.
.
หลังเลิกงาน
อลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้ง
อลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัท
อลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้
เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย
“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”
อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงต้องมายืนรอด้วยกันกับเธอแบบนี้
“ทำไม...”
“ผมได้ยินพี่คุยกับเพื่อน เห็นบอกว่าจะมารับ”
“แล้ว? ทำไมนายยังไม่กลับ?”
“อ๋อ...ผมมีงานค้างนิดหน่อยน่ะครับ เลยล่วงเวลามา”
“งั้นหรอ...กลับก่อนก็ได้นะต้นชา พี่ก็ว่ากลับแล้วล่ะ งานเขาน่าจะเลท”
“ไปรถผมไหม? เดี๋ยวแวะส่ง..”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่กลับเองได้”
“ผมผ่านพอดีน่ะครับ คอนโดพี่ถึงก่อนคอนโดผมนิดเดียวเอง”
ต้นชาพูดด้วยรอยยิ้มเช่นเคย อลิซที่ตอนแรกเกรงใจเพราะคิดว่าอาจจะอยู่คนละทางจึงพยักหน้ารับเมื่อรู้ว่าอยู่ทางเดียวกัน และไหนจะสีหน้าท่าทางที่ดูเต็มอกเต็มใจว่าจะได้ไปส่งเธอนั่นอีกจึงทำให้เธอยอมเดินตาต้นชาและขึ้นรถเขาไป
แซมที่กำลังจะขับรถเข้ามาจอดหน้าบริษัทก็เห็นว่าอลิซนั่งอยู่ในรถที่ขับสวนออกไป เขาจึงรีบยกโทรศัพท์โทรหาอนณทันทีทันใด แต่เขากลับไม่รับสายซะอย่างนั้นจึงทำได้แค่ทิ้งข้อความไว้
แซม - ลิซกลับไปแล้ว กับใครก็ไม่รู้ผู้ชาย...กูมาไม่ทันโทษทีว่ะ
00:00 น.
ครืดดดดด ครืดดดดด
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวเตียงสั่นไม่หยุด หญิงสาวที่กำลังหลับใหลสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์พร้อมกับปรือตามองหน้าจอที่ขึ้นชื่อผู้โทรก่อนจะลุกขึ้นมานั่งแล้วกดรับสายด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“อือ...ว่า”
(มึงนอนแล้วหรอ?)
“นี่มันกี่โมงแล้วอนณ”
(เที่ยงคืน)
“กูรู้...หมายถึงมึงมีอะไร กูจะนอน”
(เปิดประตูหน่อย)
“ประตูอะไรของมึง รหัสห้องมึงก็รู้”
(กูหมายถึงห้องนอน)
อลิซมองหน้าประตูก่อนจะเดินสะลึมสะลือไปเปิดประตูห้องอย่างว่าง่าย ก็เห็นว่าเพื่อนชายคนสนิทยืนอยู่หน้าห้องของเธอจริงๆ แต่ที่น่าแปลกคือเขายังคงอยู่ในชุดเหมือนเมื่อเช้าไม่มีผิดเพี้ยน
“มีอะไร มากวนกูดึกๆ”
“เมื่อเย็นมึงกลับกับใคร?”
“มึงจะมาถามแค่เนี๊ยะ?”
“ทำไมมึงไม่รอไอ้แซม กูใช้ให้มันไปรับแต่มันบอกว่ามาไม่ทัน มึงไปกับคนอื่นแล้ว”
“แล้วทำไมมึงไม่มารับ มึงเป็นคนนัดกูไว้ไม่ใช่หรอ?”
คำถามที่เหมือนไม่ได้คิดอะไรเพราะความง่วงนอนของอลิซทำให้อนณชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ถึงเขาไม่พูดเธอก็พอจะรู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมมาตามนัด ไม่ใช่ว่าติดงานหรืออะไรทั้งนั้น แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องที่เธอเคยชินและเป็นเรื่องปกติของอนณไปแล้ว ในกลุ่มเพื่อนๆ ก็รู้ดีเป็นที่สุด
“ธุระ”
“เออ เรื่องของมึงเถอะ”
“นี่มึงย้อนกูหรอ”
“มึงก็เป็นแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว จะให้กูทำไงได้”
“มึงไม่โกรธกูหรอที่ผิดนัด”
“ไม่อ่ะ กูชินแล้ว”
“แล้วสรุปมึงมากับใคร”
“กูจะมากับใครมันก็เรื่องของกูป่ะ ทีกูยังไม่ยุ่งเรื่องมึงเลย”
อลิซพูดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยที่คนตรงหน้าเอาแต่เค้นถามเธอว่าเธอให้ใครมาส่ง ทั้งที่เขาเองผิดนัดไปนอนจ้ำจี้มะเขือเปราะกับผู้หญิงแท้ๆ ยังมีหน้ามาตีหน้าเข้มถามเธออีก พออลิซพูดอย่างนั้นอนณก็ทำได้แค่นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น เพราะเถียงไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ อลิซไม่เคยยุ่งเรื่องของเขาเลย ไม่เคยสนใจด้วยซ้ำ
“มึงมีอะไรอีกไหม? กูจะนอน...พรุ่งนี้มีงานเช้า”
“ไม่มี”
“ไม่มีก็กลับห้องไปได้แล้ว”
“กูอยากแดกเหล้า...แดกเป็นเพื่อนหน่อย”
“ฮะ? ตอนนี้เนี่ยนะ? มึงตลกอะไรเนี่ย?”
“กับเพื่อนไม่ได้หรอ?”
“กูต้องตามใจนิสัยเอาแต่ใจของมึงไหม?”
อนณไม่ตอบคำถามของอลิซแต่กลับคว้าข้อมือของเธอเดินไปยังโซฟาแทนก่อนที่ตนจะเดินเข้าโซนครัวเพื่อไปหยิบไวน์และแก้วสองใบมาแล้วนั่งลงข้างๆ เธออย่างเงียบๆ อนณรินไวน์ทั้งสองแก้วพร้อมกับยื่นให้อลิซที่ยังนั่งทำหน้างงอยู่แต่ก็รับแก้วมาแต่โดยดี สายตาดวงสวยปรายตามองเพื่อนสนิทอย่างสงสัยก่อนจะอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น
“เครียดอะไรมาอีก?”
“เปล่า...แค่อยากดื่ม”
“อ่า”
“แค่นั้น? มึงไม่ถามหรอว่ากูไปกับใครมา?”
“อยากเล่าก็เล่า ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า”
“มึงนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ”
คำชมที่ออกจากปากของเขาแต่เต็มไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ที่เพื่อนสาวไม่เคยมองเขาเป็นอื่นเลย ซ้ำคำพูดยังตอกย้ำได้อย่างดีว่าเธอคิดกับเขาแค่เพื่อน อลิซเห็นเพื่อนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่จึงถอนหายใจยาวพร้อมกับถามขึ้นอย่างที่เขาต้องการ
“รอบนี้กับดาราคนไหนอีกอ่ะ?”
“ก็นางเอกที่เล่นละครด้วย”
“คนเดียว?”
“ตัวประกอบอีกคน ช่วงก่อนจะกลับมานี่”
“มึงนี่ก็เหี้*ใช้ได้นะ”
“กูก็อยากเลิกเหี้*นะ...แต่...”
สายตาคมปรายตามองไปยังเพื่อนสาวที่ยกแก้วไวน์ดื่มอย่างไม่สนใจเขา ก่อนที่คำพูดของเขาจะกลืนลงคอไป เพราะพูดไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร อนณเลือกที่จะยกไวน์ขึ้นมาดื่มทีเดียวจนหมดแก้วแทน
“แล้วบอกกูได้ยัง? ว่าใครมาส่ง”
“รุ่นน้องที่ทำงานอยู่ทีมเดียวกัน”
“ผู้ชาย?”
“อืม”
“มันจีบมึงหรอ?”
“แค่กๆๆ ...”
อลิซสำลักทันทีที่อนณพูดถามเสียงเข้มเหมือนไม่พอใจ และเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ที่คนในทีมพูดคุยกันเมื่อเช้า ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่นั่งทำหน้าตึงใส่เธอ
“เรื่องส่วนตัวกู”
“แค่นี้บอกกูไม่ได้?”
“โอ๊ย! ถ้าน้องมันจีบแล้วมึงจะทำไมล่ะ?”
อลิซพูดขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทของเธอเริ่มขึ้นเสียง แม้พวกเธอจะสนิทกันแต่ก็ยังคงด่ากันไม่เว้นวัน อยู่ด้วยกันนานๆ เป็นทะเลาะ ยกเว้นตอนอลิซเมาเท่านั้นที่เธอจะไม่กวนประสาทเขา แต่เขาเองก็ใช่ย่อยเรื่องปากดีนี่ที่หนึ่ง แต่รอบนี้ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหงุดหงิดไปหมดขนาดนี้
เขารู้ว่าเขารู้สึกพิเศษกับอลิซ แต่ก็คิดว่าเป็นห่วงเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มและอยากให้เธอสนิทกับเขามากที่สุดและเขาอยากเป็นเพื่อนคนสำคัญที่สุดสำหรับเธอ นั่นคือคำว่าเพื่อนที่เขาอยากได้จากอลิซ ยิ่งคนอื่นมองว่าเขากับอลิซตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เขายิ่งรู้สึกดี เพื่อนแบบนั้น...
“ก็ไม่ทำไม...ต้องให้กูแสกนก่อน”
“มึงอย่ามาบ้า มึงเป็นพ่อกูหรือไง?”
“ถ้ามึงเจอคนไม่ดีทำไง?”
“อันนั้นมันก็ปัญหาของกูแล้วนณ อีกอย่างน้องมันก็เป็นคนดี”
“เหอะ....”
อนณแค่นหัวเราะก่อนจะคว้าไวน์ยกกระดกทั้งขวดด้วยความหงุดหงิดที่อลิซไม่ยอมเข้าใจว่าเขาเป็นห่วงเธอแค่ไหน อลิซมองเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าไม่เข้าใจเพื่อนของเธอเช่นเดิม
“กูถามจริงๆ มึงมาห้องกูแล้วมาแดกไวน์นี่มึงเป็นอะไร?”
“กูเป็นห่วงมึง ทำอะไรมึงชอบไม่บอกกู”
“มึงก็ไม่บอกกูนะ กูโทรไปมึงก็ไม่รับ”
“กูไม่รับมึงก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหม?”
“อย่างน้อยมึงก็แชทยกเลิกนัดกูทิ้งไว้ก็ได้ กูไหมที่ควรหงุดหงิด”
“ก็มึงเป็นแบบนี้ไง ใจเย็นเกินไป”
อลิซฟังคำพูดของเพื่อนสนิทของเธอที่เริ่มพูดไม่รู้เรื่องและไม่มีแม้แต่คำขอโทษก็พาลหงุดหงิดขึ้นมาทันที การที่เธอใจเย็นเพราะเธอไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของเขามากไปจนน่ารำคาญก็เท่านั้น เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรนอกจากคำว่าเพื่อน และเธอก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการคำว่าเพื่อนที่เป็นแบบไหนจากเธอกันแน่ อลิซกัดฟันแน่นก่อนจะแย่งขวดไวน์จากมืออนณแล้วยกขึ้นมาดื่มแทนเขา เพื่อให้มันช่วยระงับความหงุดหงิดที่เพื่อนสนิทจอมเอาแต่ใจของตนได้พูดออกมา
“ถ้าหมดขวดนี้มึงจะกลับห้องใช่ไหม?”
“ทำไมรีบไล่?”
“กูมีงานเช้า กูพูดไปแล้วนะ”
“กูไปส่ง”
“ไม่ กูจะไปเอง”
“ยังไงกูก็ต้องเข้าไปเซ็นสัญญาอยู่แล้ว”
“ต่างคนต่างไป จบแยก”
พูดจบอลิซก็ลุกขึ้นเมื่อไวน์หมดขวดเพราะเธอยกดื่มเองจนหมด อนณมองตามอลิซเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด จนเพื่อนสาวตัวเล็กเดินเข้าห้องไปและเตรียมจะปิดประตูหนีเขา ร่างกายไปไวกว่าความคิดเขารีบเดินไปดันประตูที่กำลังจะปิดลงไว้ อลิซเงยหน้ามองคนตัวสูงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง
“อะไรอีก”
“เอ่อ...ขอโทษ”
น้ำเสียงทุ้มที่เคยเข้มและดุดันเมื่อครู่กลับแผ่วเบาลงจนแทบจะไม่ได้ยิน อลิซขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรไป จนคนตัวสูงเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอได้ยินหรือเปล่า
“ก็บอกว่าขอโทษไง”
“อืม”
“กูนอนนี่ได้ไหม?”
“โซฟาอ่ะหรอ? แล้วแต่มึง”
“ในห้อง”
“ฮะ?”
“นอนกับมึง”
คำพูดและสายตาที่จริงจังจ้องมองใบหน้าสวยไม่วางตา อลิซที่ได้ยินอย่างนั้นก็ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที บรรยากาศแปลกๆ ที่แตกต่างออกไปจากทุกที่เริ่มทำให้เธอหวั่นใจไม่น้อย ปากเรียวเล็กไม่แม้จะปฏิเสธออกมาได้อย่างใจ
.
.
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
..“อื้อ...อ๊ะ....”มือหนากอบกำเต้าตึงสวยของเพื่อนสาว ลิ้นร้อนบดดุนตุ่มไตปลายยอดถัน หญิงสาวเม้มปากแน่นพร้อมกับปรือตามองชายหนุ่มบนร่าง ใบหน้าหล่อระดับซูเปอร์สตาร์ที่คุ้นหน้าคุ้นเพราะเห็นใบหน้าหล่อนั้นแทบทุกวัน แต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง การกระทำของเขาในตอนนี้มันข้ามเส้นที่เคยขีดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วอลิซแอ่นกายรับสัมผัสกระสันที่เขามอบให้ ความรุนแรงดุดันของเขาไม่แผ่วลงเลย หญิงสาวเตรียมจะอ้าปากร้องห้ามแม้ว่าอารมณ์ตอนนี้จะคุกรุ่นเต็มทีแล้วก็ตาม ถ้ามันเลยไปถึงขั้นนั้นเธอเองก็คงทำตัวกับเพื่อนรักคนนี้ไม่ถูกเช่นกัน“อ๊ะ! ..อนณ...ย..หยุด..อื้อออ”ชายหนุ่มตวัดสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้าตา เขารู้ดีว่าเธอจะพูดอะไร แต่เขากลับไม่สนใจแล้วหันไปเริงรมย์กับร่างกายอันเย้ายวนของเพื่อนสาวต่อ ฟันคมขบไปที่เนินอกสวยจนเป็นรอยอย่างมันเขี้ยว ทำเอาอลิซถึงกับสะดุ้ง ก่อนที่มือหนาจะลูบไล้เรือนร่างลงไปยังจุดสงวนของเธอแล้วบดขยี้มันด้วยปลายนิ้ว ทำเอาเพื่อนสาวของเขาครางเสียงหวานและบิดตัวไปมาตามจังหวะที่เขา
..“เลิกงานเมื่อไหร่?”(ฮะ? อะไร? ทำไม?)“เดี๋ยวกูไปรับ”(มึงไม่ต้องลำบากก็ได้นะอนณ กูกลับเองได้)“ไม่ เดี๋ยวกูไปรับ”(ถึงกูจะห้ามมึงก็ไม่ฟังสินะ)“อืม ก็รู้นี่”(อีกสิบห้านาที เดี๋ยวกูรอหน้าโรงแรม)“เออ”เสียงทุ้มกรอกไปยังปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด เวลามีปัญหาเขามักจะโทรหาเพื่อนรักคนนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับเขา แม้เขาจะมีเพื่อนมากมายแต่เขาก็ยังตัวติดกับเพื่อนสาวปลายสายไม่ห่าง ทั้งสองสนิทกันมากถึงขนาดรู้ทุกเรื่องและทุกอย่างของกันและกันอนณซุปเปอร์สตาร์หนุ่มฮอตจอมเจ้าชู้ที่ใครๆ ก็รู้ชื่อเสียงของเขาดี แม้ในวงเพื่อนๆ ก็รู้ดีว่าเขาน่ะร้ายตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงก็เป็นข่าวออกบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาคบกับใครได้นานเลย เบื่อก็ทิ้ง แต่ที่เพื่อนๆ ในกลุ่มแปลกใจที่สุดคือเพื่อนสาวของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ของรายการโทรทัศน์ต่างๆ สวยสะพรั่ง หุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆแต่พ่อซูเปอร์สตาร์หนุ่มกลับไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ดูรักดูหวงมากกว่าเสียอีก ปกติสาวๆ สวยๆ ไม่ว่ารู้จักกันมานานหรือพึ่งรู้จักเขามักจะไม
..“ไปนั่งเล่นที่ห้องกูก่อนไหม?”“....อืมๆ”แซมมองท่าทีของอนณที่ดูออดอ้อนเพื่อนของเขาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาเองตั้งแต่ทำงานกับอนณมาตลอดสี่ปีไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับความแปลกของความสัมพันธ์ที่อนณเรียกว่าเพื่อนเลยแซมมองสายของอนณออกว่าคิดยังไงแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ แซมเลยเข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงคบกับใครไม่ได้นาน“คืนนี้จะไปผับใช่ไหม?”“ใช่ มึงจะไปด้วยไหมล่ะ?”“ไปดิ กูจะไปล่าบ้าง”“เหอะ...”“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่ผับ”“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ครับน้องอลิซ”อนณพยักหน้าให้ผู้จัดการของตนก่อนจะหันไปมองอลิซที่ดูดี๊ด้าที่จะได้ไปเที่ยวผับ พร้อมกับคำพูดที่เธอบอกว่าจะออกล่าทำให้เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาเองก็จะไปหาเหยื่อแก้เซ็งเหมือนกัน“ชุดของกูมีอยู่ในห้องมึงใช่ป่ะ?”“มี”“ดีมาก”“ไม่ต้องใส่ชุดสีแดงนั้นไปนะ”
..ลุคค์พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่วนก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก สายตาของเขามองไปที่อลิซไม่วางตาก่อนจะสลับไปมองหน้าอนณที่ยังคงเรียบนิ่ง อนณไม่ได้ตอบโต้อะไรพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ จีซัส ก่อนะที่แซมจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงแล้วให้เขา อนณยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มแต่สายตายังคงไม่ละจากเพื่อนสาวของตนเลย“ไม่ไปขัด?” -จีซัส“ขัดทำไม...มันบอกจะมาล่าเอง” -อนณ“เหรอ...มึงยอมว่างั้น?” -ลุคค์“แล้วทำไมจะไม่ยอม? นั่นเพื่อนไม่ใช่เมีย” -อนณ“งั้นอย่างนี้กูก็สามารถ...ใช่ไหม?” -แทนไท“ไอ้ไท ถ้ามึงคิดจะเล่นๆ ก็ไม่ต้องเสือกเสนอหน้า” -อนณ“เอ้ย...ใครจะเล่นๆ ได้มาเป็นเมียกูยอมอยู่บ้านทั้งวันเลย” -แทนไท“แล้วแต่มึงเถอะ” –อนณ“พวกมึงก็อย่าไปยั่วโมโหมันนักเลย” –แซม“นั่นๆ ไอ้หน้าอ่อนมันกอดเอวซุกคอแล้ว” –จีซัส“มึงจะบรรยายเพื่อ? ถ้ามันไม่ยอมมันก็ผลักออกเองแหละ”อนณพูดอย่างหัวเสียแต่ก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากเพื่อนสาวคนสวยเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะกำแก้วแน่นที่ไม่เห็นท่าท
..“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย“ครับ” -แทนไท“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท“จะบ้าหรอไท”อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น“เราไปกันเถอะซีเซีย”“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์“แล้วมึง
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..“นอนกับมึงในห้องได้ไหม?”“ม..ไม่ได้ มึงก็ไปนอนกับสาวๆ ของมึงสิ”“แต่กูอยากนอนกับมึง แค่นอนเฉยๆ มึงคิดอะไร”“ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้ ถ้าจะนอนก็นอนโซฟา”อลิซที่ตอนแรกหวั่นไหวแต่ก็จะยอมให้เขามานอนกับเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยยังไง การที่ยอมให้เขามานอนด้วยก็เหมือนเปิดทางให้ และไม่มีทางที่เขาไม่ทำอะไรแน่ๆ คนอย่างอนณไม่มีทางที่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนและเขาไม่เคยแตะต้องเลยก็ตาม“ทำไม? มึงไม่ไว้ใจกูหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้น...กูไม่ไว้ใจตัวเอง”“หึ...มึงจะทำอะไรกูหรอ?”อนณพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสาวของเขา เพราะสิ่งที่เขารู้เธอก็คือนักล่าเหมือนกับเขา แต่เธอไม่เคยคิดที่จะหันกลับมามองเขาหรือล่าเขานี่สิคือแปลก แต่ตอนนี้กลับอ้างว่าไม่ใจตัวเองซะอย่างนั้น“กูไม่ทำแน่นอน มึงกับกูก็ประเภทเดียวกันไม่คิดจะทำเพื่อน”“แล้วที่มึงบอกไม่ไว้ใจตัวเองคือ?”“คือ...กูหมายถึง...กูจะนอนไม่หลับ เพราะกูไม่เคยนอนกับใคร”“ฮะ?”
..หลังเลิกงานอลิซยืนรอเพื่อนของตนที่บอกว่าจะมารับตั้งแต่ห้าโมงครึ่งจนตอนนี้ก็ปาไปหกโมงครึ่งแล้ว แต่กลับไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิทตนเลย เธอยืนยกนาฬิกาขึ้นมาดูแทบจะทุกสิบนาทีหลังจากที่เลยเวลานัดพร้อมกับสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณแอบหวังว่าเขาอาจจะมาช้านิดหน่อยเพราะติดงานก็ได้ อลิซโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับแชทหาเพื่อนสนิทอีกครั้งอลิซ - อยู่ไหนแล้ว กูยืนรออยู่หน้าบริษัทอลิซ - ถ้ามึงไม่ว่างก็บอกกูได้นะ กูกลับเองได้เธอมองหน้าจอกับข้อความที่เพื่อนของเขาไม่มีแม้แต่จะอ่านเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าเธอจะโทรหาไปกี่รอบแต่เขาก็ไม่รับสายจนเธอไม่รู้ว่าควรจะรอหรือกลับเลยดี ที่ยังไม่กลับเพราะนัดเรื่องคุยงานกันไว้ เธอจึงคิดว่ารออีกหน่อยจนตอนนี้ก็จะปาไปหกโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววเลยแม้แต่น้อย“พี่ลิซยังไม่กลับหรอครับ?”อลิซหันไปตามต้นเสียงที่เอ่ยทักขึ้น เธอยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบอะไร ต้นชาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับยืนรออยู่ข้างๆ เธอเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มจนอลิซเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่
..ห้องประชุม“ทางทีมเราต้องการคุณอนณมาเป็นแบบในนิตยสารของเดือนนี้ ทางแบรนด์ Nice Cein เขาบรีฟมาแบบนี้ ว่าต้องเป็นคุณอนณเท่านั้น แต่ว่าทางเราติดต่อคุณแซมผู้จัดการของคุณอนณไปแล้ว เขาปฏิเสธว่าคุณอนณไม่รับงานนิตยสาร”“เราจะทำยังไงกันดีล่ะพี่รัตน์”เด็กฝึกงานที่ชื่อลูกหยีในทีมเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะนิตยสารสมัยนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่ตั้งแต่มีอีบุ๊คขึ้นมาหรือหนังสือออนไลน์ การที่เสื้อผ้าแบรนด์ดังกำลังเป็นกระแสมาจ้างงานโปรโมทผ่านนิตยสารของพวกเธอนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะนิตยสารของพวกเธอไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก รัตนาหรือพี่รัตน์หันไปมองอลิซด้วยแววตาอ้อนวอน“เดี๋ยวๆ นะ มองลิซแบบนี้หมายความว่า....”“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะลิซ ยังไงอนณก็เป็นเพื่อนเราไม่ใช่หรอ?”“พี่รัตน์คะ...ลิซไม่อยากใช้สายสัมพันธ์มิตรภาพเพื่อให้ได้งานหรอกนะคะ อีกอย่างลิซก็....ไม่ได้สนิทขนาดนั้น”“หือ...ไม่สนิทแต่เมื่อเช้ายังมาส่งกันอยู่เลยนะคะ เมย์เห็น”ลูกทีมอีกคนพูดพร้อมกับจ้องมองอ
..“...กูไม่ได้พูดเล่น”อนณพูดกับเพื่อนสาวของตนด้วยสีหน้าจริงจังแต่อลิซตอบกลับเขาด้วยท่าทีออดอ้อน การที่เธอทำแบบนี้มันคือการเชิญชวนเขาชัดๆ ถ้าผู้หญิงตรงหน้าของเขาไม่ใช่อลิซ เขาคงไม่คิดหนักแบบนี้แน่ และผู้หญิงตรงหน้าคงได้สลบเหมือดคาเตียงไปแล้ว ชายหนุ่มดึงมือออกโดยไม่พูดอะไรก่อนจะหันไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเธออีกครั้ง และหยัดตัวเต็มความสูงพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นอย่างเงียบๆ แต่อลิซก็ยังไม่วายจะดึงรั้งแขนแกร่งของเขาไว้“มึงรังเกียจกูหรอ?”“...เปล่า...ไว้มึงมีสติค่อยพูดแบบนี้กับกูใหม่”พูดจบอนณก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปพร้อมกับปิดประตูให้ก่อนที่ตัวเองจะยืนพิงประตูและเอามือกุมขมับของตนอยู่อย่างนั้น ภายในใจแอบขุ่นเคืองตัวเองไม่น้อยที่ปฏิเสธไปอย่างนั้น แต่เขาไม่อยากมีอะไรกับอลิซโดยที่เธอไร้สติแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาจะเสียใจภายหลังแน่ๆ“อนณ...ใจแข็งไว้นะมึง”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าวเพราะภาพเรือนร่างของเพื่อนสาวยังคงติดอยู่ในหัวอยู่เล
..ลุคค์พยายามดันหน้าเธอไว้ ในรถชุลมุนวุ่นวายไปหมด จีซัสก็พยายามจับไหล่เธอไว้ให้ติดเบาะ แทนไทก็พยายามดึงรั้งเอวบางของอลิซไว้ไม่ให้เขยิบเข้าไปใกล้ลุคค์มากกว่านั้น รถตู้ค่อยๆ แล่นมาจอดหน้าโรงแรมหรูก่อนจะเปิดประตูข้างรถเพื่อให้อนณได้เข้าไปนั่ง ดาราหนุ่มรีบขึ้นรถอย่างรีบร้อน คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า“พวกมึง.....”“รีบนั่งก่อนไหม? แล้วมาช่วยกู”“มึงก็ลุกดิ”“เออ”อนณมองลุคค์ที่พยายามจะลุกขึ้นแต่อลิซกลับไม่ยอมปล่อยให้เขาลุกเลย แทนไทเลยยกมือขึ้นอย่างเรียบร้อยพร้อมกับมองหน้าอนณอย่างจำยอม“กูเอง กูลุกเองไม่งั้นกูตายแน่”“รีบๆ นั่งจอดนานไม่ได้”แซมพูดพร้อมกับมองผ่านกระจก แทนไทรีบลุกไปนั่งข้างๆ จีซัสจากตอนแรกที่นั่งติดหน้าต่างรถ อนณเลยไปนั่งแทนที่ก่อนจะมองไปที่เพื่อนสาวของตนที่ชุดเลิกขึ้นจนแทบจะเห็นแพนตี้ตัวน้อยก่อนจะมองหน้าลุคค์อย่างตั้งคำถาม“ไม่ต้องมองกู...มันเลิกกระโปรงขึ้นเอง” -ลุคค์“แล้วทำไมเป็นงั้น” -อนณ“น่าจะโดนมอ
..“ไม่มีอะไรหรอกครับ อลิซเป็นว่าที่แฟนผม” -แทนไท“อ๋อ...คุณแทนกำลังจีบอยู่หรอคะเนี่ย?” -ซีเซีย“ครับ” -แทนไท“ทำไมมึงพูดแบบนั้นอ่ะ” -อลิซ“มึงก็ให้กูจีบสักทีเถอะ” -แทนไท“จะบ้าหรอไท”อลิซพูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเรียวสวย ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่เพื่อนขี้เล่นของตน แทนไทหัวเราะออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทุกคนต่างส่ายหัวที่แทนไทก็ขยันแกล้งอลิซไม่เปลี่ยน เขาพูดแบบนี้มาเป็นปีๆ แต่อนณกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่าแทนไทจะพูดจริงแต่เพียงติดเล่น“เราไปกันเถอะซีเซีย”“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”ซีเซียหันไปพูดบอกลากลุ่มเพื่อนๆ ของอนณก่อนจะพากันเดินออกไป อลิซมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาดื่มตามปกติ แต่แค่ตอนนี้เธออาจจะอยากดื่มมากกว่าปกติ“เบามึงเบา! เฮิร์ทหรอที่ไอ้อนณไปกับสาวอ่ะ” –จีซัส“เอาไรมาพูด กูก็แดกปกติ...แค่วันนี้กูเหนื่อยงาน เหล้านี่แหละพักสมองได้ดีสุด” -อลิซ“คิดแต่เรื่องงาน มิน่า...ถึงไม่มีผัว” –ลุคค์“แล้วมึง
..ลุคค์พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะร่วนก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก สายตาของเขามองไปที่อลิซไม่วางตาก่อนจะสลับไปมองหน้าอนณที่ยังคงเรียบนิ่ง อนณไม่ได้ตอบโต้อะไรพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ จีซัส ก่อนะที่แซมจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงแล้วให้เขา อนณยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มแต่สายตายังคงไม่ละจากเพื่อนสาวของตนเลย“ไม่ไปขัด?” -จีซัส“ขัดทำไม...มันบอกจะมาล่าเอง” -อนณ“เหรอ...มึงยอมว่างั้น?” -ลุคค์“แล้วทำไมจะไม่ยอม? นั่นเพื่อนไม่ใช่เมีย” -อนณ“งั้นอย่างนี้กูก็สามารถ...ใช่ไหม?” -แทนไท“ไอ้ไท ถ้ามึงคิดจะเล่นๆ ก็ไม่ต้องเสือกเสนอหน้า” -อนณ“เอ้ย...ใครจะเล่นๆ ได้มาเป็นเมียกูยอมอยู่บ้านทั้งวันเลย” -แทนไท“แล้วแต่มึงเถอะ” –อนณ“พวกมึงก็อย่าไปยั่วโมโหมันนักเลย” –แซม“นั่นๆ ไอ้หน้าอ่อนมันกอดเอวซุกคอแล้ว” –จีซัส“มึงจะบรรยายเพื่อ? ถ้ามันไม่ยอมมันก็ผลักออกเองแหละ”อนณพูดอย่างหัวเสียแต่ก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากเพื่อนสาวคนสวยเลยแม้แต่น้อย เขาค่อยๆ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะกำแก้วแน่นที่ไม่เห็นท่าท
..“ไปนั่งเล่นที่ห้องกูก่อนไหม?”“....อืมๆ”แซมมองท่าทีของอนณที่ดูออดอ้อนเพื่อนของเขาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาเองตั้งแต่ทำงานกับอนณมาตลอดสี่ปีไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลยสักครั้ง แต่ดูเหมือนอลิซจะไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับความแปลกของความสัมพันธ์ที่อนณเรียกว่าเพื่อนเลยแซมมองสายของอนณออกว่าคิดยังไงแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ แซมเลยเข้าใจในทันทีว่าทำไมเขาถึงคบกับใครไม่ได้นาน“คืนนี้จะไปผับใช่ไหม?”“ใช่ มึงจะไปด้วยไหมล่ะ?”“ไปดิ กูจะไปล่าบ้าง”“เหอะ...”“งั้นพี่ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ ไว้เจอกันที่ผับ”“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ครับน้องอลิซ”อนณพยักหน้าให้ผู้จัดการของตนก่อนจะหันไปมองอลิซที่ดูดี๊ด้าที่จะได้ไปเที่ยวผับ พร้อมกับคำพูดที่เธอบอกว่าจะออกล่าทำให้เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาเองก็จะไปหาเหยื่อแก้เซ็งเหมือนกัน“ชุดของกูมีอยู่ในห้องมึงใช่ป่ะ?”“มี”“ดีมาก”“ไม่ต้องใส่ชุดสีแดงนั้นไปนะ”
..“เลิกงานเมื่อไหร่?”(ฮะ? อะไร? ทำไม?)“เดี๋ยวกูไปรับ”(มึงไม่ต้องลำบากก็ได้นะอนณ กูกลับเองได้)“ไม่ เดี๋ยวกูไปรับ”(ถึงกูจะห้ามมึงก็ไม่ฟังสินะ)“อืม ก็รู้นี่”(อีกสิบห้านาที เดี๋ยวกูรอหน้าโรงแรม)“เออ”เสียงทุ้มกรอกไปยังปลายสายด้วยอารมณ์หงุดหงิด เวลามีปัญหาเขามักจะโทรหาเพื่อนรักคนนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับเขา แม้เขาจะมีเพื่อนมากมายแต่เขาก็ยังตัวติดกับเพื่อนสาวปลายสายไม่ห่าง ทั้งสองสนิทกันมากถึงขนาดรู้ทุกเรื่องและทุกอย่างของกันและกันอนณซุปเปอร์สตาร์หนุ่มฮอตจอมเจ้าชู้ที่ใครๆ ก็รู้ชื่อเสียงของเขาดี แม้ในวงเพื่อนๆ ก็รู้ดีว่าเขาน่ะร้ายตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงก็เป็นข่าวออกบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาคบกับใครได้นานเลย เบื่อก็ทิ้ง แต่ที่เพื่อนๆ ในกลุ่มแปลกใจที่สุดคือเพื่อนสาวของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ของรายการโทรทัศน์ต่างๆ สวยสะพรั่ง หุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆแต่พ่อซูเปอร์สตาร์หนุ่มกลับไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง ดูรักดูหวงมากกว่าเสียอีก ปกติสาวๆ สวยๆ ไม่ว่ารู้จักกันมานานหรือพึ่งรู้จักเขามักจะไม