แชร์

ตอนที่3.  ย้ำอีกครั้ง

กิ๊ฟโวยวาย กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องถูกประเมินอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้ 

“แกต้องออกมาอยู่กับโลกความเป็นจริงบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมการทำงานจริง ๆ ซึ่งมันไม่ได้ตรงเป๊ะเหมือนกับในหนังสือ หรือตัวเลขที่แกเรียนมา”

นุ้ยพยายามจะพูดให้เพื่อนเข้าใจ และปรับตัว หากขืนมันยังเป็นแบบนี้ ต่อให้เข้าทำงานอีกกี่ที่ก็คงจะลงท้ายอีกหรอบเดิม

“กูไม่เข้าใจเว้ย !..... ทำไมว่ะ... ทำไมชีวิตกูมันถึงต้องเป็นแบบนี้ งานวันเกิดกูแต่กลับต้องมาฉลองย้อมใจเพราะตกงาน.... เหี้ยเอ๊ย”

กิ๊ฟคร่ำครวญออกมา พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว วันเกิดปีนี้เธออายุครบ 30 ปีแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังไม่เข้าใกล้คำว่า “ประสบความสำเร็จ” แม้แต่น้อย

“เฮ้ย ๆ พอ ๆ อีกิ๊ฟ กระดกเป็นน้ำเปล่าแบบนี้ เดี๋ยวได้เมาหัวทิ่มกันพอดี”

นิวรีบห้ามเพื่อน

กิ๊ฟยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดปาก แล้วพร่ำบ่นต่อไปว่า

“ตอนเรียน กูก็ตั้งใจเรียน ได้เอทุกวิชา เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่แมร่ง มึงดูกูตอนนี้สิ ตกงาน ! ฮ่า ๆ”

คนตกงานเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ เธอยกมือขึ้นชี้นิ้วกราดไปที่เพื่อนแต่ละคน พร้อมกับพูดว่า

“ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกันเขาได้ดีกันหมดแล้ว บางคนเป็นเจ้าของคลินิก บางคนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เป็นอาจารย์ เป็นนายพัน ไอ้เพื่อนบางคนสมัยเรียนมันติด 0 ติด ร ตอนนี้มันกลายเป็นเถ้าแก่แล้ว บางคนตอนนั้นยังเรียนแทบจะไม่จบ ม. 6 ด้วยซ้ำ ตอนนี้มันกลายเป็นนายแบบไปแล้ว ส่วนกูเป็นคนตกงาน.... ฮ่า ๆ”

กิ๊ฟชี้นิ้วมาที่นุ้ยแล้วพล่ามต่อว่า 

“ส่วนมึง.... ลอกการบ้านกูทุกวัน แต่ตอนนี้มึงเป็นถึงเจ้ากิจการค้าส่ง กูถามหน่อยกูทำอะไรผิด ทำไมชีวิตกูถึงได้เฮงซวยแบบนี้ ฮ่า ๆ”

เธอหัวเราะประชดชีวิตห่วย ๆ ของตนเอง 

“ก็เพราะว่าปากมึงเป็นแบบนี้ไง”

นุ้ยย้ำอีกครั้ง 

“เอ่อแก.... เอาน่าสู้ ๆ ไม่ต้องเสียใจ ตกงานก็หางานใหม่ได้ แกเก่งอยู่แล้ว”

บีพยายามปลอบเพื่อน

Rrrrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของนุ้ยดังขึ้น เมื่อเธอรับสายแล้วคุยเพียงสองสามคำก็วาง จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วบอกกับเพื่อน ๆ ในโต๊ะว่า

“ผัวกูโทรตามให้ไปกล่อมลูกนอนแล้ว กูต้องกลับบ้านแล้วนะ”

นุ้ยเก็บกระเป๋าเตรียมจะกลับบ้าน

“นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง.... อินุ้ยมีลูกสอง อิบีผัวหนึ่ง ส่วนอินิวมีผัวเป็นสิบ แต่กู...ยางไม่มีควย.... สาก...ควยเลย”

เมื่อเมาหนักมาก ลิ้นก็เริ่มพันกันการออกเสียงจึงเพี้ยนขึ้นจนน่าใจหาย

“อีกิ๊ฟ... โอ๊ย... มึงเมามากแล้วเนี่ย เป็นสาวเป็นนางพูดจาอะไรแบบนี้”

นิวยกมือขึ้นทาบอก หัวใจแทบจะวาย เมื่อเพื่อนสาวผู้เคร่งขรึมต่อการเรียน และจริงจังกับการทำงาน บัดนี้กลับกลายร่างเป็นนารีขี้เมาปากรั่วไปแล้ว

“โอ๊ย... ผัวกูโทรตามอีกแล้ว กูต้องรีบกลับบ้านแล้ว ฝากดูอีกิ๊ฟด้วย”

นุ้ยรีบล่ำลาเพื่อน ๆ 

“เอ่อ ๆ ขับรถกลับบ้านดี ๆ มึง”

บีโบกมือลานุ้ย จากนั้นก็หันสนใจคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้

“กิ๊ฟ ฉันว่าแกเมามากแล้ว กลับคอนโดเถอะ”

“ม่าย.... เมา.... อึก”

คนที่บอกว่าตัวเองไม่เมา ใช้มือเท้าโต๊ะยันตนเองลุกขึ้น แล้วเดินโซซัดโซเซไปยังโต๊ะข้าง ๆ ที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มวัยทำงานนับสิบคน

“อ่าว... อีกิ๊ฟ มึงจะไปไหน”

นิวหันขวับอุทานเสียงหลง

“อีนิว รีบไปลากเพื่อนกลับมาเร็ว”

บีรีบสะกิดเพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม กลัวว่าเพื่อนสาวขี้เมาจะไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับโต๊ะข้าง ๆ

“เฮ้ย ! ไอ้น้อง.....มีเมียยัง มาเป็นผัวพี่ไหม”

กิ๊ฟปาดเข้าไปใช้แขนคล้องคอผู้ชายคนหนึ่ง ฝ่ายนั้นถึงกับใบหน้าเลิ่กลั่กเมื่อจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงเข้ามาประชิดตัว

“เอ่อ... ขอโทษด้วยครับ เพื่อนพี่มันเมา”

นิวรีบดึงเพื่อนสาวออกมาจากชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นทันที

“ม่าย.... เมา กูไม่เมา กูจะหาผัว”

“เดี๋ยวค่อยหา... โอ๊ยอีกิ๊ฟ ยืนดี ๆ”

นิวกึ่งลาก กึ่งผลักให้เพื่อนขี้เมาเดินกลับโต๊ะ

“อ๊อก.....”

คนถูกลากกลับโต๊ะกลับโก่งคอขย้อนอาหารทั้งมื้อเที่ยง มื้อเย็นออกมาจนหมด

“อีกิ๊ฟ !”

นิวร้องเสียงหลง ยกมือขึ้นตีหน้าผากตัวเองอย่างสุดเซ็ง

“มึง... ฉันว่านางไม่ไหวแล้วว่ะ พามันไปส่งคอนโดเถอะ”

บีรีบเข้ามาพยุงคนเมาอีกข้าง ซึ่งตอนนี้กิ๊ฟคอพับคออ่อนไปแล้ว

ณ บริษัทเดอะคิง

บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ก่อตั้งมานานกว่า 60 ปีแล้ว เมื่อประธานบริษัทคนเก่าเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก “ภูวเดช พิพัฒน์พัฒนาไพศาล” จึงขึ้นนั่งแท่นเป็นประธานบริษัทแทนบิดา

ติ๊ง......

เสียงสัญญาณข้อความในไลน์แอปพลิเคชันดังขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน เมื่อรถของประธานบริษัทวิ่งผ่านเข้ามาในตัวอาคารของบริษัทแล้ว 

พนักงานทุกคนต่างตื่นตัวกับข้อความในไลน์กลุ่มลับที่มีชื่อว่า - พนักงานคิงลี้-  บางคนรีบปิดจอเฟสบุ๊ค บางคนรีบเก็บเครื่องสำอางที่นำออกมาแต่งหน้า บางคนรีบรื้อเอกสารขึ้นมาแกล้งจัดหน้าเพื่อให้ตนเองดูยุ่งอยู่ตลอดเวลา 

ติ๊ง......

ไลน์กลุ่มพนักงานคิงลี้ขึ้นข้อความต่อมาว่า ....ท่านประธานคิงขึ้นลิฟต์มาแล้ว.... (ส่งโดย : น้องก้อย ประชาสัมพันธ์)

เมื่อเห็นข้อความนี้ทุกคนแทบจะกลั้นหายใจ รอว่าเมื่อไหร่บอสใหญ่จะก้าวผ่านประตูเข้ามาเสียที

“สวัสดีครับ ท่านประธาน”

ปีเตอร์ พนักงานฝ่ายธุรการที่นั่งอยู่โต๊ะแรก ใกล้กับประตูที่สุดลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ทักทายประธานบริษัทเป็นคนแรก 

‘คิง’ ในชุดสูทสีดำ เรียบกริบ เนี้ยบตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า เพียงแค่พยักเบา ๆ ให้กับคำทักทายนั้น แล้วเดินผ่านไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“สวัสดีค่ะ / ครับ ท่านประธาน”

ตลอดทางที่เขาเดินผ่านพนักงาน ทุกคนต่างลุกขึ้นทักทาย ยกมือไหว้ โน้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม 

แต่แล้วเขาก็ชะงักฝีเท้าลง ที่โต๊ะพนักงานสาวคนหนึ่ง หล่อนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอย่างเพลิดเพลินจึงไม่รู้ว่า สายตาอันคมกริบของประธานหนุ่มกำลังจับจ้องเธออยู่

“น้องฟาง.... น้องฟาง......”

พี่นา หัวหน้าฝ่ายพัสดุ พยายามส่งเสียงเรียกลูกน้องใต้บังคับบัญชาให้รู้สึกตัว 

แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวแม้แต่น้อย เสียงของเธอยังกรอกลงไปในโทรศัพท์พร้อมกับรอยยิ้มว่า

“พี่ธีอย่าทำงานหนักนะคะ..... ค่ะ.... ตอนเย็นฟางรอที่เดิมนะคะ  จุ๊บุ... จุ๊บุ.... รักนะคะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status