แชร์

ตอนที่ 5

Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว

Writer : Aile'N

ตอนที่ 5

"อลัน.. ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ ป้ะ ไปทานข้าวกัน ค่อยกลับมาทำใหม่นะครับ" ใบหน้ากลมๆ เงยขึ้นมองสบตาคนพูดเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง คนฟังพยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย ก่อนลุกขึ้นนั่งดีๆ มองอีกคนตาแป๋ว

"อิงเอยอุ้มหน่อยครับ" มองอยู่นานร่างบางก็ไม่เข้าใจ เสียงใสจึงอ้อนขึ้นมาตรงๆ พร้อมกับชูมือทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศ แววตากลมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนั้น ถ้าปฏิเสธก็คงจะใจร้ายไม่ใช่น้อย อิงเอยจึงเดินมาอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่เตียงขึ้น เจ้าตัวก็ช่างรู้หน้าที่พออุ้มขึ้นปั๊บก็กอดคออีกคนไว้แน่น แล้วซบหน้าลงกับลาดไหล่บาง

เรียบร้อยก็พากันเดินลงมาข้างล่างเพื่อทานมื้อเย็น โดยมีคนเป็นพ่อที่เพิ่งออกจากห้องเดินตามกันมาติดๆ แต่คนตัวบางไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่ชวนกันคุยเจื้อยแจ้วอยู่กับเจ้าตัวเล็ก ซึ่งเป็นภาพที่ไบรอันไม่เคยเห็นพี่เลี้ยงคนไหนทำเลย แม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของอลัน..

เห็นแบบนั้นแล้วอยู่ๆ ร่างสูงก็นึกถึงคำพูดของลูกขึ้นมาว่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ทั้งที่ไม่เคยพูดถึงแม่มานานมากแล้วและไม่เคยมีทีท่าว่าจะอยากได้แม่ใหม่มาก่อนเลย แต่กับคนนี้กลับสนิทกันเร็วจนน่าตกใจ.. พอทบทวนคำพูดของลูกน้อยเสร็จไบรอันก็นึกถึงภาพรวมของบุคคลที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านบ้าง รูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอก็เข้าท่าอยู่ เสียทีที่ดูเด็กและรั้นเอาเรื่องไปนิด แต่ถ้ากำราบได้ก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน 

"คุณไบรอันยังไม่ลงมาหรอเพลง? " มาถึงโต๊ะอาหารเมื่อไม่เห็นเจ้าของบ้านอิงเอยก็เลยถามคนที่ยืนดูความเรียบร้อยของโต๊ะอยู่เพราะรู้จักแค่คนเดียว นอกนั้นต่างมองมาที่เธอด้วยสายตาไม่ดีนัก ทั้งที่ก็ไม่เคยไปทำอะไรให้.. แปลกดีเนอะคนเรา

สิ้นคำเพลงก็พยักพเยิดไปข้างหลังคนถาม นึกสงสัยเหมือนกันว่าร่างบางไม่เห็นเขาจริงๆ หรือว่าแกล้งไม่เห็นกันแน่ เพราะเดินตามกันมาระยะประชิดเสียขนาดนั้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ยินเสียงฝีเท้าบ้างสิ ถ้าเป็นคนร้ายสะกดรอยตามในซอยเปลี่ยวไม่โดนฆ่าตายไปแล้วหรอป่านนี้ =_="

อิงเอยหันไปมองตามก่อนสะดุ้งตกใจก้าวถอยออกมาหลายก้าวเพราะคนตัวสูงอยู่ใกล้กันมากชนิดหายใจรดศีรษะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน เลยแอบมองค้อนเขาหน่อยๆ โทษฐานที่ทำให้ตกใจก่อนรีบเดินหนีมาอีกฝั่งของโต๊ะอาหาร วางลูกลิงน้อยลงบนเก้าอี้สำหรับเด็กแล้วก็นั่งลงบ้างอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะยังไม่ชินกับการต้องมานั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับเจ้าของบ้านท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันหรูหราโอ่อ่าแบบนี้สักเท่าไร

"อลันอยากให้อิงเอยป้อน.." ในระหว่างที่มื้อค่ำกำลังจะเริ่ม จู่ๆ คนข้างกายก็อ้อนขึ้นมาและไม่ยอมทานข้าวในจานของตัวเอง นั่งมองพี่เลี้ยงคนสวยตาแป๋วๆ เพราะต้องการให้ป้อน มือบางที่กำลังจะตักข้าวคำแรกเข้าปากจึงต้องวางลงบนจานอย่างช่วยไม่ได้

"อย่างอแง" เสียงเข้มดังมาจากอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะพร้อมกับสายตาคมกริบที่ปราดมองมานิ่งๆ ทำคนถูกดุหน้าหงอยลงในทันที ด้วยว่ายังเด็กนักพอติดร่างบางเข้าไปแล้วก็แค่อยากจะอ้อนเท่านั้น ที่ผ่านมาไม่มีใครให้อ้อนหนักๆ ได้แบบนี้มาก่อน พ่อก็ใช่จะอ้อนได้ตลอด พี่เลี้ยงคนก่อนๆ นั้นยิ่งแล้วใหญ่ ถึงจะเป็นแค่เด็กแต่อลันก็รู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อเลี้ยงเด็กอย่างที่ควรจะเป็น

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันทานทีหลังได้.. เดี๋ยวอิงเอยป้อนนะครับ" เป็นอีกครั้งที่อิงเอยพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักปนน่าสงสารยามโดนดุของเจ้านายตัวน้อย เลยหันไปปรามคนพ่อก่อนกลับมาพูดกับคนลูกแล้วยิ้มให้

"..จริงนะครับ^0^" เด็กน้อยแสดงอาการดีใจจนปิดไม่มิด ร่างบางจึงหันเก้าอี้เล็กๆ นั้นมาหาตรงๆ แล้วเริ่มตักข้าวป้อนทีละคำ ป้อนไปคุยกันเล่นกันไปเหมือนไม่เห็นหัวเจ้าของบ้านอีก ซ้ำวันนี้อลันก็กินข้าวเยอะเป็นพิเศษจนเพลงเองก็ยังแปลกใจ เพราะปกติเตรียมให้กินไม่เคยหมดเลยสักครั้ง แต่วันนี้หมดเกลี้ยงแถมกินผลไม้ต่อได้อีกต่างหาก

"เก่งมากครับ" มือเรียวขยี้ผมบางของอลันเบาๆ พร้อมกล่าวชมเมื่อกินอิ่ม เจ้าตัวก็ยิ้มแป้นรับคำชมด้วยความสดใส น่ารักเสียจนคนมองอยากจะก้มลงฟัดแก้มแดงๆ นั้นให้บอบช้ำ แต่เกรงใจสายตาเจ้านายเลยทำได้แค่ยิ้มให้บางๆ เท่านั้น

"งั้นรออิงเอยทานข้าวแป๊บเดียวนะ แล้วค่อยขึ้นไปวาดรูปต่อกัน" เสียงหวานเอ่ยบอก ทีนี้อลันยอมพยักหน้าว่าง่าย อิงเอยจึงมีเวลากินข้าวบ้าง แต่ก็ไม่สงบสุขนักเมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ตลอดเวลา

"จ้องคนอื่นเวลาทานข้าว มันเสียมารยาทนะคุณ" ร่างบางเปรยขึ้นมาเรียบๆ เพราะทนไม่ได้ที่ถูกจ้องมากเกินไป ชนิดที่เรียกได้ว่าเสียมารยาทสุดๆ ถึงเธอจะเป็นแค่ลูกจ้างก็เถอะ

"หึ.." คนถูกเหน็บเค้นเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ไม่พูดอะไรแต่กระตุกยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนยอมเลิกมองแต่โดยดี ร่างบางอดค้อนไม่ได้อีกตามเคย เพราะท่าทางแบบนั้นของเขามันช่างหน้าหมั่นไส้สิ้นดี!

ไม่นานมื้อค่ำที่ค่อนข้างทุลักทุเลก็จบลง ร่างบางพาเด็กน้อยขึ้นห้องเพื่อไปทำการบ้านต่อ แต่ใครบางคนกลับตามมาด้วยเสียอย่างนั้น ครั้นจะถามว่ามาทำไมก็ไม่ได้อีกเพราะเขาคงมาหาลูกชายเขา การที่เธอไม่อยากเจอหน้าเขามันเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่ควรจะเอามารวมกัน!

เข้าห้องมาได้อลันก็ปีนกลับขึ้นเตียงไปวาดรูประบายสีเพื่อส่งคุณครูตามเดิมโดยมีพ่อเดินมานั่งมองอยู่ข้างๆ ร่างบางจึงแยกตัวมาอีกมุมเพื่อรีดผ้าและเตรียมชุดนักเรียนให้คนตัวเล็กไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้ เจ้าของบ้านก็นั่งมองลูกสลับกับแอบมองเธอไปด้วย

"อิงเอย! อลันทำเสร็จแล้วคร้าบ! " ผ่านไปสักพักน้ำเสียงใสแจ๋วก็ตะโกนขึ้นมาในขณะที่ร่างบางกำลังทำงานเพลินๆ เลยทำเอาสะดุ้งไหวด้วยความตกใจ ซ้ำร้ายเตารีดร้อนๆ ยังเฉียดโดนนิ้วจนเป็นรอยแดงยาวเกือบนิ้ว

"อ๊ะ! ? " เจ้าของบ้านมองมาอย่างสนใจ แต่ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งมอง พออิงเอยหายตกใจก็ซ่อนแผลไว้แล้วเดินมาหาร่างเล็กตามเสียงเรียก

"เก่งมากครับ อิงเอยจะเก็บไว้ในกระเป๋าให้นะครับ พรุ่งนี้จะได้เอาไปส่งคุณครูโดยไม่ลืมเนาะ" เสียงหวานพูดบอกยิ้มๆ ก่อนเดินเอาผลงานชิ้นนั้นไปเก็บไว้ในกระเป๋านักเรียนให้ โดยมีเจ้าของบ้านมองตามตลอดเวลา แผลที่มือบางนั้นเริ่มเป็นรอยชัดขึ้นทุกขณะ เห็นแล้วก็ตะขิดตะขวงใจแปลกๆ

"มือมาดูหน่อยสิ.." สุดท้ายเสียงทุ้มก็เอ่ยออกไป แต่ฟังดูห้วนๆ ลอยๆ จนคนฟังไม่แน่ใจว่าเขาพูดกับใคร

"..คะ? " ร่างบางหันไปมองเพื่อให้แน่ใจว่าร่างสูงคุยกับลูกหรือเปล่า แต่เขามองมาที่เธอจึงต้องถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะคำพูดก่อนหน้าของเขามันไม่เข้าหูเธอเลยแม้แต่น้อย

"มือ" เสียงเข้มย้ำขึ้นมานิ่งๆ คนฟังถึงเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร อยากจะปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไรมากแต่มองจากสายตาแล้วยอมเดินไปหาจะดีกว่า.. และพอได้มือนุ่มๆ มาจับไบรอันก็ใช้นิ้วโป้งลูบไปตามแผล ทำเจ้าของมือสะดุ้งโหยงด้วยความเจ็บ

"หายามาทาซะ" ร่างสูงพูดบอกทั้งที่ยังจับมือเล็กอยู่ ขนาดของมันเทียบได้กับมือเขาแค่ครึ่งฝ่ามือเท่านั้น จับทีก็กลัวจะแหลกคามือ

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แผลนิดเดียว" อิงเอยบอกปัดก่อนชักมือกลับมาแล้วไปทำงานต่อ ไบรอันก็ไม่ได้ว่าอะไร นั่งเล่นกับลูกสักพักก็ออกจากห้องไป ทำใครบางคนมีอากาศหายใจมากขึ้น

พอรีดผ้าเสร็จภาระหน้าที่ของพี่เลี้ยงเด็กตามตารางงานก็ใช่ว่าจะจบเพียงเท่านั้น ร่างบางต้องกลับลงมาข้างล่างอีกครั้งเพื่อหานมให้อลันดื่มก่อนนอนทุกวัน เสร็จก็แปรงฟันและพาเข้านอนโดยจะต้องเล่านิทานให้ฟังด้วย ดีที่ในห้องของเด็กชายตัวน้อยมีหนังสือนิทานในตู้หนังสือหลายร้อยเล่ม เลยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าจะเล่าเรื่องอะไรให้ฟังดี

พอได้ยินเสียงกล่อมไม่นานเด็กน้อยก็หลับไปอย่างง่ายดาย แต่.. หน้าที่ของเธอก็ยังไม่จบ! ก่อนจะนอนอย่างคนอื่นเขาได้เธอจะต้องเอากาแฟไปเสิร์ฟให้คนเป็นพ่อต่อในห้อง! ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ใช้คนอื่น เสิร์ฟกาแฟมันหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กตรงไหนไม่ทราบ! ?

ก๊อกๆ

"กาแฟค่ะ" หลังจากเคาะประตู เสียงห้วนก็เอ่ยบอกด้วยใบหน้าเซ็งๆ ทั้งที่พยายามจะหลบหนีแต่ก็เหมือนโดนแกล้งให้ต้องมาเจอกันยังไงยังงั้น

"เข้ามา" ไม่อยากเข้าก็ต้องได้เข้าเมื่อเจ้าของห้องตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ทำใจอยู่ชั่วครู่มือบางก็เปิดประตูเข้าไป.. งงกับตัวเองที่รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ กับแค่ได้เข้ามาในห้องของเขาอีกครั้ง เดินมาเรื่อยๆ จนเห็นว่าเจ้าของห้องนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ อิงเอยก็รีบเอาแก้วกาแฟไปวางให้ เสร็จก็หมุนตัวกลับเตรียมจะออกไป แต่เสียงที่ไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น

"เดี๋ยว.." ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันมาเลิกคิ้วสูงมองหน้าคนพูดเชิงถามว่ามีอะไร

"เธอ.. คิดยังไงที่อลันอยากให้มาเป็นแม่? " คนฟังขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินคำถาม แต่คนพูดกลับมองมานิ่งๆ เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้ถามอะไรแบบนี้ออกมา

"...ก็...ไม่ได้คิดยังไงนี่คะ ก็แค่ความคิดของเด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร" อิงเอยบอกไปตามความจริง เธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากคำพูดของเด็กอยู่แล้ว เพราะเข้าใจความรู้สึกของอลันดีว่าแกก็แค่อยากมีแม่เหมือนคนอื่นๆ

"แล้วเธอ.. ไม่สนใจอยากจะเป็นเมียฉันหรอ" มุมปากหนายกยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมาทันทีที่พูดจบ ราวกับมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองว่าจะทำให้คนตรงหน้าติดกับ แต่คิดผิดถนัด.. ร่างบางหมั่นไส้รอยยิ้มแบบนี้ของเขาที่สุด! จนอยากจะกระโดดข่วนหน้าให้เสียโฉมเลยเชียว! =_=*

"ไม่นี่คะ เพราะนอกจากหน้าตาแล้ว ฉันก็ยังไม่เห็นอะไรดีในตัวคุณเลยสักอย่าง เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะค่ะ ฉันมาเป็นพี่เลี้ยงของอลัน ไม่ได้มีเจตนาอื่น.. ขอตัวนะคะ! " คนตัวเล็กตอบกลับหน้านิ่งๆ เหน็บคนฟังชนิดที่ไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกเลยสักนิด พูดจบก็ไม่รอให้ใครเชิญ เดินหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากรอยยิ้มน่าหมั่นไส้กับความมั่นหน้าของไบรอันแล้ว จริงๆ เธอก็ไม่คิดจะถือสาคำพูดของเขาหรอก เพราะรู้ว่าเขาคงคิดมากกับคำพูดของลูกชายแน่ๆ เลยถามแบบนั้นออกมา ทำเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะเอาใครมาเป็นเมียก็ได้ ไม่สนเลยสักนิดว่าจะรักกันหรือไม่ ไม่รู้เป็นคนแบบไหน!

"หึหึ พยศจริงๆ .." ไล่หลังคนตัวบางไป คนในห้องก็พึมพำอะไรบางอย่างและนั่งยิ้มอยู่คนเดียวทั้งที่เพิ่งจะโดนด่ามาหมาดๆ ตาคมจ้องมองบานประตูที่อีกฝ่ายเพิ่งจะเปิดออกไปด้วยแววตาแพรวพราวราวกับคิดอะไรดีๆ ขึ้นมาได้และเหมือนจะเกี่ยวข้องกับคนที่เพิ่งออกไปด้วย!

..

..

..

..

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status