.
.
“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท
“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย
“ครับ” -แทนไท
“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ
“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท
“จะบ้าหรอไท”
อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น
“เราไปกันเถอะซีเซีย”
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ
“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส
“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ
“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์
“แล้วมึงจะแรงเพื่อ?” –อลิซ
“พวกมึงก็เลิกแซวมันกับไอ้อนณเถอะ มันเห็นแบบนี้มาเป็นปีๆ ก็ไม่เห็นมันอะไร” –แทนไท
“เป็นปีๆ เลยหรอ? โห...ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นั่นแหละงั้น” –แซม
“นั่นดิ เลิกแซวกูกับอนณได้ล่ะ กูเบื่อ...รำคาญด้วย” -อลิซ
“โอ้โห...เย็นชาจังวะ อยู่ใกล้กับคนหล่อระดับดาราขนาดนั้น มึงไม่หวั่นบ้างหรอ?”
จีซัสพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อที่มีผู้หญิงใจแข็งแบบนี้อยู่ ตอนแรกเขาแอบเข้าใจผิดคิดว่าอลิซอาจจะรักอนณแต่พอมาวันนี้ความคิดเปลี่ยนไปทันที อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ถามตรงๆ พวกเขาแค่เห็นอนณตัวติดกันกับอลิซเป็นปาท่องโก๋ มีอลิซที่ไหนมีอนณที่นั่น
“เป็นมึงจะหวั่นไหวหรอ ดูนิสัยเสือผู้หญิงของมันดิ ไหนจะเห็นกันมาตั้งแต่เด็กอีก”
“จริงว่ะ”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะยกแก้วชนกันและดื่มกันอย่างดุเดือด อลิซเองก็เริ่มเมาจนขึ้นไปเต้นบนฟลอร์อย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มทั้งสี่คนมองร่างเพรียวที่เต้นยั่วยวนอยู่บนฟลอร์พร้อมกับเสียงเชียร์ไม่หยุด
.
.
02:30 น.
“อุแหวะ!!!!!”
“โหย...มึงมาลูบหลังมันดิ” -จีซัส
“เป็นไงล่ะ จุดจบสายแข็ง” -แทนไท
“กู...อุ...ไหว....แหวะ!!!!” -อลิซ
“ไม่ไหว แบบนี้เขาเรียกไม่ไหว” –ลุคค์
“ไอ้อนณไม่มาสักทีวะ? ไหนว่าจะมา...จนผับปิดล่ะ”
แซมบ่นอุบเมื่อรอเท่าไหร่ก็ไม่เห็นดาราหนุ่มในสังกัดกลับมาสักที ไหนจะอลิซที่เมาจนอ้วกอยู่ข้างรถนี่อีก ยังดีที่เพื่อนๆ ไม่ทิ้งเธอไว้ ยังคงนั่งรอเป็นเพื่อนอย่างไม่อิดออด
“กูว่าวันนี้ไปนอนห้องไอ้ลิซก่อนดีกว่ามั้ง”
“เห็นด้วย”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับแทนไทเพราะจะปล่อยทิ้งไว้ก็คงไม่ได้ อีกอย่างพวกเขาเองก็ไปนอนค้างที่ห้องของอลิซอยู่บ่อยครั้ง แซมเห็นว่าทุกคนตกลงกันได้จึงอาสาขับรถไปส่ง ส่วนรถคนอื่นๆ ก็จอดทิ้งไว้ที่ผับของลุคค์ก่อนตอนเช้าถึงค่อยกลับมาเอารถแล้วไปทำงาน
“งั้นเดี๋ยวกูขับไปส่ง แต่คงไม่ได้อยู่ด้วยนะ ต้องไปเคลียร์เรื่องสาวที่ไอ้อนณหิ้วไป”
“ลำบากพี่เลยนะครับ”
“เป็นเรื่องปกติ แต่มันแค่เยอะกว่าคนปกติ”
แทนไทพูดอย่างเห็นใจก่อนที่แซมจะตอบตามความจริง ตั้งแต่เขาดูแลดารามาไม่เคยสนิทกับใครมากเท่าอนณและไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเยอะเท่าเขาเหมือนกัน เขาเองก็แอบหวังว่าอนณจะหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่ง เพราะเขาจะได้ไม่มีงานเพิ่มขึ้นด้วย
ระหว่างที่พูดคุยกันในรถคนเมาก็เริ่มมีท่าทางแปลกๆ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขก่อนจะลุกขึ้นนั่งโงนเงนและพยายามจะรูดซิปข้างหลังเพื่อจะถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
“เฮ้ยๆ!!! ไอ้ลิซ มึงจะทำอะไร๊” -แทนไท
“กูร้อน...” –อลิซ
“กูว่าไม่ปกติล่ะ แอร์เย็นขขนาดนี้” –จีซัส
“ไท!! มึงปล่อยมือกูดิ! กูจะถอดชุด!” –อลิซ
“ไม่ด๊ายยยยย!! มึงจะถอดตรงนี้ไม่ได้ไหมเพื่อน” –แทนไท
“พวกมึงบอกน้องเลิกดิ้นดิ เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว กระโปรงก็สั้นนิดเดียว” –แซม
“ไอ้พี่แซม มึงก็ขับรถไปดิครับ มองทางไป จะมองกระจกทำไม” –จีซัส
“เป็นมึงทนไม่มองไหวหรอ? พวกมึงทนได้ไงวะ อีกอย่างกูต้องมองรถหลังด้วย” –แซม
“ไม่ด๊ายยย....มากกว่านี้ไททนไม่ได้”
แทนไทพูดพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะเพื่อนสาวตัวดีเริ่มเลิกกระโปรงขึ้นเพื่อที่จะถอดชุดทั้งที่ยังหลับตาแน่นเพราะความมึนหัว จีซัสเองก็จับรั้งกระโปรงของเพื่อนตนให้ลงมาเหมือนเดิม แต่เพื่อนสาวก็ยังยื้อพยายามจะเลิกกระโปรงขึ้น ลุคค์จึงจับแขนเธอล็อกไว้ ส่วนแทนไทเอาแต่หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“อื้อออ....”
“เชี่ย....เสียงแม่ง..” –ลุคค์
“อดทนไว้แทนไท!” –แทนไท
“ใจกูหดหมดแล้วน้องเอ๊ย” –แซม
“เชี่ยพี่แซม...มีด่านข้างหน้า” –จีซัส
แซมมองไปด้านหน้าอย่างตื่นตระหนก เพราะสถานการณ์ในรถตอนนี้มันชวนให้คิดไปในทางที่ดีไม่ได้เลย จีซัสและลุคค์ช่วยกันจัดแจงเสื้อผ้าให้เพื่อนสาว ก่อนที่จีซัสจะโอบไหล่อลิซให้ซบอกของตน แต่มีหรือที่เธอจะนิ่งได้
“โอ้ย! กูร้อนอ่า! จีซัสปล่อยกูดิ”
“มึงช่วยอยู่เงียบๆ สักแปปดิ”
“กูจะถอดชุด!”
รถแล่นเข้าด่านอย่างช้าๆ ก่อนแซมจะลดกระจกลงพร้อมด้วยรอยยิ้มหวานแล้วทักทายตำรวจที่กำลังส่องไฟฉายเข้าไปในรถอย่างสงสัย ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เปิดประตูข้างรถ
“เอ่อ...อะไรหรอครับคุณตำรวจ”
“ให้ความร่วมมือด้วยครับ เปิดประตูให้ตรวจค้นหน่อย”
“เอ่อ...แต่ว่าเพื่อนผมเมาอยู่นะครับ”
“เปิดครับ!”
“ครับๆ”
แซมเปิดประตูรถก่อนที่จะตำรวจจะทันได้เข้ามาตรวจค้น อลิซก็รีบพุ่งออกจากรถจนทำให้ตำรวจตกใจและเตรียมจะชักปืน ท่าทีของเธอเหมือนหนีออกมาแถมยังมีผู้ชายอยู่ด้านในอีกสามคน แต่ก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อตำรวจอีกคนเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่วิ่งลงจากรถเมื่อครู่
“อุแหวะ!!! อู้ววววว.....แหวะ....”
“เอ่อ...น้อง....”
“จีซัส!! กูขอน้ำหน่อย....แหวะ!!”
“เออๆ ...”
ตำรวจมองหน้ากันงุนงงก่อนจะคลายมือจากปืนข้างตัว เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มในรถเอาน้ำมาให้หญิงสาวพร้อมกับลูบหลัง และคนอื่นๆ ก็เดินลงมาอย่างหน้าตาตื่น
“โห...เพื่อนน้องดื่มไปเยอะเหมือนกันนะ ดีแล้วไม่ขับรถ”
“ครับ พวกผมเลยต้องไปส่ง”
“พวกมึง...ช่วยกูหิ้วมันดิ”
หลังจากแทนไทพูดคุยกับตำรวจจีซัสก็เรียกพวกเขาให้มาช่วยกันหิ้วเพื่อนสาวที่ยืนแทบไม่อยู่เซไปเซมา จนจีซัสเองก็แทบจะล้มตาม ลุคค์จึงเข้ามาช่วยหิ้วปีกอีกข้าง แทนไทไปเปิดประตูรถให้ ทุกคนบอกลาตำรวจก่อนจะขับรถออกมาโดยไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้น เพราะตำรวจเลิกสงสัยไปแล้ว
“พอเพื่อนตื่น ต้องขอบคุณมันหน่อยนะ” –แซม
“ไอ้ลิซ! มึงเลิกถอดชุดดิ!” –จีซัส
“อื้อออ...กูร้อนอ่ะ...จีซัส”
เสียงครางหวานพร้อมเรียกชื่อของเพื่อนชายทำเอาเขาขนลุกไปทั้งตัว ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนที่คบกันมาเป็นปีๆ เขาจะไม่อดทนกันขนาดนี้แน่ๆ ลุคค์ส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปสะกิดจีซัสที่นั่งอยู่ข้างๆ อลิซอย่างไม่สุข
“เดี๋ยวกูเอง มึงไปนั่งข้างหลัง”
“เปลี่ยนกูได้สักทีนะมึง”
จีซัสพูดอย่างคาดโทษเพื่อนเพราะลุคค์ไม่เป็นคนไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่ อาจจะเพราะนิสัยโหดหน่อยๆ หน้าตาหล่อเข้มแต่น่ากลัวนิดๆ จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ แต่ก็มีผู้หญิงไม่ขาดพอๆ กับอนณ อาจจะน้อยกว่าอนณด้วยซ้ำ ลุคค์มองเพื่อนสาวของตนก่อนจะเอามือไปแตะหน้าผากก็พบว่ามันร้อนกว่าปกติก่อนจะเลื่อนมือไปจับแขน
“อื้มมม....”
“.........”
คิ้วหนาขมวดกันแน่น อลิซปรือตามองลุคค์เล็กน้อยเพราะทุกครั้งที่เขาสัมผัสมันทำให้ใจหวิวไปยังช่องท้อง คิ้วเรียวสวยขมวดแน่นเพราะความไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกแบบนี้กับเพื่อน
“กูว่า...โดนมอมยา” -ลุคค์
“โห...เต้นยั่วขนาดนั้น รับแก้วแม่งไม่รู้กี่แก้ว” –จีซัส
“มึง...ช่วยดูมันก่อน ใจกูจะตกไปถึงตาตุ่มแล้ว” –แทนไท
อลิซที่กำลังกัดปากยั่วยวนลุคค์อย่างไม่ได้สติ พร้อมกับเอามือเรียวของตนลูบไล้ขาเรียวสวยขึ้นมาอย่างยั่วยวน ลุคค์มองการกระทำของเพื่อนสาวก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วถอนหายใจเพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง แต่ก็ได้ไม่นานแขนเรียวคล้องคอหนาแล้วรั้งลงมาให้ใกล้ใบหน้าของตน ลุคค์จึงใช้มือดันหน้าของเพื่อนสาวไว้
“อ่า...รังเกียจหรอ? ...กูยังซิงน้า...”
“มึงหยุดเลย...กูก็ผู้ชายนะ ถ้าทนไม่ไหวทำอะไรขึ้นมาจะมองหน้ากันไม่ติด”
“โธ่ แม่นางน้อง ให้พี่แซมได้เดินกลับบ้านสะดวกๆ เถอะนะ”
แซมเริ่มขับรถไม่เป็นสุข สายตามองกระจกอย่างละสายตาไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่คนไม่สวย เธอเป็นคนสวยพอๆ กับดาราเลย แต่เพียงแค่เธอชอบที่จะอยู่หน้าจอคอมมากกว่าหน้ากล้องก็เท่านั้น แซมเองก็แปลกใจไม่น้อยที่เพื่อนๆ ของเขาพยายามอดทนสุดฤทธิ์เพียงเพราะคำว่าเพื่อน มันน่าประทับใจไม่น้อยที่ยังมีเพื่อนดีๆ แบบพวกเขาอยู่บ้าง ถ้าเป็นกลุ่มอื่นเธอคง....
ครืดดดดดด....
“ไอ้อนณโทรมาว่ะ”
“เออ มึงอยู่ไหน?”
(มารับที่โรงแรมXOที...)
“ได้ๆ ผ่านพอดี...”
“อื้มมม....ลุคค์...จูบกูหน่อย”
“ไอ้ลิซ...มึงตั้งสติก่อน”
(....เกิดเชี่ยไรขึ้น?!! ทำไมไอ้ลิซถึง....)
“แค่นี้ก่อนนะ กูขับรถอยู่ ใกล้จะถึงแล้ว”
(เดี๋ยว! ไม่ต้องวาง.....)
แซมไม่ทันได้ฟังที่ปลายสายพูดก็รีบกดวางสายทันที ก่อนจะรีบขับรถไปยังโรงแรมประจำที่เคยไปรับอนณเวลาหิ้วสาวๆ ส่วนด้านหลังก็ว้าวุ่นช่วยกันหาผ้าห่มผ้าคลุมมาพันไว้จ้าละหวั่น แต่แขนเรียวของอลิซไม่ได้ปล่อยจากคอหนาของลุคค์เลย
.
.
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..ห้องประชุม“ทางทีมเราต้องการคุณอนณมาเป็นแบบในนิตยสารของเดือนนี้ ทางแบรนด์ Nice Cein เขาบรีฟมาแบบนี้ ว่าต้องเป็นคุณอนณเท่านั้น แต่ว่าทางเราติดต่อคุณแซมผู้จัดการของคุณอนณไปแล้ว เขาปฏิเสธว่าคุณอนณไม่รับงานนิตยสาร”“เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่รัตน์”เด็กฝึกงานที่ชื่อลูกหยีในทีมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะนิตยสารสมัยนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่ตั้งแต่มีอีบุ๊คขึ้นมาหรือหนังสือออนไลน์ การที่เสื้อผ้าแบรนด์ดังกำลังเป็นกระแสมาจ้างงานโปรโมทผ่านนิตยสารของพวกเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะนิตยสารของพวกเธอไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รัตนาหรือพี่รัตน์หันไปมองอลิซด้วยแววตาอ้อนวอน“เดี๋ยวๆ นะ มองลิซแบบนี้หมายความว่า....”“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะลิซ ยังไงอนณก็เป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ?”“พี่รัตน์คะ...ลิซไม่อยากใช้สายสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อให้ได้งานหรอกนะคะ อีกอย่างลิซก็....ไม่ได้สนิทขนาดนั้น”“หือ...ไม่สนิทแต่เมื่อเช้ายังมาส่งกันอยู่เลยนะคะ เมย์เห็น”ลูกทีมอีกคนพูดพร้อมกับจ้องมองอ
..หลังเลิกงานอลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้งอลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัทอลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
“กรี๊ดดด!” อลิซกรีดร้องอย่างตกใจเมื่อเปิดประตูแล้วเขากลับอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าทันที อนณหัวเราะในลำคอก่อนจะใช้เท้าปิดประตูลง เขาอุ้มอลิซเดินเข้าห้องนอนแล้ววางเธอลงบนเตียงสีเข้มของเขา ริมฝีปากหยักไม่รอให้เธอได้เอ่ยถามก้มลงป้อนจูบเธอในทันที ก่อนที่เขาจะละจากจูบนั้นมองอลิซที่หน้าแดงมองเขา“มึงเป็นคนแรกเลยนะที่กูหิ้วขึ้นเตียงตัวเอง”“มึงจะมาพูดอะไรตอนนี้เนี่ย กูควรดีใจใช่ไหม?”“กูพูดจริงๆ นะ”“เชื่อได้หรอ?”“มึงก็รู้เรื่องของกูไม่ใช่หรอ?”“อ...อือ...รู้แล้วน่า”อลิซตอบปัดๆ อย่างเขินๆ จากที่เธอรู้มามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเขามักจะไปข้างนอกมากกว่าจะพาใครเข้ามายุ่งในคอนโดของตัวเอง ไม่ทันที่อลิซได้คิดต่อเขาก็ก้มลงป้อนจูบอีกครั้ง คราวนี้มันยาวนานและร้อนแรงกว่ารอบแรกมากนัก จนไฟในกายของทั้งคู่เริ่มร้อนระอุไปหมดทั้งสองร่างกอดกันกลมก่อนที่เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เคยอยู่บนเรือนร่างของทั้งคู่ก็ได้ปลิวว่อนไปคนละทิศละทาง เหลือแต่เพียงร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่ที่พร้อมจะบรรเลงบทรักเสียเต็มประดาเตียงที่ว่ามั่นคงกับโยกไป
..ห้องแชทกลุ่มอนณ - อยากแดกเหล้าจีซัส – อารมณ์ไหนของมึงครับไอ้ดาราอนณ - แค่อยากแดกแทนไท – ลิซมาไหม?ลุคค์ – ถามหาแต่หญิง นั่นเพื่อนแซม - หิ้วไหม?อนณ - เหมือนเดิมจีซัส - ใครก็ได้หยุดไอ้ดาราจอมเจ้าชู้นี่ทีแทนไท – ใครก็เบรกมันไม่ได้หรอกอนณ - สรุปจะแดกไหม? ถ้าไม่ กูจะได้ไปคนเดียวลุคค์- ผับกูผับHISO“เป็นเหี้*ไรมาแต่หัววัน”“ก็แค่อยากแดก”ลุคค์เดินเข้ามาหาอนณที่มาเป็นคนแรกแถมยังยกเหล้าเพียวๆ ไม่รอเพื่อนคนอื่นๆ เลย ลุคค์นั่งลงข้างๆ เพื่อนตัวเองพร้อมกับแก้วเหล้าในมือที่เพื่อนของเขาประเคนให้ ก่อนจะยกขึ้นมาดื่มอย่างเงียบๆ อนณเองก็ยกไม่พักเหมือนหิวน้ำมาจากไหน“มึงว่าถ้าผู้หญิงอยู่บนเตียงกับผู้ชายสองต่อสองแล้วจูบกันแล้วมันจะไม่ไปต่อได้หรอวะ”“ฮะ?”ลุคค์แทบจะสำลักเหล้าที่กำลังยกเข้าปากก่อนจะหันไปหาเพื่อนรักที่มีเรื่องผู้หญิงไม่เว้นวัน กลับมาถามเขาแค่คำถามง
..“คงไม่ใช่คนที่กูคิดหรอกนะ เพราะมันแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” -แซม“ขอให้ไม่ใช่คนที่กูคิดเหมือนกัน ไม่งั้นใจกูแตกเป็นเสี่ยงๆ แน่” -แทนไท“ไอ้ไท มึงก็เว่อ” -ลุคค์“แล้วพวกมึงคิดว่าใคร?” -จีซัส“ไอ้ลิซ”ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกับอย่างไม่ได้นัดหมายพร้อมกับมองหน้ากันไปมา เอาจริงๆ พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าอนณรู้สึกพิเศษกับอลิซแต่เขาก็ไม่เคยข้ามเส้นเลยสักครั้ง ซ้ำยังทำเหมือนไม่สนใจเสียอีก คนที่แสดงออกชัดเจนอย่างแทนไทยังไม่กล้าล้ำเส้นเลย มีอย่างที่ไหนทั้งที่ตัวเองไม่ได้ว่างแต่ยังคอยไปรับไปส่ง พักหลังๆ มานี้ดูแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเพื่อนสาวตัวเล็กแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะอลิซสวยขึ้นมากกว่าแต่ก่อนตอนสมัยเรียน แต่มันต้องมีอะไรที่ทำให้เพื่อนรักอย่างอนณต้องตามติดแจแน่ๆ“ถึงมันจะแสดงออกอย่างนั้น แม่งก็ยังควงผู้หญิงไม่เลือกเหมือนเดิม” -แซม“แก้ยากว่ะ ถ้ามันล้ำเส้นไอ้ลิซจริงๆ ก็สงสารไอ้ลิซมันนะ” -จีซิส“เตือนหน่อยก็ดี
“สรุปพวกมึงยังไง?” - แทนไท ลุคค์ แซม พูดขึ้นพร้อมกัน“อ้าว พวกมึงยังไม่รู้หรอ?” -จีซัส“ถามไอ้ลิซดิ” -อนณ“อ้าว ทำไมโยนมาให้กูอ่ะ” -อลิซ“พูดกับผัวดีๆ ดิ” -อนณ“อะไรของมึง อนณมันปล้ำกูไงเลยต้องยอม” -อลิซ“อ้าว! ไอ้เหี้*นณ” ทุกคนหันไปคาดโทษอนณก่อนจะรุมต่อยเขาหยอกๆ จีซัสเองก็ไม่วายร่วมวงด้วย อนณเอามือกันตัวเองพร้อมกับหัวเราะออกมาก่อนจะหันไปสบตากับจีซัส“มึงรู้แล้วไม่ใช่หรอไอ้จี” -อนณ“เออ แต่อยากร่วมวงด้วย” -จีซัส“มึงนี่ตัวดีเลยไอ้หมอ” -ลุคค์“กูเปล๊า” -จีซัส“กูไม่ได้ปล้ำมัน ไอ้ลิซมันเรียกกูไปหาเอง” -อนณ“พวกมึงจะเชื่อกูหรือเชื่อมันอ่ะ” -อลิซ“ไม่เชื่อทั้งคู่อ่ะ พอๆ กันเลยพวกมึงสองตัว” ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกันแล้วส่ายหน้า อลิซมองดูทุกคนอย่างยิ้มๆ ภายในใจคิดว่าไม่อยากให้บรรยากาศอย่างนี้หายไปเลย พวกเพื่อนๆ คือสิ่งที่เธอเหลืออยู่“ถ้ากูคบกับอนณพวกมึงจะเปลี่ยนไปไหม?” -อลิซ“มึงพูดอะไรของมึง เพื่อนนะไม่ใช่ผัว” -จีซัส
“พี่อลิซ!...คุณอนณ..” ต้นชาหันไปเห็นอลิซก่อนจะเรียกชื่อของเธอ สายตาของเขาเลื่อนไปที่มือของอลิซที่อนณจับกุมไว้แน่น ก่อนจะเรียกชื่อพี่ชายต่างแม่ด้วยท่าทีที่ไม่สบอารมณ์นัก เมื่อพวกเขาเดินจับมือกันเข้ามาในห้องพักรักษาตัวของผู้เป็นพ่อ“แก! แกยังจะกล้าทำแบบนี้กับอลิซอีกหรอ!! ไอ้เลว!!” อิ่มอุ่นผู้เป็นแม่เลี้ยงเดินเข้าไปหาทั้งคู่พร้อมกับทำท่าจะพุ่งเข้าไปดึงตัวของอลิซออกมา แต่อนณกลับดึงอลิซไปข้างหลังแล้วเอาตัวบังไว้ เขาโน้มตัวลงไปกระซิบเสียงเบากับผู้เป็นแม่เลี้ยงจนทำให้สีหน้าของเธอนั้นถึงกับตกใจ“ถ้าไม่อยากให้ลูกชายของคุณรู้ความจริงก็อย่าเสียงดังไป...ยายชุลีบอกผมหมดแล้ว เรื่องนี้ผมจะบอกพ่อเอง อย่ายุ่ง!”“แก! กล้าดียังไงมายุ่งกับลูกสาวของฉัน!!”“ฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณตั้งแต่วันที่คุณทิ้งฉันไว้กับยายแล้วค่ะ ฉันเป็นแค่ลูกสะใภ้ของคุณเท่านั้น” อลิซพูดพร้อมกับน้ำตาเอ่อคลอ แต่ก็พยายามกลั้นไม่ให้มันไหลลงมาอาบสองแก้ม อิ่มอุ่นมองลูกสาวของตนอย่างเจ็บปวดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอทำแบบนั้นกับลูกสาวจริงๆ“แม่...แม่ขอโทษ
“พ่อมึงปลอดภัยแล้ว” จีซัสเดินเข้ามาบอกเพื่อนของเขาที่นั่งก้มหน้าคอตกอยู่หลังจากออกมาจากห้องฉุกเฉินมาพร้อมกับบ่าอนณเบาะๆ เพื่อปลอบใจ อนณเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนด้วยสีหน้าที่ดูเศร้าและเพื่อนของเขาคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องของพ่ออย่างเดียว“ไปคุยกับกูที่ห้องทำงานก่อนไหม?”“อืม”จีซัสพูดขึ้นก่อนจะเดินนำไปที่ห้องทำงานของเขาโดยมีอนณเดินตามหลังไป ปล่อยให้ต้นชาและแม่อิ่มนั่งเฝ้ารอพ่อของเขาออกจากห้องฉุกเฉิน เหมือนโชคชะตาเล่นตลกที่นำพาครอบครัวของเขาและอลิซมาเจอกัน ดันมาอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน อนณคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเจอกันมันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก คนที่น่าสงสารมากที่สุดคงไม่พ้นอลิซที่ตอนนี้ขึ้นชื่อว่าน้องสาวของเขา และเขากลับเอาน้องสาวตัวเองทำเมีย“มีเรื่องอะไร?”“พ่อกูบอกว่าอลิซ....เป็นน้องสาวกู..”“ฮะ?! ถ้าเป็นอย่างนั้นเหี้*มากนะ”“กูสิเหี้* ...ก็กูไม่รู้” อนณพูดก่อนจะน้ำตาไหลพรากออกมาหลังจากที่กลั้นมานาน มือหนากุมขมับปิดบังหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา จีซัสถอนหายใจก่อนจะตบบ่าเพื่อนอีกครั้ง นี่คงเป็นครั้ง
“กูรักมึง...เกินคำว่าเพื่อนมาตั้งนานแล้ว”“.........”“แต่กูแค่พยายามหลอกตัวเองไง เพราะเหมือนยังไงมึงก็ไม่มองกูเป็นอื่น”“แล้วทำไม...”“เพราะกูข้ามเส้นนั้นมาเอง ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนคู่ขา หรืออะไรอย่างนั้นนอกจากแฟนมึง”“อนณ...”“ตั้งแต่ได้กับมึงมากูไม่คิดอยากจะไปเอากับใครอีกเลย...กูสัญญาว่าจะไม่แรดอีก”“คือ...”“คบกับกูได้ไหม?”“มึงคือว่า....”“เป็นแฟนกันเถอะนะ”“ไม่ได้...” อลิซมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำหน้าจริงจัง และเธอก็รู้แล้วว่าเขารู้สึกยังไง น้ำตาเอ่อคลอเบ้าตอบออกไปเสียงแผ่ว ก่อนจะเบือนหน้าหนีหลบสายตาเพื่อนของตน“ทำไม? ...ลิซ มองหน้ากูแล้วตอบ”“อนณ...มึงมีคนที่ต้องแต่งงานด้วยอยู่แล้ว” อนณเอื้อมมือไปจับใบหน้าสวยนั้นให้หันกลับมามองเขา อลิซตอบทั้งน้ำตา คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น สีหน้าที่จริงจังในตอนแรกเปลี่ยนเป็นดุดันเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเข้นเสียงลอดไรฟันถามเพื่อนสาวอย่างใจเย็น“มึง...ไปเจอพ่อกูมาใช
“ขอโทษนะครับ ช่วยหลีกทางหน่อย” อนณพูดอย่างไม่คิดจะสนใจผู้หญิงตรงหน้า ไม่ว่าเธอจะบิดม้วนต้วนเป็นไข่ม้วนพร้อมกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เขาแค่ไหนก็ตาม ถ้ายุ่งเรื่องมันก็เหยิงไปกว่านี้“อะ...เอ่อ...คือว่า...”“.........”“พี่ลิซไม่มาด้วยหรอคะ? พอดีมีเรื่องจะคุยกับพี่ลิซเรื่องงาน”“ไม่มาครับ” อนณตอบเสียงเรียบพร้อมกับเบนสายตาไปทางอื่นแทน สาวเจ้าก็ยังคงทำท่าขวยเขินใช้แขนบีบอกให้ชิดติดกันจนเป็นร่อง เสื้อยืดเจ้าหล่อนก็คอลึกเสียเหลือเกิน นั่นคือสาเหตุที่อนณไม่มอง“งั้นพานุ่นไปที่คอนโดด้วยได้ไหมคะ? นุ่นว่าจะนั่งแท็กซี่ไปแต่ไม่รู้ทางเลย”“คงจะไม่ดีมั้ง”“นะคะ...นุ่นไม่รู้ทางจริงๆ” หญิงสาวพูดก่อนจะกระโดดเข้าเกาะแขนอนณอย่างตั้งใจให้เจ้าอกเจ้าเต้าของตนชนแขนเขา อนณผงะตัวออกเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้าสาวอย่างไม่สบอารมณ์นัก มารับปากก็คงจะเกาะไม่ปล่อยแน่ๆ“เข้าใจแล้ว...ช่วยปล่อยมือด้วย” อนณตอบพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นมองหน้าหญิงสาวและแขนของเขาสลับกันเป็นเชิงบอก นุ่นมองหน้าอนณพร้อมกับยิ้มก่อนจะยอมปล่อ
“จะรีบเสร็จก่อนกูได้ยังไง...นี่พึ่งเริ่มเองนะ” เขายกยิ้มร้ายก่อนจะจับกำแก่นกายใหญ่ของตนที่กำลังตื่นตัวเต็มที่พร้อมกับรูดมันเข้าออกอีกสองสามครั้งแล้วจับแก่นใหญ่นั้นจ่อปากทางแคบ เพื่อนสาวเบิกตากว้างพึ่งเห็นชัดๆ ว่ามันอลังการขนาดนี้ก็ตอนนี้แหละ...และคิดว่าไอ้นั่นหรอที่มันเข้าไปในกายเธอเมื่อคืน...“อ๊ะ!!! อ๊ายยย!! ยัง..เจ็บอยู่เลย...” อลิซถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อเขาจับไอ้แท่งนั้นยัดเข้าไปก่อนจะดันมันเข้าไปทีเดียวมิดลำ เขาทำหน้าเหยเกเพราะภายในยังคงรัดแน่นไม่คลาย ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“อืมมมม...มึงอย่ารัดกูแน่นนักสิ...จะขยับไม่ได้อยู่แล้ว” เขาไม่พูดเปล่าพร้อมขยับสะโพกออกก่อนจะกระแทกเข้าไปอีกครั้งหนักๆ รอบนี้เขาจะไม่กัดฟันทนทำแบบเนิบๆ อีกต่อไป สะโพกหนาเริ่มโยกเป็นจังหวะที่เขาต้องการเพราะความคับแคบและบีบรัดแน่นทำให้เขาต้องขบกรามอย่างข่มอารมณ์“อ๊า! อ๊า!” เสียงครางใกล้ๆ หูทำเอาอารมณ์ของเขาคุกรุ่นกว่าเดิม ใบหน้าสวยของเพื่อนสาวยบิดเบี้ยวไปตามอารมณ์แรงราคะนั้นมันทำให้เขาอดใจไม่ไห
อนณยืนรออลิซอยู่หน้าผับหลังจากที่คุยกับเลขาของพ่อเสร็จ อลิซเดินออกมาตากร้านอาหารพร้อมกับโบกมือลาต้นชาและส่งยิ้มให้ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของอนณ เขามองเพื่อนสาวคนสนิทอย่างไม่สบอารมณ์ รอยยิ้มเขินๆ นั่นที่เธอส่งยิ้มให้ชายอื่นที่ไม่ใช่เขา อลิซแยกกับต้นชาก็เดินข้ามถนนมายังหน้าผับเพื่อเตรียมจะไปช่วยงานลุคค์เหมือนอย่างเคย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นอนณยืนอยู่เงียบๆ“มึง...มาทำอะไรแถวนี้”“มาตามหามึงไง”“เพื่อ?”“กูไปรู้ข่าวมาว่ามึงจะไปแดกข้าวกินน้องที่บริษัท แต่ไม่คิดว่าจะแดกข้าวกันสองต่อสองกับไอ้หน้าอ่อนนั่น!”อนณพูดพร้อมใส่อารมณ์เผลอตะคอกอลิซอย่างนึกลืมตัว ใบหน้าภายใต้หมวกดูไม่พอใจและเจ็บปวดไม่น้อย อลิซมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างไม่เข้าใจ ว่าเขาจะมายุ่งอะไรกับเธออีกในเมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อไปแล้วว่ามีคนดูใจอยู่ และทำไมไม่ไปหาผู้หญิงคนนั้นจะมาวุ่นวายกับเธอทำไมอีก อลิซตีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะตอบเพื่อนชายของเธอออกไป“กูจะเปิดใจให้ใครแล้วมันยังไงหรอ? ก็เป็นสิทธิ์ของกูป่ะ”“แต่กูไม่ชอบไง! ทำไมมึงต้องแรดไปหาคนนั้นคน
อลิซยันร่างที่เหนื่อยล้าของตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียง ร่างเปลือยเปล่าเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เรื่องเมื่อคืนยังทำให้เธอใจเต้นอยู่เลย ความเจ็บแปลบแล่นเข้ามาที่สะโพกและส่วนนั้น นั้นยิ่งตอกย้ำว่าเธอมีอะไรกับเพื่อนสนิทแล้วจริงๆ อลิซสะบัดความคิดก่อนจะรีบอาบน้ำกัดฟันทนความเจ็บเธอเดินใส่ผ้าขนหนูออกมาเพื่อแต่งตัวไปทำงาน สายตาก็ปรายมองเพื่อนสนิทที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงของตนด้วยร่างเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มคลุมบดบังไว้ ก่อนที่เธอจะรีบหันมาแต่งตัวและออกไปทำงานเพราะกลัวจะสายครืดดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์สั่นอยู่บนหัวเตียง อนณขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะปรือตาเงยหน้าแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมารับสายด้วยท่าทีงัวเงีย“อืม”(มึงอยู่ไหน กูมารับมึงที่ห้องแต่ไม่เห็น)“ใครวะ”(อ้าว ไอ้นี่ กูแซมผู้จัดการมึงไง)“อ๋อ เออ กูกำลังไป”(มึงอยู่ไหน)“ห้องลิซ แปป...เดี๋ยวออกไป”พูดจบอนณก็วางสายทันทีก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นร่างเพื่อนสนิทที่นอนกอดตนเมื่อคืนแล้ว อ
สองร่างนัวเนียกันไปมาพร้อมกับเดินไปยังห้องนอนของอลิซ ตลอดทางต่างก็ช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าของอีกฝ่ายแต่ก็ยังไม่ยอมละจากจูบ เพื่อนชายคนสนิทอุ้มเพื่อนสาวของตนขึ้นก่อนที่เธอจะตวัดขาเกี่ยวรอบเอวสอบ ขาเรียวเกี่ยวกอดคอหนาพร้อมกับก้มลงมาจูบเขา ร่างหนาอุ้มร่างของเพื่อนสาวไปยังเตียงนอนก่อนจะวางเธอลงนอนราบไปกับเตียงลิ้นร้อนพัวพันเกี่ยวตวัดดูดดึงกันไปมาก่อนที่มือหนาจะเลื่อนเข้าสอดใต้ชุดนอนกระโปรงนั้นเพื่อดึงกางเกงในตัวจิ๋วร่นออกมาให้พ้นทาง ใบหน้าหล่อเลื่อนลงมาพรมจูบที่ซอกคอขาวพร้อมกับขบเม้มมันจนเป็นรอย ร่างบางเงยหน้าขึ้นเปิดทางให้เขาดอมดมได้เต็มที่ ก่อนที่มือของเขาจะร่นเกี่ยวชุดนอนของเธอลงไปกองที่หน้าท้อง“อื้มมม...”เสียงร้องครางเสียงหวานดังขึ้นเมื่อมือหนาบีบคลึงเต้าตึงพร้อมกับครอบครองมันด้วยริมฝีปากหยัก ลิ้นร้อนตวัดวนก่อนจะดูดดึงปลายยอดทำให้ร่างกายสั่นสะท้านแอ่นร่างรับสัมผัสกระสัน มือหนาเลื่อนเอื้อมไปปลดกางเกงของตนออกจนหมดทั้งที่ยังคงปรนเปรอความสุขสมให้ร่างบางไม่พักปลายนิ้วเรียวลูบไล้หยอกเย้าจุดอ่อนไหวของสาวเจ้าจนร้องครางขึ้นอย่างห้า