"จะไปไหน มาเคลียร์กันก่อน" มาร์คลุกขึ้นคว้าเอวไว้ทันทีอย่างมันเขี้ยวทั้งอยากแกล้งร่วมด้วย
"โอ๊ย... ตา ช่วยหนูด้วย ตาจะปล่อยพี่มาร์คทำแบบนี้กับหนูไม่ได้นะ โอ๊ะ! อย่าดึงเปียหนู" เด็กสาวโวยวายร้องให้ตาช่วยทันทีเมื่อมือใหญ่อีกข้างดึงหางเปียไว้
"ทำอะไรไว้ล่ะ พี่เขาถึงได้มานั่งรอ เคลียร์กันเองละกันตาไม่เกี่ยว ตาไปอาบน้ำรอกินข้าวดีกว่า" ตาน้อยว่าขำ ๆ แล้วค่อย ๆ ลุกเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี
"เอ๊า... ตา ตาไม่รักหนูแล้วเหรอ พี่มาร์คมือหนักดึงหัวหนูจะหลุดแล้วนะ ตาไม่ดุพี่มาร์คล่ะคะ" คนตัวเล็กโวยวายพลางแกะมือใหญ่ออกจากหางเปียตัวเอง ไม่ได้สนใจอีกมือที่กอดตัวเองเอาไว้แน่นขณะที่รถของโรมวิ่งเข้ามาจอดในรั้วบ้านเพิ่มอีกคัน
"ซวยแล้ว... พี่โรมกับพี่เทนก็มา โดนยำแน่เลย พี่มาร์คปล่อยหวาน พี่มาร์คอย่าแกล้งน้อง" เด็กสาวว่าพลางดิ้นหนีเต็มที่แต่ก็โดนมือใหญ่รวบเอวไว้ไม่ยอมปล่อย
"น้ำหวาน..." เสียงเทนลากยาวมาก่อนตัว
"อุ่ย ยาวมาเลย พี่เทน สวัสดีค่ะ อุ่ย พี่โรมสวัสดีค่ะ มาครบเลยเน้อ... ว่างกันเหรอ" คนตัวเล็กอุทานเบา ๆ พลางยกมือไหว้ 2 ผู้มาใหม่พร้
บ้านมาร์คที่ต่างจังหวัดรถสปอร์ตคันหรูวิ่งเข้ามาจอดหน้าร้านกาแฟเปิดใหม่ของคุณนงนารถ หนุ่มหล่อผิวขาวใส สวมแว่นตากันแดดครอบเกือบครึ่งหน้า เปิดประตูลงมาจากฝั่งคนขับ รอยยิ้มละมุนบนใบหน้าเรียกสายตาพนักงานและลูกค้าในร้านให้มองตามอย่างเคลิบเคลิ้มในขณะที่ชายหนุ่มเดินยิ้มเข้ามาในร้าน"พี่มาร์ค แม่! พี่มาร์คมา" นิคบอกแม่เสียงดังอย่างตื่นเต้นพร้อมกับวางถาดแก้วน้ำแล้ววิ่งมากอดพี่ชายคนโตของบ้านเหมือนเด็ก"น้านารถ สวัสดีครับ ไงไอ้เสือ" มาร์คยกมือไหว้แม่เลี้ยงแล้วหันไปทักทายน้องเล็กของบ้านที่กอดตัวเองอยู่ยิ้ม ๆ"โว้... โคตรคูลว่ะ ลุคเด็กล้างรถนี่ฆ่าพี่ไม่ตายจริง ๆ" นิคเอ่ยแซวขำ ๆ กับความขัดกันของรถที่ขับมาราคาหลายล้าน นาฬิกาหลายแสน แว่นเป็นหมื่น กับเสื้อยืดเบอร์ 8 ขยี้ใบกางเกงบอลและรองเท้าแตะสายไขว้ราคาหลักสิบของพี่ชาย ในขณะที่รถเก๋งยุโรปอีกคนวิ่งเข้ามาจอดต่อท้ายรถของมาร์คฝุ่นตลบ"ไอ้มาร์ค ไหนมึงบอกจะมาพร้อมกูไง" เนสเดินเข้ามาในร้านโวยพี่ชายทันทีที่เจอหน้า"แม่..." เรียกพลางเดินเข้าไปกอดหอมแก้มแบบที่เขาเคยทำกับย่ามาตั้งแต่เด็กแล้วหันมามองหน้าพี่ชายต่
สัปดาห์สุดท้ายก่อนเดินทางมาร์คพาเนสไปสมัครงานที่ร้านพี่ชายของโรมตามที่พูด ซึ่งเนสก็ดีใจมากที่จะได้มีรายได้เพิ่มอีกทาง เขาแอบหวังเอาไว้ว่าถ้ามีเงินเก็บมากขึ้นเขาจะขอผ่อนบ้านต่อจากมาร์คเพื่อเป็นสมบัติชิ้นแรกจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง และคิดว่าถ้ามาร์คทำงานร้านนี้เก็บเงินผ่อนบ้านได้เขาก็จะต้องทำได้เหมือนกัน"ไอ้มาร์ค คืนนี้คนเยอะมากเลยว่ะ" เนสว่าอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นโต๊ะคืนนี้เต็มทั้งโต๊ะนั่งและโต๊ะยืน"นี่ครึ่งเดียวเว้ย พรุ่งนี้อีกรอบ มีสเปเซียลด้วย" โรมว่าพร้อมกับยักคิ้วให้เนสยิ้ม ๆ"พรุ่งนี้กูบอกให้นิคพาน้านารถมา มึงหยุดวันนึงไม่ต้องทำงาน" มาร์คว่ายิ้ม ๆ มองหน้าน้องชาย พรุ่งนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาอยู่ไทยเพราะเที่ยงวันเสาร์เขาต้องเดินทางแล้ว ชายหนุ่มเลยขอให้แม่เลี้ยงและน้องชายมาดูเขาทำงานในวันสุดท้ายด้วย"มึงเป็นนักร้อง?" เนสว่าพลางมองหน้าพี่ชายต่างแม่อึ้ง ๆ"แล้วกูเคยบอกมึงเหรอครับว่ากูเป็นพนักงานเสิร์ฟ" มาร์คตอบน้องชายยิ้ม ๆ พลางยกแก้วน้ำอุ่นผสมมะนาวขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ยืนมองนักเที่ยวแน่นร้านอย่างพอใจก่อนจะตบบ่าเนสเบา ๆ แล้วก้าวขึ้นเวทีทักทายแฟนคลั
เช้าตรู่ที่บ้านของตาน้อยมาร์คกับเทนมาหาเด็กสาวแต่เช้าเพื่อเอาของฝากจากเชียงใหม่ของเทนและขนมที่ได้รับจากแฟนคลับเมื่อคืนมาให้และตั้งใจมากินข้าวกับตาและน้ำหวานแบบที่เคยทำเป็นประจำ"หวาน พี่มีอะไรจะให้" มาร์คว่าเสียงทุ้มพร้อมกับยื่นกระเป๋าสะพายไปตรงหน้า ขณะที่น้ำหวานกำลังนั่งใส่รองเท้าพละบนแคร่หน้าบ้าน เด็กสาวก็รับมาเปิดดูแบบงง ๆ"โห...พี่มาร์ค แพงไป เกิดหวานทำของพี่มาร์คพังไม่มีปัญญาซ่อมคืนหรอกค่ะ" น้ำหวานว่าขึ้นพลางผลักกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊กและไอแพดคืนไปที่หน้าชายหนุ่มทันทีที่เห็นวันนี้มาร์คตั้งใจเอาโน้ตบุ๊กและไอแพดของตัวเองมาให้เด็กสาวไว้ใช้งานและขอตาไปส่งเธอที่โรงเรียนเป็นวันสุดท้ายก่อนจะเดินทางในวันรุ่งขึ้น"เอาไว้ใช้ ขึ้นมัธยมที่ต้องทำรายงานหาข้อมูลแล้วถ้าจะปริ้นก็เอาไปให้ไอ้โรมมันปริ้นให้จะได้ไม่เสียตังค์" มาร์คว่าพลางมองหน้าเด็กสาวนิ่ง ๆ"แพงไป๊... พี่มาร์คไม่เอาไปใช้ล่ะคะ" เด็กสาวว่าขึ้นพลางมองสบตาคนตัวโตนิ่ง ๆ พอกัน"นี่มันเครื่องเก่าพี่ ไปนู่นเขาก็ซื้อให้ใหม่เอามาให้หวานใช้น่ะถูกแล้ว" ชายหนุ่มหาข้ออ้างแล้วยิ
"หวาน เตรียมตัวนะเดี๋ยวพี่จะให้หน้าม้าชวนไอ้มาร์คหันหน้าไปคุยทางนั้นแล้วพี่จะส่งหวานขึ้นเวทีเอาดอกไม้ไปให้มัน" โรมเตี๊ยมเด็กสาวอยู่ที่มุมข้างเวทีและตอนนี้ในมือของน้ำหวานมีกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่สั่งจัดมาอย่างสวยงามอุ้มอยู่ด้วย"หวานตื่นเต้นจังเลยพี่โรมพี่มาร์คจะไม่โกรธใช่มั้ยคะ" น้ำหวานว่าขึ้นอย่างไม่มั่นใจพร้อมก้มมองช่อกุหลาบอ้อมแขนตัวเอง"ไม่โกรธ เชื่อพี่ มั่นใจหน่อยสิอิหนู เตรียมตัวท่อนสุดท้ายแล้ว" เทนว่าพลางรั้งแขนน้องเล็กให้ลุกขึ้นแล้วจัดผมและเสื้อผ้าให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะพาเดินไปที่บันไดข้างเวทีแล้วส่งสัญญาณให้หน้าม้าเรียกมาร์คให้หันไปพูดคุยกับแฟนคลับด้านข้างเวทีอีกฝั่ง"ไป ไอ้ตัวเล็ก ไอ้มาร์คมันกำลังเผลอ"เทนว่ายิ้ม ๆ พลางยกกำปั้นขึ้นชนกับกำปั้นน้อย ๆ ของเด็กสาวซึ่งคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างอย่างน่ารักแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นเวทีไปยืนยิ้มอยู่ด้านข้างของมาร์คพร้อมกับกุหลาบช่อใหญ่ในมือ ในขณะที่โรมขึ้นเวทีแล้วยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเพื่อบอกให้คนด้านล่างเงียบรอลุ้นดูปฏิกิริยาของเพื่อนรักและก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากแฟนค
"คร้าบ... คุณพี่ ผมจะพยายามใจเย็นลงครับ ผมเห็นแล้วว่าการใจเย็นแบบพี่ได้อะไรบ้างอย่างน้อยก็โรเล็กซ์เรือนนี้" นิคขานรับพร้อมกับชูนาฬิกาที่มาร์คได้มาจากแฟนคลับแล้วยกให้ตนยิ้ม ๆ"แล้วคอนโดนี่ยังไงลูกจะให้น้าเข้ามาดูแลให้มั้ยหรือจะปล่อยเช่าจริง ๆ" คุณนงนารถว่าอย่างนึกได้พร้อมทั้งนึกเสียดายถ้าจะปล่อยเช่าเพราะเฟอร์นิเจอร์ในห้องมาร์คมีแต่ของดีมียี่ห้อทั้งนั้น"ไม่ลำบากหรอกครับน้านารถ ผมมีคนดูแลอยู่แล้วไม่ปล่อยเช่าหรอก" มาร์คว่ายิ้ม ๆ"แล้วนี่มาร์คขึ้นเครื่องกี่โมงลูก" คุณนงนารถถามชายหนุ่มที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนแล้วมองนาฬิกาถี่ ๆ"เที่ยงครึ่งครับ" ปากตอบแต่ตามองประตูทางเข้าเหมือนรอใครอย่างใจจดใจจ่อ"รอใครว้า...คอยาวจะจรดหลังคาอยู่แล้ว น้องคนเมื่อคืนหรือเปล่าว้า...." เนสแซวพี่ชายคนโตของบ้านลอย ๆ ขณะที่กำลังพิมพ์ไลน์คุยกับเพื่อน"หุบปากเลยไอ้เนส อย่าก้าวข้ามพื้นที่ของกูก่อนได้รับอนุญาต" มาร์คว่าเสียงดุแล้วต้องยิ้มกว้างที่เห็นเทนเดินเข้าประตูมาเพราะเมื่อคืนเทนไปนอนบ้านตาน้อยและเขาคิดว่าคนตัวเล็กของเขาต้องมาพร้อมกับเทนแน่นอน"เทน!" มาร์คร้อง
3 ทุ่ม SARAN BARโรมเดินเข้ามาในห้องทำงานชั้น 2 ของร้านแต่ต้องขมวดคิ้วแล้วหันไปมองที่โซฟารับแขกในห้อง..."น้านารถ เนส นิค มานานแล้วหรือครับ" โรมเอ่ยถามยิ้ม ๆ แล้วเดินมานั่งที่โซฟาเดี่ยวข้าง ๆ"น้ามารอถามอะไรจากโรมนิดหน่อย" คุณนงนารถมองหน้าชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ"ว่ามาเลยครับ" โรมตอบเสียงเย็นพอกันและพอจะเดาออกว่าคุณนงนารถจะถามเรื่องอะไร"เด็กผู้หญิงที่มาร์คกอดไม่ปล่อยก่อนขึ้นเครื่องคือใคร" คุณนงนารถเอ่ยถามนิ่ง ๆ"ฟังจากน้ำเสียงน้านารถเหมือนไม่ค่อยพอใจเลยนะครับ" โรมพูดขึ้นเสียงเย็นพร้อมกับจ้องหน้าคุณนงนารถกลับ"โรมอย่ามองน้าแบบนั้น น้าแค่สงสัย เด็กนั่นน่าจะยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะแล้วมาร์คกอดหอมขนาดนั้น ถ้าพ่อแม่เขาเอาเรื่องจะทำยังไง โรมก็เห็นว่ามาร์คกำลังจะมีอนาคตที่ดีได้งานที่ดี ได้เรียนที่ดี น้าไม่อยากให้มาร์คเสียอนาคตเพราะเด็กแบบนี้" คุณนงนารถว่าเสียงแข็ง เธอมองว่าเด็กคนนี้อาจทำให้อนาคตของลูกเลี้ยงเธอมัวหมองได้ อายุแค่นี้ยังทำตัวแบบนี้เกิดผู้ใหญ่ทางนั้นเอาเรื่องมาร์คจะหมดอนาคตได้"แบบนั้นแล้วมันแบบไหน
"งั้นโชคดีแล้วล่ะที่หนูไม่อยู่ ไม่งั้นก็คงหูชาเหมือนตานั่นแหละเดี๋ยวตอนเย็นก็โทรมาบ่นอีกรอบเชื่อสิ" เด็กสาวว่าพลางวางกล่องโฟมสีขาวลงบนแคร่ "ป้าจันทร์สั่งเพิ่มอีก 20 นะคะตา บอกว่าจะมาเอาบ่าย 2 แล้วป้าทิพย์บอกว่าถ้าอ้วนมาเอามาลัยแต่ไม่จ่ายตังค์ตาอย่าไปให้อีกนะคะ ป้าทิพย์ให้เงินค่ามาลัยอ้วนมาแล้ว ของเมื่อวานป้าจ่ายมาแล้วนะคะ 600 แล้วก็นี่ (ว่าพลางชูถุงข้าวมันไก่ 2 ห่อในมือแล้วยิ้มตาหยีอย่างน่ารัก) เมื่อเช้าหนูไปช่วยป้านีตั้งร้านมา ป้านีให้พี่โต้งเอาค่าจ้างมาให้" เด็กสาวพูดเจื้อยแจ้วทำเอาคนที่นั่งฟังอยู่ในรถถึงกับหันมองหน้ากัน"พี่เขาบอกให้ไปเก็บของออกจากตู้เย็นที่คอนโดน่ะลูก เหลือไว้แต่น้ำก็พอเผื่อพี่เทนกับพี่โรมเค้าไปนอนจะได้มีกิน" ตาน้อยว่าพลางวางมือจากมาลัยแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปล้างมือที่ข้างบ้าน ส่วนน้ำหวานเดินหายเข้าไปในบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมกับถาดใส่ข้าวมันไก่และน้ำซุปมาวางที่แคร่ แล้วเดินหายเข้าไปอีกครั้ง กลับออกมาพร้อมกับแก้วเล็ก ๆ ใส่ยามาหลายเม็ดและขวดน้ำแก้วน้ำมาวางไว้ข้างตาก่อนจะขึ้นไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยทานข้าวบนแคร่ ทำให้คุณนงนารถถึงกับถอนหายใจ นั่งมอ
"สรุปว่ามึงจะไม่ไป" มาร์คว่าพรางมองหน้าเพื่อน"กูยังเรียนไม่จบ" คำตอบของเพื่อนรักทำเอาผู้ช่วยมากความสามารถอย่างมาร์คถึงกับมองบนทันที"งั้นรอบนี้กูก็ไม่ไป" ว่าจบมาร์คก็ลุกจากโซฟาทันที"ทำไม?" "กูก็ยังเรียนไม่จบ" มาร์คสวนเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้แล้วเตรียมจะเดินหนีออกจากห้อง"มึงจะไปไหนมาร์ค?""กลับห้องกูครับ ว่าที่ท่านประธาน" มาร์คประชดเสียงห้วน"กูหิว..." เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นปลดเนคไทร์ออกหลวม ๆ แล้วแกะกระดุมที่แขนเสื้อออกพับจนถึงครึ่งศอกทั้ง 2 ข้าง"บอกกูเพื่อ? ไปบอกเลขามึงนู่น กูผู้ช่วยไม่ใช่เลขา""ไปกินเหล้ากัน" ว่าพลางเดินออกจากโต๊ะทำงานมากอดคอมาร์คที่ตัวไล่เลี่ยกันเดินไปทางลิฟต์ส่วนตัวทางด้านหลังห้อง"เดี๋ยว...ไอ้ศิ เชี้ย...หิวเหล้าตอนเที่ยงนี่นะ" ชายหนุ่มร้องท้วงเพื่อนทั้งรั้งตัวเองแล้วถอดสูทออกโยนไปพาดที่พนักโซฟาก่อนจะถอดไทร์ออกโยนไปไว้ด้วยกันแล้วแกะกระดุมแขนเสื้อพับขึ้นถึงศอกคล้ายกัน ๆ เดินตามเพื่อนรักเข้าไปในลิฟต์"มึงถอนหายใจ? …ไม่อยากกลับไทย?" ศิลาถามเสียงทุ้มอย่างเป็นห่วง หลา
3 ปีต่อมามหาบัณฑิตสาวสวยเดินหอบดอกไม้ช่อโตยิ้มร่าเข้ามาหาชายสูงวัยวันนี้ลุงปกรณ์มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหญิงสาวเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตคนใหม่และเพื่อนรักอย่างของขวัญ ซึ่งการมาของลุงกรณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่เป็นการมาครอบครัวใหญ่ประกอบไปด้วยครอบครัวของมาร์คที่มากันครบและพาคุณย่าวัย80 กว่ามาด้วยและที่เซอร์ไพรส์คืออามนตรีที่บินตรงจากอเมริกาเช่นกัน และยังมีครอบครัวของศิลาและของขวัญที่มีประมุขของบ้านมาแสดงความยินดีกับหลานสาวทั้ง 2 และที่ขาดไม่ได้คือพี่ชายทั้ง 2 ของ 2 สาวและครอบครัว และเพื่อนรักไข่มุกที่มาพร้อมสามีและลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังพูดคุยที่มาร์คค่อนข้างจะหลงมากตั้งแต่แรกเห็น ทั้งขออุ้มขอหอมดูหวงและโอ๋สุดพลังจนพ่อเด็กกลัวว่าจะไม่ได้ลูกคืนโดยการมาครั้งนี้เป็นการจัดการ2 สามีของ 2 สาวที่เช่าเครื่องบินเหมาลำทั้งมาและกลับไทยเพื่อไปฉลองปริญญาที่บ้านเกิดอีกรอบ"ที่รัก เป็นอะไรครับทำไมหน้าซีด ๆ หนูนอนไม่พอรึป่าว" มาร์คเอ่ยข้างหูภรรยาคนสวยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เครื่องบินกำลังเหินฟ้ามุ่งสู่ประเทศบ้านเกิด"หวานเวียนหัว
"ตายแล้ว นี่อะไรกันเนี่ย" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองแล้วเห็นถุงสินค้าแบรนด์ดังเกือบ 20 ถุงวางอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น หญิงสาวรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบถุงที่เล็กที่สุดมาเปิดแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อตรวจแล้วสินค้าทุกถุงถูกตัดป้ายราคาออกทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องหอบของทุกถุงลงวางกับพื้นแล้วเปิดทีละถุงออกมากดดูราคาสินค้าทางช็อป"แปดแสน!" หญิงสาวอุทานตาโตกับราคากระเป๋าสะพายหนังอะไรซักอย่างสีดำใบกระทัดรัดที่เพียงพอแค่ใส่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นของเธอกับมือถือหน้าจอ 6.7 นิ้ว ได้เท่านั้น"ตาย...ทำไมมันแพงขนาดนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วเปิดกล่องรองเท้าผ้าใบที่คล้ายกันอยู่ 2 คู่เป็นของผู้ชายและของผู้หญิงแล้วเมื่อเช็คราคาและคำนวณเป็นเงินบาทไทยอย่างรวดเร็วก็ถึงกับหน้ามืด "คู่ละ 6 หมื่น! พี่มาร์คเป็นบ้าอะไรทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้เนี่ย" แล้วหยิบกล่องที่บรรจุสูทตัวแพงที่มีรุ่นติดอยู่ที่ฝากล่องออกมาเสิร์ชหาราคาพร้อมกับคำนวณเป็นเงินไทยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดกล่องอย่างเบามือ"ตัวละ สะ สะ สี่แสนเลยเหรอ แล้ว ๆ ๆ มี 3 กล่อง คุณพระ! อิหวานจะเป็นลม ใส่แล้วมั
เคเอส กรุ๊ป สาขาอังกฤษร่างบางเดินหน้างอเข้ามากระแทกก้นสวยลงที่เก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะทำงานในห้องผู้ช่วยท่านประธานสาขา แล้วชำเลืองมองคนที่กำลังทำท่าอ่านเอกสารอย่างขมักขเม้นเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาในห้อง"โปรเฟสเซอร์คะ หวานขอลางานครึ่งวันค่ะ" เสียงหวานว่าขึ้นอย่างแง่งอน"ไม่อนุญาตครับ วันนี้คุณน้ำหวานยังไม่ช่วยผมทำงานซักบรรทัดเลยนะครับ" เจ้าของห้องว่าขึ้นนิ่ง ๆ"งั้นเอางานมาค่ะหวานจะทำ ไม่ใช่ให้มานั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลอยู่แบบนี้""จะทำตอนนี้เลยหรือครับ" ชายหนุ่มหันมามองหน้าสายตากรุ้มกริ่ม แล้วจ้องหน้าอกคู่สวยที่ดันเชิ้ตผ้าลื่นสีหวานอย่างเปิดเผย"หันไปเดี๋ยวนี้โปรเฟสเซอร์ ตามข้อตกลงของเราคือหวานจะลงไปอยู่กับพวกพี่ข้างล่างได้วันที่โปรเฟสเซอร์มีสอนนะคะ" คนสวยออกคำสั่งแล้วพูดถึงข้อตกลงร่วมกันหน้าบึ้ง ๆ"แต่ตามข้อตกลงของเรา คุณผู้ช่วยจะต้องขึ้นมาถ้าผมอยู่ที่ห้องนี่ครับ" ชายหนุ่มหันมาพูดยิ้ม ๆ แล้ววางปากกาในมือก่อนจะหันเก้าอี้ทั้งตัวมามองหน้าหญิงสาว"พี่มาร์ค... หวานอยากฝึกการตลาดน่ะ นะ...นะ นะ..." คนตัวเล็กลุกขึ้
"เอ่อ...อาตรีมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ พี่มีนาไปตามหาที่บ้านแม่นารถหลายรอบเลยค่ะ ไปตามที่ร้านพี่โรมถามหนูตั้งหลายรอบ" หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้และเธอก็เผลอยกมือไหว้อย่างไทยจนแม่บ้านแอบยิ้มกับความน่ารักแรกเห็น"ก็มาตั้งแต่มาร์คให้มานั่นแหละ อามาอยู่ที่นี่ได้ 3 ปีกว่าแล้วล่ะ" อามนตรีตอบหญิงสาวยิ้ม ๆ"พี่มาร์คให้มา?" หญิงสาวทวนคำพลางมองหน้ามาร์คอึ้ง ๆ"เผอิญว่าไร่องุ่นของพ่อเพื่อนพี่ที่นี่ อยากแบ่งขายพี่เลยซื้อให้อาตรีดูแลต่อ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พลางตักอาหารวางใส่จานให้หญิงสาว"ซื้อไร่องุ่นที่นี่หรือคะ""ใช่ลูก มาร์คสร้างชีวิตใหม่ให้อาได้หลุดพ้นจากครอบครัวนั้น ตอนนี้อามีความสุขมากจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ" อามนตรีตอบยิ้ม ๆ "แล้วพี่มีนอาเดือนล่ะคะ" "ก็ช่างเขาสิลูก 2 แม่ลูกนั่นไม่ได้เกี่ยวกับอาหรอก ลูกของอาจริง ๆ เป็นผู้ชายชื่อต้นกับตามเขาเสียตอนอนุบาลทั้งคู่ ส่วนมีนาเป็นลูกที่ติดท้องมาของเดือนแรม อามันก็แค่เด็กในไร่การศึกษาสูงที่สุดในตอนนั้นที่เจ้าของไร่บังคับให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองแล้วสวมหัวโขนให้อาทำงานเป็นลูกเขยทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อามันก็แค่ลูกจ้างนั่
ช่วงบ่ายเกิดความโกลาหลกันขึ้น เพราะ 2 หลานสาวของคุณหญิงหายออกไปจากออฟฟิศ โดยไม่ได้ออกไปทานข้าวพร้อมกับคุณหญิง มาร์คไล่ดูกล้งวงจรปิดที่ออฟฟิศและของอพาร์ตเมนต์อย่างละเอียดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงที่ตนไม่อยู่แล้วสั่งให้เลขาเพื่อนเช็คทะเบียนรถแท็กซี่ที่ 2 สาวขึ้นไปอย่างร้อนรน ช่วงบ่ายหลังจากที่รู้ว่าคนทั้ง 2 เดินทางไปที่ไหน ศิลาได้เรียกพนักงานที่อยู่ไหนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ของขวัญตัดสินใจกลับบ้านขึ้นมาพบทุกคน ชายหนุ่มสั่งให้เอ็ดเวิร์ดจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ตที่ด่วนที่สุด เพราะคนทั้งคู่ไม่ได้นำเอาสิ่งของอะไรติดตัวไปนอกจากกระเป๋าสตางค์และเอกสารการเดินทางทั้งมือถือยังถูกทิ้งไว้ที่โซฟาในห้องของน้ำหวานอย่างไม่ใยดี..........//..........เช้าตรู่ของประเทศสหรัฐอเมริการถลีมูซีนสนามบินวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก2 คนก้าวลงจากรถแล้วเดินอาด ๆ เข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาที่ครัวทำให้น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่เพื่อนอย่างสงสัย"ใครมาแต่เช้าค่ะมี้"
Mark talkเมื่อคืนผมได้คุยกับผู้ร่วมทุนคนใหม่ของโครงการที่ฝรั่งเศสครับ ท่านบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบ เขาต้องการความรัก อันนี้มันเป็นสิ่งเกินคาดหมายของผมมากจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาผมจะคิดว่าการรับผิดชอบเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการเสมอ ตอนที่ผมอยู่เมืองไทยการที่เราจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับผมคือการยื่นเงินเป็นตัวเลขให้แล้วจบกันตรงนั้นผมคิดว่าเป็นแค่การซื้อขายหรือความรับผิดชอบในทางธุรกิจที่จะไม่ผูกมัดหรือผูกพันอะไรกัน แต่เมื่อผมมีอะไรกับน้องในคืนนั้น ผมพยายามจะขอรับผิดชอบโดยอ้างสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ยื่นจำนวนเงินหรือสิ่งที่เป็นตัวเลขให้ แต่ผมกลับนึกคำพูดหรือความหมายพวกนั้นไม่ออก จนได้มาคุยกับผู้ร่วมทุนท่านนี้ ท่านเหมือนเป็นผู้เขี่ยผงเล็ก ๆ ออกจากตาของผมทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ผมจะยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราอยากจะมีเขาอยู่ตลอดชีวิต มันไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่ สิ่งที่ผมควรยื่นให้เธอคือ ความรักแล้วท่านก็ใจดีมากครับที่ยอมให้เครื่องบินส่วนตัวมาส่งพวกผมเมื่อคืน ตลอดทางผมนึกหาคำพูดต่าง ๆ หาเหตุผลประกอบว่าทำไมน้องถึงไม่อยากให้ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ จนผมได้คุยกับไอ้เทน ม
"ไม่เห็นว่าอะไรนี่ ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลยนะ คงเป็นปกติของอเมริกันชนน่ะ เพื่อน ๆ ของน้องขวัญเขาก็มีเซ็กส์กันตั้งแต่ไฮสคูลเยอะแยะไป แต่กับศิลา น้องขวัญก็คงแค่คู่นอนตอนกลางคืนตอนกลางวันเราก็เป็นเจ้านายลูกน้องกันปกติ""จ่ะ เจ้านายลูกน้อง เรียกไปนอนกลางวันซะทุกวันขนาดนั้น แหนะ ๆๆ อย่าบอกนะว่าบอสหิวกลางวันด้วยน่ะ" หญิงสาวชี้หน้าถามเพื่อนอย่างล้อเลียน *พี่มาร์คก็คงคิดกับเราแบบนี้สินะ มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ผัว*"บ้า ~ ช่วงนั้นป่วยจริง นอนกลางวันจริงจ่ะ แต่ต่อไปก็ไม่ได้นอนแล้วไงก็มาฝึกงานกับหวาน เอ้อ... เห็นศิลาพูดว่าคุณปู่สั่งให้หวานขึ้นมาฝึกงานกับพี่มาร์คนี่ พี่มาร์คบอกหรือยัง?" ของขวัญตอบเพื่อนพร้อมกับถามอย่างนึกขึ้นได้"ก็เกริ่นเมื่อคืนนิดนึงนะแต่นิดเดียวจริง ๆ แต่ยังไม่รู้อะไรคงต้องรอผู้ใหญ่สั่งอีกทีล่ะมั้ง แต่หวานอยู่แผนกนี้ก็สนุกนะ พี่ ๆ น่ารักดี" น้ำหวานว่ายิ้ม ๆ *จะให้ไปทำไมวะแค่นี้ก็หายใจไม่ได้แล้วมั้ย*"เมื่อวานพี่โอปอล์กระซิบบอกว่าระวังเอริน่าแผนกต้อนรับ นางปลื้มพี่มาร์คมาก 2 วันนี้พี่มาร์คกับท่านประธานไม่อยู่ ระวังโดนหยุมหัว" ของขวัญยื่นหน้าพูดกับเ
4 ทุ่มของวันเดียวกัน ชายหนุ่ม 2 คนเดินออกจากลิฟต์ของ อพาร์ตเมนต์ ศิลาต้องขมวดคิ้วแล้วดึงแขนเพื่อนอย่างนึกได้"เดี๋ยวมาร์ค มึงบอกว่าวันนี้น้องขวัญกับน้ำหวานจะกลับมานี่" พูดขึ้นพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองห้องตรงข้ามของมาร์ค"เออ~ ว่ะ แล้วจะมาตอนไหนไม่เห็นโทรบอกให้ไปรับวะ กูลืมน้อง ๆ ไปแล้วนะเนี่ย" ว่าจบมาร์คก็ล้วงมือถือมากดโทรหาน้ำหวานทันที ซึ่งเสียงมือถือก็ดังแว่ว ๆ ออกมาจากห้องของหญิงสาว"มาถึงแล้วไง" ศิลาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปแตะคีย์การ์ดห้องตรงข้ามกับห้องของตัวเองเดินตรงเข้าไปในห้องนอนแล้วเดินออกมาที่หน้าห้องของน้ำหวานอีกครั้งก่อนจะแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปอุ้มร่างบางเดินออกมาที่ห้องตัวเองผ่านหน้าเพื่อนชาย ซึ่งมาร์คก็ได้แต่ยืนยิ้มส่ายหน้าขำ ๆ"เฮ้อ...มึงก็มึนเกินศิลา ยังดีที่น้องขวัญไม่โกรธกูนี่สิ ขนาดมายังไม่บอกกูเลยเฮ้อ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วเดินเปิดประตูเข้าไปที่ห้องตัวเองอย่างหงอย ๆ "เอาเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยคุย" .............//..........4 ทุ่มของอีกวันวันนี้ทั้งวันมาร์คต้องออกไปพบลูกค้ากับศิลาที่ต่างเมืองชายหนุ่
ครืด.... ครืด....เสียงมือถือดังขึ้นทำให้คนกำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งหันมาคว้ามือถือกดรับสายทันทีแบบไม่ได้ดูสายเรียกเข้า"สวัสดีค่ะ"(ตัวเล็ก)"คะ"(เป็นอะไรหรือเปล่า)"เปล่าค่ะ"(ศุกร์นี้ไปอเมริกากันนะ) เสียงปลายสายเอ่ยชวนพลางถอนหายใจเบา ๆ"ไปทำไมคะ"(น้องขวัญเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ) คำบอกเล่าทำให้น้ำหวานถึงกับลุกขึ้นนั่งชันเข่าทันที"น้องขวัญเป็นหนักหรือคะ" เสียงเครือปนสะอื้นดังลอดไปตามสาย(พี่ก็ไม่รู้หรอก วันศุกร์เลิกงานเราไปกันนะพี่จองตั๋วไว้แล้ว)"แต่หวาน..."(ไปเถอะพี่จองตั๋วไปแล้ว) มาร์คเอ่ยสวนขึ้นทันที"ค่ะ"(กินข้าวรึยัง ออกไปกินข้าวกับพี่มั้ย) ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องชวนคุย"เรียบร้อยแล้วค่ะ หวานจะนอนแล้ว แค่นี้นะคะ" ตื๊ด! ....mark talkตั้งแต่วันนั้นน้องก็พยายามหลบหน้าผมตลอดเลย คงงอนไปแล้วล่ะ ช่วงนี้ผมก็งานยุ่ง แต่จะว่ายุ่งแค่ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ครับ เพราะงานผมก็แบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้ศิลามันไม่อยู่น้องขวัญที่กลับบ้า