หน้าหลัก / โรแมนติก / BadBoss บอสร้ายพ่ายรัก / ตอนที่2. ไม่ต้องมาแสดงละคร

แชร์

ตอนที่2. ไม่ต้องมาแสดงละคร

“ไม่ต้องมาแสดงละคร เธอใช้เต้าไต่จนสมใจเธอแล้วนี่”

กิ๊ฟสะบัดแขนออกจากเทมมี่ พร้อมกับตะคอกใส่อีกฝ่าย

คำพูดของเธอนั้น ดังพอที่จะทำให้พนักงานทุกคนในห้องได้ยินทั่วถึงกัน แล้วต่างสบตากันเลิ่กลั่ก ทุกคนต่างก็รู้กันทั้งนั้น ว่าประธานบริษัทในวัยห้าสิบห้าปีกับเลขาสาวสวยแอบกินกันลับ ๆ แต่ไม่มีใครกล้าประจานเจ้านายซึ่ง ๆ หน้าเช่นนี้

“พี่กิ๊ฟ ! พี่กิ๊ฟพูดอะไรออกมาคะ”

เทมมี่บีบน้ำตา น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกับว่าถูกปรักปรำอย่างเหลือร้าย

“ผมไล่คุณออกตั้งแต่วันนี้ !”

มาโนชย์ชี้หน้าลูกน้องหัวแข็งของตนอย่างเดือดดาล

คนถูกไล่ออกเชิดหน้าขึ้น ไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำว่า

“เจ้านายห่วย ๆ ที่เห็นเต้าอวบ ๆ ดีกว่าผลงานแบบนี้ ถึงไม่ไล่ออก ฉันก็จะออก !”

สิ้นคำ เธอก็ขยำหนังสือแต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายบัญชีคนใหม่เป็นก้อนกลม ๆ แล้วปาใส่หน้าเทมมี่

“ว้าย !”

เทมมี่ร้องเสียงหลง ด้วยความตกใจ

“ไปเลย ! อยากอวดดีนักก็เชิญออกไปเลย อายุเธอก็ไม่น้อยแล้ว ฉันอยากจะรู้นักว่าจะมีบริษัทไหนรับเธอเข้าทำงาน !”

ประธานบริษัทตะโกนไล่หลังกิ๊ฟอย่างหัวเสีย

กิ๊ฟสาวเท้ารีบเดินออกไปจากที่นั่น เธอไม่อยากให้พวกเขาเห็นว่าเธอร้องไห้

ตุบ !

“โอ๊ย”

คิงร้องขึ้น เมื่อถูกกาแฟร้อน ๆ หกรดเต็มตัว เพราะผู้หญิงคนหนึ่งชนเขาเข้าเต็มแรง – นี่มันวันซวยแห่งชาติรึไง – เขาสบถในใจ

“ขอโทษ”

กิ๊ฟมองเขาแค่แวบเดียว แล้วรีบเดินจากไป

“คุณภูวเดช !”

มาโนชย์มองเห็นผู้ชายโชคร้ายคนนั้นแล้วก็ต้องตกตะลึง เพราะเขาคือ ประธานบริษัทเดอะคิง ลูกค้าสำคัญที่นัดคุยงานกันวันนี้

“ท่านประธานครับ !”

วศินที่เพิ่งขึ้นมาเห็นฉากนั้นเข้าพอดี ถึงกับตาถลน รีบวิ่งเข้ามาหานายตน

ณ ร้านเดอะบัตเตอร์ฟลาย

ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งพับแบบโอเพ่นแอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงอันศิวิไลซ์ หลังจากผ่านพ้นการระบาดของโรคโควิด 19 ไปแล้ว ร้านก็กลับมาเปิดอีกครั้ง

ภายในร้านมีวงดนตรีสดเล่นเพลงขับกล่อมบรรดานักดื่มทั้งหลาย ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านจะเป็นวัยทำงานที่ต้องการผ่อนคลายความเครียด ฟังเพลงไปด้วย โยกไปด้วยเบา ๆ แต่ไม่ได้จัดหนักแดนซ์กันกระจายแบบวัยรุ่นในผับ

“อ่าว.... มึง ไหงเจ้าของงานวันเกิดเมาแอ๋ ขนาดนี้ว่ะ”

บีที่มาถึงที่ร้านเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มเพื่อน ๆ ถามขึ้น เมื่อเห็นกิ๊ฟคอพับคออ่อนเมาจนแทบฟุบลงไปกับโต๊ะอยู่แล้ว

“จะไม่ให้เมาได้ไงว่ะ อีนี่มันช่วยเขาเปิดร้านตั้งแต่หกโมงเย็น”

นิว เพื่อนชายหัวใจหญิงจีบปากจีบคอตอบแทนคนเมา เขาเป็นคนแรกที่มาหากิ๊ฟที่ร้านเดอะบัตเตอร์ฟลาย เพราะนางโทรจิกเขาตั้งแต่งานยังไม่ได้เลิก

“มันนี่นะมาที่ร้านก่อนเพื่อน ปกติมันบ้างานจะตาย ถ้าไม่สองทุ่มมันเหรอจะลงจากออฟฟิศ”

บีเอ่ยขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวสุดท้ายที่ยังว่างอยู่ เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างรู้จักนิสัยกันและกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม

เมื่อกิ๊ฟได้ยินคำว่า ‘งาน’ ก็คล้ายกับว่ามีใครเอาน้ำร้อนมาราดรดหัวใจของคนที่เพิ่งตกงานหมาด ๆ ให้รู้สึกร้อนทุรนทุรายขึ้นมาอีกครั้ง

“ใช่ ! กูทำงานทุ่มเทขนาดนั้น พัฒนางานให้กับบริษัทมากมายขนาดนั้น แมร่งเอ๊ย ! เขาเสือกไล่กูออก”

เมื่อแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดสะสมได้ที่ เธอจึงขึ้นมึงขึ้นกูกับเพื่อนตามแรงอารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งขึ้นมา

“ฮะ ! อีกแล้วหรือมึง”

บีอุทานออกมาอย่างตกใจจริง ๆ คืนนี้เพื่อน ๆ ในกลุ่มนัดฉลองวันเกิดให้กับกิ๊ฟ แต่กลับกลายเป็นว่า ต้องมาเลี้ยงย้อมใจคนตกงานหรือเนี่ย

“เอ่อ... อีกแล้ว ครั้งที่ 5 ในรอบ 9 ปีที่มันเรียนจบปริญญาแล้วออกมาทำงาน”

นุ้ย เพื่อนสาวอีกคนที่มาถึงไล่เลี่ยกับนิวเอ่ยออกมาอย่างเซ็ง ๆ เพราะเธอกับนิวนั่งฟังกิ๊ฟคร่ำครวญเรื่องถูกไล่ออกจากงานยืดยาวเป็นรอบที่สิบแล้ว

“ไหนมึงเล่ามาสิ มันเกิดอะไรขึ้น”

บีรีบยื่นมือไปคว้าเอาแก้วเหล้าจากมือกิ๊ฟให้วางลง

“มึงฟังมันพูดนะ กูฟังจนหูแฉะแล้ว กูจะกินข้าวเพราะต้องรีบกลับไปหาลูกหาผัว”

นุ้ยบอก

“พัฒนาระบบบัญชีของบริษัท กูก็เป็นคนทำ.....”

คนเมาเริ่มร่ายออกมาเสียงอ้อแอ้ ส่วนคนฟังก็กินไปด้วย พยักหน้ารับฟังไปด้วย

“เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดทุนของบริษัทก็กู แต่พอเลื่อนตำแหน่งขึ้นเงินเดือนกูกลับไม่ได้ คนที่ได้กลับเป็นอีเด็กเลขาฯ หน้าห้องท่านประธาน.... เหี้ยเอ๊ย !”

คำสุดท้ายกิ๊ฟสบถออกมาดังขึ้น จนโต๊ะอื่น ๆ เริ่มหันมามอง

“เบาเพื่อน.... เบา...”

บีหันซ้าย หันขวา พลางตบหลังมือเพื่อนเบา ๆ ให้ใจเย็นลง  “แกก็เลยไปอาละวาด จนเขาไล่แกออกใช่ไหม”

เพื่อนสาวเอ่ยดักคอราวกับตาเห็น การลาออกห้าครั้งที่ผ่านมาของกิ๊ฟ ทำให้บีเดาสถานการณ์ได้ไม่อยาก

การลาออกแต่ละครั้งของเพื่อนสาว ล้วนมีเหตุผลมาจากการทะเลาะกับหัวหน้า ถูกเพื่อนร่วมงานแย่งผลงานไปซึ่ง ๆ หน้า หรือแม้กระทั่งการถูกประเมินเลื่อนขั้นเงินเดือนอย่างไม่เป็นธรรม

“เอ่อ.... กูจะโง่อยู่เป็นควายไถงานให้เขานั่งบนหลังกูทำไงวะ แมร่ง... คนทำงานคือกู แต่คนได้รับเงินได้รับตำแหน่งกลับเป็นอีคนที่มันนั่งสวย ๆ แล้วไม่ทำห่าอะไรเลย อีไม้ประดับเอ๊ย !”

พนักงานที่เอาแต่ประจบประแจงเจ้านาย ทำงานนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ได้เลื่อนขั้น ได้เงินเดือนเท่ากับคนอื่น ๆ กิ๊ฟเรียกพนักงานประเภทนั้นว่า พวกไม่ประดับประจำสำนักงาน

เธอขยันตั้งใจทำงานให้บริษัทมากมายขนาดนั้น แต่เจ้านายกลับไม่เห็นค่า ขืนทำงานต่อไปก็รังแต่จะท้อแท้ใจเปล่า ๆ

“มึงยิ้มหวาน ๆ พูดจาเพราะ ๆ กับหัวหน้า หรือเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟกาแฟให้ประธานแบบอีน้องเทมมี่เป็นไหมล่ะ”

นุ้ยโพล่งขึ้น ปัจจุบันเธอกับสามีมีธุรกิจเป็นของตนเอง จึงรู้ว่าส่วนใหญ่คนที่เป็นหัวหน้ามักจะชอบลูกน้องที่มีความอ่อนน้อม มากกว่าลูกน้องที่กระด้างกระเดื่องหัวแข็ง

“ทำไมวะ ทำไมไม่วัดกันที่ตัวผลงานจริง ๆ ในเกณฑ์ประเมินเลื่อนขั้นเงินเดือนมีข้อไหนที่ระบุว่า มึงต้องยิ้มให้เจ้านายนะ มึงต้องคอยเลียแข้งเลียขาท่านประธานนะ มีไหม !  ไม่มี แต่พอเข้าห้องประเมินจริง ๆ แมร่งเอ๊ย..... หาว่ากูพูดจาแข็งบ้าง ไม่มีมนุษยสัมพันธ์บ้าง แล้วก็หักคะแนนกู เงินเดือนกูไม่ขึ้นมากี่ปีแล้ว เชี่ยเอ๊ย....”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status