แสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ๆสาดส่องลงที่ไร่องุ่นกว้างใหญ่นี้ สายลมอ่อนๆพัดผ่านทำให้ใบองุ่นเขียวชอุ่มโบกสะบัดอย่างนุ่มนวล ถึงแม้อากาศในตอนนี้จะร้อนไปสักนิด แต่ทุกคนก็ดูจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อย
วาววา วีวี่ เดินลงจากรถกอล์ฟมาสมทบกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่ยืนรออยู่ทางเข้าไร่องุ่นอยู่ก่อนแล้ว
ปวิธกำลังสนทนากับใครบางอยู่ เมื่อเห็นวาววาและวีวี่เดินมา เขาก็รีบกล่าวต้อนรับพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
“คุณวาววา คุณวีวี่ครับ นี่คือคุณพีท จากทีมสถาปนิกที่จะเข้ามาดูแลโปรเจคของพวกเราครับ”
เขาแนะนำชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับวาววา ชายหนุ่มผิวขาว ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-ญี่ปุ่น ใบหน้าคมสันที่ยืนอยู่ข้างกาย พีทมีรูปร่างสูงโปร่งและมีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงสมส่วน ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อสบตาวาววาราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกเห็น
กลิ่นหอมหวานขององุ่นสุกฟุ้งไปทั่วแปลงที่พวกเขากำลังเดินชม ภาพของเหล่าคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวพวงองุ่นสีม่วงอมแดงสดใส สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งนัก ทุกคนยิ่งรู้สึกประทับใจเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติหวานฉ่ำขององุ่นสดๆ ที่ปลูกโดยธรรมชาติ
ต้นกล้า เลขาของปวิธวิ่งเข้ามาหาเขา กระซิบอะไรบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายต้องรีบแจ้งให้ทุกคนทราบ
“เชิญทุกท่านเยี่ยมชมไร่องุ่นได้ตามอัธยาศัยเลยนะครับ ทานองุ่นได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ และหลังจากนั้น เลขาของผมจะคอยอำนวยความสะดวกพาทุกท่านไปยังโรงผลิตไวน์และร้านอาหารของรีสอร์ทเพื่อทานมื้อเย็น ผมต้องขอตัวไปพบแขกคนสำคัญก่อนนะครับ”
รอยยิ้มใจดีผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา ก่อนจะเอ่ยคำลาแล้วเดินจากไป
วิวอันงดงามในไร่องุ่นนี้สวยงามจนทำให้หลายๆคนหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกภาพเก็บไว้ วาววาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
“คุณวาววามาที่นี่บ่อยไหมครับ?” เสียงอบอุ่นจากพีทที่ตอนนี้ยืนข้างวาววาเอ่ยถามเธอ
“วาเพิ่งมาครั้งนี้ครั้งแรกค่ะ แต่วาชอบบรรยากาศที่นี่นะคะ สดชื่นมาก” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะถามเขากลับ
“แล้วคุณพีทล่ะคะมาที่นี่บ่อยไหม?”
“ค่อนข้างบ่อยเลยครับ ผมกับทีมต้องมาตรวจสอบแบบก่อสร้างตั้งแต่เริ่มโครงการ” เขาพูดพร้อมชี้มือออกไปด้านข้าง
“ผมเพิ่งมาดูแลเฉพาะบ้านพักมุมนู้นที่ทาง Zenith Mall พักอยู่นะครับ เพราะโปรคเจคอื่นพ่อผมเป็นคนดูแล”
“ว้าว! ถ้าวาต้องการสร้างบ้านในอนาคต สงสัยวาต้องขอใช้บริการของคุณพีทแล้ว” เธอกล่าวชื่นชม
ป้อก!
อะไรบางอย่างกระทบใส่หัวของพีทในขณะที่ทั้งคู่กำลังสนทนากัน เม็ดองุ่นสีม่วงแดงกลมโตกลิ้งอยู่บนพื้น วาววาขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดในใจว่า องุ่นลูกโตๆ ตกลงมาใส่หัวแบบนี้มันดูแปลก แทนที่จะหล่นมาจากด้านบน แต่ดันหล่นมาทางด้านข้าง เหมือนมีคนโยนมามากกว่าจะร่วงลงมาเอง
“สงสัยองุ่นพวกนี้คงอยากให้ผมกินมั้งครับ” พีทพูดติดตลก
รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าของวาววากับพีท พวกเขามองหน้ากันอย่างขบขัน
พลัก!
ทันใดนั้นเอง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพนักงานคนหนึ่งเซถลาจนตะกร้าองุ่นหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง องุ่นกระจายเกลื่อนกลาด วาววาและพีทรีบเข้าไปช่วยเหลือทันที
“เป็นอะไรไหมคะ?” วาววารีบพยุงพนักงานคนดังกล่าวที่ใส่หมวกสาน ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งทำให้เห็นหน้าพนักงานคนดังกล่าวได้ชัดเจน เธอคือผู้หญิงในวัยที่วาววาสามารถเรียกว่ายายได้
เสียงร้องตกใจของวาววาทำให้ทุกสายตาในบริเวณนั้นหันมาจับจ้อง ต้นกล้ารีบวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์อย่างร้อนรน
“เดี๋ยวผมพายายไปพักเองครับ” ต้นกล้าพูดพร้อมพยุงแขนคุณยาย “คุณยายแกทำงานที่นี่มานานเลยผูกพัน จริงๆแกนั่งคัดองุ่นด้านในได้ แต่ชอบแอบออกมาเก็บองุ่น ยิ่งตอนนี้แดดค่อนข้างแรงเลยจะเป็นลมได้ง่าย”
“ผมช่วยครับ”
พีทกล่าวและช่วยกันพาคุณยายเดินไปนั่งพักในที่ร่ม
ห่างออกไปไม่ไกลนัก ณ ที่พักเล็กๆ สำหรับคนงานเก็บองุ่น เชนทร์ยืนจ้องมองเหตุการณ์ดังกล่าว ภาพที่วาววาช่วยพยุงคุณยาย ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่อันนาช่วยหญิงชราข้ามถนน เขาหรี่ตามองอย่างพินิจพิเคราะห์ คล้ายกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
หลังจากทัวร์ชมไร่องุ่นอันกว้างใหญ่ของบริษัทผลิตไวน์ชื่อดังระดับโลก และได้เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตไวน์อย่างละเอียด ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ร้านอาหารของรีสอร์ท
เสียงเพลงคลอเบาๆ ในร้านอาหารสไตล์ยุโรปที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารฝรั่งและไทยฟิวชั่นที่ประยุกต์ได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกคนที่มานั่งทานอาหารรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข
“ขออนุญาตค่ะ” พนักงานสาวในร้านอาหารคนหนึ่งเดินมาด้วยท่าทางนอบน้อม ก่อนจะกระซิบกระซาบเรียกวาววาอย่างสุภาพ “คุณเชนทร์ให้มาแจ้งว่ารอพบคุณวาววาอยู่ในสวนด้านข้างร้านอาหารค่ะ”
วาววาพยักหน้าตอบรับ อันที่จริงตอนนี้เธอทานอาหารเสร็จมาสักพักแล้ว เพียงแต่เธอนั่งรอพี่สาวของเธอ เพื่อจะได้นั่งรถกอล์ฟกลับที่พักไปพร้อมกัน
“แป๊บนึงนะพี่วี่” วาววากล่าวก่อนเดินออกไป
บนภูเขาสูง อากาศเย็นยะเยือกในยามค่ำคืน ไฟสลัวตามทางเดินในสวนด้านข้างร้านอาหารส่องประกายระยิบระยับ วาววาก้าวเดินช้าๆ สายตาจับจ้องไปยังร่างสูงในชุดดำที่ยืนหันหลังอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เธอแทบจะมองไม่เห็นเขาเลย เพราะชุดสีดำที่เขาสวมดูจะกลืนไปกับเงามืด
“สวัสดีค่ะคุณราเชนทร์ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าคะ?” น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความยียวน
แสงจันทร์สีเงินยามค่ำคืนสาดส่องกระทบกับดวงตาสีแดงก่ำของราเชนทร์ที่จ้องมาที่วาววาอย่างไม่กระพริบ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไร้ซึ่งรอยยิ้มใดๆ สายตาของเขาเหมือนจะดูดกลืนเธอเข้าไป
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” วาววารู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย เธอถามย้ำอย่างสงสัย
เชนทร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง
“มีเรื่องจะคุยด้วย”
“อะไรเหรอ?” แววตากลมโตของวาววาจ้องมองเชนทร์เพื่อฟังคำตอบ
“คุยตรงนี้ไม่ได้”
“แล้วต้องคุยที่ไห..น อ๊ายยย!!!”
พลึบ!
ยังไม่ทันที่วาววาจะได้ตั้งตัว ฝ่ามือแข็งแกร่งก็คว้าเอวบางของเธอไว้ ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว เสียงกรีดร้องของเธอถูกกลืนหายไปในความเงียบ
ในห้องนั่งเล่นของบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่ราเชนทร์เป็นเจ้าของ วาววาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ร่างกายยังคงสั่นระริกจากความตกใจที่เชนทร์อุ้มเธอกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางมาเป็นระยะทางไกลถึงสองกิโลเมตรในพริบตา“ถ้าฉันช็อคตายไปจะทำยังไงหา!!!” วาววาโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิดและยังคงหอบหายใจแรงอยู่“ให้กัดไหมละ จะได้เป็นอมตะเหมือนกัน?”แววตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เจ้าแวมไพร์ พลางคิดในใจอย่างหงุดหงิดถึงตัวละครเจ้าแวมไพร์ที่เธอสร้างขึ้นมา โรแมนติกเฉพาะกับอันนา แต่กับคนอื่นนั้นขวางโลกใส่ทุกคน“ขอบคุณที่ให้ยืม” เชนทร์กล่าวพร้อมยื่นไอแพดของวาววาคืนให้เธอวาววารับไอแพดคืนมาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปจากความขุ่นเคืองเมื่อครู่ กลายเป็นความสงสัยเล็กๆ“ไม่ใช้แล้วเหรอ?” เธอถาม“ไม่แล้วล่ะ” เชนทร์ตอบพร้อมคว้าขวดไวน์แดงที่ถูกเตรียมอยู่บนโต๊ะมา แล้วรินมันลงไปในแก้วคริสตัลสองใบอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาว่างเปล่า
ความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านทั่วร่างกายเมื่อวาววาเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและแสงแดดอุ่นๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แต่ความสับสนในใจจากคำพูดของเชนทร์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ไม่หาย“มันไม่ใช่ประโยคบอกรักใช่ไหม?” วาววาพึมพำกับตนเอง เธอพยายามนึกถึงนิสัยของเชนทร์ที่สร้างขึ้นมาและพล็อตเรื่องนิยายทีเธอเขียน‘ราเชนทร์’ หรือชื่อเดิมว่า ‘อ็องเดร’ นิสัยพื้นฐาน ร่าเริง สนุกสนาน ชอบความท้าทาย กล้าหาญ ดื้อรั้น ขี้เล่น ชอบแหย่ ชอบแกล้ง แต่หลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เขาก็มีแต่ความเบื่อจนกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่สุงสิงกับใคร ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เขาเป็นคนโรแมนติกกับคนรักมาก รักใครรักจริง หึงหวงแฟนเป็นที่หนึ่ง“แล้วที่เราใจเต้นเมื่อคืน...เพราะรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่านะ...” วาววาครุ่นคิดในใจ“คุณวาครับ คุณวา...”&
หลังจากเดินทางกลับจากโคราชและทำงานต่อที่บริษัทในวันหยุดสุดสัปดาห์ วาววาก็ทิ้งร่างอันเหนื่อยล้าลงบนเตียงนอนในคอนโดที่เงียบสงบเธอใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจกลับมาที่คอนโดแห่งนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอจนมั่นใจว่าเพทายเลิกติดตามเธอ และงานเอกสารที่เก็บไว้ในคอนโดก่อนหน้านี้ที่ต้องสะสางก็เร่งรัด เธอจึงจำใจต้องมาที่นี่ประตูระเบียงที่เคยพังเพราะเชนทร์ ตอนนี้ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยถูกปิดอย่างมิดชิดความเหนื่อยทับถมเธอจนรู้สึกเหมือนกำลังจะล่องลอย ร่างกายเริ่มร้อนรุมจากภายในเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการป่วยกำลังจะมาเยือน แต่ความอ่อนเพลียมีอำนาจมากกว่า ทำให้เปลือกตาของเธอค่อยๆปิดลงโดยไม่ทันคิดถึงเรื่องอื่นอีกต่อไปแสงจันทร์ส่องกระทบร่างของวาววาที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับเตาผิงเล็กๆ วาววาตื่นลุกขึ้นเดินโซเซเข้าห้องน้ำกลางดึก จากนั้นเธอค่อยๆพาร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอไปที่โต๊ะทำงานแต่ก็เซเกือบล้มลง โชคดีที่มีแขนแกร่งเข้ามาประคองเธอไว้ได้ทัน“ผมเชนทร์เอง... ไม่ต้องตกใจ&r
หลังจากวันที่แวมไพร์ตัวป่วนถามจี้จนใจของเธอสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาก็โผล่เข้ามาอยู่ในหัวของเธอแทบจะทุกวินาทีวาววาเดินไปที่ประตูระเบียงกระจกใสที่เพิ่งซ่อมเสร็จใหม่เอี่ยม สายตาของเธอไล่เรียงไปตามรอยต่อของกระจก ก่อนจะหยุดลงที่สลักประตูครั้งนี้แทนที่จะล็อคประตู เธอเลือกที่จะปลดล็อคมันออก เผื่อว่า... เจ้าแวมไพร์จะแวะมาเยี่ยมเยียนจะได้ไม่ต้องพังประตูของเธออีกแต่บางความคิดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเธอไม่ใช่อันนา เธอคือวาววา คนละคนกัน แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้กับเธออันที่จริง...นิยายแวมไพร์ที่เธอเขียน แม้จะตั้งชื่อและกำหนดนิสัยตัวละครหลักไปแล้ว แต่โครงเรื่องนิยายแวมไพร์ของเธอยังคงค้างคาอยู่แค่ครึ่งทาง ทั้งพล็อตเรื่องและตอนจบก็ยังไม่มีอะไรที่แน่ชัดกรื่อ กรื่อเสียงริงโทนมือถือของวาววาดังขึ้น เธอที่กำลังใช้เวลาว่างนั่งดูซีรีส์ต้องก้มมองหน้าจอที่แสดงชื่อผู้ติด
แสงไฟนีออนสีสันสดใสจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนดิน แต่บนคอนโดชั้น 26 กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น เชนทร์จูบหน้าผากวาววาเบาๆ ทั้งสองยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับ เพื่อให้เธอได้พักผ่อนจากวันที่เหนื่อยล้า“เดี๋ยว! คุณแน่ใจเหรอว่าจะกระโดดลงไป?” เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตากังวลเล็กน้อย“ทำไมละ? ผมก็แค่โดดขึ้นโดดลงปกติ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเจ้าเล่ห์ “หรือจะให้ผมอยู่นอนกอดคุณที่นี่ดี?”“ฉันหมายถึง...คุณแน่ใจนะว่าปลอดภัย คุณบอกฉันเองว่าวันนี้คุณกระโดดตั้งสองสามรอบกว่าจะขึ้นมาที่นี่ได้ มิหนำซ้ำยังทุกลักทุเลกว่าจะปืนขึ้นมาที่ระเบียงนี้ได้อีก” เธอเตือนเขาให้จดจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
วันงานคอนเสิร์ตของ Evan Crimson พีทในชุดลำลองเดินตรงมายังรถหรูที่วาววารออยู่ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น การไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้มันเหมือนเป็นการออกเดทแบบไม่เป็นทางการที่เขาตั้งตารอครืดดคนขับรถของวาววาเปิดผลักประตูรถด้านข้างออกกว้างให้พีท ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นคนในรถไม่ได้มีแต่เพียงวาววาและเพื่อนสนิทของเธอที่คอยอยู่ แต่ยังมีเชนทร์อีกด้วย“สวัสดีค่ะคุณพีท เชิญค่ะ” วาววากล่าวต้อนรับเสียงใส"สวัสดีครับคุณวา คุณเชนทร์" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้าที่ดูงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตรงไปนั่งข้างมิเกลที่ว่างอยู่&nbs
หลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตลอดช่วงที่พ่อแม่ของผู้บริหารสาวไฟแรงอย่างวาววาไปทริปต่างประเทศ ในที่สุดวันนี้ท่านเจ้าของศูนย์การค้าก็กลับมาทำงานเสียทีวาววาลาพักร้อน และแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้ตื่นสายๆ นอนขดตัวอยู่บนเตียง แล้วลืมเรื่องงานไปสักพัก..สายลมทะเลพัดโชยมาปะทะใบหน้าของวาววา ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อันที่จริงเธอวางแผนพักร้อนเพราะรู้ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญอย่างวันเกิดของเชนทร์เลยอยากที่จะเซอร์ไพรส์เขาหลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดวาววาก็เลือกที่พักริมทะเลแห่งนี้ ด้วยคำแนะนำของมิเกลเพื่อนรักวาววาและมิเกลยืนคุยกันอย่างสนุกสนานริมชายหาด พลางยืนมองเหล่าพนักงานที่กำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้นด้วยความตื่นเต้น และเธอหวังว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบ“เตรียมขนาดนี้ฉันนึกว่าแกจะขอคุณราเชนทร์แต่งงาน” มิเกลแซวหยอก“วันเกิดก็พอค่ะเพื่อน!” วาววาหัวเราะเบาๆ “ยังไงก็ขอบใจแกนะ ที่พักสวยมากเลย แถมยังลดราคาให้เหลือครึ่งเดียวอีก
วันเสาร์ แสงแดดยามเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ สาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ของห้องนอนบนคอนโดหรูกลางเมือง ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ ลงมาแตะใบหน้าของ "วาววา" หญิงสาววัย 27 ปี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟคั่วบดจากเครื่องชงอัตโนมัติลอยแตะจมูกปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ วาววาขยับตัวบนที่นอนนุ่มนิ่ม ลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงเหงา ยืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยล้าจากการนอนหลับ เธอพลิกตัวไปอีกด้านโดยที่ยังหลับตาอยู่ มือของเธอสัมผัสกับวัตถุบางอย่างที่แข็งและเย็น "อ๊ะ!" วาววาตกใจ ลืมตาสลึมสลือขึ้นมาและมองไปที่วัตถุที่เธอสัมผัสเมื่อครู่ พบว่ามันคือหน้าอกกว้างๆ ของชายหนุ่ม! “กรี๊ดดด!!!” นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง หัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกจากอก เขาคือใครกัน ทำไมเขาถึงมานอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอได้ พลึบ! เพราะเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจของวาววา ทำให้ชายหนุ่มที่หลับสนิทบนเตียงในชุดออลแบล็คลืมตาตื่นขึ้นด้วยความว่องไว ร่างกายของเขาพลิกตัวจากท่านอนลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน ประหนึ่งสัญชาตญาณนักล่าถูกปลุกให้ตื่น นัยน์ตาแดงก่ำของเขาจ้องมองมายังต้นตอของเสียงร้อง และแยกเขี้ยวทั้งสองในปาก
หลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตลอดช่วงที่พ่อแม่ของผู้บริหารสาวไฟแรงอย่างวาววาไปทริปต่างประเทศ ในที่สุดวันนี้ท่านเจ้าของศูนย์การค้าก็กลับมาทำงานเสียทีวาววาลาพักร้อน และแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้ตื่นสายๆ นอนขดตัวอยู่บนเตียง แล้วลืมเรื่องงานไปสักพัก..สายลมทะเลพัดโชยมาปะทะใบหน้าของวาววา ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อันที่จริงเธอวางแผนพักร้อนเพราะรู้ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญอย่างวันเกิดของเชนทร์เลยอยากที่จะเซอร์ไพรส์เขาหลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดวาววาก็เลือกที่พักริมทะเลแห่งนี้ ด้วยคำแนะนำของมิเกลเพื่อนรักวาววาและมิเกลยืนคุยกันอย่างสนุกสนานริมชายหาด พลางยืนมองเหล่าพนักงานที่กำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้นด้วยความตื่นเต้น และเธอหวังว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบ“เตรียมขนาดนี้ฉันนึกว่าแกจะขอคุณราเชนทร์แต่งงาน” มิเกลแซวหยอก“วันเกิดก็พอค่ะเพื่อน!” วาววาหัวเราะเบาๆ “ยังไงก็ขอบใจแกนะ ที่พักสวยมากเลย แถมยังลดราคาให้เหลือครึ่งเดียวอีก
วันงานคอนเสิร์ตของ Evan Crimson พีทในชุดลำลองเดินตรงมายังรถหรูที่วาววารออยู่ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น การไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้มันเหมือนเป็นการออกเดทแบบไม่เป็นทางการที่เขาตั้งตารอครืดดคนขับรถของวาววาเปิดผลักประตูรถด้านข้างออกกว้างให้พีท ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นคนในรถไม่ได้มีแต่เพียงวาววาและเพื่อนสนิทของเธอที่คอยอยู่ แต่ยังมีเชนทร์อีกด้วย“สวัสดีค่ะคุณพีท เชิญค่ะ” วาววากล่าวต้อนรับเสียงใส"สวัสดีครับคุณวา คุณเชนทร์" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้าที่ดูงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตรงไปนั่งข้างมิเกลที่ว่างอยู่&nbs
แสงไฟนีออนสีสันสดใสจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนดิน แต่บนคอนโดชั้น 26 กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น เชนทร์จูบหน้าผากวาววาเบาๆ ทั้งสองยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับ เพื่อให้เธอได้พักผ่อนจากวันที่เหนื่อยล้า“เดี๋ยว! คุณแน่ใจเหรอว่าจะกระโดดลงไป?” เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตากังวลเล็กน้อย“ทำไมละ? ผมก็แค่โดดขึ้นโดดลงปกติ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเจ้าเล่ห์ “หรือจะให้ผมอยู่นอนกอดคุณที่นี่ดี?”“ฉันหมายถึง...คุณแน่ใจนะว่าปลอดภัย คุณบอกฉันเองว่าวันนี้คุณกระโดดตั้งสองสามรอบกว่าจะขึ้นมาที่นี่ได้ มิหนำซ้ำยังทุกลักทุเลกว่าจะปืนขึ้นมาที่ระเบียงนี้ได้อีก” เธอเตือนเขาให้จดจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
หลังจากวันที่แวมไพร์ตัวป่วนถามจี้จนใจของเธอสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาก็โผล่เข้ามาอยู่ในหัวของเธอแทบจะทุกวินาทีวาววาเดินไปที่ประตูระเบียงกระจกใสที่เพิ่งซ่อมเสร็จใหม่เอี่ยม สายตาของเธอไล่เรียงไปตามรอยต่อของกระจก ก่อนจะหยุดลงที่สลักประตูครั้งนี้แทนที่จะล็อคประตู เธอเลือกที่จะปลดล็อคมันออก เผื่อว่า... เจ้าแวมไพร์จะแวะมาเยี่ยมเยียนจะได้ไม่ต้องพังประตูของเธออีกแต่บางความคิดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเธอไม่ใช่อันนา เธอคือวาววา คนละคนกัน แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้กับเธออันที่จริง...นิยายแวมไพร์ที่เธอเขียน แม้จะตั้งชื่อและกำหนดนิสัยตัวละครหลักไปแล้ว แต่โครงเรื่องนิยายแวมไพร์ของเธอยังคงค้างคาอยู่แค่ครึ่งทาง ทั้งพล็อตเรื่องและตอนจบก็ยังไม่มีอะไรที่แน่ชัดกรื่อ กรื่อเสียงริงโทนมือถือของวาววาดังขึ้น เธอที่กำลังใช้เวลาว่างนั่งดูซีรีส์ต้องก้มมองหน้าจอที่แสดงชื่อผู้ติด
หลังจากเดินทางกลับจากโคราชและทำงานต่อที่บริษัทในวันหยุดสุดสัปดาห์ วาววาก็ทิ้งร่างอันเหนื่อยล้าลงบนเตียงนอนในคอนโดที่เงียบสงบเธอใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจกลับมาที่คอนโดแห่งนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอจนมั่นใจว่าเพทายเลิกติดตามเธอ และงานเอกสารที่เก็บไว้ในคอนโดก่อนหน้านี้ที่ต้องสะสางก็เร่งรัด เธอจึงจำใจต้องมาที่นี่ประตูระเบียงที่เคยพังเพราะเชนทร์ ตอนนี้ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยถูกปิดอย่างมิดชิดความเหนื่อยทับถมเธอจนรู้สึกเหมือนกำลังจะล่องลอย ร่างกายเริ่มร้อนรุมจากภายในเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการป่วยกำลังจะมาเยือน แต่ความอ่อนเพลียมีอำนาจมากกว่า ทำให้เปลือกตาของเธอค่อยๆปิดลงโดยไม่ทันคิดถึงเรื่องอื่นอีกต่อไปแสงจันทร์ส่องกระทบร่างของวาววาที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับเตาผิงเล็กๆ วาววาตื่นลุกขึ้นเดินโซเซเข้าห้องน้ำกลางดึก จากนั้นเธอค่อยๆพาร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอไปที่โต๊ะทำงานแต่ก็เซเกือบล้มลง โชคดีที่มีแขนแกร่งเข้ามาประคองเธอไว้ได้ทัน“ผมเชนทร์เอง... ไม่ต้องตกใจ&r
ความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านทั่วร่างกายเมื่อวาววาเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและแสงแดดอุ่นๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แต่ความสับสนในใจจากคำพูดของเชนทร์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ไม่หาย“มันไม่ใช่ประโยคบอกรักใช่ไหม?” วาววาพึมพำกับตนเอง เธอพยายามนึกถึงนิสัยของเชนทร์ที่สร้างขึ้นมาและพล็อตเรื่องนิยายทีเธอเขียน‘ราเชนทร์’ หรือชื่อเดิมว่า ‘อ็องเดร’ นิสัยพื้นฐาน ร่าเริง สนุกสนาน ชอบความท้าทาย กล้าหาญ ดื้อรั้น ขี้เล่น ชอบแหย่ ชอบแกล้ง แต่หลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เขาก็มีแต่ความเบื่อจนกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่สุงสิงกับใคร ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เขาเป็นคนโรแมนติกกับคนรักมาก รักใครรักจริง หึงหวงแฟนเป็นที่หนึ่ง“แล้วที่เราใจเต้นเมื่อคืน...เพราะรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่านะ...” วาววาครุ่นคิดในใจ“คุณวาครับ คุณวา...”&
ในห้องนั่งเล่นของบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่ราเชนทร์เป็นเจ้าของ วาววาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ร่างกายยังคงสั่นระริกจากความตกใจที่เชนทร์อุ้มเธอกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางมาเป็นระยะทางไกลถึงสองกิโลเมตรในพริบตา“ถ้าฉันช็อคตายไปจะทำยังไงหา!!!” วาววาโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิดและยังคงหอบหายใจแรงอยู่“ให้กัดไหมละ จะได้เป็นอมตะเหมือนกัน?”แววตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เจ้าแวมไพร์ พลางคิดในใจอย่างหงุดหงิดถึงตัวละครเจ้าแวมไพร์ที่เธอสร้างขึ้นมา โรแมนติกเฉพาะกับอันนา แต่กับคนอื่นนั้นขวางโลกใส่ทุกคน“ขอบคุณที่ให้ยืม” เชนทร์กล่าวพร้อมยื่นไอแพดของวาววาคืนให้เธอวาววารับไอแพดคืนมาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปจากความขุ่นเคืองเมื่อครู่ กลายเป็นความสงสัยเล็กๆ“ไม่ใช้แล้วเหรอ?” เธอถาม“ไม่แล้วล่ะ” เชนทร์ตอบพร้อมคว้าขวดไวน์แดงที่ถูกเตรียมอยู่บนโต๊ะมา แล้วรินมันลงไปในแก้วคริสตัลสองใบอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาว่างเปล่า
แสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ๆสาดส่องลงที่ไร่องุ่นกว้างใหญ่นี้ สายลมอ่อนๆพัดผ่านทำให้ใบองุ่นเขียวชอุ่มโบกสะบัดอย่างนุ่มนวล ถึงแม้อากาศในตอนนี้จะร้อนไปสักนิด แต่ทุกคนก็ดูจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อยวาววา วีวี่ เดินลงจากรถกอล์ฟมาสมทบกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่ยืนรออยู่ทางเข้าไร่องุ่นอยู่ก่อนแล้วปวิธกำลังสนทนากับใครบางอยู่ เมื่อเห็นวาววาและวีวี่เดินมา เขาก็รีบกล่าวต้อนรับพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น“คุณวาววา คุณวีวี่ครับ นี่คือคุณพีท จากทีมสถาปนิกที่จะเข้ามาดูแลโปรเจคของพวกเราครับ”เขาแนะนำชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับวาววา ชายหนุ่มผิวขาว ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-ญี่ปุ่น ใบหน้าคมสันที่ยืนอยู่ข้างกาย พีทมีรูปร่างสูงโปร่งและมีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงสมส่วน ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อสบตาวาววาราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกเห็นกลิ่นหอมหวานขององุ่นสุกฟุ้งไปทั่วแปลงที่พวกเขากำลังเดินชม ภาพของเหล่าคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวพวงองุ่นสีม่วงอมแดงสดใส สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งนัก ทุกคนยิ่งรู้สึกปร
----------...นิยายของวาววา......“แม่! ถ่ายรูปให้หนูหน่อย” วาววาร้องเรียกเสียงใส พร้อมยื่นมือถือให้แม่ของเธอถ่ายรูปเธอกับวิวสวยที่บ้านพักตากอากาศของเชนทร์ที่เขาใหญ่นี้ด้วยความตั้งใจอยากให้อันนาและครอบครัวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เชนทร์จึงเชิญทุกคนมาที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม มีทั้งไร่องุ่นเขียวขจีและขุนเขาสูงตระหง่าน“เข้ามาชมด้านในก่อนสิครับ” เชนทร์เอ่ยเรียกอันนาที่ยืนยิ้มมองดูพ่อแม่และวาววาผลัดกันถ่ายรูปกันอย่างมีความสุขอยู่ที่สวนทางเข้าหน้าบ้าน“ได้ค่ะ”อันนาส่งยิ้มให้เชนทร์ก่อนที่จะเดินตามเขาเข้าไปด้านในบ้านบ้านพักตากอากาศสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความหรูหราและธรรมชาติ ตั้งอยู่บนทำเลที่เงียบสงบในเขาใหญ่ มีไร่องุ่นส่วนตัวรายล้อม สวนหน้าบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม และภายในบ้านตกแต่ง