กิ๊ฟโวยวาย กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องถูกประเมินอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้
“แกต้องออกมาอยู่กับโลกความเป็นจริงบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมการทำงานจริง ๆ ซึ่งมันไม่ได้ตรงเป๊ะเหมือนกับในหนังสือ หรือตัวเลขที่แกเรียนมา” นุ้ยพยายามจะพูดให้เพื่อนเข้าใจ และปรับตัว หากขืนมันยังเป็นแบบนี้ ต่อให้เข้าทำงานอีกกี่ที่ก็คงจะลงท้ายอีกหรอบเดิม “กูไม่เข้าใจเว้ย !..... ทำไมว่ะ... ทำไมชีวิตกูมันถึงต้องเป็นแบบนี้ งานวันเกิดกูแต่กลับต้องมาฉลองย้อมใจเพราะตกงาน.... เหี้ยเอ๊ย” กิ๊ฟคร่ำครวญออกมา พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว วันเกิดปีนี้เธออายุครบ 30 ปีแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังไม่เข้าใกล้คำว่า “ประสบความสำเร็จ” แม้แต่น้อย “เฮ้ย ๆ พอ ๆ อีกิ๊ฟ กระดกเป็นน้ำเปล่าแบบนี้ เดี๋ยวได้เมาหัวทิ่มกันพอดี” นิวรีบห้ามเพื่อน กิ๊ฟยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดปาก แล้วพร่ำบ่นต่อไปว่า “ตอนเรียน กูก็ตั้งใจเรียน ได้เอทุกวิชา เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่แมร่ง มึงดูกูตอนนี้สิ ตกงาน ! ฮ่า ๆ” คนตกงานเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ เธอยกมือขึ้นชี้นิ้วกราดไปที่เพื่อนแต่ละคน พร้อมกับพูดว่า “ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกันเขาได้ดีกันหมดแล้ว บางคนเป็นเจ้าของคลินิก บางคนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เป็นอาจารย์ เป็นนายพัน ไอ้เพื่อนบางคนสมัยเรียนมันติด 0 ติด ร ตอนนี้มันกลายเป็นเถ้าแก่แล้ว บางคนตอนนั้นยังเรียนแทบจะไม่จบ ม. 6 ด้วยซ้ำ ตอนนี้มันกลายเป็นนายแบบไปแล้ว ส่วนกูเป็นคนตกงาน.... ฮ่า ๆ” กิ๊ฟชี้นิ้วมาที่นุ้ยแล้วพล่ามต่อว่า “ส่วนมึง.... ลอกการบ้านกูทุกวัน แต่ตอนนี้มึงเป็นถึงเจ้ากิจการค้าส่ง กูถามหน่อยกูทำอะไรผิด ทำไมชีวิตกูถึงได้เฮงซวยแบบนี้ ฮ่า ๆ” เธอหัวเราะประชดชีวิตห่วย ๆ ของตนเอง “ก็เพราะว่าปากมึงเป็นแบบนี้ไง” นุ้ยย้ำอีกครั้ง “เอ่อแก.... เอาน่าสู้ ๆ ไม่ต้องเสียใจ ตกงานก็หางานใหม่ได้ แกเก่งอยู่แล้ว” บีพยายามปลอบเพื่อน Rrrrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของนุ้ยดังขึ้น เมื่อเธอรับสายแล้วคุยเพียงสองสามคำก็วาง จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วบอกกับเพื่อน ๆ ในโต๊ะว่า “ผัวกูโทรตามให้ไปกล่อมลูกนอนแล้ว กูต้องกลับบ้านแล้วนะ” นุ้ยเก็บกระเป๋าเตรียมจะกลับบ้าน “นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง.... อินุ้ยมีลูกสอง อิบีผัวหนึ่ง ส่วนอินิวมีผัวเป็นสิบ แต่กู...ยางไม่มีควย.... สาก...ควยเลย” เมื่อเมาหนักมาก ลิ้นก็เริ่มพันกันการออกเสียงจึงเพี้ยนขึ้นจนน่าใจหาย “อีกิ๊ฟ... โอ๊ย... มึงเมามากแล้วเนี่ย เป็นสาวเป็นนางพูดจาอะไรแบบนี้” นิวยกมือขึ้นทาบอก หัวใจแทบจะวาย เมื่อเพื่อนสาวผู้เคร่งขรึมต่อการเรียน และจริงจังกับการทำงาน บัดนี้กลับกลายร่างเป็นนารีขี้เมาปากรั่วไปแล้ว “โอ๊ย... ผัวกูโทรตามอีกแล้ว กูต้องรีบกลับบ้านแล้ว ฝากดูอีกิ๊ฟด้วย” นุ้ยรีบล่ำลาเพื่อน ๆ “เอ่อ ๆ ขับรถกลับบ้านดี ๆ มึง” บีโบกมือลานุ้ย จากนั้นก็หันสนใจคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้ “กิ๊ฟ ฉันว่าแกเมามากแล้ว กลับคอนโดเถอะ” “ม่าย.... เมา.... อึก” คนที่บอกว่าตัวเองไม่เมา ใช้มือเท้าโต๊ะยันตนเองลุกขึ้น แล้วเดินโซซัดโซเซไปยังโต๊ะข้าง ๆ ที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มวัยทำงานนับสิบคน “อ่าว... อีกิ๊ฟ มึงจะไปไหน” นิวหันขวับอุทานเสียงหลง “อีนิว รีบไปลากเพื่อนกลับมาเร็ว” บีรีบสะกิดเพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม กลัวว่าเพื่อนสาวขี้เมาจะไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับโต๊ะข้าง ๆ “เฮ้ย ! ไอ้น้อง.....มีเมียยัง มาเป็นผัวพี่ไหม” กิ๊ฟปาดเข้าไปใช้แขนคล้องคอผู้ชายคนหนึ่ง ฝ่ายนั้นถึงกับใบหน้าเลิ่กลั่กเมื่อจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงเข้ามาประชิดตัว “เอ่อ... ขอโทษด้วยครับ เพื่อนพี่มันเมา” นิวรีบดึงเพื่อนสาวออกมาจากชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นทันที “ม่าย.... เมา กูไม่เมา กูจะหาผัว” “เดี๋ยวค่อยหา... โอ๊ยอีกิ๊ฟ ยืนดี ๆ” นิวกึ่งลาก กึ่งผลักให้เพื่อนขี้เมาเดินกลับโต๊ะ “อ๊อก.....” คนถูกลากกลับโต๊ะกลับโก่งคอขย้อนอาหารทั้งมื้อเที่ยง มื้อเย็นออกมาจนหมด “อีกิ๊ฟ !” นิวร้องเสียงหลง ยกมือขึ้นตีหน้าผากตัวเองอย่างสุดเซ็ง “มึง... ฉันว่านางไม่ไหวแล้วว่ะ พามันไปส่งคอนโดเถอะ” บีรีบเข้ามาพยุงคนเมาอีกข้าง ซึ่งตอนนี้กิ๊ฟคอพับคออ่อนไปแล้ว ณ บริษัทเดอะคิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ ก่อตั้งมานานกว่า 60 ปีแล้ว เมื่อประธานบริษัทคนเก่าเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก “ภูวเดช พิพัฒน์พัฒนาไพศาล” จึงขึ้นนั่งแท่นเป็นประธานบริษัทแทนบิดา ติ๊ง...... เสียงสัญญาณข้อความในไลน์แอปพลิเคชันดังขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน เมื่อรถของประธานบริษัทวิ่งผ่านเข้ามาในตัวอาคารของบริษัทแล้ว พนักงานทุกคนต่างตื่นตัวกับข้อความในไลน์กลุ่มลับที่มีชื่อว่า - พนักงานคิงลี้- บางคนรีบปิดจอเฟสบุ๊ค บางคนรีบเก็บเครื่องสำอางที่นำออกมาแต่งหน้า บางคนรีบรื้อเอกสารขึ้นมาแกล้งจัดหน้าเพื่อให้ตนเองดูยุ่งอยู่ตลอดเวลา ติ๊ง...... ไลน์กลุ่มพนักงานคิงลี้ขึ้นข้อความต่อมาว่า ....ท่านประธานคิงขึ้นลิฟต์มาแล้ว.... (ส่งโดย : น้องก้อย ประชาสัมพันธ์) เมื่อเห็นข้อความนี้ทุกคนแทบจะกลั้นหายใจ รอว่าเมื่อไหร่บอสใหญ่จะก้าวผ่านประตูเข้ามาเสียที “สวัสดีครับ ท่านประธาน” ปีเตอร์ พนักงานฝ่ายธุรการที่นั่งอยู่โต๊ะแรก ใกล้กับประตูที่สุดลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ทักทายประธานบริษัทเป็นคนแรก ‘คิง’ ในชุดสูทสีดำ เรียบกริบ เนี้ยบตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า เพียงแค่พยักเบา ๆ ให้กับคำทักทายนั้น แล้วเดินผ่านไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “สวัสดีค่ะ / ครับ ท่านประธาน” ตลอดทางที่เขาเดินผ่านพนักงาน ทุกคนต่างลุกขึ้นทักทาย ยกมือไหว้ โน้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม แต่แล้วเขาก็ชะงักฝีเท้าลง ที่โต๊ะพนักงานสาวคนหนึ่ง หล่อนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอย่างเพลิดเพลินจึงไม่รู้ว่า สายตาอันคมกริบของประธานหนุ่มกำลังจับจ้องเธออยู่ “น้องฟาง.... น้องฟาง......” พี่นา หัวหน้าฝ่ายพัสดุ พยายามส่งเสียงเรียกลูกน้องใต้บังคับบัญชาให้รู้สึกตัว แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวแม้แต่น้อย เสียงของเธอยังกรอกลงไปในโทรศัพท์พร้อมกับรอยยิ้มว่า “พี่ธีอย่าทำงานหนักนะคะ..... ค่ะ.... ตอนเย็นฟางรอที่เดิมนะคะ จุ๊บุ... จุ๊บุ.... รักนะคะ”ฟางบิดตัวไปมา แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวโทรศัพท์แทบจะหลุดร่วงลงจากมือ เมื่อได้ยินเสียงดุ ๆ ดังขึ้นว่า“ถ้าไม่ทำงาน... ก็ออกไปหาแฟนตอนนี้เลยก็ได้ แล้วไม่ต้องกลับมาที่บริษัทอีก”“ท่านประธาน.... นะ หนูขอโทษค่ะ”ฟางรีบเก็บโทรศัพท์ลงแล้วยกมือไหว้ขอโทษ“แปดโมงเช้า ถึงห้าโมงเย็น คือเวลางาน หากใครใช้เวลาทำอย่างอื่นที่นอกเหนือจากงานให้หักคะแนนความประพฤติ”คิงเอ่ยเสียงเข้ม คนถูกดุก้มหน้าลง มือไม้สั่นไปหมด “คุณโฉมสอางค์ จดบันทึกเอาไว้ด้วย”เขาหันไปสั่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่เดินตามหลังมาติด ๆ“ค่ะ ท่านประธาน” โฉมสอางค์รีบรับคำ พลางส่งสายตาเห็นใจไปที่พนักงานน้องใหม่ที่เพิ่งจะเข้าทำงานได้ไม่ถึงปี ก็ถูกหักคะแนนเสียแล้วจากนั้น ท่านประธานบริษัทก็ก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงาน เมื่อประตูห้องปิดลง พนักงานต่างถอนหายใจโล่งออกมาตาม ๆ กัน“ยัยฟาง ! เธอไม่เห็นข้อความแจ้งเตือนในไลน์กลุ่มพนักงานบริษัทรึไง”พี่นา สาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีดุลูกน้องเสียงเขียว“พอดี... แฟนหนูโทรมา หนูเลยไม่เห็นข้อความในไลน์ค่ะ พี่นา”ฟางเอ่ยเสียงอ่อย ทำท่าจะร้องไห้ คะแนนเธอถูกหักอีกแล้ว คาดว่าปลายปีคงจะไม่ได้โบนัสแน่ ๆ“ทีหน้าทีหลังจะทำอะไรก็อ
“อิ อิ พี่โฉม... แต่บอสใหญ่หล่อ... สูง... ยาวเข่าดีมากเลยนะ”นิวยังแกล้งล้อไม่เลิก ฝ่ายนั้นจึงแหวขึ้นว่า“หล่อแต่โหดไร้ใจแบบนี้ พี่ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ ที่สำคัญพี่มีลูกมีผัวแล้ว หากน้องนิวสน... จะสมัครเป็นเลขาไหมล่ะคะ”เมื่อได้ยินดังนั้น นิวถึงกลับหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา เขายังจำได้ดี ตอนที่ท่านประธานเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ๆ เพียงแค่ก้าวเข้ามาในบริษัท ความหล่อเหลาตามแบบฉบับลูกครึ่งไทยจีน ทำเอาสาว ๆ ในสำนักงานต่างมองกันตาค้าง และแล่นอยากจะเป็นเลขาฯ รับใช้ใกล้ชิดคุณภูวเดชกันทั้งนั้นแต่เมื่อถึงเวลาทำงานกันจริง ๆ ทุกคนต่างเข็ดขยาดกับการทำงานอย่างจริงจังของเขา พูดหยอกล้อบอสใหญ่เพียงนิดเดียวก็ถูกตวาด หรือ แค่ส่งเอกสารผิดพลาดก็ถูกตะคอก บางคนรับไม่ไหวถึงกับร้องห่มร้องไห้ขอลาออกด้วยตนเอง และปัจจุบัน สาว ๆ ในบริษัทก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งสายตาหยาดเยิ้มให้บอสใหญ่อีกเลยหลบได้ควรหลบ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง ! -“ไม่ดีกว่าค่ะ... นิวยังมีผัวที่ต้องหาเลี้ยงอีกหลายคน นิวยังไม่อยากตกงานค่ะ”นิวเอ่ยเสียงอ่อย ลงท้ายด้วยคำว่าค่ะ อย่างเต็มคำด้วยความเคยชิน แม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิงเต็มเปี่ยม และไม่คิดที่จะป
นิวพ่นคำพูดออกมาแทบไม่หายใจ หัวใจยังคงเต้นระทึกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ นี่ถ้าบีไม่โทรบอกให้เขามาเยี่ยมกิ๊ฟ พรุ่งนี้เพื่อน ๆ คงได้ไปงานศพมันแทนแน่ ๆคนถูกดุปรือตาขึ้นมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้างวยงง ก่อนที่จะขยับริมฝีปากเอ่ยออกมาว่า“ฉันไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ฉันแค่หน้ามืดจะเป็นลม”กิ๊ฟบอกเพื่อน พร้อมกับเสียงท้องร้องดังประกอบคำพูด......โครกคราก.....“นี่แก อย่าบอกนะว่าแกหิวข้าวจนเป็นลมน่ะ”คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ นิวเหลือบตาขึ้นบนอย่างเซ็ง ๆ แล้วตะคอกใส่หน้าคนหิวว่า“เมื่อครู่ กูหัวใจจะวายตายแล้วอีกิ๊ฟ !”“สรุปคือ... มึงไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ก็เลยต้องกินมาม่าแทนข้าวมาเป็นเดือนแล้ว”นิวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยัดข้าวผัดลงท้องจวนจะเกลี้ยงจานแล้วโชคดีที่เขาซื้อข้าวกล่องติดมือขึ้นมาด้วย เพราะตั้งใจว่าจะมากินข้าวเย็นเม้าท์มอยตามประสาเพื่อนสาว แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง เขาเคาะประตูห้องตั้งนานแต่ไม่มีคนออกมาเปิดให้ และรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างจึงหยิบเอาคีย์การ์ดสำรอง ที่เพื่อน ๆ ในกลุ่มเท่านั้น ที่รู้ว่าเจ้าของห้องซ่อนไว้ใต้ป้ายเลขห้องดังนั้น เขาจึงเปิดประตูห้องของเพื่อนสาวเข้ามา และช่วยเธอก่อนท
หลังจากซื้อคอนแทคเลนส์ใส่แทนแว่นสายตาหนาเตอะเรียบร้อยแล้ว หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายหัวใจหญิงก็มาแอบอยู่ที่มุมตึก ใกล้กับห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกของตัวอาคาร ซึ่งบริเวณนี้สาว ๆ ออฟฟิศมักจะแวะเวียนมาใช้บริการก่อนเดินขึ้นตึก“ทำแบบนี้จะดีหรือแก”กิ๊ฟที่อยู่ข้างหลังนิว กระซิบถามเพื่อนเบา ๆ พลางหันรีหันขวางกลัวว่าจะมีใครมาพบเข้า“ช่วงเวลาฉุกละหุกแบบนี้ มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นแหละแก ที่จะได้เสื้อผ้าที่มันดูดีใส่ไปสัมภาษณ์งานนะ”นิวตอบกลับเสียงเบา ในขณะที่สายตายังสอดส่องมองหาพนักงานสาวออฟฟิศที่แต่งตัวเข้าท่าหน่อยตึกเดอะคิงมีทั้งหมด 35 ชั้น เป็นของบริษัทเดอะคิงที่ปล่อยให้บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆอีกหลายบริษัทเช่าเป็นสำนักงาน ส่วนสำนักงานใหญ่ของบริษัทเองตั้งอยู่บนชั้นที่ 25 -30 ดังนั้น ตอนนี้จึงมีพนักงานออฟฟิศเดินเข้าเดินออกให้เขาเลือกสรรอย่างหลากหลาย“ฉันว่า....”กิ๊ฟรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ออกมาจนชุ่มมือด้วยอาการตื่นเต้น ยังไม่ทันที่กิ๊ฟจะเอ่ยได้จบประโยค นิวก็พุ่งตัวเข้าไปทางด้านหลังของพนักงานสาวออฟฟิศคนหนึ่ง“คนนี้แหละ ไป !”เขาเอามือปิดปากสาวคนนั้นไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา กิ๊ฟจึงรีบเอาสันกระเป๋าทุบเข้าท
เสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัทเอ่ยขึ้นแทนผู้สัมภาษณ์ทุกคนรอบด้านต่างเงียบกริบ สีหน้าแต่ละคนคล้ายกับแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน บางคนก้ม ๆ เงย ๆ คล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่างในแฟ้มเอกสารหัวใจของกิ๊ฟเต้นกระหน่ำแรงยิ่งขึ้นเมื่อเขาเอ่ยต่อมาว่า“ตำแหน่งงานล่าสุด คือ รองหัวหน้าการเงินและบัญชี บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ อย่าง เอ็มเอ็น จำกัด”เอ่ยจบ คิงก็กระตุกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ คล้ายกับเจ้าแห่งนรกที่กำลังพิพากษาดวงวิญญาณที่ไร้หนทางสู้กิ๊ฟถึงกับหน้าซีดเผือด เพราะสิ่งที่เขาเอ่ยมานั้น เธอไม่ได้เขียนลงไปในใบสมัครงานแม้แต่น้อย แต่เขากลับรู้ประวัติของเธอเกือบทั้งหมดนั่นแสดงว่า เขาไม่เพียงแต่จำเธอได้ แต่ยังแค้นฝังใจด้วย !“ถูกไล่ออกจากงานหรือ ทำไมถึงได้มาสมัครงานในตำแหน่งเลขากระจอก ๆ แบบนี้ล่ะ”คิงจงใจใช้คำพูดจี้ใจดำหญิงสาวตรงหน้าหลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น เขาก็ให้คนไปสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียด และสวรรค์ก็ช่างเป็นใจ ส่งเธอให้มาสมัครงานในบริษัทของเขา ถึงเวลาที่เอาคืนเธอแล้ว !คณะกรรมการคนอื่น ๆ ราวกับจะกลั้นหายใจฟังการสนทนา รู้สึกกดดันแทนผู้ถูกสัมภาษณ์ เพราะเธอเป็นคนแรกที่ถูกประธานบริษัทเ
“กาแฟค่ะ”กิ๊ฟวางถ้วยกาแฟตรงหน้าท่านประธานหนุ่มอีกครั้ง แววตาเขาวูบขึ้นอย่างสำราญใจ ที่มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ ซ่อนไว้ยากที่ใครจะมองออกคิงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเช่นเคย ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ของคณะกรรมการสัมภาษณ์งานในห้องประชุมทันทีที่ของเหลวอุ่น ๆ ไหลผ่านเข้าไปในโพรงปากสัมผัสกับลิ้นที่มีตุ่มรับรสชาตินับ 8,000 ตุ่ม วินาทีนั้น ร่างกายของเขาก็พ่นกาแฟออกมาทางเดิมพรวด !“ว๊าย”คุณโฉมสอางค์ที่นั่งอยู่ฝั่งขวามือของบอสใหญ่ ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับกรี๊ดดังลั่นด้วยความตกใจ“แค่ก ๆ”คิงสำลักเอาน้ำกาแฟที่ยังเหลือค้างอยู่ตามลำคอออกมา ใบหน้าเหยเก เป็นรสชาติกาแฟที่เขาจะจรดจำไปตลอดชั่วชีวิต !“น้ำค่ะ ท่าน”คุณโฉมสอางค์รีบยื่นน้ำเปล่าให้เจ้านาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งรีบส่งกระดาษทิชชูให้กิ๊ฟกลั้นหัวเราะเอาไว้จนตัวสั่น หน้าแดงก่ำ ส่วนนิวอ้าปากค้าง ตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน แล้วเมื่อเห็นสายตาคมดุจ้องเพื่อนสาวตัวต้นเหตุราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาก็ยกมือขึ้นปิดหน้า พร้อมกับพึมพำออกมาเบา ๆ ว่า“อีกิ๊ฟ... มึงตายแน่”คณะกรรมการท่านอื่น ๆ ก็คิดไม่ต่างจากเขา โดยเฉพาะคุณโฉมสอางค์ที่อยู่กับประธานบริษัทมานาน รู้ดีว่าคนท
คนขับอุทานออกมา ปนหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ส่งผู้โดยสารในระยะไกลกว่านี้ แล้วจะได้เงินเพิ่มมากขึ้น“แค่นี้แหละลุง โธ่.... แดดใกล้เที่ยงมันร้อน หนูไม่อยากเดินตากแดดมาสถานีรถไฟฟ้า”กิ๊ฟตอบเลี่ยง ๆ ซึ่งความจริงแล้วที่เธอกระโดดขึ้นรถแท็กซี่เพราะต้องการหลบหนี ถ้าจะนั่งไปถึงคอนโดเลยก็กลัวว่าจะต้องจ่ายเงินเยอะ เธอจึงต้องลงตรงนี้แล้วนั่งรถไฟฟ้ากลับคอนโดจะประหยัดกว่าเมื่อรถจอดแล้ว มิเตอร์ขึ้นที่เลข 53 บาท เธอก็ล้วงเอาแบงก์ห้าสิบ แล้วค้นหาเศษเหรียญ 3 เหรียญแล้วยื่นให้คนขับพอดิบพอดี จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแท็กซี่ไม่มีเงินทอน หรือบางรายอาจจะมีแต่ไม่ค่อยอยากจะทอนเงินให้ลูกค้า เพื่อหวังจะได้เงินเพิ่มเล็ก ๆ น้อย ๆณ คอนโด@กิ๊ฟ หลังจากกลับจากสัมภาษณ์งาน ตลอดทั้งช่วงบ่ายเธอก็จัดการโละชุดทำงานตัวเดิมขายทอดตลาดมือสองออกทั้งหมด แล้วซื้อชุดทำงานใหม่มาแทนตามคำแนะนำของนิวนี่เพื่อนชายหัวใจหญิงของเธอส่งข้อความเข้าไลน์มาจิกเธอเป็นระยะ ๆLine@นิวนี่ : ‘แกถ้าแกคิดไม่ออกว่าจะซื้อชุดแบบไหน ก็เปิดดูซีรี่ย์เรื่อง What's Wrong With Secretary Kim’Line@กิ๊ฟซ่า : ‘what?’Line@นิวนี่ : ‘หัดดูหนังดูละครบ้างนะแก
ณ บริษัท เอ็มเอ็นกรุป จำกัด ‘กนกพิชญ์ เรืองระวี’ หรือ กิ๊ฟ สตรีในชุดทำงานสีเรียบ ผมรวบตึง สวมแว่นสายตากรอบสีดำหนาเตอะ เดินฉับ ๆ มุ่งหน้ามายังโต๊ะหน้าห้องประธานบริษัท ซึ่งมีป้ายบอกตำแหน่ง เลขานุการเธอหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะแล้วกวาดสายตามองผ่านแว่นสายตาคล้ายกับกำลังหาอะไรบางอย่าง เมื่อไม่เห็นสิ่งที่ต้องการ เธอจึงก้าวเข้าไปรื้อค้นเอกสารในชั้นใต้โต๊ะทำงานอย่างถือวิสาสะ“คุณเลขาครับ รบกวนขอกาแฟดำร้อนสักแก้ว”เสียงทุ้มนั้นทำให้หญิงสาวที่กำลังค้นหาเอกสารหยุดชะงัก แล้วตวัดสายตาดุ ๆ มองไปยังต้นเสียง“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ใช่เลขา และคนอย่างฉันไม่มีทางที่จะเป็นเลขารับใช้ใคร”กิ๊ฟตอบกลับอย่างไม่เป็นมิตรพอ ๆ กับใบหน้าที่กำลังอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมื่อเช้าเธอเพิ่งจะได้ยินพนักงานฝ่ายบัญชีกำลังซุบซิบนินทาว่า คนที่ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าแผนกบัญชี คือ เทมมี่ เลขาสาวสวยหน้าห้องท่านประธานบริษัท แทนที่จะเป็นเธอ !เธอไม่เชื่อว่า ประธานบริษัทจะทำแบบนี้ ดังนั้น เธอจึงมาค้นหาเอกสารหลักฐานการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการที่โต๊ะของเทมมี่ชายหนุ่มเมื่อได้ยินพนักงานบริษัทที่เขามาเจรจาธุรกิจด้วยตอบกลับมาดังนั้น ก็หน้าตึ