Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
Writer : Aile'N
ตอนที่ 3
หลังกลับจากส่งอลันที่โรงเรียนทั้งสองคนก็แยกย้ายกันตามหน้าที่ ร่างสูงออกไปทำงาน ส่วนอิงเอยก็กลับบ้านมาและหยิบตารางงานขึ้นมาดูอีกครั้งและพบว่างานต่อไปคือทำความสะอาดห้อง ของใช้และของเล่นให้อลัน รวมทั้งซักเสื้อผ้าและรีดไว้ให้ทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดอยู่บ้านหรือชุดนักเรียน
ร่างบางก็ทำได้อย่างสบายๆ เพราะทำอยู่เป็นประจำ ในตอนนี้เลยยังไม่มีอะไรยากสำหรับเธอ พอทำเสร็จก็มีเวลาพักให้หนึ่งชั่วโมง ก่อนจะต้องไปทำห้องของคนเป็นพ่อต่อ ซึ่งจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าตกลงเธอถูกจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงให้อลันจริงๆ หรือเปล่า ทำไมจะต้องมีส่วนของไบรอันพ่วงมาด้วยทุกที =_="
เสร็จจากห้องเจ้าของบ้านอิงเอยก็ได้พักยาวจนถึงเที่ยง ข้าวเที่ยงเธอได้กินบนโต๊ะใหญ่อีกครั้งแต่คราวนี้ได้นั่งคนเดียวโดดๆ เลยค่อนข้างเกร็งและขัดเขินสายตาของบรรดาสาวใช้ชุดเมดที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้เธอเป็นอย่างมาก เลยทำให้ฉุกคิดได้ว่าเธอต้องหาเพื่อนสักคนไว้คลายเหงาบ้าง ให้อยู่คนเดียวแบบนี้มันอึดอัด.. แน่นอนว่าเป้าหมายที่ร่างบางคิดไว้ก็คือ 'เพลง' หัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ โชคดีที่หล่อนไม่ได้น่ากลัวเท่าวันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาอีกทั้งอายุไม่ห่างกันนัก เลยทำให้คุยกันง่ายขึ้น
และพอได้คุยกันอิงเอยก็ได้รู้อีกว่าที่เพลงชอบทำหน้าขรึมก็เพราะว่าเป็นหัวหน้าแม่บ้าน เพื่อที่คนอื่นๆ จะได้เคารพและเกรงใจเนื่องจากเธอได้รับตำแหน่งหัวหน้าตั้งแต่อายุยังน้อย และได้เพราะสืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่อยู่รับใช้ตระกูลของไบรอันมาหลายต่อหลายรุ่น หลายคนเลยมองว่าเธอได้ตำแหน่งมาเพราะเส้นสายเลยอาจจะยังมีคนที่ไม่ค่อยชอบหน้าหรือเคารพเธอสักเท่าไร เพลงจึงต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ เลยกลายเป็นว่ามันทำให้เธอกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่สดใสสมวัยอย่างคนอื่นที่อายุเท่าๆ กัน
"ถามอะไรหน่อยได้มั้ยอ่ะ" เสียงใสเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากตีสนิทกับเพื่อนคนแรกในบ้านได้สำเร็จโดยใช้ลูกตื้อครองโลก
"พี่เลี้ยงคนก่อนๆ เขาเป็นแบบนี้มั้ยอ่ะ พักข้างบน กินข้าวร่วมโต๊ะกับเจ้านาย มันเกินไปนะบางที" คนตัวเล็กพูดต่อไปอีกเมื่อคนฟังอนุญาตให้ถามผ่านการพยักหน้า อิงเอยเลยไม่มีความเกรงใจอีกต่อไปเพราะตั้งแต่มาในหัวเธอก็มีความสงสัยอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด
"ก็เป็นแบบนี้แหละ คุณไบรอันสั่งมาแบบนี้" เพลงตอบกลับมานิ่งๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ แม่บ้านก็ส่วนแม่บ้าน พี่เลี้ยงก็ส่วนพี่เลี้ยง ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ส่วนเจ้านายจะให้อภิสิทธิ์อะไรบ้างนั้นก็เป็นเรื่องของเขา
"จริงดิ? แล้วคนก่อนๆ ลาออกทำไมอ่ะ เงินดีขนาดนี้ ที่พักก็ดี" น้ำเสียงเจื้อยแจ้วถามต่อด้วยความสงสัยใคร่รู้ตามประสาคนไม่เคยทำงานแบบนี้ แต่สำหรับเธอพอได้มาลองทำแล้วมันก็ไม่มีปัญหาอะไร ค่อนข้างจะสบายอกสบายใจด้วยซ้ำ เพราะใช้แรงงานอย่างเดียว ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร แถมได้อยู่ห้องใหญ่ๆ กินอาหารดีๆ เงินก็ดีอีกต่างหาก งานดีกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว
"ไม่ได้ลาออก แต่ถูกไล่ออก" ร่างสูงกว่าหันมาบอกและมองสบตากันแวบเดียวก็ก้มลงสนใจเช็ดแก้วในมือต่อ ในใจก็คิดไปก่อนแล้วว่าจะเล่าให้คนตัวเล็กฟังดีไหมถ้าเกิดหล่อนถามต่อมาอีก แต่เท่าที่ได้คุยกันอิงเอยก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ติดจะซื่อๆ ด้วยซ้ำไป หล่อนคงไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมาหรอก.. มั้ง แถมเจ้านายของเธอยังฉลาดเป็นกรด ถ้าหล่อนคิดจะทำอะไรนอกเหนือไปจากหน้าที่มีหรือที่เขาจะไม่รู้
"เอ้า ทำไมอ่ะ ดูแลลูกเขาไม่ดีงี้หรอ? อลันก็เป็นเด็กดีนะ ไม่เห็นจะซนตรงไหนเลย น่ารักจะตาย" ยิ่งฟังก็ยิ่งสงสัย ดวงตากลมโตฉายแววงุนงงออกมาก่อนถามต่ออย่างหยุดไม่ได้ ขณะพูดถึงลูกเจ้านายก็นึกถึงหน้าตาน่ารักๆ ของร่างนั้นไปด้วย
"ก็ใช่.. แต่เธอคิดว่าคนอื่นๆ จะสมัครเข้ามาเพื่อเป็นพี่เลี้ยงเด็กจริงๆ น่ะหรอ? " เพลงย้อนถามกลับ หวังจะให้คนฟังคิดได้เองแต่อีกฝ่ายก็สุดแสนจะซื่อบื้ออย่างที่เธอคิดจริงๆ เพราะใบหน้าขาวใสนั้นยังคงมองมาที่เธอด้วยความสงสัย
"เข้าใจยากจริงนะ.. ก็ที่สมัครๆ มาก็หวังจะจับคุณไบรอันเพื่อหวังรวยทางลัดกันทั้งนั้นแหละ หล่อรวยปานนั้น" ร่างสูงบอกออกมาตรงๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนในบ้านต่างรู้ดี เพราะไม่ว่าจะรับมากี่คนๆ ก็เจอแต่พิมพ์เดียวกันทั้งนั้นคือหวังจะไต่เต้าเป็นคุณนายของบ้านนี้
"อ่าว แล้วภรรยาเขาล่ะ" ปากเล็กๆ แดงๆ ยังคงเจรจาเสียงใสไม่หยุด จนเหมือนคนพูดมากแต่หากคนถูกถามก็ไม่ได้รำคาญแต่อย่างใด เพราะอยู่ที่นี่เธอก็ใช่จะมีเพื่อน ตอนแรกที่อิงเอยเข้ามาคุยด้วยก็ค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยเลยเหมือนกัน
"เธอเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว" เพลงเอ่ยหน้าเศร้า เธอไม่ได้สนิทสนมกับอดีตภรรยาของเจ้านายหรอกแต่สงสารอลันมากกว่าที่ต้องมาเสียแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย
"เฮ้ย.. จริงหรอเนี่ย สงสารอลันอ่ะ" คนฟังทำหน้าอึ้งระคนเศร้าสลดใจที่ได้รู้ว่าเด็กชายหน้าตาน่ารักที่เธอเพิ่งจะรู้จักกำพร้าผู้เป็นแม่ตั้งแต่ยังเล็ก
"อืม ยังเด็กอยู่เลยแท้ๆ " เพลงพึมพำเสียงเบา ก่อนถอนหายใจแล้วสลัดความรู้สึกมัวๆ ในใจออกไป
"ว่าแต่เธอเถอะ เข้ามามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ห้ะ? เหมือนยัยพวกนั้นหรือเปล่า? " ร่างสูงเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นคนตัวเล็กนิ่งอึ้งไปนานเพราะยังคงไม่หายอึ้งกับเรื่องราวน่าเศร้าของเจ้านายตัวน้อย
"ห้ะ? แล้ว.. เธอคิดว่าฉันเหมือนป้ะล่ะ" อิงเอยทำหน้างงเพราะเพิ่งหลุดจากภวังค์ แต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไรก็นึกอยากแกล้งขึ้นมา ทำเป็นสะบัดผมที่มัดมวยสูงไว้ข้างบนแล้วส่งตาหวานใส่เพื่อนให้เหมือนผู้หญิงพวกนั้น ทำคนฟังมองนิ่งก่อนส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา และก็มั่นใจว่าถึงอิงเอยจะเข้ามาเพื่อจับไบรอันจริงๆ เจ้านายเธอก็คงไม่มีวันหลงเสน่ห์ยัยผู้หญิงบ้าๆ บอๆ คนนี้แน่ =_="
"ฮ่าๆ ๆ ล้อเล่นน่า ฉันไม่ได้บ้าผู้ชายอย่างยัยพวกนั้นสักหน่อย ฉันก็แค่ตกงานเพราะเจอแต่เพื่อนร่วมงานหัวงู จ้องแต่จะลวนลาม ก็เลยหางานไม่ได้สักที จนมาเจอประกาศของเจ้านายเธอน่ะแหละ" ร่างบางยิ้มร่าเมื่อกวนประสาทเพื่อนร่วมงานหน้าขรึมได้สำเร็จ พูดมาถึงตรงนี้ก็อดเล่าเรื่องตัวเองให้เพลงฟังบ้างไม่ได้ว่าเส้นทางการทำงานของเธอมันยากลำบากแค่ไหน แต่ก็นับว่าโชคยังดีที่มาได้งานที่นี่ (?)
"ก็สมควรโดนอยู่หรอก" คนตัวสูงแขวะออกมาเสียงเบา ไม่ได้แปลกใจกับเรื่องที่อีกฝ่ายเล่ามาเท่าไรกับภาพลักษณ์หญิงสาวตัวเล็กๆ ขาวๆ หน้าตาอย่างกับตุ๊กตาอย่างที่เห็นในตอนนี้ แม้นิสัยจะบ้าๆ บอๆ ก็ตาม.. สิ้นคำพูดนั้นของเพลงคนฟังก็มองมาอย่างงงๆ ว่าจะถามก็ดันนึกเรื่องอื่นขึ้นมาได้เสียก่อนเลยทิ้งเรื่องก่อนหน้าไป
"เออ ถามไรอีกหน่อยได้ป้ะ ทำไมแค่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กจะต้องหาแต่คนสวยๆ อย่างกับจะเอาไปประกวดนางงามด้วยอ่ะ" นี่เป็นอีกเรื่องที่คนตัวเล็กสงสัยเป็นอย่างมากกกก แบบก.ไก่ล้านตัว เพราะงานพี่เลี้ยงก็ใช่จะต่างจากงานแม่บ้านนัก ทำงานอยู่แต่ในบ้าน ไม่รู้จะคัดเอารูปร่างหน้าตาดีๆ ไปทำไม เลยทำให้เธอกลัวจนเกือบจะไม่มาสมัครอยู่แล้วเชียว!
"ก็ตามประสาผู้ชายอ่ะ เขาก็ต้องชอบของสวยๆ งามๆ มองแล้วเจริญหูเจริญตานั่นแหละ ใบปลิวนั่นคุณไบรอันเป็นคนพิมพ์เอง ภาษาก็เลยอาจจะแปลกๆ ไปบ้าง" เพลงบอกอย่างไม่ใส่ใจ เพราะรู้จักเจ้านายของตัวเองดี ไม่ใช่แค่เธอทุกคนในแวดวงธุรกิจหรือสื่อบันเทิงก็รู้ทั้งนั้นว่า 'ไบรอัน คอร์เนอร์' ก็คือเสือตัวพ่อคนหนึ่งที่ได้หน้าที่การงานทางธุรกิจกับหน้าที่คุณพ่อลูกอ่อนมาบังหน้าไว้ ทำให้นิสัยด้านมืดมันเบาบางลงไปได้มากเลยทีเดียว ใครรู้จักเพียงผิวเผินก็คงจะเข้าใจไปตามภาพลักษณ์ภายนอกของเขา
"ชิ.. หัวงูน่ะสิไม่ว่า ผู้ชายแม่งก็เหมือนกันหมด! " อิงเอยเบ้ปากออกมาด้วยความหมั่นไส้ มิน่าเธอถึงว่าใบปลิวนั่นมันแปลก ใครที่ไหนจะพิมพ์อะไรแบบนั้นออกมาเพื่อเชิญชวนคนไปสมัครงานกัน! =_=*
"แต่คุณไบรอันทั้งหล่อทั้งรวย ก็น่ายอมมั้ยล่ะ" เพลงย้อนถามพลางยิ้มเยาะ เพราะมั่นใจว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเจ้านายของเธออย่างแน่นอน รวมทั้งคนตรงหน้านี้ก็ด้วย
"เธอเองก็บ้าผู้ชายเหมือนกันนะเนี่ย" ร่างบางหรี่ตามองพลางยิ้มล้อทันทีเมื่อเห็นเพื่อนสปอยล์เจ้านายตัวเองราวกับหลงเสน่ห์เขาเหมือนกัน
"นี่.. ฉันเปรียบเทียบหรอก ฉันมีแฟนของฉันอยู่แล้ว ต่อให้หล่อให้รวยยังไงฉันก็ไม่สนใจหรอก" คนที่ยิ้มเยาะเขาในตอนแรกชักสีหน้าดุๆ และรีบแก้ตัวทันทีเมื่อถูกเล่นงานกลับ
"หึหึ ให้มันจริงเถ้อะ~" อิงเอยยังคงไม่หยุดล้อ ทั้งคำพูด สีหน้าและแววตา ทำให้คนถูกล้อเริ่มอยู่ไม่สุขเพราะกลัวคนอื่นจะเข้ามาได้ยินและเอาไปพูดเสียๆ หายๆ เพราะเธอไม่เคยมีความคิดแบบนั้นกับเจ้านายของตัวเองเลยสักนิด สเป็คของเธอคือชายไทยแท้ไม่ใช่ฝรั่งจ๋าอย่างเขา ต่อให้หล่อรวยแค่ไหนก็เถอะ
"โว้ย! ไปๆ ไปทำงานได้แล้ว" ร่างสูงผลักไสไล่ส่งคนล้อเพื่อตัดความรำคาญ อีกทั้งคุยกันมานานมากแล้วจนละเลยต่อหน้าที่ เดี๋ยวคนอื่นจะเอาไปพูดเสียๆ หายๆ ได้ก็เลยต้องรีบตัดบท แต่ท่าทางร้อนรนนั้นกลับทำให้ร่างบางเข้าใจว่าเธอเขินเลยพยายามเปลี่ยนเรื่องไปเสียได้
"ฮ่าๆ ไปก็ได้" เสียงใสหัวเราะขำเพื่อนสนิทหมาดๆ ของตัวเองด้วยความเอ็นดูก่อนจะยอมจากไปแต่โดยดี เดินมาถึงกลางบ้านก็ล้วงเอาใบตารางงานขึ้นมาดูอีกทีเพราะดูรวดเดียวแล้วจำไม่ได้ และหน้าที่ต่อไปก็คือต้องพาหมาไปเดินเล่น.. (?) แม้จะอดสงสัยไม่ได้ว่าหน้าที่นี้เป็นงานของพี่เลี้ยงเด็กตรงไหน? แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นแค่ลูกจ้างแถมเงินเดือนยังสูงด้วย เจ้านายสั่งอะไรก็ต้องทำแหละนะ ทว่ากลับเจอปัญหาใหญ่คือ.. หมาที่ว่าอยู่ที่ไหนเพราะยังไม่เคยเห็น ก็เลยต้องกลับไปถามเพลงอีกครั้ง..
"เพลง.."
"อะไรอีกล่ะ! " เสียงห้วนถามกลับอย่างใส่อารมณ์เพราะคิดว่าคนตัวเล็กจะมากวนอะไรอีก แม้คนฟังจะแอบขำแต่ก็ต้องทำหน้านิ่งแล้วโบกมือปฏิเสธพัลวัน
"ไม่ๆ ไม่ได้มากวน แค่จะมาถามว่าหมาอยู่ไหน ต้องพาไปเดินเล่นด้วยหรอ? " ร่างเล็กถามถึงงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความสงสัย เพราะก็อย่างที่บอก.. งานเลี้ยงหมาไม่น่าใช่หน้าที่พี่เลี้ยงเด็ก =_="
"อืม มานี่เดี๋ยวพาไป" เพลงตอบรับเก้อๆ ก่อนเดินนำไปหาสัตว์เลี้ยงสี่ขาของเจ้านายที่มีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณหลังบ้าน เป็นบ้านอีกหลังขนาดย่อส่วน สร้างไว้เป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวโตเต็มไวจำนวนห้าตัวด้วยกัน
"จะรวยไปไหนเนี่ย สร้างบ้านให้หมาไม่พอ ติดแอร์ให้มันด้วย" คนข้างหลังพึมพำออกมาอย่างอึ้งๆ หลังจากได้เห็นภายนอกของบ้านจนเข้ามาถึงข้างในที่บอกได้เลยว่าหรูหรามีราคาว่าบ้านเธออีก =_="
"นั่นน่ะ พาไปทั้งหมดเลย" คนเดินนำหยุดเดินแล้วชี้ไปที่สุนัขหนุ่มรูปงามทั้งห้าตัวที่กำลังเล่นกันอยู่ในห้องนอนของพวกมันอย่างสนุกสนาน
"ห๊า! ? ทั้งหมดเนี่ยนะ?? ฉันจะถูกลากไปไหนมั้ยเนี่ย! " ภาพสุนัขหนุ่มตัวโตเต็มวัยทั้งห้าตัวตรงหน้าทำคนตัวเล็กอ้าปากค้างเมื่อได้รู้ว่าเธอจะต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่นพร้อมกันทั้งหมด แค่ยืนก็สูงเท่าเอวเธอแล้ว.. นี่มีกันตั้งห้าตัว! แต่เธอตัวคนเดียว แค่มองก็เห็นอนาคตแล้วว่าเธอเอาพวกมันไม่อยู่แน่ๆ
"ไม่หรอก มันไม่ดื้อ.. ต้องทำความคุ้นเคยกับมันก่อน ตัวแรกฝั่งนั้นชื่อแม่ทัพ สองชื่อนักรบ สามชื่อขุนพล สี่ชื่อกษัตริย์ ห้าชื่อจอมทัพ จำได้มั้ย? " เพลงยังคงไม่เดือดร้อนใจกับท่าทางกระสับกระส่ายโวยวายของอิงเอย เธอเริ่มแนะนำพวกมันให้คนตัวเล็กรู้จักไปทีละตัวจนครบก็หันมาถามหน้านิ่งๆ
"โห เจ้าของฝรั่งจ๋าเชียว แต่ตั้งชื่อหมาโคตรไทย" เสียงใสบ่นออกมาด้วยความไม่เข้าใจว่าเจ้าของบ้านคิดอะไรอยู่ถึงตั้งชื่อหมาราวกับจะสร้างกองทัพสี่ขาไปสู้กับใครแบบนี้ =_=^
"บ่นไม่หยุดเลยนะ แก้มป่องๆ นี่มันน่าตีจริงๆ " เพลงว่าเสียงดุพลางทำท่ายกมือเตรียมจะฟาดใส่แก้มป่องพองลมของคนตัวเล็กด้วยความหมั่นไส้เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาก็บ่นไม่หยุดปาก
"โหดร้ายอ่ะ" มือเล็กรีบยกขึ้นกุมแก้มตัวเองไว้พร้อมกับรีบถอยหนีด้วยความตกใจ ตั้งหลักได้ก็มองค้อนใส่อีกคนอย่างงอนๆ
"ไปทำความรู้จักพวกมันไว้ซะ แล้วก็พาออกไปเดินเล่น อาทิตย์แรกก็พาเดินในสวนบ้านก่อนก็ได้ คุ้นเมื่อไรค่อยพาออกข้างนอก" ร่างสูงส่ายหน้าก่อนตัดบทสนทนาที่มีแววจะยืดยื้อไปไกล เพราะเธอยังมีงานต้องทำอีกเยอะ
"โอเค แต่เธออย่าเพิ่งไปนะ กลัวมันกัดอ่ะ" อิงเอยยอมก้มหน้ารับกรรมแต่โดยดี สิ้นคำบอกก็เข้าไปทำความรู้จักกับสัตว์เลี้ยงสี่ขาทั้งห้าตัวของเจ้านายโดยมีเพลงยืนอยู่ใกล้ๆ โชคดีที่มันเป็นมิตร ไม่นานก็สนิทกัน เพลงจึงปล่อยให้คนตัวเล็กพาพวกมันไปเดินเล่นและกลับเข้าบ้านไปทำงานต่อ
จนถึงตอนนี้อิงเอยก็ยังไม่เข้าใจว่าตกลงเธอมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรืออะไรกันแน่.. ทำไมต้องทำทุกอย่างเลย กระทั่งเล่นกับหมา! แอบบ่นนิดหน่อยแต่ก็เล่นกับมันโดยหยิบของเล่นในตะกร้าโยนไปให้มันคาบกลับมา ซึ่งมันก็ไม่ได้สนใจเธอนัก =_=^
บางตัวก็วิ่งไล่กันเองจนกลายเป็นจลาจลย่อมๆ ที่เรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดของเธอรั้งพวกมันไว้ไม่อยู่ เลยต้องปล่อยไปพลางนึกบ่นเพลงในใจเรื่องที่บอกว่าพวกมันไม่ดื้อ!
"แม่ทัพเอามานี่ มาทางนี้ เร็วๆ เข้า.. นักรบ! ? อย่าดึง! " แต่ด้วยความรักสัตว์ที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วร่างบางก็พยายามเล่นกับพวกมันอย่างสุดกำลัง ขว้างของไปให้คาบ แรกๆ ก็ไม่สนแต่นานเข้าก็ยอมเล่นด้วยแต่ดันเล่นพร้อมกันเสียนี่ พอตัวหนึ่งมาดึงเสื้อของเธอ ตัวอื่นๆ ก็มาดึงช่วย..
"อย่าดึงโว้ย! ปล่อยๆ! ? "
แควก!
ตุ้บ!
ร่างเล็กๆ กระแทกลงพื้นเสียงดัง ไม่นานความจุกร้าวก็เข้ามาเล่นงาน เจ็บ.. แต่ก็ไม่มีโอกาสได้สนใจอาการเจ็บของตัวเองนักเพราะหลังจากที่รุมดึงทึ้งเสื้อจนทำเธอล้มหน้าคว่ำได้สำเร็จ เจ้าสัตว์สี่ขาทั้งห้าตัวนั้นก็เข้ามารุมเลียหน้าเธอจนกระดิกตัวหนีไปไหนไม่ได้
"อื้อ~ หยุด! อย่าเลียๆ อืื้มม ฮ่าๆ ๆ อย่า! หยุด! ไอ้หมาบ้า! " คนตัวเล็กพยายามดิ้นรนหาทางรอดแต่ช่างยากเย็น.. คำพูดของเธอไม่เป็นผลกับหมาตัวโต ยิ่งดิ้นพวกมันยิ่งระริกระรี้ดีใจคิดว่าเธอสนุกด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วใกล้หายใจไม่ออกเข้าไปทุกที
และระหว่างที่คนกับหมานัวเนียกันอยู่นั้น.. เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ก็ทำให้อิงเอยได้อากาศหายใจคืนมาอีกครั้ง เมื่อหมาพวกนั้นเปลี่ยนความสนใจและปล่อยเธอเป็นอิสระ คนตัวเล็กนอนหอบหายใจแรงๆ อยู่กับพื้นหญ้าจนหายเหนื่อยก็พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งด้วยสภาพสะบักสะบอม มองไปหาต้นเหตุก็เห็นว่าหมาพวกนั้นวิ่งไปหาเจ้านายของมันที่กลับเข้ามาหลังจากออกไปทำงานหลายชั่วโมง
ร่างสูงนั้นมองมาเห็นเธอพอดี เลยพาหมาพวกนั้นเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าเหมือนคนกำลังกลั้นขำ เพราะคนตรงหน้าไม่เหลือเค้าเดิมที่เขาเคยเห็น ร่างเล็กๆ นั้นนั่งจุ้มปุ๊กอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่บนพื้นหญ้า ผมเพ้ากระเซอะกระเซิงเหมือนไม่ได้ผ่านการหวีมาเป็นสิบๆ ปี เสื้อผ้าขาดวิ่น มีใบไม้ใบหญ้าทั้งรอยเท้าหมาประทับอยู่เต็มตัวไปหมด
"หึหึ บ้านฉันได้หมาตัวใหม่มาเลี้ยงตั้งแต่เมื่อไหร่" เสียงต่ำหัวเราะเยาะในลำคอ ก่อนพูดแขวะออกมาขำๆ แต่คนฟังกลับไม่ขำด้วย!
"ไม่ตลกเลยนะคะ! " อิงเอยหน้างอ ว่ากลับเสียงห้วนขณะมองค้อนร่างแกร่งกับหมาของเขา
"อืม.. จริงๆ ก็.. ไม่ได้น่าตลก" ใครคนนั้นนิ่งไปนิดก่อนเอ่ยเนิบๆ ขณะไล่สายตามองต่ำลงมาด้วยสายตากรุ้มกริ่มแปลกๆ เป็นเหตุให้คนตัวเล็กต้องมองตาม จนพบว่าเสื้อที่ใส่ติดกายอยู่ขาดวิ่นเป็นทางยาวเห็นไปถึงเสื้อชั้นในสีหวานที่ซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้า! ทรวงอกอวบอิ่มสีขาวผ่องประจักษ์ต่อสายตาคนมอง ที่แม้จะถูกห่อหุ้มด้วยชั้นในตัวจิ๋วแต่ก็สามารถดึงดูดสายตาของร่างสูงให้หยุดนิ่ง..
"ยะ อย่ามองนะ!! ? ทะลึ่ง!! " ร่างบางตะโกนห้ามพร้อมคว้ามือดึงเศษหญ้าข้างตัวขว้างใส่เขาก่อนยกแขนปิดหน้าอกของตัวเองไว้อย่างอายๆ แก้มนวลขึ้นสีแดงปลั่งลามไปถึงใบหูยิ่งทำให้คนมองรู้สึก.. 'สนใจ' มากยิ่งขึ้น
"เอ้า.. เธอเปิดให้ฉันดูเองนะ" ไบรอันว่าอย่างไม่เดือดร้อนใจ และไม่หนีไปไหนทั้งที่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังเขินอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี
"ฮึ่ย! เพราะหมาคุณนั่นแหละ! แม่ง.. ดื้อชิบหาย! " อิงเอยโวยวายออกมาด้วยความโกรธเคือง สิ้นคำก็รีบลุกขึ้นวิ่งดุ๊กดิ๊กหนีเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว ไบรอันมองตามขำๆ ก่อนก้มลงมองหมาทั้งห้าตัวของเขาแล้วก้มลงลูบหัวมันอย่างพึงพอใจ..
"หึหึ ทำดีมาก"
..
..
..
..
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 4 พอหนีขึ้นห้องมาได้อิงเอยก็โวยวายด้วยความหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้อง สองครั้งสองคราในวันเดียวกันที่เธอถูกเจ้าของบ้านล่วงเกินทั้งทางสายตาและการกระทำ มันทำให้เธอเริ่มคิดหนักกับการที่ต้องอยู่แบบระแวดระวังและเอาตัวเองให้รอดพ้นจากคนอันตรายอย่างไบรอัน ร้ายกาจ.. แค่สายตาที่มองปราดมาเพียงไม่กี่วินาที ก็สามารถทำคนถูกมองสูญเสียความเป็นตัวเองไปจนหมดสิ้น!"ช่างเถอะอิง.. อย่าไปอยู่ใกล้เขาอีกก็พอ! " ร่างบางสลัดเรื่องที่ถูกใครคนนั้นล่วงเกินทิ้งไป พยายามไม่ถือสาและเก็บมาคิดให้รกสมอง เพราะเธอจะออกจากงานอีกไม่ได้แล้ว ท่องไว้ให้ขึ้นใจว่าต้องอดทน! และพยายามอย่าไปอยู่ใกล้ร่างสูงนั้นให้มาก เพื่อตัวและหัวใจของเธอเอง!พอปล่อยวางได้คนตัวเล็กก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ ได้แต่คาดโทษสัตว์เลี้ยงตัวโตของเจ้านายในใจ โทษฐานที่ทำให้เธอต้องเสียเงินซื้อเสื้อใหม่ทั้งที่ตัวนี้เพิ่งจะซื้อมาเลยแท้ๆ ใส่ยังไม่ทันคุ้มเลย!"คะ คุณเข้ามาทำไมอ่ะ! ? " สายน้ำเย็นๆ ทำอารมณ์ขุ่นมัวของอิงเอยค่อยๆ จางหายไป แต่ก็กลับมาอีกอย่างรวดเร็วเมื่อออกมาเห็นเจ้าข
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 5"อลัน.. ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ ป้ะ ไปทานข้าวกัน ค่อยกลับมาทำใหม่นะครับ" ใบหน้ากลมๆ เงยขึ้นมองสบตาคนพูดเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง คนฟังพยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย ก่อนลุกขึ้นนั่งดีๆ มองอีกคนตาแป๋ว"อิงเอยอุ้มหน่อยครับ" มองอยู่นานร่างบางก็ไม่เข้าใจ เสียงใสจึงอ้อนขึ้นมาตรงๆ พร้อมกับชูมือทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศ แววตากลมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนั้น ถ้าปฏิเสธก็คงจะใจร้ายไม่ใช่น้อย อิงเอยจึงเดินมาอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่เตียงขึ้น เจ้าตัวก็ช่างรู้หน้าที่พออุ้มขึ้นปั๊บก็กอดคออีกคนไว้แน่น แล้วซบหน้าลงกับลาดไหล่บางเรียบร้อยก็พากันเดินลงมาข้างล่างเพื่อทานมื้อเย็น โดยมีคนเป็นพ่อที่เพิ่งออกจากห้องเดินตามกันมาติดๆ แต่คนตัวบางไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่ชวนกันคุยเจื้อยแจ้วอยู่กับเจ้าตัวเล็ก ซึ่งเป็นภาพที่ไบรอันไม่เคยเห็นพี่เลี้ยงคนไหนทำเลย แม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของอลัน..เห็นแบบนั้นแล้วอยู่ๆ ร่างสูงก็นึกถึงคำพูดของลูกขึ้นมาว่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ทั้งที่ไม่เคยพูดถึงแม่มานานมากแล้วและไม่เคยมีทีท่าว่าจะอยากได้แม่ใหม
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 6Truuuu.. Truuuu.."ฮัลโหล"[ฉันโทรมากวนแกหรือเปล่าเนี่ย] ปลายสายถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำเสียงเล็กของคนรับฟังดูห้วนกว่าปกติ เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง เลยกลัวว่าตัวเองจะโทรมาปลุกให้ตื่นหรือเปล่าเพราะเวลานี้ก็ใกล้จะดึกมากแล้ว"เปล่า ยังไม่ได้นอน" อิงเอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงแบบเดิม เธอหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละแต่ไม่ใช่เพราะเพื่อน มันเพราะเจ้าของบ้านต่างหาก![แล้วทำไมเสียงห้วนๆ วะ] แพรวถามอย่างงุนงง ว่าจะโทรมาถามไถ่เรื่องที่ทำงานใหม่เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะเจออารมณ์แบบนี้"หงุดหงิดคน" พูดไปใบหน้ากวนอารมณ์ของคนที่ทำให้อารมณ์เสียก็แวบเข้ามาในความคิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดไปกันใหญ่[ใครวะ ไปอยู่วันเดียวก็มีศัตรูแล้วหรอวะ] ปลายสายซักไซ้ด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นเต็มที่"อืม ศัตรูตัวฉกาจเลยด้วย! " เสียงหวานกระแทกบอกพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ บ่งบอกว่าไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาๆ แพรวเองก็ค่อนข้างจะแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น เพราะอิงเอยเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว บางทีกำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่พอมีคนมาชวนคุยเข้าเรื่องอื่นก็หายและลืมเรื่องก่อนไปในทันที นอ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'nบทนำ"เดือนนี้แกลาออกมากี่งานแล้วเนี่ย จะกินแกลบกันอยู่แล้วนะ! " คนพูดทิ้งตัวนั่งขัดสมาธลงบนพื้นหน้าโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่อีกฝั่งหนึ่งมีร่างขาวๆ กำลังนั่งกินมาม่าด้วยท่าทางห่อเหี่ยว สิ้นเสียงบ่นของเพื่อนร่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาเบะปากน้อยๆ เหมือนเด็กขี้แย"..แกจะให้ฉันทำยังไงล่ะ แต่ละที่แม่ง.." เสียงเบาโอดครวญก่อนถอนหายใจออกมาหนักๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอชื่อ 'อิงเอย' ส่วนคนที่กำลังนั่งจ้องหน้าและเพิ่งบ่นเธอไปเมื่อกี้ชื่อ 'แพรว' เธอกับแพรวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เจอกันตอนรับน้องและด้วยเป็นเด็กต่างจังหวัดทั้งคู่เลยสนิทกันเร็วจนกระทั่งเรียนจบก็ตัดสินใจหางานทำที่กรุงเทพฯ และเช่าห้องอยู่ด้วยกันเพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัด เมื่อก่อนอิงเอยก็ได้งานที่เดียวกันกับแพรว เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เพราะตัวเล็ก ผิวขาว ผมยาว ตาโต สเป็คป๋า ทำให้เจอเจ้านายหัวงูคอยกระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ทุกวัน เลยทำให้ทนอยู่ต่อไปไม่ได้ต้องลาออกมาหางานใหม่ แต่ก็โชคร้ายไม่สิ้นสุดเมื่อที่ไหนๆ ที่เจอแต่แบบนี้ทั้งหมด ไม่เจ้านายก็เพื่อนร่วมงาน แค
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 1"โหหหหหห.. นี่บ้านคนจริงๆ หรอวะ? " แพรวห่อปากครางถามออกมาหน้าอึ้งๆ ขณะแหงนหน้าขึ้นมองประตูรั้วสูงละลิ่วที่สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านโชว์ความอลังการอยู่ตรงหน้า คนข้างๆ ที่มาด้วยก็ยืนมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ เช่นกันสาเหตุที่นำพาอิงเอยกับแพรวมาอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่นี้ได้มันสืบเนื่องมาจากใบปลิวรับสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กใบนั้นที่เพื่อนเอามาให้ดูและคะยั้นคะยอให้สมัคร ร่างบางก็ส่งหลักฐานทุกอย่างตามที่ในใบปลิวบอกไว้ไปสมัครด้วยความจำเป็น แถมยังคิดไว้ก่อนด้วยว่าคงไม่ผ่านแน่ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นกลับมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเธอ เรียกให้มาที่นี่เพื่อทำการคัดตัวจากเจ้าของบ้านอีกครั้ง ด้วยความกลัวเธอจึงลากเพื่อนมาด้วยตอนออกจากห้องมาก็มีความมั่นใจอยู่หรอก แต่พอมาเห็นความใหญ่โตของบ้าน (ว่าที่) เจ้านายในอนาคตแล้วกลับรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างแรกเลยก็คงจะเป็นการแต่งตัว ร่างบางไม่รู้ว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เธอจึงใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่สภาพสุดแสนจะเก่าแสนเก่า! หน้าก็ไม่ได้แต่ง ยิ่งทำให้ดูเหมือนเด็กเ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 2"นี่คือห้องของคุณค่ะ เก็บของให้เสร็จแล้วไปปลุกคุณไบรอันกับคุณหนูอลันตอน 7 โมง" สาวชุดเมดคนเมื่อวานที่เธอแนะนำตัวเองว่าชื่อ 'เพลง' พูดบอกหลังจากเดินนำอิงเอยมาที่ห้องพัก ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เธอเป็นอย่างมาก เพราะห้องที่ว่าไม่ได้อยู่ชั้นล่างติดกับบรรดาสาวใช้คนอื่นๆ แต่อยู่ชั้นบนติดกับห้องเจ้าของบ้าน! แน่นอนว่าภายในห้องที่อยู่เสมอกันกับเจ้านายนั้นมันจะต้องใหญ่โตหรูหราไม่ต่างจากห้องข้างๆ!ตอนนี้คนตัวบางเลยยังคงยืนเคว้งอยู่กลางห้อง ความสวยงามอลังการของมันทำเธออึ้ง.. แต่ไม่มีโอกาสได้ถามคนที่พามาเมื่อพอหมดหน้าที่หล่อนก็เดินออกไปในทันที ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ยืนมองด้วยความอึ้งอยู่นานจนต้องรีบตั้งสติและเอาของไปเก็บในตู้เสื้อผ้าที่เมื่อมองเทียบกันแล้วกระเป๋าเสื้อผ้าเก่าๆ ของเธอเหมือนกับเศษขยะที่ถูกนำมาวางไว้ผิดที่ยังไงยังงั้นตุ้บ~"อ่า.. เมื่อไรแกจะรวยนะไอ้อิง จะได้มีห้องแบบนี้กับเขาบ้าง เตียงโคตรนุ่ม.. คนรวยนี่มันดีเนอะ" คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างพลางเกลือกกลิ้งไปมา ปากก็บ่นพึมพำด้วยความอิจฉาความรวยของเจ้านายคนใหม่ คิดแล้วก็หดหู่ใจ เธอ