เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นดังกังวานไปทั่วบริเวณ วาววาเดินมาอย่างสง่างามในชุดสูทสีเบจที่เข้ารูป ชุดผมเกล้าเก็บเรียบร้อยเผยให้เห็นใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ จุดมุ่งหมายของเธอคือลงไปตรวจสอบความคืบหน้าของสถานที่จัดอีเวนท์ชั้นหนึ่ง ในขณะที่ตอนนี้เธอกำลังสนทนากับใครบางคนผ่านโทรศัพท์มือถือ
“ขอโทษจริงๆเกล เมื่อคืนฉันแพ้กลิ่นดอกไม้หนักมากเลยต้องรีบกลับก่อนโดยไม่ได้บอกแก” วาววาพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกแก เมื่อคืนฉันคุยจนได้ Contact ท่านรอง ผบ.ตร.เรียบร้อย ฮ่าๆๆ ว่าแต่แกเถอะ...อาการดีขึ้นไหม?”
“โอเคขึ้นแล้ว...แกนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ มาทำตำแหน่งขายให้ฉันที่บริษัทเถอะ”
วาววาหยอกพร้อมกล่าวชื่นชมและยอมรับทักษะการเข้าหาคนของเพื่อนรักคนนี้
“เมื่อคืนคุณราเชนทร์ก็หายไปหลังจากที่แกลุกไปแค่ไม่กี่นาที แก...แอบหนีไปกับคุณราเชนทร์หรือเปล่า?”
มิเกลถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ทำเอาวาววาต้องหัวเราะกลบเกลื่อน เพราะคำพูดของมิเกลก็ไม่ผิดไปจากความจริงเลย
“ฉันกลับบ้านนน จะไปไหนกับเขาได้ล่ะ”
“แต่แกขึ้นเสียงสูงแปลกๆ ตอนแรกฉันแค่หยอก แต่พอแกตอบเสียงสูงกลับมา ฉันนี้เอ๊ะ!แล้วนะ!”
“ฉันก็เพิ่งจะเจอคุณราเชนทร์ครั้งแรกวันเดียวกับแกนั่นแหละ!”
“คุณราเชนทร์หล่อนะแกว่าไหม?” เสียงปลายสายเอ่ยชม
“ก็...ได้อยู่แหละ”
ถึงแม้ความจริงราเชนทร์จะมีใบหน้าคมสไตล์ยุโรป รูปร่างสูงโปร่งที่ดูอบอุ่นน่ากอด แต่สำหรับวาววา ความหล่อนั้นถูกนิสัยขวางโลกของเขาลบกลบไปสิ้น
“เนี่ย!! ฉันว่าแกแปลกๆล่ะ! ปกติเราไม่คุยเรื่องความหล่อผู้ชายกันแบบนี้”
“อะ..อะไรของแก?” วาววากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“ฉันเป็นเพื่อนแกมากี่ปี? แกมีซัมติงอะไรกับคุณราเชนทร์บอกฉันมาซะดีๆ” มิเกลไม่ยอมแพ้ เธอสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่ผิดปกติของเพื่อนรักคนนี้ได้
“ไม่มี!” วาววารีบปฏิเสธ
“หรือแกชอบคุณราเชนทร์เหรอ!?”
“ไม่ใช่!!” วาววาตอบกลับเสียงดัง ก่อนจะรีบสูดหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติ “มิเกลโทษที แค่นี้ก่อนนะ...ฉันต้องไปตรวจงานก่อน บายเพื่อนเลิฟ”
วาววาตัดบทสนทนาด้วยความกังวลว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดพลาดไปมากกว่านี้
...
..
.
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่วาววาผู้หารสาวไฟแรงทำงานจนลืมมองเวลา
สามทุ่มแปดนาที
คงถึงเวลาที่เธอต้องกลับบ้านไปพักผ่อนเสียที เสียงฝนกระทบกระจกหน้าต่างดังเบาๆ สะกิดใจให้วาววาหันไปมองและคิดฟุ้งซ่านถึงเรื่องราวที่เชนทร์หลุดออกมาจากนิยายในวันฝนตกฟ้าร้องในวันนั้น
ไม่ทันไร สายฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ความคิดของเธอจินตนาการถึงเจ้าแวมไพร์ตัวป่วน ป่านนี้...เขาคงกำลังนั่งชาร์จแบตฯ ไอแพดอยู่ที่ตึกคาเฟ่เก่าซึ่งเขาแย่งซื้อมาสินะ คงรอคอยการปรากฏตัวของอันนาอยู่เป็นแน่
แสงไฟจากถนนด้านนอกส่องผ่านกระจกเก่าคร่ำคร่าของคาเฟ่ที่ถูกทิ้งร้างมาสักพัก ตึกที่เคยคึกคักด้วยเสียงหัวเราะและกลิ่นกาแฟในยามเช้า บัดนี้กลับเงียบสงัด เสียงฟ้าร้องดังเป็นระยะ ๆ เหมือนจะตอกย้ำความเดียวดายของผู้ที่นั่งอยู่ในนั้น
เชนทร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งในมุมมืดของร้าน คาเฟ่เก่าที่เขาเพิ่งซื้อมาด้วยราคาแพงกว่าราคาขายถึงห้าเท่า บางทีอาจเป็นเพราะประโยคที่วาววาเคยพูดติดตลกว่านี่อาจเป็นสถานที่ที่เขาหลุดออกมาจากนิยายที่เธอแต่ง เขาก็แค่ต้องการพิสูจน์ในทุกทางที่จะเป็นไปได้เพียงเพื่อให้ได้เจออันนาอีกครั้ง
เขาลองเปิดไอแพดของวาววาและเลื่อนหน้าจอดู ภาพที่ปรากฏทำให้เขาต้องหยุดนิ่ง เป็นภาพถ่ายครอบครัวของวาววาเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็กน้อย มีพ่อ แม่ เธอและพี่สาวของเธอ พื้นหลังเป็นทะเลที่สวยงาม
พ่อและแม่ของเธอยิ้มอย่างอบอุ่น ขณะที่พี่สาวยืนอยู่ข้างๆจ้องมองเธอที่อยู่ในอ้อมแขนของแม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ เชนทร์เห็นว่าแม้พ่อและแม่จะยิ้ม
แต่สายตาทั้งคู่กลับเหลือบมองวาววาในวัยไม่เกินสองขวบด้วยความกังวล หรืออาจจะเป็นความอาทรปนกับความประหลาดใจ เพราะเด็กหญิงตัวน้อยในภาพนั้นเพิ่งจะร้องไห้พอดีเมื่อช่างภาพนับถอยหลังเพื่อกดชัตเตอร์
เชนทร์อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นภาพนี้ ความขำปนเอ็นดูที่เห็นเด็กน้อยในอ้อมแขนของแม่ร้องไห้พอให้ทุกคนในภาพต้องมองเธอ
----------
...นิยายของวาววา...
...
“หนูช่วยนะคะคุณยาย”
อันนาที่เห็นคุณยายกำลังลำบาก จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ ทั้งช่วยหิ้วของและพยุงคุณยายข้ามถนนไปด้วยกันอย่างปลอดภัย เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของเธอ
เธอไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งคอยเฝ้ามองดูเธออยู่ห่างๆ หลังจากเมื่อวานที่เขาได้พบกับเธอในร้านหนังสือเมื่อวานโดยบังเอิญ เขารู้สึกประทับใจผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่แรกพบ เธอช่างสวยและอ่อนโยนราวกับนางฟ้าในเทพนิยาย
เขาครุ่นคิด...จะเฝ้ามองเธออยู่อย่างนี้ หรือจะก้าวเข้าไปสู่โลกของเธอ? ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวใจของเขาเสมอ แต่แล้วความกลัวก็ผุดขึ้นมา...กลัวว่าเมื่อความรักผลิบาน ความตายจะเข้ามาพรากเธอไปจากเขา ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเธอคือมนุษย์ แต่เขาคือแวมไพร์!
...
..
----------
----------...นิยายของวาววา......“แม่! ถ่ายรูปให้หนูหน่อย” วาววาร้องเรียกเสียงใส พร้อมยื่นมือถือให้แม่ของเธอถ่ายรูปเธอกับวิวสวยที่บ้านพักตากอากาศของเชนทร์ที่เขาใหญ่นี้ด้วยความตั้งใจอยากให้อันนาและครอบครัวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เชนทร์จึงเชิญทุกคนมาที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม มีทั้งไร่องุ่นเขียวขจีและขุนเขาสูงตระหง่าน“เข้ามาชมด้านในก่อนสิครับ” เชนทร์เอ่ยเรียกอันนาที่ยืนยิ้มมองดูพ่อแม่และวาววาผลัดกันถ่ายรูปกันอย่างมีความสุขอยู่ที่สวนทางเข้าหน้าบ้าน“ได้ค่ะ”อันนาส่งยิ้มให้เชนทร์ก่อนที่จะเดินตามเขาเข้าไปด้านในบ้านบ้านพักตากอากาศสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความหรูหราและธรรมชาติ ตั้งอยู่บนทำเลที่เงียบสงบในเขาใหญ่ มีไร่องุ่นส่วนตัวรายล้อม สวนหน้าบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม และภายในบ้านตกแต่ง
แสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ๆสาดส่องลงที่ไร่องุ่นกว้างใหญ่นี้ สายลมอ่อนๆพัดผ่านทำให้ใบองุ่นเขียวชอุ่มโบกสะบัดอย่างนุ่มนวล ถึงแม้อากาศในตอนนี้จะร้อนไปสักนิด แต่ทุกคนก็ดูจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อยวาววา วีวี่ เดินลงจากรถกอล์ฟมาสมทบกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่ยืนรออยู่ทางเข้าไร่องุ่นอยู่ก่อนแล้วปวิธกำลังสนทนากับใครบางอยู่ เมื่อเห็นวาววาและวีวี่เดินมา เขาก็รีบกล่าวต้อนรับพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น“คุณวาววา คุณวีวี่ครับ นี่คือคุณพีท จากทีมสถาปนิกที่จะเข้ามาดูแลโปรเจคของพวกเราครับ”เขาแนะนำชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับวาววา ชายหนุ่มผิวขาว ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-ญี่ปุ่น ใบหน้าคมสันที่ยืนอยู่ข้างกาย พีทมีรูปร่างสูงโปร่งและมีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงสมส่วน ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อสบตาวาววาราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกเห็นกลิ่นหอมหวานขององุ่นสุกฟุ้งไปทั่วแปลงที่พวกเขากำลังเดินชม ภาพของเหล่าคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวพวงองุ่นสีม่วงอมแดงสดใส สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งนัก ทุกคนยิ่งรู้สึกปร
ในห้องนั่งเล่นของบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่ราเชนทร์เป็นเจ้าของ วาววาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ร่างกายยังคงสั่นระริกจากความตกใจที่เชนทร์อุ้มเธอกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางมาเป็นระยะทางไกลถึงสองกิโลเมตรในพริบตา“ถ้าฉันช็อคตายไปจะทำยังไงหา!!!” วาววาโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิดและยังคงหอบหายใจแรงอยู่“ให้กัดไหมละ จะได้เป็นอมตะเหมือนกัน?”แววตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เจ้าแวมไพร์ พลางคิดในใจอย่างหงุดหงิดถึงตัวละครเจ้าแวมไพร์ที่เธอสร้างขึ้นมา โรแมนติกเฉพาะกับอันนา แต่กับคนอื่นนั้นขวางโลกใส่ทุกคน“ขอบคุณที่ให้ยืม” เชนทร์กล่าวพร้อมยื่นไอแพดของวาววาคืนให้เธอวาววารับไอแพดคืนมาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปจากความขุ่นเคืองเมื่อครู่ กลายเป็นความสงสัยเล็กๆ“ไม่ใช้แล้วเหรอ?” เธอถาม“ไม่แล้วล่ะ” เชนทร์ตอบพร้อมคว้าขวดไวน์แดงที่ถูกเตรียมอยู่บนโต๊ะมา แล้วรินมันลงไปในแก้วคริสตัลสองใบอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาว่างเปล่า
ความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านทั่วร่างกายเมื่อวาววาเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและแสงแดดอุ่นๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แต่ความสับสนในใจจากคำพูดของเชนทร์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ไม่หาย“มันไม่ใช่ประโยคบอกรักใช่ไหม?” วาววาพึมพำกับตนเอง เธอพยายามนึกถึงนิสัยของเชนทร์ที่สร้างขึ้นมาและพล็อตเรื่องนิยายทีเธอเขียน‘ราเชนทร์’ หรือชื่อเดิมว่า ‘อ็องเดร’ นิสัยพื้นฐาน ร่าเริง สนุกสนาน ชอบความท้าทาย กล้าหาญ ดื้อรั้น ขี้เล่น ชอบแหย่ ชอบแกล้ง แต่หลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เขาก็มีแต่ความเบื่อจนกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่สุงสิงกับใคร ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เขาเป็นคนโรแมนติกกับคนรักมาก รักใครรักจริง หึงหวงแฟนเป็นที่หนึ่ง“แล้วที่เราใจเต้นเมื่อคืน...เพราะรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่านะ...” วาววาครุ่นคิดในใจ“คุณวาครับ คุณวา...”&
หลังจากเดินทางกลับจากโคราชและทำงานต่อที่บริษัทในวันหยุดสุดสัปดาห์ วาววาก็ทิ้งร่างอันเหนื่อยล้าลงบนเตียงนอนในคอนโดที่เงียบสงบเธอใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจกลับมาที่คอนโดแห่งนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอจนมั่นใจว่าเพทายเลิกติดตามเธอ และงานเอกสารที่เก็บไว้ในคอนโดก่อนหน้านี้ที่ต้องสะสางก็เร่งรัด เธอจึงจำใจต้องมาที่นี่ประตูระเบียงที่เคยพังเพราะเชนทร์ ตอนนี้ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยถูกปิดอย่างมิดชิดความเหนื่อยทับถมเธอจนรู้สึกเหมือนกำลังจะล่องลอย ร่างกายเริ่มร้อนรุมจากภายในเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการป่วยกำลังจะมาเยือน แต่ความอ่อนเพลียมีอำนาจมากกว่า ทำให้เปลือกตาของเธอค่อยๆปิดลงโดยไม่ทันคิดถึงเรื่องอื่นอีกต่อไปแสงจันทร์ส่องกระทบร่างของวาววาที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับเตาผิงเล็กๆ วาววาตื่นลุกขึ้นเดินโซเซเข้าห้องน้ำกลางดึก จากนั้นเธอค่อยๆพาร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอไปที่โต๊ะทำงานแต่ก็เซเกือบล้มลง โชคดีที่มีแขนแกร่งเข้ามาประคองเธอไว้ได้ทัน“ผมเชนทร์เอง... ไม่ต้องตกใจ&r
หลังจากวันที่แวมไพร์ตัวป่วนถามจี้จนใจของเธอสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาก็โผล่เข้ามาอยู่ในหัวของเธอแทบจะทุกวินาทีวาววาเดินไปที่ประตูระเบียงกระจกใสที่เพิ่งซ่อมเสร็จใหม่เอี่ยม สายตาของเธอไล่เรียงไปตามรอยต่อของกระจก ก่อนจะหยุดลงที่สลักประตูครั้งนี้แทนที่จะล็อคประตู เธอเลือกที่จะปลดล็อคมันออก เผื่อว่า... เจ้าแวมไพร์จะแวะมาเยี่ยมเยียนจะได้ไม่ต้องพังประตูของเธออีกแต่บางความคิดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเธอไม่ใช่อันนา เธอคือวาววา คนละคนกัน แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้กับเธออันที่จริง...นิยายแวมไพร์ที่เธอเขียน แม้จะตั้งชื่อและกำหนดนิสัยตัวละครหลักไปแล้ว แต่โครงเรื่องนิยายแวมไพร์ของเธอยังคงค้างคาอยู่แค่ครึ่งทาง ทั้งพล็อตเรื่องและตอนจบก็ยังไม่มีอะไรที่แน่ชัดกรื่อ กรื่อเสียงริงโทนมือถือของวาววาดังขึ้น เธอที่กำลังใช้เวลาว่างนั่งดูซีรีส์ต้องก้มมองหน้าจอที่แสดงชื่อผู้ติด
แสงไฟนีออนสีสันสดใสจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนดิน แต่บนคอนโดชั้น 26 กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น เชนทร์จูบหน้าผากวาววาเบาๆ ทั้งสองยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับ เพื่อให้เธอได้พักผ่อนจากวันที่เหนื่อยล้า“เดี๋ยว! คุณแน่ใจเหรอว่าจะกระโดดลงไป?” เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตากังวลเล็กน้อย“ทำไมละ? ผมก็แค่โดดขึ้นโดดลงปกติ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเจ้าเล่ห์ “หรือจะให้ผมอยู่นอนกอดคุณที่นี่ดี?”“ฉันหมายถึง...คุณแน่ใจนะว่าปลอดภัย คุณบอกฉันเองว่าวันนี้คุณกระโดดตั้งสองสามรอบกว่าจะขึ้นมาที่นี่ได้ มิหนำซ้ำยังทุกลักทุเลกว่าจะปืนขึ้นมาที่ระเบียงนี้ได้อีก” เธอเตือนเขาให้จดจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
วันงานคอนเสิร์ตของ Evan Crimson พีทในชุดลำลองเดินตรงมายังรถหรูที่วาววารออยู่ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น การไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้มันเหมือนเป็นการออกเดทแบบไม่เป็นทางการที่เขาตั้งตารอครืดดคนขับรถของวาววาเปิดผลักประตูรถด้านข้างออกกว้างให้พีท ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นคนในรถไม่ได้มีแต่เพียงวาววาและเพื่อนสนิทของเธอที่คอยอยู่ แต่ยังมีเชนทร์อีกด้วย“สวัสดีค่ะคุณพีท เชิญค่ะ” วาววากล่าวต้อนรับเสียงใส"สวัสดีครับคุณวา คุณเชนทร์" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้าที่ดูงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตรงไปนั่งข้างมิเกลที่ว่างอยู่&nbs
หลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตลอดช่วงที่พ่อแม่ของผู้บริหารสาวไฟแรงอย่างวาววาไปทริปต่างประเทศ ในที่สุดวันนี้ท่านเจ้าของศูนย์การค้าก็กลับมาทำงานเสียทีวาววาลาพักร้อน และแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้ตื่นสายๆ นอนขดตัวอยู่บนเตียง แล้วลืมเรื่องงานไปสักพัก..สายลมทะเลพัดโชยมาปะทะใบหน้าของวาววา ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อันที่จริงเธอวางแผนพักร้อนเพราะรู้ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญอย่างวันเกิดของเชนทร์เลยอยากที่จะเซอร์ไพรส์เขาหลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดวาววาก็เลือกที่พักริมทะเลแห่งนี้ ด้วยคำแนะนำของมิเกลเพื่อนรักวาววาและมิเกลยืนคุยกันอย่างสนุกสนานริมชายหาด พลางยืนมองเหล่าพนักงานที่กำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้นด้วยความตื่นเต้น และเธอหวังว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบ“เตรียมขนาดนี้ฉันนึกว่าแกจะขอคุณราเชนทร์แต่งงาน” มิเกลแซวหยอก“วันเกิดก็พอค่ะเพื่อน!” วาววาหัวเราะเบาๆ “ยังไงก็ขอบใจแกนะ ที่พักสวยมากเลย แถมยังลดราคาให้เหลือครึ่งเดียวอีก
วันงานคอนเสิร์ตของ Evan Crimson พีทในชุดลำลองเดินตรงมายังรถหรูที่วาววารออยู่ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เขาคิดว่านี่คงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น การไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้มันเหมือนเป็นการออกเดทแบบไม่เป็นทางการที่เขาตั้งตารอครืดดคนขับรถของวาววาเปิดผลักประตูรถด้านข้างออกกว้างให้พีท ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นคนในรถไม่ได้มีแต่เพียงวาววาและเพื่อนสนิทของเธอที่คอยอยู่ แต่ยังมีเชนทร์อีกด้วย“สวัสดีค่ะคุณพีท เชิญค่ะ” วาววากล่าวต้อนรับเสียงใส"สวัสดีครับคุณวา คุณเชนทร์" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้าที่ดูงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตรงไปนั่งข้างมิเกลที่ว่างอยู่&nbs
แสงไฟนีออนสีสันสดใสจากตึกสูงระฟ้าส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนดิน แต่บนคอนโดชั้น 26 กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น เชนทร์จูบหน้าผากวาววาเบาๆ ทั้งสองยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับ เพื่อให้เธอได้พักผ่อนจากวันที่เหนื่อยล้า“เดี๋ยว! คุณแน่ใจเหรอว่าจะกระโดดลงไป?” เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตากังวลเล็กน้อย“ทำไมละ? ผมก็แค่โดดขึ้นโดดลงปกติ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเจ้าเล่ห์ “หรือจะให้ผมอยู่นอนกอดคุณที่นี่ดี?”“ฉันหมายถึง...คุณแน่ใจนะว่าปลอดภัย คุณบอกฉันเองว่าวันนี้คุณกระโดดตั้งสองสามรอบกว่าจะขึ้นมาที่นี่ได้ มิหนำซ้ำยังทุกลักทุเลกว่าจะปืนขึ้นมาที่ระเบียงนี้ได้อีก” เธอเตือนเขาให้จดจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
หลังจากวันที่แวมไพร์ตัวป่วนถามจี้จนใจของเธอสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าของเขาก็โผล่เข้ามาอยู่ในหัวของเธอแทบจะทุกวินาทีวาววาเดินไปที่ประตูระเบียงกระจกใสที่เพิ่งซ่อมเสร็จใหม่เอี่ยม สายตาของเธอไล่เรียงไปตามรอยต่อของกระจก ก่อนจะหยุดลงที่สลักประตูครั้งนี้แทนที่จะล็อคประตู เธอเลือกที่จะปลดล็อคมันออก เผื่อว่า... เจ้าแวมไพร์จะแวะมาเยี่ยมเยียนจะได้ไม่ต้องพังประตูของเธออีกแต่บางความคิดก็วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองเธอไม่ใช่อันนา เธอคือวาววา คนละคนกัน แล้วทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้กับเธออันที่จริง...นิยายแวมไพร์ที่เธอเขียน แม้จะตั้งชื่อและกำหนดนิสัยตัวละครหลักไปแล้ว แต่โครงเรื่องนิยายแวมไพร์ของเธอยังคงค้างคาอยู่แค่ครึ่งทาง ทั้งพล็อตเรื่องและตอนจบก็ยังไม่มีอะไรที่แน่ชัดกรื่อ กรื่อเสียงริงโทนมือถือของวาววาดังขึ้น เธอที่กำลังใช้เวลาว่างนั่งดูซีรีส์ต้องก้มมองหน้าจอที่แสดงชื่อผู้ติด
หลังจากเดินทางกลับจากโคราชและทำงานต่อที่บริษัทในวันหยุดสุดสัปดาห์ วาววาก็ทิ้งร่างอันเหนื่อยล้าลงบนเตียงนอนในคอนโดที่เงียบสงบเธอใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจกลับมาที่คอนโดแห่งนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอจนมั่นใจว่าเพทายเลิกติดตามเธอ และงานเอกสารที่เก็บไว้ในคอนโดก่อนหน้านี้ที่ต้องสะสางก็เร่งรัด เธอจึงจำใจต้องมาที่นี่ประตูระเบียงที่เคยพังเพราะเชนทร์ ตอนนี้ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยถูกปิดอย่างมิดชิดความเหนื่อยทับถมเธอจนรู้สึกเหมือนกำลังจะล่องลอย ร่างกายเริ่มร้อนรุมจากภายในเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาการป่วยกำลังจะมาเยือน แต่ความอ่อนเพลียมีอำนาจมากกว่า ทำให้เปลือกตาของเธอค่อยๆปิดลงโดยไม่ทันคิดถึงเรื่องอื่นอีกต่อไปแสงจันทร์ส่องกระทบร่างของวาววาที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับเตาผิงเล็กๆ วาววาตื่นลุกขึ้นเดินโซเซเข้าห้องน้ำกลางดึก จากนั้นเธอค่อยๆพาร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอไปที่โต๊ะทำงานแต่ก็เซเกือบล้มลง โชคดีที่มีแขนแกร่งเข้ามาประคองเธอไว้ได้ทัน“ผมเชนทร์เอง... ไม่ต้องตกใจ&r
ความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านทั่วร่างกายเมื่อวาววาเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและแสงแดดอุ่นๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แต่ความสับสนในใจจากคำพูดของเชนทร์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ไม่หาย“มันไม่ใช่ประโยคบอกรักใช่ไหม?” วาววาพึมพำกับตนเอง เธอพยายามนึกถึงนิสัยของเชนทร์ที่สร้างขึ้นมาและพล็อตเรื่องนิยายทีเธอเขียน‘ราเชนทร์’ หรือชื่อเดิมว่า ‘อ็องเดร’ นิสัยพื้นฐาน ร่าเริง สนุกสนาน ชอบความท้าทาย กล้าหาญ ดื้อรั้น ขี้เล่น ชอบแหย่ ชอบแกล้ง แต่หลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เขาก็มีแต่ความเบื่อจนกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่สุงสิงกับใคร ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก เขาเป็นคนโรแมนติกกับคนรักมาก รักใครรักจริง หึงหวงแฟนเป็นที่หนึ่ง“แล้วที่เราใจเต้นเมื่อคืน...เพราะรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่านะ...” วาววาครุ่นคิดในใจ“คุณวาครับ คุณวา...”&
ในห้องนั่งเล่นของบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่ราเชนทร์เป็นเจ้าของ วาววาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ร่างกายยังคงสั่นระริกจากความตกใจที่เชนทร์อุ้มเธอกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางมาเป็นระยะทางไกลถึงสองกิโลเมตรในพริบตา“ถ้าฉันช็อคตายไปจะทำยังไงหา!!!” วาววาโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิดและยังคงหอบหายใจแรงอยู่“ให้กัดไหมละ จะได้เป็นอมตะเหมือนกัน?”แววตาของเธอจ้องเขม็งไปที่เจ้าแวมไพร์ พลางคิดในใจอย่างหงุดหงิดถึงตัวละครเจ้าแวมไพร์ที่เธอสร้างขึ้นมา โรแมนติกเฉพาะกับอันนา แต่กับคนอื่นนั้นขวางโลกใส่ทุกคน“ขอบคุณที่ให้ยืม” เชนทร์กล่าวพร้อมยื่นไอแพดของวาววาคืนให้เธอวาววารับไอแพดคืนมาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปจากความขุ่นเคืองเมื่อครู่ กลายเป็นความสงสัยเล็กๆ“ไม่ใช้แล้วเหรอ?” เธอถาม“ไม่แล้วล่ะ” เชนทร์ตอบพร้อมคว้าขวดไวน์แดงที่ถูกเตรียมอยู่บนโต๊ะมา แล้วรินมันลงไปในแก้วคริสตัลสองใบอย่างเชื่องช้าด้วยแววตาว่างเปล่า
แสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ๆสาดส่องลงที่ไร่องุ่นกว้างใหญ่นี้ สายลมอ่อนๆพัดผ่านทำให้ใบองุ่นเขียวชอุ่มโบกสะบัดอย่างนุ่มนวล ถึงแม้อากาศในตอนนี้จะร้อนไปสักนิด แต่ทุกคนก็ดูจะตื่นเต้นไม่ใช่น้อยวาววา วีวี่ เดินลงจากรถกอล์ฟมาสมทบกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่ยืนรออยู่ทางเข้าไร่องุ่นอยู่ก่อนแล้วปวิธกำลังสนทนากับใครบางอยู่ เมื่อเห็นวาววาและวีวี่เดินมา เขาก็รีบกล่าวต้อนรับพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น“คุณวาววา คุณวีวี่ครับ นี่คือคุณพีท จากทีมสถาปนิกที่จะเข้ามาดูแลโปรเจคของพวกเราครับ”เขาแนะนำชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับวาววา ชายหนุ่มผิวขาว ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน-ญี่ปุ่น ใบหน้าคมสันที่ยืนอยู่ข้างกาย พีทมีรูปร่างสูงโปร่งและมีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงสมส่วน ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อสบตาวาววาราวกับถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกเห็นกลิ่นหอมหวานขององุ่นสุกฟุ้งไปทั่วแปลงที่พวกเขากำลังเดินชม ภาพของเหล่าคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวพวงองุ่นสีม่วงอมแดงสดใส สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสดชื่นยิ่งนัก ทุกคนยิ่งรู้สึกปร
----------...นิยายของวาววา......“แม่! ถ่ายรูปให้หนูหน่อย” วาววาร้องเรียกเสียงใส พร้อมยื่นมือถือให้แม่ของเธอถ่ายรูปเธอกับวิวสวยที่บ้านพักตากอากาศของเชนทร์ที่เขาใหญ่นี้ด้วยความตั้งใจอยากให้อันนาและครอบครัวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เชนทร์จึงเชิญทุกคนมาที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม มีทั้งไร่องุ่นเขียวขจีและขุนเขาสูงตระหง่าน“เข้ามาชมด้านในก่อนสิครับ” เชนทร์เอ่ยเรียกอันนาที่ยืนยิ้มมองดูพ่อแม่และวาววาผลัดกันถ่ายรูปกันอย่างมีความสุขอยู่ที่สวนทางเข้าหน้าบ้าน“ได้ค่ะ”อันนาส่งยิ้มให้เชนทร์ก่อนที่จะเดินตามเขาเข้าไปด้านในบ้านบ้านพักตากอากาศสไตล์โมเดิร์นผสมผสานความหรูหราและธรรมชาติ ตั้งอยู่บนทำเลที่เงียบสงบในเขาใหญ่ มีไร่องุ่นส่วนตัวรายล้อม สวนหน้าบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม และภายในบ้านตกแต่ง