“กาแฟค่ะ”
กิ๊ฟวางถ้วยกาแฟตรงหน้าท่านประธานหนุ่มอีกครั้ง แววตาเขาวูบขึ้นอย่างสำราญใจ ที่มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ ซ่อนไว้ยากที่ใครจะมองออก
คิงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเช่นเคย ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ของคณะกรรมการสัมภาษณ์งานในห้องประชุม
ทันทีที่ของเหลวอุ่น ๆ ไหลผ่านเข้าไปในโพรงปากสัมผัสกับลิ้นที่มีตุ่มรับรสชาตินับ 8,000 ตุ่ม วินาทีนั้น ร่างกายของเขาก็พ่นกาแฟออกมาทางเดิม
พรวด !
“ว๊าย”
คุณโฉมสอางค์ที่นั่งอยู่ฝั่งขวามือของบอสใหญ่ ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับกรี๊ดดังลั่นด้วยความตกใจ
“แค่ก ๆ”
คิงสำลักเอาน้ำกาแฟที่ยังเหลือค้างอยู่ตามลำคอออกมา ใบหน้าเหยเก เป็นรสชาติกาแฟที่เขาจะจรดจำไปตลอดชั่วชีวิต !
“น้ำค่ะ ท่าน”
คุณโฉมสอางค์รีบยื่นน้ำเปล่าให้เจ้านาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งรีบส่งกระดาษทิชชูให้
กิ๊ฟกลั้นหัวเราะเอาไว้จนตัวสั่น หน้าแดงก่ำ ส่วนนิวอ้าปากค้าง ตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน แล้วเมื่อเห็นสายตาคมดุจ้องเพื่อนสาวตัวต้นเหตุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาก็ยกมือขึ้นปิดหน้า พร้อมกับพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า
“อีกิ๊ฟ... มึงตายแน่”
คณะกรรมการท่านอื่น ๆ ก็คิดไม่ต่างจากเขา โดยเฉพาะคุณโฉมสอางค์ที่อยู่กับประธานบริษัทมานาน รู้ดีว่าคนที่กล้าลองดีกับท่านต้องถูกจับโยนออกนอกบริษัท
ทั้งนี้ หน้าที่การคัดเลือกคนเข้าทำงานเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายบุคคล หากเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับท่านประธานในตอนนี้ ความผิดที่เกิดขึ้น เธอก็ต้องรับไปเต็ม ๆ ดังนั้น เธอจะต้องรีบจัดการผู้เข้าสอบสัมภาษณ์คนนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่บอสใหญ่จะเดือดไปมากกว่านี้
โฉมสอางค์ไม่รอช้ารีบกดโทรศัพท์ต่อสายไปยัง รปภ. ด้านล่างทันที
“คุณ รปภ. ค่ะ นำกำลัง 2 คนขึ้นมาที่ห้อง......”
ยังไม่ทันที่หัวหน้าฝ่ายบุคคลจะได้บอกตำแหน่งที่อยู่ เสียงทุ้มเย็นยะเยือกของประธานหนุ่มก็เอ่ยขัดขึ้นว่า
“คุณโฉมสอางค์ ไม่ต้อง”
คิงยกมืออขึ้นห้าม สายตาคมดุยังจ้องใบหน้าเย่อหยิ่งของกิ๊ฟไม่กะพริบ
คำสั่งของท่านประธาน ทำเอาโฉมสอางค์และคนอื่น ๆ ถึงกับอึ้งไปทันที ต่างพร้อมใจกันหันมามองเขาด้วยความประหลาดใจ
“กาแฟที่คุณกนกพิชญ์ชงอร่อยมากจนผมสำลักความอร่อย....”
คำพูดนั้น ทำให้กิ๊ฟหยุดตัวสั่นจากการกลั้นหัวเราะแทบจะทันที เธอเบิกตากว้างมองเขาราวกับว่ามองเอเลียนที่เพิ่งจะลงมาเหยียบบนพื้นโลก – เขาต้องดื่มกาแฟเธอจนเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ –
คิงเหยียดยิ้มออกมา แต่แววตากลับมีกลิ่นอายนรกพวยพุ่งออกมาจาง ๆ แล้วเอ่ยขึ้นให้ได้ยินทั่วถึงกันว่า
“....ดังนั้น พรุ่งนี้เธอมาทำงานในตำแหน่งเลขาได้เลย”
คิงเหยียดยิ้มเย็นที่มุมปาก วิธีการกำจัดศัตรูที่ดีที่สุด คือ การเก็บศัตรูไว้ใกล้ตัว เพื่อหาโอกาสเอาคืนอย่างสาสม !
นิวแอบตามมาแสดงความยินดีกับเพื่อนสาว เขารีบก้าวเข้าไปในลิฟต์แล้วกดตัวเลขไปยังชั้น 1 เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็กรีดสนั่น แสดงความดีใจออกมาเต็มที่ เพราะในห้องโดยสารมีแค่เขากับเพื่อนเท่านั้น
“กิ๊ฟ ! ยินดีด้วยเว้ย ในที่สุดแกก็สัมภาษณ์งานผ่าน แล้วแกก็จะได้มาทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเดอะคิงแล้ว”
“ต้องขอบใจแกที่ช่วยเหลือหลาย ๆ อย่าง ทำให้ชีวิตอีกิ๊ฟรอดตายจากการเป็นคนตกงาน”
“แกต้องเลี้ยงขอบคุณฉันด้วย”
นิวยืดอกรับความดีความชอบเต็มที่
“จ๊ะ คุณนิวนี่เพื่อนเลิฟ”
“เอ่อ ว่าแต่ แกใส่อะไรลงไปในกาแฟให้บอสใหญ่กิน ทำไมเขาถึงบอกว่าอร๊อย.... อร่อย”
นิวดัดจริตทำเสียงสูง
กิ๊ฟหัวเราะคิก แล้วตอบว่า “ใส่เกลือลงไปจนหมดกระปุก”
“ว๊ายยยยยยย อีกิ๊ฟ !”
นิวอุทานออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็พูดกับเพื่อนสาวเสียงสั่นว่า
“แกรู้ไหม... แกทำแบบนั้น ชีวิตการทำงานต่อจากนี้ของแก คือนรกแน่ ๆ อีกิ๊ฟเอ๊ย”
“ไม่ถึงขนาดนั้นมั๊ง”
หญิงสาวหยุดขำ เริ่มรู้สึกกังวลใจขึ้นมานิด ๆ
“ฉันจะบอกอะไรแกไว้อย่างหนึ่งนะ บอสของบริษัทอื่น คือ พระเจ้า.... แต่บอสของบริษัทเรา คือ ซาตาน !”
กิ๊ฟหุบยิ้มแทบจะทันที พลางปลอบตัวเองในใจว่า
- แค่กาแฟรสเค็มจัดแก้วเดียว เขาคงไม่เล่นงานเธอถึงตายหรอกนะ-
ติ่ง !
เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นเพื่อเตือนว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ประตูลิฟต์จะเปิดออกแล้ว นิวจึงรีบบอกเพื่อนสาวว่า
“นี่แก เอาชุดทำงานเก่าของแกไปขายให้หมด แล้วเอาเงินไปซื้อชุดใหม่ที่มันดูสวย ๆ เลิศ ๆ เข้าใจไหม”
“ชุดทำงานที่ฉันมีมันก็สุภาพนี่หว่า”
กิ๊ฟแย้งขึ้น เพราะรู้สึกเสียดายชุดแพง ๆ ที่เธออุตส่าห์ควักเงินในกระเป๋าซื้อมาตั้งมากมาย
“แกมาทำงานที่นี่ในตำแหน่งเลขานะย่ะ ไม่ใช่แม่บ้าน !”
นิวเท้าสะเอวแหวขึ้น
“จ้า ๆ คุณนิวนี่เพื่อนเลิฟ”
กิ๊ฟรับปาก ขณะที่เดินออกมาจากลิฟต์
“นั่นมันชุดฉันนี่ !”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้น
กิ๊ฟมองไปยังต้นเสียงทันที เธอเห็นพนักงานสาวโชคร้ายคนนั้นกำลังยืนอยู่กับ รปภ. แล้วชี้นิ้วมาที่เธอพร้อมกับแหกปากขึ้นมาอีกครั้งว่า
“ยัยหัวขโมย ! เอาชุดฉันคืนมาเดี๋ยวนี้ !”
“กิ๊ฟ แยกตรงนี้แล้วกันนะแก ตัวใครตัวมันเว้ย !”
นิวตะโกนบอกเพื่อน พลางจิ้มนิ้วกดปุ่มลิฟต์ให้รีบปิดประตูรัว ๆ
“อีนิวนี่ ! อีเพื่อนเลว”
กิ๊ฟสบถคำด่าออกมา ขณะที่ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีออกไปยังประตูทางออกให้เร็วที่สุด เธอยกกระเป๋าบังหน้าตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจำตนเองได้
“จะหนีไปไหน ถอดชุดคืนมาเดี๋ยวนี้”
เจ้าของชุดวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ ราวกับเจ้ากรรมนายเวร
“นี่ ! ชุดของฉันที่เธอใส่อยู่มันแบรนด์เนมทั้งตัวเลยนะ ราคาเฉียดหมื่น ฉันยังไม่ขี้งก ตามทวงคืนเลย”
กิ๊ฟตะโกนกลับไป พลางโบกแท็กซี่ให้หยุดรับ
“ชุดป้า ๆ แบบนี้ ราคาเท่าไหร่ฉันก็ไม่ใส่ !”
คนทวงคืนชุดตะโกนกลับหน้าดำหน้าแดง ในจังหวะนั้นกิ๊ฟเปิดประตูรถแท็กซี่ แล้วพุ่งตัวขึ้นไปนั่งแล้วเรียบร้อย
“ออกรถเลยพี่ เร็ว ๆ”
หญิงสาวตะโกนสั่ง คนขับก็เหยียบคันเร่งเต็มฝีเท้า รถแท็กซี่พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ่อ....”
กิ๊ฟพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อรถพาเธอแล่นห่างออกไปจากหน้าตึกเดอะคิง พนักงานสาวผู้โชคร้ายคนนั้นกระทืบเท้าเร้า ๆ ปากร้องตะโกนบางอย่างออกมา ซึ่งเธอก็ไม่อาจได้ยินแล้ว
เมื่อรถแล่นออกมาได้สักระยะ เธอจึงรีบบอกคนขับแท็กซี่ว่า
“พี่ ๆ จอดที่สถานีรถไฟฟ้าข้างหน้านี่แหละ”
“โบกรถแท็กซี่ เพื่อให้มาส่งแค่นี้นี่นะ”
คนขับอุทานออกมา ปนหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ส่งผู้โดยสารในระยะไกลกว่านี้ แล้วจะได้เงินเพิ่มมากขึ้น“แค่นี้แหละลุง โธ่.... แดดใกล้เที่ยงมันร้อน หนูไม่อยากเดินตากแดดมาสถานีรถไฟฟ้า”กิ๊ฟตอบเลี่ยง ๆ ซึ่งความจริงแล้วที่เธอกระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพราะต้องการหลบหนี ถ้าจะนั่งไปถึงคอนโดเลยก็กลัวว่าจะต้องจ่ายเงินเยอะ เธอจึงต้องลงตรงนี้แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับคอนโดจะประหยัดกว่าเมื่อรถจอดแล้ว มิเตอร์ขึ้นที่เลข 53 บาท เธอก็ล้วงเอาแบงก์ห้าสิบ แล้วค้นหาเศษเหรียญ 3 เหรียญแล้วยื่นให้คนขับพอดิบพอดี จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแท็กซี่ไม่มีเงินทอน หรือบางรายอาจจะมีแต่ไม่ค่อยอยากจะทอนเงินให้ลูกค้า เพื่อหวังจะได้เงินเพิ่มเล็ก ๆ น้อย ๆณ คอนโด@กิ๊ฟ หลังจากกลับจากสัมภาษณ์งาน ตลอดทั้งช่วงบ่ายเธอก็จัดการโละชุดทำงานตัวเดิมขายทอดตลาดมือสองออกทั้งหมด แล้วซื้อชุดทำงานใหม่มาแทนตามคำแนะนำของนิวนี่เพื่อนชายหัวใจหญิงของเธอส่งข้อความเข้าไลน์มาจิกเธอเป็นระยะ ๆLine@นิวนี่ : ‘แกถ้าแกคิดไม่ออกว่าจะซื้อชุดแบบไหน ก็เปิดดูซีรี่ย์เรื่อง What's Wrong With Secretary Kim’Line@กิ๊ฟซ่า : ‘what?’Line@นิวนี่ : ‘หัดดูหนังดูละครบ้างนะแก
ณ บริษัท เอ็มเอ็นกรุป จำกัด ‘กนกพิชญ์ เรืองระวี’ หรือ กิ๊ฟ สตรีในชุดทำงานสีเรียบ ผมรวบตึง สวมแว่นสายตากรอบสีดำหนาเตอะ เดินฉับ ๆ มุ่งหน้ามายังโต๊ะหน้าห้องประธานบริษัท ซึ่งมีป้ายบอกตำแหน่ง เลขานุการเธอหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะแล้วกวาดสายตามองผ่านแว่นสายตาคล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่าง เมื่อไม่เห็นสิ่งที่ต้องการ เธอจึงก้าวเข้าไปรื้อค้นเอกสารในชั้นใต้โต๊ะทำงานอย่างถือวิสาสะ“คุณเลขาครับ รบกวนขอกาแฟดำร้อนสักแก้ว”เสียงทุ้มนั้นทำให้หญิงสาวที่กำลังค้นหาเอกสารหยุดชะงัก แล้วตวัดสายตาดุ ๆ มองไปยังต้นเสียง“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ใช่เลขา และคนอย่างฉันไม่มีทางที่จะเป็นเลขารับใช้ใคร”กิ๊ฟตอบกลับอย่างไม่เป็นมิตรพอ ๆ กับใบหน้าที่กำลังอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมื่อเช้าเธอเพิ่งจะได้ยินพนักงานฝ่ายบัญชีกำลังซุบซิบนินทาว่า คนที่ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าแผนกบัญชี คือ เทมมี่ เลขาสาวสวยหน้าห้องท่านประธานบริษัท แทนที่จะเป็นเธอ !เธอไม่เชื่อว่า ประธานบริษัทจะทำแบบนี้ ดังนั้น เธอจึงมาค้นหาเอกสารหลักฐานการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการที่โต๊ะของเทมมี่ชายหนุ่มเมื่อได้ยินพนักงานบริษัทที่เขามาเจรจาธุรกิจด้วยตอบกลับมาดังนั้น ก็หน้าตึ
“ไม่ต้องมาแสดงละคร เธอใช้เต้าไต่จนสมใจเธอแล้วนี่”กิ๊ฟสะบัดแขนออกจากเทมมี่ พร้อมกับตะคอกใส่อีกฝ่ายคำพูดของเธอนั้น ดังพอที่จะทำให้พนักงานทุกคนในห้องได้ยินทั่วถึงกัน แล้วต่างสบตากันเลิ่กลั่ก ทุกคนต่างก็รู้กันทั้งนั้น ว่าประธานบริษัทในวัยห้าสิบห้าปีกับเลขาสาวสวยแอบกินกันลับ ๆ แต่ไม่มีใครกล้าประจานเจ้านายซึ่ง ๆ หน้าเช่นนี้“พี่กิ๊ฟ ! พี่กิ๊ฟพูดอะไรออกมาคะ”เทมมี่บีบน้ำตา น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกับว่าถูกปรักปรำอย่างเหลือร้าย“ผมไล่คุณออกตั้งแต่วันนี้ !”มาโนชย์ชี้หน้าลูกน้องหัวแข็งของตนอย่างเดือดดาลคนถูกไล่ออกเชิดหน้าขึ้น ไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำว่า“เจ้านายห่วย ๆ ที่เห็นเต้าอวบ ๆ ดีกว่าผลงานแบบนี้ ถึงไม่ไล่ออก ฉันก็จะออก !”สิ้นคำ เธอก็ขยำหนังสือแต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายบัญชีคนใหม่เป็นก้อนกลม ๆ แล้วปาใส่หน้าเทมมี่“ว้าย !”เทมมี่ร้องเสียงหลง ด้วยความตกใจ“ไปเลย ! อยากอวดดีนักก็เชิญออกไปเลย อายุเธอก็ไม่น้อยแล้ว ฉันอยากจะรู้นักว่าจะมีบริษัทไหนรับเธอเข้าทำงาน !”ประธานบริษัทตะโกนไล่หลังกิ๊ฟอย่างหัวเสียกิ๊ฟสาวเท้ารีบเดินออกไปจากที่นั่น เธอไม่อยากให้พวกเขาเห็นว่
กิ๊ฟโวยวาย กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องถูกประเมินอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้ “แกต้องออกมาอยู่กับโลกความเป็นจริงบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมการทำงานจริง ๆ ซึ่งมันไม่ได้ตรงเป๊ะเหมือนกับในหนังสือ หรือตัวเลขที่แกเรียนมา”นุ้ยพยายามจะพูดให้เพื่อนเข้าใจ และปรับตัว หากขืนมันยังเป็นแบบนี้ ต่อให้เข้าทำงานอีกกี่ที่ก็คงจะลงท้ายอีกหรอบเดิม“กูไม่เข้าใจเว้ย !..... ทำไมว่ะ... ทำไมชีวิตกูมันถึงต้องเป็นแบบนี้ งานวันเกิดกูแต่กลับต้องมาฉลองย้อมใจเพราะตกงาน.... เหี้ยเอ๊ย”กิ๊ฟคร่ำครวญออกมา พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว วันเกิดปีนี้เธออายุครบ 30 ปีแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังไม่เข้าใกล้คำว่า “ประสบความสำเร็จ” แม้แต่น้อย“เฮ้ย ๆ พอ ๆ อีกิ๊ฟ กระดกเป็นน้ำเปล่าแบบนี้ เดี๋ยวได้เมาหัวทิ่มกันพอดี”นิวรีบห้ามเพื่อนกิ๊ฟยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดปาก แล้วพร่ำบ่นต่อไปว่า“ตอนเรียน กูก็ตั้งใจเรียน ได้เอทุกวิชา เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่แมร่ง มึงดูกูตอนนี้สิ ตกงาน ! ฮ่า ๆ”คนตกงานเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ เธอยกมือขึ้นชี้นิ้วกราดไปที่เพื่อนแต่ละคน พร้อมกับพูดว่า“ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ในรุ่
ฟางบิดตัวไปมา แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวโทรศัพท์แทบจะหลุดร่วงลงจากมือ เมื่อได้ยินเสียงดุ ๆ ดังขึ้นว่า“ถ้าไม่ทำงาน... ก็ออกไปหาแฟนตอนนี้เลยก็ได้ แล้วไม่ต้องกลับมาที่บริษัทอีก”“ท่านประธาน.... นะ หนูขอโทษค่ะ”ฟางรีบเก็บโทรศัพท์ลงแล้วยกมือไหว้ขอโทษ“แปดโมงเช้า ถึงห้าโมงเย็น คือเวลางาน หากใครใช้เวลาทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากงานให้หักคะแนนความประพฤติ”คิงเอ่ยเสียงเข้ม คนถูกดุก้มหน้าลง มือไม้สั่นไปหมด “คุณโฉมสอางค์ จดบันทึกเอาไว้ด้วย”เขาหันไปสั่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่เดินตามหลังมาติด ๆ“ค่ะ ท่านประธาน” โฉมสอางค์รีบรับคำ พลางส่งสายตาเห็นใจไปที่พนักงานน้องใหม่ที่เพิ่งจะเข้าทำงานได้ไม่ถึงปี ก็ถูกหักคะแนนเสียแล้วจากนั้น ท่านประธานบริษัทก็ก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงาน เมื่อประตูห้องปิดลง พนักงานต่างถอนหายใจโล่งออกมาตาม ๆ กัน“ยัยฟาง ! เธอไม่เห็นข้อความแจ้งเตือนในไลน์กลุ่มพนักงานบริษัทรึไง”พี่นา สาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีดุลูกน้องเสียงเขียว“พอดี... แฟนหนูโทรมา หนูเลยไม่เห็นข้อความในไลน์ค่ะ พี่นา”ฟางเอ่ยเสียงอ่อย ทำท่าจะร้องไห้ คะแนนเธอถูกหักอีกแล้ว คาดว่าปลายปีคงจะไม่ได้โบนัสแน่ ๆ“ทีหน้าทีหลังจะทำอะไรก็อ
“อิ อิ พี่โฉม... แต่บอสใหญ่หล่อ... สูง... ยาวเข่าดีมากเลยนะ”นิวยังแกล้งล้อไม่เลิก ฝ่ายนั้นจึงแหวขึ้นว่า“หล่อแต่โหดไร้ใจแบบนี้ พี่ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ที่สำคัญพี่มีลูกมีผัวแล้ว หากน้องนิวสน... จะสมัครเป็นเลขาไหมล่ะคะ”เมื่อได้ยินดังนั้น นิวถึงกลับหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา เขายังจำได้ดี ตอนที่ท่านประธานเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ๆ เพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริษัท ความหล่อเหลาตามแบบฉบับลูกครึ่งไทยจีน ทำเอาสาว ๆ ในสำนักงานต่างมองกันตาค้าง และแล่นอยากจะเป็นเลขาฯ รับใช้ใกล้ชิดคุณภูวเดชกันทั้งนั้นแต่เมื่อถึงเวลาทำงานกันจริง ๆ ทุกคนต่างเข็ดขยาดกับการทำงานอย่างจริงจังของเขา พูดหยอกล้อบอสใหญ่เพียงนิดเดียวก็ถูกตวาด หรือ แค่ส่งเอกสารผิดพลาดก็ถูกตะคอก บางคนรับไม่ไหวถึงกับร้องห่มร้องไห้ขอลาออกด้วยตนเอง และปัจจุบัน สาว ๆ ในบริษัทก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งสายตาหยาดเยิ้มให้บอสใหญ่อีกเลยหลบได้ควรหลบ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง ! -“ไม่ดีกว่าค่ะ... นิวยังมีผัวที่ต้องหาเลี้ยงอีกหลายคน นิวยังไม่อยากตกงานค่ะ”นิวเอ่ยเสียงอ่อย ลงท้ายด้วยคำว่าค่ะ อย่างเต็มคำด้วยความเคยชิน แม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิงเต็มเปี่ยม และไม่คิดที่จะป
นิวพ่นคำพูดออกมาแทบไม่หายใจ หัวใจยังคงเต้นระทึกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ นี่ถ้าบีไม่โทรบอกให้เขามาเยี่ยมกิ๊ฟ พรุ่งนี้เพื่อน ๆ คงได้ไปงานศพมันแทนแน่ ๆคนถูกดุปรือตาขึ้นมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้างวยงง ก่อนที่จะขยับริมฝีปากเอ่ยออกมาว่า“ฉันไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ฉันแค่หน้ามืดจะเป็นลม”กิ๊ฟบอกเพื่อน พร้อมกับเสียงท้องร้องดังประกอบคำพูด......โครกคราก.....“นี่แก อย่าบอกนะว่าแกหิวข้าวจนเป็นลมน่ะ”คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ นิวเหลือบตาขึ้นบนอย่างเซ็ง ๆ แล้วตะคอกใส่หน้าคนหิวว่า“เมื่อครู่ กูหัวใจจะวายตายแล้วอีกิ๊ฟ !”“สรุปคือ... มึงไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ก็เลยต้องกินมาม่าแทนข้าวมาเป็นเดือนแล้ว”นิวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยัดข้าวผัดลงท้องจวนจะเกลี้ยงจานแล้วโชคดีที่เขาซื้อข้าวกล่องติดมือขึ้นมาด้วย เพราะตั้งใจว่าจะมากินข้าวเย็นเม้าท์มอยตามประสาเพื่อนสาว แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง เขาเคาะประตูห้องตั้งนานแต่ไม่มีคนออกมาเปิดให้ และรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างจึงหยิบเอาคีย์การ์ดสำรอง ที่เพื่อน ๆ ในกลุ่มเท่านั้น ที่รู้ว่าเจ้าของห้องซ่อนไว้ใต้ป้ายเลขห้องดังนั้น เขาจึงเปิดประตูห้องของเพื่อนสาวเข้ามา และช่วยเธอก่อนท
หลังจากซื้อคอนแทคเลนส์ใส่แทนแว่นสายตาหนาเตอะเรียบร้อยแล้ว หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายหัวใจหญิงก็มาแอบอยู่ที่มุมตึก ใกล้กับห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกของตัวอาคาร ซึ่งบริเวณนี้สาว ๆ ออฟฟิศมักจะแวะเวียนมาใช้บริการก่อนเดินขึ้นตึก“ทำแบบนี้จะดีหรือแก”กิ๊ฟที่อยู่ข้างหลังนิว กระซิบถามเพื่อนเบา ๆ พลางหันรีหันขวางกลัวว่าจะมีใครมาพบเข้า“ช่วงเวลาฉุกละหุกแบบนี้ มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นแหละแก ที่จะได้เสื้อผ้าที่มันดูดีใส่ไปสัมภาษณ์งานนะ”นิวตอบกลับเสียงเบา ในขณะที่สายตายังสอดส่องมองหาพนักงานสาวออฟฟิศที่แต่งตัวเข้าท่าหน่อยตึกเดอะคิงมีทั้งหมด 35 ชั้น เป็นของบริษัทเดอะคิงที่ปล่อยให้บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆอีกหลายบริษัทเช่าเป็นสำนักงาน ส่วนสำนักงานใหญ่ของบริษัทเองตั้งอยู่บนชั้นที่ 25 -30 ดังนั้น ตอนนี้จึงมีพนักงานออฟฟิศเดินเข้าเดินออกให้เขาเลือกสรรอย่างหลากหลาย“ฉันว่า....”กิ๊ฟรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ออกมาจนชุ่มมือด้วยอาการตื่นเต้น ยังไม่ทันที่กิ๊ฟจะเอ่ยได้จบประโยค นิวก็พุ่งตัวเข้าไปทางด้านหลังของพนักงานสาวออฟฟิศคนหนึ่ง“คนนี้แหละ ไป !”เขาเอามือปิดปากสาวคนนั้นไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา กิ๊ฟจึงรีบเอาสันกระเป๋าทุบเข้าท