Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
Writer : Aile'N
ตอนที่ 5
"อลัน.. ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ ป้ะ ไปทานข้าวกัน ค่อยกลับมาทำใหม่นะครับ" ใบหน้ากลมๆ เงยขึ้นมองสบตาคนพูดเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง คนฟังพยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย ก่อนลุกขึ้นนั่งดีๆ มองอีกคนตาแป๋ว
"อิงเอยอุ้มหน่อยครับ" มองอยู่นานร่างบางก็ไม่เข้าใจ เสียงใสจึงอ้อนขึ้นมาตรงๆ พร้อมกับชูมือทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศ แววตากลมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนั้น ถ้าปฏิเสธก็คงจะใจร้ายไม่ใช่น้อย อิงเอยจึงเดินมาอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่เตียงขึ้น เจ้าตัวก็ช่างรู้หน้าที่พออุ้มขึ้นปั๊บก็กอดคออีกคนไว้แน่น แล้วซบหน้าลงกับลาดไหล่บาง
เรียบร้อยก็พากันเดินลงมาข้างล่างเพื่อทานมื้อเย็น โดยมีคนเป็นพ่อที่เพิ่งออกจากห้องเดินตามกันมาติดๆ แต่คนตัวบางไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่ชวนกันคุยเจื้อยแจ้วอยู่กับเจ้าตัวเล็ก ซึ่งเป็นภาพที่ไบรอันไม่เคยเห็นพี่เลี้ยงคนไหนทำเลย แม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของอลัน..
เห็นแบบนั้นแล้วอยู่ๆ ร่างสูงก็นึกถึงคำพูดของลูกขึ้นมาว่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ทั้งที่ไม่เคยพูดถึงแม่มานานมากแล้วและไม่เคยมีทีท่าว่าจะอยากได้แม่ใหม่มาก่อนเลย แต่กับคนนี้กลับสนิทกันเร็วจนน่าตกใจ.. พอทบทวนคำพูดของลูกน้อยเสร็จไบรอันก็นึกถึงภาพรวมของบุคคลที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในบ้านบ้าง รูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอก็เข้าท่าอยู่ เสียทีที่ดูเด็กและรั้นเอาเรื่องไปนิด แต่ถ้ากำราบได้ก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน
"คุณไบรอันยังไม่ลงมาหรอเพลง? " มาถึงโต๊ะอาหารเมื่อไม่เห็นเจ้าของบ้านอิงเอยก็เลยถามคนที่ยืนดูความเรียบร้อยของโต๊ะอยู่เพราะรู้จักแค่คนเดียว นอกนั้นต่างมองมาที่เธอด้วยสายตาไม่ดีนัก ทั้งที่ก็ไม่เคยไปทำอะไรให้.. แปลกดีเนอะคนเรา
สิ้นคำเพลงก็พยักพเยิดไปข้างหลังคนถาม นึกสงสัยเหมือนกันว่าร่างบางไม่เห็นเขาจริงๆ หรือว่าแกล้งไม่เห็นกันแน่ เพราะเดินตามกันมาระยะประชิดเสียขนาดนั้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้ยินเสียงฝีเท้าบ้างสิ ถ้าเป็นคนร้ายสะกดรอยตามในซอยเปลี่ยวไม่โดนฆ่าตายไปแล้วหรอป่านนี้ =_="
อิงเอยหันไปมองตามก่อนสะดุ้งตกใจก้าวถอยออกมาหลายก้าวเพราะคนตัวสูงอยู่ใกล้กันมากชนิดหายใจรดศีรษะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหน เลยแอบมองค้อนเขาหน่อยๆ โทษฐานที่ทำให้ตกใจก่อนรีบเดินหนีมาอีกฝั่งของโต๊ะอาหาร วางลูกลิงน้อยลงบนเก้าอี้สำหรับเด็กแล้วก็นั่งลงบ้างอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะยังไม่ชินกับการต้องมานั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกับเจ้าของบ้านท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันหรูหราโอ่อ่าแบบนี้สักเท่าไร
"อลันอยากให้อิงเอยป้อน.." ในระหว่างที่มื้อค่ำกำลังจะเริ่ม จู่ๆ คนข้างกายก็อ้อนขึ้นมาและไม่ยอมทานข้าวในจานของตัวเอง นั่งมองพี่เลี้ยงคนสวยตาแป๋วๆ เพราะต้องการให้ป้อน มือบางที่กำลังจะตักข้าวคำแรกเข้าปากจึงต้องวางลงบนจานอย่างช่วยไม่ได้
"อย่างอแง" เสียงเข้มดังมาจากอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะพร้อมกับสายตาคมกริบที่ปราดมองมานิ่งๆ ทำคนถูกดุหน้าหงอยลงในทันที ด้วยว่ายังเด็กนักพอติดร่างบางเข้าไปแล้วก็แค่อยากจะอ้อนเท่านั้น ที่ผ่านมาไม่มีใครให้อ้อนหนักๆ ได้แบบนี้มาก่อน พ่อก็ใช่จะอ้อนได้ตลอด พี่เลี้ยงคนก่อนๆ นั้นยิ่งแล้วใหญ่ ถึงจะเป็นแค่เด็กแต่อลันก็รู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อเลี้ยงเด็กอย่างที่ควรจะเป็น
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันทานทีหลังได้.. เดี๋ยวอิงเอยป้อนนะครับ" เป็นอีกครั้งที่อิงเอยพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักปนน่าสงสารยามโดนดุของเจ้านายตัวน้อย เลยหันไปปรามคนพ่อก่อนกลับมาพูดกับคนลูกแล้วยิ้มให้
"..จริงนะครับ^0^" เด็กน้อยแสดงอาการดีใจจนปิดไม่มิด ร่างบางจึงหันเก้าอี้เล็กๆ นั้นมาหาตรงๆ แล้วเริ่มตักข้าวป้อนทีละคำ ป้อนไปคุยกันเล่นกันไปเหมือนไม่เห็นหัวเจ้าของบ้านอีก ซ้ำวันนี้อลันก็กินข้าวเยอะเป็นพิเศษจนเพลงเองก็ยังแปลกใจ เพราะปกติเตรียมให้กินไม่เคยหมดเลยสักครั้ง แต่วันนี้หมดเกลี้ยงแถมกินผลไม้ต่อได้อีกต่างหาก
"เก่งมากครับ" มือเรียวขยี้ผมบางของอลันเบาๆ พร้อมกล่าวชมเมื่อกินอิ่ม เจ้าตัวก็ยิ้มแป้นรับคำชมด้วยความสดใส น่ารักเสียจนคนมองอยากจะก้มลงฟัดแก้มแดงๆ นั้นให้บอบช้ำ แต่เกรงใจสายตาเจ้านายเลยทำได้แค่ยิ้มให้บางๆ เท่านั้น
"งั้นรออิงเอยทานข้าวแป๊บเดียวนะ แล้วค่อยขึ้นไปวาดรูปต่อกัน" เสียงหวานเอ่ยบอก ทีนี้อลันยอมพยักหน้าว่าง่าย อิงเอยจึงมีเวลากินข้าวบ้าง แต่ก็ไม่สงบสุขนักเมื่อรู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ตลอดเวลา
"จ้องคนอื่นเวลาทานข้าว มันเสียมารยาทนะคุณ" ร่างบางเปรยขึ้นมาเรียบๆ เพราะทนไม่ได้ที่ถูกจ้องมากเกินไป ชนิดที่เรียกได้ว่าเสียมารยาทสุดๆ ถึงเธอจะเป็นแค่ลูกจ้างก็เถอะ
"หึ.." คนถูกเหน็บเค้นเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ไม่พูดอะไรแต่กระตุกยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนยอมเลิกมองแต่โดยดี ร่างบางอดค้อนไม่ได้อีกตามเคย เพราะท่าทางแบบนั้นของเขามันช่างหน้าหมั่นไส้สิ้นดี!
ไม่นานมื้อค่ำที่ค่อนข้างทุลักทุเลก็จบลง ร่างบางพาเด็กน้อยขึ้นห้องเพื่อไปทำการบ้านต่อ แต่ใครบางคนกลับตามมาด้วยเสียอย่างนั้น ครั้นจะถามว่ามาทำไมก็ไม่ได้อีกเพราะเขาคงมาหาลูกชายเขา การที่เธอไม่อยากเจอหน้าเขามันเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่ควรจะเอามารวมกัน!
เข้าห้องมาได้อลันก็ปีนกลับขึ้นเตียงไปวาดรูประบายสีเพื่อส่งคุณครูตามเดิมโดยมีพ่อเดินมานั่งมองอยู่ข้างๆ ร่างบางจึงแยกตัวมาอีกมุมเพื่อรีดผ้าและเตรียมชุดนักเรียนให้คนตัวเล็กไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้ เจ้าของบ้านก็นั่งมองลูกสลับกับแอบมองเธอไปด้วย
"อิงเอย! อลันทำเสร็จแล้วคร้าบ! " ผ่านไปสักพักน้ำเสียงใสแจ๋วก็ตะโกนขึ้นมาในขณะที่ร่างบางกำลังทำงานเพลินๆ เลยทำเอาสะดุ้งไหวด้วยความตกใจ ซ้ำร้ายเตารีดร้อนๆ ยังเฉียดโดนนิ้วจนเป็นรอยแดงยาวเกือบนิ้ว
"อ๊ะ! ? " เจ้าของบ้านมองมาอย่างสนใจ แต่ไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งมอง พออิงเอยหายตกใจก็ซ่อนแผลไว้แล้วเดินมาหาร่างเล็กตามเสียงเรียก
"เก่งมากครับ อิงเอยจะเก็บไว้ในกระเป๋าให้นะครับ พรุ่งนี้จะได้เอาไปส่งคุณครูโดยไม่ลืมเนาะ" เสียงหวานพูดบอกยิ้มๆ ก่อนเดินเอาผลงานชิ้นนั้นไปเก็บไว้ในกระเป๋านักเรียนให้ โดยมีเจ้าของบ้านมองตามตลอดเวลา แผลที่มือบางนั้นเริ่มเป็นรอยชัดขึ้นทุกขณะ เห็นแล้วก็ตะขิดตะขวงใจแปลกๆ
"มือมาดูหน่อยสิ.." สุดท้ายเสียงทุ้มก็เอ่ยออกไป แต่ฟังดูห้วนๆ ลอยๆ จนคนฟังไม่แน่ใจว่าเขาพูดกับใคร
"..คะ? " ร่างบางหันไปมองเพื่อให้แน่ใจว่าร่างสูงคุยกับลูกหรือเปล่า แต่เขามองมาที่เธอจึงต้องถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะคำพูดก่อนหน้าของเขามันไม่เข้าหูเธอเลยแม้แต่น้อย
"มือ" เสียงเข้มย้ำขึ้นมานิ่งๆ คนฟังถึงเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร อยากจะปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไรมากแต่มองจากสายตาแล้วยอมเดินไปหาจะดีกว่า.. และพอได้มือนุ่มๆ มาจับไบรอันก็ใช้นิ้วโป้งลูบไปตามแผล ทำเจ้าของมือสะดุ้งโหยงด้วยความเจ็บ
"หายามาทาซะ" ร่างสูงพูดบอกทั้งที่ยังจับมือเล็กอยู่ ขนาดของมันเทียบได้กับมือเขาแค่ครึ่งฝ่ามือเท่านั้น จับทีก็กลัวจะแหลกคามือ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แผลนิดเดียว" อิงเอยบอกปัดก่อนชักมือกลับมาแล้วไปทำงานต่อ ไบรอันก็ไม่ได้ว่าอะไร นั่งเล่นกับลูกสักพักก็ออกจากห้องไป ทำใครบางคนมีอากาศหายใจมากขึ้น
พอรีดผ้าเสร็จภาระหน้าที่ของพี่เลี้ยงเด็กตามตารางงานก็ใช่ว่าจะจบเพียงเท่านั้น ร่างบางต้องกลับลงมาข้างล่างอีกครั้งเพื่อหานมให้อลันดื่มก่อนนอนทุกวัน เสร็จก็แปรงฟันและพาเข้านอนโดยจะต้องเล่านิทานให้ฟังด้วย ดีที่ในห้องของเด็กชายตัวน้อยมีหนังสือนิทานในตู้หนังสือหลายร้อยเล่ม เลยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าจะเล่าเรื่องอะไรให้ฟังดี
พอได้ยินเสียงกล่อมไม่นานเด็กน้อยก็หลับไปอย่างง่ายดาย แต่.. หน้าที่ของเธอก็ยังไม่จบ! ก่อนจะนอนอย่างคนอื่นเขาได้เธอจะต้องเอากาแฟไปเสิร์ฟให้คนเป็นพ่อต่อในห้อง! ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่ใช้คนอื่น เสิร์ฟกาแฟมันหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กตรงไหนไม่ทราบ! ?
ก๊อกๆ
"กาแฟค่ะ" หลังจากเคาะประตู เสียงห้วนก็เอ่ยบอกด้วยใบหน้าเซ็งๆ ทั้งที่พยายามจะหลบหนีแต่ก็เหมือนโดนแกล้งให้ต้องมาเจอกันยังไงยังงั้น
"เข้ามา" ไม่อยากเข้าก็ต้องได้เข้าเมื่อเจ้าของห้องตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ทำใจอยู่ชั่วครู่มือบางก็เปิดประตูเข้าไป.. งงกับตัวเองที่รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ กับแค่ได้เข้ามาในห้องของเขาอีกครั้ง เดินมาเรื่อยๆ จนเห็นว่าเจ้าของห้องนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ อิงเอยก็รีบเอาแก้วกาแฟไปวางให้ เสร็จก็หมุนตัวกลับเตรียมจะออกไป แต่เสียงที่ไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น
"เดี๋ยว.." ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันมาเลิกคิ้วสูงมองหน้าคนพูดเชิงถามว่ามีอะไร
"เธอ.. คิดยังไงที่อลันอยากให้มาเป็นแม่? " คนฟังขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินคำถาม แต่คนพูดกลับมองมานิ่งๆ เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้ถามอะไรแบบนี้ออกมา
"...ก็...ไม่ได้คิดยังไงนี่คะ ก็แค่ความคิดของเด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร" อิงเอยบอกไปตามความจริง เธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากคำพูดของเด็กอยู่แล้ว เพราะเข้าใจความรู้สึกของอลันดีว่าแกก็แค่อยากมีแม่เหมือนคนอื่นๆ
"แล้วเธอ.. ไม่สนใจอยากจะเป็นเมียฉันหรอ" มุมปากหนายกยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมาทันทีที่พูดจบ ราวกับมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองว่าจะทำให้คนตรงหน้าติดกับ แต่คิดผิดถนัด.. ร่างบางหมั่นไส้รอยยิ้มแบบนี้ของเขาที่สุด! จนอยากจะกระโดดข่วนหน้าให้เสียโฉมเลยเชียว! =_=*
"ไม่นี่คะ เพราะนอกจากหน้าตาแล้ว ฉันก็ยังไม่เห็นอะไรดีในตัวคุณเลยสักอย่าง เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะค่ะ ฉันมาเป็นพี่เลี้ยงของอลัน ไม่ได้มีเจตนาอื่น.. ขอตัวนะคะ! " คนตัวเล็กตอบกลับหน้านิ่งๆ เหน็บคนฟังชนิดที่ไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกเลยสักนิด พูดจบก็ไม่รอให้ใครเชิญ เดินหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากรอยยิ้มน่าหมั่นไส้กับความมั่นหน้าของไบรอันแล้ว จริงๆ เธอก็ไม่คิดจะถือสาคำพูดของเขาหรอก เพราะรู้ว่าเขาคงคิดมากกับคำพูดของลูกชายแน่ๆ เลยถามแบบนั้นออกมา ทำเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะเอาใครมาเป็นเมียก็ได้ ไม่สนเลยสักนิดว่าจะรักกันหรือไม่ ไม่รู้เป็นคนแบบไหน!
"หึหึ พยศจริงๆ .." ไล่หลังคนตัวบางไป คนในห้องก็พึมพำอะไรบางอย่างและนั่งยิ้มอยู่คนเดียวทั้งที่เพิ่งจะโดนด่ามาหมาดๆ ตาคมจ้องมองบานประตูที่อีกฝ่ายเพิ่งจะเปิดออกไปด้วยแววตาแพรวพราวราวกับคิดอะไรดีๆ ขึ้นมาได้และเหมือนจะเกี่ยวข้องกับคนที่เพิ่งออกไปด้วย!
..
..
..
..
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 6Truuuu.. Truuuu.."ฮัลโหล"[ฉันโทรมากวนแกหรือเปล่าเนี่ย] ปลายสายถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำเสียงเล็กของคนรับฟังดูห้วนกว่าปกติ เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง เลยกลัวว่าตัวเองจะโทรมาปลุกให้ตื่นหรือเปล่าเพราะเวลานี้ก็ใกล้จะดึกมากแล้ว"เปล่า ยังไม่ได้นอน" อิงเอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงแบบเดิม เธอหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละแต่ไม่ใช่เพราะเพื่อน มันเพราะเจ้าของบ้านต่างหาก![แล้วทำไมเสียงห้วนๆ วะ] แพรวถามอย่างงุนงง ว่าจะโทรมาถามไถ่เรื่องที่ทำงานใหม่เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะเจออารมณ์แบบนี้"หงุดหงิดคน" พูดไปใบหน้ากวนอารมณ์ของคนที่ทำให้อารมณ์เสียก็แวบเข้ามาในความคิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดไปกันใหญ่[ใครวะ ไปอยู่วันเดียวก็มีศัตรูแล้วหรอวะ] ปลายสายซักไซ้ด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นเต็มที่"อืม ศัตรูตัวฉกาจเลยด้วย! " เสียงหวานกระแทกบอกพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ บ่งบอกว่าไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาๆ แพรวเองก็ค่อนข้างจะแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น เพราะอิงเอยเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว บางทีกำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่พอมีคนมาชวนคุยเข้าเรื่องอื่นก็หายและลืมเรื่องก่อนไปในทันที นอ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'nบทนำ"เดือนนี้แกลาออกมากี่งานแล้วเนี่ย จะกินแกลบกันอยู่แล้วนะ! " คนพูดทิ้งตัวนั่งขัดสมาธลงบนพื้นหน้าโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่อีกฝั่งหนึ่งมีร่างขาวๆ กำลังนั่งกินมาม่าด้วยท่าทางห่อเหี่ยว สิ้นเสียงบ่นของเพื่อนร่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาเบะปากน้อยๆ เหมือนเด็กขี้แย"..แกจะให้ฉันทำยังไงล่ะ แต่ละที่แม่ง.." เสียงเบาโอดครวญก่อนถอนหายใจออกมาหนักๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอชื่อ 'อิงเอย' ส่วนคนที่กำลังนั่งจ้องหน้าและเพิ่งบ่นเธอไปเมื่อกี้ชื่อ 'แพรว' เธอกับแพรวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เจอกันตอนรับน้องและด้วยเป็นเด็กต่างจังหวัดทั้งคู่เลยสนิทกันเร็วจนกระทั่งเรียนจบก็ตัดสินใจหางานทำที่กรุงเทพฯ และเช่าห้องอยู่ด้วยกันเพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัด เมื่อก่อนอิงเอยก็ได้งานที่เดียวกันกับแพรว เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เพราะตัวเล็ก ผิวขาว ผมยาว ตาโต สเป็คป๋า ทำให้เจอเจ้านายหัวงูคอยกระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ทุกวัน เลยทำให้ทนอยู่ต่อไปไม่ได้ต้องลาออกมาหางานใหม่ แต่ก็โชคร้ายไม่สิ้นสุดเมื่อที่ไหนๆ ที่เจอแต่แบบนี้ทั้งหมด ไม่เจ้านายก็เพื่อนร่วมงาน แค
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 1"โหหหหหห.. นี่บ้านคนจริงๆ หรอวะ? " แพรวห่อปากครางถามออกมาหน้าอึ้งๆ ขณะแหงนหน้าขึ้นมองประตูรั้วสูงละลิ่วที่สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านโชว์ความอลังการอยู่ตรงหน้า คนข้างๆ ที่มาด้วยก็ยืนมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ เช่นกันสาเหตุที่นำพาอิงเอยกับแพรวมาอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่นี้ได้มันสืบเนื่องมาจากใบปลิวรับสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กใบนั้นที่เพื่อนเอามาให้ดูและคะยั้นคะยอให้สมัคร ร่างบางก็ส่งหลักฐานทุกอย่างตามที่ในใบปลิวบอกไว้ไปสมัครด้วยความจำเป็น แถมยังคิดไว้ก่อนด้วยว่าคงไม่ผ่านแน่ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นกลับมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเธอ เรียกให้มาที่นี่เพื่อทำการคัดตัวจากเจ้าของบ้านอีกครั้ง ด้วยความกลัวเธอจึงลากเพื่อนมาด้วยตอนออกจากห้องมาก็มีความมั่นใจอยู่หรอก แต่พอมาเห็นความใหญ่โตของบ้าน (ว่าที่) เจ้านายในอนาคตแล้วกลับรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างแรกเลยก็คงจะเป็นการแต่งตัว ร่างบางไม่รู้ว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เธอจึงใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่สภาพสุดแสนจะเก่าแสนเก่า! หน้าก็ไม่ได้แต่ง ยิ่งทำให้ดูเหมือนเด็กเ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 2"นี่คือห้องของคุณค่ะ เก็บของให้เสร็จแล้วไปปลุกคุณไบรอันกับคุณหนูอลันตอน 7 โมง" สาวชุดเมดคนเมื่อวานที่เธอแนะนำตัวเองว่าชื่อ 'เพลง' พูดบอกหลังจากเดินนำอิงเอยมาที่ห้องพัก ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เธอเป็นอย่างมาก เพราะห้องที่ว่าไม่ได้อยู่ชั้นล่างติดกับบรรดาสาวใช้คนอื่นๆ แต่อยู่ชั้นบนติดกับห้องเจ้าของบ้าน! แน่นอนว่าภายในห้องที่อยู่เสมอกันกับเจ้านายนั้นมันจะต้องใหญ่โตหรูหราไม่ต่างจากห้องข้างๆ!ตอนนี้คนตัวบางเลยยังคงยืนเคว้งอยู่กลางห้อง ความสวยงามอลังการของมันทำเธออึ้ง.. แต่ไม่มีโอกาสได้ถามคนที่พามาเมื่อพอหมดหน้าที่หล่อนก็เดินออกไปในทันที ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ยืนมองด้วยความอึ้งอยู่นานจนต้องรีบตั้งสติและเอาของไปเก็บในตู้เสื้อผ้าที่เมื่อมองเทียบกันแล้วกระเป๋าเสื้อผ้าเก่าๆ ของเธอเหมือนกับเศษขยะที่ถูกนำมาวางไว้ผิดที่ยังไงยังงั้นตุ้บ~"อ่า.. เมื่อไรแกจะรวยนะไอ้อิง จะได้มีห้องแบบนี้กับเขาบ้าง เตียงโคตรนุ่ม.. คนรวยนี่มันดีเนอะ" คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างพลางเกลือกกลิ้งไปมา ปากก็บ่นพึมพำด้วยความอิจฉาความรวยของเจ้านายคนใหม่ คิดแล้วก็หดหู่ใจ เธอ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 3หลังกลับจากส่งอลันที่โรงเรียนทั้งสองคนก็แยกย้ายกันตามหน้าที่ ร่างสูงออกไปทำงาน ส่วนอิงเอยก็กลับบ้านมาและหยิบตารางงานขึ้นมาดูอีกครั้งและพบว่างานต่อไปคือทำความสะอาดห้อง ของใช้และของเล่นให้อลัน รวมทั้งซักเสื้อผ้าและรีดไว้ให้ทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดอยู่บ้านหรือชุดนักเรียนร่างบางก็ทำได้อย่างสบายๆ เพราะทำอยู่เป็นประจำ ในตอนนี้เลยยังไม่มีอะไรยากสำหรับเธอ พอทำเสร็จก็มีเวลาพักให้หนึ่งชั่วโมง ก่อนจะต้องไปทำห้องของคนเป็นพ่อต่อ ซึ่งจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าตกลงเธอถูกจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงให้อลันจริงๆ หรือเปล่า ทำไมจะต้องมีส่วนของไบรอันพ่วงมาด้วยทุกที =_="เสร็จจากห้องเจ้าของบ้านอิงเอยก็ได้พักยาวจนถึงเที่ยง ข้าวเที่ยงเธอได้กินบนโต๊ะใหญ่อีกครั้งแต่คราวนี้ได้นั่งคนเดียวโดดๆ เลยค่อนข้างเกร็งและขัดเขินสายตาของบรรดาสาวใช้ชุดเมดที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้เธอเป็นอย่างมาก เลยทำให้ฉุกคิดได้ว่าเธอต้องหาเพื่อนสักคนไว้คลายเหงาบ้าง ให้อยู่คนเดียวแบบนี้มันอึดอัด.. แน่นอนว่าเป้าหมายที่ร่างบางคิดไว้ก็คือ 'เพลง' หัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ โชคดีที่หล่อนไม่ได้
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 4 พอหนีขึ้นห้องมาได้อิงเอยก็โวยวายด้วยความหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้อง สองครั้งสองคราในวันเดียวกันที่เธอถูกเจ้าของบ้านล่วงเกินทั้งทางสายตาและการกระทำ มันทำให้เธอเริ่มคิดหนักกับการที่ต้องอยู่แบบระแวดระวังและเอาตัวเองให้รอดพ้นจากคนอันตรายอย่างไบรอัน ร้ายกาจ.. แค่สายตาที่มองปราดมาเพียงไม่กี่วินาที ก็สามารถทำคนถูกมองสูญเสียความเป็นตัวเองไปจนหมดสิ้น!"ช่างเถอะอิง.. อย่าไปอยู่ใกล้เขาอีกก็พอ! " ร่างบางสลัดเรื่องที่ถูกใครคนนั้นล่วงเกินทิ้งไป พยายามไม่ถือสาและเก็บมาคิดให้รกสมอง เพราะเธอจะออกจากงานอีกไม่ได้แล้ว ท่องไว้ให้ขึ้นใจว่าต้องอดทน! และพยายามอย่าไปอยู่ใกล้ร่างสูงนั้นให้มาก เพื่อตัวและหัวใจของเธอเอง!พอปล่อยวางได้คนตัวเล็กก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ ได้แต่คาดโทษสัตว์เลี้ยงตัวโตของเจ้านายในใจ โทษฐานที่ทำให้เธอต้องเสียเงินซื้อเสื้อใหม่ทั้งที่ตัวนี้เพิ่งจะซื้อมาเลยแท้ๆ ใส่ยังไม่ทันคุ้มเลย!"คะ คุณเข้ามาทำไมอ่ะ! ? " สายน้ำเย็นๆ ทำอารมณ์ขุ่นมัวของอิงเอยค่อยๆ จางหายไป แต่ก็กลับมาอีกอย่างรวดเร็วเมื่อออกมาเห็นเจ้าข