Share

ตอนที่ 4

Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว

Writer : Aile'N

ตอนที่ 4

พอหนีขึ้นห้องมาได้อิงเอยก็โวยวายด้วยความหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้อง สองครั้งสองคราในวันเดียวกันที่เธอถูกเจ้าของบ้านล่วงเกินทั้งทางสายตาและการกระทำ มันทำให้เธอเริ่มคิดหนักกับการที่ต้องอยู่แบบระแวดระวังและเอาตัวเองให้รอดพ้นจากคนอันตรายอย่างไบรอัน ร้ายกาจ.. แค่สายตาที่มองปราดมาเพียงไม่กี่วินาที ก็สามารถทำคนถูกมองสูญเสียความเป็นตัวเองไปจนหมดสิ้น!

"ช่างเถอะอิง.. อย่าไปอยู่ใกล้เขาอีกก็พอ! " ร่างบางสลัดเรื่องที่ถูกใครคนนั้นล่วงเกินทิ้งไป พยายามไม่ถือสาและเก็บมาคิดให้รกสมอง เพราะเธอจะออกจากงานอีกไม่ได้แล้ว ท่องไว้ให้ขึ้นใจว่าต้องอดทน! และพยายามอย่าไปอยู่ใกล้ร่างสูงนั้นให้มาก เพื่อตัวและหัวใจของเธอเอง!

พอปล่อยวางได้คนตัวเล็กก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ ได้แต่คาดโทษสัตว์เลี้ยงตัวโตของเจ้านายในใจ โทษฐานที่ทำให้เธอต้องเสียเงินซื้อเสื้อใหม่ทั้งที่ตัวนี้เพิ่งจะซื้อมาเลยแท้ๆ ใส่ยังไม่ทันคุ้มเลย!

"คะ คุณเข้ามาทำไมอ่ะ! ? " สายน้ำเย็นๆ ทำอารมณ์ขุ่นมัวของอิงเอยค่อยๆ จางหายไป แต่ก็กลับมาอีกอย่างรวดเร็วเมื่อออกมาเห็นเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ปลายเตียง และที่สำคัญตัวเธอที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จนั้นมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันกายปิดบังส่วนสำคัญไว้อย่างหมิ่นเหม่ สัญชาตญาณได้สั่งการให้สองแขนยกขึ้นโอบกอดตัวเองไว้แน่น และก้าวถอยห่างออกมา

"ก็นี่บ้านฉัน" ดวงตาคมที่กำลังสนใจอย่างอื่นอยู่ในตอนแรกหันมามองเจ้าของห้องตัวเล็กที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาดๆ สังเกตได้จากหยดน้ำใสที่ยังคงเกาะพร่างพราวอยู่ตามผิวขาวๆ ของสาวเจ้า เห็นแบบนั้นชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีต้นๆ ก็อดไม่ได้ต้องกวาดสายตามองสำรวจเหยื่อตัวน้อยด้วยสายตาจาบจ้วง..

"รู้ค่ะ! แต่ห้องนี้เป็นห้องพักของฉัน คุณไม่ควรเข้ามาโดยพละการแบบนี้! " อิงเอยขึ้นเสียงใส่เจ้านายตัวใหญ่อย่างไม่เกรงกลัวว่าจะถูกไล่ออกเลยสักนิด เพราะเธอจำเป็นต้องปกป้องตัวเองจากบุคคลอันตรายตรงหน้า

"ฉันก็เคาะประตูแล้วไง แต่เธอไม่มาเปิด ก็เลยเข้ามา" ใครคนนั้นพูดหน้าตายอย่างไม่สะทกสะท้าน และจงใจแกล้งคนฟังด้วยการจ้องเรือนร่างของเธออย่างไม่เกรงใจ ทั้งที่รู้ว่าริ้วสีแดงจางๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ตามตัวขาวๆ นั้นเกิดจากความเขินอายของเจ้าตัว

"...แล้วเข้ามาทำไมคะ! ? " อิงเอยถามเสียงห้วน ทั้งอายและโกรธแต่ก็ยังพยายามข่มความโกรธเอาไว้ให้ลึกสุดใจ!

"เข้ามารอ.. ใกล้ได้เวลาไปรับอลันที่โรงเรียนแล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยบอกนิ่งๆ และยังไม่มีอะไรสามารถดึงความสนใจของเขาไปจากร่างตรงหน้าได้ ร่างบางจึงถูกสายตาคมๆ จดจ้องอยู่ตลอด จนรู้สึกขัดเขินทั้งร้อนรุ่มแปลกๆ ราวกับเขามองทะลุผ้าเช็ดตัวของเธอได้ยังไงยังงั้น!

"ระ รู้แล้วค่ะ! กรุณาออกไปด้วย ฉันจะแต่งตัว! " เสียงหวานเริ่มติดขัด ยืนกระสับกระส่ายไม่กล้าสู้สายตาคนมองอย่างเคย เพราะเธอเด็กกว่าเขามาก เคยคบผู้ชายก็แค่ไม่กี่คนสมัยเรียน เลยไม่มีประสบการณ์อะไรไปสู้คนอย่างเขาได้ แม้ไม่รู้จักดีก็รับรู้ได้ว่าสายตาคมมันช่ำชองผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแค่ไหน ให้สู้ยังไงเธอก็แพ้.. เจ็บใจก็ตรงที่ไม่มีความรู้สึกขยะแขยงเหมือนตอนเวลาที่ถูกผู้ชายคนอื่นมอง มันเป็นเพราะอะไร! ?

"โอเค.. ดุจัง" ร่างแกร่งยียวน ปากหนายกยิ้มมุมปากราวกับจะเยาะเย้ยกัน แต่ก็ยอมลุกเดินออกไปอย่างว่าง่าย (?) สิ้นเสียงปิดประตูอิงเอยก็รีบวิ่งไปล็อกประตูไว้แล้วเดินขาสั่นๆ มานั่งลงบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง ยกมือขึ้นกุมหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอกพลางหอบหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติ.. ไม่นานก็เริ่มหายใจได้อย่างปกติจึงพยายามปล่อยวางอีกครั้งแล้วลุกไปแต่งตัว

พอเสร็จร่างบางก็ลงมาข้างล่าง ตามหาเจ้านายทั้งที่ไม่อยากหาจนเจอว่านั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น เขามองหน้าเธอ เธอก็มองหน้าเขาก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาไปก่อนอย่างพ่ายแพ้.. คนชนะยกยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ปิดทีวีแล้วเดินนำออกไปที่รถ คนตัวเล็กก็ตามไปอย่างเงียบๆ และก็นั่งเงียบไปตลอดทาง จนไบรอันเป็นฝ่ายทนไม่ไหว..

"โกรธหรือไง" เสียงต่ำเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆ ล็อกสายตามองตรงไปข้างหน้า ไม่มองคู่สนทนา ถ้าอยู่หลายคนก็คงมีงงกันบ้างแหละว่าเขาพูดกับใคร แต่นี่นอกจากร่างบางกับคนขับรถที่ไม่มีปากมีเสียงแล้วก็ไม่มีใครอีก แล้วใครกันที่เพิ่งจะมีเรื่องกับเขาถ้าไม่ใช่เธอ!

"ฉันจะไปโกรธคุณเรื่องอะไรคะ" พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มอง อิงเอยก็ถือทิฐิไม่มองหน้าเขาเช่นกัน เธอเอ่ยเสียงห้วนแล้วหันหน้าหนีมองออกนอกหน้าต่างรถไปอีกทาง

"ก็เรื่องหมาของฉันกับเรื่องที่ฉันเข้าไปในห้องเธอไง" เรื่องเมื่อเช้าที่ถูกขโมยจูบด้วยต่างหาก.. คนฟังแอบเถียงในใจหลังจากสิ้นคำของคนตัวใหญ่

"ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธคุณหรอกค่ะ คุณเป็นเจ้านาย เป็นเจ้าของบ้าน จะไปที่ไหนก็ได้" เสียงหวานเอ่ยประชดประชันออกมา เพราะถึงเธอโกรธแล้วจะทำอะไรได้ แค่เขาไม่ไล่ออกโทษฐานไปขึ้นเสียงใส่เขาก็บุญหัวแค่ไหนแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเธอจะยอมให้เอาเปรียบได้ตลอดนะ ถ้าเกินความอดทนเมื่อไรก็สู้เป็นเหมือนกัน!

"ก็ดีที่รู้" ไบรอันพูดหน้าตายท่าทางหยิ่งยโสทำอิงเอยยิ่งฉุนหนัก แต่ไม่อยากจะปะทะให้อารมณ์ขึ้นมาไปกว่านี้เลยได้แต่ข่มอารมณ์ไว้จนกระทั่งถึงโรงเรียนของอลัน ความขุ่นเคืองจากคนพ่อพลันสลายหายไปเมื่อได้พบเจอกับความน่ารักของคนลูก

"อิงเอย~" พอเห็นหน้ากันคนตัวน้อยก็ตะโกนเรียกแล้ววิ่งเข้ามากอดเต็มแรง ทำร่างบางๆ ผงะไปเล็กน้อยแต่ก็กอดตอบอย่างระมัดระวังเพราะกลัวร่างนิ่มๆ นั้นจะบุบสลาย เดี๋ยวคนข้างๆ จะเฉ่งหัวเธอเอาได้

"แดดดี๊สวัสดีค้าบ" อลันหันมาพูดกับพ่อด้วยรอยยิ้มสดใส แต่สองแขนยังคงกอดพี่เลี้ยงคนสวยไว้แน่น ทำคนมองค่อนข้างแปลกใจที่ลูกชายดูจะชอบอิงเอยมากแถมสนิทสนมกันเร็วจนแทบจะไม่เห็นหัวเขาอีก

"เห่อพี่เลี้ยงจนไม่สนใจแด๊ดเลยนะ น้อยใจนะเนี่ย"

"แดดดี๊ไม่น้อยใจนะครับ อลันรักแดดดี๊เหมือนกัน" ร่างน้อยๆ ผละออกจากพี่เลี้ยงมากอดขาพ่อทันทีด้วยกลัวร่างสูงจะน้อยใจอย่างที่บอกจริงๆ คนถูกอ้อนเลยยิ้มออก ย่อตัวนั่งยองๆ ลงกอดลูกชายแล้วขโมยหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างหนักๆ เต็มรัก ก่อนอุ้มขึ้นพาเดินไปที่รถ โดยมีร่างบางถือกระเป๋าใบน้อยของเจ้าตัวเล็กเดินตามไปติดๆ

"ไหน.. วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้างครับ เล่าให้แด๊ดฟังหน่อยสิ" พอรถออกตัวไปบนถนนมุ่งสู่ทางกลับบ้านได้สักพัก ร่างสูงก็หันมาคุยกับลูกที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับพี่เลี้ยงคนสวยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ ผิดกับนักธุรกิจมาดเข้มที่คนภายนอกเห็นโดยสิ้นเชิง

"สนุกมากเลยค้าบ เพื่อนๆ มาถามอลันใหญ่เลยว่าอิงเอยเป็นใคร เพื่อนๆ บอกว่าอิงเอยจะมาเป็นหม่ามี้ของอลัน จริงหรอครับแดดดี๊้? " เด็กชายเล่าเรื่องที่พบเจอมาทั้งวันให้คนเป็นพ่อฟัง ก่อนเปลี่ยนเป็นคำถามในตอนท้ายประโยคด้วยแววตาเปล่งประกายอย่างมีความหวัง ตาคมหันไปมองร่างบางที่ตอนนี้ช็อกตาค้างกลางอากาศไปแล้วพลางยิ้มขำ จนอลันถามย้ำมาอีก

"จริงมั้ยครับแดดดี๊.." เจ้าตัวเล็กถามย้ำเสียงอ่อยเมื่อเห็นพ่อไม่ยอมตอบมาเสียที เลยกลัวว่าความหวังที่อยากจะมีแม่อย่างเพื่อนๆ จะไม่เป็นจริง ไบรอันมองหน้าลูกด้วยความเห็นใจ.. เป็นเพราะเขายังรักสนุกและไม่เจอคนถูกใจเลยไม่ยอมหยุดที่ใครสักที ขนาดแม่ของอลันกับเขายังถูกผู้ใหญ่จับคลุมถุงชนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งที่ไม่ได้รักกันเลย แน่นอนว่าที่อลันเกิดมาก็ไม่ได้เกิดจากความรักเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รักลูกของเขามากกว่าใครทั้งหมด..

"อลันอยากมีหม่ามี้คนใหม่หรอครับ" เสียงทุ้มเอ่ยถามลูก สิ้นคำคนฟังก็รีบพยักหน้ารับรัวๆ ทันที

"แล้วอยากให้อิงเอยมาเป็นหม่ามี้หรอครับ" ถามอีกก็พยักหน้าอีก แต่คนที่มีชื่ออยู่ในประโยคกลับนั่งค้านหัวชนฝาอยู่ในใจ ได้แต่กล้ำกลืนความลำบากใจอย่างเงียบๆ จะขัดออกไปก็ไม่รู้จะแทรกยังไง อีกอย่างแววตาแป๋วๆ ของอลันก็มีแต่ความคาดหวัง ถ้าเธอรีบปฏิเสธออกไปเลยก็กลัวจะทำร้ายจิตใจเด็ก เลยต้องรอจังหวะดีๆ เสียก่อน

"งั้นคงต้องถามอิงเอยแล้วล่ะว่าอยากมาเป็นหม่ามี้ของอลันหรือเปล่า" จู่ๆ ร่างสูงก็โยนระเบิดลูกใหญ่มาให้ ทำอลันหันมามองร่างบางตาแป๋วเลยทีนี้ ยิ่งปฏิเสธยากไปกันใหญ่..

"อิงเอย.." เด็กชายเอ่ยเรียกเสียงอ่อย ทำหน้าเศร้าเพื่อขอความสงสารและเห็นใจ

"อะ เอ่อ.. อลันครับ ใจเย็นๆ นะ คือ.. จะมีหม่ามี้คนใหม่ได้แดดดี๊้กับหม่ามี้ต้องรักกันนะคะ อยู่ๆ มาจับคู่ให้กันเลยไม่ได้นะ" อิงเอยพยายามหาถ้อยคำดีๆ มาอธิบายให้ร่างเล็กฟัง โดยพยายามไม่ให้คำพูดมันทำร้ายจิตใจของคนฟังให้มากที่สุด โชคดีที่อลันไม่ได้งอแงแถมฟังแล้วยังทำท่าครุ่นคิดตามอีก นั่นทำให้คนตัวบางเริ่มมีความหวัง.. และในขณะที่เธอกำลังร้อนใจคนที่โยนระเบิดลูกใหญ่มาให้กลับนั่งยิ้มอย่างสบายใจ ตากลมเลยมองค้อนกลับอย่างเคืองๆ เพราะรู้ว่าเขาจงใจแกล้งกันชัดๆ

"แดดดี๊.. แดดดี๊ต้องทำให้อิงเอยรักแดดดี๊ให้ได้นะครับ อิงเอยจะได้มาเป็นหม่ามี้ของอลัน^^" หลังจากนั่งคิดอยู่สักพักเจ้าตัวน้อยก็หันมาพูดกับพ่อยิ้มๆ มีความหวังมากขึ้นไปอีกเพราะรู้ว่าพ่อตนนั้นเก่งกว่าใคร ยังไงก็ต้องทำได้อยู่แล้ว คนฟังมองหน้าลูกชายด้วยความหนักใจ ก่อนปลายตามองร่างบางแล้วตอบรับออกมาเพื่อให้มันผ่านไป

"อ่า.. ครับ แด๊ดจะพยายาม.." ตากลมมองค้อนทันทีที่คนตัวใหญ่ไม่ปฏิเสธลูกไป กลับไปให้ความหวังเพิ่มอีก และสุดท้ายเธอก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนาให้อลันลืมเรื่องนี้ไปเร็วๆ และอย่าได้รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก..

พอกลับถึงบ้านหน้าที่ของพี่เลี้ยงอย่างอิงเอยก็คือพาอลันไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่แล้วสอนทำการบ้านที่คุณครูสั่ง ซึ่งวันนี้เป็นงานวาดภาพง่ายๆ ร่างบางก็นั่งมองเจ้าตัวเล็กทำด้วยความเอ็นดู เพราะเป็นเด็กลูกครึ่งผิวขาว ตาโต แก้มป่อง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด พลอยทำให้สาวโสดเกิดจินตนาการเพ้อฝันว่าถ้าวันใดวันหนึ่งได้แต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเองเธอก็อยากจะมีลูกน่ารักๆ แบบนี้สักคนสองคน เธอคงจะมีความสุขมาก..

"สวยมั้ยค้าบอิงเอย" ร่างบางหลุดออกจากโลกจินตนาการเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ พูดขึ้นพร้อมกับชูกระดาษที่ตัวเองวาดรูปบางอย่างลงไปให้ดูด้วยรอยยิ้มแป้นแล้น

"หื้ม? อลันวาดรูปอะไรหรอครับ" ร่างบางเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ที่เห็นและจับใจความได้ก็เหมือนจะเป็นรูปคนแต่หยิกหยอยแปลกๆ

"อลัน แดดดี๊แล้วก็อิงเอยไงค้าบ คนนี้แดดดี๊ คนนี้อลันเอง ส่วนคนนี้ก็อิงเอย^0^" เด็กชายภูมิใจนำเสนอผลงานของตัวเองสุดๆ พูดไปยิ้มไปจนคนมองรู้สึกลำบากใจแปลกๆ เพราะที่วาดนั่นมันรูปครอบครัวชัดๆ ไม่รู้ว่าทำไมอลันถึงอยากได้เธอเป็นแม่นัก หรืออาจจะเป็นใครก็ได้เพียงแต่เธอเข้ามาถูกเวลา?

"อลันครับ.. อิงเอยถามหน่อยว่าทำไมถึงอยากให้อิงเอยเป็นหม่ามี้ของอลันล่ะครับ เราเพิ่งรู้จักกันเองนะ" ร่างบางถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ ก่อนจะเอ่ยถามคนไร้เดียงสาออกไปตรงๆ เผื่อรู้ต้นเหตุแล้วจะหาทางแก้ได้ถูกจุด

"เพราะอิงเอยสวยแล้วก็ใจดีกับอลันครับ อิงเอยยิ้มให้อลันเหมือนที่แดดดี๊ยิ้มให้อลัน อลันไม่อยากได้พี่เลี้ยงคนใหม่มาแทนอิงเอยอีก เลยอยากให้อยู่กับอลันไปนานๆ เพลงบอกกับอลันว่าถ้าอลันมีหม่ามี้ก็ไม่ต้องมีพี่เลี้ยง อลันเลยอยากให้อิงเอยมาเป็นหม่ามี้ของอลัน.. ได้มั้ยครับ? " น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเจรจาบอกอย่างตั้งใจ กะโน้มน้าวใจคนฟังให้สำเร็จโดยตบท้ายด้วยลูกอ้อนอย่างที่ชอบทำ เพราะอ้อนทีไรได้ผลตลอด แต่ครั้งนี้คงใช้ไม่ได้ผลอีกฝ่ายจึงไม่ตอบอะไรกลับมา

"อิงเอย.."

"เรื่องหม่ามี้มันต้องใช้เวลานะครับอลัน แต่อิงเอยสัญญาว่าจะเป็นพี่เลี้ยงและดูแลอลันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะไม่ให้คนอื่นมาแทนที่ โอเคมั้ยครับ" ร่างบางเผลอสร้างพันธะสัญญากับคนตัวเล็กออกมาด้วยความสงสารและเห็นใจ เธอเดาว่าหลังจากที่แม่แท้ๆ ของอลันเสีย ไบรอันก็คงจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกตั้งแต่ตอนนั้นซึ่งก็ผ่านมาสองปีแล้ว และฟังจากที่เพลงเล่า.. ทุกคนที่เข้ามาก็หวังจะจับเจ้าของบ้านกันทั้งนั้น ไม่ได้มาเพื่อเลี้ยงเด็ก จากที่เห็นแต่ละคนวันที่มาคัดตัวก็ไม่น่าจะมีใครทำหน้าที่นี้ได้ดี เพราะฉะนั้นเลยไม่รู้ว่าตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาเด็กคนนี้ต้องพบเจอกับอะไรและพี่เลี้ยงแบบไหนบ้าง.. พลอยทำให้เธอสงสาร อยากจะดูแลเด็กน่ารักๆ แบบอลันให้ดีที่สุดตลอดระยะเวลาการว่าจ้าง.. ก็เท่านั้น

..

..

..

..

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status