“อิ อิ พี่โฉม... แต่บอสใหญ่หล่อ... สูง... ยาวเข่าดีมากเลยนะ”
นิวยังแกล้งล้อไม่เลิก ฝ่ายนั้นจึงแหวขึ้นว่า
“หล่อแต่โหดไร้ใจแบบนี้ พี่ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ที่สำคัญพี่มีลูกมีผัวแล้ว หากน้องนิวสน... จะสมัครเป็นเลขาไหมล่ะคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น นิวถึงกลับหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา เขายังจำได้ดี ตอนที่ท่านประธานเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ๆ เพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริษัท ความหล่อเหลาตามแบบฉบับลูกครึ่งไทยจีน ทำเอาสาว ๆ ในสำนักงานต่างมองกันตาค้าง และแล่นอยากจะเป็นเลขาฯ รับใช้ใกล้ชิดคุณภูวเดชกันทั้งนั้น
แต่เมื่อถึงเวลาทำงานกันจริง ๆ ทุกคนต่างเข็ดขยาดกับการทำงานอย่างจริงจังของเขา พูดหยอกล้อบอสใหญ่เพียงนิดเดียวก็ถูกตวาด หรือ แค่ส่งเอกสารผิดพลาดก็ถูกตะคอก บางคนรับไม่ไหวถึงกับร้องห่มร้องไห้ขอลาออกด้วยตนเอง และปัจจุบัน สาว ๆ ในบริษัทก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งสายตาหยาดเยิ้มให้บอสใหญ่อีกเลย
หลบได้ควรหลบ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง ! -
“ไม่ดีกว่าค่ะ... นิวยังมีผัวที่ต้องหาเลี้ยงอีกหลายคน นิวยังไม่อยากตกงานค่ะ”
นิวเอ่ยเสียงอ่อย ลงท้ายด้วยคำว่าค่ะ อย่างเต็มคำด้วยความเคยชิน แม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิงเต็มเปี่ยม และไม่คิดที่จะปิดบังเพศสภาพของตน
“จ๊ะ งั้นพี่ไปล่ะ หากขืนพี่หาเลขาคนใหม่ไม่ได้ เป็นพี่นี่แหละ ที่จะถูกเด้งออกจากบริษัทเป็นคนต่อไป”
...ปฏิเสธ...
.....ยังไม่เปิดรับสมัคร....
....ผู้สมัครงานต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี....
......ขออภัยที่ไม่สามารถรับคุณเข้าทำงานได้....
กิ๊ฟไล่ตรวจอีเมลที่เธอส่งเอกสารไปขอสมัครงานตามบริษัทต่าง ๆ ไม่มีบริษัทไหนเลยที่ตอบรับให้เธอเข้าทำงาน
1 เดือนผ่านมาแล้วเธอยังหางานใหม่ไม่ได้ เหตุผลที่บริษัทส่วนใหญ่ปฏิเสธก็เพราะอายุที่เข้าเลข 3 ของเธอ
“แค่ 30 ปี กับอีก 15 วันเองนะคะ”
กิ๊ฟเคยโทรศัพท์ไปคุยกับฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อขอเข้าทำงาน
“ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ตามคุณสมบัติที่เราเปิดรับสมัคร คือ อายุไม่เกิน 30 ปี”
ปลายเสียงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“เกินมาแค่ 15 วัน ก็ไม่หรือคะ”
กิ๊ฟพยายามต่อรอง ในใจก็พลันนึกโกรธโชคชะตาชีวิตตัวเองไปด้วย ทำไมต้องมาตกงานตอนอายุ 30 !
“ไม่ได้ค่ะ”
เมื่ออีกฝ่ายยืนยันเช่นนั้น กิ๊ฟจึงทำได้แค่ยอมตัดใจ แล้วนั่งหางานในอินเทอร์เน็ตต่อไป
ในยุคหลังการระบาดของโรคโควิค 19 ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี เงินก็เฟ้อ หลายบริษัทก็ปิดตัวลง
ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เธอมักจะได้ยินข่าวไฟไหม้โรงงานอยู่บ่อย ๆ ซึ่งสาเหตุหนึ่งอาจมาจากบริษัทล้มละลาย จึงต้องใช้วิธีการทำให้เกิดไฟไหม้แล้วเรียกเงินจากประกันก็เป็นได้
ส่วนเธอ... นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ยื่นหนังสือขอลาออกเอง ดังนั้น จึงไม่ได้รับเงินชดเชยจากบริษัทแม้แต่บาทเดียว !
เงินที่คอยประทังชีวิตของเธอตอนนี้ได้มาจากเงินประกันสังคม ที่ชดเชยให้เธอ 6,000 บาท เพียงแค่ 3 เดือน
หกพันบาทกับการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ มันจะไปพออะไร ! แค่ค่าก๋วยเตี๋ยวก็ปาไปแล้วชามละ 60 บาท น้ำเปล่าขวดละ 20 บาท น้ำมันลิตรละเกือบ 50 บาท
ถ้าคิดรวมกัน 3 มื้อ แต่ละวันแค่ค่าครองชีพก็ต้องจ่ายไปถึง 300 บาท เดือนหนึ่งก็ต้อง 9,000 บาท เป็นขั้นต่ำถึงจะอยู่รอดได้ แต่เธอมีเงินที่เหลืออยู่ตอนนี้มีไม่ถึงเก้าพันด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้ กิ๊ฟจำใจต้องให้บริษัทไฟแนนซ์มายึดรถมินิคูเปอร์ที่เธอเพิ่งจะถอยออกมาเมื่อต้นปีที่แล้ว เพราะไม่มีเงินผ่อนงวดต่อไป
แล้วยังต้องขายกระเป๋า CHANEL CLASSIC Maxi สุดที่รักที่เธออุตส่าห์เก็บเงินซื้อตั้งหลายปีกว่าจะได้ เพื่อผ่อนคอนโด หาไม่แล้ว แม้แต่ที่ซุกหัวนอนเธอก็ไม่มี
จากที่เคยจ้างแม่บ้านทำความสะอาด รวมถึงซักรีดเสื้อผ้าเดือนละ 5,000 บาท ตอนนี้เธอต้องทำเองทั้งหมด
กิ๊ฟขยับแว่นขึ้น แล้วใช้นิ้วมือนวดที่หว่างคิ้วตัวเองเบา ๆ เพื่อคลายความเครียดที่เกิดขึ้น
เธอขยับออกจากหน้าจอโน๊ตบุ๊คเมื่อรู้สึกว่าสายตาของตนล้าเต็มทน จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะ
เธอมองกาแฟที่ลดลงไปครึ่งถ้วย แล้วก็ต้องยิ้มอ่อนให้กับชีวิตของตนเอง จากที่เคยกินกาแฟสตาร์บัคส์แก้วละ 200 อัป แต่วันนี้เธอต้องมาพึ่งกาแฟซอง 3 in One ในราคาหลักไม่ถึงสิบบาท
กิ๊ฟจิบกาแฟเพียงนิดแล้วลุกขึ้นเดินออกไปที่ระเบียงหลังห้อง จึงทำให้รู้ว่าดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าของอีกวันแล้ว หากเธอยังหางานไม่ได้ เงินที่ได้จากการขายกระเป๋าก็คงจะหมด แม้แต่คอนโดห้องนี้เธอก็จะไม่สามารถรักษาไว้ได้แน่ ๆ
จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีก้อนแข็ง ๆ ไหลขึ้นมาจุกที่ลำคอ ทำไมเธอถึงรู้ว่าการใช้ชีวิตเพื่ออยู่ต่อไปทำไมมันแสนลำบากแบบนี้
เธอสู้มานานแล้ว สู้จนรู้สึกท้อ ไม่รู้ว่าสวรรค์จะให้เธอสู้จนถึงเมื่อไหร่ จึงจะยอมให้เธอได้มีโอกาสชนะบ้าง
ตอนเด็ก ๆ ผู้ใหญ่มักจะพูดกรอกหูทุกวันว่า....
‘ตั้งใจเรียนให้เก่ง ๆ แล้วจะมีงานดี ๆ ทำ’
‘ขยันทำงานมาก ๆ แล้วจะเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน’
และฉันก็เชื่ออย่างนั้น ตั้งใจเรียน และขยันทำงานแทบตาย... สุดท้าย ก็ไม่มีค่าอะไรเลย
...ไหนล่ะ งานดี ๆ ....
...ไหนล่ะความเจริญรุ่งเรือง....
เสียงหนึ่งร่ำร้องตะโกนซ้ำไปซ้ำมาในหัว ในขณะที่น้ำตาเอ่อล้นออกมารินไหลอาบสองแก้ม ดวงตาพร่ามัวไปหมด
หญิงสาวก้มลงมองดูเบื้องล่าง จากห้องของเธอที่ชั้น 25 ระดับความสูง เกือบ 30 เมตร ทำให้มองเห็นภาพเบื้องล่างเพียงจุดเล็ก ๆ เมื่อหยดน้ำตาร่วงลงมันก็ปลิวหายไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจเธอ
.........ถ้าฉันร่วงลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงสลายหายไปเหมือนน้ำตาสินะ.....
ร่างของหญิงสาวค่อย ๆ โน้มเลื่อนลงที่ราวระเบียง สองแขนทิ้งลงอย่างสิ้นแรง สายลมพัดหวีดหวิวราวกับจะกระชากร่างให้ร่วงหล่นลงไปไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง
“อีกิ๊ฟ ! อย่ากระโดดลงไป !”
นิวเบิกตากว้างตะโกนสุดเสียง เมื่อเห็นร่างบางกำลังจะร่วงจากราวระเบียงหลังห้อง
หมับ !
นิววิ่งเข้าไปคว้าร่างบางได้ทัน ก่อนที่เธอจะตกลงไปตาย
“อีกิ๊ฟ แค่มึงตกงานแค่นี้ มึงก็จะคิดฆ่าตัวตายเหรอ กว่ามึงจะโตมาจนป่านนี้ เรียนจบตั้งปริญญาโท มึงคิดได้แค่นี้เหรออีกิ๊ฟ !”
นิวพ่นคำพูดออกมาแทบไม่หายใจ หัวใจยังคงเต้นระทึกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ นี่ถ้าบีไม่โทรบอกให้เขามาเยี่ยมกิ๊ฟ พรุ่งนี้เพื่อน ๆ คงได้ไปงานศพมันแทนแน่ ๆคนถูกดุปรือตาขึ้นมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้างวยงง ก่อนที่จะขยับริมฝีปากเอ่ยออกมาว่า“ฉันไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ฉันแค่หน้ามืดจะเป็นลม”กิ๊ฟบอกเพื่อน พร้อมกับเสียงท้องร้องดังประกอบคำพูด......โครกคราก.....“นี่แก อย่าบอกนะว่าแกหิวข้าวจนเป็นลมน่ะ”คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ นิวเหลือบตาขึ้นบนอย่างเซ็ง ๆ แล้วตะคอกใส่หน้าคนหิวว่า“เมื่อครู่ กูหัวใจจะวายตายแล้วอีกิ๊ฟ !”“สรุปคือ... มึงไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ก็เลยต้องกินมาม่าแทนข้าวมาเป็นเดือนแล้ว”นิวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยัดข้าวผัดลงท้องจวนจะเกลี้ยงจานแล้วโชคดีที่เขาซื้อข้าวกล่องติดมือขึ้นมาด้วย เพราะตั้งใจว่าจะมากินข้าวเย็นเม้าท์มอยตามประสาเพื่อนสาว แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง เขาเคาะประตูห้องตั้งนานแต่ไม่มีคนออกมาเปิดให้ และรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างจึงหยิบเอาคีย์การ์ดสำรอง ที่เพื่อน ๆ ในกลุ่มเท่านั้น ที่รู้ว่าเจ้าของห้องซ่อนไว้ใต้ป้ายเลขห้องดังนั้น เขาจึงเปิดประตูห้องของเพื่อนสาวเข้ามา และช่วยเธอก่อนท
หลังจากซื้อคอนแทคเลนส์ใส่แทนแว่นสายตาหนาเตอะเรียบร้อยแล้ว หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายหัวใจหญิงก็มาแอบอยู่ที่มุมตึก ใกล้กับห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกของตัวอาคาร ซึ่งบริเวณนี้สาว ๆ ออฟฟิศมักจะแวะเวียนมาใช้บริการก่อนเดินขึ้นตึก“ทำแบบนี้จะดีหรือแก”กิ๊ฟที่อยู่ข้างหลังนิว กระซิบถามเพื่อนเบา ๆ พลางหันรีหันขวางกลัวว่าจะมีใครมาพบเข้า“ช่วงเวลาฉุกละหุกแบบนี้ มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นแหละแก ที่จะได้เสื้อผ้าที่มันดูดีใส่ไปสัมภาษณ์งานนะ”นิวตอบกลับเสียงเบา ในขณะที่สายตายังสอดส่องมองหาพนักงานสาวออฟฟิศที่แต่งตัวเข้าท่าหน่อยตึกเดอะคิงมีทั้งหมด 35 ชั้น เป็นของบริษัทเดอะคิงที่ปล่อยให้บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆอีกหลายบริษัทเช่าเป็นสำนักงาน ส่วนสำนักงานใหญ่ของบริษัทเองตั้งอยู่บนชั้นที่ 25 -30 ดังนั้น ตอนนี้จึงมีพนักงานออฟฟิศเดินเข้าเดินออกให้เขาเลือกสรรอย่างหลากหลาย“ฉันว่า....”กิ๊ฟรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ออกมาจนชุ่มมือด้วยอาการตื่นเต้น ยังไม่ทันที่กิ๊ฟจะเอ่ยได้จบประโยค นิวก็พุ่งตัวเข้าไปทางด้านหลังของพนักงานสาวออฟฟิศคนหนึ่ง“คนนี้แหละ ไป !”เขาเอามือปิดปากสาวคนนั้นไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา กิ๊ฟจึงรีบเอาสันกระเป๋าทุบเข้าท
เสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัทเอ่ยขึ้นแทนผู้สัมภาษณ์ทุกคนรอบด้านต่างเงียบกริบ สีหน้าแต่ละคนคล้ายกับแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน บางคนก้ม ๆ เงย ๆ คล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่างในแฟ้มเอกสารหัวใจของกิ๊ฟเต้นกระหน่ำแรงยิ่งขึ้นเมื่อเขาเอ่ยต่อมาว่า“ตำแหน่งงานล่าสุด คือ รองหัวหน้าการเงินและบัญชี บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ อย่าง เอ็มเอ็น จำกัด”เอ่ยจบ คิงก็กระตุกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ คล้ายกับเจ้าแห่งนรกที่กำลังพิพากษาดวงวิญญาณที่ไร้หนทางสู้กิ๊ฟถึงกับหน้าซีดเผือด เพราะสิ่งที่เขาเอ่ยมานั้น เธอไม่ได้เขียนลงไปในใบสมัครงานแม้แต่น้อย แต่เขากลับรู้ประวัติของเธอเกือบทั้งหมดนั่นแสดงว่า เขาไม่เพียงแต่จำเธอได้ แต่ยังแค้นฝังใจด้วย !“ถูกไล่ออกจากงานหรือ ทำไมถึงได้มาสมัครงานในตำแหน่งเลขากระจอก ๆ แบบนี้ล่ะ”คิงจงใจใช้คำพูดจี้ใจดำหญิงสาวตรงหน้าหลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น เขาก็ให้คนไปสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียด และสวรรค์ก็ช่างเป็นใจ ส่งเธอให้มาสมัครงานในบริษัทของเขา ถึงเวลาที่เอาคืนเธอแล้ว !คณะกรรมการคนอื่น ๆ ราวกับจะกลั้นหายใจฟังการสนทนา รู้สึกกดดันแทนผู้ถูกสัมภาษณ์ เพราะเธอเป็นคนแรกที่ถูกประธานบริษัทเ
“กาแฟค่ะ”กิ๊ฟวางถ้วยกาแฟตรงหน้าท่านประธานหนุ่มอีกครั้ง แววตาเขาวูบขึ้นอย่างสำราญใจ ที่มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ ซ่อนไว้ยากที่ใครจะมองออกคิงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเช่นเคย ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ของคณะกรรมการสัมภาษณ์งานในห้องประชุมทันทีที่ของเหลวอุ่น ๆ ไหลผ่านเข้าไปในโพรงปากสัมผัสกับลิ้นที่มีตุ่มรับรสชาตินับ 8,000 ตุ่ม วินาทีนั้น ร่างกายของเขาก็พ่นกาแฟออกมาทางเดิมพรวด !“ว๊าย”คุณโฉมสอางค์ที่นั่งอยู่ฝั่งขวามือของบอสใหญ่ ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับกรี๊ดดังลั่นด้วยความตกใจ“แค่ก ๆ”คิงสำลักเอาน้ำกาแฟที่ยังเหลือค้างอยู่ตามลำคอออกมา ใบหน้าเหยเก เป็นรสชาติกาแฟที่เขาจะจรดจำไปตลอดชั่วชีวิต !“น้ำค่ะ ท่าน”คุณโฉมสอางค์รีบยื่นน้ำเปล่าให้เจ้านาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งรีบส่งกระดาษทิชชูให้กิ๊ฟกลั้นหัวเราะเอาไว้จนตัวสั่น หน้าแดงก่ำ ส่วนนิวอ้าปากค้าง ตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน แล้วเมื่อเห็นสายตาคมดุจ้องเพื่อนสาวตัวต้นเหตุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาก็ยกมือขึ้นปิดหน้า พร้อมกับพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า“อีกิ๊ฟ... มึงตายแน่”คณะกรรมการท่านอื่น ๆ ก็คิดไม่ต่างจากเขา โดยเฉพาะคุณโฉมสอางค์ที่อยู่กับประธานบริษัทมานาน รู้ดีว่าคนท
คนขับอุทานออกมา ปนหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ส่งผู้โดยสารในระยะไกลกว่านี้ แล้วจะได้เงินเพิ่มมากขึ้น“แค่นี้แหละลุง โธ่.... แดดใกล้เที่ยงมันร้อน หนูไม่อยากเดินตากแดดมาสถานีรถไฟฟ้า”กิ๊ฟตอบเลี่ยง ๆ ซึ่งความจริงแล้วที่เธอกระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพราะต้องการหลบหนี ถ้าจะนั่งไปถึงคอนโดเลยก็กลัวว่าจะต้องจ่ายเงินเยอะ เธอจึงต้องลงตรงนี้แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับคอนโดจะประหยัดกว่าเมื่อรถจอดแล้ว มิเตอร์ขึ้นที่เลข 53 บาท เธอก็ล้วงเอาแบงก์ห้าสิบ แล้วค้นหาเศษเหรียญ 3 เหรียญแล้วยื่นให้คนขับพอดิบพอดี จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแท็กซี่ไม่มีเงินทอน หรือบางรายอาจจะมีแต่ไม่ค่อยอยากจะทอนเงินให้ลูกค้า เพื่อหวังจะได้เงินเพิ่มเล็ก ๆ น้อย ๆณ คอนโด@กิ๊ฟ หลังจากกลับจากสัมภาษณ์งาน ตลอดทั้งช่วงบ่ายเธอก็จัดการโละชุดทำงานตัวเดิมขายทอดตลาดมือสองออกทั้งหมด แล้วซื้อชุดทำงานใหม่มาแทนตามคำแนะนำของนิวนี่เพื่อนชายหัวใจหญิงของเธอส่งข้อความเข้าไลน์มาจิกเธอเป็นระยะ ๆLine@นิวนี่ : ‘แกถ้าแกคิดไม่ออกว่าจะซื้อชุดแบบไหน ก็เปิดดูซีรี่ย์เรื่อง What's Wrong With Secretary Kim’Line@กิ๊ฟซ่า : ‘what?’Line@นิวนี่ : ‘หัดดูหนังดูละครบ้างนะแก
กิ๊ฟนั่งอ่านใบสัญญาการจ้างงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เจ้านายเอาเปรียบเธอได้ แต่ยิ่งอ่าน เธอก็ยิ่งรู้สึกว่า เขาเอาเปรียบเธอทุกทาง“นี่มันไม่ใช่สัญญาจ้างงาน นี่มันเป็นสัญญาทาสชัด ๆ !”กิ๊ฟโวยวายขึ้นด้วยความโมโห ลืมแม้กระทั่งว่าจะต้องพูดจาหวาน ๆ อ่อนน้อมกับเจ้านายคนใหม่ดี ๆเขาจ้างเธอในฐานเงินเดือนเด็กปริญญาตรีจบใหม่แค่ 18,000 บาท แต่ถ้าเธอลาออกก่อนครบกำหนด 1 ปี เธอต้องจ่ายเงินให้เขา 18 ล้านบาท !คิงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ดวงตาของเขามีประกายระริก คล้ายกับกำลังสนุกที่ได้ยั่วโมโหว่าที่เลขาคนใหม่ได้“สัญญาการว่าจ้าง ผู้จ้างเป็นผู้ร่างข้อตกลง หากผู้ถูกว่าจ้างไม่พอใจ ก็ไม่ต้องลงนาม เชิญคุณ... กลับบ้านไปเถอะ”เขาจงใจร่างสัญญาจ้างพิเศษฉบับนี้ด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่า หากวันใดที่เธอทนรับการลงทัณฑ์จากเขาไม่ไหวแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีจากกำมือเขาไปได้ง่าย ๆหญิงสาวเม้มปากจนเป็นเส้นตรง มองเขาราวกับจะมองทะลุเข้าไปให้ถึงความรู้สึกนึกคิดข้างในเมื่อวานเขาบอกว่าจะรับเธอเข้าทำงาน เธอก็หลงดีใจคิดว่าเขาไม่ติดใจเอาเรื่องกาแฟผสมเกลือ แล้วยอมให้เธอเข้าทำงานง่าย ๆแต่ที่ไหนได้ เขากลับเล่นลูกไม
กิ๊ฟเดินมาถึงในส่วนของห้องครัวตามที่น้องฟางบอก ซึ่งในแต่ละชั้นของสำนักงาน ทางบริษัทจะจัดให้มีส่วนของห้องครัวเล็ก ๆ ไว้ให้พนักงานสำหรับรับประทานอาหารเที่ยง หรือ อาหารเย็นสำหรับคนที่ทำโอทีภายในห้องครัวมีส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์สำหรับการเตรียมอาหาร มีอ่างล้างจาน มีตู้เย็น ไมโครเวฟ และโต๊ะเก้าอี้ รวมถึงอุปกรณ์ครัวที่จำเป็นภาพแรกที่เห็นเมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องครัว คือ พนักงานทั้งหญิงและชายต่างมุงดูอะไรบางอย่างบนโต๊ะอาหาร“พี่ว่า รายนี้อยู่ไม่เกิน 2 เดือนแน่ ๆ”โฉมสอางค์วางเงินลงในช่อง ‘ออก’ เลขานุการทั้ง 41 คนที่ผ่านมาของบอสใหญ่ล้วนผ่านมือเธอมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น เธอจึงรู้ดีว่าสถิติสูงสุดที่เลขานุการจะทนบอสใหญ่ได้ไม่เกิน 2 เดือน ล้วนเผ่นแนบทุกราย“พี่ให้ 3 เดือนเลย ยังไงก็ออก”เสียงคุณนารินี หัวหน้าฝ่ายพัสดุ และคลังสินค้า วางแบงก์พันลงไปในช่องออกเช่นกัน“ไม่อะ... หนูว่านะคะ ยัยกิ๊ฟเนี่ย... เป็นเลขาบอสใหญ่ได้ไม่เกิน 1 เดือนหรอกค่ะ”นิวนี่แย้งขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะรู้จักเพื่อนดีกว่าใคร ๆ จากนั้นก็วางเงินลงช่อง - ออก - อีกคน“มา ๆ ใครยังไม่ลง.... ลงเลย ๆ”เสียงสาวใหญ่รูปร่างอวบ ๆ เร่งให
เธอจึงต้องรื้อหาเครื่องเจาะกระดาษสำหรับเข้าแฟ้ม แล้วพบว่ามันถูกทิ้งไว้ในตะกร้าข้าง ๆ โต๊ะ มันมีลักษณะเหมือนเครื่องหนีบกล้วยทับ แต่ต่างกันก็ตรงที่เมื่อกดลงจะมีเสาคม ๆ เลื่อนลงมาเพื่อเจาะกระดาษที่เราสอดเข้าไป“เอ๊ะ.... แล้วจะเอากระดาษเข้าไปยังไงให้เจาะรูได้ตรงกันทุกแผ่น”กิ๊ฟจ้องเครื่องเจาะกระดาษเขม็ง มือหนึ่งก็หมุนเครื่องเจาะกระดาษไปมา เธอไม่เคยใช้เครื่องมือชนิดนี้เจาะกระดาษเก็บเอกสารมาก่อน เธอจึงรู้สึกว่ามันช่างเป็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดและใช้ยากมากไม่นานนักเธอก็สังเกตเห็น สามเหลี่ยมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นเครื่องหมายบอกจุดกึ่งกลางของเครื่อง“อ่อ.... รู้แล้ว แค่ให้กึ่งกลางขอบกระดาษเอกสารตรงกับตำแหน่งสามเหลี่ยม เท่านี้เราก็จะเจาะกระดาษได้ตรงกันทุกแผ่น”ดวงตาเลขาสาวคนใหม่เป็นประกายระยับเมื่อคิดวิธีการเจาะเอกสารได้กิ๊ฟรวบเอกสารเคาะลงกับพื้นโต๊ะราว ๆ สิบกว่าแผ่น เพื่อให้ทุกแผ่นซ้อนทับกันสนิท จากนั้นก็บรรจงวางมันลงอย่างระมัดระวัง“.....กึ่งกลางกระดาษอยู่ที่ตำแหน่ง 14.8 เซนติเมตร....”เธอเอาไม้บรรทัดทาบลงไปเพื่อหาจุดกึ่งกลางขอบกระดาษให้ได้ตรงเป๊ะ จากนั้นก็ใช้ดินสอทำเครื่องหมายอย่างตั้งอกตั้งใจ“
“โธ่เอ๊ย !... ให้มันได้แบบนี้สิ”คิงลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดเซ็ง“คืนนั้น ฉันยังไม่ได้เสียตัวให้คุณเหรอ แล้วทำไมฉันตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าแบบนั้นล่ะ แถมยังนอนกอดคุณด้วย”กิ๊ฟซักถามสามี เช้าวันนั้นสภาพที่เห็น ทำให้เธอเข้าใจว่าได้เขาเป็นสามีไปแล้ว มิน่าเล่า ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย“ผมเป็นคนถอดเสื้อผ้าคุณออก สร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าเรามีอะไรกันแล้ว เพื่อผูกมัดคุณไม่ให้หนีผมไปไง แต่คิดไม่ถึงว่า ผมยอมลงทุนขนาดนั้นแล้ว คุณยังกล้าทิ้งผมไปอีก ! คืนนี้คุณอย่าหวังว่าจะรอดเลย”คิงคำรามลั่น พร้อมกับพลักเจ้าสาวลงไปกับเตียง จากนั้นก็ขึ้นทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว“ว๊าย ! เดี๋ยวคะ”หญิงสาวร้องโวยวายขึ้น ใช้สองมือดันหน้าอกเขาไว้ให้ออกห่าง หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เธอจะเสียตัวจริง ๆ“เดี๋ยวอะไรอีก”ชายหนุ่มถามติดจะหงุดหงิด“กะ... กิ๊ฟกลัว” ร่างของเธอสั่นระริกขึ้นมาจริง ๆ ใบหน้าแดงก่ำ เธอเอ่ยตะกุกตะกักออกไปว่า “ขอกิ๊ฟดื่มเหล้าย้อมใจก่อนได้ไหม เผื่อว่าจะได้หายกลัว”คิงหัวเราะเต็มเสียง เลขาสาวผู้แสนจะเก่งกาจไม่เ
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมา แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับแผงอกจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แสนคุ้นเคย แต่หัวใจเธอกลับบีบรัดกันแน่นจนรู้สึกเจ็บ เพราะหากเธอยอมกลับไปอยู่ในสถานะเดิม วันหนึ่งประวัติของเธอก็คงจะซ้ำรอยเหมือนกับแม่ของเธอแน่ ๆ“ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณคิง เราสองคนไม่คู่ควรกัน สักวันหนึ่งคุณก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่คุณเลือกให้”เธอพยายามขยับตัวหนี แต่เขากลับรัดวงแขนแน่นขึ้นไปอีก“ไม่ ผมไม่ปล่อย ผมอุตส่าห์ตามคุณมาถึงที่นี่ ทำทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน คุณยังคิดจะหนีไปจากผมอีกหรือ.....”เขาส่งเสียงตัดพ้อออกมา ทันทีที่เขารู้เรื่องราวของหญิงสาวทุกอย่าง และรู้ว่าบริษัทไอยรา กรุปกำลังย่ำแย่ จึงวางแผนเข้ากวาดซื้อหุ้นของไอยรา แย่งชิงสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอกลับคืนมาให้ แล้วบีบให้คนที่ทำร้ายเธอในอดีตให้จนตรอกอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะหมดเงินไปกี่หมื่นล้านก็ตามชายหนุ่มจับต้นแขนของเธอทั้งสองข้าง แล้วผลักให้หญิงสาวหันมาสบตาเขา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ชั่วชีวิตนี้ผมจะรัก และแต่งงานกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น”“ถ้าแม่คุณ.....”กิ๊ฟเอ่ยออกมาได้ยากยิ่ง เพราะก้อนแข็ง ๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ น้ำตา
คิงแกล้งส่งเสียงไอขึ้น พลางปรายตาคมดุมองมาที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่จีบกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา ทำเอาคนทั้งคู่ยิ้มเจื่อนไปทันที“ผมยังพูดไม่จบ...” คิงเอ่ยขึ้นอย่างทรงอำนาจแม้ว่าจะอยู่ในบริษัทของคนอื่นก็ตาม “เงื่อนไขของผมคือ หุ้นของบริษัทไอยรา กรุปในมือผม จะถูกโอนไปให้นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ทันทีที่เธอยอมลงนามในทะเบียนสมรส”เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เจ้าหน้าที่อำเภอรีบนำเอกสารขึ้นมาทันที ทั่วทั้งต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน คิงจึงเอ่ยต่อท่ามกลางความเงียบนั้นว่า“หากคุณจันทิราต้องการให้ลูกชายของคุณครองตำแหน่งประธานบริษัท ก็เอาเงินที่มีทั้งหมดมาขอซื้อหุ้นจากคุณกิ๊ฟไปได้ แต่ตอนนี้ราคาหุ้นสูงขึ้นมากแล้ว อาจจะได้แค่ 2 – 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”เมื่อคิงเอ่ยจบ คุณจันทิมาถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นห้องทันที“กรี๊ดดดดดดด ฉันไม่ยอม !” หากนังลูกเมียเก็บนั่นยอมจดทะเบียนสมรสกับมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้ เธอสองแม่ลูกก็จะตกเป็นเบี้ยล่างมันทันที นี่เธอตกอับถึงขนาดต้องไปกราบกรานขอซื้อหุ้นจากมันเชียวหรือ“มันไม่ใช่คนในตระกูลไอยรา มันก็แค่ลูกเมียเก็บ มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองหุ้นของโรงแรมนี้ !”จันทิราโวยวายขึ้นอย่างไม่ลืมหูลื
“ขออนุญาตค่ะ มิสเตอร์อเล็กซานเดอร์มาถึงแล้วค่ะ”เลขานุการของไอยรา เปิดประตูให้กับแขกคนสำคัญเดินเข้ามา ฝ่ายนั้นเดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคนสามคนสุดท้ายที่เดินเข้ามานั้น ทำให้กิ๊ฟถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจเธอเต้นโครมครามทันทีที่สบเข้ากับดวงตาคมกริบคู่นั้น“คุณคิง”เสียงแผ่วเบาหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาว ในขณะที่น้องชายของเธอก็เอ่ยขึ้นว่า“ยินดีต้อนรับครับมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์” เก่งรีบลุกขึ้นเข้าไปจับมือทักทายกับแขกคนสำคัญ “เชิญนั่งครับ”คณะของมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์ หรือ คิงนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขามองหญิงสาวที่แสนคิดถึงนั้นด้วยแววตาวาววับคมกล้า ในขณะที่เขาเอ่ยแนะนำคนในทีมของตนให้อีกฝ่ายรู้จักผู้ร่วมทีมของเขาในวันนี้ประกอบด้วยทนายความฝีมือดีที่สุด ผู้แทนของบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร ผู้จัดการสินทรัพย์ของบริษัท รองประธานคณะกรรมการ และหัวหน้าฝ่ายการตลาดนิวนี่ที่ถูกแนะนำเป็นคนสุดท้าย แอบยักคิ้วให้กับเพื่อนสาว ที่ยังคงนั่งแข็งค้างคล้ายคนถูกสาป คนในตระกูลไอยราไม่ทราบว่าเขากับกิ๊ฟเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้น เขาจึงร่วมทีมมากับคุณเค และคุณคิงโดยไม่ต้อง
จันทิราชะงักฝีเท้า แล้วหันมามองสามี แต่เมื่อแลเลยไปเห็นลูกสาวของเมียอีกคนของเขา คอเธอก็ชูตั้งแข็งขึ้นมาทันที“คุณแม่ครับ เชิญมาคุยกันก่อน”เก่งลุกขึ้น เข้าไปโอบมารดาให้มานั่งลงที่โซฟานุ่ม เพื่อที่จะได้สนทนาเรื่องสำคัญ“เรื่องอะไร มีอะไรต้องพูดกัน ทุกวันนี้แกสองพ่อลูกเคยเห็นฉันอยู่ในสายตาไหม ดีแต่จะคอยโอ๋เอาใจคนอื่น”จันทิราปรายตามองไปที่กิ๊ฟ จงใจกระแทกเสียงคำว่า – คนอื่น – ให้ลูกเมียเก็บได้ยิน“แต่คนอื่นที่คุณเอ่ยถึง คือ ลูกสาวของผม และคือคนที่ช่วยบริษัทของเราไว้ เป็นคุณเสียอีกที่ขายบริษัทให้กับคนอื่นกับมือตัวเอง !”ปนนธีร์ขึ้นเสียงเข้มกับภรรยา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง“นี่คุณอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ ! ฉันขายบริษัทให้ใครที่ไหน”จันทิราตวาดสามีกลับ ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้พลาดพลั้งทำอะไรลงไป“ก็หุ้นของไอยรากรุป ที่คุณขายออกไปจนหมดอย่างไงล่ะ”ปนนธีร์จ้องหน้าภรรยาด้วยใบหน้าถมึงทึง“ฉันขายหุ้นในส่วนของฉัน มันผิดตรงไหน ถ้าราคามันสูงขึ้นเราก็รีบขายเอากำไรสิ ใคร ๆ เขาก็ขายกัน”จันทิราเถียงคอเป็นเอ็น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมรับว่าเป็นคนขายบริษัท“พ่อครับ แม่ครับ ใจเย็น ๆ แล้วฟังผมอธิบายก่อนนะ
“เหอะ ! ไปทำงานที่บริษัทไม่กี่วัน แกก็จะนับญาติกับผู้หญิงคนนั้นแล้วเหรอ ผู้หญิงเขาทิ้งพี่แกไป แกยังจะไปเห็นดีเห็นงามอะไรอีก ยังไงยัยหนูมิ้น ลูกสาวของคุณหญิงก็ดีกว่าเป็นไหน ๆ”นริศรเชิดหน้าขึ้น พูดได้ไม่เต็มปากนัก เธอยังไม่อยากยอมรับหญิงสาวเป็นลูกสะใภ้ในตอนนี้ เพราะกลัวจะเสียหน้า“ที่คุณกิ๊ฟเขาทิ้งผมไป ก็เป็นเพราะว่าคุณแม่เป็นคนบีบบังคับให้เธอต้องหนีไป” คิงเอ่ยเสียงขรึม“ตาคิง !”นริศรเสียงสูง ตกใจที่ลูกชายของตนรู้เรื่องที่เธอแอบทำทั้งหมดแล้ว“ส่วนผู้หญิงที่คุณแม่อยากได้มาเป็นสะใภ้นั้น เธอมีผัวแล้ว และที่สำคัญครอบครัวเป็นหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้าน”“ไม่จริง !”นริศรส่ายหน้าอย่างยากที่จะยอมรับได้“คุณแม่ดูคลิปนี่ครับ”เคเปิดคลิปในมือถือให้คุณนริศรดูในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปรากฏภาพของมายด์มิ้นเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความหงุดหงิดนริศรได้ยินเสียงของมายด์มิ้นคุยโทรศัพท์กับคุณหญิงแม่ชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า......ถ้าลูกชายของยัยป้านริศรหน้าโง่นั่นจับง่ายก็ดีสิ ฉันกับแม่จะได้สบายไปทั้งชาติ...........มิ้นกลับไปนอนกอดผัวให้กีฉ่ำดีกว่า....“ตายแล้ว !”นริศรยกมื
“ตอนนี้หุ้นบริษัทไอยรากรุป ตระกูลไอยราถืออยู่ 50 เปอร์เซ็นต์หุ้น ส่วนผู้บริหารคนอื่น ๆ ถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ถือหุ้นทั่วไป”“ประกาศลงไปหรือยังว่า ห้ามผู้ถือหุ้นทุกคนขายหุ้น”หญิงสาวถามเสียงเครียด เธอกลัวว่า หากหุ้นราคาต่ำลงมาก ๆ เกรงว่าผู้ถือหุ้นจะรีบขายออกเพื่อเอาตัวรอด เพราะคิดว่าบริษัทกำลังจะล้มละลาย“พี่... เราไม่มีสิทธิ์ห้ามเขาขายหุ้นนะครับ”แววตาของผู้บริหารหนุ่ม เต็มไปด้วยความลำบากใจ เขาเพิ่งจะจบปริญญาตรี อายุเพียง 22 ปีก็ต้องนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีใครเชื่อใจผู้บริหารที่อ่อนประสบการณ์เช่นเขา“แต่เราขอความร่วมมือได้ไม่ใช่เหรอ”กิ๊ฟแย้งขึ้น“ผมจะลองดูครับ”เก่งรับปากด้วยท่าทีลังเล“ไม่ต้องลอง ทำเลย ทำเป็นประกาศขอความร่วมมือออกไป ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ส่วนหุ้นของตระกูลไอยราสั่งห้ามขายเด็ดขาด เพราะหากคนในตระกูลขายออกบริษัทมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเปลี่ยนเจ้าของกิจการ”กิ๊ฟย้ำข้อสำคัญกับน้องชาย“ครับ ผมจะทำตามที่พี่แนะนำ”“โอเค หากคนในตระกูลไม่มีใครขายหุ้นออก ก็สบายใจได้ว่า โรงแรมยังเป็นของไอยราอยู่ ส่วนเรื่องต่อไป
“คุณคิงอย่ามองนี่ แบบนั้นสิคะ นิวนี่เป็นผู้หญิง ไม่กินชะนีด้วยกันค่ะ มันผิดผี และที่สำคัญ นิวเมาหัวทิ่มนอนอยู่บนโซฟา ส่วนกิ๊ฟมันนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่บนเตียง”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของคิงก็เริ่มผ่อนคลายลง แต่ยังไม่วายทำเสียงเข้มขึ้นว่า“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย รีบเล่าต่อไปสิ”นิวนี่พ่นลมหายใจออกทางปากรู้สึกโล่งอกขึ้น อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าคุณคิงจะไม่ชกหน้าเขาเพราะความหึงหวงอีกจากนั้นนิวก็เริ่มต้นเล่าตั้งแต่ตอนที่กิ๊ฟร้องไห้มาเขาที่คอนโด เพราะถูกแม่ของคุณคิงบังคับให้ลาออกจากบริษัท โดยเสนอเงินให้ 20 ล้านบาท กิ๊ฟตัดสินใจรับเงินเพราะกิ๊ฟคิดว่าสักวันหนึ่งคุณคิงจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้ เหมือนพ่อของเธอ แล้วหญิงสาวก็กลับขึ้นเหนือไปช่วยน้องชายฟื้นฟูกิจการที่ภาคเหนือ“เดี๋ยวนะ” เสียงเคแทรกขึ้นมา เขาถามในสิ่งที่หลาย ๆ คนสงสัยว่า “คุณกิ๊ฟเป็นเด็กกำพร้าแม่ตาย ไม่มีพ่อไม่ใช่เหรอครับ”“นั่นสิ ผมสืบประวัติมาหมดแล้ว เธอเป็นลูกสาวคนเดียวมีแค่แม่ แล้วจู่ ๆ มีทั้งพ่อ ทั้งน้องชายได้ไง”คิงถามขึ้นบ้าง ระดับประธานบริษัทอย่างเขา ทุกข้อมูลที่เขาอยากรู้ เขาไม่มีวันที่สืบพลาด หรือตกหล่นแน
น้องชายคาดเดา เพราะนอกจากเธอแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนใกล้ชิดพี่ชายเขาได้มากเท่าเธอชื่อของหญิงสาวกระตุ้นไฟโทสะในใจของคิงให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เขาตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า“อย่าเอ่ยชื่อผู้หญิงแพศยาคนนั้น !”ความรู้สึกรักอย่างลึกซึ้งแปรเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น และเจ็บซ้ำเพียงชั่วข้ามคืนหัวใจของนิวนี่สั่นสะท้านกับถ้อยคำด่ารุนแรงนั้น ความโกรธพุ่งวาบขึ้นสมอง เขาตะคอกเจ้านายอย่างไม่ไว้หน้าว่า“กิ๊ฟไม่ใช่ผู้หญิงแพศยา !”คิงหันขวับจ้องหน้านิวนี่ตาถลึง ตวาดอย่างเดือดดาลว่า“ไม่ใช่ผู้หญิงแพศยางั้นเหรอ เพื่อนของคุณหลอกให้ผมรัก แล้วก็ปั่นหัวผมเล่น เมื่อคืนก่อนนอนกอดกับผม แต่พออีกวันกลับนอนอ้าขาให้ผู้ชายคนอื่น....” แววตาสั่นระริกของคิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “อ่อ... ผมลืมไปว่าเพื่อนคุณนอนกับผู้ชายคนอื่นแล้วได้เงินตั้ง 18 ล้าน แบบนี้ไม่เรียกว่าแพศยาหรอก แต่เรียกว่า กะหรี่ !”เพี๊ยะ !ฝ่ามือของนิวนี่ฟาดเข้าแก้มของคิงเต็มแรงโกรธ ชายหนุ่มถึงกับหน้าหันไปตามแรงตบนิวนี่โมโหจนตัวสั่น กิ๊ฟรักผู้ชายคนนี้มาก เมื่อคืนก่อนหญิงสาวยังร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะต้องตัดใจจากเขา แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับตอบแทนความจริงใจของเพื่อ