Share

บทที่1.เรื่องมันเริ่มต้นที่นี่แหละ 4

หวานตาถามซ้ำ เธอมั่นใจเอาจริงๆ จังๆ ก็ตอนที่เรืองฤทธิ์มีปฏิกิริยาตอบกลับมาแบบนั้นนี่เอง ครั้งแรกก็แค่สงสัย สายตาของเขาวนเวียนไปแถวนั้นบ่อยๆ จนกระทั่งเมื่อเขาเอ่ยปากพูด เขาก็ยังพยายามส่งสายตาไปที่รถยนต์คันนั้นอีก

          “คือ...”

          “หวานเข้าใจค่ะ เธอคงไม่กล้า แต่แหม...กล้าแย่งแฟนชาวบ้าน แต่กลับไม่กล้าสู้หน้าหวานงั้นเหรอคะ ไม่น่ารังเกียจไปหน่อยเหรอ”

          หญิงสาวกล่าวประชด เธอเบ้ปาก ยิ้มหยันเลยไปให้ผู้หญิงขี้อายที่หลบอยู่ในรถยนต์คันหรู

          “มันไม่ใช่แบบที่หวานเข้าใจหรอกนะครับ” เรืองฤทธิ์พยายามแก้ตัวแทนให้แม่สาวปริศนาคนนั้น

          “เหอะ!” หวานตาหัวเราะหึๆ เธอกลอกตามองบน “แบบที่หวานเข้าใจ ผิดตรงไหนคะ คุณบอกเองนี่เรืองฤทธิ์ คุณเจอผู้หญิงที่เหมาะกับคุณมากกว่าหวาน!!” น้ำเสียงหวานตาเข้มขึ้น

          ความโกรธของเธอปะทุขึ้นมาอีกรอบ หลังข่มไว้ในใจได้ตั้งนาน

          ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจ ที่คิดเอาไว้ง่ายๆ มันไม่ง่ายเสียแล้ว

          “ผมพยายามทำดีที่สุดแล้วนะครับหวาน” หากเธอยังโกรธอยู่ เรืองฤทธิ์มีสิทธิ์เจ็บตัว แต่ตอนนี้ความโกรธของเธอไม่ได้พุ่งสูงปรี๊ด มันแค่กรุ่นๆ และเธอมีประสบการณ์ การฟูมฟายไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เธอโตแล้ว และมีเหตุผลมากพอ ในเมื่อชายตรงหน้าไม่ได้เห็นค่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ เธอรั้งผู้ชายหมดใจก็จะเป็นการเสียเวลาเปล่า หวานตาคิดว่าตัวเองควรต้องเจ็บปวดกับความผิดหวังครั้งนี้ แต่เปล่าเลย!! เธอไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น มันอาจจะชาๆ เพราะยังเร็วเกินไปสำหรับเธอ

          “ค่ะ”

          “ผมเองก็ไม่ได้อยากเสียหวานไปหรอก หวานก็รู้ สำหรับผม หวานยังสำคัญเสมอ”

          เมื่อท่าทีหวานตาอ่อนลง เรืองฤทธิ์เลยพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง

          หวานตามองแก้วกาแฟ เธอนึกอยากทำอย่างที่ใจคิด แต่มันจะดูเป็นเด็กเกินไป เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น หากจะแก้เผ็ดเอาคืนเรืองฤทธิ์ เขาจะต้องจำจนตาย เพียงแต่เวลานี้ เธอยังคิดหาทางแก้ลำเขาไม่ถูก ในสมองของหวานตาบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้แล้ว ในสามัญสำนึกของเธอบอกไว้ การแก้แค้น...10ปียังไม่สาย

          เพราะคนที่หัวเราะทีหลัง ย่อมสะใจกว่า

          “ค่ะ หวานสำคัญสำหรับคุณ แต่คุณก็ยังเลือกเธอใช่ไหมคะ?”

          หวานตาฉวยแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ เธอเกือบขำกับท่าทางผวาของชายตรงหน้า

          “ผมจำเป็น” ชายหนุ่มอ้อมแอ้มตอบ...หากจะถูกตราหน้าว่าเขาทำเพื่อเงินก็ไม่ผิดนัก

          เขาเบื่อที่จะต้องทำงานหนัก แต่เงินเดือนที่ได้รับไม่พอยาไส้ ไหนจะต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ ค่าเสื้อผ้า ค่าของใช้ ค่าเครื่องดื่ม รายจ่ายที่สวนทางกับรายรับ มันทำให้เขาต้องวิ่งหาเงินตัวเป็นเกลียว

          เรืองฤทธิ์ลืมไป เขาไม่จำเป็นต้องขวนขวายแบบนั้นเลย หากเขาลดอัตราความอยากลงมาบ้าง

          ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ ในเมื่อถนนแทบจะไม่พอให้รถวิ่ง ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าราคาแพง เพราะวันทั้งวันเขาก็อยู่แค่ที่ทำงาน แทบไม่ได้โผล่หน้าออกไปที่ไหนเลย แล้วแบบนั้น เขาจะใส่เสื้อผ้าราคาแพงเหล่านั้นไปทำไม รวมทั้งพร็อปต่างๆ ที่เขาต้องมีอีกเช่นกัน นาฬิกาบอกเวลาเท่ากันทุกเรือน แตกต่างที่ยี่ห้อ เขาเป็นแค่พนักงานในออฟฟิต ไม่จำเป็นต้องใช้นาฬิกาหรูๆ หลายอย่างที่ไม่จำเป็นเรืองฤทธิ์ขวนขวายหามา และทำให้ตัวเองจมไม่ลง ทั้งที่สตางค์ในกระเป๋ามีให้ใช้แบบจำกัด

          “ตามนั้นค่ะ หวานเข้าใจ”

          หลังทบทวนในใจ หากขาดคนตรงหน้า ชีวิตของเธอจะเดินไปข้างหน้าต่อได้ไหม?

          หวานตาตอบได้ในทันที...ได้สิ ไม่มีเขา ไม่มีเรืองฤทธิ์เธอก็ไม่ตายหรอก

          แค่ผิดหวังที่เลือกคนผิด บทสุดท้ายแล้ว คนที่เขาเลือกกลับไม่ใช่เธอ

          “คือ...” เรืองฤทธิ์กำลังชั่งใจ เขาควรพูดสิ่งที่คิดไว้ออกมาหรือไม่

          “คะ?”

          ในที่สุดเขาก็ติดสินใจพูด “เราจะเป็นแบบนี้ต่อไปได้ไหมครับหวาน ถึงผมจะมีเขาอีกคน แต่หวานก็ยังสำคัญกับผม”

          หวานตานิ่งอึ้ง...เธอไม่ได้ดีใจที่เขายังต้องการเธอ แต่ทุกคำที่เรืองฤทธิ์พูดออกมา มันแสดงถึงความเห็นแก่ได้ เธอไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไรเรืองฤทธิ์ต้องการเธอกับผู้หญิงอีกคนไว้ในสถานะเดียวกัน...ผู้หญิงหลายคนอาจจะยอม เพราะความรักที่ทำให้ตามืดบอด แต่สำหรับหวานตาแล้ว...ไม่มีทาง!!

          เธอเงยหน้ายิ้มหวานเจี๊ยบ ยิ้มแบบที่เรืองฤทธิ์ถึงกับถอนใจ เขาเข้าใจว่าหวานตายอมรับข้อเสนอของเขา

          “คุณม่านแก้ว” หวานตาครางในใจ ผู้หญิงคนใหม่ของผู้ชายของเธอ...ชื่อม่านแก้ว เธอปล่อยให้เรืองฤทธิ์พูดต่อ “เธอไม่ได้อยากเข้ามาขวางระหว่างหวานกับผมหรอกนะ แต่เธอก็ไม่อยากเสียผมไปด้วยเช่นกัน”

          หวานตาแอบเบ้ปาก ยังมีผู้หญิงคิดแบบนั้นเหรอ ต้องการความสัมพันธ์ลับๆ หวานตาชักอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นแบบไหนแล้วสิ

          “หวานไม่โอเคค่ะ” หลังยิ้มจนเมื่อยปาก และเบื่อที่จะต้องฟังคำพูดระคายหู

          หวานตาพูดขัดขึ้นมา เธอหยิบแก้วกาแฟมาถือไว้ ก่อนจะ...ไม่ดีกว่า หญิงสาวเปลี่ยนใจ หากเธอทำเหมือนที่คิด เธอคงต้องฟังภูมิบ่นไปอีกหลายวัน เธอควรเชิดเข้าไว้ หวานตาแน่ใจ ทุกการกระทำของเธอจะต้องมีใครสักคน คาบไปบอกภูมิ เขาจะต้องยินดีที่เธอเปลี่ยนนิสัยใจร้อนได้ หวานตาอมยิ้ม เวลานี้เธอควรปวดหัวกับวีรกรรมของเรืองฤทธิ์ไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงคิดถึงภูมิขึ้นมาได้ล่ะ

          หญิงสาวขมวดคิ้ว หมู่นี้ผู้ชายที่เธอวางเขาไว้ในตำแหน่งเพื่อน ชอบเข้ามากวนใจเธอบ่อยเกินไปแล้วล่ะ

          “หวาน”

          “สรุปเลยแล้วกันค่ะเรืองฤทธิ์ หวานกับคุณคงเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเนอะ”

          ท่าทางเหมือนไม่มีความเสียใจ แววตามีแววผิดหวังนิดหน่อย เรืองฤทธิ์เลยรู้สึกอึ้งๆ เกือบ1ปีที่อยู่ในฐานะคนรู้ใจ เขาทำให้หวานตาฟูมฟายไม่ได้เลยเหรอ เมื่อความสัมพันธ์ในฐานะคนพิเศษจบลง...เธอเย็นชาเกินไปแล้ว...

          “หวาน!!”

          หวานตาลุกขึ้นยืน เธอปรายตามองเรืองฤทธ์ครั้งสุดท้าย ก้มลงหยิบแล็ปท็อปมาถือไว้ แล้วจึงเดินไปหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายค่าเครื่องดื่ม เป็นการบอกลาที่ชายหนุ่มรู้สึกผิดคาด หวานตาไม่ได้ฟูมฟาย เธอนิ่งจนเขาพูดอะไรไม่ออก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status