“ถอดมือเดียวได้ที่ไหนล่ะ มือพี่ไม่ว่าง” ผมส่งยิ้มกวนๆไปให้พร้อมกับยกมือข้างที่กำบราสีหวานไว้อยู่ ให้ต้าหนิตะลึงงันดูว่ามือผมไม่ว่างจริงๆ แล้วต้าหนิงก็ทำหน้าง้อบูดบึ้งกลับมา
ต้าหนิงขยับตัวเข้ามาใกล้ เธอยื่นมือข้างหนึ่งมาเพื่อแกะกระดุมเสื้อให้ผม แต่มันก็ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะใช้แค่มือเดียว “แกะมือเดียวมันก็แกะไม่ได้นะสิ” ผมแกล้งพูดท้วงไป ทำให้ใบหน้างามชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิด “หลับตาก่อนสิ” ต้าหนิงต่อรอง “ทำไมต้องหลับตา” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจนจมูกโด่งชิดกับจมูกเชิดงอนของต้าหนิง “ต้าไม่ใช่พี่เรซนิ จะได้เปลือยร่างกายต่อหน้าคนอื่นโดยที่ไม่รู้สึกอะไร” นี่แอบด่าว่าผมหน้าด้านอยู่ใช่ไหมเนี้ย ร้ายจริงๆ “คนอื่นที่ไหน นี่ก็ผะ...” “พี่เรซ..” “ครับ” ผมยิ้มหน้าระรื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสีหน้าดุของต้าหนิง “หลับตาสิคะ” ต้าหนิงสั่งอีกครั้ง ผมค่อยๆหลับตาลงตามที่ต้าหนิงบอก เดี๋ยวจะนอยไปมากกว่านี้ ยอมๆให้หน่อยก็แล้วกัน มือบางที่แกะกระดุมเสื้ออยู่มีอาการสั่นหน่อยๆ ตื่นเต้นล่ะสิ เห็นบ่อยแล้วนะยังไม่ชินอีกเหรอ แต่จะว่าไป.. อย่างว่าแต่ต้าหนิงเลย ผมเองก็ยังไม่ชินเหมือนกันแหละ เวลาเห็นร่างบางทีไร ร่างกายช่วงล่างก็ตื่นตัวทุกทีโดยที่ต้าหนิงไม่ต้องเล้าโลมอะไรทั้งสิ้น ผมหลี่ตาแอบมองต้าหนิงเล็กน้อย เธอกำลังจะแกะกระดุมเม็ดสุดท้ายออก ผมรีบคว้ามือบางไว้ทันที “อะไรอีกล่ะ” ต้าหนิงมองหน้าผมอย่างตื่นๆ “ทำมันตื่นแล้วรับผิดชอบด้วย” ผมหลุบตาลงไปที่ช่วงล่างของตัวเองแล้วต้าหนิงก็บ้าจี้มองตามผม เธอเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างตะลึงงัน “ไม่เอา พอแล้ว” ต้าหนิงรีบปฏิเสธทันที “ไม่ได้หรอก มันสงบเองไม่ได้ ต้องใช้มือนุ่มนิ่มกับลิ้นอ่อนๆ มันถึงจะสงบ” ผมฉีกยิ้มหวานส่งไปให้ทันที “ของตัวเอง ก็จัดการเองสิ” “พี่ทำโทษต้าอยู่นะ นี่ยังไม่ได้เริ่มทำตามจำนวนก้าวที่นับได้เลยนะเนี้ย” “พี่เรซ...” ต้าหนิงเอ่ยชื่อผมแผ่วเบาอย่างอึ้งๆ “ลงลิ้นกับมันซะต้า มันงั้นพี่จะลงลิ้นกับต้าเอง” ผมจ้องใบหน้าหวานพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ แก้มแดงๆ เริ่มเปล่งอีกครั้งด้วยความเขินอาย ต้าหนิงขยับไปนั่งลงกับพื้นพรมตรงหน้าผม เธอเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาอ้อนวอนให้ผมเห็นใจ ผมเลื่อนมือไปสานเข้ากับเส้นผมของต้าหนิง มืออีกข้างก็จับมือบางให้เลื่อนขึ้นมาสัมผัสกับแก่นกายของตัวเองพร้อมกับชักนำมือบางให้ทำตาม เมื่อเธอเริ่มเข้าใจผมก็ปล่อยมือออกให้ต้าหนิงคุมเกมเอง มือบางเลื่อนขึ้นลงตามที่ผมสอนไปเมื่อสักครู่ ริมฝีปากบางค่อยๆ แลบลิ้นออกมาปัดปายส่วนปลายเล่นอย่างเอาใจ ร่างผมถึงกับกระตุกเล็กน้อยอย่างตื่นตัว เธอค่อยๆ อ้าปากแล้วกลืนตัวตนของผมเข้าไปทีล่ะนิดจนเกือบสุด ผมเลื่อนมือหนาอีกข้างไปลูบไล้แผ่นหลังเล็กอย่างชื่นชม “อ่า...แบบนั้น เด็กดี” ผมควบคุมจังหวะด้วยมือทึ่งเรือนผมของต้าหนิงให้ขยับขึ้นลงอย่างรัวเร็ว พร้อมกับกระแทกตัวตนของตัวเองเข้าไปในโพรงปากเล็กอย่างซ่าบซ่าน “อ่า.. ไม่ไหวแล้วต้า อ่า เก่งจัง” แล้วร่างกายของผมก็กระตุกเกร็งปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มโพรงปากเล็ก “อะ แอ๊กๆ ๆ ” ต้าหนิงถึงกับไอสำลักออกมา ผมจับไหล่มนให้ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา แล้วผมก็ลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าแทน “อร่อยไหมคะ” ผมยิ้มหวานส่งไปให้ ต้าหนิงทำตาเขียวส่งมาให้แทน ดุนักนะ... “ว๊าย.. พี่เรซ” ผมจับเรียวขางามขึ้นมาพาดบ่า แล้วก็ซุกหน้าลงไปที่ดอกไม้งามทันที ผมเขี่ยลิ้นเล่นกับจุดเสียวกลางกายพร้อมกับดูดเม้มหนักเบาสลับกันไป แล้วก็ส่งนิ้วเรียวสองนิ้วเข้าไปทักทายที่โพรงสวรรค์ อ๊ะ..อืออออ” ร่างบางควนครางออกมาเสียงแผ่วเบา ซึ่งมันฟังดูแล้วขัดหูชะมัด “อือออ พี่เรซขา..แรงไป” ผมดูดเม้มแรงกับจุดเสียว ละเลงลิ้นปาดปายไปทั่วเพื่อดูดซับน้ำหวานจากโถงถ้ำนี้อย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับเร่งจังหวะนิ้วเร็วและถี่ขึ้น ภายในบีบรัดเรียวนิ้วแน่น ร่างบางถึงกับกระตุกเกร็งถี่ก่อนจะปล่อยสายธารน้ำใสออกมา ผมหยิบเครื่องป้องกันออกมาจากกางเกงยีนอีกชิ้นแล้วนำมาจัดการใส่ให้ตัวเองทันที ผมลุกขึ้นไปนั่งข้างร่างบางแล้วก็อุ้มต้าหนิงขึ้นมานั่งคร่อมตัวเองพร้อมกับดันแก่นกายเข้าไปในกรีบดอกไม้งามที่ฉ่ำแฉะอยู่ในตอนนี้ “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” ผมกระซิบถามพลางลูบไล้แผ่นหลังบางอย่างปลอบโยน ต้าหนิงส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ แสดงว่าไม่เจ็บแล้วซินะ “ขยับสิ” ผมกระซิบบอกอีกครั้ง “ไม่เอา..” เสียงเธอกระซิบกลับมาที่ข้างหู เพราะต้าหนิงเอาหน้าซุกอยู่ที่ต้นคอผมอยู่ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าการที่ทำแบบนี้มันยิ่งปลุกอารมณ์ผมเร็วขึ้นไปอีก “ทำแบบนี้ พี่ยิ่งมีอารมณ์นะครับ” ต้าหนิงรีบเด้งตัวออกอย่างรวดเร็วจนเกือบจะหงายหลัง ดีนะ ที่ผมรั้งไว้ได้ก่อน “จะทำเองหรือให้พี่ทำ ถ้าให้พี่ทำ ไม่หยุดง่ายๆ นะ” ต้าหนิงมองค้อนให้ทันที “ได้ค่ะ เตรียมครางชื่อต้าไว้ได้เลย” ต้าหนิงกระซิบบอกพร้อมกับงับที่ติ่งหูอย่างยั่วยวน “จะคอยดู..” ผมกระซิบตอบกลับพร้อมกับจูบเบาๆ ที่ต้นคออย่างเอาใจ แล้วร่างบางก็เริ่มขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ อยู่สักพัก ริมฝีปากพรมจูบที่ต้นคอของผมพร้อมกับดูดเม้มแรงๆ ผมถึงกับผวาอย่างตื่นๆ เหมือนต้าหนิงต้องการจะเอาคืนที่ผมเผลอทำรุนแรงกับเธอไปก่อนหน้านี้ ต้าหนิงลากไล้ลิ้นเล็กลงมายังตุ่มไตที่อกแกร่งของผม ริมฝีปากบางดูดเม้มเบาๆ อย่างหยอกล้อ ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนมาดูดเม้มแรงๆ จนผมรู้สึกแสบคันนิดๆ แต่มันก็ชั่งเป็นความรู้สึกที่ซูซ่าไปอีกแบบ “อ่า... จะเก่งเกินไปแล้วนะ ต้าหนิง” ผมเลื่อนมือลูบไล้ไปทั่วร่างบางอย่างต้องการระบาย ปลุกอารมณ์เก่งจังนะยัยเด็กดื้อ ผมเลื่อนมือลงมาจับยึดสะโพกบางไว้แน่น จากนั้นก็เด้งเอวสอบสวนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเพราะทนต่อสิ่งเร้าไม่ไหว “อ๊ะ..อ๊ะ...” ต้าหนิงถึงกับครางลั่น มือบางยึดเกาะรอบคอผมแน่น “อ่า.. พร้อมกันนะคะ เด็กดี” ผมกระซิบบอกชิดแก้มเนียน แล้วก็เร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเข้าไปไม่มียั้ง “อ่า/อ๊า”“พี่ราเรซค่ะ หน้าตาพี่ก็ดีแถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก แต่ทำไมเรื่องผู้หญิงพี่ถึงได้โง่จัง”เสียงเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งพูดขึ้น“พี่โง่ยังไง” ผมยกคิ้วขมวดเป็นปมอย่างสงสัย“แฟนพี่เขานอกใจ แต่พี่ก็ยังคบกับเขาอยู่อีก ไม่ให้เรียกว่าโง่แล้วจะให้เรียกว่าอะไรคะ”สิ่งที่เด็กนี้พูดมา ไม่ได้ทำให้ผมโกรธเธอเลยสักนิดแล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย เพราะผมรู้อยู่แล้ว“แล้วจะให้พี่ทำยังไง” ผมยื่นหน้าเข้าไปถามเธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวและก็ถอยได้แค่นั้นแหละ เพราะด้านหลังมันคือกำแพง“ก็...ไม่รู้สิ คิดเอาเอง” พูดจบ เธอก็ตั้งท่าจะวิ่งหนีผมรีบยกแขนยาวสองข้างกักตัวเธอไว้ที่กำแพง“ถ้าต้าหนิงบอก พี่จะทำตามทุกอย่างเลย” ตากลมโตจ้องมองหน้าผมอย่าง งงๆผมยกยิ้มแสนกระชากใจส่งไปให้เธอ แล้วก็ได้เห็นแก้มเนียนๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ“คือ...ต้า...” เธอยืนพูดอ้ำอึ้งผมจึงขยับตัวเข้าไปใกล้อีก มือเล็กรีบยกขึ้นมาดันอกแกร่งของผมไว้“พี่ฟังอยู่” ผมก้มหน้าลงสบตากับดวงตากลมโตของเธอที่ห่างกันไม่ถึงเซนต์“ราเรซ!” เสียงเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมากดังขัดขึ้นซะก่อน“ทำอะไรกัน” เธอเดินเข้ามาควงแขนผมอย่างแสดงความเป็นเ
จากนั้นผมก็คบกับฝ้ายมาเรื่อยๆ จนถึง ม.5 เธอก็เริ่มเบื่อผม เพราะผมไม่ค่อยสนใจเธอ เรียนเสร็จผมก็ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนซะส่วนใหญ่ หลังๆ ก็เริ่มมีข่าวมาเข้าหูผมว่าฝ้ายไปกับผู้ชายคนนั้นคนนี้อยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือหวงเธอเลยสักนิด“ถ้าเธออยากเลิก ก็ได้นะ”ผมพูดกับฝ้าย เมื่อเห็นเธอไปกินข้าวกับรุ่นพี่คนหนึ่ง“ก็ราเรซไม่ยอมไปไหนกับฝ้ายเลยอ่ะ ฝ้ายก็แค่เหงา คุยเล่นๆไปงั้นเอง ไม่ได้ชอบสักนิด” ฝ้ายตอบ“งั้นก็แล้วแต่เธอแล้วกัน”ผมก็รู้สึกเฉยๆนะ การที่คบกับเธอมันทำให้ไม่มีผู้หญิงมาวุ่นวายกับผมดีผมรู้ตัวเองดีว่าผมทำให้เธอมีความสุขไม่ได้หรอก เธออยากจะไปไหนกับใครมันก็เรื่องของเธอ“ไปเตะบอลบ้านไอ้โต้งกัน” ธามพูดขึ้น เมื่อได้เวลาเลิกเรียนที่บ้านของโต้งมีสนามหญ้าเทียมให้เช่าเล่นฟุตบอลครบวงจร ซึ่งก็ใหญ่โตพอสมควร เพราะมันมีตั้งห้าสนาม แล้วที่บ้านมันยังทำธรุกิจขายส่งอุปกรณ์กีฬาอีกด้วย“ฟรีไหมว่ะ” เลโอถามขึ้น“มึงไปคุยกับป๊ากูเองก็แล้วกัน” โต้งตอบทีทีคลับบ้านของโต้งเป็นตึกคูหาสามชั้น ซึ่งก็ตั้งติดกับสนามฟุตบอล ด้านหน้าตึกเป็นร้านกาแฟและอาหาร ห้องอาบน้ำก็ทำซะหรูหราแทบไม่กล้าอาบกันเลยทีเดียวเมื่
กลับมาปัจจุบัน....ต้าหนิงมาเรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนเดียวกันกับพวกผม เพราะม๊าของโต้งแกคิดถึงลูกสาวอยากเห็นหน้าทุกวัน“ไอ้พวกเหี้ย อยากตายรึไงว่ะ” นั้นคือสิ่งที่พวกผมได้ยินทุกวันจากปากไอ้โต้งก็น้องสาวคนสวยของมันนะสิ ฮอตไปทั่วโรงเรียนแล้ว ทำให้ไอ้โต้งคันตีนเป็นระยะๆ“เป็นไรว่ะ” เลโอถาม ทั้งที่มันก็รู้สาเหตุอยู่แล้ว“รู้งี้ กูให้เรียนที่โรงเรียนหญิงล้วนต่อดีกว่า” โต้งบ่น“ก็น้องมึงน่ารักขนาดนั้นใครจะไปอดใจไหวว่ะ ใช่ไหมไอ้เรซ”ผมสะดุ้งตัวนิดหน่อยที่ไอ้บิ๊กไบค์มันพูดเหมือนพลาดพิงผม“ก็น่ารักจริงแหละ” ผมตอบไอ้บิ๊กไบค์ไป แบบยิ้มๆ“เป็นเพื่อน กูก็ไม่เว้นโว๊ย เตรียมแดกตีนกูได้เลย”“กลัวแล้วคร๊าบ... อย่าดุนักเลยพี่โต้ง” เลโอพูดอย่างล้อเลียนบิ๊กไบค์กับเลโอพวกมันสองคนนั่งทะเลาะกับไอ้โต้งอย่างเมามัน แต่ว่า..เสียงของพวกมันไม่ได้เข้าหูผมแล้วในตอนนี้ เพราะผมกำลังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามสิบนาทีที่ผ่านมา นึกถึงแก้มเนียนๆ ที่เปล่งเป็นสีแดงอมชมพูของน้องต้าหนิง“มึงยิ้มเชี้ยไร ไอ้เรซ” เสียงไอ้โต้งตะโกนใส่หูผม“กูนั่งยิ้มเฉยๆ ก็ผิดเหรอวะ” ผมหันไปมองหน้าเพื่อน อยากจะขำให้ฟันร่วงกับความพาลไปทั่วของมัน“สงสั
“เป็นไงบ้านแก” แก้มใสถามขึ้น เมื่อฉันเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ“ขอน้ำหน่อย” ฉันยื่นมือไปขอน้ำหวานจากแก้วของเพื่อนพอได้ดื่มน้ำแล้วค่อยยังชั่วหน่อย“ได้คุยกับพี่เขารึเปล่า” แก้มใสถามต่อ“อื้ม..ได้คุย แต่พี่ฝ้ายดันมาเห็นพอดี ก็เลยรีบชิ่งมาก่อน”“เหรอ แกจะโดนพี่ฝ้ายเล่นงานไหม” แก้มใสถามอย่างป็นห่วง“ไม่รู้ดิ”ที่แก้มใสถามอย่างนั้นก็เพราะเวลามีผู้หญิงคนไหนไปยุ่งกับพี่ราเรซก็จะโดนพี่ฝ้ายกลั่นแกล้ง จนไม่กล้าไปยุ่งกับพี่ราเรซอีกเลย ล่าสุดก็เพื่อนร่วมห้องของฉันเอง นางก็แค่ทำขนมไปให้พี่ราเรซเฉยๆ พอพี่ฝ้ายรู้ก็ตามมาด่านางถึงในห้องเรียน พร้อมกับถุงขนมที่ทำไปให้พี่ราเรซ พี่ฝ้ายเอามาระเรงเต็มหน้าเต็มผมเพื่อนร่วมห้องคนนั้นอย่างซะใจ ทำให้เพื่อนร่วมห้องของฉันอับอายจนไม่กล้ามาโรงเรียนหลายวัน“แต่แกมีเฮียโต้งอยู่ ไม่ต้องกลัวไปหรอก” แก้มใสบอก“ต้าไม่ได้กลัวหรอกนะ ต้ากำลังสงสัยพี่ราเรซอยู่”เรื่องพี่ฝ้ายจะมาหาเรื่องฉันหรือเปล่านั้น ไม่ได้คิดมากเลย“สงสัยอะไร” แก้มใสถามอย่างใคร่รู้“ก็ตอนที่บอกเรื่องแฟนของพี่เขาไป พี่ราเรซกลับทำเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ไม่โกรธ ไม่หึง แถมยังยิ้มหน้าระรื่นอีก” นั่นแฟนเขานะ
ฉันกำลังจะยื่นมือไปรับโทรศัพท์พี่ไผ่เพื่อกดเบอร์โทรของตัวเองให้ ก็มีมือปริศนามาแย่งโทรศัพท์ไปซะก่อน“45”ฉันหันไปมองคนที่แย่งโทรศัพท์ตัดหน้าฉันไป พี่ราเรซ.. เขามาตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย แล้วอะไรคือ 45 พี่ราเรซยืนจ้องหน้าพี่ไผ่นิ่ง พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้พี่ไผ่คืน“อะไรของมึงวะ!” พี่ไผ่ถามอย่างหงุดหงิด พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของตัวเองคืน“ก็เบอร์ไง” พี่ราเรซยืนล้วงกระเป๋ากางเกงตอบอย่างกวนๆ“เบอร์ไรของมึง” พี่ไผ่ถามอย่าง งงๆ“เบอร์รองเท้ากูเนี้ย”“ไอ้สัสนี่ กวนเหรอ!” พี่ไผ่ผลักอกพี่ราเรซอย่างแรง แต่พี่ราเรซก็แค่เซเอง เขาแข็งแรงจะตาย“อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ” ฉันรีบห้ามก่อนที่จะวุ่นวายไปกว่านี้“นี่แฟนน้องต้าหนิงเหรอ” พี่ไผ่หันมาถามฉันฉันมองหน้าพี่ราเรซ แล้วก็ได้รับสายตาดุๆ จากพี่เขากลับมา ทำไมต้องดุกันด้วย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย“เปล่าค่ะ” ฉันตอบตามความจริง“แล้วมึงหวง ทำไมว่ะ” พี่ไผ่หันไปจ้องหน้าพี่ราเรซอย่างเอาเรื่อง“เรื่องของกู” พี่ราเรซตอบอะไรของเขานะ ฉันไม่เข้าใจพี่ราเรซเลยจริงๆ เขาทำตัวไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ทำอย่างกับว่า หึง งั้นแหละ หรือว่าพี่ราเรซหึงฉันงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว...“ไอ้เร
ห้องอาบน้ำของสนามสาม....“เฮีย ทำไมไปรับคำท้าเขาแบบนั้น” ฉันเดินตามเฮียโต้งมายังห้องน้ำที่พวกพี่ๆเข้ามาเปลี่ยนชุดกัน“แกไม่ต้องกลัวหรอกต้า เฮียจะไม่รุนแรงกับมัน โอเคร..”“เครบ้าไรล่ะเฮีย ถ้าเฮียแพ้ล่ะ” นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันกังวล“เชื่อมือพวกพี่เถอะ ต้าหนิง” พี่บิ๊กไบค์พูดขึ้น แล้วก็เดินมานั่งข้างเฮียโต้งเพื่อใส่รองเท้าสตั๊ดยี่ห้อดัง“พวกพี่ไม่ใช่ไก่อ่อนให้พวกมันเชือดเล่นนะครับ” พี่เลโอพูดก่อนที่ฉันจะมาหาพวกพี่ๆ ฉันเดินไปหาป๊ามาก่อน ป๊าบอกว่าสามคนนั้นเขามาเช่ารายเดือน เพราะต้องการฝึกทักษะของตัวเอง แล้วพวกเขาก็เป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย“ค่ะ ต้ารู้ว่าพวกพี่นะเก่ง แต่เฮียรู้อะไรไหม เพื่อนพี่ไผ่สามคนนั้นนะ เขาเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติรุ่นเยาวชนเลยนะ”“ห๊ะ! ห๊ะ! ห๊ะ!” ทั้งสามคนประสานเสียงกัน“แล้วไง พวกพี่ต้องกลัวเหรอ” พี่ราเรซพูดขึ้นเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ใส่เสื้อ ไม่รู้จะโชว์อะไรนักหนา“ก็แค่บอกไว้ค่ะ จะกลัวหรือไม่..ก็เรื่องของพวกพี่”“เอาน่า มันจะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว” พี่บิ๊กไบค์พูดแล้วพี่เลโอ พี่บิ๊กไบค์กับเฮียโต้งก็เดินออกไปยังสนามเพื่อวอมร่างกายฉันกำลังจะเดินตามออกไปก็ถูกมือ
ฉันเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องอาบน้ำ สักพักเฮียโต้งกับพี่บิ๊กไบค์ พี่เลโอก็เดินออกมา พวกเขาอยู่ในชุดนักเรียนกันเรียบร้อยแล้ว“อ้าว น้องต้าหนิงมาทำอะไรหน้าห้องอาบน้ำครับ” พี่เลโอถาม“พวกพี่โอเครใช่ไหม” ฉันกลัวว่าพวกพี่ๆ เขาจะคิดมากที่ทีมแพ้ และอาจจะพากันไปด่าคนที่อยู่ในห้องอาบน้ำที่ตอนนี้ยังไม่ยอมออกมา“พวกพี่ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ไอ้เรซนี่ดิ..”ฉันเงยหน้าขึ้นมองพี่บิ๊กไบค์อย่างตกใจ พูดแบบนี้รู้สึกใจคอไม่ดีเลยเหะ.. เขาคงไม่ได้เสียใจขนาดนั้นหรอกมั้ง“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไอ้เรซมันรับปากว่าจะเลี้ยงเหล้าพวกเฮีย เพื่อเป็นการไถ่โทษ” เฮียโต้งเดินเข้ามายี่ผมฉันเล่นอย่างที่เคยทำเป็นประจำ“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ แล้วเรื่องที่ท้ากันไว้ล่ะ”ฉันจับมือเฮียโต้งออกจากผม แล้วใช้สองมือสางผมให้เข้าทรงเหมือนเดิม“มันก็แค่ขอจีบ ส่วนจะจีบติดไม่ติดมันก็ขึ้นอยู่กับต้า ถ้าไม่อยากให้เฮียของขึ้นก็อย่าให้มันจีบติดล่ะ” นั้นไง พี่ชายของฉัน เจ้าเล่ห์จริงๆฉันพยักหน้าให้เฮียโต้งอย่างเข้าใจ แล้วพวกพี่ๆ ทั้งสามก็เดินไปที่ร้านกาแฟของมาม๊าทำไมยังไม่ออกมาอีกนะ หลับรึเปล่านั่น ฉันหันซ้ายขวามองดูว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว ก็รีบแทรกต
หลังจากที่วัดตัวเป็นแบบเสื้อให้พี่มิรินเรียบร้อยแล้ว พวกผมทั้งสี่คนก็เดินเล่นอยู่ในห้างสักพัก ไอ้โต้งเดินเข้าไปยังร้านรองเท้ากีฬาพวกผมก็เดินตามเข้าไป จังหวะนั้นสายตาของผมก็มองไปเห็นใบหน้าหวานขาวหมวย กำลังยิ้มแย้มหัวเหราะชอบใจอยู่กับเพื่อนของเธอ ผมเผลอยืนมองอย่างลืมตัว แต่สักพักก็มีไอ้หน้าตี๋ที่ไหนไม่รู้มายืนบังต้าหนิงซะมิดเลย ดูจากสถานการณ์แล้ว เซ้นของผมบอกว่า...มันมาจีบต้าหนิง“45”ผมเดินเข้าไปแย่งโทรศัพท์ของไอ้หน้าตี๋จากมือของมันก่อนที่ต้าหนิงจะรับไปต้าหนิงหันมามองหน้าผมอย่าง งงๆ“อะไรของมึงวะ” ไอ้หน้าตี๋หันมาถามผมอย่างหงุดหงิดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของมันคืน“ก็เบอร์ไง” ผมยืนล้วงกระเป๋ากางเกงตอบอย่างกวนๆ“เบอร์ไรของมึง” ไอ้หน้าตี๋ถามผม หน้าของมันตอนนี้ตลกฉิบหายอย่างกับคนโดนเอ๋อแดก“เบอร์รองเท้ากูเนี้ย”“ไอ้สัสนี่ กวนเหรอ!”ทันทีที่ผมตอบก็โดนไอ้หน้าตี๋ผลักอกอย่างแรง แต่ก็แค่เซเท่านั้นแหละ แรงแค่นี้คิดว่าจะทำอะไรผมได้เหรอ“อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ” เสียงต้าหนิงร้องห้าม“นี่แฟนน้องต้าหนิงเหรอ” ไอ้หน้าตี๋หันไปถามต้าหนิงเธอหันมองหน้าผมแวบหนึ่ง ผมส่งสายตาดุไปให้ หวังว่าเธอจะกลัวแล้วตอบว่า ใช
“ถอดมือเดียวได้ที่ไหนล่ะ มือพี่ไม่ว่าง” ผมส่งยิ้มกวนๆไปให้พร้อมกับยกมือข้างที่กำบราสีหวานไว้อยู่ ให้ต้าหนิตะลึงงันดูว่ามือผมไม่ว่างจริงๆ แล้วต้าหนิงก็ทำหน้าง้อบูดบึ้งกลับมาต้าหนิงขยับตัวเข้ามาใกล้ เธอยื่นมือข้างหนึ่งมาเพื่อแกะกระดุมเสื้อให้ผม แต่มันก็ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะใช้แค่มือเดียว“แกะมือเดียวมันก็แกะไม่ได้นะสิ” ผมแกล้งพูดท้วงไป ทำให้ใบหน้างามชักสีหน้าใส่อย่างหงุดหงิด“หลับตาก่อนสิ” ต้าหนิงต่อรอง“ทำไมต้องหลับตา” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจนจมูกโด่งชิดกับจมูกเชิดงอนของต้าหนิง“ต้าไม่ใช่พี่เรซนิ จะได้เปลือยร่างกายต่อหน้าคนอื่นโดยที่ไม่รู้สึกอะไร” นี่แอบด่าว่าผมหน้าด้านอยู่ใช่ไหมเนี้ย ร้ายจริงๆ“คนอื่นที่ไหน นี่ก็ผะ...”“พี่เรซ..”“ครับ” ผมยิ้มหน้าระรื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสีหน้าดุของต้าหนิง“หลับตาสิคะ” ต้าหนิงสั่งอีกครั้ง ผมค่อยๆหลับตาลงตามที่ต้าหนิงบอก เดี๋ยวจะนอยไปมากกว่านี้ ยอมๆให้หน่อยก็แล้วกันมือบางที่แกะกระดุมเสื้ออยู่มีอาการสั่นหน่อยๆ ตื่นเต้นล่ะสิ เห็นบ่อยแล้วนะยังไม่
“ต้าเจ็บ อึก...อือ..” ในที่สุดฉันก็ร้องไห้ออกมาจนได้พี่ราเรซหยุดการกระทำแล้วหันมาจ้องหน้าฉันนิ่ง ฉันใช้หลังมือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ พยายามไม่สนใจหยดน้ำใสที่ไหลออกมาตามหางตาราเรซ“ต้าเจ็บ อึก...อือ..”ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากริมฝีปากหวาน มันก็ทำให้ผมได้สติขึ้นมา ผมเผลอทำรุนแรงกับต้าหนิงเพราะความโมโหที่เห็นต้าหนิงอยู่กับผู้ชายคนอื่น และโมโหที่เธอดื้อกับผม“เจ็บมากไหม...” ผมจ้องมองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา พอได้เห็นน้ำตาของต้าหนิงทีไร มันก็ทำให้ผมปวดหัวใจทุกที“คนใจร้าย”“ก็อยากดื้อกับพี่ทำไมล่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“มายุ่งกับต้าทำไม ทำแบบนี้กับต้าทำไม ผู้หญิงของพี่ก็มีตั้งเยอะ ไปทำกับผู้หญิงของพี่สิ” คำพูดเหมือนน้อยใจเลยแฮะ“พี่อยากทำกับต้านิ” ต้าหนิงมองค้อนให้หนึ่งทีก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น“พี่ขอโทษ ที่รุนแรงกับต้า ก็พี่โมโหอ่ะ” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนสุดๆ“โมโหอะไรคะ ต้าต่างหากที่ต้องโมโห” ต้าหนิงหันกลับมามองหน้าผมอย่างโกรธเคือง“แล้วต
“ต้าหนิง”เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยชื่อฉัน พร้อมกับมองหน้าฉันอย่างตะลึงงัน คงจะตกใจมากล่ะสิที่ได้เห็นหน้าฉัน ไหนบอกฉันว่างานยุ่งไง แต่ที่เห็นในตอนนี้นี่มันคืออะไร... ไอ้ยุ่งๆ ที่ว่าก็คงจะเป็นเรื่องนี้สินะ เขามันไม่เคยพอเลยจริงๆผู้หญิงที่นั่งขนาบข้างพี่ราเรซกับพี่เลโอหันมาหลับตาชังใส่ฉันหนึ่งที แล้วก็หันไปเล้าโลมผู้ชายในมือของหล่อนต่อ พวกนั้นคือพริตตี้ที่ถูกจ้างมาในงานวันนี้เพราะเจอกันในห้องแต่งตัว ฉันจำพวกหล่อนได้“อ้าว พวกเฮียๆ มาทำอะไรกันในห้องนี้ครับ ที่เช่จ้องให้มันอีกห้องหนึ่งนิ ห้องนี้เช่จะไว้ดูการแข่งสองคนกับสาวสวยของเช่นะ” ปอร์เช่เดินเข้ามายืนข้างฉันแล้วพูดขึ้น เด็กนี่ตัวสูงเป็นบ้าเลย“มึงว่าไงนะ ไอ้เช่” พี่ราเรซพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดโมโห“เราจะดูการแข่งรถในห้องนี้สองคนค่ะ”ฉันสอดมือเข้าไปคล้องแขนหนาของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างฉันในตอนนี้ ปอร์เช่เลิกคิ้วขึ้นสูงมองหน้าฉันอย่าง งงๆ แต่ก็แค่แป๊บเดียว หนุ่มน้อยก็ดึงแขนออกจากการเกาะกุมของฉันเปลี่ยนมาโอบรอบเอวฉันแทน เด็กนี่ร้ายชะมัด ฉันทำเป็นยิ้มรับอย่างเต็มใจ ทั้งที่ความจริงไม่ได้รู
“มึงเคลียร์นานไปนะ” พอเดินขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้า เฮียโต้งก็ทักขึ้นทันที“มึงก็เลยส่งไอ้เลโอลงไปตามว่างั้น” พี่ราเรซเอียงคอถามอย่างกวนทีน...“เปล่า กูใช้มันไปเอาน้ำแข็งเฉยๆ” เฮียโต้งตอบพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ เหมือนกัน“ไงมึง ไปเจอช็อตเด็ดมาล่ะสิ” พี่บิ๊กไบค์ถามพี่เลโอ เมื่อพี่เลโอเดินขึ้นมา“สรุปยังไง ไอ้เลโอ” พี่ราเรซหันไปเอาเรื่องพี่เลโอต่อ“ไอ้โต้งมันใช้กูไปขวางมึงนั่นแหละ”“ไอ้เลโอ!!” แล้วพี่เลโอก็โดนเฮียโต้งตะคอก แต่ก็ไม่ได้โมโหจริงจัง เหมือนจะหยอกล้อกันมากกว่า“เฮีย ขอคุยด้วยหน่อย”ฉันเดินเข้าไปหาพี่ชาย ซึ่งเฮียก็เดินเข้ามากอดคอฉันให้เดินไปคุยกับที่ขอบระเบียงดาดฟ้า แล้วพี่ราเรซก็เดินตามมาด้วย แถมยังเอื้อมมือมาโอบเอวฉันอีกต่างหากฟุบ!!! แล้วก็โดนเฮียโต้งเหวี่ยงมือหนาไปใส่หัวหนึ่งที แต่พี่ราเรซกลับหลบได้ซะก่อน“อย่าเยอะไอ้เรซ กูไม่เห็นไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำให้กูเห็น เดี๋ยวมึงได้แดกตีนกูแทนข้าว” เฮียโต้งหันไปขู่พี่ราเรซ ซึ่งรายนั้นก็ยืนยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น“ไงเรา มีอะไรจะ
“พวกเพื่อนพี่ชายของต้ามานอนที่บ้านบ่อยเหรอ” พี่ไผ่ถามขึ้นหลังจากที่พวกเฮียโต้งไปกันหมดแล้ว“เมื่อก่อนก็บ่อยล่ะคะ แต่ช่วงหลังๆ มาก็ไม่ค่อยมาเท่าไร”“แล้วในบรรดาพวกเพื่อนของพี่ชายต้า มีใครทำอะไรไม่ดีกับต้าหรือเปล่า..” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าพี่ไผ่อย่าง งงๆ นี่เขาอยากจะถามอะไรฉัน“พี่หมายถึง แบบว่า มีใครที่นิสัยไม่ดี ชอบมาวุ่นวายกับต้า อะไรประมาณนี้”ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ไม่มีหรอก แต่ตอนนี้.. ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน“ไม่นี่ค่ะ พวกเขาไม่ค่อยมาวุ่นวายกับต้าหรอก” ฉันจำต้องตอบพี่ไผ่ไปแบบนั้น“ถ้ามีอะไร ก็บอกพี่ได้นะ” พี่ไผ่ส่งยิ้มมาให้อย่างใจดี“ค่ะ”“น้องต้าครับ พี่ขอน้ำแข็งสักสองถังหน่อยสิ พวกพี่จะตั้งวงกันบนดานฟ้า” พี่บิ๊กไบค์โผล่หน้าจากทางขึ้นบันไดบ้านมาบอกกับฉัน“จะดื่มกันแต่ตั้งหัววันเลยเหรอคะ” ฉันถามพี่บิ๊กไบค์“ครับ พอดีว่าไอ้เรซมันกำลังเฮิร์ทนะ ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็เป็นหมาหงอยซะงั้น”คำพูดของพี่บิ๊กไบค์ มันทำให้ฉันใจหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้ คงไม่ได้เป็นเพราะฉันหรอกนะ“ป่ะ ไอ้ไบค์ ไ
“ฉันเด็ดกว่าแฟนนายเยอะ นายก็รู้”แล้วฉันก็ได้ยินเสียงที่ไม่คาดคิด ดังขึ้นอยู่ด้านนอกนั้น พี่ไผ่กับพี่ซินดี้“อ๊ะ..ไผ่”“แรงอีก อ๊ะ..” เสียงเก้าอี้นั่งดัง เอี๊ยด อ๊าด ทำให้ฉันแสบแก้วหู“อ่า..ซินดี้..” เสียงพี่ไผ่ครางต่ำฉันถึงหน้าแดงขึ้นมาอย่างกั้นไม่อยู่ พวกเขาทำอะไรกัน แสลงหูที่สุดเลย แต่ที่หนักกว่าด้านนอกก็คงจะเป็นพี่ราเรซในตอนนี้ สีหน้าเริ่มบิดเบี้ยวเหมือนกำลังเก็บกดอะไรสักอย่าง ฉันรับรู้ถึงบางอย่างที่แข็งขึงกำลังจ่ออยู่ที่หน้าท้องของฉัน“พี่ไม่ไหวแล้วต้า..” เสียงพี่ราเรซกระซิบแหบพร่าชิดริมหู เรียกขนในกายให้รุกชันอย่างซาบซ่านพี่ราเรซจับเสื้อยืดฉันถอดขึ้นออกทางศีรษะ มือหนาปลดตะขอบราออกในทันที แขนแกร่งข้างหนึ่งรั้งเอวบางฉันเข้าไปชิดตัว ริมฝีปากหนาก้มลงมาครอบครองยอดอกดูดเม้มอย่างรุนแรง มืออีกข้างก็เลื่อนต่ำลงเข้าไปในกางเกงชั้นใน ส่งนิ้วเรียวเข้าไปสะกิดกับจุดอ่อนไหวกลางกาย พี่ราเรซง้อข้อมือเข้าออกอย่างรัวเร็ว เรียวขางามเริ่มสั่นนิดๆ ทรงตัวไม่อยู่ เพราะโดนพี่ราเรซเล้าโลมทั้งบนและล่างอย่างจาบจ้วง เมื่อพี่ราเรซถอด
“เราเป็น..” พี่ซินดี้กำลังจะตอบ“เพื่อนสมัยมัธยมพี่นะ” แต่พี่ไผ่กลับชิ่งตอบซะก่อน แล้วพี่ซินดี้ก็หันมามองหน้าพี่ไผ่แปลกๆ“แล้วสองคนรู้จักกันได้ไง” พี่ซินดี้หันมาถามฉัน“เราเป็นแฟนกัน” พี่ไผ่ตอบแทน“จริงเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายจะหาแฟนได้น่ารักขนาดนี้” พี่ซินดี้หันไปคุยกับพี่ไผ่“ทำไมล่ะ ฉันจะมีแฟนน่ารักๆ ไม่ได้หรือไง”“งั้นก็ดูแลเขาให้ดีๆล่ะ ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายเอาใจใส่”“ต้าหนิงไม่ใช่คนเรื่องมาก และฉันก็เอาใจใส่แฟนฉันอยู่แล้ว”ทำไมฉันรู้สึกเหมือนสองคนนี้กำลังเถียงกันโดยทางอ้อมนะ ใบหน้าที่กำลังปั้นยิ้มใส่กันนั่นอีก“ต้าอิ่มแล้วค่ะ” ฉันพูดโพล่ขึ้น เมื่อพวกเขาไม่ยอมเลิกจิกกัดกันด้วยสายตาสักที“กลับบ้านกัน เพื่อนพี่น่าจะไปรอที่สนามแล้วล่ะ” พี่ไผ่บอก“จะไปไหนกันต่อเหรอ” พี่ซินดี้ถามขึ้น“ออ ที่บ้านต้ามีสนามหญ้าเทียมให้เช่านะคะ พี่ไผ่นัดกับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะไปเตะฟุตบอลกัน” ฉันพูดกระจายต่อมความอยากรู้ให้พี่ซินดี้ฟัง“ขอไปด้วยสิ คือซินดี้อยากไปเที่ยวบ้านน้องต้าหนิงอ่ะ ไปได้ไ
“พี่ไผ่มารับกลับบ้านไปแล้วค่ะ”ทันทีที่ได้ยินคำตอบ มันก็ทำให้รอยยิ้มบนหน้าผมหายวับไปในพริบตา ทำไมมันต้องมีมารมาขัดขว้างตลอดเลยว่ะ แก้มใสยืนมองหน้าผมอย่างหวาดหวั่น สงสัยกลัวผมจะอารมณ์เสียใส่ล่ะมั้ง“ขอบคุณครับ ที่มาบอกพี่” ผมยิ้มให้แก้มใสอีกครั้ง“ค่ะ พี่ราเรซอย่างโกรธต้าหนิงเลยนะคะ ที่จริงต้ามันก็มานั่งรอตามที่พี่ราเรซบอก แต่ว่า...”“ไม่เป็นไรครับ แล้วเรากลับยังไงล่ะ”“กลับรถเมล์ค่ะ”“เดี๋ยวพี่ไปส่ง ห้ามปฏิเสธ”ผมแค่อยากตอบแทนที่แก้มใสเดินมาบอก ไม่งั้นผมคงจะโกรธคนตัวเล็กไปแล้ว เพราะคิดว่าเธอไม่มารอตามนัด และการที่แก้มใสเดินมาบอกผมแบบนี้แสดงว่าเธอกำลังเชียร์ผมอยู่“แก้มใสกับต้าหนิงสนิทกันมากเลยเหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อขับรถออกมาจากมหาลัยได้สักพัก“ค่ะ ตั้งแต่อนุบาลเลย แก้มไม่ค่อยมีเพื่อนนะคะ ตอนเด็กๆ แก้มมักจะโดนเพื่อนแกล้งและก็โดนล้อว่าไม่มีพ่ออยู่เป็นประจำ ต่างกับต้าหนิงรายนั้นนะเพื่อนเยอะ มีแต่คนรุมรอบ คริๆ เพราะต้าหนิงน่ารักและสดใสอยู่ตลอดเวลา” เธอเล่าไปขำไป“ฮอตตั้งแต่เด็กเลยเหรอ ยัยเด
ราเรซผมลืมตาตื่นขึ้นมาหันไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงนอน เช้าแล้วเหรอ... ผมหันกลับมามองความอบอุ่นที่อยู่ในอ้อมกอดของผมทั้งคืน ยังไม่ตื่นเลย... สงสัยจะเพลียมาก เพราะโดนผมจัดหนักไปหลายรอบ ก็ไม่อยากจะหักโหมมากหรอก ผมแค่กลัวว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เจอต้าหนิงอีก กลัวเธอจะหนีไปเหมือนเมื่อวันก่อน ก็เลยต้องจัดหนักให้หมดแรงกันไปข้าง จะได้ไม่มีแรงลุกหนีผมไปไหนได้อีกผมเลื่อนจมูกโด่งชิดแก้มเนียนถูวนไปมา แล้วมือน้อยๆ ของต้าหนิงก็ยกขึ้นมาผลักหน้าผมออก ทำให้ผ้าห่มที่คลุมช่วงบนอยู่เปิดออก เผยให้เห็นดอกบัวคู่งามที่มีรอยแดงเป็นจ้ำเต็มไปหมด ผมรู้ว่าวันนี้ต้าหนิงมีเรียนก็เลยไม่ทำรอยที่ลำคอ เดี๋ยวผมจะโดนไอ้โต้งลากไปกระทืบอีก ผมก็เลยมาทำใต้ร่มผ้าแทนพอยกมือขึ้นมาปัดหน้าผม ต้าหนิงก็หลับต่อ ยังไม่รู้ตัวอีก... เล่นล่อตากันแต่เช้าแบบนี้ พี่ก็อดไม่ไหวนะผมเลือนริมฝีปากลงไปครอบครองยอดอกของต้าหนิง ซึ่งตอนแรกมันก็สงบนิ่งดีอยู่หรอก แต่พอโดนปลายลิ้นเขี่ยเข้าให้ก็ชูชันขึ้นมาทันที พร้อมกันเจ้าของที่ลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าผมด้วยความตกใจ“พี่เรซ.. เล่นอะไรเนี้ย หยุดนะ”