ฟางบิดตัวไปมา แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวโทรศัพท์แทบจะหลุดร่วงลงจากมือ เมื่อได้ยินเสียงดุ ๆ ดังขึ้นว่า
“ถ้าไม่ทำงาน... ก็ออกไปหาแฟนตอนนี้เลยก็ได้ แล้วไม่ต้องกลับมาที่บริษัทอีก”
“ท่านประธาน.... นะ หนูขอโทษค่ะ”
ฟางรีบเก็บโทรศัพท์ลงแล้วยกมือไหว้ขอโทษ
“แปดโมงเช้า ถึงห้าโมงเย็น คือเวลางาน หากใครใช้เวลาทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากงานให้หักคะแนนความประพฤติ”
คิงเอ่ยเสียงเข้ม คนถูกดุก้มหน้าลง มือไม้สั่นไปหมด
“คุณโฉมสอางค์ จดบันทึกเอาไว้ด้วย”
เขาหันไปสั่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่เดินตามหลังมาติด ๆ
“ค่ะ ท่านประธาน”
โฉมสอางค์รีบรับคำ พลางส่งสายตาเห็นใจไปที่พนักงานน้องใหม่ที่เพิ่งจะเข้าทำงานได้ไม่ถึงปี ก็ถูกหักคะแนนเสียแล้ว
จากนั้น ท่านประธานบริษัทก็ก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงาน เมื่อประตูห้องปิดลง พนักงานต่างถอนหายใจโล่งออกมาตาม ๆ กัน
“ยัยฟาง ! เธอไม่เห็นข้อความแจ้งเตือนในไลน์กลุ่มพนักงานบริษัทรึไง”
พี่นา สาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีดุลูกน้องเสียงเขียว
“พอดี... แฟนหนูโทรมา หนูเลยไม่เห็นข้อความในไลน์ค่ะ พี่นา”
ฟางเอ่ยเสียงอ่อย ทำท่าจะร้องไห้ คะแนนเธอถูกหักอีกแล้ว คาดว่าปลายปีคงจะไม่ได้โบนัสแน่ ๆ
“ทีหน้าทีหลังจะทำอะไรก็อย่าให้บอสใหญ่จับได้ก็พอ เดี๋ยวเรื่องจะเดือดร้อนมาถึงฉัน”
นารินีเอ็ดลูกน้องของตนเสียงเขียว พวกเธอมักจะเรียกประธานบริษัทลับหลังว่า - บอสใหญ่ –
“ค่ะ... พี่นา”
...............
“ท่านประธานครับ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะครับ”
วศิน พุ่งเข้ามาคุกเข่า กอดขาภูวเดชเอาไว้แน่น
เจ้าของร่างสูงหยุดนิ่ง ปรายตามองดูมือหยาบกร้านของอดีตเลขาที่ทำให้เกิดรอยยับย่นที่ขากางเกง
“คุณโฉมสอางค์ ผมจำได้ว่า ผมสั่งให้คุณไล่เขาออกตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอ”
เขากดเสียงต่ำ ราวกับว่ากำลังสะกดอารมณ์ของตนที่กำลังเดือดพล่านเอาไว้เต็มทน
เมื่อวานนั้น ภูวเดชมอบหมายงานให้ ‘วศิน’ ดำเนินการจัดการเรื่องนัดเจรจาธุรกิจกับประธานบริษัทเอ็มเอ็นกรุป
การนัดหมายสำคัญเช่นนั้น แต่วศินกลับจำเวลาผิดพลาด ทำให้เขาตั้งไปนั่งรอก่อนเวลานัดหมายเป็นชั่วโมง หนำซ้ำยังลืมหยิบเสื้อสูทมาให้เขา จนเป็นเหตุให้เขาต้องถูกคนที่นั่นเข้าใจผิดว่าเป็นพนักงานบริษัท สุดท้ายถูกกาแฟหกราดตัวเต็ม ๆ
จึงทำให้การเจรจาธุรกิจในวันนั้นล้มอย่างไม่เป็นท่า เลขาฯ ที่ทำงานง่าย ๆ ยังพลาดได้เช่นนี้ เขาจะจ้างไว้ทำไม
“อะ... เอ่อ...”
หัวหน้าฝ่ายบุคคลติดอ่างขึ้นมากะทันหัน เธอจะบอกกับบอสใหญ่ได้อย่างไรว่า วศินตามตื๊ออ้อนวอนขอให้เธอช่วยพูดกับท่านประธานเพื่อขอทำงานต่อ แต่เธอไม่กล้าเอ่ยปากเอง จึงให้เขาขึ้นมาขอร้องประธานบริษัทด้วยตนเอง
“ท่านประธานครับ อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ตอนนี้เศรษฐกิจแย่มาก หางานก็ยาก ขืนผมถูกไล่ออกตอนนี้ ลูกผม เมียผม ต้องอดตายแน่ ๆ ครับ”
วศินน้ำตาคลอ กอดขาประธานบริษัทเอาไว้แน่น ครั้งก่อนเขาตกงาน เพราะการระบาดของโรคโควิด19 ทำให้บริษัทที่ทำงานอยู่ต้องปิดตัวลง และเขาเองก็เพิ่งจะได้เข้าทำงานในตำแหน่งเลขาฯ เมื่อต้นเดือน
ความหวังทั้งหมดของเขาจึงอยู่ที่งานนี้ แต่คาดไม่ถึงว่ายังทำงานได้ไม่ถึงเดือน เขาก็จะถูกไล่ออกเสียแล้ว
ภูวเดชหลับตาลง แล้วเมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขานิ่งขรึมมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ผมจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง คุณโฉมสอางค์เรียก รปภ. ขึ้นมาลากตัวนายวศินออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้”
“ตะ...แต่...”
“หรือคุณอยากจะถูกไล่ออกด้วยอีกคน”
เสียงทุ้มต่ำของท่านประธานแผ่ซ่านเข้ามาทุกรูขุมขน ทำเอาสตรีวัยห้าสิบปีถึงกับเสียวสันหลังวาบ
“ไม่ค่ะ โฉมยังไม่อยากตกงานตอนแก่”
เธอรีบตอบบอสใหญ่ แล้วโทรศัพท์เรียก รปภ. ขึ้นมาทันที แม้จะสงสารนายวศินอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เธอก็ต้องเอาตนเองให้รอดจากเจ้านายจอมโหด และเผด็จการคนนี้เสียก่อน
“ท่านครับ ผมทำผิดครั้งแรก ท่านโปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้งนะครับ”
วศินไม่ยอมแพ้ ละล่ำละลักออกมาทั้งน้ำตา เสียงอ้อนวอนของเขาราวกับสายลมที่พัดผ่านก้อนหิน ไม่ว่าเขาจะพูด จะบีบน้ำตาเท่าใด อีกฝ่ายเพียงแต่ยืนนิ่ง ๆ แววตาคมกริบคู่นั้น ไม่เหลือบมองเขาแม้แต่น้อย
“ไม่... ผมไม่ออก คุณโฉมช่วยผมด้วย”
วศินร้องออกมาอย่างสุดเสียง รปภ. สองนายเข้ามาดึงเขาออกจากขาท่านประธาน
โฉมสอางค์ได้แค่ยืนมองเขาถูก รปภ. ลากออกไปจากห้องท่านประธานอย่างน่าสงสาร
“จัดการหาเลขาฯ คนใหม่ด้วย”
ภูวเดชเอ่ยเสียงเรียบ สั้น ๆ พลางโน้มตัวลงปัดรอยยับย่นที่ขากางเกง แล้วจัดให้เข้ารูปใหม่
“ค่ะ ๆ ดิฉันจะรีบไปจัดการตอนนี้เลยค่ะ”
โฉมสอางค์รีบออกมาจากห้องท่านประธานทันที เธอรู้สึกว่าอยู่ใกล้ประธานนานเกินไปไม่ได้ มันรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เกรงว่าชีวิตลูกจ้างที่อุตส่าห์ไต่เต้ามาจนถึงเป็นระดับหัวหน้าจะดับสูญไม่วินาทีใด ก็วินาทีหนึ่ง
นิวที่อยู่ในชุดทำงานสีอ่อน สวมป้ายห้อยคอที่ระบุตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายการตลาด ถือแฟ้มเอกสารขึ้นมาเสนอท่านประธานบริษัท แล้วบังเอิญเจอนายวศินถูก รปภ. ลากออกมาจากห้องพอดี
เขาหยุดมองฉากนั้นตาค้างไม่ต่างจากพนักงานคนอื่น ๆ
“เกิดอะไรขึ้นพี่โฉม”
นิวนี่เข้าไปประชิดตัวโฉมสอางค์ ซึ่งกำลังเพ่นแนบออกมาติด ๆ
“นายวศินถูกบอสใหญ่ไล่ออกนะสิ”
“หา... ไล่เลขาออกอีกแล้วเหรอพี่”
นิวตาโตเท่าไข่ห่าน
“ใช่... อีกแล้ว ตั้งแต่บอสใหญ่ขึ้นเป็นประธานบริษัท 5 ปี เปลี่ยนเลขาไปแล้ว 40 คน นายวศินเป็นคนที่ 41 แล้วฉันก็ต้องลำบากเปิดรับสมัครเลขาคนใหม่ให้ท่านประธานอีก !”
โฉมสอางค์ตอบพลางก้าวเท้าให้ห่างจากหน้าห้องท่านประธานเสียหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้คนในห้องได้ยินคำสนทนา
“จะยากอะไร พี่ก็เปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นเลขาฯ ของบอสใหญ่สิ”
นิวพูดหยอกเย้า สตรีตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง
“นี่น้องนิว... แม้ว่าพี่จะอยู่ที่นี่มานานจนหน้าด้านหน้าทนแล้ว แต่พี่ก็ไม่อยากเอาตัวเองไปอยู่ในที่อันตรายแบบนั้นหรอกนะ ก้าวพลาดก้าวเดียว เป็นได้กระเด็นออกนอกบริษัท !”
โฉมสอางค์เอ่ยพร้อมกับเอามือลูบไปตามแขน เพียงแค่คิดว่าต้องไปทำงานใกล้ชิดกับเจ้านายเจ้าระเบียบ เผด็จการ อีกทั้งยังเอาใจยากแบบนั้น เธอก็รู้สึกสยองขวัญอย่างบอกไม่ถูก
“อิ อิ พี่โฉม... แต่บอสใหญ่หล่อ... สูง... ยาวเข่าดีมากเลยนะ”นิวยังแกล้งล้อไม่เลิก ฝ่ายนั้นจึงแหวขึ้นว่า“หล่อแต่โหดไร้ใจแบบนี้ พี่ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ที่สำคัญพี่มีลูกมีผัวแล้ว หากน้องนิวสน... จะสมัครเป็นเลขาไหมล่ะคะ”เมื่อได้ยินดังนั้น นิวถึงกลับหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา เขายังจำได้ดี ตอนที่ท่านประธานเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ๆ เพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริษัท ความหล่อเหลาตามแบบฉบับลูกครึ่งไทยจีน ทำเอาสาว ๆ ในสำนักงานต่างมองกันตาค้าง และแล่นอยากจะเป็นเลขาฯ รับใช้ใกล้ชิดคุณภูวเดชกันทั้งนั้นแต่เมื่อถึงเวลาทำงานกันจริง ๆ ทุกคนต่างเข็ดขยาดกับการทำงานอย่างจริงจังของเขา พูดหยอกล้อบอสใหญ่เพียงนิดเดียวก็ถูกตวาด หรือ แค่ส่งเอกสารผิดพลาดก็ถูกตะคอก บางคนรับไม่ไหวถึงกับร้องห่มร้องไห้ขอลาออกด้วยตนเอง และปัจจุบัน สาว ๆ ในบริษัทก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งสายตาหยาดเยิ้มให้บอสใหญ่อีกเลยหลบได้ควรหลบ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง ! -“ไม่ดีกว่าค่ะ... นิวยังมีผัวที่ต้องหาเลี้ยงอีกหลายคน นิวยังไม่อยากตกงานค่ะ”นิวเอ่ยเสียงอ่อย ลงท้ายด้วยคำว่าค่ะ อย่างเต็มคำด้วยความเคยชิน แม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิงเต็มเปี่ยม และไม่คิดที่จะป
นิวพ่นคำพูดออกมาแทบไม่หายใจ หัวใจยังคงเต้นระทึกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ นี่ถ้าบีไม่โทรบอกให้เขามาเยี่ยมกิ๊ฟ พรุ่งนี้เพื่อน ๆ คงได้ไปงานศพมันแทนแน่ ๆคนถูกดุปรือตาขึ้นมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้างวยงง ก่อนที่จะขยับริมฝีปากเอ่ยออกมาว่า“ฉันไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ฉันแค่หน้ามืดจะเป็นลม”กิ๊ฟบอกเพื่อน พร้อมกับเสียงท้องร้องดังประกอบคำพูด......โครกคราก.....“นี่แก อย่าบอกนะว่าแกหิวข้าวจนเป็นลมน่ะ”คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ นิวเหลือบตาขึ้นบนอย่างเซ็ง ๆ แล้วตะคอกใส่หน้าคนหิวว่า“เมื่อครู่ กูหัวใจจะวายตายแล้วอีกิ๊ฟ !”“สรุปคือ... มึงไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ก็เลยต้องกินมาม่าแทนข้าวมาเป็นเดือนแล้ว”นิวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยัดข้าวผัดลงท้องจวนจะเกลี้ยงจานแล้วโชคดีที่เขาซื้อข้าวกล่องติดมือขึ้นมาด้วย เพราะตั้งใจว่าจะมากินข้าวเย็นเม้าท์มอยตามประสาเพื่อนสาว แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง เขาเคาะประตูห้องตั้งนานแต่ไม่มีคนออกมาเปิดให้ และรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างจึงหยิบเอาคีย์การ์ดสำรอง ที่เพื่อน ๆ ในกลุ่มเท่านั้น ที่รู้ว่าเจ้าของห้องซ่อนไว้ใต้ป้ายเลขห้องดังนั้น เขาจึงเปิดประตูห้องของเพื่อนสาวเข้ามา และช่วยเธอก่อนท
หลังจากซื้อคอนแทคเลนส์ใส่แทนแว่นสายตาหนาเตอะเรียบร้อยแล้ว หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายหัวใจหญิงก็มาแอบอยู่ที่มุมตึก ใกล้กับห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกของตัวอาคาร ซึ่งบริเวณนี้สาว ๆ ออฟฟิศมักจะแวะเวียนมาใช้บริการก่อนเดินขึ้นตึก“ทำแบบนี้จะดีหรือแก”กิ๊ฟที่อยู่ข้างหลังนิว กระซิบถามเพื่อนเบา ๆ พลางหันรีหันขวางกลัวว่าจะมีใครมาพบเข้า“ช่วงเวลาฉุกละหุกแบบนี้ มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นแหละแก ที่จะได้เสื้อผ้าที่มันดูดีใส่ไปสัมภาษณ์งานนะ”นิวตอบกลับเสียงเบา ในขณะที่สายตายังสอดส่องมองหาพนักงานสาวออฟฟิศที่แต่งตัวเข้าท่าหน่อยตึกเดอะคิงมีทั้งหมด 35 ชั้น เป็นของบริษัทเดอะคิงที่ปล่อยให้บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆอีกหลายบริษัทเช่าเป็นสำนักงาน ส่วนสำนักงานใหญ่ของบริษัทเองตั้งอยู่บนชั้นที่ 25 -30 ดังนั้น ตอนนี้จึงมีพนักงานออฟฟิศเดินเข้าเดินออกให้เขาเลือกสรรอย่างหลากหลาย“ฉันว่า....”กิ๊ฟรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ออกมาจนชุ่มมือด้วยอาการตื่นเต้น ยังไม่ทันที่กิ๊ฟจะเอ่ยได้จบประโยค นิวก็พุ่งตัวเข้าไปทางด้านหลังของพนักงานสาวออฟฟิศคนหนึ่ง“คนนี้แหละ ไป !”เขาเอามือปิดปากสาวคนนั้นไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา กิ๊ฟจึงรีบเอาสันกระเป๋าทุบเข้าท
เสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัทเอ่ยขึ้นแทนผู้สัมภาษณ์ทุกคนรอบด้านต่างเงียบกริบ สีหน้าแต่ละคนคล้ายกับแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน บางคนก้ม ๆ เงย ๆ คล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่างในแฟ้มเอกสารหัวใจของกิ๊ฟเต้นกระหน่ำแรงยิ่งขึ้นเมื่อเขาเอ่ยต่อมาว่า“ตำแหน่งงานล่าสุด คือ รองหัวหน้าการเงินและบัญชี บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ อย่าง เอ็มเอ็น จำกัด”เอ่ยจบ คิงก็กระตุกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ คล้ายกับเจ้าแห่งนรกที่กำลังพิพากษาดวงวิญญาณที่ไร้หนทางสู้กิ๊ฟถึงกับหน้าซีดเผือด เพราะสิ่งที่เขาเอ่ยมานั้น เธอไม่ได้เขียนลงไปในใบสมัครงานแม้แต่น้อย แต่เขากลับรู้ประวัติของเธอเกือบทั้งหมดนั่นแสดงว่า เขาไม่เพียงแต่จำเธอได้ แต่ยังแค้นฝังใจด้วย !“ถูกไล่ออกจากงานหรือ ทำไมถึงได้มาสมัครงานในตำแหน่งเลขากระจอก ๆ แบบนี้ล่ะ”คิงจงใจใช้คำพูดจี้ใจดำหญิงสาวตรงหน้าหลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น เขาก็ให้คนไปสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียด และสวรรค์ก็ช่างเป็นใจ ส่งเธอให้มาสมัครงานในบริษัทของเขา ถึงเวลาที่เอาคืนเธอแล้ว !คณะกรรมการคนอื่น ๆ ราวกับจะกลั้นหายใจฟังการสนทนา รู้สึกกดดันแทนผู้ถูกสัมภาษณ์ เพราะเธอเป็นคนแรกที่ถูกประธานบริษัทเ
“กาแฟค่ะ”กิ๊ฟวางถ้วยกาแฟตรงหน้าท่านประธานหนุ่มอีกครั้ง แววตาเขาวูบขึ้นอย่างสำราญใจ ที่มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ ซ่อนไว้ยากที่ใครจะมองออกคิงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเช่นเคย ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ของคณะกรรมการสัมภาษณ์งานในห้องประชุมทันทีที่ของเหลวอุ่น ๆ ไหลผ่านเข้าไปในโพรงปากสัมผัสกับลิ้นที่มีตุ่มรับรสชาตินับ 8,000 ตุ่ม วินาทีนั้น ร่างกายของเขาก็พ่นกาแฟออกมาทางเดิมพรวด !“ว๊าย”คุณโฉมสอางค์ที่นั่งอยู่ฝั่งขวามือของบอสใหญ่ ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับกรี๊ดดังลั่นด้วยความตกใจ“แค่ก ๆ”คิงสำลักเอาน้ำกาแฟที่ยังเหลือค้างอยู่ตามลำคอออกมา ใบหน้าเหยเก เป็นรสชาติกาแฟที่เขาจะจรดจำไปตลอดชั่วชีวิต !“น้ำค่ะ ท่าน”คุณโฉมสอางค์รีบยื่นน้ำเปล่าให้เจ้านาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งรีบส่งกระดาษทิชชูให้กิ๊ฟกลั้นหัวเราะเอาไว้จนตัวสั่น หน้าแดงก่ำ ส่วนนิวอ้าปากค้าง ตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน แล้วเมื่อเห็นสายตาคมดุจ้องเพื่อนสาวตัวต้นเหตุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาก็ยกมือขึ้นปิดหน้า พร้อมกับพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า“อีกิ๊ฟ... มึงตายแน่”คณะกรรมการท่านอื่น ๆ ก็คิดไม่ต่างจากเขา โดยเฉพาะคุณโฉมสอางค์ที่อยู่กับประธานบริษัทมานาน รู้ดีว่าคนท
คนขับอุทานออกมา ปนหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ส่งผู้โดยสารในระยะไกลกว่านี้ แล้วจะได้เงินเพิ่มมากขึ้น“แค่นี้แหละลุง โธ่.... แดดใกล้เที่ยงมันร้อน หนูไม่อยากเดินตากแดดมาสถานีรถไฟฟ้า”กิ๊ฟตอบเลี่ยง ๆ ซึ่งความจริงแล้วที่เธอกระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพราะต้องการหลบหนี ถ้าจะนั่งไปถึงคอนโดเลยก็กลัวว่าจะต้องจ่ายเงินเยอะ เธอจึงต้องลงตรงนี้แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับคอนโดจะประหยัดกว่าเมื่อรถจอดแล้ว มิเตอร์ขึ้นที่เลข 53 บาท เธอก็ล้วงเอาแบงก์ห้าสิบ แล้วค้นหาเศษเหรียญ 3 เหรียญแล้วยื่นให้คนขับพอดิบพอดี จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแท็กซี่ไม่มีเงินทอน หรือบางรายอาจจะมีแต่ไม่ค่อยอยากจะทอนเงินให้ลูกค้า เพื่อหวังจะได้เงินเพิ่มเล็ก ๆ น้อย ๆณ คอนโด@กิ๊ฟ หลังจากกลับจากสัมภาษณ์งาน ตลอดทั้งช่วงบ่ายเธอก็จัดการโละชุดทำงานตัวเดิมขายทอดตลาดมือสองออกทั้งหมด แล้วซื้อชุดทำงานใหม่มาแทนตามคำแนะนำของนิวนี่เพื่อนชายหัวใจหญิงของเธอส่งข้อความเข้าไลน์มาจิกเธอเป็นระยะ ๆLine@นิวนี่ : ‘แกถ้าแกคิดไม่ออกว่าจะซื้อชุดแบบไหน ก็เปิดดูซีรี่ย์เรื่อง What's Wrong With Secretary Kim’Line@กิ๊ฟซ่า : ‘what?’Line@นิวนี่ : ‘หัดดูหนังดูละครบ้างนะแก
กิ๊ฟนั่งอ่านใบสัญญาการจ้างงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เจ้านายเอาเปรียบเธอได้ แต่ยิ่งอ่าน เธอก็ยิ่งรู้สึกว่า เขาเอาเปรียบเธอทุกทาง“นี่มันไม่ใช่สัญญาจ้างงาน นี่มันเป็นสัญญาทาสชัด ๆ !”กิ๊ฟโวยวายขึ้นด้วยความโมโห ลืมแม้กระทั่งว่าจะต้องพูดจาหวาน ๆ อ่อนน้อมกับเจ้านายคนใหม่ดี ๆเขาจ้างเธอในฐานเงินเดือนเด็กปริญญาตรีจบใหม่แค่ 18,000 บาท แต่ถ้าเธอลาออกก่อนครบกำหนด 1 ปี เธอต้องจ่ายเงินให้เขา 18 ล้านบาท !คิงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ดวงตาของเขามีประกายระริก คล้ายกับกำลังสนุกที่ได้ยั่วโมโหว่าที่เลขาคนใหม่ได้“สัญญาการว่าจ้าง ผู้จ้างเป็นผู้ร่างข้อตกลง หากผู้ถูกว่าจ้างไม่พอใจ ก็ไม่ต้องลงนาม เชิญคุณ... กลับบ้านไปเถอะ”เขาจงใจร่างสัญญาจ้างพิเศษฉบับนี้ด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่า หากวันใดที่เธอทนรับการลงทัณฑ์จากเขาไม่ไหวแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีจากกำมือเขาไปได้ง่าย ๆหญิงสาวเม้มปากจนเป็นเส้นตรง มองเขาราวกับจะมองทะลุเข้าไปให้ถึงความรู้สึกนึกคิดข้างในเมื่อวานเขาบอกว่าจะรับเธอเข้าทำงาน เธอก็หลงดีใจคิดว่าเขาไม่ติดใจเอาเรื่องกาแฟผสมเกลือ แล้วยอมให้เธอเข้าทำงานง่าย ๆแต่ที่ไหนได้ เขากลับเล่นลูกไม
กิ๊ฟเดินมาถึงในส่วนของห้องครัวตามที่น้องฟางบอก ซึ่งในแต่ละชั้นของสำนักงาน ทางบริษัทจะจัดให้มีส่วนของห้องครัวเล็ก ๆ ไว้ให้พนักงานสำหรับรับประทานอาหารเที่ยง หรือ อาหารเย็นสำหรับคนที่ทำโอทีภายในห้องครัวมีส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์สำหรับการเตรียมอาหาร มีอ่างล้างจาน มีตู้เย็น ไมโครเวฟ และโต๊ะเก้าอี้ รวมถึงอุปกรณ์ครัวที่จำเป็นภาพแรกที่เห็นเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องครัว คือ พนักงานทั้งหญิงและชายต่างมุงดูอะไรบางอย่างบนโต๊ะอาหาร“พี่ว่า รายนี้อยู่ไม่เกิน 2 เดือนแน่ ๆ”โฉมสอางค์วางเงินลงในช่อง ‘ออก’ เลขานุการทั้ง 41 คนที่ผ่านมาของบอสใหญ่ล้วนผ่านมือเธอมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น เธอจึงรู้ดีว่าสถิติสูงสุดที่เลขานุการจะทนบอสใหญ่ได้ไม่เกิน 2 เดือน ล้วนเผ่นแนบทุกราย“พี่ให้ 3 เดือนเลย ยังไงก็ออก”เสียงคุณนารินี หัวหน้าฝ่ายพัสดุ และคลังสินค้า วางแบงก์พันลงไปในช่องออกเช่นกัน“ไม่อะ... หนูว่านะคะ ยัยกิ๊ฟเนี่ย... เป็นเลขาบอสใหญ่ได้ไม่เกิน 1 เดือนหรอกค่ะ”นิวนี่แย้งขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะรู้จักเพื่อนดีกว่าใคร ๆ จากนั้นก็วางเงินลงช่อง - ออก - อีกคน“มา ๆ ใครยังไม่ลง.... ลงเลย ๆ”เสียงสาวใหญ่รูปร่างอวบ ๆ เร่งให
“โธ่เอ๊ย !... ให้มันได้แบบนี้สิ”คิงลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดเซ็ง“คืนนั้น ฉันยังไม่ได้เสียตัวให้คุณเหรอ แล้วทำไมฉันตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าแบบนั้นล่ะ แถมยังนอนกอดคุณด้วย”กิ๊ฟซักถามสามี เช้าวันนั้นสภาพที่เห็น ทำให้เธอเข้าใจว่าได้เขาเป็นสามีไปแล้ว มิน่าเล่า ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย“ผมเป็นคนถอดเสื้อผ้าคุณออก สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าเรามีอะไรกันแล้ว เพื่อผูกมัดคุณไม่ให้หนีผมไปไง แต่คิดไม่ถึงว่า ผมยอมลงทุนขนาดนั้นแล้ว คุณยังกล้าทิ้งผมไปอีก ! คืนนี้คุณอย่าหวังว่าจะรอดเลย”คิงคำรามลั่น พร้อมกับพลักเจ้าสาวลงไปกับเตียง จากนั้นก็ขึ้นทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว“ว๊าย ! เดี๋ยวคะ”หญิงสาวร้องโวยวายขึ้น ใช้สองมือดันหน้าอกเขาไว้ให้ออกห่าง หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เธอจะเสียตัวจริง ๆ“เดี๋ยวอะไรอีก”ชายหนุ่มถามติดจะหงุดหงิด“กะ... กิ๊ฟกลัว” ร่างของเธอสั่นระริกขึ้นมาจริง ๆ ใบหน้าแดงก่ำ เธอเอ่ยตะกุกตะกักออกไปว่า “ขอกิ๊ฟดื่มเหล้าย้อมใจก่อนได้ไหม เผื่อว่าจะได้หายกลัว”คิงหัวเราะเต็มเสียง เลขาสาวผู้แสนจะเก่งกาจไม่เ
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมา แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับแผงอกจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แสนคุ้นเคย แต่หัวใจเธอกลับบีบรัดกันแน่นจนรู้สึกเจ็บ เพราะหากเธอยอมกลับไปอยู่ในสถานะเดิม วันหนึ่งประวัติของเธอก็คงจะซ้ำรอยเหมือนกับแม่ของเธอแน่ ๆ“ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณคิง เราสองคนไม่คู่ควรกัน สักวันหนึ่งคุณก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่คุณเลือกให้”เธอพยายามขยับตัวหนี แต่เขากลับรัดวงแขนแน่นขึ้นไปอีก“ไม่ ผมไม่ปล่อย ผมอุตส่าห์ตามคุณมาถึงที่นี่ ทำทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน คุณยังคิดจะหนีไปจากผมอีกหรือ.....”เขาส่งเสียงตัดพ้อออกมา ทันทีที่เขารู้เรื่องราวของหญิงสาวทุกอย่าง และรู้ว่าบริษัทไอยรา กรุปกำลังย่ำแย่ จึงวางแผนเข้ากวาดซื้อหุ้นของไอยรา แย่งชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอกลับคืนมาให้ แล้วบีบให้คนที่ทำร้ายเธอในอดีตให้จนตรอกอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะหมดเงินไปกี่หมื่นล้านก็ตามชายหนุ่มจับต้นแขนของเธอทั้งสองข้าง แล้วผลักให้หญิงสาวหันมาสบตาเขา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ชั่วชีวิตนี้ผมจะรัก และแต่งงานกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น”“ถ้าแม่คุณ.....”กิ๊ฟเอ่ยออกมาได้ยากยิ่ง เพราะก้อนแข็ง ๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ น้ำตา
คิงแกล้งส่งเสียงไอขึ้น พลางปรายตาคมดุมองมาที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่จีบกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทำเอาคนทั้งคู่ยิ้มเจื่อนไปทันที“ผมยังพูดไม่จบ...” คิงเอ่ยขึ้นอย่างทรงอำนาจแม้ว่าจะอยู่ในบริษัทของคนอื่นก็ตาม “เงื่อนไขของผมคือ หุ้นของบริษัทไอยรา กรุปในมือผม จะถูกโอนไปให้นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ทันทีที่เธอยอมลงนามในทะเบียนสมรส”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เจ้าหน้าที่อำเภอรีบนำเอกสารขึ้นมาทันที ทั่วทั้งต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน คิงจึงเอ่ยต่อท่ามกลางความเงียบนั้นว่า“หากคุณจันทิราต้องการให้ลูกชายของคุณครองตำแหน่งประธานบริษัท ก็เอาเงินที่มีทั้งหมดมาขอซื้อหุ้นจากคุณกิ๊ฟไปได้ แต่ตอนนี้ราคาหุ้นสูงขึ้นมากแล้ว อาจจะได้แค่ 2 – 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”เมื่อคิงเอ่ยจบ คุณจันทิมาถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นห้องทันที“กรี๊ดดดดดดด ฉันไม่ยอม !” หากนังลูกเมียเก็บนั่นยอมจดทะเบียนสมรสกับมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้ เธอสองแม่ลูกก็จะตกเป็นเบี้ยล่างมันทันที นี่เธอตกอับถึงขนาดต้องไปกราบกรานขอซื้อหุ้นจากมันเชียวหรือ“มันไม่ใช่คนในตระกูลไอยรา มันก็แค่ลูกเมียเก็บ มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองหุ้นของโรงแรมนี้ !”จันทิราโวยวายขึ้นอย่างไม่ลืมหูลื
“ขออนุญาตค่ะ มิสเตอร์อเล็กซานเดอร์มาถึงแล้วค่ะ”เลขานุการของไอยรา เปิดประตูให้กับแขกคนสำคัญเดินเข้ามา ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคนสามคนสุดท้ายที่เดินเข้ามานั้น ทำให้กิ๊ฟถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจเธอเต้นโครมครามทันทีที่สบเข้ากับดวงตาคมกริบคู่นั้น“คุณคิง”เสียงแผ่วเบาหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว ในขณะที่น้องชายของเธอก็เอ่ยขึ้นว่า“ยินดีต้อนรับครับมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์” เก่งรีบลุกขึ้นเข้าไปจับมือทักทายกับแขกคนสำคัญ “เชิญนั่งครับ”คณะของมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ หรือ คิงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขามองหญิงสาวที่แสนคิดถึงนั้นด้วยแววตาวาววับคมกล้า ในขณะที่เขาเอ่ยแนะนำคนในทีมของตนให้อีกฝ่ายรู้จักผู้ร่วมทีมของเขาในวันนี้ประกอบด้วยทนายความฝีมือดีที่สุด ผู้แทนของบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร ผู้จัดการสินทรัพย์ของบริษัท รองประธานคณะกรรมการ และหัวหน้าฝ่ายการตลาดนิวนี่ที่ถูกแนะนำเป็นคนสุดท้าย แอบยักคิ้วให้กับเพื่อนสาว ที่ยังคงนั่งแข็งค้างคล้ายคนถูกสาป คนในตระกูลไอยราไม่ทราบว่าเขากับกิ๊ฟเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้น เขาจึงร่วมทีมมากับคุณเค และคุณคิงโดยไม่ต้อง
จันทิราชะงักฝีเท้า แล้วหันมามองสามี แต่เมื่อแลเลยไปเห็นลูกสาวของเมียอีกคนของเขา คอเธอก็ชูตั้งแข็งขึ้นมาทันที“คุณแม่ครับ เชิญมาคุยกันก่อน”เก่งลุกขึ้น เข้าไปโอบมารดาให้มานั่งลงที่โซฟานุ่ม เพื่อที่จะได้สนทนาเรื่องสำคัญ“เรื่องอะไร มีอะไรต้องพูดกัน ทุกวันนี้แกสองพ่อลูกเคยเห็นฉันอยู่ในสายตาไหม ดีแต่จะคอยโอ๋เอาใจคนอื่น”จันทิราปรายตามองไปที่กิ๊ฟ จงใจกระแทกเสียงคำว่า – คนอื่น – ให้ลูกเมียเก็บได้ยิน“แต่คนอื่นที่คุณเอ่ยถึง คือ ลูกสาวของผม และคือคนที่ช่วยบริษัทของเราไว้ เป็นคุณเสียอีกที่ขายบริษัทให้กับคนอื่นกับมือตัวเอง !”ปนนธีร์ขึ้นเสียงเข้มกับภรรยา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง“นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ ! ฉันขายบริษัทให้ใครที่ไหน”จันทิราตวาดสามีกลับ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้พลาดพลั้งทำอะไรลงไป“ก็หุ้นของไอยรากรุป ที่คุณขายออกไปจนหมดอย่างไงล่ะ”ปนนธีร์จ้องหน้าภรรยาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ฉันขายหุ้นในส่วนของฉัน มันผิดตรงไหน ถ้าราคามันสูงขึ้นเราก็รีบขายเอากำไรสิ ใคร ๆ เขาก็ขายกัน”จันทิราเถียงคอเป็นเอ็น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมรับว่าเป็นคนขายบริษัท“พ่อครับ แม่ครับ ใจเย็น ๆ แล้วฟังผมอธิบายก่อนนะ
“เหอะ ! ไปทำงานที่บริษัทไม่กี่วัน แกก็จะนับญาติกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอ ผู้หญิงเขาทิ้งพี่แกไป แกยังจะไปเห็นดีเห็นงามอะไรอีก ยังไงยัยหนูมิ้น ลูกสาวของคุณหญิงก็ดีกว่าเป็นไหน ๆ”นริศรเชิดหน้าขึ้น พูดได้ไม่เต็มปากนัก เธอยังไม่อยากยอมรับหญิงสาวเป็นลูกสะใภ้ในตอนนี้ เพราะกลัวจะเสียหน้า“ที่คุณกิ๊ฟเขาทิ้งผมไป ก็เป็นเพราะว่าคุณแม่เป็นคนบีบบังคับให้เธอต้องหนีไป” คิงเอ่ยเสียงขรึม“ตาคิง !”นริศรเสียงสูง ตกใจที่ลูกชายของตนรู้เรื่องที่เธอแอบทำทั้งหมดแล้ว“ส่วนผู้หญิงที่คุณแม่อยากได้มาเป็นสะใภ้นั้น เธอมีผัวแล้ว และที่สำคัญครอบครัวเป็นหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้าน”“ไม่จริง !”นริศรส่ายหน้าอย่างยากที่จะยอมรับได้“คุณแม่ดูคลิปนี่ครับ”เคเปิดคลิปในมือถือให้คุณนริศรดูในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปรากฏภาพของมายด์มิ้นเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหงุดหงิดนริศรได้ยินเสียงของมายด์มิ้นคุยโทรศัพท์กับคุณหญิงแม่ชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า......ถ้าลูกชายของยัยป้านริศรหน้าโง่นั่นจับง่ายก็ดีสิ ฉันกับแม่จะได้สบายไปทั้งชาติ...........มิ้นกลับไปนอนกอดผัวให้กีฉ่ำดีกว่า....“ตายแล้ว !”นริศรยกมื
“ตอนนี้หุ้นบริษัทไอยรากรุป ตระกูลไอยราถืออยู่ 50 เปอร์เซ็นต์หุ้น ส่วนผู้บริหารคนอื่น ๆ ถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ถือหุ้นทั่วไป”“ประกาศลงไปหรือยังว่า ห้ามผู้ถือหุ้นทุกคนขายหุ้น”หญิงสาวถามเสียงเครียด เธอกลัวว่า หากหุ้นราคาต่ำลงมาก ๆ เกรงว่าผู้ถือหุ้นจะรีบขายออกเพื่อเอาตัวรอด เพราะคิดว่าบริษัทกำลังจะล้มละลาย“พี่... เราไม่มีสิทธิ์ห้ามเขาขายหุ้นนะครับ”แววตาของผู้บริหารหนุ่ม เต็มไปด้วยความลำบากใจ เขาเพิ่งจะจบปริญญาตรี อายุเพียง 22 ปีก็ต้องนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีใครเชื่อใจผู้บริหารที่อ่อนประสบการณ์เช่นเขา“แต่เราขอความร่วมมือได้ไม่ใช่เหรอ”กิ๊ฟแย้งขึ้น“ผมจะลองดูครับ”เก่งรับปากด้วยท่าทีลังเล“ไม่ต้องลอง ทำเลย ทำเป็นประกาศขอความร่วมมือออกไป ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ส่วนหุ้นของตระกูลไอยราสั่งห้ามขายเด็ดขาด เพราะหากคนในตระกูลขายออกบริษัทมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเปลี่ยนเจ้าของกิจการ”กิ๊ฟย้ำข้อสำคัญกับน้องชาย“ครับ ผมจะทำตามที่พี่แนะนำ”“โอเค หากคนในตระกูลไม่มีใครขายหุ้นออก ก็สบายใจได้ว่า โรงแรมยังเป็นของไอยราอยู่ ส่วนเรื่องต่อไป
“คุณคิงอย่ามองนี่ แบบนั้นสิคะ นิวนี่เป็นผู้หญิง ไม่กินชะนีด้วยกันค่ะ มันผิดผี และที่สำคัญ นิวเมาหัวทิ่มนอนอยู่บนโซฟา ส่วนกิ๊ฟมันนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่บนเตียง”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของคิงก็เริ่มผ่อนคลายลง แต่ยังไม่วายทำเสียงเข้มขึ้นว่า“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย รีบเล่าต่อไปสิ”นิวนี่พ่นลมหายใจออกทางปากรู้สึกโล่งอกขึ้น อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าคุณคิงจะไม่ชกหน้าเขาเพราะความหึงหวงอีกจากนั้นนิวก็เริ่มต้นเล่าตั้งแต่ตอนที่กิ๊ฟร้องไห้มาเขาที่คอนโด เพราะถูกแม่ของคุณคิงบังคับให้ลาออกจากบริษัท โดยเสนอเงินให้ 20 ล้านบาท กิ๊ฟตัดสินใจรับเงินเพราะกิ๊ฟคิดว่าสักวันหนึ่งคุณคิงจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้ เหมือนพ่อของเธอ แล้วหญิงสาวก็กลับขึ้นเหนือไปช่วยน้องชายฟื้นฟูกิจการที่ภาคเหนือ“เดี๋ยวนะ” เสียงเคแทรกขึ้นมา เขาถามในสิ่งที่หลาย ๆ คนสงสัยว่า “คุณกิ๊ฟเป็นเด็กกำพร้าแม่ตาย ไม่มีพ่อไม่ใช่เหรอครับ”“นั่นสิ ผมสืบประวัติมาหมดแล้ว เธอเป็นลูกสาวคนเดียวมีแค่แม่ แล้วจู่ ๆ มีทั้งพ่อ ทั้งน้องชายได้ไง”คิงถามขึ้นบ้าง ระดับประธานบริษัทอย่างเขา ทุกข้อมูลที่เขาอยากรู้ เขาไม่มีวันที่สืบพลาด หรือตกหล่นแน
น้องชายคาดเดา เพราะนอกจากเธอแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนใกล้ชิดพี่ชายเขาได้มากเท่าเธอชื่อของหญิงสาวกระตุ้นไฟโทสะในใจของคิงให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เขาตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า“อย่าเอ่ยชื่อผู้หญิงแพศยาคนนั้น !”ความรู้สึกรักอย่างลึกซึ้งแปรเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น และเจ็บซ้ำเพียงชั่วข้ามคืนหัวใจของนิวนี่สั่นสะท้านกับถ้อยคำด่ารุนแรงนั้น ความโกรธพุ่งวาบขึ้นสมอง เขาตะคอกเจ้านายอย่างไม่ไว้หน้าว่า“กิ๊ฟไม่ใช่ผู้หญิงแพศยา !”คิงหันขวับจ้องหน้านิวนี่ตาถลึง ตวาดอย่างเดือดดาลว่า“ไม่ใช่ผู้หญิงแพศยางั้นเหรอ เพื่อนของคุณหลอกให้ผมรัก แล้วก็ปั่นหัวผมเล่น เมื่อคืนก่อนนอนกอดกับผม แต่พออีกวันกลับนอนอ้าขาให้ผู้ชายคนอื่น....” แววตาสั่นระริกของคิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “อ่อ... ผมลืมไปว่าเพื่อนคุณนอนกับผู้ชายคนอื่นแล้วได้เงินตั้ง 18 ล้าน แบบนี้ไม่เรียกว่าแพศยาหรอก แต่เรียกว่า กะหรี่ !”เพี๊ยะ !ฝ่ามือของนิวนี่ฟาดเข้าแก้มของคิงเต็มแรงโกรธ ชายหนุ่มถึงกับหน้าหันไปตามแรงตบนิวนี่โมโหจนตัวสั่น กิ๊ฟรักผู้ชายคนนี้มาก เมื่อคืนก่อนหญิงสาวยังร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะต้องตัดใจจากเขา แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับตอบแทนความจริงใจของเพื่อ