แชร์

My engineer เกียร์ล็อคกาวน์
My engineer เกียร์ล็อคกาวน์
ผู้แต่ง: มนต์สิงหา

มือใหม่

ผู้เขียน: มนต์สิงหา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-25 18:39:20

{Unna part}

ปัง!...ปัง!..ปัง!

“ อันนา!..อันนาตื่นสิวะ ” 

เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นติดๆ กันหลายครั้ง อีกทั้งยังมีเสียงตะโกนเรียกชื่อฉันถี่ๆ ดังตามมาอีกรัวๆ นั่นบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยห่ามๆ ของเจ้าตัวเขาได้ และมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจากพี่ชายตัวดีของฉัน...ที่มีชื่อว่า อุลตร้า

“ อันนา!..”

“ มีอะไรกับฉันเหรอพี่อุล ” ฉันถามพี่ชายกลับไปด้วยน้ำเสียงติดจะงัวเงีย

เพราะรู้สึกเสียอารมณ์ผสมกับความหงุดหงิด ฉันจึงขยุ้มผ้าห่มขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้าง อย่างที่ไม่ต้องการจะรับรู้อะไรทั้งนั้น

จะไม่ให้หงุดหงิดได้อย่างไรกัน ในเมื่อฉันเพิ่งจะล้มตัวลงนอน ไปได้แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แล้วยังกล้ามาทุบประตูห้องของฉันจนแทบพัง

“ แกไม่ได้ฟังรายงานวิทยุจากศูนย์หรือไงฮะ ว่าตรงสี่แยกไฟแดงถนนราชภัฐเกิดอุบัติเหตุน่ะ ศูนย์ได้รายงานเข้ามาว่ามีรถเก๋งชนกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทาง  และตอนนี้เขากำลังต้องการเครื่องตัดถ่าง เพราะมีคนติดอยู่ภายในแล้วออกมาไม่ได้ แกรีบตื่นขึ้นมาช่วยพี่ยกมันใส่รถของเราทีเถอะ”

เมื่อได้ฟังดังนั้น ฉันจึงรีบพาตัวเองลงมาจากที่นอน ก่อนจะคว้าชุดหมีกู้ภัยมาสวมใส่ทับเสื้อตัวใน ขณะตะโกนบอกพี่ชายเสียงดังพอกันกลับไปว่า

“ ฉันตื่นแล้ว แต่พี่รอฉันเดี๋ยวนะ ”

ฉันเหลือบตามองนาฬิกาที่ข้างหัวนอน ซึ่งมันได้บ่งบอกเอาไว้ว่าตอนนี้คือเวลาตีสองกว่าๆ และฉันก็เพิ่งจะกลับมาจากงานเลี้ยงฉลอง รับน้องปีหนึ่งของคณะแพทย์ ที่ตัวเองพึ่งจะสอบเข้ามาได้ไม่นานเท่าไหร่ ถึงนอนหลับลึกจนไม่รู้สึกตัวได้ขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่ได้ยินเสียงรายงาน ที่ดังมาจากวิทยุสื่อสาร จากทางศูนย์ของมูลนิธิ ที่ฉัน พ่อ และพี่ชายได้สังกัดอยู่

ครอบครัวของเราชอบช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยการเป็นจิตอาสากู้ภัย อยู่ในสังกัดมูลนิธิ เพชรมรกต

ฉันยังอยู่ในช่วงฝึกงาน จึงมีรหัสขึ้นวิทยุประจำตัวว่า มรกต 013 ส่วนคนเป็นพี่ชายมีรหัสเรียกขานว่ามรกต 316

ฉันเป็นอาสาฝึกหัดที่ยังไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นรหัสของฉันจึงมีศูนย์นำหน้า

ด้วยความที่ไฝ่ฝันเอาไว้ว่าฉันอยากจะเป็นหมอ ฉันจึงขอพ่อและแม่เข้ามาฝึกใจ กับการที่จะได้เห็นคนเจ็บและคนตายในหลายๆ รูปแบบ

เครื่องตัดถ่างคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดถ่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ยังติดอยู่ภายใน และไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยต้วเอง ประโยชน์ที่ใช้งานของมัน ก็คือชื่อที่มีความหมายตรงตัวเลยนั่นแหละ

“ อันนา แกช่วยพี่ออกแรงยกให้มันมากกว่านี้หน่อยสิวะ ”

“ ฉันเป็นผู้หญิงนะพี่  แล้วทีลูกข่ายคนอื่นๆ ทำไมถึงไม่มาช่วยกันบ้าง หายหัวกันไปไหนหมด”

ฉันอดเถียงพี่ชายกลับไปไม่ได้ เพราะเครื่องตัดถ่างมันมีขนาดใหญ่และค่อนข้างหนักมาก ฉันเองก็อยากช่วยคนเหมือนกันนั่นแหละ แต่แรงของฉันมันก็มีอยู่แค่นี้ ไม่ได้ออมแรงเหมือนกับที่กำลัง ถูกเขากล่าวหาออกมานั่นเลยสักหน่อย

“เออๆ ถ้าแกรู้ว่าแรงน้อย ก็ไม่ต้องพูดมากได้มั้ยวะ? เขาไปงานเปิดมูลนิธิเพชรน้ำหนึ่งกันนะสิ..เราอยู่ เราก็ทำเท่าที่เราทำได้ อย่ามัวแต่บ่นเป็นยายแก่ได้มั้ยวะ เสียเวลาว่ะ”

พี่อุลต้าว่าฉันบ่นแต่ตัวเองก็ไม่เบาเท่าไหร่ ซึ่งความจริงมันก็น่าจะแบ่งกันไปงาน เพราะเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทีไร คนก็มักจะมีไม่พอที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังดึงเวลาให้ช้าเข้าไปอีก

เมื่อช่วยกันยกเครื่องตัดถ่างขึ้นมาได้ พี่ชายของฉันมันก็เหยียบรถจนแทบจะหมดไมล์

“ จะรีบไปตายหรือไงฮะ? พี่จะต้องให้ฉันคอยบอก จนปากฉีกไปเลยใช่มั้ย? ”

ฉันว่าพร้อมกับเหล่ตามองเลขไมล์ที่ขึ้นไปถึงร้อยยี่สิบ และมันยังคงกระดิกต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสุดความเร็วของรถที่มี

“ แกเป็นแม่ฉันหรือไงฮะ? ฉันก็จะรีบไปช่วยคนเจ็บน่ะสิ ” ปากพูด ตาค้อน แต่เท้าไม่ได้เบาคันเร่งลงเลยสักนิด

“ คิดบ้างสิพี่อุล ว่าตัวเราก็ต้องปลอดภัยเอาไว้ก่อน ประเมินความเสี่ยงน่ะเป็นไหม ขับรถเร็วขนาดนี้ถ้าเกิดอุบัติเหตุเอง อาจจะมีคนสมน้ำหน้าเอาได้ โดยเฉพาะคนที่พี่ไม่ชอบขี้หน้าเขาไง เอาความเร็วที่เราสามารถบังคับรถได้ ก็น่าจะพอแล้วนะพี่ อุจจาระ

ที่ฉันจงใจเน้นชื่อของพี่ชายในตอนท้าย...เพราะอะไรนะเหรอ?...

เพราะความจริงชื่อของพี่ชาย ที่พ่อกับแม่อุตส่าห์ตั้งให้มีชื่อว่า อุลตร้า แต่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของพี่ชาย ต่างก็พร้อมใจกันเรียกว่า ไอ้ อุนจิ ซึ่งมันแปลว่าขี้ญี่ปุ่น ที่มีความหมายตรงตัวเลยนั่นแหละ   

“ อันนา!ถ้าแกไม่ใช่น้องฉันนะ..ฮื่มมม ”

พี่อุลตร้าว่าฉัน ก่อนจะเบาคันเร่งลงมาอยู่ในระดับปกติ จากนั้นจึงหันมาถลึงตาใส่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรฉันได้             

“ฉันเตือนพี่เพราะความหวังดีหรอกน่า...ไม่อยากให้ใครมาหัวเราะเยาะเราทีหลัง แม้เขาจะถึงก่อน แต่ยังไงก็ต้องรอเราอยู่ดี เพราะเครื่องตัดถ่างมันอยู่ที่เรานี่ ”

เครื่องตัดถ่างของจุด อยู่ที่บ้านของฉันเอง เพราะสะดวกในการดูแลรักษา และง่ายต่อการเอาออกเหตุในแต่ละครั้ง

หวอ!ๆ

ต๊อด!ๆ 

เสียงเปิดไฟไซเรนขอทาง จากรถกู้ภัยคันหนึ่งลากยาวมาแต่ไกล    พร้อมกับเสียงบีบแตรไล่เชิงส่งสัญญาณขอทาง ให้รถของพี่ชายของฉันหลบเขา

ฟิ้ววววว!....

และรถคันดังกล่าวที่วิ่งผ่านไป ด้วยความไวปานแสงนั่น มันก็คือรถกู้ภัยของนาย ตองเก้า

"ขับรถไวยังกับจะรีบไปตายที่ไหน! แต่ฉันว่าไอ้คนแบบนี้ มันท่าจะตายยากเนอะพี่..ว่ามั้ย?"

ฉันกร่นด่าก่อนเลื่อนสายตามองเลขไมล์ ที่มันกำลังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ของพี่ชายตัวดี 

“ พี่อุล!...หยุดเร่งความเร็วเดี๋ยวนี้นะ! ”

ฉันตวาดใส่ พลางจับมือพี่ชายที่กุมพวงมาลัยรถนั่นยึดไว้ แล้วถลึงตาใส่เชิงเตือนพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง ทั้งอย่างนั้นพี่อุลต้ราก็ยังเถียงฉันกลับมา อย่างไม่คิดจะยอมกัน

“ แกไม่เห็นหรือไงว่าไอ้เก้า มันกำลังบีบแตรเย้ยหยันเรา ป่านนี้ไอ้ฝรั่งขี้นกนั่นมันคงกำลังคิดว่าเราช้าเหมือนเต่าอยู่แน่ๆ ”

“ แต่เราอย่าไปใส่ใจ แล้วเอาเรื่องช่วยคนเจ็บหรือคนตายมาต่อรอง และเอามาปนกับเรื่องส่วนตัวของเราสิ ในเมื่อเราต้องการช่วยเหลือคนไม่ใช่หรือไง? ”

ฉันให้เหตุผลซึ่งทำให้พี่อุลตร้าพยักหน้ารับอย่างจำใจ และได้ลดระดับความเร็ว ให้กลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้ง นั่นก็รวมไปถึงอารมณ์ของเจ้าตัวเขาด้วยนั่นแหละ

ตองเก้า เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว เขาถึงได้เอาแต่ใจตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

ที่พี่อุลตร้าเรียกเขาว่าฝรั่งขี้นก เพราะว่าพ่อของตองเก้าเป็นลูกครึ่ง ซึ่งเรื่องนี้คนเป็นพี่ชาย ได้เล่าให้ฉันฟังแค่เพียงคร่าวๆ

ดังนั้นตองเก้าจึงมีหน้าตา กระเดียดไปทางลูกครึ่งลูกเสี้ยวทั่วไป ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแต่ทว่าร้ายกาจ แบบที่ไม่ขาดอะไรเลยสักอย่าง กระทั่งรูปร่างของเขาก็ยังสูงโปร่งและผิวขาว เพราะอย่างนี้นี่เล่าพี่ชายของฉัน ถึงได้ไม่ชอบขี้หน้า หรือว่าอาจอิจฉานายนั่น อันนี้ฉันก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน

{End part Unna}

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   จะเอาคืน

    ลูกข่ายบางคนที่มาถึงก่อนหน้านั้น ต่างก็ช่วยกันยกเครื่องตัดถ่าง ลงมาตั้งไว้พร้อมกับประกอบให้เสร็จสรรพตามที่ได้รับอบรมกันมา ส่วนฉันก็คว้าหมวกแก๊ปมาสวมทับผม ที่ขมวดเป็นปมเอาไว้บนหัวของตัวเอง เพื่อกันไม่ให้มันตกลงมาเกะกะ ขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่นั่นแหละและสิ่งที่ขาดไม่ได้ตอนออกเหตุ ในเวลากลางคืนนั่นก็คือ ไฟฉายที่ใช้สำหรับส่องสว่าง เพื่อเอาไว้ส่งสัญญาณ เชิงบอกสัญลักษณ์ให้รถทุกคันได้รู้ว่า ทางข้างหน้ากำลังมีอุบัติเหตุ และสามารถสังเกตได้จากแสงไฟส่วนชุดที่ใส่ของแต่ละคนควรจะมีแถบสีสะท้อนแสง ให้เห็นเด่นชัดได้ในเวลากลางคืน เพราะทำให้รถคันอื่นมองเห็น ว่าเรากำลังยืนอยู่ตรงไหนฉันเดินไปดูตรงจุดเกิดเหตุ พร้อมกับสังเกตุสภาพของรถยนต์ คันที่ชนเข้ากับเสาไฟฟ้า แล้วก็ได้เห็นว่าด้านหน้าของรถดังกล่าว ยุบเข้าไปจนถึงที่นั่งของคนขับ เขาได้รับบาดเจ็บเพราะถูกหนีบเข้ามาจากคอนโซลด้านหน้าของรถ เลือดสีแดงสดจากหน้าผาก ได้ไหลหยดลงมาใส่เสื้อสีขาว จนแทบไม่เหลือพื้นที่ของสีเดิม เจ้าของรถร้องโอดโอยอย่างน่าสงสาร เพราะเขากำลังทรมานจากอาการที่กำลังเป็นอยู่ จากที่ฉันดูเขาด้วยสายตา อาจประเมินได้ว่า ส่วนขาบริเวณหน้าแข้งของเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   จูปแรก Frist kiss

    {Unna part}พรุ่งนี้เป็นวันหยุดช่วงสุดสัปดาห์ ฉันจึงขอพ่อกับแม่ไปเที่ยวผับกับพี่อุลตร้า ซึ่งเจ้าของที่นั่นเขาชื่อว่าพี่โจอี้ และมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าจุดของพวกเรา...ถึงแม้พี่โจอี้จะเปิดร้านเหล้าแต่เขาก็เป็นคนดี และมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับคนที่แย่กว่าเสมอพี่โจอี้มักจะนัดหมายลูกข่ายทุกคนที่อยู่ในทีม ให้มารวมตัวกันที่นี่เป็นประจำ เจ้าของผับจัดทำห้องพิเศษเอาไว้สำหรับใช้ประชุมเรื่องงาน เกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงทั้งหลาย ในการออกเหตุของจิตอาสากู้ภัยในแต่ละครั้ง อีกทั้งยังต้องการให้ทุกคนหลีกเลี่ยงอันตราย ในขณะที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นหลังจบการประชุม ทุกคนต่างพากันแยกย้าย ส่วนฉันกับพี่ชายได้ชวนกันมานั่งฟังเพลงสบายๆ อยู่มุมหนึ่งของร้าน และหลังจากนั้นไม่นาน สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีใบหน้าสะสวย แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ค่อนข้างจะเซ็กซี่ แถมยังหุ่นดีอีกต่างหาก และที่สำคัญมากไปกว่านั้น นางได้โบกมือเชิญชวนมาให้พี่ชายของฉัน...และมันก็ได้ผลดี... “ เดี๋ยวพี่มานะ แกนั่งรอพี่ตรงนี้อย่าไปไหน..หรือจะให้พี่ไปส่งแกที่บ้านก่อนดีมั้ย? ”“ พี่จะไปไหนก็ไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ต่อรอง

    {Tongkao part}ผมอุ้มอันนาลงมาจากรถ แล้วค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก ตอนแรกกะว่าจะพาเธอไปที่ซุ้มของผมนั่นแหละ แต่เพราะที่นั่นมันมีลูกน้องของผมอยู่กันมาก หากต้องการจะทำอะไร มันคงไม่สะดวกนักที่นั่นเป็นซุ้มรวมพลของคนรักการสื่อสาร ทุกอย่างที่อยู่ในนั้นส่วนใหญ่ จะเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับอุปกรณ์กู้ภัย อาทิเช่น ไฟไซเรน กล่องเสียงเพื่อส่งสัญญาณ อีกทั้งวิทยุสื่อสารมากมายหลายชนิด รวมไปถึงอุปกรณ์ที่สามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้ กระทั่งไม้ที่มีเอาไว้สำหรับใช้จับงู ที่เลื้อยเข้ามาเพ่นพ่านในบ้านคน นั่นก็ยังไม่พ้นกู้ภัยอย่างเราผมชื่อตองเก้า กำลังเรียนมหาลัยอยู่ชั้นปีที่สาม ในคณะวิศกรรมไฟฟ้า ปีเดียวกับอุลตร้าที่เป็นพี่ชายของอันนานั่นแหละ เพียงแต่อยู่คนละมหาลัย ส่วนเธอผมสืบจนรู้ได้ว่า เธอเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันกับผม เพียงแต่อยู่กันคนละคณะเท่านั้น อันนาเพิ่งจะเข้ามาเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาลัยที่นี่เป็นปีแรก และมันคงไม่แปลกนักหากว่าผมจะสนใจเธอยังไงนะเหรอ?เพราะเธอเป็นน้องสาวของไอ้อุลไง...ผมต้องการพาเธอไปทำมิดีมิร้าย อย่างที่เธอคิดเอาไว้ แต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะผมดันคิดแผนการ ที่แยบยลก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   บังคับเป็นแฟน

    ผมรวบเอวบางเข้ามาใกล้ในระยะประชิด โดยที่อีกฝ่ายก็ไม่คิดจะขัดขืนทั้งที่ถูกฝืนใจ แต่มันช่วยไม่ได้ ในเมื่อผมไม่เหลือทางเลือกอะไรให้เธออีกแล้ว“เงยหน้าขึ้นมาสิ ก้มแบบนี้ ฉันจะจูบเธอได้ยังไง?” อันนาพรูลมหายใจก่อนช้อนใบหน้าขึ้นมาสบตากับผม นัยน์ตากลมโตเป็นประกาย ทำเอาผมถึงกับสะดุดลมหายใจ ก่อนจะจูบลงไปบนหน้าผากมน จนถึงเปลือกตาที่ปิดสนิททั้งสองข้าง แล้วเลื่อนลงไปยังริมฝีปากบาง อย่างรู้สึกตื่นเต้น...เชี่ย!คนตื่นเต้น มันจะต้องเป็นเธอสิวะ! ไหงกลายเป็นผมไปเสียได้...ปลายจมูกของเราทั้งคู่เกยซ้อนกัน จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ตอนนี้รู้สึกว่าจังหวะการเต้นหัวใจตัวเองกำลังสั่นไหว ผิดเพี้ยนไปแทบจะทันที และที่สำคัญอันนาน่าจะรับรู้ได้หมดทุกอย่าง เพราะฝ่ามือเรียวบางของเจ้าตัว วางไว้ตรงหัวใจของผมพอดีผมสอดฝ่ามือใหญ่เข้าไปรั้งท้ายทอยของเธอล็อคไว้ แล้วกดจูบลงไปบนริมฝีปากบางอย่างรู้จังหวะ ก่อนจะผละออกมาบอกกับเธอว่า“ ซ่อนรูปก็ไม่บอกกันบ้างเลยนะ...”เพราะผมเผลอ เลยเอามือไปกอบกุมสองเต้าของเธอเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ถึงแม้อันนาจะไม่ขัดขืนอะไรเลยสักอย่าง แต่ผมสัมผัสได้ ว่าเธอกำลังนั่งตัวแข็งเกร็ง“นายบอกฉันเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   กวนใจไม่เลิกลา

    ก่อนที่อันนาจะลงจากรถ ผมได้จับมือของเธอให้หงายขึ้น แล้ววางวิทยุสื่อสารลงไปบนมือเรียวบางของเธอวิทยุสื่อสารที่ใช้งานด้วยการใช้ความถี่ ที่ผมเป็นคนคิดฟังชั่น และดัดแปลงมันขึ้นมา เพื่อให้เธอเอาไว้ใช้ติดต่อกับผมได้ แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น“เอาวิทยุสื่อสารนี่ไว้ใช้งาน สำหรับติดต่อกันระหว่างฉันกับเธอ”ผมบอกพร้อมกับดึงโทรศัพท์ จากมืออีกข้างของอันนามาเมมเบอร์ของผมไว้ แล้วกดโทรเข้าไปในเครื่องของผม เพื่อเมมเบอร์ของเธอเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้นผมจึงอธิบายวิธีการใช้งาน ของวิทยุสื่อสารเครื่องนี้ให้เธอฟัง“วิทยุเครื่องนี้ฉันเป็นคนบิวท์มันขึ้นมาเอง และล๊อคช่องเอาไว้ใช้แค่เพียงช่องเดียว ไม่มีใครสามารถจูนคลื่นความถี่มาตรงกับช่องนี้ได้ ”อันนาเหลือบตามองวิทยุสื่อสารด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ก็ยอมรับสิ่งนั้นไว้ ก่อนจะรีบเปิดประตูลงไป ด้วยกลัวว่าอาจมีใครมาเห็นเข้า แต่ผมก็ยังรั้งเธอเอาไว้“ เดี๋ยวสิ...อันนา”ผมรวบตัวเธอเข้ามาแนบชิดอีกครั้ง เพื่อจูบริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ ที่เผยอขึ้นรับกับริมฝีปากของผม อย่างไม่ยอมให้เธอได้พักหายใจและสิ่งที่เธอทำได้นั่นก็คือ กำมือขึ้นมาทุบหน้าอกของผมหนักๆ เมื่อผมไม่ยอมปล่อยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   สอยเดือนวิศวะ

    เมื่อวานพี่อุลตร้ามาเคาะประตูห้อง คงต้องการจะขอโทษฉันนั่นแหละ แต่ฉันยังโกรธเขาอยู่ จึงไม่ยอมเปิดประตูเพื่อรับฟัง คำแก้ตัวอะไรจากเขาทั้งนั้นจนกระทั่งวันนี้...ฉันนั่งรถเมล์มาเรียนมหาลัย โดยที่ไม่ยอมให้คนเป็นพี่ชาย ขับรถมาส่งเหมือนเช่นทุกครั้ง เพราะยังโกรธเขาไม่หาย และรีบเดินเข้ามหาลัยไปอย่างเร่งด่วน เพราะจวนใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนกันแล้วนั่นแหละRrr! Rrr! Rrr!แต่โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย ที่ฉันได้เปิดระบบสั่นเอาไว้ ทำให้ฉันสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังโทรเข้ามาที่แรกก็คิดว่าจะปล่อยให้มันสั่น จนกว่ามันจะเงียบหายไปเอง แต่ด้วยเกรงว่าคนที่บ้าน อาจจะโทรเข้ามา เพราะมีธุระสำคัญแต่มันกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดคิด และโคตรจะเซ็งกับชีวิต เมื่อมองเห็นชื่อของตองเก้า ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ“ โทรมาทำไม! หมาออกลูกเป็นควายหรือยังไงฮะ!....ฉันกำลังจะเข้าเรียนแล้ว ”ฉันกดรับ พลางตวาดเข้าไปในโทรศัพท์อย่างลืมกลัว เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกอีกฝ่าย ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวมากเกินไปเพราะฉันคิดว่าตัวเอง สามารถเบ่งใส่เขาได้ ในเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน หากฉันอยู่ต่อหน้าของตองเก้า ฉันก็ต้องทำเป็นกลัวเขาไว้ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   เด็ก Gen

    ( เธออยู่กับใคร? ทำไมถึงได้กล้าเสียงดังใส่ฉันฮะ) ตองเก้าตะโกนถามฉันเข้ามาเสียงตึง ฉันจึงลดระดับอารมณ์ของตัวเองลงมา ก่อนจะตอบเขากลับไปว่า“ อยู่กับเพื่อน... ”(ผู้หญิง...ใช่มั้ย?)“ผู้ชาย...แถมยังหล่อกว่านายหลายเท่า”( ถ้าไม่อยากเน่าตาย บอกมันให้อยู่ห่างๆ จากเธอเอาไว้ )ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่อยากจะพูดกับผู้ชายคนนี้ ฉันจึงได้คิดหาวิธีที่จะทำให้อีกฝ่าย กดวางสายของเขาไปเอง“ แบ๊ตวิทยุของนายจะหมดแล้วนะ มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเร็วๆ เข้า ”( อย่ามาหลอกฉันซะให้ยาก แบตวิทยุนั่น เปิดทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืนยังไงก็ไม่หมด ไม่มีทางที่เธอจะมาหลอกคนอย่างฉันได้ ) ฉันอยากจะลมใส่ ที่หลอกคนอย่างเขาไม่ได้สักที...เฮ้อ!“ แล้วจะเรียกฉันหาพระแสงอะไรยะ!! ”( ไหน...ว.3 อีกครั้งสิ ) ว.3 หมายความว่า ตองเก้าต้องการให้ฉัน ทบทวนข้อความกับเขาใหม่“ ก็..เรียกฉันทำไมบ่อยๆ...ละคะ ”( ฟังแล้วค่อยลื่นหูหน่อย...ฉันต้องการจะย้ำเธอถึงเรื่องของเราในค่ำคืนนี้ )“ ฉันรู้แล้ว! ”(จะให้ฉันไปรับเธอได้ที่ไหน?)“ ที่บ้านของหลินซีเพื่อนซี้ของฉันเอง...เดี๋ยวฉันปักหมุด แล้วจะส่งโลเคชั่นไปให้นาย...แค่นี้นะฉันจะได้ไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ต่อปากต่อคำ

    และไม่ใช่ใครที่ไหน...นอกซะจากนายตองเก้า เจ้าของฉายามารบรรพกาลที่ฉันเป็นคนตั้งให้ร่างสูงโปร่งยืนพิงข้างประตูรถเก๋งคันหรูของตัวเอง...รถเก๋งที่ราคาของมันสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน ไม่สามารถจับต้องมันได้นัยน์ตาเจ้าของร่างใหญ่ ที่กำลังมองตรงมาที่ฉันนั้นฉายแววประหลาด มันคล้ายกับปีศาจร้าย ที่ดูน่าเกรงขามในยามราตรี ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้า และแสดงอาการไม่พอใจออกมา โดยไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ในจังหวะเดียวกันกับที่ฉัน ได้หันไปบอกกับหลินซีว่า“ฉันไปก่อนนะ แล้วจะรีบกลับ ”“เออ...ไปเถอะโชคดีว่ะเพื่อน ”หลินซีตบไหล่ พร้อมกับพยักหน้าให้เชิงเป็นกำลังใจ เมื่อได้เห็นสีหน้ากับท่าทางเซ็งๆ ของฉัน ที่แสดงออกมาโดยไม่คิดจะปิดบังอาการฉันหันมองทางด้านข้างของรถผ่านกระจกบานใส เพราะคนที่นั่งอยู่ข้างกันด้านใน ได้เงียบเสียงของตัวเองลงไป ตั้งแต่ตอนที่เราได้ออกมาจากบ้านของหลินซี ถึงแม้ตองเก้าจะหน้าตาดีมากแค่ไหน ก็ไม่ทำให้ฉัน อยากจะหันไปมองหน้าเขาสักเท่าไหร่ เราปล่อยให้ระยะเวลาผ่านไป แต่แค่เพียงไม่กี่นาที ตองเก้าก็ได้ทำลายความเงียบนี้ลง“ยัยบื้อ! นี่เธอเห็นข้างทาง น่ามองกว่าหน้าของฉันอย่างงั้นเหรอ? ”‘เออดิ’...ฉัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-27

บทล่าสุด

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 2 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    [ตองเก้า...จากต้นไทรวอสองเปลี่ยน]ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังมาแต่ไกล แต่เป็นความรู้สึกที่คลับคล้ายกับกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น...แล้วผมก็พยายามฝืนที่จะลืมตา[ไอ้เก้า!...มึงมัวทำห่าอะไรอยู่วะ...ทำไมมึงถึงไม่พาน้องมันมาสักที..กูกับหลินนั่งรอพวกมึงมาชั่วโมงกว่าๆ อีกสิบห้านาทีถ้ามึงยังไม่มา หลินบอกว่าจะไปหาอันนาที่เต๊นแล้วนะเว้ย]เสียงของไอ้ต้น! ที่เป็นคนเรียกชื่อผมดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร นั่นจึงทำให้ผมรีบหันไปคว้ามันมากดคีย์รับ"เออโทษทีว่ะ...อากาศกำลังดีมันเลยทำให้กูเผลอหลับไปพร้อมกับอันนา"[ มึงคิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ...ไอ้สันดาน ]"เออตามนั้น...ในเมื่อมึงรู้แล้วจะถามกูทำไม...บอกหลินด้วยว่าไม่ต้องมาเพราะกูกับอันนากำลังจะไป"ผมรีบตัดบทสนทนา ก่อนหันมองอันนาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี"ไอ้ต้นมันเรียกวิทยุตามเราสองคนน่ะ" ผมบอกเจ้าของใบหน้าน่ารัก ก่อนก้มลงไปจุ๊บริมฝีปากของเธอทีหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่น่าจะพอเพราะเมื่อผมผละออกมา อันนาก็รั้งต้นคอของผมให้ลงไปจูบกับเธออีกครั้งก่อนจะผละออก"ต่อกันไหม?...ฉันจะได้วิทยุบอกไอ้ต้นมันว่า ให้พาหลินไปเดินเที่ยวที่งานดนตรีกันก่อนไม่ต้องรอ""ขืนต่ออีกที ฉันคงได

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 1 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    วันสิ้นปี ณ.ที่เขาใหญ่{Unna part}เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราสองคนมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้การจัดกิจกรรม ของชมรมวิศวะไฟฟ้าคราวนั้นต้องถูกยกเลิกกลางคัน และหลังจากที่ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ ตองเก้าจึงจัดทริปเค้าดาวน์ที่เขาใหญ่เพราะเจ้าตัวเขาต้องการเอาใจฉันนั่นเองอยากรู้ใช่ไหมละ ว่าทำไมฉันถึงเลือกเค้าท์ดาวน์ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่แห่งนี้..นั่นเป็นเพราะที่นี่มีงานลานดนตรีที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักครั้งซึ่งในบริเวณงานดังกล่าว จะมีพื้นที่ประมาณราวหนึ่งตารางกิโลเมตรเห็นจะได้ บริเวณด้านในจะประกอบไปด้วยเวทีต่าง ๆ ที่เอาไว้สำหรับให้นักร้องทั้งหลายขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนที่ตั้งใจมาในงานนี้ได้ฟัง ซึ่งแต่ละเวทีก็ยังแยกประเภทของดนตรีแต่ละแนวอย่างเช่น Jazz Pop Rock หรือลูกทุ่ง กระทั่งรำวงย้อนยุค รวมไปถึงการระเล่นต่างๆ อย่างมากมายที่นี่จึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้มารวมตัวกัน เพราะมีเหล่าบรรดาศิลปินในดวงใจหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นพวกเขามารวมตัวกันที่นี่นั่นเองและจุดที่เราเข้าพักก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จัดงานลานดนตรี ซึ่งฉ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ตีตราจอง (จบ)

    "ไม่ให้กลับ!...โอ๊ย!"ตองเก้าร้องเสียงดัง พลางทำหน้าแหยเพราะคงเจ็บแผลจากการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กำลังแขนของตัวเองมากเกินไป"ฉันบอกนายแล้วเห็นมั้ยว่าอย่าขยับ!..." ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ประคองร่างใหญ่ให้นอนลงไปที่เดิม"ฉันไม่กลับแล้วก็ได้... ฉันขอโทษความจริงฉันไม่น่ายั่วให้นายโกรธเลย...เจ็บมากมั้ย?""เจ็บมาก..." เจ้าตัวพูดว่าเจ็บแถมยังเบะปาก จนฉันอยากจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นหน้าตาของเขา"สามวันที่เราไม่ได้เห็นหน้ากัน ทำฉันคิดถึงเธอมาก...จูบหน้าผากฉันหน่อยได้ไหม?"ตองเก้ากำลังอ้อนฉันด้วยการใช้คำพูดหวานๆ และมันก็ทำให้ฉันใจอ่อนกับเขาอีกตามเคย"แค่หน้าผากเองเหรอ?" ฉันถามขณะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากตามที่เขาร้องขอ จากนั้นจึงถามเขาต่อว่า"พอไหม?" แต่ฉันไม่ได้รอคำตอบอะไร เพราะฉันค่อยๆ จูบไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปากของเขา แต่จูบแค่เพียงเบาๆ"เอาอีก..."เห็นไหมละ...ว่าพอเจ้าตัวได้คืบก็จะเอาศอก ฉันจึงได้บอกเขาออกไปว่า..."พอก่อนนะ เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะถามนาย.." ฉันว่าพลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม"เรื่องอะไร?"“แหวนของนะโม อยู่กับแม่นายใช่ไหม ฉันอยากขอเอาไปคืนให้เขา”“อยู่ที่เอวา เอวาอาสาว่าจะเ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ผู้หญิงสายรุก

    ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของตองเก้าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปมองหน้าของนะโมเพื่อขอกำลังใจนะโมพยักหน้าให้พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเชิงต้องการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ฉันยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เมื่อคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายเปิดออกให้เอง“อันนา!...อันนามาแล้วค่ะแม่”เอวาร้องลั่นราวกับดีใจนักหนาเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน ก่อนหันไปบอกคนเป็นมารดาที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับบิดาของเธอเรายกมือขึ้นไหว้พวกท่านพร้อมกัน และเมื่อเห็นว่าท่านรับไหว้ฉันกับนะโมจึงเดินตามหลังเอวาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา แต่ทว่า..อยู่คนละฝั่ง และฉันเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงกลางทุกคนในครอบครัวของตองเก้ารู้เรื่องราวของนะโมทุกอย่าง โดยผ่านการบอกเล่าจากฉันเมื่อสามวันที่ผ่านมา"เราใช่ไหมที่มีชื่อว่านะโม?..."แม่ของเอวาเลื่อนสายมาที่นะโมตอนถาม เพราะเมื่อสามวันก่อนตอนที่พวกเราอยู่โรงพยาบาล พวกท่านยังไม่ทันได้สังเกตใคร นอกฉันกับคนเป็นลูกชายของท่านเท่านั้น"ครับ.." นะโมตอบกลับสั้นๆ พอได้ยินอย่างนั้นท่านจึงได้พูดกับเขาในประโยคต่อไปอีกว่า"ครอบครัวของเราขอขอบใจเธอมากนะ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเราไว้ แล้วยังพาเขามา

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   พ้นขีดอันตราย

    เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน จากชั่วโมงหนึ่งกลายเป็นสองสามสี่ และในชั่วโมงที่ห้านั่นเองที่ฉันได้เห็นร่างของหมอใหญ่เปิดประตูออกมา แล้วบอกกับพวกเราทุกคนว่า“คนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”ทุกคนเฮโลลั่นโรงพยาบาลประสานเสียงกัน จนถูกคุณหมอดุเข้าให้นั่นแหละถึงได้พากันเบาเสียงลงฉันเห็นคนเป็นพี่ชายพลอยดีใจร่วมไปกับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของทั้งสองคน มันยังคงไม่จืดจางฉันคิดว่าอย่างนั้นพี่อุนเดินมาโอบไหล่ฉันเชิงให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ดึงฉันเข้าไปกอด ก่อนจะผละออกมาพูดว่า“แกกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูเสื้อผ้าของแกมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด หมอบอกว่าไอ้เก้ามันพ้นขีดอันตรายแล้ว เราแค่รอให้มันฟื้นหมอถึงจะอนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมมันได้"หลังจากที่พี่ชายบอกฉัน หลินซีก็เข้ามาพูดในทำนองเดียวกัน“ฉันก็คิดแบบพี่อุลนะ แกกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมาเลย”ฉันรับฟัง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เนื่องจากฉันกำลังสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคน“หลิน... นะโมละเขาไปไหน แกเห็นเขาไหม?” ฉันเอ่ยถามเอากับเพื่อนสนิทเพราะคิดว่ามันน่าจะรู้ดี“นะโมกลับไปเอารถที่ห้าง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนของใคร?

    เราสองคนช่วยกันพยุงตองเก้าให้นอนราบไปกับพื้นรถทางด้านหลัง และนะโมยังจับดูชีพจรของตองเก้าอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่เราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนะโมเปิดกระเป๋าร่วมยาแล้วล้วงเอาผ้าก๊อต มาปิดปากแผลให้ตองเก้าที่ด้านหน้า จากนั้นเราจึงช่วยกันพลิกร่างหนาเพื่อทำแผลให้เขาที่ด้านหลังเจ้าตัวทำหน้าแหยทุกครั้งนั่นแหละแต่ทว่ากลับไม่มีเสียงร้อง ผิดกับฉันที่มีน้ำตาไหลนองออกมา โดยไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลได้สักทีเมื่อปฐมพยายาบาลเบื้องต้นให้คนเจ็บเสร็จสรรพ ฉันจึงแจ้งทางศูนย์กลับไปว่า เราได้นำตองเก้าขึ้นรถกู้ชีพของเขาไปส่งโรงพยาบาลให้เอง โดยสั่งการให้ศูนย์ช่วยประสานกับทางโรงพยาบาลว่าให้เตรียมทุกอย่างไว้รอพอได้ยินเสียงฉัน พี่อุลจึงขึ้นความถี่เรียกขาน ทั้งอย่างนั้นเวลานี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันฉันไม่แคร์ เพราะฉันสนแค่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนนี้เท่านั้นเองนะโมให้ฉันเอาผ้าสะอาดที่มีในกระเป๋า กดทับบาดแผลของตองเก้าเอาไว้อีกชั้น เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาจึงใช้ผ้าด้ายดิบผืนใหญ่ที่มีไว้สำหรับห่อคนตาย แต่มันยังไม่ผ่านไช้งาน มาห่มให้ตองเก้าเพราะเราไ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   เธอคือจิตสุดท้ายของฉัน

    ปัง!...ปัง !เสียงปืนดังขึ้นสองนัดติดกัน ฉันถูกเกี่ยวเอวแล้วล้มลงไป พร้อมกับมีร่างใหญ่ของอีกคนทับฉันไว้ที่ด้านบนมีอะไรเกิดขึ้นกับเราทั้งสองคนงั้นเหรอ? “อันนา...เธอ...ปลอดภัยใช่ไหม?”ตองเก้าผงกหัวขึ้นมาถามฉันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทั้งที่เขายังทับร่างของฉันอยู่ ถึงฉันจะจุกจนพูดไม่ออกแต่ก็พยายามเปล่งเสียงบอกเขากลับไปว่า“ฉันไม่เป็นไร..”พอได้ยินอย่างนั้นตองเก้าจึงใช้แขนยันตัวเองขึ้น ก่อนพลิกร่างใหญ่ออกไปนอนแผ่หลา ขณะที่ทำสีหน้าคล้ายกำลังเจ็บปวดจากอะไรสักอย่าง และฉันก็ได้เห็นเลือดที่ติดอยู่กลางลำตัวของเขาซึ่งเราทั้งสองคนเหมือนกันเพียงแต่ฉันไม่รู้สึกเจ็บเท่านั้นเองเสียงปืนที่ดังขึ้นติดกันสองนัดเมื้อกี้ มีเราสองคนที่เป็นเป้าหมาย...ใช่ไหม? รึยังไง?“ตองเก้า!...นายถูกยิง!” ฉันอุทานเสียงดังอย่างรู้สึกตกใจ ก่อนช้อนแขนเข้าไปประคองศรีษะของเขาขึ้นมาวางไว้บนตักของฉัน จากนั้นจึงใช้ฝ่ามือลูบไปทั่วใบหน้าขณะเดียวกันก็ตบแก้มเขาเบาๆ เชิงต้องการให้เขามีสติ“นายต้องไม่เป็นอะไร อดทนไว้นะตองเก้า...ฮื่อๆ ”ฉันร้องไห้ก่อนวางมือบางบนหลังมือใหญ่ ที่เขาใช้กดทับบาดแผลของตัวเองเอาไว้ทั้งสองข้าง ทั้งอย่างนั้นมัน

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนหมั้น

    เราสองคนคุยกันถึงเรื่องทั่วไปมากมาย จนมาถึงเรื่องที่ฉันตั้งใจจะถามเขา...“อีกเดือนกว่าๆ มหาลัยของฉันก็จะปิดเทอมแล้วนะ ฉันอยากไปเที่ยวหานายที่อเมริกาบ้างน่ะ แล้วถ้าฉันไปนายพอจะมีเวลาว่างพาฉันเที่ยวที่นั่นบ้างได้ไหม?""ได้อยู่แล้วสิ...ไม่เห็นต้องทำหน้าเกรงใจแบบนั้นเลยนี่""ก็เราปิดเทอมไม่ตรงกัน ถึงตอนนั้นนายก็คงจะเรียนหนักมาก..งั้นฉันเปลี่ยนใจไม่ไปแล้วดีกว่า ”"เวลาของฉันทั้งหมดเป็นของเธอ...อันนา""..!!!.."ฉันเบิกตากว้างพร้อมกับอ้าปากค้าง เมื่อได้ฟังคำพูดของผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันเพราะตั้งแต่นะโมเปิดเผยความรู้สึกที่มีให้ฉัน คำพูดของเขาก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปพอๆ กับสายตาแต่เชื่อไหมละว่า...คำพูดคำจาและสายตา ที่มองฉันมาอย่างลึกซึ้งของอีกฝ่าย กลับไม่เคยทำให้หัวใจของฉันหวั่นไหว ซึ่งไม่เหมือนกับคำพูดและสายตาของใครบางคน ทั้งที่คำพูดเหล่านั้นมันไม่ใช่ของจริง“ตอนแรกฉันก็คิดว่าจะแก้แค้น แต่เมื่อได้ใกล้ชิดเธอทีไรมันกลับทำให้ฉันลืมทุกอย่าง ลืมกระทั่งสิ่งที่ตั้งใจจะทำกับเธอ แล้วเผลอใจไปรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อันนา...เธอช่วยให้โอกาสฉันได้แก้ตัวใหม่กับเธออีกครั้งได้ไหม? ”ตอนนี้คำพูดของตอ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   คำสารภาพ

    “มึงคิดว่าน้องกูยังอยากจะคุยกับมึงอยู่อีกรึไง...มึงรีบกลับบ้านของมึงไปซะ ก่อนที่กูจะทนเห็นหน้ามึงไม่ได้”ไอ้อุลมันว่าผมเสียงเข้มและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ทว่าผมก็คงโกรธมันไม่ได้อยู่ดี“กูยอมรับว่ากูรักอันนา และไม่ได้คิดกับน้องของมึงอย่างที่กูได้พูดออกไป เป็นเพราะกูเข้าใจมึงผิด กูขอโทษ” ผมอยากให้มันหายโกรธจึงยอมลดตัวขอโทษมันก่อน และไอ้อุลมันก็ได้ย้อนผมกลับมาในเวลาเดียวกัน“กูไม่รับ! มึงรีบกลับบ้านไปเลยไป๊ บอกเอวาด้วยว่าไม่ต้องเสียเวลาโทรมาหากูอีก เพราะถึงยังไงกูก็ไม่ยกโทษให้พวกมึงทั้งคู่ ต่างคนต่างอยู่มึงกับกูไม่เคยรู้จักกัน รวมถึงอันนาน้องกูนั่นก็ด้วย”“มึงจะโกรธเกลียดกูกูไม่ว่า แต่กูอยากเจออันนาก่อน” “ตอนนี้น้องกูไม่อยู่! มึงฟังกูพูดไม่รู้เรื่องรึไงวะ!” ไอ้อุลตะเบงเสียงดังใส่ แต่ผมไม่สนใจจะฟัง และยังคงถามมันกลับไปอย่างใจเย็น“แล้วอันนาไปไหน?”เพราะคิดว่าไอ้อุลมันกำลังกันท่า อีกทั้งไม่รู้ด้วยว่าที่มันบอกผมออกมานั่นจะจริงแท้สักแค่ไหน มันเกลียดผมเข้าไส้มันจึงพยายามกันผมออกไปให้พ้นจากน้องสาวของมันเท่านั้นที่ผมเข้าใจ“ในเมื่อมึงอยากจะรู้มากนักเป็นงั้นกูบอกมึงก็ได้ ว่าอันนาไปดูหนังกับผ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status