แชร์

ตอนที่ 6

Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว

Writer : Aile'N

ตอนที่ 6

Truuuu.. Truuuu..

"ฮัลโหล"

[ฉันโทรมากวนแกหรือเปล่าเนี่ย] ปลายสายถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำเสียงเล็กของคนรับฟังดูห้วนกว่าปกติ เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง เลยกลัวว่าตัวเองจะโทรมาปลุกให้ตื่นหรือเปล่าเพราะเวลานี้ก็ใกล้จะดึกมากแล้ว

"เปล่า ยังไม่ได้นอน" อิงเอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงแบบเดิม เธอหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละแต่ไม่ใช่เพราะเพื่อน มันเพราะเจ้าของบ้านต่างหาก!

[แล้วทำไมเสียงห้วนๆ วะ] แพรวถามอย่างงุนงง ว่าจะโทรมาถามไถ่เรื่องที่ทำงานใหม่เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะเจออารมณ์แบบนี้

"หงุดหงิดคน" พูดไปใบหน้ากวนอารมณ์ของคนที่ทำให้อารมณ์เสียก็แวบเข้ามาในความคิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดไปกันใหญ่

[ใครวะ ไปอยู่วันเดียวก็มีศัตรูแล้วหรอวะ] ปลายสายซักไซ้ด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

"อืม ศัตรูตัวฉกาจเลยด้วย! " เสียงหวานกระแทกบอกพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ บ่งบอกว่าไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาๆ แพรวเองก็ค่อนข้างจะแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น เพราะอิงเอยเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว บางทีกำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่พอมีคนมาชวนคุยเข้าเรื่องอื่นก็หายและลืมเรื่องก่อนไปในทันที นอกเสียจากว่าจะเจอเรื่องที่มันสุดจะทนจริงๆ ถึงได้หัวฟัดหัวเหวี่ยงมาถึงเธอแบบนี้

[ใครวะ แกดูหงุดหงิดมากเลยนะเนี่ย อยากรู้ๆ บอกมา!] คนอยากรู้เร่งเร้า เริ่มจะขุ่นเคืองนิดๆ ที่อีกฝ่ายมัวแต่ลีลาไม่ยอมบอกมาเสียที

"เจ้านายฉันเองแหละ" ร่างบางยอมบอก แน่นอนว่าคนฟังคงจะอึ้งแน่ที่มาทำงานวันแรกก็มีปัญหากับเจ้านายเสียแล้ว

[จริงดิ! ? ทำไมวะ มันหัวงูใส่แกใช่มั้ย] เหตุผลเดียวที่แพรวนึกออกก็คือเรื่องนี้ เพราะเห็นเพื่อนเจอซ้ำๆ ในทุกที่ทำงาน ถามไปทั้งๆ ที่ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้านายคนใหม่ของเพื่อนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ หรือไม่ก็ทั้งหญิงและชายเป็นครอบครัว และคนเป็นสามีก็คงจะหลบภรรยามาเจ๊าะแจ๊ะเพื่อนของเธอแน่ๆ

"นั่นก็ใช่ แต่ไม่ใช่แค่นั้น ทั้งหลงตัวเอง ขี้มโนแถมยังกวนประสาทสุดๆ เลย! " รู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดีที่มานั่งนินทาเจ้านายให้คนอื่นฟัง แต่อิงเอยสุดจะทนเลยอยากจะระบายออกไปบ้าง แค่วันแรกเธอยังปั่นป่วนขนาดนี้แล้วต่อไปเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ แต่สังหรณ์ใจว่าต้องเจอแน่ๆ อ่ะ!

[ผู้ชายใช่มั้ยวะ] แพรวถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

"เออ! เป็นหม้ายด้วย! "

[หล่อป้ะ] พอได้คำตอบก็ถามต่อไปอีกด้วยความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งได้รู้ว่าใครคนนั้นไม่มีภรรยาแพรวก็ยิ่งระริกระรี้กว่าปกติ แต่ปลายสายไม่มีโอกาสได้เห็น

"ก็หล่ออ่ะ เป็นฝรั่ง" คนถูกถามหน้ามุ่ย เมื่อเพื่อนเริ่มออกนอกเรื่องแทนที่จะสนใจในสิ่งที่เธอเล่า

[เฮ้ยเพื่อน! แกจะเกลียดเขาไม่ได้นะเว้ย หล่อรวยแบบนั้น แกต้องจับทำผัว! เข้าใจมั้ย] แพรวสั่งห้ามออกมาอย่างจริงจัง และหนีไม่พ้นเรื่องหาผัวหล่อรวยให้เพื่อน

"โว๊ะ! เลิกหาผัวให้ฉันสักทีจะได้มั้ย! " เสียงขุ่นโวยวายลั่น หน้ามุ่ยหนักกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนที่เอากาแฟไปให้ในห้องผู้ชายคนนั้นก็ถามว่าไม่สนใจอยากจะเป็นเมียเขาหรอ แล้วเพื่อนรักยังจะมายัดเยียดให้จับเขาทำผัวอีก เอาเข้าไป! ไม่ต้องหวังดีกลัวเธอจะขึ้นคานขนาดนั้นก็ได้มั้ง =_=*

[หวังดีนะเนี่ย แกกับพ่อแม่และเพื่อนสวยๆ อย่างฉันจะได้สบายสักทีไง]

"เพ้อเจอ! แค่นี้นะ หงุดหงิด! " เสียงขุ่นตัดบทและรีบวางสายไปด้วยขี้เกียจจะฟังเพื่อนรักพล่ามอะไรอีก พอไร้เสียงรบกวนก็นอนมองเพดานนิ่งด้วยความหนักใจ สักพักก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งแล้วลุกไปปิดไฟนอน..

วันต่อมา..

คนตัวเล็กยืนมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น เพราะต้องเข้าไปปลุกเจ้าของห้องอย่างเมื่อวาน และสิ่งที่พบเจอในตอนนั้นก็ทำให้เธอไม่กล้าเข้าไปอีก เลยยืนชั่งใจอยู่นานนับนาที จนกลัวว่าถ้าขืนชักช้าจะทำให้สายเลยลองเคาะประตูดังๆ แล้วเรียกดูก่อน แต่ก็ไม่มีคนมาเปิดหรือขานรับอีกเช่นเคย ก็เลยจำต้องเข้าไป..

บรรยายมันเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด ร่างคนขี้เซายังเห็นว่านอนนิ่งอยู่บนเตียง ในลักษณะนอนคว่ำ ใบหน้าแนบไปกับหมอน ท่อนบนเปลือยเปล่า.. เห็นรอยสักรูปอะไรบางอย่างลางๆ เต็มแผ่นหลัง ท่อนล่าง.. มีผ้าห่มคลุมนับว่าโชคดี =_="

"คุณไบรอัน.. ตื่นได้แล้วค่ะ เช้าแล้ว.. คุณไบรอัน! ตื่น! " เสียงหวานตะโกนเรียกดังๆ หลังจากถอยห่างจากเตียงออกมาในระยะที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด แต่คนนอนก็ยังไม่ยอมตื่น เพียงครางท้วงเสียงอู้อี้อยู่กับหมอนเท่านั้น คนมองเลยคิดหาแผนใหม่ จนคิดออกก็เดินไปหยิบไม้แขวนเสื้อในตู้เสื้อผ้าของเขาออกมา เพื่อเอามาใช้เขี่ยปลุกใครคนนั้นแทนการใช้มือแตะตรงๆ เดี๋ยวจะโดนดึงลงไปอย่างเมื่อวานอีก =_="

"คุณไบรอัน เช้าแล้วค่ะ ตื่นๆ "

พรึ่บ!

เป็นไปตามคาด.. พอไม้แขวนเสื้อแตะลงบนไหล่กว้างของคนนอนเบาๆ ใครคนนั้นก็คว้ามือมาจับไว้แต่พอรู้ว่าเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่มือนุ่มๆ ของคนปลุกเขาก็หน้าขึ้นมามอง อิงเอยแสยะยิ้มเยาะเย้ยใส่ไบรอันด้วยความสะใจ แต่ลืมไปว่าเธอจับไม้แขวนอยู่ ซึ่งอีกคนก็จับปลายอีกฝั่งอยู่เช่นกัน

พรึ่บ!

คราวนี้เป็นร่างสูงที่แสยะยิ้มร้าย.. เมื่อความสะเพร่าทำคนตัวบางถูกดึงลงมาบนเตียงซ้ำรอยเดิมของเมื่อวานอย่างหมดท่า ไม่ถึงเสี้ยววินาทีเจ้าของห้องก็พลิกตัวมาคร่อมร่างของเธอไว้และแย่งไม้แขวนเสื้อโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

"ปล่อยนะ! คุณจะทำอะไรอ่ะ! ? " อิงเอยพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่เรี่ยวแรงเท่าลูกแมวดิ้นไม่ระคายเคืองคนตัวใหญ่เลยสักนิด ซ้ำร้ายสองแขนยังถูกมือใหญ่รวบขึ้นไปกดไว้เหนือศีรษะ หมดสิ้นหนทางจะหนีได้อีก..

"หึ.. เก่งนักไม่ใช่หรอ เอาสิ.. คราวนี้จะหนียังไงหื้ม" ไบรอันแสยะยิ้มเย้ยขณะมองมาที่คนฟังอย่างท้าทาย แววตาของเขาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสนุก ในขณะที่อีกคนกำลังประสาทเสียกับการกระทำในแต่ละอย่างของเขา!

"เล่นบ้าอะไรของคุณ! ฉันไม่เล่นนะ ปล่อย! " เสียงหวานตะเบ็งใส่ร่างสูงอย่างโกรธๆ อยากจะถามเหลือเกินว่าเขาเป็นอะไรมากหรือเปล่าถึงได้ชอบแกล้งเธอนัก

"ฉันก็ไม่ได้จะเล่นๆ นี่.." ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นทันทีเมื่อคนข้างบนก้มลงมากระซิบบอกเสียงพร่าที่ข้างหู ก่อนขบเม้มเบาๆ แล้วแกล้งเอาไรหนวดแข็งๆ มาถูไถกับผิวแก้มเนียนใส จงใจจะทำให้เธอรู้สึกสยิวเล่น..

"อะ อื้ออ.. หยุดนะ! " กลิ่นหอมอ่อนจากกายสาวทำคนตัวใหญ่เผลอสูดดมเข้าเต็มปอดอย่างหื่นกระหาย ร่างบางทำได้แค่หันหน้าหนีและหลับตาปี๋ด้วยความหวาดหวั่น ใจดวงน้อยๆ เต้นแรงไม่เป็นส่ำเมื่อลมหายใจร้อนๆ เป่ารดซอกคอขาวอยู่ตลอดและพลอยทำให้ร่างกายของเธอร้อนรุ่มไปด้วย แต่ก็ยังพยายามจะดิ้นรน..

"ดิ้นมากระวังอะไรของฉันมันจะทิ่มเอานะ.." คำบอกกล่าวทำการกระทำนั้นหยุดชะงักในทันทีทันใด ได้แต่นอนตัวแข็งทื่อด้วยกลัวว่าจะถูกสิ่งนั้นของเขาทิ่มอย่างที่บอกจริงๆ เธอลืมไปว่าเมื่อวานอีกฝ่ายไม่ได้ใส่อะไรนอน วันนี้ก็คงจะไม่ต่างกัน!

"ฉันตื่น.. มันก็ตื่น.. " จมูกโด่งคลอเคลียบอกอยู่ข้างแก้มใส สิ้นคำก็จับมือบางเลื่อนลงไปสัมผัสกลางกายที่กำลังแข็งขืนของตัวเองด้วยใบหน้าระรื่น

พรึ่บ

"อี๊~ ไม่นะ! ออกไป! ลามก! บ้ากาม! วิปริต! ปล่อยฉันเดียวนี้นะ!! " ร่างบางสติกระเจิง ร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่น พยายามจะชักมือกลับและดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง

"หึหึ" เสียงต่ำหัวเราะขำเบาๆ ในลำคออย่างชอบอกชอบใจเมื่อเห็นคนตัวบางเอามือตัวเองไปกอดไว้อย่างหวงๆ หลังจากที่เขาปล่อยออกเป็นอิสระ ราวกับกลัวว่าเขาจะแย่งไปอีก..

แล้วจะไม่ให้กลัวได้ยังไงกันล่ะ! แค่โดนเฉียดๆ ก็เป็นความทรงจำอันเลวร้ายมากพอแล้ว!

"ฉันจะโกรธคุณจริงๆ ด้วย! " ตากลมตวัดมองร่างสูงพร้อมกัดฟันพูดอย่างโกรธๆ เหตุการณ์เมื่อกี้ทำเธอกลัวจัดจนน้ำตาเอ่อ สติแตกอย่างที่ไม่เคยเป็น แต่ใครอีกคนกลับมองว่าสีหน้าแบบนั้นมันเร้าอารมณ์ จนอยากจะแกล้งแรงๆ กว่านี้อีก..

"โกรธฉันเรื่องอะไรล่ะ ก็แค่เจ้านายหยอกลูกน้องเล่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไง" คนเจ้าเล่ห์บอกหน้าตาย ไม่สะทกสะท้านกับสายตาคนฟังที่จ้องมองเหมือนอยากจะแหวกอกเขาเลยสักนิด

"ใครเขาหยอกกันแบบนี้วะ ออกไปเลยนะ! ฉันจะลาออก! ไม่อยู่แล้วไอ้เจ้านายโรคจิต! " ร่างบางตะโกนใส่หน้าหล่อๆ นั้นสุดเสียง และพยายามทุบกำปั้นใส่อกแกร่งแรงๆ เพื่อให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระเสียที แต่ทุบแทบตายก็เหมือนทุบกำแพงหิน มีแต่เจ็บมือเสียเอง

"หื้ม? คิดดีแล้วหรอ? แล้วพ่อแม่ของเธอจะเป็นยังไงล่ะถ้าเธอออกจากงานอีก" ไบรอันเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสา ไม่ได้เรียกว่าคำถามด้วยซ้ำ มันคือถ้อยคำถากถางต่างหาก!

"นี่คุณ.. คุณสืบประวัติของฉันหรอ! ? " คนฟังเสียงหายด้วยความอึ้ง.. ในประวัติที่เธอกรอกให้เขาไปตอนสมัครงาน ไม่มีข้อมูลพ่อแม่หรือเรื่องที่เธอลาออกจากงานเป็นว่าเล่นจนสถานะทางการเงินฝืดเคืองเลย แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงถ้าไม่ใช่ว่าเขาแอบไปสืบประวัติของเธอ! ?

"นายจ้างก็ควรจะต้องรู้ประวัติลูกจ้างของตัวเองมั้ยล่ะ" ใครคนนั้นลอยหน้าลอยตาบอกราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ถ้ารู้ถึงขนาดนี้มันก็เกินไปไม่ใช่หรือไง!

"...คุณจะเอายังไงก็พูดมาเลยดีกว่า ทำแบบนี้ทำไม! ? " อิงเอยกัดฟันแน่น พยายามข่มอารมณ์โกรธไว้ให้ลึกที่สุดเพราะสถานะกำลังตกเป็นรองทุกอย่าง เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงตัดสินใจถามออกไปตรงๆ

"ไม่รู้.. แกล้งเธอแล้วมันสนุกดี" คนพูดยักไหล่น้อยๆ ขณะพูด เหตุผลสิ้นคิดนั้นทำคนฟังจุกจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

"แค่เนี้ย? " ตากลมมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ที่เธอถูกเขาปั่นหัวและทำให้กลัวสารพัดก็เพื่อความสนุกของเขาแค่นั้นเองหรอ? เหตุผลแบบนี้มันไม่เอาแต่ใจไปหน่อยหรือไง! หรือคิดว่าเป็นนายจ้างแล้วจะทำอะไรก็ได้

"อืม.." ไบรอันยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ตัว เขาสนุกสุดๆ ที่ได้แกล้งและดูปฏิกิริยาตอบกลับของร่างบาง ซึ่งปกติเขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยด้วยซ้ำ แต่กับอิงเอยยิ่งแกล้งก็ยิ่งสนุก..

"โรคจิต! ฉันก็มีหัวจิตหัวใจเหมือนกันนะ" คนใต้ร่างตัดพ้อหน้าบึ้งตึง เธออุตส่าห์หนีจากพวกผู้ชายหัวงูที่อื่นมาได้แล้วก็ยังมาเจอที่นี่อีก ไม่รู้เวรกรรมอะไร!

"หึ.."

"หัวเราะทำบ้าอะไรห้ะ! แล้วก็ปล่อยได้แล้ว ฉันยังไม่ได้ปลุกอลัน เดี๋ยวสาย! " เสียงขุ่นด่ากราดออกมาอย่างไม่ไว้หน้าเมื่อคนตัวสูงยังไม่มีท่าว่าจะสำนึก เธอเกลียด! เกลียดสายตา เกลียดรอยยิ้ม เกลียดเสียงหัวเราะ เกลียดทุกอย่างของผู้ชายคนนี้จนเข้ากระดูกดำ!

ฟอดดดด~

"อ๊ะ! ? " จมูกโด่งฝังลงมาบนผิวแก้มนุ่มพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนผละออกไปอย่างง่ายดาย.. การกระทำนั้นทำร่างบางทั้งเขินทั้งงง แต่ไม่มีเวลาจะคิดอะไรมาก พอเป็นอิสระเธอก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว..

..

..

"อิงเอยเป็นอะไรหรอครับ.. หน้าบึ้งตั้งแต่เช้าแล้ว อลันทำอะไรผิดหรอครับ" เสียงเล็กถามขึ้นขณะจ้องมองมาตาแป๋วๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นเหงาหงอยเพราะกลัวจะทำอะไรให้คนข้างๆ ไม่พอใจ เธอถึงได้หน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดและไม่ยอมคุยเล่นกับเขาอย่างเคย

"เอ่อ.. เปล่าครับ รีบทานข้าวกันเถอะ เดี๋ยวไปเรียนสายนะครับ" อิงเอยอ้ำอึ้งก่อนบอกปัดเพราะไม่รู้จะตอบคำถามเด็กน้อยยังไง สิ้นคำก็เงยหน้าขึ้นมองค้อนเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันบนโต๊ะอาหาร เธอบิ้วอารมณ์ตัวเองให้กลับมาเป็นปกติไม่ได้ก็เพราะเขานั่นแหละ เรื่องเมื่อเช้าเธอพยายามจะไม่ใส่ใจแล้วแท้ๆ เขายังมานั่งจ้องหน้าเธอตลอดเวลาจนกระเดือกข้าวไม่ลงอีก!

คนถูกค้อนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ไม่มีว่าจะสะทกสะท้านอะไรเลยสักอย่าง ร่างบางจึงเพ่งสมาธิไปที่อลันเพียงคนเดียว พยายามมองร่างสูงเป็นอากาศธาตุไป กระทั่งทานมื้อเช้าเสร็จ เธอกับเขาก็ไปส่งคนตัวเล็กพร้อมกันอย่างเมื่อวาน..

"วันนี้ฉันไม่ว่างไปรับอลันด้วยนะ ไปกับคนขับรถแล้วกัน" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะเดินทางกลับ โชคดีที่พ่อหนุ่มนักธุรกิจเขามีโน้ตบุ๊กติดมือขึ้นรถมาด้วย ตลอดทางทั้งขาไปและกลับเขาเลยไม่มีเวลามากวนใจเธออีก

"ดีค่ะ เบื่อขี้หน้า" คนที่นั่งมองออกนอกหน้าต่างรถตลอดการเดินทางหันมาบอกนิ่งๆ เท่านั้นก็หันกลับไป บทสนทนานั้นทำคนขับรถที่ได้ยินเต็มสองหูแอบสะดุ้งและตกใจไม่น้อยที่เห็นร่างบางพูดกับเจ้านายแบบนั้นทั้งที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสองวันเต็ม

"หึ.." ไบรอันกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ระคาย ก่อนล้วงเอาบัตรพรีเมี่ยมสีดำออกจากกระเป๋ามายื่นให้

"อะไรคะ" อิงเอยมองนิ่ง ไม่ยอมรับเนื่องจากไม่รู้จุดประสงค์ของการให้

"เผื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้ เช่นพาอลันไปเดินห้าง ซื้อของหรือหาอะไรกินเทือกนั้น" ร่างสูงบอกและยื่นมือค้างอยู่แบบนั้น จนคนฟังยอมรับไปโดยดี

"อู้ว ให้มาแบบนี้ฉันจะรูดเอาอะไรส่วนตัวคุณก็ไม่รู้น่ะสิ" อิงเอยแกล้งแหย่ขณะลอยหน้าลอยตามองบัตรในมืออย่างพิจารณา เกิดมาเพิ่งเคยสัมผัสบัตรเครดิตสุดหรูแบบนี้เป็นครั้งแรก จะเรียกว่าเป็นบุญหรือกรรมดีนะ เพราะนอกจากจะไม่ใช่ของตัวเองแล้วยังต้องมาคอยเก็บรักษาให้ดีไม่ให้หายอีก

"ตามสบาย.. แต่ถ้าเห็นอะไรไม่ชอบมาพากล ฉันก็แค่หักเงินเดือนเธอ" คนพูดไหวไหล่อย่างไม่ถือสา เพราะสถานะของเขาเหนือกว่าอีกคนทุกทางอยู่แล้ว

"ชิ.. ขี้งก" เสียงเบาบ่นพึมพำหน้ามุ่ย เธอก็พูดไปอย่างนั้นแหละน่า ไม่ได้อยากได้เงินของใครหรอก โดยเฉพาะคนอย่างเขา! อ้อ.. ยกเว้นเงินเดือนที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองไว้อย่างหนึ่ง!

"หึ.. ล้อเล่น เธอเองก็มีสิทธิ์ในการ์ดใบนั้นด้วย" ใครคนนั้นขำน้อยๆ เมื่อเห็นร่างบางบ่นจริงจัง เลยบอกความจริงออกไป

"ไม่เอาหรอกค่ะ ไม่อยากเป็นหนี้ใคร" เสียงหวานสวนกลับมาอย่างไม่ลังเล ไร้ท่าทีสนใจบัตรใบนั้นและเงินที่อยู่ข้างใน

"ฉันไม่ได้จะให้เธอจ่ายคืนเสียหน่อย" ไบรอันบอกอีก กะจะโชว์ความป๋าใจป้ำใส่อีกคนอย่างเต็มที่

"ไม่เอาอยู่ดีนั่นแหละ! " อิงเอยกระแทกเสียงบอกด้วยเริ่มจะหงุดหงิด ซึ่งก็เป็นผลมาจากเรื่องเมื่อเช้านั่นแหละ เธอถึงไม่อยากคุยอะไรกับเขามาก คุยแล้วหัวร้อน! หงุดหงิด!

"งานก่อนๆ เธอก็เถียงเจ้านายคอเป็นเอ็นแบบนี้หรอ? " แต่ในขณะที่ร่างบางพยายามจะหลีกเลี่ยงการพูดคุย อีกคนพอได้เริ่มพูดหน่อยกลับจ้อไม่หยุด =_="

"คุณคนแรก! หวังว่าจะรู้ตัวนะคะว่าเพราะอะไร! " เสียงขุ่นเหน็บขณะตวัดหางตามองหน้าคนฟัง

"อู้ว.. ได้เปิดซิงคนแรกเสียด้วย" ใครคนนั้นบอกเสียงหื่นๆ เจตนาไม่ได้อยู่ที่เรื่องก่อนหน้าแล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะด่าจะว่าจะเถียงยังไง เธอก็ฆ่าผู้ชายคนนี้ไม่ตายเลยจริงๆ ลื่นไหลอย่างกับปลาไหล!

..

..

..

..

อิป๋ามีแววจะจับเด็ก ไม่ได้ถูกเขาจับนะ จะจับเขา 5555555

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status