หลังจากการพูดคุยกับแวมไพร์หนุ่มก่อนหน้านี้จบลง ดวงตาสีแดงเลือดของเขาจ้องมองวาววาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกระโดดลงจากระเบียงคอนโดชั้น 26 ตามแบบฉบับของเขา
ความกังวลใจของวาววาเกี่ยวกับเพทายที่อาจตามมากวนใจอีก ทำให้วาววาตัดสินใจเก็บข้าวของส่วนตัวเพื่อย้ายกลับไปพักที่บ้านของครอบครัวชั่วคราว เป็นการหลบซ่อนตัวจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้
เกือบสองสัปดาห์ผ่านไป ชีวิตของวาววาก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ แต่ความเงียบจากเชนทร์และเพทายกลับทำให้เธอรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
เธอคิดว่าการที่เชนทร์ขาดการติดต่ออาจเป็นเรื่องดี เพราะชีวิตของเขาและเธอกำลังเดินไปคนละทาง และสำหรับเพทาย เธอรู้สึกอิสระ ได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่หลังจากตัดขาดความสัมพันธ์ไป
วาววาในห้องทำงาน จ้องมองกองเอกสารสูงเสียดฟ้าที่ตั้งเรียงรายอยู่ตรงหน้าอย่างเบื่อหน่ายสายตามองผ่านหน้าจอมือถือไปยังรูปภาพและวีดีโอที่พ่อและแม่ของเธอส่งเข้าไลน์กลุ่มครอบครัว รอยยิ้มในวีดีโอจากพ่อและแม่ของเธอที่กำลังมีความสุขกับทริปพักผ่อน กำลังเติมพละกำลังให้วาววาได้มีแรงทำงานต่อไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญค่ะ” วาววากล่าว เมื่อมีเสียงเคาะประตูที่ห้องทำงานของเธอดังขึ้น
ร่างบางสง่าของมีนา เลขาสาวปรากฏขึ้นที่ประตู พร้อมแฟ้มเอกสารห้าเล่มที่กอดไว้แน่น
“ไม่หยุดไม่หย่อนเลยนะคุณมีนา กองนี้วายังไม่ได้อ่านเลย!” เสียงบ่นแจ้วๆของผู้บริหารสาวที่ตอนนี้ไม่ใช่แค่รับผิดชอบงานของตนเอง แต่ต้องรับผิดชอบงานบางส่วนของเจ้าของห้างผู้เป็นพ่อของเธออีกด้วย
“เอ่อ...คุณวาคะ วันศุกร์หน้าคุณวามีไปร่วมงานเปิดตัวสินค้าของบริษัท Rewat Legacy แทนท่านประธานนะคะ”
“ให้พี่วี่ไปแทนได้ไหมคะ?” วาววาต่อรองเพราะเธอไม่ชอบงานสังคมอย่างมาก
“อาทิตย์หน้าคุณวี่มีลงพื้นที่ดูสาขาใหม่ที่โคราช เลยไม่สะดวกค่ะ” มีนาอธิบาย
“ส่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดไปแทนก็ได้ค่ะ” วาววาเสนอ
“ท่านประธานบริษัท Rewat Legacy ได้ส่งคำเชิญมาถึงคุณสมิธเป็นการส่วนตัวค่ะ แต่เนื่องจากคุณสมิธติดธุระในต่างประเทศและคุณวีวี่ไม่ว่าง คุณวาจึงต้องไปร่วมงานนี้แทนค่ะ”
"โอเค...ค่ะ..." วาววาตอบรับเสียงเบา พร้อมถอนหายใจยาวๆ "รบกวนส่งรายละเอียดงานมาให้ทางอีเมลล์ด้วยนะคะ"
“ได้ค่ะ”
...
..
ณ โรงแรมใหญ่กลางเมือง
ใต้แสงดาวระยิบระยับในค่ำคืนอันเงียบสงบ วาววาเตรียมตัวด้วยใจที่ไม่อยากนักเพื่อไปงานเปิดตัวสินค้าของ Rewat Legacy แทนพ่อและแม่ของเธอ
วาววาเหยียบเท้าลงบนพรมแดงเนื้อนุ่ม ร่างบางในชุดเดรสเมอร์เมดสีแดงสดราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ผ้าซาตินเนื้อเนียนลื่นสวมใส่สบาย รัดรูปตั้งแต่ช่วงเอวจนถึงสะโพกก่อนจะพุ่งออกเป็นทรงหางปลาที่สง่างาม ช่วงบนของเดรสเปิดไหล่เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ประดับด้วยสร้อยคอคริสตัลที่ส่องประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงไฟ
วาววากวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
“ฮัลโหลเกล ฉันถึงแล้ว” เธอโทรหาเพื่อนรัก พร้อมกับมองไปรอบๆ สถานที่จัดงานที่หรูหราอลังการนี้
ไม่นานนัก มิเกลก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าวาววาในชุดเดรสเกาะอกสีแดงกำมะหยี่ตัวเก๋ รอยยิ้มสดใสประดับอยู่บนใบหน้าเมื่อเห็นเพื่อนรักในชุดราตรีที่งดงามราวกับเจ้าหญิง
“โอโห! ฉันว่าแกต้องได้เป็นนางเอกของงานนี้แน่ๆ”
แต่คำชมของมิเกลยิ่งทำให้คนฟังประหม่ามากขึ้นไปอีก
“คุณประธานบริษัท Rewat Lagacy อยู่ไหนแกรู้ไหม? ฉันว่าฉันเข้าไปกล่าวยินดีแล้วปลีกตัวกลับดีกว่า” วาววากังวลใจ
“จะบ้าหรอ! มาทั้งที กินดื่มก่อนกลับสิคะเพื่อน ปะๆ เข้างานก่อน ใกล้ถึงเวลาเริ่มแล้ว”
มิเกลที่เคยชินกับการออกงานสังคมประจำ ดึงแขนเพื่อนเธอที่ตอนนี้ทำหน้าซังกะตายให้เดินตามเข้าไปในงานเลี้ยงด้วยท่าทางมั่นใจราวกับเป็นเจ้าของงาน
พนักงานชายหนุ่มเดินนำวาววาและมิเกลไปตามทางเดินที่ปูด้วยพรมแดง จนมาหยุดอยู่ที่โต๊ะอาหารวงกลมด้านหน้าสุดติดกลางเวที
"ด้านนี้สำหรับคุณสมิธและคุณกานต์แก้วครับ"
เขากล่าวพร้อมกับผายมือไปยังเก้าอี้สองตัวที่หุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่สีดำขลับ ซึ่งเป็นที่นั่งที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้พ่อและแม่ของวาววา
“ส่วนคุณผู้หญิงเชิญตามผมมาทางนี้ได้เลยครับ” หลังจากแนะนำที่นั่งให้วาววาเสร็จเขาก็หันมากล่าวกับมิเกลด้วยน้ำเสียงสุภาพ
สายตาของวาววาขยับซ้ายขวาเลิ่กลั่ก เธอได้โซนที่นั่ง VVIP ส่วนมิเกลต้องเดินไปส่วนของที่นั่ง VIP ด้วยความไม่เคยชินกับงานสังคมไฮโซแบบนี้ วาววาไม่มั่นใจที่ต้องนั่งปั้นหน้าคนเดียว เธอรีบกล่าวเชิงร้องขอต่อพนักงานทันที
“ถ้าอย่างนั้นเราสองคนนั่งตรงนี้ด้วยกันเลยได้ไหมคะ พอดีวาเป็นตัวแทนจาก Zenith Mall มาคนเดียว แต่เก้าอี้มีสองตัว ขอนั่งกับเพื่อนแล้วกันนะคะ” วาววารีบเสนอเพราะเธอเพราะไม่ต้องการนั่งลำพังคนเดียว การได้นั่งข้างมิเกลเพื่อนรักของเธอ ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้น
“เอ่อ...ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
พนักงานกล่าวลาพร้อมก้มหัวเล็กน้อยก่อนเดินจากไป
“โหแก ที่นั่ง VVIP โต๊ะกลางเวที ส่วนฉันไปอยู่โซน VIP โน่น พ่อแม่แกสนิทกับทาง Rewat Lagacy เหรอ? สุดยอด!” มิเกลกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนจะนั่งลงข้างวาววาที่ตอนนี้เธอดูจะสับสนไม่ใช่น้อย
“ฉัน...ไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้เลย แต่ไม่น่าจะมีโปรเจกต์กับ Zenith Mall ไม่งั้นฉันต้องจำได้สิ”
เธอเองก็ไม่รู้ความสนิทระหว่างพ่อของเธอกับบริษัทที่เธอมางานเปิดตัวสินค้าในวันนี้เพราะคุณพ่อสุดที่รักไม่ได้แจ้งอะไรเธอไว้แม้แต่นิดเดียว
ไม่นานนัก...ห้องบอลรูมที่ตกแต่งอย่างหรูหราเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ พนักงานเสิร์ฟในชุดทักซิโดเดินเสิร์ฟไวน์แดง ก่อนที่แสงไฟจะหรี่ลง เสียง MC ดังกระหึ่มต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นของการแสดงเปิดตัวสินค้าใหม่ Rewat Legacy
แสงสปอร์ตไลท์ดวงโตที่ฉายส่องไปยังเวที ม่านสีแดงกำมะหยี่ค่อยๆ เลื่อนออกเผยให้เห็นฉากภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันเงียบสงัด มีพระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นเป็นแบคกราวน์
เสียงเพลงดังก้องทั่วห้องโถง นักแสดงชายหญิงออกมาเต้นรำในบทเพลงรักอันหวานซึ้ง ชายหนุ่มในผ้าคลุมสีดำพลิ้วไหวร่ายรำคู่กับหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวยาวฟูฟ่อง
ทันใดนั้นเอง นักแสดงชายหยิบกริชแหลมคมขึ้นมา ก่อนจะปักมันลงที่อกซ้ายของตัวเอง เลือดสีแดงสดไหลอาบเสื้อเชิ้ตขาว เขาค่อยๆ ล้มตัวลงไป ท่ามกลางเสียงร้องว้าวของผู้ชม ก่อนเขาจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง พร้อมกับดึงกริชออกจากอกโดยยังมีเลือดหยดที่มือ และกับประกาศด้วยน้ำเสียงทรงพลัง
“ผมไม่มีวันตาย เพราะผมคือแวมไพร์!!!”
ดวงตาของวาววาเบิกกว้างเมื่อเห็นฉากแสดงบนเวที เธอฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่างในทันที
‘ใช่แล้ว...Rewat Legacy เรวัต...นั่นคือเรวัตทรัพย์โภคิน นามสกุลของเชนทร์ อย่าบอกนะว่า...นี่คืองานเปิดตัวบริษัทไวน์ของเชนทร์ แต่...ฉันไม่เคยมีชื่อบริษัทนี้หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์นี้ในพล็อตในนิยายของฉันเลยนะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?...’
"ข้าขอสัญญาว่าจะรักเจ้าไปตลอดกาล แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใจของข้าได้"คำพูดของนักแสดงชายสะกดทุกสายตาและสัมผัสหัวใจของผู้ชมทุกคน ทำให้ห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงปรบมือดังกึกก้อง“ฉันพร้อมแล้วที่จะเป็นของคุณตลอดกาล...”นักแสดงฝ่ายหญิงเปล่งวาจา ก่อนที่นักแสดงชายซึ่งเป็นแวมไพร์จะโอบกอดเธอไว้ และค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้คอของนักแสดงสาวอย่างช้าๆและฝังเขี้ยวแหลมคมลงไปที่คอของหญิงสาว แสงไฟแฟลชสว่างขึ้นเป็นช่วงๆ เพื่อเน้นย้ำความตื่นเต้นผู้คนต่างปรบมือโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็นการแสดงอันน่าทึ้งนี้“ขอบคุณการแสดงที่ตื่นตาตื่นใจมากๆครับ และ ณ เวลานี้ที่ทุกท่านรอคอยก็มาถึง คือการเปิดตัวไวน์รสชาติใหม่จากบริษัท Rewat Legacy!”หลังจากสิ้นเสียงประกาศของพิธีกร เอฟเฟคควันสีขาวก็พวยพุ่งออกมาคล้ายหมอกจางๆ เผยให้เห็นแท่นเลื่อนวางไวน์อัตโนมัติที่ค่อยๆ เลื่อนออกมาจากความมืดช้าๆ“ขอเชิญท่านประธานกรรมการบริษัท
----------...นิยายของวาววา......เสียงเครื่องยนต์เรียบนิ่งเมื่อรถหรูจอดที่หน้าบ้าน อันนายังคงหลับปุ๋ยเพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน เชนทร์อมยิ้มจ้องมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้ม ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะจมูกโด่งเบาๆ เพื่อปลุกให้เธอตื่นขึ้น“อันนา...ถึงบ้านแล้วครับ”.....----------แสงดาวพร่างพราวราวกับเพชรนับพันเม็ด ประดับประดาบนท้องฟ้ายามราตรี เชนทร์พาวาววามาถึงระเบียงส่วนตัวของโรงแรมหรูห้าดาวแห่งนี้ เขาเงยหน้ามองทัศนียภาพตึกสูงระฟ้าอันงดงามเบื้องหน้า ในขณะที่วาววาโยนช่อดอกไม้ลงบนเก้าอี้นั่งใกล้ๆ ด้วยความหงุดหงิดที่กลิ่นหอมของดอกแก้วทำให้เธอจามไม่หยุด“ฮัดชิ่ววว!!!”“แพ้กลิ่นดอกแก้วจริงๆสินะ”เชนทร์เอ่ยขึ้นเบาๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังวิวเบื้องหน้า ก่อนจะหันกลับมาสบตาเธอเต็มๆ ใบหน้าอันหล่อเหลาแสดงออกถึงความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอ่านออก&ldqu
รถหรูคันงามที่ใครๆ ต่างใฝ่ฝัน แล่นฝ่าความมืดมิดไปอย่างรวดเร็ววาววาเกาะที่นั่งแน่น จ้องมองเข็มไมล์ที่ทะยานขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัว ความเร็วที่เกินร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอกบรืนนน!! บรืนนนน!!!“ขับช้าลงหน่อยได้ไหมมมม!!?” วาววาร้องลั่นรถ“กลัวอะไร ไม่ตายหรอก”“คุณสิไม่ตาย แต่ฉันเป็นมนุษย์!”เชนทร์หัวเราะในลำคอเบาๆ ยิ่งเห็นแววตาตื่นตกใจของวาววา ยิ่งกระตุ้นความสนุกให้เขา ฝ่าเท้าเหยียบเร่งความเร็วรถขึ้นอีกเล็กน้อย ราวกับต้องการยั่วเย้าให้เธอหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น“ฉันอยากรู้ ตอนอันนานั่งในรถนี่ขับเร็วแบบนี้ไหม!!!?” เธอบ่นและยังคงจับจ้องไปข้างหน้าไม่คลาดสายตา“ไม่นะ...เพราะอันนาคือคนพิเศษของผม” เชนทร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันลึกลับ“แล้วนายเห็นฉันเ
เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังกังวานไปทั่วบริเวณ วาววาเดินมาอย่างสง่างามในชุดสูทสีเบจที่เข้ารูป ชุดผมเกล้าเก็บเรียบร้อยเผยให้เห็นใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ จุดมุ่งหมายของเธอคือลงไปตรวจสอบความคืบหน้าของสถานที่จัดอีเวนท์ชั้นหนึ่ง ในขณะที่ตอนนี้เธอกำลังสนทนากับใครบางคนผ่านโทรศัพท์มือถือ“ขอโทษจริงๆเกล เมื่อคืนฉันแพ้กลิ่นดอกไม้หนักมากเลยต้องรีบกลับก่อนโดยไม่ได้บอกแก” วาววาพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด“ไม่เป็นไรหรอกแก เมื่อคืนฉันคุยจนได้ Contact ท่านรอง ผบ.ตร.เรียบร้อย ฮ่าๆๆ ว่าแต่แกเถอะ...อาการดีขึ้นไหม?”“โอเคขึ้นแล้ว...แกนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ มาทำตำแหน่งขายให้ฉันที่บริษัทเถอะ”วาววาหยอกพร้อมกล่าวชื่นชมและยอมรับทักษะการเข้าหาคนของเพื่อนรักคนนี้“เมื่อคืนคุณราเชนทร์ก็หายไปหลังจากที่แกลุกไปแค่ไม่กี่นาที แก...แอบหนีไปกับคุณราเชนทร์หรือเปล่า?”มิเกลถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ทำเอาวาววาต้องหัวเราะกลบเกลื่อน เพราะคำพูดของมิเกลก็ไม่ผิ
----------...นิยายของวาววา......“แม่! ถ่ายรูปให้หนูหน่อย” วาววาร้องเรียกเสียงใส พร้อมยื่นมือถือให้แม่ของเธอถ่ายรูปเธอกับวิวสวยที่บ้านพักตากอากาศของเชนทร์ที่เขาใหญ่นี้ด้วยความตั้งใจอยากให้อันนาและครอบครัวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เชนทร์จึงเชิญทุกคนมาที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม มีทั้งไร่องุ่นเขียวขจีและขุนเขาสูงตระหง่าน“เข้ามาชมด้านในก่อนสิครับ” เชนทร์เอ่ยเรียกอันนาที่ยืนยิ้มมองดูพ่อแม่และวาววาผลัดกันถ่ายรูปกันอย่างมีความสุขอยู่ที่สวนทางเข้าหน้าบ้าน“ได้ค่ะ”อันนาส่งยิ้มให้เชนทร์ก่อนที่จะเดินตามเขาเข้าไปด้านในบ้านบ้านพักตากอากาศสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความหรูหราและธรรมชาติ ตั้งอยู่บนทำเลที่เงียบสงบในเขาใหญ่ มีไร่องุ่นส่วนตัวรายล้อม สวนหน้าบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม และภายในบ้านตกแต่ง
แสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ๆสาดส่องลงที่ไร่องุ่นกว้างใหญ่นี้ สายลมอ่อนๆพัดผ่านทำให้ใบองุ่นเขียวชอุ่มโบกสะบัดอย่างนุ่มนวล ถึงแม้อากาศในตอนนี้จะร้อนไปสักนิด แต่ทุกคนก็ดูจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อยวาววา วีวี่ เดินลงจากรถกอล์ฟมาสมทบกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่ยืนรออยู่ทางเข้าไร่องุ่นอยู่ก่อนแล้วปวิธกำลังสนทนากับใครบางอยู่ เมื่อเห็นวาววาและวีวี่เดินมา เขาก็รีบกล่าวต้อนรับพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น“คุณวาววา คุณวีวี่ครับ นี่คือคุณพีท จากทีมสถาปนิกที่จะเข้ามาดูแลโปรเจคของพวกเราครับ”เขาแนะนำชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับวาววา ชายหนุ่มผิวขาว ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-ญี่ปุ่น ใบหน้าคมสันที่ยืนอยู่ข้างกาย พีทมีรูปร่างสูงโปร่งและมีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงสมส่วน ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อสบตาวาววาราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกเห็นกลิ่นหอมหวานขององุ่นสุกฟุ้งไปทั่วแปลงที่พวกเขากำลังเดินชม ภาพของเหล่าคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวพวงองุ่นสีม่วงอมแดงสดใส สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งนัก ทุกคนยิ่งรู้สึกปร
ในห้องนั่งเล่นของบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่ราเชนทร์เป็นเจ้าของ วาววาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ร่างกายยังคงสั่นระริกจากความตกใจที่เชนทร์อุ้มเธอกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางมาเป็นระยะทางไกลถึงสองกิโลเมตรในพริบตา“ถ้าฉันช็อคตายไปจะทำยังไงหา!!!” วาววาโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิดและยังคงหอบหายใจแรงอยู่“ให้กัดไหมละ จะได้เป็นอมตะเหมือนกัน?”แววตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เจ้าแวมไพร์ พลางคิดในใจอย่างหงุดหงิดถึงตัวละครเจ้าแวมไพร์ที่เธอสร้างขึ้นมา โรแมนติกเฉพาะกับอันนา แต่กับคนอื่นนั้นขวางโลกใส่ทุกคน“ขอบคุณที่ให้ยืม” เชนทร์กล่าวพร้อมยื่นไอแพดของวาววาคืนให้เธอวาววารับไอแพดคืนมาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปจากความขุ่นเคืองเมื่อครู่ กลายเป็นความสงสัยเล็กๆ“ไม่ใช้แล้วเหรอ?” เธอถาม“ไม่แล้วล่ะ” เชนทร์ตอบพร้อมคว้าขวดไวน์แดงที่ถูกเตรียมอยู่บนโต๊ะมา แล้วรินมันลงไปในแก้วคริสตัลสองใบอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาว่างเปล่า
ความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านทั่วร่างกายเมื่อวาววาเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและแสงแดดอุ่นๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แต่ความสับสนในใจจากคำพูดของเชนทร์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ไม่หาย“มันไม่ใช่ประโยคบอกรักใช่ไหม?” วาววาพึมพำกับตนเอง เธอพยายามนึกถึงนิสัยของเชนทร์ที่สร้างขึ้นมาและพล็อตเรื่องนิยายทีเธอเขียน‘ราเชนทร์’ หรือชื่อเดิมว่า ‘อ็องเดร’ นิสัยพื้นฐาน ร่าเริง สนุกสนาน ชอบความท้าทาย กล้าหาญ ดื้อรั้น ขี้เล่น ชอบแหย่ ชอบแกล้ง แต่หลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เขาก็มีแต่ความเบื่อจนกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่สุงสิงกับใคร ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เขาเป็นคนโรแมนติกกับคนรักมาก รักใครรักจริง หึงหวงแฟนเป็นที่หนึ่ง“แล้วที่เราใจเต้นเมื่อคืน...เพราะรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่านะ...” วาววาครุ่นคิดในใจ“คุณวาครับ คุณวา...”&
คฤหาสน์หลังงามมูลค่าร้อยล้านหลังนี้ดูราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย เชนทร์ก้าวออกมาจากประตูบ้านกว้าง สัมภาระของเขาถูกคนขับรถนำไปเก็บไว้บนรถที่จอดรออยู่ด้านนอก พร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้ในจังหวะเดียวกัน เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาหันไปมอง เห็นอันนาเดินเข้ามาพอดี เธอยิ้มทักทายเล็กน้อย“สวัสดีค่ะคุณเชนทร์”“สวัสดีครับ”อันนาเฝ้ามองคนขับรถที่กำลังวุ่นวายอยู่กับสัมภาระของเชนทร์ อยู่ที่ท้ายรถ“คุณเชนทร์กำลังจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”“ครับ”“ขนของไปเยอะแบบนี้ สงสัยไปค่อนข้างนานเลยใช่ไหมคะ?” อันนาถามด้วยความสุภาพ“น่าจะประมาณสองสามอาทิตย์ครับ”ความรู้สึกเสียดายฉายชัดในแววตาของเธอ เมื่อนึกถึงวันที่ไม่ได้เจอเขาบ่อยเหมือนเคย“อ่อ คุณเชนทร์คะ... พอดีฉันทำขนมมาฝากหนูใบบัว" อันนากล่าวพร้อมยื่นถุงขนมมาใ
วาววาในฐานะผู้บริหารการตลาดกำลังเตรียมตัวสำหรับการประชุมสำคัญที่กำลังจะมาถึง แต่ในใจกลับว้าวุ่นไม่หาย เหตุการณ์ในวันที่เธอได้พบกับหญิงสาวคนนั้นที่มีลักษณะภายนอกตรงกับอันนาในนิยายที่เธอเขียนทุกประการยังคงวนเวียนอยู่ในหัวแม้ว่าเธอจะเป็นผู้บริหารที่แข็งแกร่ง แต่ความรู้สึกกังวลที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอแสงแดดยามสายสาดส่องลงบนใบหน้าคมสันของเชนทร์ ขณะที่เขานั่งอยู่ในสวน ในมือถือถ้วยกาแฟไว้ ดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนธรรมชาติมองขึ้นไปยังท้องฟ้าสีคราม ก่อนจะยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบช้าๆเสียงฝีเท้าเบาๆดังขึ้นมาจากประตูทางเข้าบ้าน เขาหันไปมองด้วยความสงสัยเล็กน้อย หญิงสาวร่างโปร่งสวมเดรสเรียบง่ายก้าวเข้ามา สายตาของทั้งคู่ปะทะกันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย ยิ้มอย่างสุภาพเพื่อกล่าวทักทายเชนทร์ยิ้มตอบกลับคุณครูอันนา ความรู้สึกคุ้นเคยมันคืบคลานเข้ามาในใจ ทำให้เขาต้องหยุดคิดทบทวนตัวเอง หรือจะเป็นเพราะในอดีตที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการตามหาอันนาที่มีเชื้อสายลูกครึ่งและเป็นบรรณารักษ์เป็น
วันพักร้อนที่วาววาวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาพักผ่อนอย่างสบายๆ กลับต้องเริ่มต้นด้วยการวิ่งรอกเข้าออฟฟิศเพื่อจัดการงานด่วนด่วนที่เข้ามาแม้ว่าเธอจะอยากจะขี้เกียจอยู่บนเตียงนุ่มๆ แต่ความรับผิดชอบก็ผลักดันให้เธอต้องลุกขึ้นมาทำงานจนเสร็จสิ้น ก่อนจะขับรถตามโลเคชั่นที่เชนทร์ส่งให้เธอมา“ฉันมาถึงแล้วนะ”ทันทีที่วาววาจอดรถถึงจุดหมายก็กดโทรศัพท์หาเชนทร์เพื่อแจ้งให้เขาทราบ ไม่นานนัก ประตูรั้วก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกอัตโนมัติ เผยให้เห็นสวนสวยที่ร่มรื่นและน้ำพุกลางวงเวียนที่พ่นละอองน้ำระยิบระยับ สวนดอกไม้หลากสีสันเบ่งบานสะพรั่งต้อนรับเธอเข้าสู่บ้านหลังใหญ่รถที่ขับโดยวาววาจอดนิ่งสนิท เธอค่อยๆ ก้าวลงจากรถและเงยหน้ามองขึ้นไปยังตัวบ้าน ร่างสูงสง่าของเชนทร์เดินลงมาจากบันไดอย่างช้าๆ ด้านข้างมีแม่บ้านหนึ่งคนในชุดกระโปรงสีฟ้ายืนคอยต้อนรับวาววาเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่นี้ที่เคยปรากฏในจินตนาการของเธอผ่านนิยายที่เธอเขียน ความหรูหราอลังการของทุกตารางนิ้วทำให้เธออ้าปากค้างไปเลยทีเดียว
ยามค่ำคืนแสนสงบ แสงดาวระยิบระยับแข่งกันบนผืนฟ้าสีดำสนิท มีเพียงเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งเป็นจังหวะทำให้ค่ำคืนนี้ดูอบอุ่นใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ตะวันตกยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ฉลองวันเกิดโดยผู้หญิงคนที่เขารักคนนี้เป็นคนจัดการและดูแลทุกอย่างจนทำให้ในค่ำคืนนี้ดูสมบูรณ์แบบที่สุดดินเนอร์ริมทะเลเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก วาววายิ้มร่า ขณะเดินเข้าที่พักไปหยิบเค้ก แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงฝ่ามืออบอุ่นโอบรอบเอวเบาๆ เมื่อหันไปสบตาเชนทร์ หัวใจก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ ผมมีความสุขที่สุดเลย” เขาโน้มตัวลงหอมแก้มเธอพร้อมกับกระซิบขอบคุณเบาๆที่ข้างหู“ฉันดีใจนะที่คุณชอบ” วาววาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส “ปะ...ไปกินเค้กกัน ร้านนี้อร่อยนะฉันชิมแล้ว”“อร่อยจริงเหรอ?” เขาถามในขณะที่ยังไม่คลายกอดจากเธอ “ขอลองชิมหน่อยสิ”วาววาหยิบช้อนเล็กขึ้นมาเตรียมจะตักเค้กให้เขา แต่ก็ถูกร่างสูงจู่โจมกอดเธอจากด
“ผมถึงแล้วนะ”เชนทร์ก้าวลงจากรถคันหรูที่เพิ่งมาส่งเขา ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้นรีสอร์ท เขาก็รีบโทรบอกวาววา สายตามองไปยังตัวอาคารที่เงียบสงบ ด้านในยังคงมืดมิดราวกับไม่มีใครอยู่คนขับรถของเขานำกระเป๋าใบเล็กวางให้เขาที่หน้าประตูทางเข้ารีสอร์ทนี้ ก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะขับรถออกไป ทิ้งให้เชนทร์ยืนอยู่คนเดียวในความมืด“เดินเข้าไปรอด้านในได้เลย อีกไม่นานฉันก็จะถึงแล้วเหมือนกัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยของวาววาขณะที่โกหกเขาไปอย่างหน้าตาเฉย เพราะแท้จริงแล้วเธอแอบอยู่ด้านใน แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะเห็นสีหน้าของเขาเมื่อพบกับเซอร์ไพรส์ที่เตรียมไว้เชนทร์ผลักประตูเข้าไปในห้องที่มืดสนิท ทันใดนั้น เสียงเพลง Happy Birthday ก็ดังขึ้นจากความมืด
หลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตลอดช่วงที่พ่อแม่ของผู้บริหารสาวไฟแรงอย่างวาววาไปทริปต่างประเทศ ในที่สุดวันนี้ท่านเจ้าของศูนย์การค้าก็กลับมาทำงานเสียทีวาววาลาพักร้อน และแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้ตื่นสายๆ นอนขดตัวอยู่บนเตียง แล้วลืมเรื่องงานไปสักพัก..สายลมทะเลพัดโชยมาปะทะใบหน้าของวาววา ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อันที่จริงเธอวางแผนพักร้อนเพราะรู้ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญอย่างวันเกิดของเชนทร์เลยอยากที่จะเซอร์ไพรส์เขาหลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดวาววาก็เลือกที่พักริมทะเลแห่งนี้ ด้วยคำแนะนำของมิเกลเพื่อนรักวาววาและมิเกลยืนคุยกันอย่างสนุกสนานริมชายหาด พลางยืนมองเหล่าพนักงานที่กำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้นด้วยความตื่นเต้น และเธอหวังว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบ“เตรียมขนาดนี้ฉันนึกว่าแกจะขอคุณราเชนทร์แต่งงาน” มิเกลแซวหยอก“วันเกิดก็พอค่ะเพื่อน!” วาววาหัวเราะเบาๆ “ยังไงก็ขอบใจแกนะ ที่พักสวยมากเลย แถมยังลดราคาให้เหลือครึ่งเดียวอีก
วันงานคอนเสิร์ตของ Evan Crimson พีทในชุดลำลองเดินตรงมายังรถหรูที่วาววารออยู่ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น การไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้มันเหมือนเป็นการออกเดทแบบไม่เป็นทางการที่เขาตั้งตารอครืดดคนขับรถของวาววาเปิดผลักประตูรถด้านข้างออกกว้างให้พีท ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นคนในรถไม่ได้มีแต่เพียงวาววาและเพื่อนสนิทของเธอที่คอยอยู่ แต่ยังมีเชนทร์อีกด้วย“สวัสดีค่ะคุณพีท เชิญค่ะ” วาววากล่าวต้อนรับเสียงใส"สวัสดีครับคุณวา คุณเชนทร์" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้าที่ดูงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตรงไปนั่งข้างมิเกลที่ว่างอยู่&nbs
แสงไฟนีออนสีสันสดใสจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนดิน แต่บนคอนโดชั้น 26 กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น เชนทร์จูบหน้าผากวาววาเบาๆ ทั้งสองยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับ เพื่อให้เธอได้พักผ่อนจากวันที่เหนื่อยล้า“เดี๋ยว! คุณแน่ใจเหรอว่าจะกระโดดลงไป?” เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตากังวลเล็กน้อย“ทำไมละ? ผมก็แค่โดดขึ้นโดดลงปกติ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเจ้าเล่ห์ “หรือจะให้ผมอยู่นอนกอดคุณที่นี่ดี?”“ฉันหมายถึง...คุณแน่ใจนะว่าปลอดภัย คุณบอกฉันเองว่าวันนี้คุณกระโดดตั้งสองสามรอบกว่าจะขึ้นมาที่นี่ได้ มิหนำซ้ำยังทุกลักทุเลกว่าจะปืนขึ้นมาที่ระเบียงนี้ได้อีก” เธอเตือนเขาให้จดจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
หลังจากวันที่แวมไพร์ตัวป่วนถามจี้จนใจของเธอสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาก็โผล่เข้ามาอยู่ในหัวของเธอแทบจะทุกวินาทีวาววาเดินไปที่ประตูระเบียงกระจกใสที่เพิ่งซ่อมเสร็จใหม่เอี่ยม สายตาของเธอไล่เรียงไปตามรอยต่อของกระจก ก่อนจะหยุดลงที่สลักประตูครั้งนี้แทนที่จะล็อคประตู เธอเลือกที่จะปลดล็อคมันออก เผื่อว่า... เจ้าแวมไพร์จะแวะมาเยี่ยมเยียนจะได้ไม่ต้องพังประตูของเธออีกแต่บางความคิดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเธอไม่ใช่อันนา เธอคือวาววา คนละคนกัน แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้กับเธออันที่จริง...นิยายแวมไพร์ที่เธอเขียน แม้จะตั้งชื่อและกำหนดนิสัยตัวละครหลักไปแล้ว แต่โครงเรื่องนิยายแวมไพร์ของเธอยังคงค้างคาอยู่แค่ครึ่งทาง ทั้งพล็อตเรื่องและตอนจบก็ยังไม่มีอะไรที่แน่ชัดกรื่อ กรื่อเสียงริงโทนมือถือของวาววาดังขึ้น เธอที่กำลังใช้เวลาว่างนั่งดูซีรีส์ต้องก้มมองหน้าจอที่แสดงชื่อผู้ติด