำลังกู้คืนมาและเหตุการณ์เริ่มรันออกมาให้เห็นทีละน้อย"นั่นหมายถึงต้องเป็นคนที่มีอำนาจถึงสั่งพนักงานให้ลบคลิปและปิดปากได้ค่ะ""เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จัดการเอง" เทวินรับปากกับสโนไวท์ว่าจะจัดการเรื่องนี้เองพอสโนไวท์กู้ข้อมูลกลับมาได้ทั้งหมด ทุกคนก็นั่งดูคลิปเหตุการณ์วันและเวลาที่กุ้งนางบอกว่ามันเกิดเรื่องถ้าจำได้สโนไวท์เคยบอกว่าเธอไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร แต่ครั้งนี้พอเห็นเพื่อนถูกรังแก ทั้งการกระทำและคำพูด วาจานั้นถ่อยมากด้วย น้ำตาของเธอไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว จนคนเป็นสามีเอื้อมมือไปซับมันออกให้"ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้เลย" ก้าวหน้ามองกล้องตรงนั้น ถ้ารู้ว่าข้าวหอมถูกอันอันรังแกถึงเพียงนี้เขาคงไม่นิ่งดูดายแน่ส่วนกุ้งนางที่นั่งมองอยู่ก็ไม่คิดว่าคำพูดที่อันอันพูดออกมามันจะถึงขนาดนี้ได้ เพราะทั้งภาพและเสียงคมชัดมาก"ท้องเหรอ?" มีประโยคหนึ่งที่ออกจากปากของอันอันพูดว่าข้าวหอมแกล้งท้องเพื่อจะจับเ
"แต่ฉันไม่ได้อยู่คิวแรกนี่คะ" ข้าวหอมพอจะรู้แล้วว่าเธอติดร่างแหของอันอัน แต่ถึงยังไงก็ต้องปฏิเสธการตรวจให้ได้ก่อน"เธอเป็นผู้ช่วยฉัน ก็ต้องเป็นคนนำร่องสิ ฉันก็จะตรวจเหมือนกัน""ถ้างั้นคุณก็ตรวจก่อนสิคะ""การตรวจสุขภาพไม่น่ากลัวหรอกครับ" คุณหมอที่นั่งฟังอยู่คิดว่าสาวๆ กลัวเรื่องการตรวจ "ผมจะพยายามเบามือที่สุดครับ" ว่าแล้วคุณหมอก็หยิบเข็มขึ้นมาขอเจาะเลือดก่อนเป็นอันดับแรก"เจาะเลือดด้วยหรือคะ? แค่ตรวจสุขภาพไม่ใช่เหรอ""มีเพิ่มขึ้นมาหน่อยครับ" คุณหมอดูเอกสารที่มาร์คไว้เหตุผลก็ถือว่าใช้ได้ เพราะเผื่อบุคคลนั้นท้องไม่รู้ตัวจะได้ป้องกันเด็กในครรภ์ไม่ให้เป็นอันตรายจากการทำงานได้ที่สำคัญคือทุกคนเซ็นอนุมัติไว้แล้วตอนที่ทำเอกสาร..รวมทั้งข้าวหอมด้วยข้าวหอมเห็นคุณหมอตั้งใจทำงานถ้าเธอช้าทุกอย่างก็คงจะช้าไปด้วย เอาวะถึงยังไงเธอก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่แล้วอยากจะตรวจก็ตรวจไปสิ หญิงสาวยืนแขนไปให้คุณหมอเจาะเลือด แล้วก็วัดความดัน วัดการเต้นของหัวใจ"เสร็จแล้วใช่ไหมคะ""เสร็จแล้วครับ คนต่อไปเลยครับ" คุณหมอพูดในขณะที่กำลังจดรายละเอียดเพื่อนำไปวินิจฉัยต่อในเมื่ออันอันได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็เลยไม่ได้สนใจว่าข้
"รอยอะไร""ฉันคงเดินชนผนังห้องมั้งคะ หน้าถึงได้เป็นรอย""ทำไมต้องประชด ตอบมาตามตรงเลยไม่ได้หรือไง""นี่แหละค่ะมันตรงที่สุดแล้ว" ตาไม่มีหรือไงถึงไม่รู้ว่านี่มันคือรอยถูกตบ ไม่มีสมองคิดหรือไงว่าเมื่อสักครู่เธอมีเรื่องกับใคร ถ้าคนมันจะใส่ใจกันจริง ถ้าเห็นค่ากันจริง เขาคงสัมผัสได้ว่าเธอถูกรังแกก่อน แต่เขาคงถามไปงั้นๆ"เรื่องหมอ ฉันประสานงานให้แล้ว" เขาเป็นผู้ชายไม่ค่อยรู้หรอกว่าผู้หญิงต้องการให้สนใจถึงได้พูดประชด แต่เห็นว่าเธอพูดแบบนั้นคงไม่อยากให้เขายื่นมือเข้าไป ชายหนุ่มก็เลยพูดเรื่องที่เรียกเธอเข้ามาหาและที่เขารู้ เพราะวันนั้นตอนที่เธอคุยกับกุ้งนางและก้าวหน้าอยู่หน้าห้อง เทวาได้ยินทุกคำพูด ถึงแม้จะเข้าไปในห้องแล้วแต่ก็ไม่ได้ยืนห่างประตู"ค่ะ" แต่ข้าวหอมคิดว่าคงเป็นเธอคนนั้นขอร้องมา เขาถึงรีบจัดการให้ คนรักขอใครจะไม่รีบทำให้ล่ะ"หือ?" อีกอย่างหนึ่งที่เทวาอยากจะเห็นถึงได้พาเธอเข้ามาในห้อง..นั่นคือรอยยิ้ม ถ้าเธอได้ยินว่าเรื่องที่หนักใจอยู่มีคนจัดการให้แล้วเธอคงจะดีใจ แต่เขาไม่เห็นร่องรอยของความดีใจบนใบหน้าเธอเลย"แค่นี้ใช่ไหมคะ" พูดจบข้าวหอมก็หันมาที่ประตู แล้วก็เปิดมันออกพอประตูเปิดออก
แค่ผู้หญิงหน้าไม่อายคนหนึ่งทำไมเขาต้องมาสนใจเราด้วย อยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ได้เพราะนี่มันที่ทำงานช่วยงานในห้องประชุมเสร็จข้าวหอมก็กลับมาที่โต๊ะทำงาน ถ้าไม่เพราะเห็นแก่เพื่อนเธอคงไม่นั่งอยู่ที่นี่ให้พวกเขามองเธอเป็นตัวตลกแบบนี้หรอก เพราะเธอรู้ว่าพวกเขาคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ที่ทำกับเธอคืนนั้นคงเมา หรือแค่อยากจะลองดูว่าเธอจะง่ายไหมปึก! ขณะกำลังคิดอะไรอยู่นั้นก็ได้มีเอกสารวางลงตรงหน้า จะเรียกว่าวางก็คงไม่ใช่ เพราะคนที่ส่งให้แทบจะเรียกว่าโยนมันลงมา"อะไรคะ""ไปจัดการต่อด้วย"ข้าวหอมหยิบเอกสารนั้นขึ้นมาดูว่ามันคืออะไร พออ่านดูแล้วมันเกินความสามารถของเธอ ข้าวหอมก็เลยถือมันมาปรึกษากับกุ้งนางดู"ทำไมให้ผู้ช่วยประสานไปที่โรงพยาบาลเองด้วย ต้องให้ผู้ที่มีอำนาจสิ""คุณกุ้งนางพอช่วยได้ไหมคะ" ตอนนี้เธอเหนื่อยมากไม่อยากจะสู้รบปรบมือกับใครแล้ว เขาให้ทำอะไรก็ทำๆ ไป รอแค่สโนไวท์กลับมาเธอก็จะไปจากที่นี่แล้ว ความคิดใหม่ของข้าวหอมก็คือ..ถึงแม้สโนไวท์กลับมาเธอก็จะไม่อยู่ที่นี่แล้ว ไปตายเอาดาบหน้ายังดูมีค่ากว่าอยู่ที่นี่"เดี๋ยวพี่จะลองถามคุณก้าวหน้าดูว่าพอจะประสานให้ได้ไหม""มีอะไรกันครับ" ก้าวหน้าออก
ข้าวหอมรีบเปลี่ยนสีหน้าใหม่ แล้วเริ่มทำงานที่ถูกสั่งมาพนักงานในบริษัทไม่ใช่น้อยๆ ตรวจวันเดียวไม่หมดอยู่แล้ว คงใช้เวลาเป็นสัปดาห์ ไม่แน่ใจว่าจะหลีกเลี่ยงการตรวจได้ไหม แต่เธอสามารถใส่รายชื่อตัวเองในวันสุดท้ายได้ เผื่อว่าถึงตอนนั้นสโนไวท์จะกลับมาแล้วเย็นวันเดียวกัน.."จะกลับแล้วเหรอคะ" อันอันแกล้งเดินมาที่ลิฟต์เวลาเดียวกับเทวากำลังจะกลับ"ครับ""เสียดายจัง ถ้าพอมีเวลาว่าจะชวนคุณเทวาไปทานข้าวเย็นด้วยกันสักหน่อย""ผมมีเวลาครับ""ไปได้เหรอคะ" ทีแรกคิดว่าจะถูกปฏิเสธแล้วเชียว"พวกนายไม่ต้องตามมาฉันจะไปออกเดท""ไม่ได้หรอกครับ" วันนั้นที่ลูกน้องพ่อของเขาไม่ตามไปก็เพราะเป็นคนที่เขาจะแต่งงานด้วย แต่วันนี้ไม่ใช่เทวาส่ายหน้าแบบเอือมระอา แต่แค่นี้เหรอจะหยุดเขาได้"ไปกันครับ" พอเทวาเข้าไปในลิฟต์อันอันก็รีบตามไป และคนของพ่ออีกสองนายก็รีบตามเข้าไปในลิฟต์เช่นกันข้าวหอมที่ยืนรอรถกลับบ้าน เห็นเพื่อนมองก็เลยอดมองตามไม่ได้และสิ่งที่เธอเห็นคือ เบาะหลังของรถคันนั้นไม่ได้มีแต่เขาที่นั่งอยู่ ยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ"คนนี้เป็นลูกสาวของหุ้นส่วนไม่ใช่เหรอ" เสียงพนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดคุยกันข้าวหอมอ
"เจ็บ" คนตัวเล็กดันกายลุกจากท่อนเอ็นที่เขาพยายามจะดันมันเข้ามาให้ได้"ซี๊ดดด อย่าเพิ่งสิ" ถึงแม้เขาจะจัดการกับกางเกงชั้นในตัวนั้นไปแล้ว แต่มันก็ยังเข้าลำบากอยู่ดี และนั่นมันก็หมายถึง..เธอยังไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ากับใคร ช่องทางเข้าถึงยังไม่ขยายตัว เรื่องแบบนี้ผู้ชายเขารู้ดี"โอ๊ย" ข้าวหอมสะดุ้งเมื่อถูกเขาจับร่างกระแทกลงจนมันเข้ามาในร่างกายเกินครึ่งค่อนลำได้ "เจ็บ"สองมือหนาแนบไว้กับสะโพกงาม แล้วค่อยๆ จับร่างของเธอโยกทีละน้อยแบบช้าๆ มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าปล่อยเธอไปไม่ต้องมาเรียกเขาว่าเทวา"ซี๊ดด" เขายังคงจับร่างของเธอโยกและตอนนี้มันก็เข้าไปได้ลึกมากแล้ว คงเพราะในร่องของเธอเริ่มมีน้ำหล่อลื่นออกมา นั่นหมายถึงเธอก็เริ่มมีอารมณ์กับเขามากแล้วมือหนาสอดเข้าไปด้านหลังเสื้อที่เธอใส่อยู่แล้วปลดกระดุมเสื้อชั้นใน โดยเจ้าตัวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มันหลุดไปแล้ว"แน่นดีจังเลย" มือข้างหนึ่งขย้ำหน้าอกเพราะมันเต็มไม้เต็มมือแถมยังตั้งชูชันสู้มือ อีกข้างเขาจับร่างของเธอให้โยกโดยไม่ให้ขาดตอน "ซี๊ดดด ใจเย็นเดี๋ยวมันก็ขาดก่อนหรอก" ร่องเล็กบีบรัดตัวแน่นมากจนเขาเริ่มจะเจ็บยอดปลาย"อ่ะ..อ่ะ..อืออ" แต่ดูเหมือนข้าวหอมจ
"ดื่มหน่อยไหม" เทวายกแก้วเหล้าเข้ามาใกล้ริมฝีปากบาง ถึงแม้เขาจะถามแต่ก็ไม่เชิงบังคับให้ดื่ม"ฉันดื่มเองได้ค่ะ" ถ้าปฏิเสธเดี๋ยวก็ขู่อีก เธอก็เลยจำยอมต้องดื่ม"มีคนป้อนทำไมต้องดื่มเองด้วยล่ะ""อืมม" ข้าวหอมยอมเผยอปากออกเล็กน้อยถ้าไม่เช่นนั้นเหล้าคงได้ไหลเข้าจมูกแน่"??" คนที่เข้ามาใหม่เห็นภาพนั้นพอดี"เสด็จมาได้แล้วเหรอครับคุณชายวาฬ" เพื่อน 2-3 คนที่นั่งอยู่ก่อนหันไปทักทาย"ทำไมต้องนัดกันไกลขนาดนี้ด้วย" ปลาวาฬละสายตาจากภาพที่เห็นเมื่อสักครู่หันไปคุยกับเพื่อน แต่เขาก็ยังอดหันกลับมองมาดูเธอคนนั้นอีกครั้งไม่ได้เพราะเห็นว่าเธอสำลักเหล้าที่เทวาป้อนให้ดื่มเมื่อสักครู่"แอะๆ""อย่าบอกนะว่าดื่มไม่เป็น" เทวาวางแก้วเหล้าลงแล้วเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูมา"ฉันทำเอง""อยู่นิ่งๆ"ข้าวหอมกำลังจะเอากระดาษทิชชูจากเขามาเช็ด แต่พอเขาไม่ให้ เธอก็เลยยอมปล่อยให้เขาเป็นคนเช็ด"สงสัยจะเป็นแฟนมันหรือเปล่าวะ มาด้วยกันแถมเทคแคร์ดีอีกด้วย""แบบไอ้เทวาเนี่ยเหรอ กินเบื่อคงเขี่ยทิ้งอีกนั่นแหละ"ปลาวาฬได้ยินเพื่อนกระซิบพูดกัน ก็รู้ได้ในทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช่สาวที่ทำงานในผับแห่งนี้ที่จริงเทวาก็รู้แหละว่าปลาวาฬมาถ
"ฉันจะทำงานห้องนี้ทำความสะอาดด้วย""ค่ะ" มันเป็นห้องว่างและห้องโล่งมาก ทำความสะอาดก็คงไม่ยาก ข้าวหอมคิดว่าอันอันคงกำลังให้คนจัดโต๊ะทำงานและเฟอร์นิเจอร์เข้ามา ก็เลยหาอุปกรณ์มาปัดกวาดเช็ดถู"โต๊ะวางอยู่ข้างนอกไปยกเข้ามา""ให้ฉันยกเหรอคะ""เธอเป็นผู้ช่วยฉัน""เดี๋ยวฉันไปวานผู้ชายมายกให้ค่ะ""ฉันสั่งเธอยก""ฉันคงทำตามที่คุณพูดไม่ได้หรอกค่ะ" ข้าวหอมกำลังจะออกมาไหว้วานให้ผู้ชายข้างนอกยกโต๊ะเข้ามาให้ แต่ไม่ทันได้ออกก็ถูกอันอันคว้าตัวกระชากกลับเข้ามาในห้องก่อน"เธอเป็นแค่ขี้ข้าอย่ามาปากดี""คุณคงเข้าใจผิดแล้วมั้งคะ""ฉันรู้นะ ว่าเรื่องนั้นเธอแค่กุขึ้นมา ถ้าไม่เช่นนั้นผู้ชายคงไม่ดูหน้าตาตื่นตกใจขนาดนั้นหรอก" อันอันหมายถึงคืนวันที่ข้าวหอมบอกว่าท้องกับเทวา เพราะวันนั้นเทวาดูเหมือนไม่รู้เรื่องเลยแถมยังดูตกใจด้วย "เรากำลังพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่าคะ""คิดจะเปลี่ยนเรื่องงั้นเหรอ""เดี๋ยวฉันจะให้คนจัดโต๊ะเข้ามาให้ และจะลงไปขอผู้ช่วยขึ้นมาให้คุณใหม่""เธอจะขัดคำสั่งฉันหรือไง""โอ๊ยนี่คุณฉันเจ็บนะ" ครั้งนี้อันอันกระชากแรงกว่าครั้งแรกและเล็บก็ขูดที่แขนของข้าวหอมด้วย"เธออย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรนะ เ