ก็ปากร้าย ๆ นี่ไม่ใช่เหรอ ที่มันทำให้เธอ...ขึ้นสวรรค์
View Moreภายใต้แสงสลัวและดนตรีเร้าใจ ร่างงามโยกขยับไปตามจังหวะอย่างเย้ายวน ไฟหลากสีวิบวับกะพริบถี่ชวนเวียนหัว ทำให้คนที่เอาแต่กระดกเครื่องดื่มดีกรีแรงลงคอแก้วแล้วแก้วเล่าเริ่มทรงตัวไม่อยู่
“ของขวัญ แกไหวหรือเปล่า”
คนตัวบางไม่ต่างกันถลามาประคองสาวงามสมกับชื่อเล่นน่ารักว่า “ของขวัญ” ที่บุพการีตั้งให้เปรียบเธอเป็นตัวแทนของขวัญจากพระเจ้าซึ่งประทานมาให้คู่สามีภรรยาที่รักกันปานจะกลืนกิน
หึ ไม่ผิดหรอก ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นตัวแทนความรักของพ่อกับแม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ้าชู้ของพ่อเริ่มทำงาน ความอดทนของแม่ก็ต่ำลงทุกวัน สุดท้ายเธอจึงกลายเป็นของขวัญถูกทิ้ง เมื่อท่านทั้งสองตัดสินใจแยกทางกันตั้งแต่เธอเริ่มแตกเนื้อสาว
เธอใช้ชีวิตอยู่ในความดูแลของพ่อ ไม่นานแม่ก็แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่เมืองนอก มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกที่น่ารักอีกสองคน ในขณะที่เธอต้องทนเหงาเดียวดายอยู่แต่บ้านเมื่อพ่อเอาแต่ทำงาน และมีผู้หญิงคนอื่นไปเรื่อย แทบไม่เคยเจียดเวลามาเหลียวแลเธอบ้างเลย
ที่จริงเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนักหรอก เธอมีคฤหาสน์หลังใหญ่โตให้ซุกหัวนอน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีเงินในบัญชีหลายสิบล้าน มีอิสระเต็มที่ มีเด็กรับใช้คอยปรนนิบัติเต็มบ้าน และเธอยังคงได้รับความรักจากพ่อและแม่อย่างเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม แม้พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาให้เธอเลยก็ตาม
ไม่ว่าคุณหนูของขวัญอยากจะได้อะไร แพงแสนแพงหรือหายากเย็นแค่ไหน พ่อของเธอจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาของสิ่งนั้นมาประเคนให้เธอได้เสมอ เห็นไหมล่ะ เธอยังคงได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ แต่แค่ไม่ได้รับการเอาใจใส่เลย..ก็แค่นั้น
แล้ววันนี้เธอมากระดกเหล้าราวกับคนมีเรื่องทุกข์ร้อนใจทำไมน่ะเหรอ
ก็เพราะว่าชีวิตอันสงบเงียบที่เธอเริ่มชินชา มันได้เปลี่ยนไปอีกแล้วน่ะสิ
เมื่อพ่อของเธอแต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดที่ยังสวยสะพรั่งราวกับสาวแรกรุ่น ผู้หญิงคนนั้นมีลูกชายซึ่งแก่กว่าเธอหลายปีและลูกสาวรุ่นเดียวกับเธอ แถมยังเรียนที่เดียวกันอีกต่างหาก ไม่น่าเชื่อว่าโลกมันจะกลมอย่างนี้
ใช่ว่าพอพ่อแต่งงานใหม่ แล้วเธอที่อายุถึงเกณฑ์เข้าสถานบันเทิงได้แล้วจะต้องออกมาทำตัวเหลวแหลกเรียกร้องความสนใจจากพ่อหรอกนะ เธอไม่สนใจและไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ
แต่ที่เธอต้องมากรอกเหล้าเข้าปากเหมือนกินน้ำอิตาเลียนโซดาแก้วโปรด ก็เพราะว่าลูกชายของแม่เลี้ยงมักจะชอบทำท่าทีคุกคามและจ้องจะลวนลามเธอเสมอ แต่เมื่อเธอบอกพ่อ กลับได้รับสายตาตำหนิจากพ่อของตัวเอง ราวกับเธอเป็นเด็กบ้านแตกขี้โกหก เพราะผู้ชายเสแสร้งคนนั้นวางตัวเป็นผู้ใหญ่ แถมยังมีมาดผู้บริหารที่นิ่งขรึม ซึ่งเขาดูมีภาษีดีกว่าเด็กเอาแต่ใจอย่างเธอร้อยเท่าพันเท่า
ในเมื่อพ่อคิดว่าเธอใส่ร้ายลูกของผู้หญิงที่พ่อรักเพราะความริษยา เธอก็จะไม่สนใจเขาอีก ให้มันรู้ไป ว่าเขาจะรักคนอื่นมากกว่าเธอที่เป็นลูกในไส้
“อือ ไหว..”
ขวัญชนก หรือ ของขวัญ นักศึกษาสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ชั้นปีที่สองของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเพื่อนรัก แม้จะเซเล็กน้อย แต่ก็ยังเกาะโต๊ะไว้ได้ทัน
ดวงตาที่เคยกลมโตบัดนี้ปรือปรอยแทบลืมไม่ขึ้น แต่ก็ยังฝืนสังขารยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกอีกครั้ง หมดมาดคุณหนูไฮโซที่ใช้แต่ของแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“เฮ้ย พอแล้ว แกเป็นอะไรของแกวะวันนี้ กินเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า ทะเลาะกับพ่อมาอีกแล้วหรือไง”
เกรซ เกศริน ดึงมือของเพื่อนรักออกห่างริมฝีปาก ไม่ให้กระดกเหล้าเข้มข้นแก้วนั้นได้อีก
คนโดนขัดใจ ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แม้ไม่อยากจะบอกถึงสาเหตุที่ต้องโทรชวนเพื่อนรักให้มากินเหล้ากันกลางดึกในวันหยุด แต่ก็ต้องยอมรับความจริง
“อือ ไอ้ชั่วนั่นมันจะจูบฉัน แต่พ่อไม่เชื่อที่ฉันพูด”
“เฮ้ย นี่มันถึงกับจะจูบแกแล้วเหรอ แกอยู่ที่นั่นไม่ได้แล้ว มาอยู่กับฉันไหม”
สุดท้ายสองสาวก็ทิ้งตัวลงนั่งพูดคุยถึงปัญหาหนักอก แม้ต้องตะโกนคุยกันแข่งกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มในช่วงเวลาไคลแม็กซ์ที่นักเที่ยวกำลังเมามายโยกย้ายกันอย่างสนุกสนานก็ตาม
“ฉันออกมาอยู่ที่คอนโดแล้ว วันนี้เอง ถ้าพ่อไม่เชื่อลูกในไส้อย่างฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านหลังนั้นอีก”
“มันก็ดีตรงที่แกจะปลอดภัย แต่ถ้าพวกนั้นฮุบสมบัติของแกล่ะ”
“ฉันมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทอยู่เกือบครึ่ง พ่อเพิ่งโอนให้ก่อนจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้น คงกลัวว่าฉันจะคิดมากมั้ง ถ้าพ่อหลงผู้หญิงคนนั้นถึงขนาดจะยกทุกอย่างให้ ก็แล้วแต่พ่อเลย ฉันเองก็จะไม่แคร์พ่อแล้วเหมือนกัน”
แม้ปากจะพูดไปแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงก็ทั้งรัก ทั้งเป็นห่วง แถมยังน้อยใจคนเป็นพ่อเอามากๆ ที่เชื่อคนอื่นมากกว่าลูกในไส้อย่างเธอ
“แล้วพ่อแกรู้หรือยัง ว่าแกออกมาอยู่ที่คอนโด”
“ไม่รู้ ไม่ได้บอก”
เธอกระดกเหล้าเข้าปากอย่างรวดเร็วอีกครั้ง คอนโดมิเนียมหรูหราราคาแพง แถมไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเธอห้องนี้ คุณตาซื้อให้เธอเป็นของขวัญที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศได้ แม้จะเรียนในคณะที่ใครๆ เหยียดหยามว่าแค่มีเงินก็สามารถเข้าเรียนได้ก็ตาม แต่ถ้ามีเงินแล้วไม่สามารถสื่อสารและอ่านตำราเป็นภาษาอังกฤษได้ทุกตัวอักษร ก็ไม่สามารถเรียนคณะนี้ได้เช่นกัน
“จะมีเรื่องวุ่นวายหรือเปล่า”
ของขวัญเหยียดยิ้มหยันตัวเอง พร้อมทั้งยื่นโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดให้เพื่อนรักดู ว่าหน้าจอมันว่างเปล่า ไม่มีแม้ข้อความของพ่อเธอเลยด้วยซ้ำ แปลว่าเขาอาจจะยังไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ไม่ได้สนใจก็เป็นได้
“หึ ไม่มีสักข้อความ พรุ่งนี้พ่อก็ไปต่างจังหวัด คงไม่มีทางรู้หรอก ว่าฉันหนีออกจากบ้าน”
“ของขวัญ แกอย่าคิดมากนะ คืนนี้ฉันว่าแกไปนอนกับฉันก่อนดีกว่า จอดรถไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับกัน ฉันก็เมาแล้วว่ะ”
“อืม ก็ได้ แต่ขอเมาให้สุดๆ ไปเลยนะ ไหนๆ พรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียน”
“ได้ งั้นแกนั่งอยู่ที่นี่ก่อน ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว อย่าเดินไปไหนคนเดียวนะ”
“อืม ไม่ต้องห่วง ฉันโตแล้วนะ”
“ก็เพราะโตนี่แหละฉันถึงต้องเป็นห่วง สวยๆ แบบนี้ เกิดมีใครมาลากแกไปจะว่ายังไง”
“เว่อร์ละ รีบไปรีบมา”
ห้องน้ำที่แออัดทำให้เพื่อนรักของเธอหายไปนาน และในตอนนี้ เธอที่สาดเหล้าลงคอติดๆ กันหลายแก้วก็มองภาพตรงหน้าอย่างพร่าเบลอ ก่อนจะค่อยๆ ดับวูบลงพร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ขาดหายไปในตอนนั้น
กว่าที่เขาจะสอนเธอทำเมนูโปรดของตัวเองได้ก็ลุ้นเกือบตาย เห็นทีคุณหนูของขวัญคงเหมาะกับการชี้นิ้วสั่งและนั่งรอกินข้าวแบบสวยๆ มากกว่าจะเข้าครัวแบบนี้ แต่ถ้าเขายกเลิกคอร์สทำอาหารไปก็จะไม่มีโอกาสใกล้ชิดเธออีก“ไฟยังไม่มาอีกเหรอ”หลังจากที่แทบจะทำไฟไหม้ครัวของเขา คุณหนูของขวัญก็มานั่งชะเง้อคอจนแทบจะเป็นยีราฟรอคอยอัคคีกลับมาชิมอาหารฝีมือเธอ“ฉันว่ามันไม่กลับมาง่ายๆ แล้วล่ะ น่าจะดึก อย่ารอเลย เรากินข้าวกันก่อนเถอะ”“ฉันอยากรอไฟมากกว่า เหม็นตัวเองด้วย มีแต่กลิ่นกะเพรา”เธอยกแขนขึ้นมาดม มีแต่กลิ่นฉุนๆ ของใบกะเพราและเครื่องปรุงกลิ่นเค็มๆ การทำอาหารมันไม่เหมาะกับเธอจริงๆ แต่ก็อยากแสดงความสามารถให้อัคคีเห็น เผื่อเขาจะปลื้มเธอในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง“มันจะดึก ไม่หิวหรือไง”“ไม่หิว ดึกแค่ไหนก็รอได้ งั้นฉันไปอาบน้ำสระผมก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบมา”“ตามใจ งั้นเอาคีย์การ์ดไป เผื่อฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จก็เปิดเข้ามานั่งรอแล้วกัน”“ขอบใจนะ”หลังจากที่เธอกลับไปอาบน้ำสระผม ทาโลชันกลิ่นดอกไม้จนหอมฟุ้งก็กลับมาที่ห้องของเขาอีกครั้ง เมื่อเดินเข้ามาก็สบตากับชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวผ้านุ่มสีเทาเข้มซึ่งกำ
“อีของขวัญ อีของขวัญอีกแล้ว มันออกไปจากบ้านแล้วทำไมยังตามมาเป็นมารของฉันอยู่ได้”กระเป๋าแบรนด์เนมไฮเอนด์ถูกทุ่มลงบนโต๊ะม้าหินข้างตึกคณะอักษรศาสตร์อย่างไม่ไยดี ทำเอาเพื่อนรักทั้งสองถลาเข้าไปกอดประคองปัดฝุ่นมันด้วยความทะนุถนอมแทบไม่ทัน“แกใจเย็นสิวะลัน แล้วของขวัญนี่มันเป็นใคร ใช่ดาวคณะบริหารอินเตอร์หรือเปล่า”ต้องตา เพื่อนรักที่เป็นลูกไล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะคนที่สามารถปาดหน้าหนุ่มที่ชลันดาหมายปองไปก็ต้องเป็นคนระดับเดียวกันเท่านั้นถึงจะทำได้หลังจากที่ชีวิตของชลันดาดีขึ้นแบบ 300% ได้ใช้ชีวิตแบบลูกคุณหนูมานานร่วมสองปี เธอไม่เคยเอาเรื่องของขวัญชนกมาเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเจ้าหล่อนกระเด็นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปนานแล้ว“ใช่ มันนั่นแหละ มันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณลุง”“อ้าว งั้นก็แปลว่าแกสองคนเป็นพี่น้องกันน่ะสิ”โซดา โพล่งออกมาประสาซื่อ ในเมื่อพ่อกับแม่มาแต่งงานกัน ลูกจากทั้งสองฝั่งก็ต้องเป็นพี่น้องกันไปโดยปริยาย แต่กลับถูกชลันดาตวัดสายตามองอย่างคาดโทษที่พูดจาไม่เข้าหู“โซดา ถ้าแกไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาให้ฉันอารมณ์เสีย นังนั่นมันไม่ใช่พี่น้องของฉัน เพราะมันเองก็ไม่เคยมองฉันกับพี่เ
ระหว่างที่ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังพูดถึงสาวบริหารอินเตอร์ที่ทั้งสวยทั้งหอม สาวอักษรที่กำลังโด่งดังมากในหมู่ผู้ชายก็เดินเข้ามาในโรงอาหารของคณะวิศวะสาวสวยผิวขาวในชุดนักศึกษารัดรูปท่ามกลางเหล่าหนุ่มวิศวะเสื้อช็อปสีเลือดหมูที่นั่งอยู่เต็มโรงอาหาร จึงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปยังเธอเพียงผู้เดียวแม้ด้านหลังของเธอจะมีเพื่อนสนิทเดินตามมาด้วยอีกสองคนก็ตามเมธาใช้ศอกกระทุ้งชนาธิปที่นั่งอยู่ด้านข้างให้เงยหน้าขึ้นมามองสาวอักษรคนนั้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งกลุ่มหันไปมองด้วยความอยากรู้“ไอ้ธิป กูตาฝาดไปหรือเปล่าวะ ลัน สาวอักษร มาเดินอยู่ในดงวิศวะ”เมธาเอ่ยออกมาราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ฝันอีกครั้งเมื่อเจอสาวสวยคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนติดๆ“มึงไม่ได้ตาฝาดไปหรอกไอ้ม่อน กูก็เห็น”ชนาธิปช่วยยืนยันในสิ่งที่เมธาเห็น ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง“เดี๋ยว นี่พวกมึงจะรู้จักสาวๆ ทุกคณะเลยหรือไงวะ”นริศรา สาวห้าวคนเดียวในหมู่หนุ่มห่ามพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ ถ้าพวกนี้หัดสนใจและทุ่มเทเรื่องการเรียนให้เหมือนเรื่องสาวๆ ป่านนี้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงมารออยู่ตรงหน้า นี่กว่าจะเคี่ยวเข็ญกันให้เรียนผ่านมาจนถ
เสียงโหวกเหวกที่เหล่าลูกคุณหนูชนชั้นไฮโซของหนุ่มสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ไม่คุ้นเคย ดังมาจากกลุ่มของหนุ่มสาวเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ยืนอยู่ไม่ไกลขวัญชนกมองสบตากลับชายหนุ่มรูปหล่อที่โดดเด่นที่สุดนั้นกลุ่มนั้นแล้วลอบเบะปาก แม้ใบหน้าจะเหมือนกับผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับเธอทุกกระเบียดนิ้ว แต่เธอบอกแล้ว ว่าแววตาและมารยาทของเขามันไม่ใช่“อุ๊ย นั่นฟืนนี่นา หน้าเหมือนแกโคตรๆ อะไฟ แต่ฉันว่าเขาดูกร้าวใจชะมัด”อัจจิมา เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของขวัญชนกทำหน้าเคลิ้มฝัน เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอหล่อ แต่บุคลิกคุณชายที่เธอคุ้นเคยกับผู้ชายในคณะนี้มันทำให้เธอชินชา พอเจอสายตากร้าวดุของผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนคนหล่อๆ ตรงนี้ มันทำให้หัวใจเธอสั่นอย่างไรชอบกลทั้งที่ปกติไม่เคยชอบผู้ชายคณะวิศวะเลยสักนิด“ชอบหรือไง หมอนั่นไม่ได้น่ารักเหมือนไฟหรอกนะยัยอ้อน ปากเสียจะตาย”ที่จริงขวัญชนกก็อยากจะใช้คำอื่นมากกว่าคำนี้ แต่แฝดผู้น้องของเขานั่งอยู่ทั้งคน และเธอจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูน่ารักเสมอในสายตาเขา จึงไม่กล้าพูดจาแรงๆ ออกมา แม้ผู้ชายปากเสียคนนั้นจะคู่ควรก็ตาม“ก็คงไม่เถื่อนขนาดนั้นมั้ง เขาเป็นแฝดกับไฟนี่นา”อัจ
“ไอ้ฟืน กูขอโทษที่เอาแฟนมึง ปอยมาอ่อย ลากกูเข้าห้องน้ำ กูเลยทนไม่ไหว”ชนาธิปเอ่ยขอโทษทันทีที่อัคราเดินเข้ามาในห้องเรียน เรื่องที่เขากับคนรักของเพื่อนแอบแซ่บกันในห้องน้ำล่วงรู้ไปถึงหู เขาโทรหาเท่าไรอัคราก็ไม่ยอมรับสาย เดือดร้อนวันนี้เลยรีบมาแต่เช้าเพื่อดักรอในคลาสเรียนเสียเลย“กูไม่ได้หวงผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่ชอบให้มึงมาทำอะไรลับหลัง ถ้ามึงอยากได้ทำไมไม่มาขอกันตรงๆ”แม้จะไม่เคยขอนอนกับผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแฟนเพื่อน แต่กับผู้หญิงชั่วคืนคนอื่นที่มีสถานะเป็นแค่ของเล่น พวกเขาเองก็เคยผลัดกันใช้ออกบ่อยไป“กูก็ไม่ได้อยากได้แฟนมึง ไม่ได้อยากนอนด้วย แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เล่นลากกูเข้าห้องน้ำแล้วถลกกระโปรงโชว์กู กูเลย..”ชนาธิปอึกอัก พูดไม่ได้เต็มปากนักว่าไม่อยากได้แฟนของเพื่อน เพราะน้องปอยคนนั้นก็ทั้งขาวทั้งอึ๋ม แถมพอได้ลองเข้าจริงๆ ก็โคตรเด็ดสมคำร่ำลือ“เออๆ ช่างแม่ง ทีหลังมึงต้องบอกกูสิวะ อย่าให้กูไปรู้จากคนอื่น มึงอยากได้ผู้หญิงคนไหนของกูมึงก็บอก เราสลับผู้หญิงกันใช้ออกบ่อย เรื่องแค่นี้อย่าให้มันมาทำลายความเป็นเพื่อนของเรา”“กูขอโทษ แต่นั่นแฟนมึงไง กูก็เลยกลัว..”“ที่จริงมึงแม่งก็ไม่ควรเอาแฟนก
“ว้าย..โอ๊ย..อ๊าย..”คือเสียงที่ดังออกมาจากห้องครัวเป็นระยะ นริศรามองไปยังหนุ่มสาวที่แทบจะหยุมหัวกันตลอดเวลา แต่แววตาของเพื่อนรักเธอที่ใช้มองไปยังผู้หญิงคนนั้นกลับอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยเห็นเขาใช้มองใครมาก่อน..แม้แต่เธอริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น หัวใจดวงน้อยปวดหน่วงแปลกๆ เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยมองเธอเป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่า แต่เธอกลับแอบชอบเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ“ไอ้ฟืนมันชอบผู้หญิงสวย”เสียงทุ้มของคนที่กำลังรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ดังขึ้น สายตาของเขาไม่ได้ละจากหน้าจอมามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้ว่าเธอกำลังทำและกำลังคิดอะไรอยู่“แล้ว..”“คนไม่สวยแถมยังกระโดกกระเดกเหมือนทอมก็ต้องทำใจนะ”“หุบปาก ฟืนมันจะชอบใครไม่ชอบใครก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”“หึ มองพี่ชายฉันซะตาปรอยขนาดนั้น อันที่จริงถ้าชอบคนหล่อๆ อย่างไอ้ฟืน ฉันก็พอแทนได้นะ เพราะหน้าเราเหมือนกัน ฉันจะหลับหูหลับตาทำให้ก็แล้วกัน ที่ห้องฉันหรือที่ห้องเธอดีล่ะ ยัยทอม”“ไอ้ทุเรศ ของขวัญน่าจะได้เห็นนะ ว่านายมันทุเรศ ไม่เหมือนภาพลักษณ์สุภาพบุรุษที่สร้างขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ตกผู้หญิ
คนตัวบางสะดุ้งโหยง หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วทั้งยังชี้ปลายมีดมายังเขา ดีที่เขากระโดดถอยหลังหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้นปลายมีดแหลมคมนั้นคงฝังเข้ามากลางหน้าอกของเขาไปแล้วแน่ๆ“เฮ้ย นี่จะฆ่าฉันเหรอ ของขวัญ”“ก็ใครใช้ให้นายมาเล่นบ้าๆ กับฉันแบบนี้ ถอยออกไปไกลๆ อย่าขยับมาใกล้ฉันอีก”“ฉันแค่จะมาดูว่าเธอหั่นผักเสร็จหรือยัง เห็นยืมงมอยู่ตั้งนาน จนฉันหุงข้าว หั่นหมู ทุบกระเทียมเสร็จแล้วเนี่ย”“ก็นายเข้ามาข้างหลังฉัน”“หึ คุณหนูของขวัญครับ ครัวนี้มันแคบ ถ้าฉันไม่เข้ามาดูเธอหั่นผักทางนั้น แล้วจะให้เข้าทางไหน”“ไม่ต้องพูดมาก คนอย่างนายเจตนามันไม่ดีตั้งแต่ต้น อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ ไอ้โรคจิต”“ทำไมมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”นิดหน่อยน่ะ เขาไม่คิดหรอก แต่คนอย่างเขามันคิดเกินเลยไปไกลแล้วต่างหาก ก็ใครใช้ให้เธอทั้งสวยทั้งหอมแบบนี้ล่ะ ยิ่งมองเธอจากด้านหลัง เห็นบั้นท้ายงอนๆ เรียวขาขาวเนียนพ้นชายกระโปรงสั้นๆ ออกมาอีก แถมยิ่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ เธอยิ่งดูน่ารักน่ากระแทกที่สุดจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“เชื่อนายก็ออกลูกเป็นควายแล้ว”“ยังไม่ทันมีผัวเลย จะมีลูกแล้วเหรอ”“ไอ้บ้
“เสร็จซะที เมื่อยจะแย่”คนตัวบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูกระโปรงบานสั้นเหนือเข่ามาเป็นคืบ หักนิ้วมือและบิดกายอย่างเมื่อยขบเมื่อต้องนั่งพิมพ์รายงานวิชาสำคัญตั้งแต่เช้าจรดเย็นแทบไม่ได้พัก“ขวัญเสร็จแล้วเหรอ ของผมยังไม่เสร็จเลย”“อีกเยอะไหม เอามาสิ ขวัญช่วยพิมพ์”“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่เยอะแล้ว ขวัญพักเถอะ”“คุณหนูของขวัญ มาช่วยฉันทำกับข้าวดีกว่า จะได้กินข้าวเย็นกัน เดี๋ยวไอ้นุ๊กก็ต้องกลับบ้านแล้ว”คุณหนูคนสวยหันขวับมองหน้าคนปากไม่ดีตาขวาง ในแววตาแทบไม่มีความเป็นมิตรหลงเหลืออยู่สักนิด แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจของคนที่ตั้งใจกวนประสาท“ทำไมมองฉันแบบนั้น อย่าบอกนะว่าคุณหนูของขวัญทำกับข้าวไม่เป็น”เธอไม่ตอบ แต่ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่องนั้นมองเขาราวกับกำลังจะขู่ให้เขาหุบปาก อย่าพูดมาก ถ้ายังไม่อยากโดนเธอฆ่าตาย“ทำไม่เป็นจริงๆ เหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ไอ้ไฟ มึงไม่คิดจะสอนเพื่อนมึงหน่อยเหรอ แบบนี้ใครจะเอาทำเมียวะ”“ไอ้เหี้ยฟืน มึงเลิกกวนประสาทขวัญซะที วันนี้เวรมึง ก็ทำไป อย่าลีลา”คนตัวร้ายมองสบตาน้องชายด้วยแววตาที่รู้กัน แฝดน้องถอนหายใจยาวในความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย สุดท้ายก็ต้องช่วย หมอนั่นป
ดวงตากลมโตลอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขนกระต่ายฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กราคาแพง วันนี้เธอกับเขามีนัดมาทำรายงานกันที่โต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟาในห้องรับแขกของคอนโดมิเนียมสุดหรูของเขาเหมือนเดิมนึกอยากขอบคุณคืนซวยๆ คืนนั้นที่เหวี่ยงให้เขาโผล่มาช่วยเธอจากผู้ชายเลวๆ นั่นได้ทัน และทำให้เธอกับเขาได้มาสนิทสนมกันจนถึงวันนี้สองปีแล้วสินะ ที่เธอได้นั่งเรียนข้างเขา พูดคุยกับเขาทุกวัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ รวมถึงตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาอันที่จริงก็ไม่ได้มีแค่เธอกับเขาหรอก ที่ตัวติดกันตลอดเวลา ในกลุ่มของเธอยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ เกรซ เกศริน เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่พยายามอย่างยิ่งยวดในการยุยงส่งเสริมให้เธอบอกความในใจกับเขา แต่เธอก็ไม่กล้าเสียทีแม้จะไม่แน่ใจว่าเขาพอจะมองออกหรือเปล่า ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา แต่ในเมื่อเขายังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ได้ดูมีท่าทีคิดอะไรเกินเลยกับเธอแม้แต่น้อย ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสารภาพความในใจออกไป เพราะกลัวว่าถ้าเขาไม่คิดอะไร เธอจะสูญเสียเขาไปตลอดกาลความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธ
Comments