"อ่อ.... หวง ไอ้ห่าเอ้ย แล้วตัวเองมานั่งเปล่งแสงอยู่ตรงนี้ กูว่ามึงเรียกสายตามากกว่าน้องอีกนะ อย่างน้อยน้องมันก็นั่งข้างกูไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรอก" โรมว่าขำ ๆ พลางหันมองเพื่อนที่นั่งขาวออร่าอยู่ข้างตัวเอง
"ก็เสื้อน้องมันบางแล้วน้องมันกำลังโต ไอ้บ้า" มาร์คว่าพลางลุกขึ้นเดินไปนั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็กแล้วแอบส่งสายตาดุ ๆ ฟาดไปยังกลุ่มเด็กมัธยมผู้ชาย 4-5 คนที่เล่นน้ำอยู่ไม่ห่างนัก
"ตัวเล็กพรุ่งนี้ไปเกาะ ใส่เสื้อสีทึบนะ ห้ามใส่เสื้อขาวลงน้ำ" แล้วหันมาบอกคนตัวเล็กเสียงดุทันที
"แหะ ๆ ขอโทษค่ะหนูลืม แต่ไม่เป็นไรหรอก หนูยังไม่โตนี่คะไม่เหมือนพี่สาวพวกนั้น ขนาดใส่เสื้อชมพูยังมองเห็นเสื้อชั้นในเลยแถมโตแล้วด้วย" คนตัวเล็กทำหน้าแหย ๆ พยักพเยิดไปที่พวกหญิงสาวที่เล่นน้ำกรี๊ดกร๊าดอยู่ไม่ไกลแล้วยิ้มให้สาวใส่เสื้อสีชมพูที่กำลังมองมาร์คตาเยิ้มอย่างยั่วยวนอยู่ตรงนั้น
"น้ำหวาน ไอ้ที่ว่าโตนี่หมายถึงอายุเค้าใช่มั้ย" โรมก้มลงถามขำ ๆ
"แหะ... หมายถึงอายุก็ได้ค่ะ" คนตัวเล็กหันไปตอบพร้อมกับยิ้มทะเล้นให้ เลยได้กำปั้นป๊อกหัวมาเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว
"แหม... ทีแรกว
"อ๋อ... ถุงพลาสติก" โรมพยักหน้าเข้าใจ"คิดไม่ดีใช่มั้ยมึงเนี่ย" เทนได้ทีว่าให้เพื่อนทันที"ไอ้บ้า ใครจะไม่สงสัยวะ พวกมึงก็ด้วยแหละ" โรมว่าพลางเตะขาเพื่อน"ป้าว่าเราไปกันเถอะจ่ะ น้องหวานไปได้หรือยังลูกเดี๋ยวแดดจะร้อน ลงน้ำไม่ได้นะ" ป้าแม่บ้านว่ายิ้ม ๆ"ไปค่ะ หนูไหว" ว่าพลางกระโดดขึ้นเรือก่อนใครพร้อมทั้งยื่นมือมารับป้าแม่บ้านแล้วก็ตาของตัวเองอย่างแข็งขัน แต่เมื่อเรือออกจากฝั่งไม่ถึง 10นาทีคนเก่งก็นั่งซบลงที่ตักของตาพลางหลับตาแน่น"จะอ้วกหรือลูก" ตาถามพลางลูบหลังให้เบา ๆ"มันโคลงเคลงค่ะตา เวลาหลับตาลงเหมือนเรานอนในเปลเลย" คนตัวเล็กว่าพลางขยับเข้าหาตักตา"งั้นมานอนที่ตักพี่มา เดี๋ยวตาเป็นตะคริวพอดีกว่าจะถึง" มาร์คเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มพร้อมกับรั้งแขนเล็ก ๆ ให้ลุกขึ้นแล้วซบลงมาที่ตักตัวเองแทน "ไหวมั้ย เอาถุงหรือเปล่า" ก้มลงถามพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ"ไม่เอา" เสียงหวานตอบกลับมาเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้ายุกยิกบนตักก่อนจะนิ่งไป ขณะที่มาร์คยังลูบหัวลูบหลังให้ตลอดทางจนถึงท่าเรือของเกาะ"ลุกไหวมั้ย" ชายหนุ่มก้มลงถา
ทริป 3 วัน 2 คืน กับการเที่ยวทะเลครั้งแรกในชีวิตของแม่ค้าพวงมาลัยตัวน้อยผ่านไปอย่างสนุกสนานกับการเมารถและเมาเรือทั้งไปและกลับทั้ง 3 พาตาน้อยและน้ำหวานกลับมาส่งที่บ้านของค่ำอีกวันพร้อมกับของแห้งหลายอย่างที่มาร์คโรมและเทน ซื้อใส่รถมาให้โดยอ้างว่าถ้าว่างจะเข้ามากินข้าวด้วย น้ำหวานแบ่งของแห้งบางส่วนไปให้ลุงกรณ์ข้างบ้านพร้อมกับขนมจากที่ซื้อมาระหว่างทาง ก่อนที่ทั้ง 3 จะลาจากตาและน้ำหวาน โดยมาร์คบอกว่าคืนนี้เขาต้องกลับไปนอนที่บ้านกับน้องชายเพราะแม่เลี้ยงโทรมาบอกว่าน้องชายไม่สบายให้เข้าไปดูสักหน่อยและจะกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อเอาของฝากจากทะเลไปส่งแม่เลี้ยงกับน้องที่บ้านด้วย"ไปเที่ยวนครนายกอีกเปล่าหวาน" มาร์คถามขึ้นยิ้ม ๆ"มะปาย~มะหวาย~จะตุย" เสียงเล็ก ๆ ว่าภาษาที่วัยรุ่นใช้พร้อมทั้งมุดหัวเข้าเสื้อตาอย่างน่ารัก"เอามะยงชิดอีกมั้ย เดี๋ยวพี่เก็บมาฝาก" คนตัวโตถามคนในเสื้อตาขำ ๆ ซึ่งพอได้ยินชื่อผลไม้คนตัวเล็กก็รีบผงกหัวยุกยิกอยู่ในเสื้อตาทันที"เอ้า...แล้วไม่โผล่ออกมาบอกพี่เขาดี ๆ ล่ะลูก" ตาน้อยว่าพลางลูบผมคนในเสื้อเบา ๆ ที่ตอนนี้นิ่งไปแล้ว "หือ...ปิดสวิตช
SARAN BARรถเก๋งซีรีส์ 3 คันหรูวิ่งเข้ามาที่จอดรถ VIP ของร้าน ชายร่างสูงโปร่งก้าวลงมาจากรถอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับฮัมเพลงควงกุญแจเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปในร้าน"แหม... อารมณ์ดีเพราะกีมาตีกันรอหรือครับพี่มาร์ค มึงมาช้ากว่านี้กูได้เอาน้ำร้อนสาดกีมึงแน่" โรมว่าเสียงดังมาจากชั้น 2 ของร้าน"กี อะไร กูไม่ได้นัดใครมานี่" มาร์คขมวดคิ้วถามกลับทันที ตั้งแต่กลับมาจากพาน้ำหวานกับตาไปเที่ยวทะเลมาร์คยังไม่ได้นัดผู้หญิงคนไหนมาที่ร้านอีกเลยเพราะคิดว่าควรจะหยุดได้แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะฝึกงานแล้ว อาจจะไม่ค่อยมีเวลามาร้องเพลงที่นี่อีก ฉะนั้นเงินเก็บที่มีควรประหยัดและไม่ควรไปสิ้นเปลืองกับเรื่องพวกนั้น"มึงไม่ได้นัดแต่สามัคคีกันมาไง ไอ้ห่า ร้านกูจะพังแล้วเนี่ยมึงขึ้นมาเคลียร์เลยกูขังรวมไว้กัดกันตายไปแล้วมั้ง" โรมว่าพลางหัวเราะขำ ๆ"ใครวะ?" ถามพรางเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของร้านที่แบ่งเป็นห้อง VIP ไว้หลายห้องอย่างเป็นสัดส่วน"น้องดีว่ากับน้องยาหยีของมึงน่ะ" คำตอบของโรมทำมาร์คขมวดคิ้วทันที *น้องดีว่า ยาหยี ไหนอีกวะ* ขาวยาวก้าวไปหน้าประตูห้องที่โรมว่าพลางเปิดประตูเข้าไ
"ขึ้นไปข้างบนล่ะมั้ง เห็นว่าจะไปกินกาแฟรอ" โรมว่าพลางชี้ไปที่นาฬิกาเรือนเล็กน่ารักที่เขามองว่ามันน่าจะเหมาะกับข้อมือเล็ก ๆ ของน้ำหวาน"กูว่าเอาแบบที่เด็ก ม. 1 ใส่กันดีกว่าสายเหล็กนะ แขนน้องเล็กนิดเดียวแบบนี้เป็นไง" มาร์คมองนาฬิกาในมือโรมแล้ววิเคราะห์พลางชี้ไปที่นาฬิกาแฟชั่นสายพลาสติกสีส้มพาสเทลน่ารักที่วางโชว์อยู่ในกล่องในตู้"เออ... น่ารักแล้วมันดูไม่เว่อร์ด้วย สวย ๆ กูว่าเรือนนี้แหละเหมาะ... คุณครับขอดูเรือนนี้หน่อยครับ" โรมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันทีพลางสั่งพนักงานหยิบนาฬิกาเรือนเล็กขึ้นมาให้ดู"รุ่นนี้เป็นคอลเลคชันใหม่ที่เพิ่งออกช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมาค่ะ สีหวานแหววเหมาะสำหรับของขวัญของฝากค่ะ ถ้าลูกค้าจะซื้อไปฝากแฟนเรามีบริการห่อของขวัญให้ด้วยนะคะ" พนักงานในร้านว่าเสียงพร้อมทั้งหันมามองหน้ามาร์คยิ้ม ๆ"ผมซื้อไปฝากน้องสาวครับเด็ก ม. 1" มาร์คว่าขึ้นยิ้ม ๆ พร้อมกับส่งตาหวานเยิ้มให้พนักงานสาวสวยในร้านจนเธออายม้วนไปไม่เป็นเลยทีเดียว"ไอ้มาร์คตกลงมึงมาดูแม่ค้าหรือมาดูนาฬิกา ไอ้บ้า เร็ว ไอ้เทนไลน์มาแล้วเนี่ย" โรมว่าเสียงเบาพลางตบหลังเพื่อนรักที่ตอนนี้ทำ
"น้องมึงกี่ขวบแล้ววะศิ ตัวพอ ๆ กับน้ำหวานเลย" เทน ถามขึ้นอย่างสงสัย"13 เดือนหน้าขึ้นเกรด 7""อือ... เท่าไอ้ตัวเล็กของไอ้มาร์คมันจริง ๆ ทำไม ม. 1 มีแต่ตัวเล็ก ๆ วะ มันจะโตกว่านี้มั้ย" เทนครางในคอพึมพำแล้วหันมาถามเพื่อนอย่างสงสัย"คงโตแหละ แต่มึงเงียบสิไอ้ห่า หนังกำลังสนุก" ศิลาตอบพลางเอ็ดเพื่อนที่ถามกวนอารมณ์คนจะดูหนังและเกรงใจคนที่นั่งด้านหลัง ส่วนมาร์คที่นั่งติดกันนั้นนั่งนิ่งฟังเงียบ ๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา จนกระทั่งหนังถึงช่วงสุดท้าย..."ศิลาคะ แมรี่ไม่มีรถมา ขอแมรี่กลับด้วยนะคะ" สาวสวยเอ่ยขึ้นเสียงหวานพร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนให้ชายหนุ่มที่เพื่อนนั่งขั้น หลังจากที่เธอขอออกไปเข้าห้องน้ำเพิ่งกลับเข้ามานั่งได้ไม่นาน"ไม่ได้หรอก ไอ้ศิลามันเอาน้องมาด้วยเธอก็เห็น" เทนตอบแทนเพื่อนเสียงห้วน"อ้าว เมื่อกี้ในห้องน้ำ แมรี่เห็นน้องขวัญไปล้างหน้าเธอว่าจะกลับก่อนนี่คะ" ทันทีที่แมรี่พูดจบศิลาหันขวับกลับไปมองที่เก้าอี้ชั้นสวีตที่น้องสาวตนนอนอยู่และเมื่อไม่เห็นร่างเล็กที่นอนอยู่ที่เดิมจึงลุกพรวดพราดออกจากโรงหนังไปทันที จนเพื่อนมองตามตาปริบ ๆ"ศิล
เกือบ 3 ทุ่มของวันเดียวกันรถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านตาน้อย ทำให้ 2 ตาหลานที่กำลังนั่งร้อยมาลัยเตรียมส่งให้แม่ค้าในวันรุ่งขึ้นเงยหน้าขึ้นสบตากันแล้วมองไปที่หน้าต่าง น้ำหวานวางมือจากมาลัยแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดผ้าม่านดูด้านนอกอย่างสงสัย"พี่มาร์คมาค่ะตา" น้ำหวานหันไปบอกตาน้อยเบา ๆ"ตาคะ พี่มาร์คนั่งอยู่ที่แคร่ไม่เข้ามาค่ะ""งั้นหนูก็เอายากันยุงไปให้พี่เขาหน่อยลูก ข้างนอกยุงมันเยอะ" ตาน้อยว่ายิ้ม ๆ แล้วก้มหน้าลงร้อยมาลัยต่อ"แต่ดูพี่มาร์คหน้าเครียด ๆ นะคะ" สาวน้อยว่าเบา ๆ แล้วเดินกลับมานั่งร้อยมาลัยพวงที่ค้างอยู่ต่อ"พี่เขาอาจมีเรื่องไม่สบายใจก็ได้นี่ลูก แล้วนี่ก็ใกล้ฝึกงานแล้วด้วยเขาคงมีเรื่องคิดหลายอย่าง ตาว่าตอนนี้หวานเอายากันยุงไปให้พี่เขาก่อนเถอะเดี๋ยวยุงจะสุมเอา" ตาน้อยพูดขึ้นเนิบ ๆ พลางสั่งให้เธอเอายากันยุงไปให้ชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง"ค่ะตา" เด็กสาวลุกขึ้นไปหยิบยากันยุงมาจุดก่อนจะวางลงไปในถาดรองแล้วเปิดประตูเดินออกไปหาชายหนุ่มเงียบ ๆ วางยากันยุงลงใต้แคร่ก่อนจะถอยหลังออกมาเตรียมจะเดินเข้าบ้าน"หวานมาหาพี่หน่อย" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเ
หลังจากที่มาร์คอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าน้ำหวานจัดเตรียมที่นอนให้ข้างตาน้อยที่ห้องโถงเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กหอบผ้าห่มกับหมอนใบใหญ่แบบที่เธอหนุนเดินออกมาจากห้องแล้วหัวเราะคิกคักกับลุคกางเกงแพรขาลอยกับเสื้อยืดขยี้ใบตัวใหญ่ของเธอ"ฮ่า ๆๆ มองข้างล่างเหมือนคุณตา มองข้างบนเหมือน สก๊อยเลยอ่า" คนตัวเล็กหัวเราะชอบใจ"ไม่ต้องพูดเลย แกล้งพี่ปะเนี่ย" มาร์คว่ายิ้ม ๆ มองคนตัวเล็กอย่างมันเขี้ยว *มองข้าล่างนี่มองตรงไหนวะเนี่ย...* มาร์คคิดในใจขำ ๆ แล้วก้มมองช่วงล่างของตัวเอง"เปล่านะคะ ตัวนี้ใหญ่ที่สุดแล้วตอนหนูใส่มันยาวถึงเข่าไม่ต้องใส่กางเกงนอนเลย แต่พอพี่มาร์คใส่แล้วตัวจิ๋วไปเลย พี่มาร์คโตเกินไปค่ะ" คนตัวเล็กตอบเสียงใส"พี่ว่าหวานเข้านอนเถอะ เดี๋ยววันนี้พี่จะตื่นมาช่วยตายก กล่องเอง นอนเยอะ ๆ จะได้โตเร็ว ๆ" มาร์คว่ายิ้ม ๆ"ขอบคุณค่ะงั้นหนูเข้านอนนะคะตา" เด็กสาวกล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนเดินเข้าห้องของตัวเอง มาร์คมองตามหลังจนเธอปิดประตูแล้วจึงลุกขึ้นไปปิดไฟกลางห้องก่อนจะกลับมานอนลงข้าง ๆ ตาน้อยเงียบ ๆ"ขอบใจนะมา
"น่ารักดีนะปกรณ์" ท่านเดชาเอ่ยขึ้นเสียงเนิบมองตามร่างเล็ก ๆ ที่เดินออกไปพ้นรั้วแล้วแบกตะกร้าผ้าวิ่งกลับบ้าน"น่ารักมากครับท่าน มารยาทดี เรียนดีแต่ก็น่าสงสารครับ" ปกรณ์มองตามหลังเด็กสาวเอ่ยกับอดีตเจ้านายเสียงทุ้ม"น่าสงสาร?""ครับท่าน...." แล้วลุงปกรณ์ก็เล่าถึงชีวิตน้ำหวานให้ท่านเดชาฟังอย่างตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงความเป็นอยู่ปัจจุบันของเด็กสาว"น่าสงสารจริง ๆ ตัวแค่นี้แล้วบอกว่ารู้จักกับพวกเจ้าโรมเพื่อนเจ้าศิลามันด้วย" ท่านเดชาว่าพลางมองเข้าไปในบ้านที่หลานสาวกำลังช่วยคุณป้าของเธอเตรียมอาหารเช้ากันอยู่"ถ้าเป็น 3 หนุ่มที่มาบ้านตาน้อยบ่อย ๆ นั่นล่ะก็ น้ำหวานค่อนข้างจะสนิทครับ เด็กหนุ่ม 3 คนนั่นเอ็นดูเธอมากทีเดียว ช่วงสอบเข้า ม.1 มาติวให้จนสอบได้แล้วตอนงานศพน้องเพลงก็ได้ 3 หนุ่มนั่นล่ะครับมาช่วย แต่วันเผามากัน 4 คนไม่มั่นใจว่าใช่คุณศิลาหรือเปล่า ตัวสูง ๆ พอ ๆ กับตามาร์คน่ะครับแต่ร่างจะใหญ่กว่ากันนิดนึง คล้ำกว่านิดหน่อย" ลุงปกรณ์เล่าให้ท่านฟังยิ้ม ๆ"ถ้า 4 คนคงจะเจ้าศิลานั่นแหละคนนึง ที่ตัวใหญ่กว่าแล้วก็คล้ำกว่ามาร์คเค้าหน่อย พอดีสินะน้องขวัญอ
3 ทุ่ม SARAN BARโรมเดินเข้ามาในห้องทำงานชั้น 2 ของร้านแต่ต้องขมวดคิ้วแล้วหันไปมองที่โซฟารับแขกในห้อง..."น้านารถ เนส นิค มานานแล้วหรือครับ" โรมเอ่ยถามยิ้ม ๆ แล้วเดินมานั่งที่โซฟาเดี่ยวข้าง ๆ"น้ามารอถามอะไรจากโรมนิดหน่อย" คุณนงนารถมองหน้าชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ"ว่ามาเลยครับ" โรมตอบเสียงเย็นพอกันและพอจะเดาออกว่าคุณนงนารถจะถามเรื่องอะไร"เด็กผู้หญิงที่มาร์คกอดไม่ปล่อยก่อนขึ้นเครื่องคือใคร" คุณนงนารถเอ่ยถามนิ่ง ๆ"ฟังจากน้ำเสียงน้านารถเหมือนไม่ค่อยพอใจเลยนะครับ" โรมพูดขึ้นเสียงเย็นพร้อมกับจ้องหน้าคุณนงนารถกลับ"โรมอย่ามองน้าแบบนั้น น้าแค่สงสัย เด็กนั่นน่าจะยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะแล้วมาร์คกอดหอมขนาดนั้น ถ้าพ่อแม่เขาเอาเรื่องจะทำยังไง โรมก็เห็นว่ามาร์คกำลังจะมีอนาคตที่ดีได้งานที่ดี ได้เรียนที่ดี น้าไม่อยากให้มาร์คเสียอนาคตเพราะเด็กแบบนี้" คุณนงนารถว่าเสียงแข็ง เธอมองว่าเด็กคนนี้อาจทำให้อนาคตของลูกเลี้ยงเธอมัวหมองได้ อายุแค่นี้ยังทำตัวแบบนี้เกิดผู้ใหญ่ทางนั้นเอาเรื่องมาร์คจะหมดอนาคตได้"แบบนั้นแล้วมันแบบไหน
"คร้าบ... คุณพี่ ผมจะพยายามใจเย็นลงครับ ผมเห็นแล้วว่าการใจเย็นแบบพี่ได้อะไรบ้างอย่างน้อยก็โรเล็กซ์เรือนนี้" นิคขานรับพร้อมกับชูนาฬิกาที่มาร์คได้มาจากแฟนคลับแล้วยกให้ตนยิ้ม ๆ"แล้วคอนโดนี่ยังไงลูกจะให้น้าเข้ามาดูแลให้มั้ยหรือจะปล่อยเช่าจริง ๆ" คุณนงนารถว่าอย่างนึกได้พร้อมทั้งนึกเสียดายถ้าจะปล่อยเช่าเพราะเฟอร์นิเจอร์ในห้องมาร์คมีแต่ของดีมียี่ห้อทั้งนั้น"ไม่ลำบากหรอกครับน้านารถ ผมมีคนดูแลอยู่แล้วไม่ปล่อยเช่าหรอก" มาร์คว่ายิ้ม ๆ"แล้วนี่มาร์คขึ้นเครื่องกี่โมงลูก" คุณนงนารถถามชายหนุ่มที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนแล้วมองนาฬิกาถี่ ๆ"เที่ยงครึ่งครับ" ปากตอบแต่ตามองประตูทางเข้าเหมือนรอใครอย่างใจจดใจจ่อ"รอใครว้า...คอยาวจะจรดหลังคาอยู่แล้ว น้องคนเมื่อคืนหรือเปล่าว้า...." เนสแซวพี่ชายคนโตของบ้านลอย ๆ ขณะที่กำลังพิมพ์ไลน์คุยกับเพื่อน"หุบปากเลยไอ้เนส อย่าก้าวข้ามพื้นที่ของกูก่อนได้รับอนุญาต" มาร์คว่าเสียงดุแล้วต้องยิ้มกว้างที่เห็นเทนเดินเข้าประตูมาเพราะเมื่อคืนเทนไปนอนบ้านตาน้อยและเขาคิดว่าคนตัวเล็กของเขาต้องมาพร้อมกับเทนแน่นอน"เทน!" มาร์คร้อง
"หวาน เตรียมตัวนะเดี๋ยวพี่จะให้หน้าม้าชวนไอ้มาร์คหันหน้าไปคุยทางนั้นแล้วพี่จะส่งหวานขึ้นเวทีเอาดอกไม้ไปให้มัน" โรมเตี๊ยมเด็กสาวอยู่ที่มุมข้างเวทีและตอนนี้ในมือของน้ำหวานมีกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่สั่งจัดมาอย่างสวยงามอุ้มอยู่ด้วย"หวานตื่นเต้นจังเลยพี่โรมพี่มาร์คจะไม่โกรธใช่มั้ยคะ" น้ำหวานว่าขึ้นอย่างไม่มั่นใจพร้อมก้มมองช่อกุหลาบอ้อมแขนตัวเอง"ไม่โกรธ เชื่อพี่ มั่นใจหน่อยสิอิหนู เตรียมตัวท่อนสุดท้ายแล้ว" เทนว่าพลางรั้งแขนน้องเล็กให้ลุกขึ้นแล้วจัดผมและเสื้อผ้าให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะพาเดินไปที่บันไดข้างเวทีแล้วส่งสัญญาณให้หน้าม้าเรียกมาร์คให้หันไปพูดคุยกับแฟนคลับด้านข้างเวทีอีกฝั่ง"ไป ไอ้ตัวเล็ก ไอ้มาร์คมันกำลังเผลอ"เทนว่ายิ้ม ๆ พลางยกกำปั้นขึ้นชนกับกำปั้นน้อย ๆ ของเด็กสาวซึ่งคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างอย่างน่ารักแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นเวทีไปยืนยิ้มอยู่ด้านข้างของมาร์คพร้อมกับกุหลาบช่อใหญ่ในมือ ในขณะที่โรมขึ้นเวทีแล้วยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเพื่อบอกให้คนด้านล่างเงียบรอลุ้นดูปฏิกิริยาของเพื่อนรักและก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากแฟนค
เช้าตรู่ที่บ้านของตาน้อยมาร์คกับเทนมาหาเด็กสาวแต่เช้าเพื่อเอาของฝากจากเชียงใหม่ของเทนและขนมที่ได้รับจากแฟนคลับเมื่อคืนมาให้และตั้งใจมากินข้าวกับตาและน้ำหวานแบบที่เคยทำเป็นประจำ"หวาน พี่มีอะไรจะให้" มาร์คว่าเสียงทุ้มพร้อมกับยื่นกระเป๋าสะพายไปตรงหน้า ขณะที่น้ำหวานกำลังนั่งใส่รองเท้าพละบนแคร่หน้าบ้าน เด็กสาวก็รับมาเปิดดูแบบงง ๆ"โห...พี่มาร์ค แพงไป เกิดหวานทำของพี่มาร์คพังไม่มีปัญญาซ่อมคืนหรอกค่ะ" น้ำหวานว่าขึ้นพลางผลักกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊กและไอแพดคืนไปที่หน้าชายหนุ่มทันทีที่เห็นวันนี้มาร์คตั้งใจเอาโน้ตบุ๊กและไอแพดของตัวเองมาให้เด็กสาวไว้ใช้งานและขอตาไปส่งเธอที่โรงเรียนเป็นวันสุดท้ายก่อนจะเดินทางในวันรุ่งขึ้น"เอาไว้ใช้ ขึ้นมัธยมที่ต้องทำรายงานหาข้อมูลแล้วถ้าจะปริ้นก็เอาไปให้ไอ้โรมมันปริ้นให้จะได้ไม่เสียตังค์" มาร์คว่าพลางมองหน้าเด็กสาวนิ่ง ๆ"แพงไป๊... พี่มาร์คไม่เอาไปใช้ล่ะคะ" เด็กสาวว่าขึ้นพลางมองสบตาคนตัวโตนิ่ง ๆ พอกัน"นี่มันเครื่องเก่าพี่ ไปนู่นเขาก็ซื้อให้ใหม่เอามาให้หวานใช้น่ะถูกแล้ว" ชายหนุ่มหาข้ออ้างแล้วยิ
สัปดาห์สุดท้ายก่อนเดินทางมาร์คพาเนสไปสมัครงานที่ร้านพี่ชายของโรมตามที่พูด ซึ่งเนสก็ดีใจมากที่จะได้มีรายได้เพิ่มอีกทาง เขาแอบหวังเอาไว้ว่าถ้ามีเงินเก็บมากขึ้นเขาจะขอผ่อนบ้านต่อจากมาร์คเพื่อเป็นสมบัติชิ้นแรกจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง และคิดว่าถ้ามาร์คทำงานร้านนี้เก็บเงินผ่อนบ้านได้เขาก็จะต้องทำได้เหมือนกัน"ไอ้มาร์ค คืนนี้คนเยอะมากเลยว่ะ" เนสว่าอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นโต๊ะคืนนี้เต็มทั้งโต๊ะนั่งและโต๊ะยืน"นี่ครึ่งเดียวเว้ย พรุ่งนี้อีกรอบ มีสเปเซียลด้วย" โรมว่าพร้อมกับยักคิ้วให้เนสยิ้ม ๆ"พรุ่งนี้กูบอกให้นิคพาน้านารถมา มึงหยุดวันนึงไม่ต้องทำงาน" มาร์คว่ายิ้ม ๆ มองหน้าน้องชาย พรุ่งนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาอยู่ไทยเพราะเที่ยงวันเสาร์เขาต้องเดินทางแล้ว ชายหนุ่มเลยขอให้แม่เลี้ยงและน้องชายมาดูเขาทำงานในวันสุดท้ายด้วย"มึงเป็นนักร้อง?" เนสว่าพลางมองหน้าพี่ชายต่างแม่อึ้ง ๆ"แล้วกูเคยบอกมึงเหรอครับว่ากูเป็นพนักงานเสิร์ฟ" มาร์คตอบน้องชายยิ้ม ๆ พลางยกแก้วน้ำอุ่นผสมมะนาวขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ยืนมองนักเที่ยวแน่นร้านอย่างพอใจก่อนจะตบบ่าเนสเบา ๆ แล้วก้าวขึ้นเวทีทักทายแฟนคลั
บ้านมาร์คที่ต่างจังหวัดรถสปอร์ตคันหรูวิ่งเข้ามาจอดหน้าร้านกาแฟเปิดใหม่ของคุณนงนารถ หนุ่มหล่อผิวขาวใส สวมแว่นตากันแดดครอบเกือบครึ่งหน้า เปิดประตูลงมาจากฝั่งคนขับ รอยยิ้มละมุนบนใบหน้าเรียกสายตาพนักงานและลูกค้าในร้านให้มองตามอย่างเคลิบเคลิ้มในขณะที่ชายหนุ่มเดินยิ้มเข้ามาในร้าน"พี่มาร์ค แม่! พี่มาร์คมา" นิคบอกแม่เสียงดังอย่างตื่นเต้นพร้อมกับวางถาดแก้วน้ำแล้ววิ่งมากอดพี่ชายคนโตของบ้านเหมือนเด็ก"น้านารถ สวัสดีครับ ไงไอ้เสือ" มาร์คยกมือไหว้แม่เลี้ยงแล้วหันไปทักทายน้องเล็กของบ้านที่กอดตัวเองอยู่ยิ้ม ๆ"โว้... โคตรคูลว่ะ ลุคเด็กล้างรถนี่ฆ่าพี่ไม่ตายจริง ๆ" นิคเอ่ยแซวขำ ๆ กับความขัดกันของรถที่ขับมาราคาหลายล้าน นาฬิกาหลายแสน แว่นเป็นหมื่น กับเสื้อยืดเบอร์ 8 ขยี้ใบกางเกงบอลและรองเท้าแตะสายไขว้ราคาหลักสิบของพี่ชาย ในขณะที่รถเก๋งยุโรปอีกคนวิ่งเข้ามาจอดต่อท้ายรถของมาร์คฝุ่นตลบ"ไอ้มาร์ค ไหนมึงบอกจะมาพร้อมกูไง" เนสเดินเข้ามาในร้านโวยพี่ชายทันทีที่เจอหน้า"แม่..." เรียกพลางเดินเข้าไปกอดหอมแก้มแบบที่เขาเคยทำกับย่ามาตั้งแต่เด็กแล้วหันมามองหน้าพี่ชายต่
"จะไปไหน มาเคลียร์กันก่อน" มาร์คลุกขึ้นคว้าเอวไว้ทันทีอย่างมันเขี้ยวทั้งอยากแกล้งร่วมด้วย"โอ๊ย... ตา ช่วยหนูด้วย ตาจะปล่อยพี่มาร์คทำแบบนี้กับหนูไม่ได้นะ โอ๊ะ! อย่าดึงเปียหนู" เด็กสาวโวยวายร้องให้ตาช่วยทันทีเมื่อมือใหญ่อีกข้างดึงหางเปียไว้"ทำอะไรไว้ล่ะ พี่เขาถึงได้มานั่งรอเคลียร์กันเองละกันตาไม่เกี่ยว ตาไปอาบน้ำรอกินข้าวดีกว่า" ตาน้อยว่าขำ ๆ แล้วค่อย ๆ ลุกเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี"เอ๊า... ตา ตาไม่รักหนูแล้วเหรอ พี่มาร์คมือหนักดึงหัวหนูจะหลุดแล้วนะ ตาไม่ดุพี่มาร์คล่ะคะ" คนตัวเล็กโวยวายพลางแกะมือใหญ่ออกจากหางเปียตัวเอง ไม่ได้สนใจอีกมือที่กอดตัวเองเอาไว้แน่นขณะที่รถของโรมวิ่งเข้ามาจอดในรั้วบ้านเพิ่มอีกคัน"ซวยแล้ว...พี่โรมกับพี่เทนก็มา โดนยำแน่เลย พี่มาร์คปล่อยหวาน พี่มาร์คอย่าแกล้งน้อง" เด็กสาวว่าพลางดิ้นหนีเต็มที่แต่ก็โดนมือใหญ่รวบเอวไว้ไม่ยอมปล่อย"น้ำหวาน..." เสียงเทนลากยาวมาก่อนตัว"อุ่ย ยาวมาเลย พี่เทน สวัสดีค่ะอุ่ย พี่โรมสวัสดีค่ะ มาครบเลยเน้อ... ว่างกันเหรอ" คนตัวเล็กอุทานเบา ๆ พลางยกมือไหว้ 2 ผู้มาใหม่พร้
"ปู่อยากให้มาร์คไปอยู่กับศิลาด้วย มาร์คสะดวกมั้ยลูก" คุณปู่เอ่ยถามเสียงเนิบพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มยิ้ม ๆ"ผม..." มาร์คอึกอักอย่างคิดไม่ตกการที่จะให้ไปอยู่ต่างประเทศในฐานะเด็กฝึกงานนั้น ถึงจะมีโอกาสได้งานที่ดีกว่า แต่เรื่องค่าใช้จ่ายก็มากกว่าอีกเหมือนกันแล้วเงินเก็บที่เขามีไม่มั่นใจว่าจะพอใช้จ่ายได้ถึงเมื่อไหร่"ปู่จะให้เงินเดือนเราเท่าพนักงานที่นั่นแล้วจะส่งเราเรียนด้วย ปู่ไม่อยากให้ศิลาอยู่ที่นั่นคนเดียว" คุณปู่พูดขึ้นเสียงเนิบมองหน้าชายหนุ่มอย่างอาทร ในบรรดาเพื่อนของศิลา มาร์คเป็นคนที่ฐานะทางบ้านด้อยกว่าเพื่อนที่สุด ชายหนุ่มดิ้นรนส่งตัวเองเรียนและรับผิดชอบอีกหลายอย่างเพียงลำพัง ซึ่งสิ่งพวกนี้ท่านเดชาให้คนไปเช็คประวัติมาร์คมาบ้างเพราะท่านก็ต้องการมั่นใจว่าคนที่ท่านจะส่งไปอยู่กับหลานชายนั้นต้องพึ่งพาได้จริง ๆ"จริงหรือครับคุณปู่ ขอบคุณครับคุณปู่ ขอบคุณครับ ผมสัญญาผมจะทำให้ดีที่สุดครับ" มาร์คถามขึ้นอย่างตื่นเต้นพร้อมกับยกมือไหว้คุณปู่หลาย ๆ รอบน้ำตาคลอหน่วยอย่างดีใจ"แต่มาร์คต้องช่วยปู่ดูแลศิลาให้ดีและเตือนสติมันทุกครั้งเกี่ยวกับผู้หญิง ศิลาถึง
"เอ๊า... นั่งตาแป๋วอยู่ทำไมล่ะ ไปส่งพี่ ๆ เขาสิ" ตาน้อยสั่งหลานสาวที่นั่งมองตาแป๋วอยู่ ซึ่งเธอก็ลุกขึ้นเดินตามไปส่งทั้ง 3 หนุ่มแล้วกลับมานั่งดูของในถุงพลางถอนหายใจหนัก ๆ"แต่ละอย่างมีแต่แพง ๆ ทั้งนั้น พวกพี่เขาทำงานได้วันละเท่าไหร่ถึงได้กล้าจ่ายอะไรแพง ๆ แบบนี้ วันนี้บุฟเฟต์ที่พี่เทนเลี้ยงคนละตั้ง 599 เลยนะคะ เรากินได้ตั้งหลายมื้อ หวานกินจนพุงจะแตกยังคิดว่าไม่คุ้มเลย เสียดายตังค์จัง" น้ำหวานว่าขึ้นหงอย ๆ แล้วมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง"แล้วนาฬิกานี่ก็แบบเดียวกับคิตตี้ใส่เลย เย็นนี้หวานจะถามดูว่ามันแพงมั้ย ถ้าแพงมากหวานคงเก็บใส่กล่องไว้ใส่ตอนพี่มาร์คมาดีกว่าหวานกลัวมันหาย" เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมกับลูบนาฬิกาเบา ๆ อย่างทะนุถนอม"แล้วมันจะไม่เป็นการเสียความตั้งใจพี่เขาหรือลูก พี่เขาซื้อให้เพื่อเอาไว้ดูเวลาไม่ได้ซื้อมาให้ใส่กล่อง แล้วถ้าพี่เขามาแล้วค่อยใส่แบบนั้นเขาเรียกว่าลิงหลอกเจ้า หน้าอย่างหลังอย่างมันไม่ดีของพวกนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเราเห็นว่าสวยแล้วเก็บอย่างเดียวไม่ใช้ คนให้เขาก็เสียความรู้สึกเหมือนกับว่าเราไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่พี่เขาปร