Home / แฟนตาซี / The Light and Shadow : เงาทมิฬ / บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่

Share

บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2024-11-20 14:28:09

หลังจากการเดินทางผ่านป่าต้องห้าม ไรอัน ลีอา และอาเรียน่าก็มาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาลึก หมู่บ้านนี้เงียบสงบ เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และบรรยากาศที่ดูเหมือนจะปลอดภัยจากอำนาจของเงามืดที่ครอบงำป่ารอบนอก พวกเขารู้สึกถึงความอบอุ่นและเป็นมิตรของชาวบ้านที่ต่างออกมาต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม

"พวกท่านเดินทางมาไกล คงเหนื่อยล้ากันมาก ข้าขอต้อนรับพวกท่านเข้าสู่หมู่บ้านของเรา" ชายชราผู้หนึ่งกล่าวต้อนรับ

เขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยจากกาลเวลา แต่สายตาของเขากลับเปล่งประกายด้วยปัญญาและความเข้าใจ

"ข้าคือผู้เฒ่าปราชญ์แห่งหมู่บ้านนี้ เชิญพวกท่านเข้ามาพักผ่อนในบ้านของข้าเถิด"

ทั้งสามคนรับคำเชิญอย่างยินดี ผู้เฒ่าปราชญ์พาพวกเขาเข้าไปในบ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือเก่าๆ และวัตถุโบราณ ภายในบ้านมีเตาผิงที่ให้ความอบอุ่นและกลิ่นหอมของสมุนไพรที่ลอยคลุ้งในอากาศ

ลีอาเดินเข้าไปดูที่ตู้หนังสือทำจากไม้ เธอสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง ปกหนังสีน้ำตาล ตรงสันปกเขียนไว้ว่า 'อาณาจักรแอสทารา'

“ท่านผู้เฒ่า ข้าขอดูเล่มนี้ได้ไหมคะ”

ผู้เฒ่าหันมาตามเสียงเรียก เขามองตามนิ้วมือลีอาที่ชี้ไปยังหนังสือหนาหนักเล่มหนึ่งในตู้ เมื่อเห็นว่าเป็นหนังสืออะไร ชายชราก็ยิ้มอย่างอบอุ่น และเอากุญแจดอกเล็กมาไขเปิดตู้ หยิบหนังสือเล่มนั้นส่งให้

ลีอารับหนังสือมาพร้อมรอยยิ้มสดใส

“ขอบคุณค่ะ”

ลีอาหาที่นั่งตรงโต๊ะไม้เล็กๆ ไม่ไกลจากเตาผิง และนั่งเปิดหนังสือออกอ่าน

‘อาณาจักรแอสทารา (Astara): อาณาจักรแอสทาราเป็นดินแดนที่งดงามและเปี่ยมด้วยเวทมนตร์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและป่าทึบ ภูมิประเทศของแอสทารามีความหลากหลาย ตั้งแต่ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ ป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ไปจนถึงแม่น้ำที่ใสสะอาดและทะเลสาบที่สงบนิ่ง

ตรงกลางของอาณาจักรคือเมืองหลวงที่มีชื่อว่า "เอลดูรา (Eldura)" เมืองที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรและตั้งอยู่บนที่ราบสูง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบด้านได้อย่างชัดเจนเอลดูราเป็นศูนย์กลางของอำนาจและความรู้ในแอสทารา ที่นี่เป็นที่ตั้งของปราสาทหลวงที่สูงตระหง่าน ซึ่งเป็นที่พำนักของราชวงศ์และที่ประชุมของสภาผู้นำ ที่ประกอบด้วยขุนนางและผู้มีพลังเวทมนตร์จากทุกภูมิภาคของอาณาจักร พวกเขามีหน้าที่ปกป้องและดูแลความสงบสุขของแอสทารา รวมถึงควบคุมการใช้พลังเวทมนตร์ในอาณาจักร

พลังธาตุในอาณาจักรแอสทารา: ชาวแอสทารามีความสามารถพิเศษในการควบคุมพลังธาตุที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและจักรวาล โดยพลังธาตุเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ธาตุหลัก ได้แก่ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุลม และมีธาตุย่อยอื่นๆ ที่สืบทอดในสายเลือดพิเศษเท่านั้น ได้แก่ ธาตุแสง และ ธาตุเงามืด

ธาตุน้ำ (Water Element): ผู้ที่มีพลังธาตุน้ำสามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงน้ำในทุกรูปแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำในแม่น้ำ ทะเล หรือแม้แต่น้ำในอากาศ พวกเขาสามารถสร้างคลื่นน้ำหรือกำแพงน้ำเพื่อป้องกันตัวเอง หรือใช้พลังน้ำเพื่อรักษาบาดแผล นอกจากนี้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดยังสามารถเรียกฝนหรือควบคุมกระแสน้ำในมหาสมุทรได้

ธาตุไฟ (Fire Element): ผู้ที่ครอบครองพลังธาตุไฟสามารถควบคุมเปลวไฟและความร้อน พวกเขาสามารถสร้างเปลวไฟเพื่อโจมตีศัตรูหรือใช้ไฟในการปกป้องตนเอง ผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่งสามารถควบคุมไฟในรูปแบบต่างๆ เช่นการสร้างกำแพงเพลิงหรือการสร้างระเบิดเพลิง

ธาตุดิน (Earth Element): ผู้ที่มีพลังธาตุดินสามารถควบคุมแผ่นดิน หิน และพืชพันธุ์ต่างๆ พวกเขาสามารถยกพื้นดินขึ้นมาสร้างกำแพงหรือสร้างอาวุธจากหินดิน หรือแม้กระทั่งใช้พลังในการทำให้พืชพันธุ์เติบโตอย่างรวดเร็ว และสร้างป่าที่หนาทึบเพื่อเป็นเกราะกำบัง

ธาตุลม (Wind Element):ผู้ที่มีพลังธาตุลมสามารถควบคุมกระแสลมและอากาศ พวกเขาสามารถสร้างพายุลมหรือใช้ลมในการเคลื่อนย้ายวัตถุหรือแม้กระทั่งใช้พลังลมในการบินขึ้นฟ้า ผู้ใช้ที่มีความชำนาญสูงสามารถสร้างพายุที่รุนแรงหรือทำให้ตนเองและผู้อื่นล่องหนด้วยการพรางตัวในสายลม

ธาตุแสง (Light Element): ธาตุแสงเป็นพลังที่หาได้ยากในอาณาจักร มีผู้ครอบครองเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ผู้ที่มีพลังนี้สามารถควบคุมแสงและใช้มันในการรักษา ปัดเป่าความมืด หรือสร้างแสงสว่างที่แรงกล้าพอที่จะทำลายศัตรู นอกจากนี้พลังแสงยังสามารถเสริมสร้างพลังของผู้อื่นและปกป้องพวกเขาจากการโจมตีทางเวทมนตร์

ธาตุความมืด (Dark Element): ธาตุความมืดเป็นพลังที่ทรงอำนาจและลึกลับ ผู้ที่มีพลังนี้สามารถควบคุมเงาและความมืดได้ พวกเขาสามารถสร้างภาพลวงตา ทำให้ศัตรูหลงทางในความมืดมิด หรือแม้กระทั่งทำให้ตนเองหายตัวไปในเงามืด ผู้ที่มีพลังนี้ส่วนใหญ่มักจะถูกดึงดูดเข้าสู่ด้านมืด แต่ก็มีบางคนที่ใช้พลังนี้เพื่อปกป้องผู้อื่น

วัฒนธรรมและความเชื่อ: ชาวแอสทาราเชื่อว่าพลังธาตุเหล่านี้คือพรจากเทพเจ้าแห่งธรรมชาติและจักรวาล ผู้ที่มีพลังเวทมนตร์จะได้รับการฝึกฝนในสถาบันเวทมนตร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง เพื่อเรียนรู้การใช้พลังของตนอย่างถูกต้องและยุติธรรม พวกเขาเชื่อในความสมดุลระหว่างแสงและเงามืด ความดีและความชั่ว และการใช้พลังเวทมนตร์เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน’

อ่านมาถึงตรงนี้ ลีอาเงยหน้าขึ้น เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร

หลังจากที่พวกเขาได้พักผ่อนและรับประทานอาหารเพื่อฟื้นฟูพลัง ผู้เฒ่าปราชญ์ก็เริ่มพูดถึงเรื่องราวที่เขารู้

"ข้ารู้ว่าพวกท่านไม่ได้เดินทางมาเพื่อพักผ่อนเท่านั้น แต่มีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านั้น โดยเฉพาะเจ้า... ไรอัน อีวานส์"

ไรอันชะงักเมื่อได้ยินชื่อของตนจากปากของผู้เฒ่า "ท่านรู้จักข้า?"

"ข้ารู้จักเจ้าและตระกูลของเจ้าดี" ผู้เฒ่าปราชญ์พยักหน้าเบาๆ

"ข้ารู้ว่าทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่ หลังจากที่เจ้าได้ละทิ้งหน้าที่ของเจ้าไปเมื่อหลายปีก่อน"

ไรอันรู้สึกถึงความหนักอึ้งในใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น "ข้าต้องการรู้ความจริง ท่านบอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูเซียส และทำไมเขาถึงหันไปสู่ด้านมืด?"

ผู้เฒ่าปราชญ์ถอนหายใจยาวก่อนจะเริ่มเล่า "ตระกูลของเจ้ามีหน้าที่ปกป้องอาณาจักรและคุ้มครองสมดุลของพลังที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ พลังแห่งน้ำที่เจ้าครอบครองนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังที่ตระกูลของเจ้าสืบทอดมาแต่โบราณกาล แต่ก็มีอีกพลังหนึ่งที่ถูกปกปิดไว้... พลังแห่งเงามืด"

"พลังแห่งเงามืด?" ลีอาถามด้วยความสงสัย

"นั่นคือพลังที่ลูเซียสครอบครองใช่ไหมคะ?"

ผู้เฒ่าปราชญ์พยักหน้า

"ใช่แล้ว ลูเซียสเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเจ้ามาก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาถูกปฏิเสธและผลักไสออกจากครอบครัว ทำให้เขาเกิดความแค้นและความโกรธที่ฝังลึกในใจเขา"

ไรอันตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น

"ลูเซียสเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลข้า? ทำไมข้าถึงไม่เคยรู้มาก่อน?"

"เพราะมันเป็นความลับที่ถูกปกปิดไว้อย่างยาวนาน" ผู้เฒ่าปราชญ์ตอบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 3 ความจริงที่ซ่อนอยู่ (1)

    ไรอันตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น"ลูเซียสเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลข้า? ทำไมข้าถึงไม่เคยรู้มาก่อน?""เพราะมันเป็นความลับที่ถูกปกปิดไว้อย่างยาวนาน" ผู้เฒ่าปราชญ์ตอบ"ลูเซียสคือพี่น้องร่วมสายเลือดของเจ้า แต่เขาเกิดมาพร้อมกับพลังแห่งเงามืด พลังที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อสมดุลของอาณาจักร ครอบครัวของเจ้าจึงตัดสินใจที่จะปกปิดเรื่องนี้และผลักไสเขาออกไปจากตระกูล"คำพูดของผู้เฒ่าปราชญ์ทำให้ไรอันรู้สึกถึงความสับสนและความเจ็บปวดในใจ เขาไม่เคยรู้ว่าลูเซียสคือพี่น้องร่วมสายเลือด และไม่เคยรู้ว่าตระกูลของเขามีส่วนในการทำให้ลูเซียสกลายเป็นผู้ที่ครอบครองพลังแห่งความมืด"เพราะความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจ ลูเซียสจึงหันไปหาพลังแห่งเงามืดและทำสัญญากับมัน เพื่อที่จะใช้พลังนั้นในการล้างแค้นต่อครอบครัวและอาณาจักรที่เขารู้สึกว่าทรยศเขา" ผู้เฒ่าปราชญ์กล่าวเสริม"แต่พลังนั้นไม่ได้มอบเพียงความแข็งแกร่งให้แก่เขา มันยังได้ครอบครองจิตวิญญาณของเขาด้วย"ลีอาที่ฟังอยู่เงียบๆ ตลอดการสนทนา มองดูไรอันด้วยความเห็นใจ เธอยื่นมือออกไปตบบนหลังมือเขาเบาๆ เธอเข้าใจถึงความรู้สึกที่ต้องพบกับความจริงที่เจ็บปวด แต่เธอเชื่อว่าไรอันจะต้องสามารถก้า

    Last Updated : 2024-11-20
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 4 สายสัมพันธ์ที่รัดรึง

    ระหว่างการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทาย ไรอัน ลีอา เอลเลียต และอาเรียน่าได้พัฒนาความสัมพันธ์และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่ในหมู่พวกเขา ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุดกลับเกิดขึ้นระหว่างไรอันและลีอา ทุกครั้งที่พวกเขาร่วมเผชิญกับอุปสรรค ความใกล้ชิดและความเข้าใจในกันและกันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช้าวันหนึ่ง เมื่อพวกเขาตั้งแคมป์ใกล้ลำธารเล็กๆ ที่น้ำใสสะอาดสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกาย ลีอากำลังนั่งอยู่ริมลำธารพลางล้างหน้าเบาๆ ส่วนอาเรียน่า ลงไปแหวกว่ายน้ำเล่นอย่างสบายใจไรอันเดินออกไปนั่งเงียบๆเพียงลำพัง ปล่อยให้สองสาวใช้เวลาทำธุระส่วนตัวมือของเขาสัมผัสที่ด้ามดาบอย่างเงียบๆ ขณะที่สายลมพัดเบาๆ ผ่านผิวหน้าของเขา ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆครึ้มดูเหมือนจะสะท้อนความรู้สึกในใจของเขาเอง ภาพความทรงจำจากอดีตค่อยๆ ผุดขึ้นมาในจิตใจของเขา ราวกับว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขานึกถึงลูเซียส เพื่อนรักที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด พวกเขาไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนร่วมรบ แต่เป็นพี่น้องในสนามรบที่มีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเกินกว่าคำพูดจะอธิบายได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ไรอันจำได้ว่าเขาก

    Last Updated : 2024-11-21
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 5 ทะเลมรกต

    หลังจากเดินทางผ่านป่าทึบและภูเขาสูง พวกไรอัน ลีอา เอลเลียต อาเรียน่า และเฟนิกซ์ เหยี่ยววายุผู้ซื่อสัตย์ ก็มาถึงจุดหมายปลายทางต่อไปที่แผนที่ของผู้เฒ่าปราชญ์ระบุไว้ นั่นคือ "ทะเลมรกต" พวกเขายืนอยู่บนหน้าผาสูง มองลงไปยังทะเลสีเขียวมรกตที่แผ่กว้างออกไปจนสุดสายตา น้ำทะเลใสดุจคริสตัลที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย ทำให้ทะเลนี้ดูงดงามอย่างไม่ธรรมดา แต่ความงดงามนี้ซ่อนเร้นอันตรายที่พวกเขาไม่คาดคิด"เราต้องข้ามทะเลมรกตนี้เพื่อไปยังที่ซ่อนของลูเซียส" ไรอันกล่าวขณะเปิดแผนที่ดูเส้นทาง "แต่มันไม่ได้บอกว่าเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง"ลีอามองทะเลด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ "ทะเลนี้ดูเงียบสงบเกินไป ข้าว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ"เอลเลียตพยักหน้า "ถูกต้อง ทะเลที่เงียบเกินไปมักซ่อนภัยอันตราย ข้าจะให้เฟนิกซ์สำรวจจากฟ้าก่อน แล้วพวกเราค่อยลงไปข้ามทะเลนี้"เฟนิกซ์รับคำสั่งของเอลเลียตด้วยการกระพือปีกบินขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้าง มันบินวนสำรวจรอบๆ พื้นที่ทะเลมรกต เฟนิกซ์มีสายตาที่เฉียบคมและสามารถมองเห็นได้ไกลหลายกิโลเมตร มันจึงสังเกตเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนน้ำสีมรกตนี้"มันมีบางสิ่งอยู่ใต้น้ำ" เอลเลียตพูดขึ้นขณะที่เฟ

    Last Updated : 2024-11-23
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 5 ทะเลมรกต (1)

    เธอรีบเข้าไปประคองให้ไรอันพาไปนั่งพักอยู่ใกล้ๆกับอาเรียน่า เธอเดินออกไปช่วยเอลเลียตต่อสู้ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กรามขบกันแน่น นึกถึงแผลของไรอันและสีหน้าหวาดกลัวของอาเรียน่า เธอก็รู้ว่าจะอ่อนแอไม่ได้ ในขณะนั้นเองเธอก็เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวเอง พลังภายในที่ลึกซึ้งซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เธอสัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวเธอที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จิตใจของลีอาเริ่มเปิดรับเสียงเบาๆ ที่ดังขึ้นจากผืนน้ำ มันเป็นเสียงกระซิบของสัตว์น้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลลึก พวกมันกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ ลีอาตัดสินใจที่จะใช้พลังใหม่ที่เธอเพิ่งค้นพบ เพื่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ เธอหลับตาลงและมุ่งสมาธิไปยังพลังภายในของเธอ"ได้โปรด... ช่วยพวกเราด้วย" ลีอาพูดออกมาด้วยภาษาของสัตว์น้ำที่เธอเพิ่งเข้าใจ เสียงของเธอสื่อถึงความหวังและความมุ่งมั่นที่จะปกป้องพวกพ้องของเธอ "สัตว์ประหลาดนี้เป็นภัยต่อทั้งพวกเราและพวกเจ้า ข้าขอร้องให้พวกเจ้าช่วยเราต่อสู้"เสียงของลีอาส่งสัญญาณออกไปในน้ำทะเล และในไม่ช้า ลีอาก็รู้สึกถึงการต

    Last Updated : 2024-11-24
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 6 ทุ่งละเมอ

    ขณะที่ทะเลมรกตค่อยๆ ห่างออกไปข้างหลัง ไรอัน ลีอา เอลเลียต และอาเรียน่าต่างรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น การเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายเริ่มทิ้งร่องรอยแห่งความเหนื่อยล้าให้พวกเขา ทุกคนไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่เดินหน้าต่อไปโดยมีความหวังว่าพวกเขาจะได้พักในไม่ช้า ในที่สุดพวกเขาก็ถึงฝั่ง พวกเขาได้พบกับสถานที่แห่งหนึ่งที่มีทุ่งดอกไม้สีสันสวยงามมากมาย สถานที่นี้ถูกปกคลุมด้วยดอกไม้หลากสีที่ชูช่อบานสะพรั่งไปทั่ว ทุ่งดอกไม้นั้นดูเงียบสงบและน่าหลงใหลจนเหมือนภาพวาดที่เต็มไปด้วยสีสันที่สดใส พวกเขาต่างมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจและความยินดี ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการหยุดพักหลังจากการเดินทางที่ยากลำบาก “พี่ลีอา ดูนี่สิคะ” อาเรียน่าเรียกเสียงใส พลางจับจูงมือของลีอาให้เดินดูดอกไม้หลากสีเหล่านั้นอย่างร่าเริง ลีอาเดินตามเด็กน้อยพลางยิ้มอ่อน แต่ก็ดีแล้ว เธอชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของเด็กสาวมากกว่าสีหน้าที่เป็นกังวลและหงอยเหงา ส่วนเอลเลียตและไรอันพากันเดินสำรวจทุ่งดอกไม้บริเวณนี้ เพื่อหาที่เหมาะๆทำที่ไว้นอนพัก เอลเลียตปล่อยเฟนิกซ์ให้บินออกหาอ

    Last Updated : 2024-11-26
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 6 ทุ่งละเมอ (1)

    ในที่สุด เมื่อทั้งคู่รวบรวมพลังจิตใจและตระหนักถึงความจริง พวกเขาก็สามารถฉีกห้วงฝันที่ลวงหลอกนั้นออกมาได้ ความจริงเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่พวกเขาตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความจริง เสียงของเอลเลียตยังคงก้องอยู่ในหู "พวกเราต้องไปกำราบลูเซียส... อย่าลืมความตั้งใจของพวกเรา"ไรอัน ลีอา และเอลเลียตต่างพากันหอบหายใจแรง ร่างกายของพวกเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อหลังจากที่ต้องฝ่าฟันห้วงฝันอันลวงตานั้นมาได้ พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงความหนักอึ้งที่ผ่อนคลายลงเมื่อกลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงอีกครั้ง แต่เมื่อหันไปมองอาเรียน่า พวกเขาพบว่าเธอยังนอนนิ่งอยู่ ไม่ได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับพวกเขา“อาเรียน่า!” ลีอาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล เธอรีบเข้าไปนั่งข้างๆ น้องสาวคนเล็กของพวกเขา หัวใจของเธอเริ่มสั่นไหวเมื่อเห็นว่าอาเรียน่ายังคงติดอยู่ในห้วงฝัน ร่างของเธอไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาของเธอปิดสนิท ราวกับว่าเธอยังจมอยู่ในความปรารถนาที่ไม่อาจหลุดพ้นได้ไรอันและเอลเลียตต่างก็รีบเข้ามาดูอาการของอาเรียน่า "เธอยังไม่ตื่น" เอลเลียตเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอามือจับที่ไหล่ของเธอเบาๆ หวังว่าเธอจะ

    Last Updated : 2024-11-29
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 7 กองทัพแห่งราชันย์

    หลังผ่านพ้นทุ่งละเมอที่เกือบทำพวกเขาไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก พวกของไรอันก็เดินทางมาถึงจุดหนึ่งกลางป่าที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดชะงัก เสียงก้าวเดินที่ดังกึกก้องจากทิศทางเบื้องหน้าบ่งบอกว่ามีคนจำนวนมากกำลังเคลื่อนที่เข้ามา ลีอา เอลเลียต และอาเรียน่าต่างเตรียมตัวพร้อมรับมือ ด้วยความระมัดระวังที่พวกเขาเคยชินกับการเผชิญหน้าศัตรูทุกเมื่อ แต่เมื่อเห็นกองทัพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า พวกเขากลับต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเหล่าทหารในชุดเกราะสีเงินสว่างเจิดจ้า ปรากฏตัวขึ้นอย่างสง่างาม ธงประจำอาณาจักรแอสทาราปลิวไสวในอากาศ ผืนธงนั้นมีรูปดวงอาทิตย์สีทอง ที่ส่องแสงรอบด้าน ล้อมรอบด้วย ลวดลายเกลียวของธาตุทั้งสี่ (น้ำ ไฟ ดิน ลม) ที่หมุนวนเข้าหากัน สื่อถึงความสมดุลและการทำงานร่วมกันของพลังแห่งธรรมชาติ พื้นหลังของธงเป็น สีฟ้าอ่อน ที่สื่อถึงท้องฟ้าและสันติสุข ธงนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความเป็นปึกแผ่นของแอสทารา แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างพลังที่หลากหลายเพื่อให้เกิดความสงบสุขในอาณาจักร พวกเขาถือดาบที่เปล่งประกายแสงแห่งความยุติธรรม และมีออร่าที่ทรงพลังล้อมรอบตัว พวกทหารเห

    Last Updated : 2024-12-03
  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 8 การเผชิญหน้าครั้งแรก

    หลังจากที่กองทัพแห่งแอสทาราได้เข้าร่วมเดินทาง การเดินทางที่เคยเต็มไปด้วยอุปสรรคและความลำบากก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ด้วยกำลังพลและการจัดการที่มีระเบียบของทหารจากแอสทารา การเดินทางจึงดูราบรื่นและสะดวกสบายมากขึ้นอย่างชัดเจน ลีอาและอาเรียน่า สองสาวที่เคยต้องรับมือกับความเหน็ดเหนื่อยและอันตรายตลอดทาง ตอนนี้กลับได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากทหารหนุ่มผู้มีน้ำใจ ทหารเหล่านี้คอยให้การสนับสนุนและปกป้องพวกเธออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมที่พักให้สะดวกสบายที่สุดหรือการจัดหาอาหารที่ดีที่สุดให้พวกเธอจึงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในแต่ละคืนเมื่อกองทัพหยุดพัก ลีอาและอาเรียน่าจะได้รับการจัดเตรียมที่พักที่ใกล้กับศูนย์กลางของค่ายมากที่สุด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและได้รับการปกป้องจากทหารฝีมือดี พวกเขาจัดเตรียมเต็นท์ที่สะดวกสบาย ปูด้วยพรมหนานุ่มและหมอนที่ทำจากขนสัตว์ พวกเขายังจุดตะเกียงที่ให้แสงสว่างอ่อนๆ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสงบเงียบ ลีอารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้รับการดูแลเช่นนี้ และเธอก็สังเกตเห็นว่าอาเรียน่าก็เช่นกัน เด็กสาวที่เคยมีใบหน้าตึงเครียดและเหนื่อยล้าตลอดการเดินทาง ตอนนี้

    Last Updated : 2024-12-06

Latest chapter

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   ตอนพิเศษ หัวใจทมิฬ

    ลูเซียสยืนนิ่งอยู่ในความมืดที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ความมืดนี้ไม่ใช่แค่เงาหรือความมืดธรรมดา แต่มันคือพลังที่อยู่ในตัวเขามาตั้งแต่เกิด มันเป็นพลังที่ทำให้เขาถูกตัดสินและขับไล่ออกไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเงยหน้าขึ้นมองลีอาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความแค้นที่ถูกฝังลึกในใจมาเนิ่นนาน”ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนั้น” ลูเซียสเริ่มเล่า น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุ้มลึก “ข้าเกิดมาในตระกูลสูงส่งแห่งแอสทารา ข้าเคยมีทุกสิ่งที่เด็กคนหนึ่งต้องการ...มีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อแม่ที่ข้าเคารพรัก แต่พวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขารู้ว่าข้ามีพลังเงามืดในตัว” ลีอานั่งฟังด้วยความตั้งใจ หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินความเจ็บปวดในคำพูดของเขา เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูเซียสต้องทนทุกข์กับอดีตเช่นนี้”ข้าจำได้ชัดเจน ตอนที่ข้ายังเป็นเด็กแค่ 7 ขวบ ข้าคิดว่าพลังนี้เป็นสิ่งพิเศษ ข้ารู้สึกแตกต่าง แต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้คนอื่นๆ กลัว ข้าพยายามใช้มันเพื่อแสดงให้พ่อแม่เห็นว่า ข้าสามารถปกป้องพวกเขาได้ แต่สิ่งที่ข้าได้รับกลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจ” ลูเซียสหยุดไปช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทสุดท้าย เงาที่เหลืออยู่

    ชีวิตของไรอันและลีอาเดินหน้าไปสู่ความสงบสุขที่พวกเขาเคยฝันถึง หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและการสูญเสียที่ทำให้หัวใจของพวกเขาต้องบอบช้ำ พวกเขาก็ได้สร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หมู่บ้านที่เคยถูกครอบงำด้วยเงามืดกลับมาสดใสอีกครั้ง และชีวิตใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับงานแต่งงานเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยินดีและความหวังลีอาและไรอันมีลูกแฝดชายหญิงที่เปรียบเสมือนดวงดาวสว่างไสวในชีวิตของพวกเขา เด็กทั้งสองคนเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสาและความสดใสที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกถึงความหวังและความสุขที่แท้จริง ครอบครัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรัก ไรอันเป็นพ่อที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาและปกป้องลูกๆ ด้วยชีวิต ขณะที่ลีอาเป็นแม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยน คอยดูแลทุกคนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักในขณะเดียวกัน เอลเลียตและเฟนิกซ์ก็ออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนใหม่ๆ เพื่อฝึกฝนตนเองและค้นหาความหมายใหม่ในชีวิต พวกเขาเลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่ออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกด้านอาเรียน่าเองก็เลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เธอตัดสินใจออกเดินทาง

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่ (1)

    ลูเซียสหายใจลึก รู้สึกถึงน้ำหนักที่ถูกยกออกจากบ่าของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าความมืดในจิตใจของเขายังคงหลงเหลืออยู่ แต่ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงและหาความสงบสุขในตัวเองก็มีมากกว่าลีอาที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างไรอันก็ยิ้มให้ลูเซียสด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นใจ “ข้ายังเชื่อในตัวเจ้า ลูเซียส ข้ารู้ว่าลึกๆ แล้วเจ้าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร เจ้าก็แค่ต้องการคนที่จะเชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเจ้า”อาเรียน่าก้าวเข้ามาสมทบ “เราเป็นครอบครัว... ครอบครัวที่ยอมรับกันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว”ลูเซียสมองดูพวกเขาทั้งสี่คน น้ำตาที่เก็บกดไว้ตลอดหลายปีเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม เขารู้สึกถึงความโล่งใจและความหวังที่เคยสูญเสียไปนานแล้ว“ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ข้าเคยทำ” ลูเซียสกล่าวทั้งน้ำตา “ข้าขอโทษที่ข้าเคยเลือกทางที่ผิด และข้าขอโทษที่ข้าพยายามจะทำร้ายพวกเจ้า”“เจ้าไม่ต้องขอโทษอะไรอีกแล้ว” ไรอันกล่าวขณะที่เขาเข้ามาใกล้ลูเซียสและยื่นมือออกไป “สิ่งสำคัญคือเจ้าได้กลับมา และเราจะผ่านทุกสิ่งไปด้วยกัน” ไ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 11 อดีตที่เจ็บปวดและการเริ่มต้นใหม่

    "ในคืนหนึ่ง... ข้าจำได้ว่าแม่ของข้าไม่ได้มาร่ำลาข้า ข้าเพียงเห็นแผ่นหลังของพ่อที่หันมาเอ่ยคำสุดท้ายกับข้า 'เจ้าต้องไป...เพื่อปกป้องตระกูล' คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวข้าตลอดมา ข้าถูกขับไล่ออกจากบ้าน ถูกส่งไปในป่าลึก โดยไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่จะมาอธิบายว่าเหตุใด ข้าเป็นแค่เด็ก แต่ข้ากลับถูกทิ้งไว้ในความมืด โดยไม่มีที่พึ่งพิง ไม่มีความอบอุ่นของครอบครัว" เขาก้มหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น"ตอนที่ข้าจากไป ไรอันยังไม่เกิด พ่อและแม่ของเราคิดว่าเมื่อข้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ข้าถูกลบออกจากความทรงจำของครอบครัว...และไรอัน เขาเกิดขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา"ลีอาหันไปมองลูเซียสอย่างตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้มาก่อน ลูเซียส...พี่น้องร่วมสายเลือดของไรอัน ถูกผลักไสออกจากครอบครัวในวัยเด็ก เพียงเพราะพลังที่เขาไม่ได้เลือกที่จะมี"ข้าเร่ร่อนอยู่ในป่า เดียวดายและเต็มไปด้วยความกลัว ข้าไม่รู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ข้ารอคอยวันที่ครอบครัวจะมารับข้ากลับ แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ข้าโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยวและความเกลียดชัง ข้าเรียนรู้ที่จะใช้พ

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (2)

    แต่ลีอากลับก้าวออกมาจากเงามืดนั้นอย่างช้าๆ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าไรอันและอาเรียน่า น้ำตาของเธอไหลลงมาเมื่อเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าขอโทษ... ข้าขอโทษที่ข้าเคยละทิ้งพวกเจ้า...”ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้าวเข้ามากอดเธอไว้ “ไม่เป็นไร ลีอา เจ้ากลับมาแล้ว นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” แสงสว่างที่เปล่งออกมาจากตัวอาเรียน่าเริ่มส่องประกายอย่างแรงกล้าอีกครั้ง ลูเซียสรู้สึกถึงพลังที่ถอยห่างจากตัวเขา ความมืดที่เคยทำให้เขาแข็งแกร่งกลับกลายเป็นภาระที่หนักอึ้ง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอที่เข้ามาครอบงำ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวและอ่อนแรงลง “ไม่... ไม่!” ลูเซียสตะโกนด้วยความสิ้นหวัง แต่พลังที่เขาเคยยึดมั่นกลับหายไปทีละน้อย เงามืดที่เคยล้อมรอบตัวเขาเริ่มจางหายไป ราวกับว่ามันถูกดูดกลืนเข้าสู่แสงสว่างที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ลีอายังคงมองไปทางลูเซียสที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความสับสน ดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยความสงสารและความเห็นใจสะท้อนถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนที่เธอมีต่อลูเซียส แม้ว่าเธอจะถูกสะกดจิตในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แต่เธอก็สามารถจดจำทุกเรื่องราวท

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย (1)

    พลังเงามืดของลูเซียสถูกต้านทานด้วยบาเรียน้ำของไรอันและแสงสว่างของอาเรียน่า แต่ลูเซียสก็ไม่ยอมแพ้ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีและปล่อยคลื่นพลังมืดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันรุนแรงและน่ากลัวกว่าครั้งก่อน มันเป็นพลังที่ถูกหล่อหลอมจากความแค้นและความโดดเดี่ยว คลื่นพลังมืดที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ลูเซียสไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้หรือยอมให้ใครเข้ามาขวางทางเขาได้อีก เอลเลียตที่เป็นด่านแรกของการป้องกัน ยังคงยืนหยัดไม่ถอย เขาใช้กระบองเหล็กของเขาฟาดลงไปที่พื้นอีกครั้งเพื่อสร้างแรงกระแทกที่พุ่งตรงเข้าไปปะทะกับพลังเงามืด แต่ความรุนแรงของพลังมืดนั้นกลับทำให้พื้นดินแตกออกเป็นรอยแยก ลมพายุจากพลังมืดกวาดเอาเศษซากและฝุ่นผงขึ้นมาหมุนวนรอบตัวเอลเลียต ทำให้การมองเห็นของเขาเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตาม เอลเลียตยังคงยืนอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทางของเขา “พวกเจ้ารีบทำสิ่งที่ต้องทำ!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่ยังเต็มไปด้วยพลัง “ข้าจะยืนหยัดตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” ไรอันรู้ดีว่

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 10 การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย

    ปราสาทร้างที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะยมทูตเต็มไปด้วยความมืดและเงียบสงัด มันเป็นสถานที่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ตอนนี้ถูกทิ้งร้างให้เป็นที่พำนักของความมืดที่แผ่ขยายจากจิตใจของลูเซียส หมอกหนาที่ปกคลุมรอบๆ ปราสาทนั้นหนาแน่นจนแทบจะบดบังแสงจากดวงจันทร์ แต่ไรอัน เอลเลียต และอาเรียน่าก็ยืนหยัดอยู่หน้าทางเข้าปราสาทอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขามาที่นี่พร้อมกับความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันสั่นคลอน และพลังที่ได้รับการปลุกขึ้นมาใหม่จากการฝึกฝนอย่างหนัก พวกเขารู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่สำคัญที่สุดในชีวิต และมันจะเป็นการตัดสินชะตากรรมของพวกเขา ลีอา และแม้แต่ลูเซียส “ทุกคนพร้อมหรือยัง?” ไรอันถามเสียงต่ำ แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ปราสาทที่ยืนตระหง่านเบื้องหน้าเอลเลียตพยักหน้ารับ “พร้อมเสมอ ข้าไม่กลัวความมืดอีกต่อไปแล้ว เราจะพานางกลับมา และจะหยุดยั้งลูเซียสให้ได้” อาเรียน่ากำลังมองไปยังปราสาทที่เต็มไปด้วยเงามืด สายตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ข้าเองก็พร้อม พี่ชาย ข้าจะใช้พลังของข้าเพื่อช่วยพวกท่าน ข้าจะไม่ยอมให้ความมืดนี้เอาชนะพวกเราได้” ทั้งสามคนเดินเข้าไป

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 9 ความแข็งแกร่งจากภายใน (2)

    ผู้เฒ่าปราชญ์ไม่ได้หยุดการฝึกเพียงแค่นั้น เขาตัดสินใจที่จะสอนให้ไรอันและเอลเลียตได้ฝึกฝนการใช้พลังร่วมกัน การผสานพลังของธาตุน้ำและพลังชีวิตของเอลเลียตเพื่อสร้างพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมการฝึกนี้เริ่มจากการเรียนรู้ที่จะปรับพลังของพวกเขาให้สอดคล้องกัน ไรอันต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังน้ำในรูปแบบที่สามารถทำงานร่วมกับพลังแห่งชีวิตของเอลเลียต ขณะที่เอลเลียตก็ต้องปรับพลังของเขาให้สามารถเข้ากับพลังน้ำของไรอันได้ผู้เฒ่าปราชญ์จัดการทดสอบโดยให้พวกเขาร่วมมือกันในการสร้างกำแพงน้ำที่ไม่เพียงแค่ป้องกันศัตรูเท่านั้น แต่ยังสามารถฟื้นฟูพลังงานให้กับพวกเขาในขณะเดียวกันด้วย ไรอันต้องสร้างกระแสน้ำที่ไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง แต่ยังต้องอ่อนโยนพอที่จะไม่ทำลายพลังของเอลเลียต ขณะที่เอลเลียตก็ต้องเสริมสร้างพลังน้ำนี้ให้คงทนและเข้มแข็งยิ่งขึ้นการฝึกนี้เป็นความท้าทายที่ต้องใช้ทั้งความเข้าใจและความเชื่อมั่นในกันและกัน พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะเปิดใจและสื่อสารโดยไม่ต้องใช้คำพูด รู้จักการทำงานร่วมกันในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อพวกเขาสามารถสร้างกำแพงน้ำที่แข็งแกร่งและมีพลังในการฟื้นฟูได้สำเร็จ ผู้เฒ่าปราช

  • The Light and Shadow : เงาทมิฬ   บทที่ 9 ความแข็งแกร่งจากภายใน (1)

    เอลเลียตมองต้นไม้ใหญ่นั้นด้วยความสงสัย “ข้าจะต้องทำอย่างไร?” “เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของเจ้าโดยไม่ให้มันครอบงำเจ้า” ผู้เฒ่าปราชญ์กล่าว “เริ่มจากการใช้พลังในการฟื้นฟูร่างกายของเจ้า เจ้าเคยทนทานต่อบาดแผลและพิษ แต่ตอนนี้เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะเร่งกระบวนการฟื้นตัวนั้นให้เร็วขึ้น”ผู้เฒ่าปราชญ์ให้เอลเลียตฝึกฝนการควบคุมการฟื้นฟูของร่างกายโดยใช้สมาธิในการสร้างพลังงานจากภายใน เขาให้เอลเลียตฝึกโดยการเผชิญหน้ากับความเหนื่อยล้าและบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากการฝึกอย่างหนัก เอลเลียตต้องเรียนรู้ที่จะปลดปล่อยพลังงานจากภายในร่างกายของเขาเพื่อรักษาตัวเองในเวลาอันสั้น นอกจากการฟื้นฟูร่างกายแล้ว ผู้เฒ่าปราชญ์ยังสอนเอลเลียตถึงการปลดปล่อยพลังงานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการต่อสู้ของเขา เอลเลียตฝึกฝนการใช้กระบองเหล็กของเขาในการโจมตีต้นไม้ใหญ่โดยไม่ทำลายมัน แต่เพื่อฝึกฝนการควบคุมพลังของเขาให้แม่นยำและทรงพลังที่สุด การฝึกนี้ทำให้เอลเลียตได้ค้นพบว่าพลังที่แท้จริงของเขาไม่ใช่เพียงการต้านทานหรือการฟื้นฟู แต่ยังรวมถึงการใช้พลังนั้นในการปก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status