.
.
“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท
“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย
“ครับ” -แทนไท
“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ
“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท
“จะบ้าหรอไท”
อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น
“เราไปกันเถอะซีเซีย”
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ
“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส
“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ
“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์
“แล้วมึงจะแรงเพื่อ?” –อลิซ
“พวกมึงก็เลิกแซวมันกับไอ้อนณเถอะ มันเห็นแบบนี้มาเป็นปีๆ ก็ไม่เห็นมันอะไร” –แทนไท
“เป็นปีๆ เลยหรอ? โห...ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นั่นแหละงั้น” –แซม
“นั่นดิ เลิกแซวกูกับอนณได้ล่ะ กูเบื่อ...รำคาญด้วย” -อลิซ
“โอ้โห...เย็นชาจังวะ อยู่ใกล้กับคนหล่อระดับดาราขนาดนั้น มึงไม่หวั่นบ้างหรอ?”
จีซัสพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อที่มีผู้หญิงใจแข็งแบบนี้อยู่ ตอนแรกเขาแอบเข้าใจผิดคิดว่าอลิซอาจจะรักอนณแต่พอมาวันนี้ความคิดเปลี่ยนไปทันที อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ถามตรงๆ พวกเขาแค่เห็นอนณตัวติดกันกับอลิซเป็นปาท่องโก๋ มีอลิซที่ไหนมีอนณที่นั่น
“เป็นมึงจะหวั่นไหวหรอ ดูนิสัยเสือผู้หญิงของมันดิ ไหนจะเห็นกันมาตั้งแต่เด็กอีก”
“จริงว่ะ”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะยกแก้วชนกันและดื่มกันอย่างดุเดือด อลิซเองก็เริ่มเมาจนขึ้นไปเต้นบนฟลอร์อย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มทั้งสี่คนมองร่างเพรียวที่เต้นยั่วยวนอยู่บนฟลอร์พร้อมกับเสียงเชียร์ไม่หยุด
.
.
02:30 น.
“อุแหวะ!!!!!”
“โหย...มึงมาลูบหลังมันดิ” -จีซัส
“เป็นไงล่ะ จุดจบสายแข็ง” -แทนไท
“กู...อุ...ไหว....แหวะ!!!!” -อลิซ
“ไม่ไหว แบบนี้เขาเรียกไม่ไหว” –ลุคค์
“ไอ้อนณไม่มาสักทีวะ? ไหนว่าจะมา...จนผับปิดล่ะ”
แซมบ่นอุบเมื่อรอเท่าไหร่ก็ไม่เห็นดาราหนุ่มในสังกัดกลับมาสักที ไหนจะอลิซที่เมาจนอ้วกอยู่ข้างรถนี่อีก ยังดีที่เพื่อนๆ ไม่ทิ้งเธอไว้ ยังคงนั่งรอเป็นเพื่อนอย่างไม่อิดออด
“กูว่าวันนี้ไปนอนห้องไอ้ลิซก่อนดีกว่ามั้ง”
“เห็นด้วย”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับแทนไทเพราะจะปล่อยทิ้งไว้ก็คงไม่ได้ อีกอย่างพวกเขาเองก็ไปนอนค้างที่ห้องของอลิซอยู่บ่อยครั้ง แซมเห็นว่าทุกคนตกลงกันได้จึงอาสาขับรถไปส่ง ส่วนรถคนอื่นๆ ก็จอดทิ้งไว้ที่ผับของลุคค์ก่อนตอนเช้าถึงค่อยกลับมาเอารถแล้วไปทำงาน
“งั้นเดี๋ยวกูขับไปส่ง แต่คงไม่ได้อยู่ด้วยนะ ต้องไปเคลียร์เรื่องสาวที่ไอ้อนณหิ้วไป”
“ลำบากพี่เลยนะครับ”
“เป็นเรื่องปกติ แต่มันแค่เยอะกว่าคนปกติ”
แทนไทพูดอย่างเห็นใจก่อนที่แซมจะตอบตามความจริง ตั้งแต่เขาดูแลดารามาไม่เคยสนิทกับใครมากเท่าอนณและไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงเยอะเท่าเขาเหมือนกัน เขาเองก็แอบหวังว่าอนณจะหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่ง เพราะเขาจะได้ไม่มีงานเพิ่มขึ้นด้วย
ระหว่างที่พูดคุยกันในรถคนเมาก็เริ่มมีท่าทางแปลกๆ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขก่อนจะลุกขึ้นนั่งโงนเงนและพยายามจะรูดซิปข้างหลังเพื่อจะถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
“เฮ้ยๆ!!! ไอ้ลิซ มึงจะทำอะไร๊” -แทนไท
“กูร้อน...” –อลิซ
“กูว่าไม่ปกติล่ะ แอร์เย็นขขนาดนี้” –จีซัส
“ไท!! มึงปล่อยมือกูดิ! กูจะถอดชุด!” –อลิซ
“ไม่ด๊ายยยยย!! มึงจะถอดตรงนี้ไม่ได้ไหมเพื่อน” –แทนไท
“พวกมึงบอกน้องเลิกดิ้นดิ เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว กระโปรงก็สั้นนิดเดียว” –แซม
“ไอ้พี่แซม มึงก็ขับรถไปดิครับ มองทางไป จะมองกระจกทำไม” –จีซัส
“เป็นมึงทนไม่มองไหวหรอ? พวกมึงทนได้ไงวะ อีกอย่างกูต้องมองรถหลังด้วย” –แซม
“ไม่ด๊ายยย....มากกว่านี้ไททนไม่ได้”
แทนไทพูดพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะเพื่อนสาวตัวดีเริ่มเลิกกระโปรงขึ้นเพื่อที่จะถอดชุดทั้งที่ยังหลับตาแน่นเพราะความมึนหัว จีซัสเองก็จับรั้งกระโปรงของเพื่อนตนให้ลงมาเหมือนเดิม แต่เพื่อนสาวก็ยังยื้อพยายามจะเลิกกระโปรงขึ้น ลุคค์จึงจับแขนเธอล็อกไว้ ส่วนแทนไทเอาแต่หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“อื้อออ....”
“เชี่ย....เสียงแม่ง..” –ลุคค์
“อดทนไว้แทนไท!” –แทนไท
“ใจกูหดหมดแล้วน้องเอ๊ย” –แซม
“เชี่ยพี่แซม...มีด่านข้างหน้า” –จีซัส
แซมมองไปด้านหน้าอย่างตื่นตระหนก เพราะสถานการณ์ในรถตอนนี้มันชวนให้คิดไปในทางที่ดีไม่ได้เลย จีซัสและลุคค์ช่วยกันจัดแจงเสื้อผ้าให้เพื่อนสาว ก่อนที่จีซัสจะโอบไหล่อลิซให้ซบอกของตน แต่มีหรือที่เธอจะนิ่งได้
“โอ้ย! กูร้อนอ่า! จีซัสปล่อยกูดิ”
“มึงช่วยอยู่เงียบๆ สักแปปดิ”
“กูจะถอดชุด!”
รถแล่นเข้าด่านอย่างช้าๆ ก่อนแซมจะลดกระจกลงพร้อมด้วยรอยยิ้มหวานแล้วทักทายตำรวจที่กำลังส่องไฟฉายเข้าไปในรถอย่างสงสัย ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เปิดประตูข้างรถ
“เอ่อ...อะไรหรอครับคุณตำรวจ”
“ให้ความร่วมมือด้วยครับ เปิดประตูให้ตรวจค้นหน่อย”
“เอ่อ...แต่ว่าเพื่อนผมเมาอยู่นะครับ”
“เปิดครับ!”
“ครับๆ”
แซมเปิดประตูรถก่อนที่จะตำรวจจะทันได้เข้ามาตรวจค้น อลิซก็รีบพุ่งออกจากรถจนทำให้ตำรวจตกใจและเตรียมจะชักปืน ท่าทีของเธอเหมือนหนีออกมาแถมยังมีผู้ชายอยู่ด้านในอีกสามคน แต่ก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อตำรวจอีกคนเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่วิ่งลงจากรถเมื่อครู่
“อุแหวะ!!! อู้ววววว.....แหวะ....”
“เอ่อ...น้อง....”
“จีซัส!! กูขอน้ำหน่อย....แหวะ!!”
“เออๆ ...”
ตำรวจมองหน้ากันงุนงงก่อนจะคลายมือจากปืนข้างตัว เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มในรถเอาน้ำมาให้หญิงสาวพร้อมกับลูบหลัง และคนอื่นๆ ก็เดินลงมาอย่างหน้าตาตื่น
“โห...เพื่อนน้องดื่มไปเยอะเหมือนกันนะ ดีแล้วไม่ขับรถ”
“ครับ พวกผมเลยต้องไปส่ง”
“พวกมึง...ช่วยกูหิ้วมันดิ”
หลังจากแทนไทพูดคุยกับตำรวจจีซัสก็เรียกพวกเขาให้มาช่วยกันหิ้วเพื่อนสาวที่ยืนแทบไม่อยู่เซไปเซมา จนจีซัสเองก็แทบจะล้มตาม ลุคค์จึงเข้ามาช่วยหิ้วปีกอีกข้าง แทนไทไปเปิดประตูรถให้ ทุกคนบอกลาตำรวจก่อนจะขับรถออกมาโดยไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้น เพราะตำรวจเลิกสงสัยไปแล้ว
“พอเพื่อนตื่น ต้องขอบคุณมันหน่อยนะ” –แซม
“ไอ้ลิซ! มึงเลิกถอดชุดดิ!” –จีซัส
“อื้อออ...กูร้อนอ่ะ...จีซัส”
เสียงครางหวานพร้อมเรียกชื่อของเพื่อนชายทำเอาเขาขนลุกไปทั้งตัว ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนที่คบกันมาเป็นปีๆ เขาจะไม่อดทนกันขนาดนี้แน่ๆ ลุคค์ส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปสะกิดจีซัสที่นั่งอยู่ข้างๆ อลิซอย่างไม่สุข
“เดี๋ยวกูเอง มึงไปนั่งข้างหลัง”
“เปลี่ยนกูได้สักทีนะมึง”
จีซัสพูดอย่างคาดโทษเพื่อนเพราะลุคค์ไม่เป็นคนไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่ อาจจะเพราะนิสัยโหดหน่อยๆ หน้าตาหล่อเข้มแต่น่ากลัวนิดๆ จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ แต่ก็มีผู้หญิงไม่ขาดพอๆ กับอนณ อาจจะน้อยกว่าอนณด้วยซ้ำ ลุคค์มองเพื่อนสาวของตนก่อนจะเอามือไปแตะหน้าผากก็พบว่ามันร้อนกว่าปกติก่อนจะเลื่อนมือไปจับแขน
“อื้มมม....”
“.........”
คิ้วหนาขมวดกันแน่น อลิซปรือตามองลุคค์เล็กน้อยเพราะทุกครั้งที่เขาสัมผัสมันทำให้ใจหวิวไปยังช่องท้อง คิ้วเรียวสวยขมวดแน่นเพราะความไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกแบบนี้กับเพื่อน
“กูว่า...โดนมอมยา” -ลุคค์
“โห...เต้นยั่วขนาดนั้น รับแก้วแม่งไม่รู้กี่แก้ว” –จีซัส
“มึง...ช่วยดูมันก่อน ใจกูจะตกไปถึงตาตุ่มแล้ว” –แทนไท
อลิซที่กำลังกัดปากยั่วยวนลุคค์อย่างไม่ได้สติ พร้อมกับเอามือเรียวของตนลูบไล้ขาเรียวสวยขึ้นมาอย่างยั่วยวน ลุคค์มองการกระทำของเพื่อนสาวก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วถอนหายใจเพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง แต่ก็ได้ไม่นานแขนเรียวคล้องคอหนาแล้วรั้งลงมาให้ใกล้ใบหน้าของตน ลุคค์จึงใช้มือดันหน้าของเพื่อนสาวไว้
“อ่า...รังเกียจหรอ? ...กูยังซิงน้า...”
“มึงหยุดเลย...กูก็ผู้ชายนะ ถ้าทนไม่ไหวทำอะไรขึ้นมาจะมองหน้ากันไม่ติด”
“โธ่ แม่นางน้อง ให้พี่แซมได้เดินกลับบ้านสะดวกๆ เถอะนะ”
แซมเริ่มขับรถไม่เป็นสุข สายตามองกระจกอย่างละสายตาไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่คนไม่สวย เธอเป็นคนสวยพอๆ กับดาราเลย แต่เพียงแค่เธอชอบที่จะอยู่หน้าจอคอมมากกว่าหน้ากล้องก็เท่านั้น แซมเองก็แปลกใจไม่น้อยที่เพื่อนๆ ของเขาพยายามอดทนสุดฤทธิ์เพียงเพราะคำว่าเพื่อน มันน่าประทับใจไม่น้อยที่ยังมีเพื่อนดีๆ แบบพวกเขาอยู่บ้าง ถ้าเป็นกลุ่มอื่นเธอคง....
ครืดดดดดด....
“ไอ้อนณโทรมาว่ะ”
“เออ มึงอยู่ไหน?”
(มารับที่โรงแรมXOที...)
“ได้ๆ ผ่านพอดี...”
“อื้มมม....ลุคค์...จูบกูหน่อย”
“ไอ้ลิซ...มึงตั้งสติก่อน”
(....เกิดเชี่ยไรขึ้น?!! ทำไมไอ้ลิซถึง....)
“แค่นี้ก่อนนะ กูขับรถอยู่ ใกล้จะถึงแล้ว”
(เดี๋ยว! ไม่ต้องวาง.....)
แซมไม่ทันได้ฟังที่ปลายสายพูดก็รีบกดวางสายทันที ก่อนจะรีบขับรถไปยังโรงแรมประจำที่เคยไปรับอนณเวลาหิ้วสาวๆ ส่วนด้านหลังก็ว้าวุ่นช่วยกันหาผ้าห่มผ้าคลุมมาพันไว้จ้าละหวั่น แต่แขนเรียวของอลิซไม่ได้ปล่อยจากคอหนาของลุคค์เลย
.
.
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..ห้องประชุม“ทางทีมเราต้องการคุณอนณมาเป็นแบบในนิตยสารของเดือนนี้ ทางแบรนด์ Nice Cein เขาบรีฟมาแบบนี้ ว่าต้องเป็นคุณอนณเท่านั้น แต่ว่าทางเราติดต่อคุณแซมผู้จัดการของคุณอนณไปแล้ว เขาปฏิเสธว่าคุณอนณไม่รับงานนิตยสาร”“เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่รัตน์”เด็กฝึกงานที่ชื่อลูกหยีในทีมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะนิตยสารสมัยนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่ตั้งแต่มีอีบุ๊คขึ้นมาหรือหนังสือออนไลน์ การที่เสื้อผ้าแบรนด์ดังกำลังเป็นกระแสมาจ้างงานโปรโมทผ่านนิตยสารของพวกเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะนิตยสารของพวกเธอไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รัตนาหรือพี่รัตน์หันไปมองอลิซด้วยแววตาอ้อนวอน“เดี๋ยวๆ นะ มองลิซแบบนี้หมายความว่า....”“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะลิซ ยังไงอนณก็เป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ?”“พี่รัตน์คะ...ลิซไม่อยากใช้สายสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อให้ได้งานหรอกนะคะ อีกอย่างลิซก็....ไม่ได้สนิทขนาดนั้น”“หือ...ไม่สนิทแต่เมื่อเช้ายังมาส่งกันอยู่เลยนะคะ เมย์เห็น”ลูกทีมอีกคนพูดพร้อมกับจ้องมองอ
..หลังเลิกงานอลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้งอลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัทอลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
..“อื้อ...อ๊ะ....”มือหนากอบกำเต้าตึงสวยของเพื่อนสาว ลิ้นร้อนบดดุนตุ่มไตปลายยอดถัน หญิงสาวเม้มปากแน่นพร้อมกับปรือตามองชายหนุ่มบนร่าง ใบหน้าหล่อระดับซูเปอร์สตาร์ที่คุ้นหน้าคุ้นเพราะเห็นใบหน้าหล่อนั้นแทบทุกวัน แต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง การกระทำของเขาในตอนนี้มันข้ามเส้นที่เคยขีดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วอลิซแอ่นกายรับสัมผัสกระสันที่เขามอบให้ ความรุนแรงดุดันของเขาไม่แผ่วลงเลย หญิงสาวเตรียมจะอ้าปากร้องห้ามแม้ว่าอารมณ์ตอนนี้จะคุกรุ่นเต็มทีแล้วก็ตาม ถ้ามันเลยไปถึงขั้นนั้นเธอเองก็คงทำตัวกับเพื่อนรักคนนี้ไม่ถูกเช่นกัน“อ๊ะ! ..อนณ...ย..หยุด..อื้อออ”ชายหนุ่มตวัดสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้าตา เขารู้ดีว่าเธอจะพูดอะไร แต่เขากลับไม่สนใจแล้วหันไปเริงรมย์กับร่างกายอันเย้ายวนของเพื่อนสาวต่อ ฟันคมขบไปที่เนินอกสวยจนเป็นรอยอย่างมันเขี้ยว ทำเอาอลิซถึงกับสะดุ้ง ก่อนที่มือหนาจะลูบไล้เรือนร่างลงไปยังจุดสงวนของเธอแล้วบดขยี้มันด้วยปลายนิ้ว ทำเอาเพื่อนสาวของเขาครางเสียงหวานและบิดตัวไปมาตามจังหวะที่เขา
..“เลิกงานเมื่อไหร่?”(ฮะ? อะไร? ทำไม?)“เดี๋ยวกูไปรับ”(มึงไม่ต้องลำบากก็ได้นะอนณ กูกลับเองได้)“ไม่ เดี๋ยวกูไปรับ”(ถึงกูจะห้ามมึงก็ไม่ฟังสินะ)“อืม ก็รู้นี่”(อีกสิบห้านาที เดี๋ยวกูรอหน้าโรงแรม)“เออ”เสียงทุ้มกรอกไปยังปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด เวลามีปัญหาเขามักจะโทรหาเพื่อนรักคนนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับเขา แม้เขาจะมีเพื่อนมากมายแต่เขาก็ยังตัวติดกับเพื่อนสาวปลายสายไม่ห่าง ทั้งสองสนิทกันมากถึงขนาดรู้ทุกเรื่องและทุกอย่างของกันและกันอนณซุปเปอร์สตาร์หนุ่มฮอตจอมเจ้าชู้ที่ใครๆ ก็รู้ชื่อเสียงของเขาดี แม้ในวงเพื่อนๆ ก็รู้ดีว่าเขาน่ะร้ายตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงก็เป็นข่าวออกบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาคบกับใครได้นานเลย เบื่อก็ทิ้ง แต่ที่เพื่อนๆ ในกลุ่มแปลกใจที่สุดคือเพื่อนสาวของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ของรายการโทรทัศน์ต่างๆ สวยสะพรั่ง หุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆแต่พ่อซูเปอร์สตาร์หนุ่มกลับไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ดูรักดูหวงมากกว่าเสียอีก ปกติสาวๆ สวยๆ ไม่ว่ารู้จักกันมานานหรือพึ่งรู้จักเขามักจะไม
..“ไปนั่งเล่นที่ห้องกูก่อนไหม?”“....อืมๆ”แซมมองท่าทีของอนณที่ดูออดอ้อนเพื่อนของเขาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาเองตั้งแต่ทำงานกับอนณมาตลอดสี่ปีไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับความแปลกของความสัมพันธ์ที่อนณเรียกว่าเพื่อนเลยแซมมองสายของอนณออกว่าคิดยังไงแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ แซมเลยเข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงคบกับใครไม่ได้นาน“คืนนี้จะไปผับใช่ไหม?”“ใช่ มึงจะไปด้วยไหมล่ะ?”“ไปดิ กูจะไปล่าบ้าง”“เหอะ...”“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่ผับ”“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ครับน้องอลิซ”อนณพยักหน้าให้ผู้จัดการของตนก่อนจะหันไปมองอลิซที่ดูดี๊ด้าที่จะได้ไปเที่ยวผับ พร้อมกับคำพูดที่เธอบอกว่าจะออกล่าทำให้เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาเองก็จะไปหาเหยื่อแก้เซ็งเหมือนกัน“ชุดของกูมีอยู่ในห้องมึงใช่ป่ะ?”“มี”“ดีมาก”“ไม่ต้องใส่ชุดสีแดงนั้นไปนะ”
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
..หลังเลิกงานอลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้งอลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัทอลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่
..ห้องประชุม“ทางทีมเราต้องการคุณอนณมาเป็นแบบในนิตยสารของเดือนนี้ ทางแบรนด์ Nice Cein เขาบรีฟมาแบบนี้ ว่าต้องเป็นคุณอนณเท่านั้น แต่ว่าทางเราติดต่อคุณแซมผู้จัดการของคุณอนณไปแล้ว เขาปฏิเสธว่าคุณอนณไม่รับงานนิตยสาร”“เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่รัตน์”เด็กฝึกงานที่ชื่อลูกหยีในทีมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะนิตยสารสมัยนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่ตั้งแต่มีอีบุ๊คขึ้นมาหรือหนังสือออนไลน์ การที่เสื้อผ้าแบรนด์ดังกำลังเป็นกระแสมาจ้างงานโปรโมทผ่านนิตยสารของพวกเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะนิตยสารของพวกเธอไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รัตนาหรือพี่รัตน์หันไปมองอลิซด้วยแววตาอ้อนวอน“เดี๋ยวๆ นะ มองลิซแบบนี้หมายความว่า....”“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะลิซ ยังไงอนณก็เป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ?”“พี่รัตน์คะ...ลิซไม่อยากใช้สายสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อให้ได้งานหรอกนะคะ อีกอย่างลิซก็....ไม่ได้สนิทขนาดนั้น”“หือ...ไม่สนิทแต่เมื่อเช้ายังมาส่งกันอยู่เลยนะคะ เมย์เห็น”ลูกทีมอีกคนพูดพร้อมกับจ้องมองอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย“ครับ” -แทนไท“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท“จะบ้าหรอไท”อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น“เราไปกันเถอะซีเซีย”“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์“แล้วมึง
..ลุคค์พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่วนก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก สายตาของเขามองไปที่อลิซไม่วางตาก่อนจะสลับไปมองหน้าอนณที่ยังคงเรียบนิ่ง อนณไม่ได้ตอบโต้อะไรพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ จีซัส ก่อนะที่แซมจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงแล้วให้เขา อนณยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มแต่สายตายังคงไม่ละจากเพื่อนสาวของตนเลย“ไม่ไปขัด?” -จีซัส“ขัดทำไม...มันบอกจะมาล่าเอง” -อนณ“เหรอ...มึงยอมว่างั้น?” -ลุคค์“แล้วทำไมจะไม่ยอม? นั่นเพื่อนไม่ใช่เมีย” -อนณ“งั้นอย่างนี้กูก็สามารถ...ใช่ไหม?” -แทนไท“ไอ้ไท ถ้ามึงคิดจะเล่นๆ ก็ไม่ต้องเสือกเสนอหน้า” -อนณ“เอ้ย...ใครจะเล่นๆ ได้มาเป็นเมียกูยอมอยู่บ้านทั้งวันเลย” -แทนไท“แล้วแต่มึงเถอะ” –อนณ“พวกมึงก็อย่าไปยั่วโมโหมันนักเลย” –แซม“นั่นๆ ไอ้หน้าอ่อนมันกอดเอวซุกคอแล้ว” –จีซัส“มึงจะบรรยายเพื่อ? ถ้ามันไม่ยอมมันก็ผลักออกเองแหละ”อนณพูดอย่างหัวเสียแต่ก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากเพื่อนสาวคนสวยเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะกำแก้วแน่นที่ไม่เห็นท่าท
..“ไปนั่งเล่นที่ห้องกูก่อนไหม?”“....อืมๆ”แซมมองท่าทีของอนณที่ดูออดอ้อนเพื่อนของเขาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาเองตั้งแต่ทำงานกับอนณมาตลอดสี่ปีไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับความแปลกของความสัมพันธ์ที่อนณเรียกว่าเพื่อนเลยแซมมองสายของอนณออกว่าคิดยังไงแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ แซมเลยเข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงคบกับใครไม่ได้นาน“คืนนี้จะไปผับใช่ไหม?”“ใช่ มึงจะไปด้วยไหมล่ะ?”“ไปดิ กูจะไปล่าบ้าง”“เหอะ...”“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่ผับ”“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ครับน้องอลิซ”อนณพยักหน้าให้ผู้จัดการของตนก่อนจะหันไปมองอลิซที่ดูดี๊ด้าที่จะได้ไปเที่ยวผับ พร้อมกับคำพูดที่เธอบอกว่าจะออกล่าทำให้เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาเองก็จะไปหาเหยื่อแก้เซ็งเหมือนกัน“ชุดของกูมีอยู่ในห้องมึงใช่ป่ะ?”“มี”“ดีมาก”“ไม่ต้องใส่ชุดสีแดงนั้นไปนะ”
..“เลิกงานเมื่อไหร่?”(ฮะ? อะไร? ทำไม?)“เดี๋ยวกูไปรับ”(มึงไม่ต้องลำบากก็ได้นะอนณ กูกลับเองได้)“ไม่ เดี๋ยวกูไปรับ”(ถึงกูจะห้ามมึงก็ไม่ฟังสินะ)“อืม ก็รู้นี่”(อีกสิบห้านาที เดี๋ยวกูรอหน้าโรงแรม)“เออ”เสียงทุ้มกรอกไปยังปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด เวลามีปัญหาเขามักจะโทรหาเพื่อนรักคนนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับเขา แม้เขาจะมีเพื่อนมากมายแต่เขาก็ยังตัวติดกับเพื่อนสาวปลายสายไม่ห่าง ทั้งสองสนิทกันมากถึงขนาดรู้ทุกเรื่องและทุกอย่างของกันและกันอนณซุปเปอร์สตาร์หนุ่มฮอตจอมเจ้าชู้ที่ใครๆ ก็รู้ชื่อเสียงของเขาดี แม้ในวงเพื่อนๆ ก็รู้ดีว่าเขาน่ะร้ายตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงก็เป็นข่าวออกบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาคบกับใครได้นานเลย เบื่อก็ทิ้ง แต่ที่เพื่อนๆ ในกลุ่มแปลกใจที่สุดคือเพื่อนสาวของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ของรายการโทรทัศน์ต่างๆ สวยสะพรั่ง หุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆแต่พ่อซูเปอร์สตาร์หนุ่มกลับไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ดูรักดูหวงมากกว่าเสียอีก ปกติสาวๆ สวยๆ ไม่ว่ารู้จักกันมานานหรือพึ่งรู้จักเขามักจะไม