สองเท้าก้าวฉับๆ วาววารีบเร่งมุ่งหน้าสู่ห้องทำงาน ในวันนี้เธอปรากฏตัวในชุดที่เรียบหรู สะท้อนรสนิยมสไตล์ Old Money อย่างมีระดับ
บรรยากาศวันนี้ช่างแตกต่างจากทุกๆ วัน ความอึดอัดปกคลุมไปด้วยความสงสัย พนักงานในบริษัทต่างจับจ้องไปที่ชายหนุ่มรูปงามผู้ปรากฏตัวขึ้นราวกับเป็นเงาเดินตามติดวาววาไปทุกที่
พลึบ!
วาววาวางของที่เธอถือติดตัวมาไว้ข้างโต๊ะทำงานของเธอ ในห้องกว้างใหญ่ ตกแต่งอย่างหรูหรา สะท้อนถึงสถานะผู้บริหารระดับสูง เธอหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาตรวจดูโดยไม่สนใจเชนทร์ที่เดินตามเธอเข้ามาในห้องนี้ด้วยแม้แต่น้อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น มีนาเลขาสาวสวยของเธอเดินเข้ามา
"สวัสดีค่ะคุณวา" มีนากล่าวทักทายเสียงหวาน ปลายตามองชายร่างสูงโปร่ง หน้าคมเข้มสไตล์ลูกครึ่งยืนนิ่งสง่างามในชุดสีดำสนิท สร้างความสับสนให้เธอไม่น้อย
“นี่คุณราเชนทร์ ให้เขารอในห้องระหว่างที่วาประชุมก็ได้ค่ะ” วาววาอธิบาย “ไม่ต้องเตรียมกาแฟหรือเครื่องดื่มใดๆ นะคะ คุณราเชนทร์แจ้งว่าไม่ชอบดื่มกาแฟช่วงเช้า”
เธอรีบพูดดักเลขาของเธอ พยายามหาข้ออ้างเพื่อรักษาระยะห่างของเลขาคนสวยจากชายหนุ่มแวมไพร์ตรงหน้าอย่างไรเสีย ก็เพื่อความปลอดภัยของเลขาของเธอ
“ขอเป็นเลือดสดแทนกาแฟครับ”
ใบหน้าละมุนหันขวับกลับมาเผชิญหน้ากับเชนทร์ทันที ชายตรงหน้าที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ ช่างน่าหมั่นไส้เสียจริง
“อ่อ! คุณเชนทร์เขาหมายถึง...แดงโซดาค่ะ” วาววารีบกลบเกลื่อน “ใส่มะนาวด้วยก็ได้ค่ะ”
“...ได้ค่ะ” มีนาตอบรับด้วยสายตางุนงงเล็กน้อย
“รบกวนคุณมีนาช่วยนำแฟ้มพวกนี้ไปที่ห้องประชุมด้วยนะคะ”
“รับทราบค่ะ” มีนาตอบ พร้อมรับแฟ้มมาจากวาววาก่อนเหลือบมองเชนทร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานนี้ในลำดับถัดไป
เมื่อในห้องทำงานนี้เหลือแต่เพียงเจ้าแวมไพร์และวาววา ร่างสูงในชุดดำสนิททั้งตัวก็ถือโอกาสเดินสำรวจรอบๆอย่างวิสาสะ
“คุณทำงานที่นี่งั้นเหรอ?”
“ใช่!” วาววาตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร”
“เลขาของฉัน”
“เลขา...” เขาทวนคำตอบ สีหน้าแววตาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “งั้นคุณคงมีอำนาจพอตัวในการสั่งคน”
“ก็...ใช่มั้ง ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ใช่วาววาน้องของอันนา”
“เป็นเด็กเลี้ยงของผู้บริหารที่นี่สินะ”
“จะบ้าเหรอ!” เพราะคำตอบเชิงดูถูกของเขาทำให้วาววาถึงกับตอกกลับทันควันโดยไม่ต้องคิด “เจ้าของที่นี่น่ะพ่อฉัน!”
สายตาคมเฉียบหยุดมองที่ใบหน้าแดงปั้ดเพราะความหงุดหงิด ก่อนจะหัวเราะหึในลำคอ ยากที่จะคาดเดาความคิดของเขาในขณะนี้
“ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณหลุดออกมาจากนิยายที่ฉันเขียน ก็จงเชื่อซะว่าฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอันนาคนรักของคุณ” เธอกล่าวก่อนที่จะละสายตาหาอะไรบางอย่างบนโต๊ะทำงานของเธอ
กระดาษสี่เหลี่ยมใบเล็กๆ กลิ่นหอมฟุ้งอ่อนๆ ...นามบัตรของเธอ
วาววายื่นส่งมันให้กับเชนทร์ เจ้าแวมไพร์ตัวแสบ
“นี่! นามบัตรฉัน รู้จัก G****e ไหม? ค้น! หา! แล้วจะรู้ว่าที่ฉันพูดเป็นความจริง”
กรื่อ กรื่อ
มือถือของวาววาดังขึ้นขัดจังหวะได้พอดิบพอดี เพียงแค่เธอเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอก็รู้ว่าชั่วโมงเร่งด่วนของเธอใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าแล้ว
“อีกเดี๋ยวคงมีคนเอาแดงโซดามาให้คุณ Enjoy นะคะ! ฉันขอตัวไปประชุมล่ะ”
สิ้นคำพูด วาววาพุ่งรี่ออกจากห้องไปทันทีราวสายฟ้าแลบ ทิ้งเพียงแวมไพร์หนุ่มยืนตะลึงงันอยู่กลางห้องทำงานของเธอโดยไม่สนใจใยดีใดใดทั้งสิ้น
หลังจากการประชุมอันวุ่นวายในช่วงเช้าสิ้นสุดลงและพนักงานได้ทยอยเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตนแล้ว ในประชุมขนาดใหญ่นี้เหลือเพียงเจ้าของบริษัทนั่งผ่อนคลายพิงเก้าอี้ในตำแหน่งประธาน ประกบข้างด้วยเหล่าผู้บริหารระดับสูงหญิงสาววัยกลางคน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ หรือ COO เธอมักยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นลูกสาวทั้งสองของเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ‘วีวี่’ หรือ วีรยา รัตนพิพัฒน์วงศ์ อายุ 34 ปี พี่สาวของวาววา ปัจจุบันเธอรับตำแหน่ง “CFO” หรือ “Chief Financial Officer” ภายนอกเธอดูเรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น แต่แฝงไว้ด้วยไหวพริบและความเฉลียวฉลาดและทายาทคนสุดท้อง ‘วาววา’ วารีริน รัตนพิพัฒน์วงศ์ ด้วยวัยเพียง 27 ปี เธอไม่ได้มีแต่ความสวยเฉิดฉาย แต่ยังมากด้วยความสามารถ เธอดำรงตำแหน่ง CMO ผู้กุมบังเหียนกลยุทธ์การตลาดของบริษัท“พ่อกับแม่จะไปทริปกันนานแค่ไหนคะ?” วาววาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอจ้องม
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เฉดสีม่วงเข้มค่อยๆ แผ่ขยายปกคลุมฟากฟ้า แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ทิ้งไว้เพียงแสงจันทร์อ่อนๆ สาดส่องลงมายามค่ำคืนภายในร้านอาหารสุดหรู ตกแต่งอย่างมีรสนิยม สร้างบรรยากาศโรแมนติก บทเพลงบรรเลงคลอเคลียไปกับสายลมเย็นๆ พัดผ่าน วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ทอประกายระยิบระยับยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าสะท้อนลงบนผิวน้ำแสงเทียนสลัวส่องสว่างบนใบหน้าของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังนั่งดินเนอร์บนโต๊ะริมระเบียง ทั้งสองดูมีความสุขกับดินเนอร์มื้อนี้ ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาหยาดเยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสฝ่ามือหญิงสาวที่วางบนโต๊ะอย่างนุ่มนวลห่างไปไม่ไกลนัก วาววาและมิเกลยืนซุ่มมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระซิบกระซาบคุยกัน เบาๆ"เตรียมตัวให้พร้อม!" มิเกลเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมกับยื่นคีย์การ์ดห้องโรงแรมให้เพื่อนรัก&nb
ณ ห้องทำงานของวาววาเธอเริ่มต้นวันใหม่เปี่ยมไปด้วยความสดใส เมื่อคืนเธอนอนหลับเต็มอิ่มเพราะไร้การรบกวนจากแวมไพร์ และเธอก็เชื่อว่ากระเทียมที่เธอได้แขวนรอบหน้าต่างและประตูระเบียงพวกนั้นช่วยป้องกันไม่ให้แวมไพร์เชนทร์เข้ามาในห้องของเธอได้ปลายปากกาของเธอขยับไปมาอย่างรวดเร็วบนกระดาษ ลายเซ็นของผู้บริหารระดับสูงตวัดบนเอกสารแต่ละฉบับอย่างสวยงาม“จะว่าไป...”ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของวาววาอย่างฉับพลัน“ถ้าเขาคือแวมไพร์ที่หลุดออกมาจากนิยายที่ฉันเขียน...มันจะเชื่อมโยงกับตอนที่ฉันไปร้านคาเฟ่นั่นแล้วไฟดับหรือเปล่านะ...?”ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นหลั่งไหลกลับมาอีกครั้ง“ภาพหน้าปกนิยายที่เป็นภาพแวมไพร์ก็หายไป...เนื้อหาในส่วนที่มีเชนทร์ ตอนนี้กลายเป็นตัวอักษรภาษาต่างด้าวที่อ่านไม่ออก...”เธอนิ่งคิดชั่วครู่...แสงสว่างแห่งไอเดียก็ปรากฏขึ้น เธอ
----------...นิยายของวาววา......ยามค่ำคืนโอบล้อม ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า อันนากลับมาถึงบ้านอันอบอุ่น ชั้นล่างของบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของอาหารเมื่อยามกลางวัน แต่ตอนนี้ร้านอาหารปิดแล้ว ความเงียบสงบปกคลุมทั่วทุกมุม เหลือเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโซนเล็กๆหลังร้านพ่อและแม่ของเธอกำลังนั่งดูทีวี แสงไฟจากจอทีวีส่องสว่างใบหน้าของพวกเขา อันนากล่าวทักทายพวกท่านด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินขึ้นบันไดมุ่งสู่ห้องนอนของเธอ อันนา สาวสวยลูกครึ่ง ไทย-สวีเดน ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน เธออายุ 25 ปี มากกว่าวาววา 1 ปี เมื่อ 7 ปีก่อน หลังจากเธอสูญเสียพ่อแท้ๆ ไป ชีวิตของเธอก็พลิกผัน เมื่อแม่ของเธอตัด
วันเสาร์ แสงแดดยามเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ สาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ของห้องนอนบนคอนโดหรูกลางเมือง ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ ลงมาแตะใบหน้าของ "วาววา" หญิงสาววัย 27 ปี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟคั่วบดจากเครื่องชงอัตโนมัติลอยแตะจมูกปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ วาววาขยับตัวบนที่นอนนุ่มนิ่ม ลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงเหงา ยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้าจากการนอนหลับ เธอพลิกตัวไปอีกด้านโดยที่ยังหลับตาอยู่ มือของเธอสัมผัสกับวัตถุบางอย่างที่แข็งและเย็น "อ๊ะ!" วาววาตกใจ ลืมตาสลึมสลือขึ้นมาและมองไปที่วัตถุที่เธอสัมผัสเมื่อครู่ พบว่ามันคือหน้าอกกว้างๆ ของชายหนุ่ม! “กรี๊ดดด!!!” นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง หัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกจากอก เขาคือใครกัน ทำไมเขาถึงมานอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอได้ พลึบ! เพราะเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจของวาววา ทำให้ชายหนุ่มที่หลับสนิทบนเตียงในชุดออลแบล็คลืมตาตื่นขึ้นด้วยความว่องไว ร่างกายของเขาพลิกตัวจากท่านอนลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน ประหนึ่งสัญชาตญาณนักล่าถูกปลุกให้ตื่น นัยน์ตาแดงก่ำของเขาจ้องมองมายังต้นตอของเสียงร้อง และแยกเขี้ยวทั้งสองในปาก
เมื่อวาน (วันศุกร์) เวลา 19.00 น ณ ร้านคาเฟ่เล็กๆ ย่านราม 2 (วันก่อนที่วาววาจะตื่นมาแล้วพบชายนิรนามนอนอยู่ข้างกายเธอ) แกร้ก! ประตูคาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นแห่งนี้ถูกเปิดออก วาววาย่างก้าวเข้าไปด้านใน บรรยากาศภายในเงียบสงัดไร้ผู้คน แสงไฟวอร์มไลท์ค่อนข้างมืดสลัวสาดส่องลงมาที่โต๊ะและเก้าอี้รอต้อนรับลูกค้าไม่เกิน 5 ที่นั่ง ในขณะที่วาววากำลังกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน ทันใดนั้น เสียงฟ้าผ่าจากด้านนอกก็ดังสนั่น ก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า แสงสว่างจ้า วาบผ่านหน้างต่างใสเพียงบานเดียวที่ร้านมี วาววาสะดุ้งตัวด้วยความตกใจ “อ๊ายยย!!!” ซู่... ไม่ทันไร เม็ดฝนก็เทกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้าราวกับพายุเข้า “อ้าวแม่หนู...” เจ้าของร้านร่างท้วม ยิ้มแย้มแจ่มใส ท่าทางใจดีเดินออกมาจากหลังร้านเมื่อได้ยินเสียงร้องตกใจของวาววา “ท่าทางฝนจะตกหนัก นั่งหลบในร้านป้าก่อนได้นะ” “ข..ขอบคุณค่ะ” วาววายิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ใกล้เธอที่สุด “เมนูอยู่บนโต๊ะ ต้องการอะไรก็บอกป้าได้เลยจ้ะ” กระเป๋าใบหรูที่วาววาถืออยู่ถูกวางลงบนเก้าอี้ข้างที่นั่งของเธอ ก่อนที่เธ
หนึ่งวันหลังจากวาววาเจอชายนิรนามบนเตียงเดียวกับเธอ คอนโดมีเนียมใจกลางกรุงสูงเด่นสง่าภายใต้แสงดาวระยิบระยับท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดสนิท เรียวขาเล็กก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำหินอ่อนเย็นฉ่ำ ราวกับปลุกความสดชื่นจากความรู้สึกอ่อนล้าที่นั่งรวบรวมข้อมูลนิยายสุดรักของเธอมาทั้งวัน ร่างกายที่เคยอ่อนเพลียกลับเปล่งประกายสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง วาววาใช้ผ้าขนหนูสีขาวโอบล้อมร่างกายอันเพรียวบางไว้ ก่อนจะเปิดประตูและก้าวออกมาจากห้องอาบน้ำ “นึกว่าตายในห้องน้ำแล้ว นานมาก!” “กรี๊ดดดดด!!!” ปั่ก!! ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงทุ้มต่ำกังวานดังก้องขึ้นอย่างกะทันหัน วาววาแทบตั้งตัวไม่ทัน ร่างสูงโปร่งปรากฏกายอยู่ตรงหน้าประตู แววตาสีเลือดฉานจ้องมองเธอ พาความทรงจำอันเลือนรางถึงชายแปลกหน้าที่เคยบุกเข้ามาในห้องวันก่อนหวนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง วาววาตกใจสุดขีด ตะโกนกรีดร้องพร้อมถอยหลังจนล้มก้นจ้ำบ๊ะบนพื้นในห้องน้ำ “แกเป็นใคร!? ออกไปปป!!” ชายหนุ่มยืนนิ่ง ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ เขาแค่เพียงจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าเท่านั้น "ไอบ้านี่!" วาววาตะโกนซ้
---------- ...นิยายของวาววา... ... ณ ร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่ง มีโต๊ะไม้สีอ่อนเรียงรายรองรับลูกค้าประมาณ 10-12 โต๊ะ ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารไทยโบราณ รสชาติไทยๆที่รังสรรค์โดยครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อยืนอยู่หน้าร้านคอยต้อนรับแขกและรับออเดอร์ด้วยรอยยิ้ม คุณแม่วุ่นวายอยู่ในครัวปรุงอาหารด้วยความพิถีพิถัน ส่วนลูกสาวคนเล็กกำลังช่วยยกจานอาหารเสิร์ฟตามโต๊ะต่างๆ “สวัสดีครับ อ้าว...อันนาลูก” รอยยิ้มของพ่อฉายแววอบอุ่นยามต้อนรับลูกค้าที่หน้าร้าน แต่เมื่อสายตาเหลือบเห็นใบหน้าคุ้นเคยของลูกสาวคนโตที่ยืนเคียงข้างชายหนุ่มรูปงาม ความประหลาดใจก็พลันปรากฏบนใบหน้า “พาใครมาด้วยล่ะลูก?” คนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “นี่คุณเชนทร์ค่ะ เขาอยากมาชิมฝีมือคุณแม่” อันนาตอบชายผู้เป็นพ่อก่อนจะหันไปหาเชนทร์เพื่อแนะนำให้เขาได้รู้จักผู้ชายคนสำคัญอีกหนึ่งคนในชีวิตของเธอ “นี่พ่อของอันนาเองค่ะ” “สวัสดีครับ” เชนทร์ยกมือไหว้ทักทายคนเป็นผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ใบหน้าคมคายสไตล์ลูกครึ่งยามประสานมือไหว้แบบไทยๆ ยิ่งเผยเสน่ห์น่าเอ็นดูเป็นทวีคูณ “ใครเหรอพี่อันนา?” เสียงแหลมใสดังแท
----------...นิยายของวาววา......ยามค่ำคืนโอบล้อม ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า อันนากลับมาถึงบ้านอันอบอุ่น ชั้นล่างของบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของอาหารเมื่อยามกลางวัน แต่ตอนนี้ร้านอาหารปิดแล้ว ความเงียบสงบปกคลุมทั่วทุกมุม เหลือเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโซนเล็กๆหลังร้านพ่อและแม่ของเธอกำลังนั่งดูทีวี แสงไฟจากจอทีวีส่องสว่างใบหน้าของพวกเขา อันนากล่าวทักทายพวกท่านด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินขึ้นบันไดมุ่งสู่ห้องนอนของเธอ อันนา สาวสวยลูกครึ่ง ไทย-สวีเดน ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน เธออายุ 25 ปี มากกว่าวาววา 1 ปี เมื่อ 7 ปีก่อน หลังจากเธอสูญเสียพ่อแท้ๆ ไป ชีวิตของเธอก็พลิกผัน เมื่อแม่ของเธอตัด
ณ ห้องทำงานของวาววาเธอเริ่มต้นวันใหม่เปี่ยมไปด้วยความสดใส เมื่อคืนเธอนอนหลับเต็มอิ่มเพราะไร้การรบกวนจากแวมไพร์ และเธอก็เชื่อว่ากระเทียมที่เธอได้แขวนรอบหน้าต่างและประตูระเบียงพวกนั้นช่วยป้องกันไม่ให้แวมไพร์เชนทร์เข้ามาในห้องของเธอได้ปลายปากกาของเธอขยับไปมาอย่างรวดเร็วบนกระดาษ ลายเซ็นของผู้บริหารระดับสูงตวัดบนเอกสารแต่ละฉบับอย่างสวยงาม“จะว่าไป...”ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของวาววาอย่างฉับพลัน“ถ้าเขาคือแวมไพร์ที่หลุดออกมาจากนิยายที่ฉันเขียน...มันจะเชื่อมโยงกับตอนที่ฉันไปร้านคาเฟ่นั่นแล้วไฟดับหรือเปล่านะ...?”ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นหลั่งไหลกลับมาอีกครั้ง“ภาพหน้าปกนิยายที่เป็นภาพแวมไพร์ก็หายไป...เนื้อหาในส่วนที่มีเชนทร์ ตอนนี้กลายเป็นตัวอักษรภาษาต่างด้าวที่อ่านไม่ออก...”เธอนิ่งคิดชั่วครู่...แสงสว่างแห่งไอเดียก็ปรากฏขึ้น เธอ
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เฉดสีม่วงเข้มค่อยๆ แผ่ขยายปกคลุมฟากฟ้า แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ทิ้งไว้เพียงแสงจันทร์อ่อนๆ สาดส่องลงมายามค่ำคืนภายในร้านอาหารสุดหรู ตกแต่งอย่างมีรสนิยม สร้างบรรยากาศโรแมนติก บทเพลงบรรเลงคลอเคลียไปกับสายลมเย็นๆ พัดผ่าน วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ทอประกายระยิบระยับยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าสะท้อนลงบนผิวน้ำแสงเทียนสลัวส่องสว่างบนใบหน้าของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังนั่งดินเนอร์บนโต๊ะริมระเบียง ทั้งสองดูมีความสุขกับดินเนอร์มื้อนี้ ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาหยาดเยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสฝ่ามือหญิงสาวที่วางบนโต๊ะอย่างนุ่มนวลห่างไปไม่ไกลนัก วาววาและมิเกลยืนซุ่มมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระซิบกระซาบคุยกัน เบาๆ"เตรียมตัวให้พร้อม!" มิเกลเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมกับยื่นคีย์การ์ดห้องโรงแรมให้เพื่อนรัก&nb
หลังจากการประชุมอันวุ่นวายในช่วงเช้าสิ้นสุดลงและพนักงานได้ทยอยเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตนแล้ว ในประชุมขนาดใหญ่นี้เหลือเพียงเจ้าของบริษัทนั่งผ่อนคลายพิงเก้าอี้ในตำแหน่งประธาน ประกบข้างด้วยเหล่าผู้บริหารระดับสูงหญิงสาววัยกลางคน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ หรือ COO เธอมักยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นลูกสาวทั้งสองของเธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ‘วีวี่’ หรือ วีรยา รัตนพิพัฒน์วงศ์ อายุ 34 ปี พี่สาวของวาววา ปัจจุบันเธอรับตำแหน่ง “CFO” หรือ “Chief Financial Officer” ภายนอกเธอดูเรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น แต่แฝงไว้ด้วยไหวพริบและความเฉลียวฉลาดและทายาทคนสุดท้อง ‘วาววา’ วารีริน รัตนพิพัฒน์วงศ์ ด้วยวัยเพียง 27 ปี เธอไม่ได้มีแต่ความสวยเฉิดฉาย แต่ยังมากด้วยความสามารถ เธอดำรงตำแหน่ง CMO ผู้กุมบังเหียนกลยุทธ์การตลาดของบริษัท“พ่อกับแม่จะไปทริปกันนานแค่ไหนคะ?” วาววาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอจ้องม
สองเท้าก้าวฉับๆ วาววารีบเร่งมุ่งหน้าสู่ห้องทำงาน ในวันนี้เธอปรากฏตัวในชุดที่เรียบหรู สะท้อนรสนิยมสไตล์ Old Money อย่างมีระดับบรรยากาศวันนี้ช่างแตกต่างจากทุกๆ วัน ความอึดอัดปกคลุมไปด้วยความสงสัย พนักงานในบริษัทต่างจับจ้องไปที่ชายหนุ่มรูปงามผู้ปรากฏตัวขึ้นราวกับเป็นเงาเดินตามติดวาววาไปทุกที่พลึบ!วาววาวางของที่เธอถือติดตัวมาไว้ข้างโต๊ะทำงานของเธอ ในห้องกว้างใหญ่ ตกแต่งอย่างหรูหรา สะท้อนถึงสถานะผู้บริหารระดับสูง เธอหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาตรวจดูโดยไม่สนใจเชนทร์ที่เดินตามเธอเข้ามาในห้องนี้ด้วยแม้แต่น้อยก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้น มีนาเลขาสาวสวยของเธอเดินเข้ามา"สวัสดีค่ะคุณวา" มีนากล่าวทักทายเสียงหวาน ปลายตามองชายร่างสูงโปร่ง หน้าคมเข้มสไตล์ลูกครึ่งยืนนิ่งสง่างามในชุดสีดำสนิท สร้างความสับสนให้เธอไม่น้อย“นี่คุณราเชนทร์ ให้เขารอในห้องระหว่างที่วาประชุมก็ได้ค่ะ” วาววาอธิบาย “ไม่ต้องเตรียมกาแฟหรือเครื่องดื่มใดๆ นะคะ คุณราเชนทร์แจ้งว่าไม่ชอบดื่มกาแฟช่วงเช้า”เธอรีบพูดดักเลขาของเธอ พยายามหาข้ออ้างเพื่อรักษาระยะห่างของเลขาคนสวยจากชายหนุ่มแวมไพร์ตรงหน้าอย่างไรเสีย ก็เพื่อความปลอดภั
---------- ...นิยายของวาววา... ... ณ ร้านอาหารเล็กๆแห่งหนึ่ง มีโต๊ะไม้สีอ่อนเรียงรายรองรับลูกค้าประมาณ 10-12 โต๊ะ ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านอาหารไทยโบราณ รสชาติไทยๆที่รังสรรค์โดยครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อยืนอยู่หน้าร้านคอยต้อนรับแขกและรับออเดอร์ด้วยรอยยิ้ม คุณแม่วุ่นวายอยู่ในครัวปรุงอาหารด้วยความพิถีพิถัน ส่วนลูกสาวคนเล็กกำลังช่วยยกจานอาหารเสิร์ฟตามโต๊ะต่างๆ “สวัสดีครับ อ้าว...อันนาลูก” รอยยิ้มของพ่อฉายแววอบอุ่นยามต้อนรับลูกค้าที่หน้าร้าน แต่เมื่อสายตาเหลือบเห็นใบหน้าคุ้นเคยของลูกสาวคนโตที่ยืนเคียงข้างชายหนุ่มรูปงาม ความประหลาดใจก็พลันปรากฏบนใบหน้า “พาใครมาด้วยล่ะลูก?” คนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “นี่คุณเชนทร์ค่ะ เขาอยากมาชิมฝีมือคุณแม่” อันนาตอบชายผู้เป็นพ่อก่อนจะหันไปหาเชนทร์เพื่อแนะนำให้เขาได้รู้จักผู้ชายคนสำคัญอีกหนึ่งคนในชีวิตของเธอ “นี่พ่อของอันนาเองค่ะ” “สวัสดีครับ” เชนทร์ยกมือไหว้ทักทายคนเป็นผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ใบหน้าคมคายสไตล์ลูกครึ่งยามประสานมือไหว้แบบไทยๆ ยิ่งเผยเสน่ห์น่าเอ็นดูเป็นทวีคูณ “ใครเหรอพี่อันนา?” เสียงแหลมใสดังแท
หนึ่งวันหลังจากวาววาเจอชายนิรนามบนเตียงเดียวกับเธอ คอนโดมีเนียมใจกลางกรุงสูงเด่นสง่าภายใต้แสงดาวระยิบระยับท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดสนิท เรียวขาเล็กก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำหินอ่อนเย็นฉ่ำ ราวกับปลุกความสดชื่นจากความรู้สึกอ่อนล้าที่นั่งรวบรวมข้อมูลนิยายสุดรักของเธอมาทั้งวัน ร่างกายที่เคยอ่อนเพลียกลับเปล่งประกายสดใส มีชีวิตชีวาอีกครั้ง วาววาใช้ผ้าขนหนูสีขาวโอบล้อมร่างกายอันเพรียวบางไว้ ก่อนจะเปิดประตูและก้าวออกมาจากห้องอาบน้ำ “นึกว่าตายในห้องน้ำแล้ว นานมาก!” “กรี๊ดดดดด!!!” ปั่ก!! ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงทุ้มต่ำกังวานดังก้องขึ้นอย่างกะทันหัน วาววาแทบตั้งตัวไม่ทัน ร่างสูงโปร่งปรากฏกายอยู่ตรงหน้าประตู แววตาสีเลือดฉานจ้องมองเธอ พาความทรงจำอันเลือนรางถึงชายแปลกหน้าที่เคยบุกเข้ามาในห้องวันก่อนหวนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง วาววาตกใจสุดขีด ตะโกนกรีดร้องพร้อมถอยหลังจนล้มก้นจ้ำบ๊ะบนพื้นในห้องน้ำ “แกเป็นใคร!? ออกไปปป!!” ชายหนุ่มยืนนิ่ง ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ เขาแค่เพียงจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าเท่านั้น "ไอบ้านี่!" วาววาตะโกนซ้
เมื่อวาน (วันศุกร์) เวลา 19.00 น ณ ร้านคาเฟ่เล็กๆ ย่านราม 2 (วันก่อนที่วาววาจะตื่นมาแล้วพบชายนิรนามนอนอยู่ข้างกายเธอ) แกร้ก! ประตูคาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นแห่งนี้ถูกเปิดออก วาววาย่างก้าวเข้าไปด้านใน บรรยากาศภายในเงียบสงัดไร้ผู้คน แสงไฟวอร์มไลท์ค่อนข้างมืดสลัวสาดส่องลงมาที่โต๊ะและเก้าอี้รอต้อนรับลูกค้าไม่เกิน 5 ที่นั่ง ในขณะที่วาววากำลังกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน ทันใดนั้น เสียงฟ้าผ่าจากด้านนอกก็ดังสนั่น ก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า แสงสว่างจ้า วาบผ่านหน้างต่างใสเพียงบานเดียวที่ร้านมี วาววาสะดุ้งตัวด้วยความตกใจ “อ๊ายยย!!!” ซู่... ไม่ทันไร เม็ดฝนก็เทกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้าราวกับพายุเข้า “อ้าวแม่หนู...” เจ้าของร้านร่างท้วม ยิ้มแย้มแจ่มใส ท่าทางใจดีเดินออกมาจากหลังร้านเมื่อได้ยินเสียงร้องตกใจของวาววา “ท่าทางฝนจะตกหนัก นั่งหลบในร้านป้าก่อนได้นะ” “ข..ขอบคุณค่ะ” วาววายิ้มตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ใกล้เธอที่สุด “เมนูอยู่บนโต๊ะ ต้องการอะไรก็บอกป้าได้เลยจ้ะ” กระเป๋าใบหรูที่วาววาถืออยู่ถูกวางลงบนเก้าอี้ข้างที่นั่งของเธอ ก่อนที่เธ
วันเสาร์ แสงแดดยามเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ สาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ของห้องนอนบนคอนโดหรูกลางเมือง ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ ลงมาแตะใบหน้าของ "วาววา" หญิงสาววัย 27 ปี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟคั่วบดจากเครื่องชงอัตโนมัติลอยแตะจมูกปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ วาววาขยับตัวบนที่นอนนุ่มนิ่ม ลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงเหงา ยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้าจากการนอนหลับ เธอพลิกตัวไปอีกด้านโดยที่ยังหลับตาอยู่ มือของเธอสัมผัสกับวัตถุบางอย่างที่แข็งและเย็น "อ๊ะ!" วาววาตกใจ ลืมตาสลึมสลือขึ้นมาและมองไปที่วัตถุที่เธอสัมผัสเมื่อครู่ พบว่ามันคือหน้าอกกว้างๆ ของชายหนุ่ม! “กรี๊ดดด!!!” นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง หัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกจากอก เขาคือใครกัน ทำไมเขาถึงมานอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอได้ พลึบ! เพราะเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจของวาววา ทำให้ชายหนุ่มที่หลับสนิทบนเตียงในชุดออลแบล็คลืมตาตื่นขึ้นด้วยความว่องไว ร่างกายของเขาพลิกตัวจากท่านอนลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน ประหนึ่งสัญชาตญาณนักล่าถูกปลุกให้ตื่น นัยน์ตาแดงก่ำของเขาจ้องมองมายังต้นตอของเสียงร้อง และแยกเขี้ยวทั้งสองในปาก