แชร์

ตอนที่7. ดูดีกว่าเดิม

หลังจากซื้อคอนแทคเลนส์ใส่แทนแว่นสายตาหนาเตอะเรียบร้อยแล้ว หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายหัวใจหญิงก็มาแอบอยู่ที่มุมตึก ใกล้กับห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกของตัวอาคาร ซึ่งบริเวณนี้สาว ๆ ออฟฟิศมักจะแวะเวียนมาใช้บริการก่อนเดินขึ้นตึก

“ทำแบบนี้จะดีหรือแก”

กิ๊ฟที่อยู่ข้างหลังนิว กระซิบถามเพื่อนเบา ๆ พลางหันรีหันขวางกลัวว่าจะมีใครมาพบเข้า

“ช่วงเวลาฉุกละหุกแบบนี้ มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นแหละแก ที่จะได้เสื้อผ้าที่มันดูดีใส่ไปสัมภาษณ์งานนะ”

นิวตอบกลับเสียงเบา ในขณะที่สายตายังสอดส่องมองหาพนักงานสาวออฟฟิศที่แต่งตัวเข้าท่าหน่อย

ตึกเดอะคิงมีทั้งหมด 35 ชั้น เป็นของบริษัทเดอะคิงที่ปล่อยให้บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆอีกหลายบริษัทเช่าเป็นสำนักงาน ส่วนสำนักงานใหญ่ของบริษัทเองตั้งอยู่บนชั้นที่ 25 -30 ดังนั้น ตอนนี้จึงมีพนักงานออฟฟิศเดินเข้าเดินออกให้เขาเลือกสรรอย่างหลากหลาย

“ฉันว่า....”

กิ๊ฟรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ออกมาจนชุ่มมือด้วยอาการตื่นเต้น ยังไม่ทันที่กิ๊ฟจะเอ่ยได้จบประโยค นิวก็พุ่งตัวเข้าไปทางด้านหลังของพนักงานสาวออฟฟิศคนหนึ่ง

“คนนี้แหละ ไป !”

เขาเอามือปิดปากสาวคนนั้นไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา กิ๊ฟจึงรีบเอาสันกระเป๋าทุบเข้าที่ท้ายทอยของหญิงสาวโชคร้ายคนนั้น ตามที่ได้วางแผนกันไว้

ตุบ !

พนักงานสาวสวยโชคร้ายผู้นั้นสลบไปทันที

“ไปแก... เข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วรีบออกมา”

นิวผลักร่างสลบไสลในชุดเดรสกึ่งสูทไปให้เพื่อนสาวประคองต่อ

“ได้ ๆ”

กิ๊ฟรับคำเสียงสั่น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องปล้นชุดเอามาใส่ !

นิวยืนรอกิ๊ฟอยู่หน้าห้องน้ำราว ๆ 5 นาที เพื่อนสาวในชุดใหม่ก็เดินออกมาด้วยท่าทางไม่มั่นใจนัก

“เอ่อ... ดูดีกว่าเดิมเยอะเลยแก”

เขาไล่สายตาตรวจดูร่างระหงของเพื่อนสาว ที่ลอกคราบจากคุณป้ากลายเป็นพนักงานสาวสวย ในชุดเดรสกึ่งสูทสีน้ำเงินเข้ม สั้นเหนือเข่า เผยให้เห็นเรียวขายาวสวย

“งั้นก็รีบไปกันเถอะแก เดี๋ยวเจ้าของชุดเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนนี้จะแย่เอา”

กิ๊ฟรีบลากมือเพื่อนให้รีบเดินออกมาจากหน้าห้องน้ำ

“แกเดี๋ยวเราต้องแยกกันตรงนี้ แกขึ้นไปที่ชั้น 29 นะ ห้องสัมภาษณ์อยู่ทางขวามือ จำได้นะ”

“จำได้”

กิ๊ฟพยักหน้ารับคำ นิวต้องขึ้นไปก่อน เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเธอกับเขาเป็นเพื่อนกัน เพราะวันนี้นิวเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่สัมภาษณ์รับสมัครงานวันนี้ด้วย

“เค เจอกันจ๊ะ”

หน้าห้องสัมภาษณ์

กิ๊ฟนั่งรอในตำแหน่งคนสุดท้าย เธอกวาดสายตามองคนที่มาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเดียวกันกับเธอ

คนที่ถูกเรียกเข้าไปสัมภาษณ์เป็นคนแรก คือ ชายหนุ่มอายุราว ๆ 35 ปี ใบหน้าดุดัน มีเคราสีเทาขึ้นจาง ๆ ดูจากลักษณะท่าทางแล้วน่าจะมาสมัครเป็นบอดี้การ์ดมากกว่าเป็นเลขาฯ ด้วยซ้ำ

คนถัดมาคือ เด็กสาวหน้าใส ดูจากหน้าตาแล้วคาดว่าคงจะเป็นเด็กจบใหม่แน่ ๆ

และคนที่นั่งติดกับเธอ เป็นสาวสูงวัย น่าจะอายุห้าสิบกว่า ๆ แน่ ๆ เพราะผมที่รวบตึงนั้นมองเห็นเส้นผมสีเงินขึ้นแซมเกือบทั่วทั้งศีรษะ

เมื่อเห็นคนที่มาสัมภาษณ์ตำแหน่งเลขาวันนี้ทำให้กิ๊ฟแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเบา ๆ เพราะมั่นใจได้แน่ ๆ ว่าอายุ 30 ปีของเธอไม่มีผลต่อตำแหน่งนี้ ดังนั้น งานนี้เธอจะต้องคว้ามันมาให้ได้ เพื่อคอนโด !

คนรอสัมภาษณ์ถูกเรียกเข้าไป และออกมาคนแล้วคนเล่า บางคนใช้เวลาสัมภาษณ์ไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ก็ออกมาพร้อมกับน้ำตานองหน้า

“ฉันก็แค่เกิดก่อนพวกคุณหรอกย่ะ ! ทำไม ผมฉันไปหงอกบนหัวพวกคุณรึไงยะ ทำไมต้องว่ากันแรง ๆ ด้วย !”

สาวสูงวัยเปิดประตูห้องสัมภาษณ์ออกมา พร้อมกับพ่นคำด่าออกมาดังลั่น กิ๊ฟที่นั่งรอเรียกสัมภาษณ์ถึงกับผงะ ยกมือขึ้นลูบอกตนเองด้วยความตกใจ

- นั่นมันห้องสัมภาษณ์ หรือ ห้องเชือดกันแน่ ทำไมแต่ละคนที่ออกมา สภาพถึงดูไม่ได้เลย –

ในขณะที่กิ๊ฟกำลังคิดอยู่นั้น เจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งก็ถือแฟ้มเอกสารออกมา แล้วเรียกชื่อเธอว่า

“ขอเชิญคุณกนกพิชญ์ เรืองระวี เข้าห้องสัมภาษณ์ได้แล้วค่ะ”

“ค่ะ ๆ”

กิ๊ฟละล่ำละลักรับคำ แล้วลุกขึ้นเดินตามเจ้าหน้าที่คนนั้นเข้าไป

ภายในห้องสัมภาษณ์นั้น เป็นห้องประชุมขนาดเล็ก ด้านในมีโต๊ะประชุมถูกจัดเป็นรูปตัวยู คณะกรรมการแต่ละท่านนั่งประจำที่โต๊ะแต่ละตัวโดยมีป้ายชื่อบอกตำแหน่ง

แล้วสายตาของเธอก็สะดุดอยู่ที่คนซึ่งนั่งในตำแหน่งประธานบริษัทเบื้องหน้า

- นั่นมันคนติดตามเจ้านายที่เคยไปบริษัทเก่าเธอไม่ใช่เหรอ ! –

หัวใจของกิ๊ฟหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากนั้นก็เต้นรัว เพราะชายหนุ่มที่เธอเข้าใจว่าเป็นพนักงานธรรมดา แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท ที่สำคัญวันนั้นเธอเดินชนเขา จนทำให้กาแฟหกราดเขาด้วย

- ตายห่า ตายห่าแล้ว ความหวังที่จะได้งานใหม่เป็นอันดับสูญแน่ ๆ –

“คุณกนกพิชญ์คะ เชิญนั่งค่ะ”

เจ้าหน้าที่สาวคนเดิมส่งเสียงขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้สัมภาษณ์ยืนนิ่ง คณะกรรมการที่รอการสัมภาษณ์ก็เริ่มส่งสายตาเขม่นมอง

"ค่ะ"

กิ๊ฟ เอ่ยเบา ๆ พร้อมก้มหน้าลงเล็กน้อย พยายามเบี่ยงหน้าหลบไม่ให้คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานบริษัทมองหน้าเธอได้ชัด

- วันนี้ฉันไม่ได้ใส่แว่น ทรงผมก็ไม่เหมือนวันนั้น เขาคงจำฉันไม่ได้หรอก... เขาจำไม่ได้  ต้องจำไม่ได้แน่ ๆ –

เธอภาวนาในใจ โดยหารู้ไม่ว่า ตั้งแต่เธอก้าวผ่านพ้นประตูเข้ามา ดวงตาคมกริบของท่านประธานหนุ่มก็จับจ้องอยู่ที่เธอแล้ว

- นั่นมันยัยสี่ตาที่เดินชนฉันนี่ ! –

ต่อให้เธอไม่ใส่แว่น หรือแต่งตัวเฉิดฉายกว่านี้ เขาก็จำเธอได้ไม่มีวันลืม คิ้วเข้ม ๆ ลับกับดวงตาสีเข้มที่ทอประกายหยิ่งทะนงในตัวเอง ริมฝีปากบางที่ตวาดใส่หน้าเขาในวันนั้นว่า “....ฉันไม่มีทางเป็นเลขารับใช้ใคร !”  ประโยคนั้นยังตราตรึงอยู่ในห้วงความคิดเขาอยู่เสมอ

แล้วไย คนที่ประกาศอย่างห้าวหาญในวันนั้น กลับต้องซมซานมาสมัครงานในตำแหน่งนี้เสียแล้วล่ะ

“เชิญแนะนำตัวค่ะ”

คุณโฉมสอางค์ เป็นคนเริ่มคำถามพื้นฐานในการสัมภาษณ์

กิ๊ฟกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นิวลอบส่งสายตาอย่างเอาใจช่วย โดยหารู้ไม่ว่า เพื่อนสาวกำลังเจอตอใหญ่เบ่อเริ่มเข้าให้แล้ว

“ดิฉัน... นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี จบปริญญาตรีจาก.....”

“จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะบัญชีและบริหารธุรกิจหลักสูตรนานาชาติ  (BBA) ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.95 เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และปริญญาโทในสาขาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status