แชร์

ตอนที่5. แกล้งล้อ

“อิ อิ พี่โฉม... แต่บอสใหญ่หล่อ... สูง... ยาวเข่าดีมากเลยนะ”

นิวยังแกล้งล้อไม่เลิก ฝ่ายนั้นจึงแหวขึ้นว่า

“หล่อแต่โหดไร้ใจแบบนี้ พี่ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ที่สำคัญพี่มีลูกมีผัวแล้ว หากน้องนิวสน... จะสมัครเป็นเลขาไหมล่ะคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น นิวถึงกลับหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา เขายังจำได้ดี ตอนที่ท่านประธานเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ๆ เพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริษัท ความหล่อเหลาตามแบบฉบับลูกครึ่งไทยจีน ทำเอาสาว ๆ ในสำนักงานต่างมองกันตาค้าง และแล่นอยากจะเป็นเลขาฯ รับใช้ใกล้ชิดคุณภูวเดชกันทั้งนั้น

แต่เมื่อถึงเวลาทำงานกันจริง ๆ ทุกคนต่างเข็ดขยาดกับการทำงานอย่างจริงจังของเขา พูดหยอกล้อบอสใหญ่เพียงนิดเดียวก็ถูกตวาด หรือ แค่ส่งเอกสารผิดพลาดก็ถูกตะคอก บางคนรับไม่ไหวถึงกับร้องห่มร้องไห้ขอลาออกด้วยตนเอง และปัจจุบัน สาว ๆ ในบริษัทก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งสายตาหยาดเยิ้มให้บอสใหญ่อีกเลย

หลบได้ควรหลบ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง ! -

“ไม่ดีกว่าค่ะ... นิวยังมีผัวที่ต้องหาเลี้ยงอีกหลายคน นิวยังไม่อยากตกงานค่ะ”

นิวเอ่ยเสียงอ่อย ลงท้ายด้วยคำว่าค่ะ อย่างเต็มคำด้วยความเคยชิน แม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิงเต็มเปี่ยม และไม่คิดที่จะปิดบังเพศสภาพของตน

“จ๊ะ งั้นพี่ไปล่ะ หากขืนพี่หาเลขาคนใหม่ไม่ได้ เป็นพี่นี่แหละ ที่จะถูกเด้งออกจากบริษัทเป็นคนต่อไป”

...ปฏิเสธ...

.....ยังไม่เปิดรับสมัคร....

....ผู้สมัครงานต้องมีอายุไม่เกิน 30 ปี....

......ขออภัยที่ไม่สามารถรับคุณเข้าทำงานได้....

กิ๊ฟไล่ตรวจอีเมลที่เธอส่งเอกสารไปขอสมัครงานตามบริษัทต่าง ๆ ไม่มีบริษัทไหนเลยที่ตอบรับให้เธอเข้าทำงาน

1 เดือนผ่านมาแล้วเธอยังหางานใหม่ไม่ได้ เหตุผลที่บริษัทส่วนใหญ่ปฏิเสธก็เพราะอายุที่เข้าเลข 3 ของเธอ

“แค่ 30 ปี กับอีก 15 วันเองนะคะ”

กิ๊ฟเคยโทรศัพท์ไปคุยกับฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อขอเข้าทำงาน

“ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ตามคุณสมบัติที่เราเปิดรับสมัคร คือ อายุไม่เกิน 30 ปี”

ปลายเสียงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“เกินมาแค่ 15 วัน ก็ไม่หรือคะ”

กิ๊ฟพยายามต่อรอง ในใจก็พลันนึกโกรธโชคชะตาชีวิตตัวเองไปด้วย ทำไมต้องมาตกงานตอนอายุ 30 !

“ไม่ได้ค่ะ”

เมื่ออีกฝ่ายยืนยันเช่นนั้น กิ๊ฟจึงทำได้แค่ยอมตัดใจ แล้วนั่งหางานในอินเทอร์เน็ตต่อไป

ในยุคหลังการระบาดของโรคโควิค 19 ทำให้เศรษฐกิจไม่ดี เงินก็เฟ้อ หลายบริษัทก็ปิดตัวลง

ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เธอมักจะได้ยินข่าวไฟไหม้โรงงานอยู่บ่อย ๆ ซึ่งสาเหตุหนึ่งอาจมาจากบริษัทล้มละลาย จึงต้องใช้วิธีการทำให้เกิดไฟไหม้แล้วเรียกเงินจากประกันก็เป็นได้

 ส่วนเธอ... นางสาวกนกพิชญ์ เรืองระวี ยื่นหนังสือขอลาออกเอง ดังนั้น จึงไม่ได้รับเงินชดเชยจากบริษัทแม้แต่บาทเดียว !

เงินที่คอยประทังชีวิตของเธอตอนนี้ได้มาจากเงินประกันสังคม ที่ชดเชยให้เธอ 6,000 บาท เพียงแค่ 3 เดือน

หกพันบาทกับการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ มันจะไปพออะไร ! แค่ค่าก๋วยเตี๋ยวก็ปาไปแล้วชามละ 60 บาท น้ำเปล่าขวดละ 20 บาท น้ำมันลิตรละเกือบ 50 บาท

ถ้าคิดรวมกัน 3 มื้อ แต่ละวันแค่ค่าครองชีพก็ต้องจ่ายไปถึง 300 บาท เดือนหนึ่งก็ต้อง 9,000 บาท เป็นขั้นต่ำถึงจะอยู่รอดได้ แต่เธอมีเงินที่เหลืออยู่ตอนนี้มีไม่ถึงเก้าพันด้วยซ้ำ

ด้วยเหตุนี้ กิ๊ฟจำใจต้องให้บริษัทไฟแนนซ์มายึดรถมินิคูเปอร์ที่เธอเพิ่งจะถอยออกมาเมื่อต้นปีที่แล้ว เพราะไม่มีเงินผ่อนงวดต่อไป

แล้วยังต้องขายกระเป๋า CHANEL CLASSIC Maxi สุดที่รักที่เธออุตส่าห์เก็บเงินซื้อตั้งหลายปีกว่าจะได้ เพื่อผ่อนคอนโด หาไม่แล้ว แม้แต่ที่ซุกหัวนอนเธอก็ไม่มี

จากที่เคยจ้างแม่บ้านทำความสะอาด รวมถึงซักรีดเสื้อผ้าเดือนละ 5,000 บาท ตอนนี้เธอต้องทำเองทั้งหมด

กิ๊ฟขยับแว่นขึ้น แล้วใช้นิ้วมือนวดที่หว่างคิ้วตัวเองเบา ๆ เพื่อคลายความเครียดที่เกิดขึ้น

เธอขยับออกจากหน้าจอโน๊ตบุ๊คเมื่อรู้สึกว่าสายตาของตนล้าเต็มทน จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะ

เธอมองกาแฟที่ลดลงไปครึ่งถ้วย แล้วก็ต้องยิ้มอ่อนให้กับชีวิตของตนเอง จากที่เคยกินกาแฟสตาร์บัคส์แก้วละ 200 อัป แต่วันนี้เธอต้องมาพึ่งกาแฟซอง 3 in One ในราคาหลักไม่ถึงสิบบาท

กิ๊ฟจิบกาแฟเพียงนิดแล้วลุกขึ้นเดินออกไปที่ระเบียงหลังห้อง จึงทำให้รู้ว่าดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าของอีกวันแล้ว หากเธอยังหางานไม่ได้ เงินที่ได้จากการขายกระเป๋าก็คงจะหมด แม้แต่คอนโดห้องนี้เธอก็จะไม่สามารถรักษาไว้ได้แน่ ๆ

จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีก้อนแข็ง ๆ ไหลขึ้นมาจุกที่ลำคอ ทำไมเธอถึงรู้ว่าการใช้ชีวิตเพื่ออยู่ต่อไปทำไมมันแสนลำบากแบบนี้

เธอสู้มานานแล้ว สู้จนรู้สึกท้อ ไม่รู้ว่าสวรรค์จะให้เธอสู้จนถึงเมื่อไหร่ จึงจะยอมให้เธอได้มีโอกาสชนะบ้าง

ตอนเด็ก ๆ ผู้ใหญ่มักจะพูดกรอกหูทุกวันว่า....

‘ตั้งใจเรียนให้เก่ง ๆ แล้วจะมีงานดี ๆ ทำ’

‘ขยันทำงานมาก ๆ แล้วจะเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน’

และฉันก็เชื่ออย่างนั้น ตั้งใจเรียน และขยันทำงานแทบตาย... สุดท้าย ก็ไม่มีค่าอะไรเลย

...ไหนล่ะ งานดี ๆ ....

...ไหนล่ะความเจริญรุ่งเรือง....

เสียงหนึ่งร่ำร้องตะโกนซ้ำไปซ้ำมาในหัว ในขณะที่น้ำตาเอ่อล้นออกมารินไหลอาบสองแก้ม ดวงตาพร่ามัวไปหมด

หญิงสาวก้มลงมองดูเบื้องล่าง จากห้องของเธอที่ชั้น 25 ระดับความสูง เกือบ 30 เมตร ทำให้มองเห็นภาพเบื้องล่างเพียงจุดเล็ก ๆ เมื่อหยดน้ำตาร่วงลงมันก็ปลิวหายไปอย่างรวดเร็ว

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจเธอ

.........ถ้าฉันร่วงลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงสลายหายไปเหมือนน้ำตาสินะ.....

ร่างของหญิงสาวค่อย ๆ โน้มเลื่อนลงที่ราวระเบียง สองแขนทิ้งลงอย่างสิ้นแรง สายลมพัดหวีดหวิวราวกับจะกระชากร่างให้ร่วงหล่นลงไปไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง

“อีกิ๊ฟ ! อย่ากระโดดลงไป !”

นิวเบิกตากว้างตะโกนสุดเสียง เมื่อเห็นร่างบางกำลังจะร่วงจากราวระเบียงหลังห้อง

หมับ !

นิววิ่งเข้าไปคว้าร่างบางได้ทัน ก่อนที่เธอจะตกลงไปตาย

“อีกิ๊ฟ แค่มึงตกงานแค่นี้ มึงก็จะคิดฆ่าตัวตายเหรอ กว่ามึงจะโตมาจนป่านนี้ เรียนจบตั้งปริญญาโท มึงคิดได้แค่นี้เหรออีกิ๊ฟ !”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status