.
.
“ไปนั่งเล่นที่ห้องกูก่อนไหม?”
“....อืมๆ”
แซมมองท่าทีของอนณที่ดูออดอ้อนเพื่อนของเขาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาเองตั้งแต่ทำงานกับอนณมาตลอดสี่ปีไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับความแปลกของความสัมพันธ์ที่อนณเรียกว่าเพื่อนเลย
แซมมองสายของอนณออกว่าคิดยังไงแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ แซมเลยเข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงคบกับใครไม่ได้นาน
“คืนนี้จะไปผับใช่ไหม?”
“ใช่ มึงจะไปด้วยไหมล่ะ?”
“ไปดิ กูจะไปล่าบ้าง”
“เหอะ...”
“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่ผับ”
“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”
“ครับน้องอลิซ”
อนณพยักหน้าให้ผู้จัดการของตนก่อนจะหันไปมองอลิซที่ดูดี๊ด้าที่จะได้ไปเที่ยวผับ พร้อมกับคำพูดที่เธอบอกว่าจะออกล่าทำให้เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาเองก็จะไปหาเหยื่อแก้เซ็งเหมือนกัน
“ชุดของกูมีอยู่ในห้องมึงใช่ป่ะ?”
“มี”
“ดีมาก”
“ไม่ต้องใส่ชุดสีแดงนั้นไปนะ”
“ทำไม?”
“สะเหล่อ”
“ก็ช่างสิ กูใส่แล้วสวยจบ”
“........”
อนณมองเพื่อนของตนที่ไม่ฟังความเห็นของเขาพร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่นอย่างขัดใจ เขารู้ว่ามันไม่ได้สะเหล่ออะไรแต่เพราะมันสวยเกินไปและโป๊ไม่น้อย จึงพยายามห้ามเพื่อนของตนแต่เพื่อนสาวก็ดันดื้อเสียด้วยนี่สิ อนณทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟารอให้เพื่อนของตนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูขึ้นมาก็เห็นว่ามีคนโทรเข้าไม่หยุดเป็นยี่สิบสามสิบสาย เขามองหน้าจอก่อนจะถอนหายใจและกดรับสายนั้นในที่สุด
“ว่า?”
(อนณคะ ทำไมถึงใจร้ายกับริตาแบบนี้)
“ผมว่าผมบอกเลิกคุณไปแล้วนะ”
(ไม่เอา ริตาไม่เลิกนะคะอนณ ริตารักอนณนะคะ)
“ริตา ผมอึดอัด”
(ริตาขอโทษ ริตาจะอยู่เงียบๆ อย่าเลิกเลยนะคะ)
อนณมองหน้าจอที่กำลังวิดีโอคอลหาเขา สีหน้าออดอ้อนของดาราสาวพร้อมกับแพลนกล้องไปทั่วร่างกายที่สุดเย้ายวนในชุดคลุมอาบน้ำ ริตายิ้มเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มในหน้าจอเปลี่ยนไป อนณกลืนน้ำลายหนืดลงคอเมื่อเห็นคนในโทรศัพท์ยั่วยวนเขาอย่างรู้ทัน
(ให้อภัยริตานะคะ...แล้วคืนนี้...ริตาจะรออยู่ที่เดิมนะคะ)
“อืม...เข้าใจแล้ว”
(ริตารักอนณที่สุดเลยค่ะ จุ๊บๆ)
ริมฝีปากสวยยื่นเข้าหากล้องพร้อมส่งจูบอย่างดีใจ ก่อนจะเลื่อนกล้องลงไปทั่วร่างอย่างยั่วยวนอีกครั้ง อนณจ้องมองหน้าจอจนลืมไปว่ามีเพื่อนสาวอยู่ในห้อง อลิซเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำก่อนจะปรายสายตาไปมองเพื่อนชายที่นั่งจ้องโทรศัพท์ตาเป็นมัน
“แฟนโทรมาง้อหรอ?”
“อ่อ...อืม...”
(ใครคะอนณ? คุณอยู่กับใคร? เสียงผู้หญิงเมื่อกี้!)
ชายหนุ่มละจากกล้องพร้อมกับหันไปมองตามเสียงที่ถามเขา ก่อนจะนิ่งค้างเพราะความไม่ระวังตัวเองของเพื่อนสาว ที่กล้าเดินออกมาทั้งชุดคลุมอาบน้ำ อลิซเองก็ไม่ได้สนใจสายตาคมที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าจนลืมสาวสวยในโทรศัพท์ เธอเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นก่อนจะยกดื่ม อนณมองอลิซพร้อมกับกลืนน้ำลายตาม ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกในโทรศัพท์ที่โวยวายลั่น
(อนณ!! มันคือใคร?)
“เอ่อ..เพื่อนผมน่ะ”
(เพื่อน? คนไหนคะ? ริตาไม่เห็นรู้เลยว่าคุณมีเพื่อนผู้หญิง)
“ผมบอกริตาไปแล้วนะครับ ว่ามีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทมากๆ อยู่คนหนึ่ง”
(อ๋อ...คนนี้หรอคะ? ถึงขนาดเข้าห้องนอนอาบน้ำได้เลยหรอคะ?)
“ริตา...ไหนบอกว่าจะไม่ทำตัวแบบนี้ไง?”
(แต่มันเกินไปนี่คะ เพื่อนแบบไหนถึงได้เข้าห้องคุณได้)
“เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว คุณจะมาหึงอะไรเนี่ย ไม่งั้นผมวางนะ”
(อนณ!! ถ้าคุณวางเราจบกัน! คุณเลือกมาว่าจะเลือกเพื่อนคนนั้นหรือริตา!)
“ฮะ? นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไง?”
(ริตาจะไม่ยอมจริงๆ ด้วย!)
“งั้นคุณก็ดูแลตัวเองดีๆ นะริตา”
(อนณ!!! นี่คุณ!....)
อนณกดวางสายโดยไม่สนใจดาราสาวเลย เพราะยังไงเขาก็คิดที่จะเลิกกับเธออยู่แล้ว แต่เพราะเธอมาง้อเขาก็คิดแค่ว่าก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องออกล่าและมีที่ให้ไปหลังจากเมาแล้ว แต่พอมาเจอแบบนี้เขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อนณเดินตามอลิซเข้าไปในห้องนอนของเขา ก่อนจะยืนนิ่งมองเพื่อนสาวในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสั้นแถมแหวกเว้าถึงกลางหลัง
แต่ดูเหมือนเพื่อนสาวของเขากำลังติดปัญหากับการรูดซิปตรงบั้นท้ายงอน เธอเหลียวไปมาอย่างทุลักทุเลแต่ก็เอื้อมมือไม่ถึง อนณมองท่าทางของเธอก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ สายตาของเขาจ้องมองร่างเพรียวนั้นไม่วางตา มือหนาเอื้อมไปจับที่เอวคอดกิ่วของเพื่อนสาว อลิซสะดุ้งก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนชายของตนอย่างสงสัย
“หันหลังมาสิ”
“อ๋อ...อืม”
“แขนก็สั้น ยังจะอยากใส่อีกนะ”
“ถ้าจะบ่นไม่ต้องช่วยกูก็ได้นะ”
“เหอะ...แหวกสั้นขนาดนี้ทำไมมึงไม่ใส่บิกินี่ไปเลยล่ะ ง่ายดี”
“มันก็ไม่ขนาดนั้นไหมมึง ทำตัวเป็นคนแก่หัวโบราณไปได้”
อนณไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับรูดซิปชุดเดรสให้เพื่อนช้าๆ อย่างอ้อยอิ่ง ปลายนิ้วเรียวของเขาไล้ขึ้นตามซิปอย่างจงใจ อลิซได้แต่เงียบและแอบเขิน ภายในหัวตีกันยุ่งไปหมดว่าทำไมเขาต้องทำให้บรรยากาศมันแปลกๆ นับวันยิ่งอยู่ใกล้กันมากขึ้น เขาก็ยิ่งทำให้ใจเธอสั่นไม่เว้นวัน
แต่อลิซก็พยายามบังคับใจตัวเองเพราะยังไงเขาก็คือเพื่อนและยังเป็นคนเจ้าชู้ที่มีผู้หญิงไม่ขาด และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเธอแทบจะเคยเห็นผู้หญิงทุกคนที่เขาควงเสียด้วยซ้ำ
“เหม่ออะไร เสร็จตั้งนานล่ะ”
“ขอบใจ”
“มึงคิดอะไรอยู่ เงียบตั้งนาน”
“คิดไรเรื่อยเปื่อย”
“คิดเรื่องกูหรอ?”
“อนณ มึงเลิกหลงตัวเอง ถึงมึงจะหล่อวัวตายควายล้มแต่มึงเพื่อนกู”
“เออ...ออกไปรอข้างนอกกูจะอาบน้ำ”
“รู้แล้วน่า”
“หรือมึงจะยืนดูกูแก้ผ้าอยู่ตรงนี้ก็ได้ เพื่อนกันไม่คิดอะไรมากหรอก”
“ถึงมึงแก้ผ้าล่อนจ่อนกูก็ไม่สนใจมึงหรอก”
อลิซพูดทีเล่นทีจริงพร้อมกับหัวเราะ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามหลังอย่างหงุดหงิด คำว่าเพื่อนที่หญิงสาวพูดกั้นเส้นให้เขานั้นทำเขาไม่พอใจนัก แต่ก็สงสัยตัวเองว่าไม่พอใจหรือหงุดหงิดทำไม
“เป็นอะไรของกูวะ แม่งเอ๊ย..”
อนณสบถกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว และเลือกบอกตัวเองว่าไม่ต้องสนใจเพื่อนสาวของตน สิ่งที่ตนควรสนใจคือสาวๆ ในคืนนี้ต่างหาก เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็ค่อยทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
ผับHISO
อลิซและอนณเดินเข้าผับมาด้วยกันก่อนจะเดินเข้าไปนั่งโซนวีไอพีที่ได้จองโต๊ะไว้ ด้วยความที่รีบเร่งเข้าไปหาเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่นัดไว้จึงไม่ได้สนใจเพื่อสาวที่เดินตามหลังมาแต่อย่างใด
“ไอ้อนณ มาแล้วหรอวะ”
“มึงเห็นกูป่ะละ”
“ไอ้นี่ แม่งกวนตีนไม่เปลี่ยน”
“ตำแหน่งดาราดังไม่ได้ช่วยให้นิสัยมึงดีขึ้นเลยนะ”
“กูว่ากูก็อบรมมันดีอยู่นะ แต่มันไม่เอาเอง”
แทนไททักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสุดหล่อของตนเดินเข้ามานั่ง ก่อนที่จะโดนเพื่อนสนิทอย่างอนณตอบกลับอย่างกวนๆ จีซัสเพื่อนหนึ่งในกลุ่มก็ตอบกลับก่อนจะตามด้วยลุคค์ที่ยังคงพูดจาประชดประชันเพื่อนของตน แซมเองก็ไม่วายร่วมวงด้วย
เพราะตั้งแต่ดูแลอนณมาก็รู้จักกลุ่มเพื่อนของเขาและสนิทกันเป็นอย่างดี ก็มีแต่เพื่อนสาวนี่แหละที่อนณไม่ยอมพามาเจอ พึ่งจะได้เจอจริงๆ นอกจากได้ยินแค่ชื่อมาสี่ปีก็มีวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้า
“อ้าว...แล้วอลิซของกูอ่ะ ไม่มาหรอ?”
แทนไทถามขึ้นพร้อมกับมองหาเพื่อนสาวตัวเล็กของอนณ คนอื่นๆ เองก็มองหาเหมือนกัน อนณหันไปมองข้างหลังตนก็ไม่เห็นเพื่อนสาวของตนจึงกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณก่อนจะไปสะดุดกับชุดสีแดงที่คุ้นเคย ที่กำลังโดนหนุ่มหล่อมากมายรายล้อมเต็มไปหมด
“นั่นไง เพื่อนรักเพื่อนหวงของมึงโดนผู้ชายรุมละ”
.
.
..ลุคค์พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่วนก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก สายตาของเขามองไปที่อลิซไม่วางตาก่อนจะสลับไปมองหน้าอนณที่ยังคงเรียบนิ่ง อนณไม่ได้ตอบโต้อะไรพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ จีซัส ก่อนะที่แซมจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงแล้วให้เขา อนณยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มแต่สายตายังคงไม่ละจากเพื่อนสาวของตนเลย“ไม่ไปขัด?” -จีซัส“ขัดทำไม...มันบอกจะมาล่าเอง” -อนณ“เหรอ...มึงยอมว่างั้น?” -ลุคค์“แล้วทำไมจะไม่ยอม? นั่นเพื่อนไม่ใช่เมีย” -อนณ“งั้นอย่างนี้กูก็สามารถ...ใช่ไหม?” -แทนไท“ไอ้ไท ถ้ามึงคิดจะเล่นๆ ก็ไม่ต้องเสือกเสนอหน้า” -อนณ“เอ้ย...ใครจะเล่นๆ ได้มาเป็นเมียกูยอมอยู่บ้านทั้งวันเลย” -แทนไท“แล้วแต่มึงเถอะ” –อนณ“พวกมึงก็อย่าไปยั่วโมโหมันนักเลย” –แซม“นั่นๆ ไอ้หน้าอ่อนมันกอดเอวซุกคอแล้ว” –จีซัส“มึงจะบรรยายเพื่อ? ถ้ามันไม่ยอมมันก็ผลักออกเองแหละ”อนณพูดอย่างหัวเสียแต่ก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากเพื่อนสาวคนสวยเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะกำแก้วแน่นที่ไม่เห็นท่าท
..“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย“ครับ” -แทนไท“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท“จะบ้าหรอไท”อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น“เราไปกันเถอะซีเซีย”“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์“แล้วมึง
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..ห้องประชุม“ทางทีมเราต้องการคุณอนณมาเป็นแบบในนิตยสารของเดือนนี้ ทางแบรนด์ Nice Cein เขาบรีฟมาแบบนี้ ว่าต้องเป็นคุณอนณเท่านั้น แต่ว่าทางเราติดต่อคุณแซมผู้จัดการของคุณอนณไปแล้ว เขาปฏิเสธว่าคุณอนณไม่รับงานนิตยสาร”“เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่รัตน์”เด็กฝึกงานที่ชื่อลูกหยีในทีมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะนิตยสารสมัยนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่ตั้งแต่มีอีบุ๊คขึ้นมาหรือหนังสือออนไลน์ การที่เสื้อผ้าแบรนด์ดังกำลังเป็นกระแสมาจ้างงานโปรโมทผ่านนิตยสารของพวกเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะนิตยสารของพวกเธอไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รัตนาหรือพี่รัตน์หันไปมองอลิซด้วยแววตาอ้อนวอน“เดี๋ยวๆ นะ มองลิซแบบนี้หมายความว่า....”“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะลิซ ยังไงอนณก็เป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ?”“พี่รัตน์คะ...ลิซไม่อยากใช้สายสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อให้ได้งานหรอกนะคะ อีกอย่างลิซก็....ไม่ได้สนิทขนาดนั้น”“หือ...ไม่สนิทแต่เมื่อเช้ายังมาส่งกันอยู่เลยนะคะ เมย์เห็น”ลูกทีมอีกคนพูดพร้อมกับจ้องมองอ
..หลังเลิกงานอลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้งอลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัทอลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
..“อื้อ...อ๊ะ....”มือหนากอบกำเต้าตึงสวยของเพื่อนสาว ลิ้นร้อนบดดุนตุ่มไตปลายยอดถัน หญิงสาวเม้มปากแน่นพร้อมกับปรือตามองชายหนุ่มบนร่าง ใบหน้าหล่อระดับซูเปอร์สตาร์ที่คุ้นหน้าคุ้นเพราะเห็นใบหน้าหล่อนั้นแทบทุกวัน แต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง การกระทำของเขาในตอนนี้มันข้ามเส้นที่เคยขีดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วอลิซแอ่นกายรับสัมผัสกระสันที่เขามอบให้ ความรุนแรงดุดันของเขาไม่แผ่วลงเลย หญิงสาวเตรียมจะอ้าปากร้องห้ามแม้ว่าอารมณ์ตอนนี้จะคุกรุ่นเต็มทีแล้วก็ตาม ถ้ามันเลยไปถึงขั้นนั้นเธอเองก็คงทำตัวกับเพื่อนรักคนนี้ไม่ถูกเช่นกัน“อ๊ะ! ..อนณ...ย..หยุด..อื้อออ”ชายหนุ่มตวัดสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้าตา เขารู้ดีว่าเธอจะพูดอะไร แต่เขากลับไม่สนใจแล้วหันไปเริงรมย์กับร่างกายอันเย้ายวนของเพื่อนสาวต่อ ฟันคมขบไปที่เนินอกสวยจนเป็นรอยอย่างมันเขี้ยว ทำเอาอลิซถึงกับสะดุ้ง ก่อนที่มือหนาจะลูบไล้เรือนร่างลงไปยังจุดสงวนของเธอแล้วบดขยี้มันด้วยปลายนิ้ว ทำเอาเพื่อนสาวของเขาครางเสียงหวานและบิดตัวไปมาตามจังหวะที่เขา
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
..หลังเลิกงานอลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้งอลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัทอลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่
..ห้องประชุม“ทางทีมเราต้องการคุณอนณมาเป็นแบบในนิตยสารของเดือนนี้ ทางแบรนด์ Nice Cein เขาบรีฟมาแบบนี้ ว่าต้องเป็นคุณอนณเท่านั้น แต่ว่าทางเราติดต่อคุณแซมผู้จัดการของคุณอนณไปแล้ว เขาปฏิเสธว่าคุณอนณไม่รับงานนิตยสาร”“เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่รัตน์”เด็กฝึกงานที่ชื่อลูกหยีในทีมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะนิตยสารสมัยนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่ตั้งแต่มีอีบุ๊คขึ้นมาหรือหนังสือออนไลน์ การที่เสื้อผ้าแบรนด์ดังกำลังเป็นกระแสมาจ้างงานโปรโมทผ่านนิตยสารของพวกเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะนิตยสารของพวกเธอไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รัตนาหรือพี่รัตน์หันไปมองอลิซด้วยแววตาอ้อนวอน“เดี๋ยวๆ นะ มองลิซแบบนี้หมายความว่า....”“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะลิซ ยังไงอนณก็เป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ?”“พี่รัตน์คะ...ลิซไม่อยากใช้สายสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อให้ได้งานหรอกนะคะ อีกอย่างลิซก็....ไม่ได้สนิทขนาดนั้น”“หือ...ไม่สนิทแต่เมื่อเช้ายังมาส่งกันอยู่เลยนะคะ เมย์เห็น”ลูกทีมอีกคนพูดพร้อมกับจ้องมองอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย“ครับ” -แทนไท“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท“จะบ้าหรอไท”อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น“เราไปกันเถอะซีเซีย”“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์“แล้วมึง
..ลุคค์พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่วนก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก สายตาของเขามองไปที่อลิซไม่วางตาก่อนจะสลับไปมองหน้าอนณที่ยังคงเรียบนิ่ง อนณไม่ได้ตอบโต้อะไรพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ จีซัส ก่อนะที่แซมจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงแล้วให้เขา อนณยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มแต่สายตายังคงไม่ละจากเพื่อนสาวของตนเลย“ไม่ไปขัด?” -จีซัส“ขัดทำไม...มันบอกจะมาล่าเอง” -อนณ“เหรอ...มึงยอมว่างั้น?” -ลุคค์“แล้วทำไมจะไม่ยอม? นั่นเพื่อนไม่ใช่เมีย” -อนณ“งั้นอย่างนี้กูก็สามารถ...ใช่ไหม?” -แทนไท“ไอ้ไท ถ้ามึงคิดจะเล่นๆ ก็ไม่ต้องเสือกเสนอหน้า” -อนณ“เอ้ย...ใครจะเล่นๆ ได้มาเป็นเมียกูยอมอยู่บ้านทั้งวันเลย” -แทนไท“แล้วแต่มึงเถอะ” –อนณ“พวกมึงก็อย่าไปยั่วโมโหมันนักเลย” –แซม“นั่นๆ ไอ้หน้าอ่อนมันกอดเอวซุกคอแล้ว” –จีซัส“มึงจะบรรยายเพื่อ? ถ้ามันไม่ยอมมันก็ผลักออกเองแหละ”อนณพูดอย่างหัวเสียแต่ก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากเพื่อนสาวคนสวยเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะกำแก้วแน่นที่ไม่เห็นท่าท
..“ไปนั่งเล่นที่ห้องกูก่อนไหม?”“....อืมๆ”แซมมองท่าทีของอนณที่ดูออดอ้อนเพื่อนของเขาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาเองตั้งแต่ทำงานกับอนณมาตลอดสี่ปีไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับความแปลกของความสัมพันธ์ที่อนณเรียกว่าเพื่อนเลยแซมมองสายของอนณออกว่าคิดยังไงแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ แซมเลยเข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงคบกับใครไม่ได้นาน“คืนนี้จะไปผับใช่ไหม?”“ใช่ มึงจะไปด้วยไหมล่ะ?”“ไปดิ กูจะไปล่าบ้าง”“เหอะ...”“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่ผับ”“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ครับน้องอลิซ”อนณพยักหน้าให้ผู้จัดการของตนก่อนจะหันไปมองอลิซที่ดูดี๊ด้าที่จะได้ไปเที่ยวผับ พร้อมกับคำพูดที่เธอบอกว่าจะออกล่าทำให้เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาเองก็จะไปหาเหยื่อแก้เซ็งเหมือนกัน“ชุดของกูมีอยู่ในห้องมึงใช่ป่ะ?”“มี”“ดีมาก”“ไม่ต้องใส่ชุดสีแดงนั้นไปนะ”
..“เลิกงานเมื่อไหร่?”(ฮะ? อะไร? ทำไม?)“เดี๋ยวกูไปรับ”(มึงไม่ต้องลำบากก็ได้นะอนณ กูกลับเองได้)“ไม่ เดี๋ยวกูไปรับ”(ถึงกูจะห้ามมึงก็ไม่ฟังสินะ)“อืม ก็รู้นี่”(อีกสิบห้านาที เดี๋ยวกูรอหน้าโรงแรม)“เออ”เสียงทุ้มกรอกไปยังปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด เวลามีปัญหาเขามักจะโทรหาเพื่อนรักคนนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับเขา แม้เขาจะมีเพื่อนมากมายแต่เขาก็ยังตัวติดกับเพื่อนสาวปลายสายไม่ห่าง ทั้งสองสนิทกันมากถึงขนาดรู้ทุกเรื่องและทุกอย่างของกันและกันอนณซุปเปอร์สตาร์หนุ่มฮอตจอมเจ้าชู้ที่ใครๆ ก็รู้ชื่อเสียงของเขาดี แม้ในวงเพื่อนๆ ก็รู้ดีว่าเขาน่ะร้ายตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงก็เป็นข่าวออกบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาคบกับใครได้นานเลย เบื่อก็ทิ้ง แต่ที่เพื่อนๆ ในกลุ่มแปลกใจที่สุดคือเพื่อนสาวของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ของรายการโทรทัศน์ต่างๆ สวยสะพรั่ง หุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆแต่พ่อซูเปอร์สตาร์หนุ่มกลับไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ดูรักดูหวงมากกว่าเสียอีก ปกติสาวๆ สวยๆ ไม่ว่ารู้จักกันมานานหรือพึ่งรู้จักเขามักจะไม