“ไอ้ฟืน กูขอโทษที่เอาแฟนมึง ปอยมาอ่อย ลากกูเข้าห้องน้ำ กูเลยทนไม่ไหว”
ชนาธิปเอ่ยขอโทษทันทีที่อัคราเดินเข้ามาในห้องเรียน เรื่องที่เขากับคนรักของเพื่อนแอบแซ่บกันในห้องน้ำล่วงรู้ไปถึงหู เขาโทรหาเท่าไรอัคราก็ไม่ยอมรับสาย เดือดร้อนวันนี้เลยรีบมาแต่เช้าเพื่อดักรอในคลาสเรียนเสียเลย
“กูไม่ได้หวงผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่ชอบให้มึงมาทำอะไรลับหลัง ถ้ามึงอยากได้ทำไมไม่มาขอกันตรงๆ”
แม้จะไม่เคยขอนอนกับผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแฟนเพื่อน แต่กับผู้หญิงชั่วคืนคนอื่นที่มีสถานะเป็นแค่ของเล่น พวกเขาเองก็เคยผลัดกันใช้ออกบ่อยไป
“กูก็ไม่ได้อยากได้แฟนมึง ไม่ได้อยากนอนด้วย แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เล่นลากกูเข้าห้องน้ำแล้วถลกกระโปรงโชว์กู กูเลย..”
ชนาธิปอึกอัก พูดไม่ได้เต็มปากนักว่าไม่อยากได้แฟนของเพื่อน เพราะน้องปอยคนนั้นก็ทั้งขาวทั้งอึ๋ม แถมพอได้ลองเข้าจริงๆ ก็โคตรเด็ดสมคำร่ำลือ
“เออๆ ช่างแม่ง ทีหลังมึงต้องบอกกูสิวะ อย่าให้กูไปรู้จากคนอื่น มึงอยากได้ผู้หญิงคนไหนของกูมึงก็บอก เราสลับผู้หญิงกันใช้ออกบ่อย เรื่องแค่นี้อย่าให้มันมาทำลายความเป็นเพื่อนของเรา”
“กูขอโทษ แต่นั่นแฟนมึงไง กูก็เลยกลัว..”
“ที่จริงมึงแม่งก็ไม่ควรเอาแฟนกูหรือเปล่าวะ แต่กูรู้ว่าปอยอ่อยมึงเพราะกูก็ไปเอากับเพื่อนมันไง มันเลยประชดกูแบบนี้”
“กูไม่ได้ตั้งใจ แล้วมึงกับปอยยังไงกันต่อวะ”
“เลิกไง”
“เฮ้ย พวกมึง คิดอะไรมากวะ สมบัติผลัดกันชมมาตั้งกี่คนแล้ว ไป ไปนั่งเรียน อาจารย์จะเข้าอยู่ละ”
คิริว หนุ่มหล่อลูกผสมไทย ญี่ปุ่น เยอรมัน เดินเข้ามากอดคอเพื่อนรักทั้งสองคน แล้วพาเดินเข้าไปนั่งในที่ประจำ โดยมี เมธาและนริศราเดินตามมาติดๆ
“ไอ้ธิป ต่อไปมึงก็อย่าทำแบบนี้อีก กูรู้ว่าวัยรุ่นอย่างเราแม่งใช้หัวค**คิดแทนหัวสมองอยู่แล้ว แต่มันต้องไม่ใช่แฟนเพื่อน คราวนี้พวกมึงก็ผิดกันทั้งคู่ ก็ให้อภัยกันไป ไอ้เหี้ยฟืนก็เปรี้ยวค**ไปนอนกับเพื่อนน้องปอยก่อนเองนี่หว่า ผู้หญิงเยอะแยะเสือกร่านไม่เข้าท่า สมควรที่จะโดนเอาคืน แถมแม่งยังเลือกมาเอาคืนกับเพื่อนในกลุ่มเราอีก เป็นไง สาสมไหม พวกมึงประมาทผู้หญิงกันเกินไป ไอ้นุ๊กแม่งเตือนตั้งกี่ทีพวกมึงก็ไม่ฟังมัน เห็นไหม”
เมธา ให้สติเพื่อนรักทั้งสอง เพราะคนทั้งคู่ก็มีส่วนผิดจริงๆ แต่จะทำอย่างไรได้ วัยรุ่นวัยคะนองที่ทั้งรูปหล่อพ่อรวยอย่างพวกเขา มันป๊อปเสียจนดึงดูดผู้หญิงเข้ามาไม่ขาดสาย จะครองตัวเป็นคนดี กระเจี๊ยวคุณธรรมก็คงไม่ใช่
“เออๆ กูรู้ตัวว่ากูผิดไง กูถึงไม่โกรธไอ้ธิป ต่อไปพวกมึงก็เหมือนกัน อยากได้ผู้หญิงคนไหนของกูให้มาบอกกันตรงๆ ต่อให้เป็นแฟนกูก็ให้เพื่อนได้”
“เหอะ ถ้าพวกกูขอเอาแฟนมึงขึ้นมาจริงๆ อย่ามาหวงแล้วกัน”
เมธาที่ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของเพื่อนแค่นหัวเราะขำ ถ้าไม่รักแล้วจะคบกันในสถานะแฟนทำไม เพื่อนรักของเขาคนนี้ชอบทำตัวเหมือนคนว่างงาน หาเรื่องใส่ตัวให้ผู้หญิงมาคอยตามหึงหวงให้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย น่ารำคาญที่สุด ต้องอย่างเขากับคิริวโน่น รักสนุกก็ไม่ต้องคบกับใครเป็นแฟน แบบนี้มันสุดเหวี่ยงกว่ากันเยอะ
“ไม่มีทาง กับเพื่อน ให้มากกว่านี้ก็ให้ได้”
“เอาเหอะ แล้วกูจะคอยดู ถ้ากูขอแล้วมึงไม่ให้กู ขอค่าปลอบใจที่มึงรักผู้หญิงมากกว่าเพื่อนสักแสนนึงแล้วกัน”
คิริว ผู้ครองตัวเป็นโสดมาตลอดชีวิตหนุ่มเอ่ยท้าขึ้น ซึ่งคนบ้าจี้อย่างอัครามีหรือจะยอมแพ้
“กูให้พวกมึงคนละสองแสนเลย”
หลังจากที่เพื่อนรักปรับความเข้าใจกันได้ อาจารย์ก็เข้ามาสอนพอดี แม้พวกเขาจะชอบเที่ยวเตร่เมาหัวราน้ำ หรือลากผู้หญิงมานอนด้วยไม่ซ้ำหน้า แต่เรื่องเรียนพวกเขาพยายามอย่างยิ่งไม่ให้บกพร่อง เพราะนั่นหมายถึงอิสระที่จะได้รับหากผลการเรียนยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจของพ่อแม่
“อาจารย์แม่งสอนไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
ชนาธิปที่เอาแต่นั่งหลับในห้องบ่นอุบระหว่างที่พวกเขาเดินผ่านโถงใต้อาคารของตึกคณะบริหารธุรกิจเพื่อเป็นทางผ่านไปยังโรงอาหารของคณะตัวเอง เพราะทางเดินที่ใช้เป็นประจำปิดซ่อมบำรุงชั่วคราว
“มึงโง่หรืออาจารย์สอนไม่รู้เรื่องกันแน่ เอาดีๆ”
อัคราหัวเราะเยาะชนาธิป พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงที่เข้าครัวกับเขาเมื่อวานนั่งอยู่ที่โต๊ะกับน้องชายฝาแฝดของเขาและเพื่อนผู้ชายผู้หญิงกลุ่มใหญ่ จึงชะงักเท้าลงทำให้เพื่อนทั้งกลุ่มชะงักตาม
ดวงตาคมมองจ้องไปยังนักศึกษาสาวกลุ่มหนึ่งตาไม่กะพริบ ทำให้ชายหนุ่มอีกสามคนที่เหลือมองตามสายตานั้นไปก็พบกับ สาวสวยหุ่นบอบบางแต่ดูเย้ายวน อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผายกำลังเหมาะ เสื้อนักศึกษาที่เธอใส่รัดรูปพอดีตัว กระโปรงทรงสอบสั้นเลยเข่าเป็นคืบผ่าหน้าแหวกสูงขึ้นมาที่ต้นขาด้านขวาน่าหวาดเสียว ผมยาวดัดเป็นลอน รวบมัดครึ่งหัวแล้วติดโบแบรนด์เนมอันใหญ่ ใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโต จมูกโด่งริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูสด ผิวพรรณขาวสว่างจนแทบจะสะท้อนแสงดึงดูดทุกสายตาของหนุ่มๆ ที่เดินผ่านไปมาให้มองแต่เธอผู้เดียว
“นั่นมันของขวัญ ดาวคณะบริหารอินเตอร์นี่หว่า กูเพิ่งเคยเห็นตัวจริงใกล้ๆ สวยฉิบหาย”
เมธาพูดราวระเมอ อ้าปากค้าง มองไปยังสาวสวยดาวคณะอย่างไม่วางตา ซึ่งไม่ต่างจากชนาธิป
“อืม โคตรสวย แต่กูเห็นหลายครั้งแล้วนะ ได้ข่าวว่าเป็นเบี้ยนกับผู้หญิงที่นั่งข้างๆ”
คิริวผู้กวาดสาวสวยคณะบริหารธุรกิจมานอนด้วยแทบจะหมดคณะไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไรนัก เพราะเขาเจอเธอคนนี้หลายครั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอสวยจริงๆ สวยไม่มีที่จะให้ติ
คำพูดของคิริวทำเอาชนาธิปและเมธาหันมามองเพื่อนด้วยความไม่พอใจที่ดับฝัน กำลังจินตนาการแท้ๆ ว่าสาวสวยตรงหน้ามานั่งคลอเคลียกับตน ที่ไหนได้ มีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยกันหรอกหรือ ที่สำคัญ น่ารักเสียด้วยสิ
“จริงเหรอวะไอ้ฟืน”
เมธารีบหันไปถามอัคราเพื่อขอคำคืนยัน
“แล้วมาถามกูทำไม”
“อ้าว ก็น้องมึงเป็นเพื่อนกันนี่หว่า หรือว่าที่จริงแล้ว ของขวัญเสร็จไอ้ไฟไปแล้ววะ”
เป็นเมธาที่ตั้งข้อสงสัย แต่คนที่ปกป้องสาวสวยคนนั้นกลับเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มซึ่งวันนี้ค่อนข้างสงบปากสงบคำแปลกๆ
“ไอ้เหี้ยม่อน พูดแบบนี้อยากโดนส้นตีนยัดปากใช่ไหม”
“นั่นไง ไอ้นุ๊กเป็นเดือดเป็นร้อนแทนของขวัญคนสวยละ ลองไอ้ทอมของเรากางปีกขนาดนี้ ไม่ดี้ก็เบี้ยน ชัวร์”
“มึงนี่มันจริงๆ เลย ปากมึงนี่มันน่าโดนส้นตีนกูนัก”
นริศราตบหัวเพื่อนอย่างแรง แล้วเสียงร้องโอดโอยของเมธาก็ทำให้คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นหันมามองทางนี้ทั้งกลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีน้องชายฝาแฝดของอัคราด้วย
เสียงโหวกเหวกที่เหล่าลูกคุณหนูชนชั้นไฮโซของหนุ่มสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ไม่คุ้นเคย ดังมาจากกลุ่มของหนุ่มสาวเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ยืนอยู่ไม่ไกลขวัญชนกมองสบตากลับชายหนุ่มรูปหล่อที่โดดเด่นที่สุดนั้นกลุ่มนั้นแล้วลอบเบะปาก แม้ใบหน้าจะเหมือนกับผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับเธอทุกกระเบียดนิ้ว แต่เธอบอกแล้ว ว่าแววตาและมารยาทของเขามันไม่ใช่“อุ๊ย นั่นฟืนนี่นา หน้าเหมือนแกโคตรๆ อะไฟ แต่ฉันว่าเขาดูกร้าวใจชะมัด”อัจจิมา เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของขวัญชนกทำหน้าเคลิ้มฝัน เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอหล่อ แต่บุคลิกคุณชายที่เธอคุ้นเคยกับผู้ชายในคณะนี้มันทำให้เธอชินชา พอเจอสายตากร้าวดุของผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนคนหล่อๆ ตรงนี้ มันทำให้หัวใจเธอสั่นอย่างไรชอบกลทั้งที่ปกติไม่เคยชอบผู้ชายคณะวิศวะเลยสักนิด“ชอบหรือไง หมอนั่นไม่ได้น่ารักเหมือนไฟหรอกนะยัยอ้อน ปากเสียจะตาย”ที่จริงขวัญชนกก็อยากจะใช้คำอื่นมากกว่าคำนี้ แต่แฝดผู้น้องของเขานั่งอยู่ทั้งคน และเธอจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูน่ารักเสมอในสายตาเขา จึงไม่กล้าพูดจาแรงๆ ออกมา แม้ผู้ชายปากเสียคนนั้นจะคู่ควรก็ตาม“ก็คงไม่เถื่อนขนาดนั้นมั้ง เขาเป็นแฝดกับไฟนี่นา”อัจ
ระหว่างที่ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังพูดถึงสาวบริหารอินเตอร์ที่ทั้งสวยทั้งหอม สาวอักษรที่กำลังโด่งดังมากในหมู่ผู้ชายก็เดินเข้ามาในโรงอาหารของคณะวิศวะสาวสวยผิวขาวในชุดนักศึกษารัดรูปท่ามกลางเหล่าหนุ่มวิศวะเสื้อช็อปสีเลือดหมูที่นั่งอยู่เต็มโรงอาหาร จึงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปยังเธอเพียงผู้เดียวแม้ด้านหลังของเธอจะมีเพื่อนสนิทเดินตามมาด้วยอีกสองคนก็ตามเมธาใช้ศอกกระทุ้งชนาธิปที่นั่งอยู่ด้านข้างให้เงยหน้าขึ้นมามองสาวอักษรคนนั้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งกลุ่มหันไปมองด้วยความอยากรู้“ไอ้ธิป กูตาฝาดไปหรือเปล่าวะ ลัน สาวอักษร มาเดินอยู่ในดงวิศวะ”เมธาเอ่ยออกมาราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ฝันอีกครั้งเมื่อเจอสาวสวยคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนติดๆ“มึงไม่ได้ตาฝาดไปหรอกไอ้ม่อน กูก็เห็น”ชนาธิปช่วยยืนยันในสิ่งที่เมธาเห็น ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง“เดี๋ยว นี่พวกมึงจะรู้จักสาวๆ ทุกคณะเลยหรือไงวะ”นริศรา สาวห้าวคนเดียวในหมู่หนุ่มห่ามพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ ถ้าพวกนี้หัดสนใจและทุ่มเทเรื่องการเรียนให้เหมือนเรื่องสาวๆ ป่านนี้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงมารออยู่ตรงหน้า นี่กว่าจะเคี่ยวเข็ญกันให้เรียนผ่านมาจนถ
“อีของขวัญ อีของขวัญอีกแล้ว มันออกไปจากบ้านแล้วทำไมยังตามมาเป็นมารของฉันอยู่ได้”กระเป๋าแบรนด์เนมไฮเอนด์ถูกทุ่มลงบนโต๊ะม้าหินข้างตึกคณะอักษรศาสตร์อย่างไม่ไยดี ทำเอาเพื่อนรักทั้งสองถลาเข้าไปกอดประคองปัดฝุ่นมันด้วยความทะนุถนอมแทบไม่ทัน“แกใจเย็นสิวะลัน แล้วของขวัญนี่มันเป็นใคร ใช่ดาวคณะบริหารอินเตอร์หรือเปล่า”ต้องตา เพื่อนรักที่เป็นลูกไล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะคนที่สามารถปาดหน้าหนุ่มที่ชลันดาหมายปองไปก็ต้องเป็นคนระดับเดียวกันเท่านั้นถึงจะทำได้หลังจากที่ชีวิตของชลันดาดีขึ้นแบบ 300% ได้ใช้ชีวิตแบบลูกคุณหนูมานานร่วมสองปี เธอไม่เคยเอาเรื่องของขวัญชนกมาเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเจ้าหล่อนกระเด็นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปนานแล้ว“ใช่ มันนั่นแหละ มันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณลุง”“อ้าว งั้นก็แปลว่าแกสองคนเป็นพี่น้องกันน่ะสิ”โซดา โพล่งออกมาประสาซื่อ ในเมื่อพ่อกับแม่มาแต่งงานกัน ลูกจากทั้งสองฝั่งก็ต้องเป็นพี่น้องกันไปโดยปริยาย แต่กลับถูกชลันดาตวัดสายตามองอย่างคาดโทษที่พูดจาไม่เข้าหู“โซดา ถ้าแกไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาให้ฉันอารมณ์เสีย นังนั่นมันไม่ใช่พี่น้องของฉัน เพราะมันเองก็ไม่เคยมองฉันกับพี่เ
กว่าที่เขาจะสอนเธอทำเมนูโปรดของตัวเองได้ก็ลุ้นเกือบตาย เห็นทีคุณหนูของขวัญคงเหมาะกับการชี้นิ้วสั่งและนั่งรอกินข้าวแบบสวยๆ มากกว่าจะเข้าครัวแบบนี้ แต่ถ้าเขายกเลิกคอร์สทำอาหารไปก็จะไม่มีโอกาสใกล้ชิดเธออีก“ไฟยังไม่มาอีกเหรอ”หลังจากที่แทบจะทำไฟไหม้ครัวของเขา คุณหนูของขวัญก็มานั่งชะเง้อคอจนแทบจะเป็นยีราฟรอคอยอัคคีกลับมาชิมอาหารฝีมือเธอ“ฉันว่ามันไม่กลับมาง่ายๆ แล้วล่ะ น่าจะดึก อย่ารอเลย เรากินข้าวกันก่อนเถอะ”“ฉันอยากรอไฟมากกว่า เหม็นตัวเองด้วย มีแต่กลิ่นกะเพรา”เธอยกแขนขึ้นมาดม มีแต่กลิ่นฉุนๆ ของใบกะเพราและเครื่องปรุงกลิ่นเค็มๆ การทำอาหารมันไม่เหมาะกับเธอจริงๆ แต่ก็อยากแสดงความสามารถให้อัคคีเห็น เผื่อเขาจะปลื้มเธอในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง“มันจะดึก ไม่หิวหรือไง”“ไม่หิว ดึกแค่ไหนก็รอได้ งั้นฉันไปอาบน้ำสระผมก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบมา”“ตามใจ งั้นเอาคีย์การ์ดไป เผื่อฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จก็เปิดเข้ามานั่งรอแล้วกัน”“ขอบใจนะ”หลังจากที่เธอกลับไปอาบน้ำสระผม ทาโลชันกลิ่นดอกไม้จนหอมฟุ้งก็กลับมาที่ห้องของเขาอีกครั้ง เมื่อเดินเข้ามาก็สบตากับชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวผ้านุ่มสีเทาเข้มซึ่งกำ
ภายใต้แสงสลัวและดนตรีเร้าใจ ร่างงามโยกขยับไปตามจังหวะอย่างเย้ายวน ไฟหลากสีวิบวับกะพริบถี่ชวนเวียนหัว ทำให้คนที่เอาแต่กระดกเครื่องดื่มดีกรีแรงลงคอแก้วแล้วแก้วเล่าเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ของขวัญ แกไหวหรือเปล่า”คนตัวบางไม่ต่างกันถลามาประคองสาวงามสมกับชื่อเล่นน่ารักว่า “ของขวัญ” ที่บุพการีตั้งให้เปรียบเธอเป็นตัวแทนของขวัญจากพระเจ้าซึ่งประทานมาให้คู่สามีภรรยาที่รักกันปานจะกลืนกินหึ ไม่ผิดหรอก ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นตัวแทนความรักของพ่อกับแม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ้าชู้ของพ่อเริ่มทำงาน ความอดทนของแม่ก็ต่ำลงทุกวัน สุดท้ายเธอจึงกลายเป็นของขวัญถูกทิ้ง เมื่อท่านทั้งสองตัดสินใจแยกทางกันตั้งแต่เธอเริ่มแตกเนื้อสาวเธอใช้ชีวิตอยู่ในความดูแลของพ่อ ไม่นานแม่ก็แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่เมืองนอก มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกที่น่ารักอีกสองคน ในขณะที่เธอต้องทนเหงาเดียวดายอยู่แต่บ้านเมื่อพ่อเอาแต่ทำงาน และมีผู้หญิงคนอื่นไปเรื่อย แทบไม่เคยเจียดเวลามาเหลียวแลเธอบ้างเลยที่จริงเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนักหรอก เธอมีคฤหาสน์หลังใหญ่โตให้ซุกหัวนอน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีเงินในบัญชีหลายสิบล้าน มีอิสระเต็
“อือ ปล่อย จะพาฉันไปไหน”แม้จะล่องลอยราวกับอยู่ในห้วงของความฝัน เสียงรอบกายอื้ออึงฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ขวัญชนกกลับพยายามจะลืมตาขึ้นมาให้ได้ เมื่อจิตสำนึกสุดท้ายตอนที่เธอโดนหิ้วปีกออกมา เธอเห็นใบหน้าของผู้ชายคนนั้น คนที่มันพยายามจะทำมิดีมิร้ายเธอทุกครั้งที่มีโอกาส“พี่จะพาขวัญไปขึ้นสวรรค์ไง ขึ้นรถเถอะ”“ไอ้ชลัช ไอ้ชั่ว ปล่อยนะ”จิตใต้สำนึกสั่งให้ดีดดิ้นกรีดร้องและทุบตีเขาเพื่อเอาตัวรอด แต่สมองที่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้มข้นในกระแสเลือดกลับตอบสนองเพียงใช้มือปัดป่ายใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังปล้ำจูบซอกคอของเธออย่างกักขฬะ เพราะสถานที่ตรงนี้คือลานจอดรถที่ค่อนข้างห่างออกมาจากตัวร้าน จึงมืดมิดเหมาะกับการลากสาวสักคนมาเผด็จศึกจริงๆเสียงร้องของผู้หญิงซึ่งท่าทางจะเมาเต็มที่ ดึงสติชายหนุ่มที่กำลังนัวเนียกับสาวสวยในมุมลับตาท้ายรถยนต์ราคาแพงให้รีบหันมองหาต้นเสียงทันที“เดี๋ยวฉันมา”“อย่าไปยุ่งเลย คู่นั้นก็อาจจะกำลังทำแบบเราก็ได้”ตัวตนใหญ่โตที่มีปลอกป้องกันห่อหุ้มเอาไว้กระตุกเต้นร้องขอการปลดปล่อย ยังไม่ทันที่เขาจะได้จ้วงแทงสาวสวยดาวคณะอักษรศาสตร์ให้หนำใจ ก็ดันมีมารมาผจญเสียก่อน แต่ถ้าเขาทำทีเป็นทองไม
“ไอ้ไฟ เปิดประตูให้หน่อย”เสียงหอบหายใจแรงดังผ่านอินเตอร์คอมหน้าห้องพัก คนที่ถูกเรียกชื่อเดินงัวเงียออกมาเปิดประตูให้ด้วยความหงุดหงิด ไม่รู้ว่าพี่ชายฝาแฝดมัวไปนัวเนียกับผู้หญิงที่ไหนมาจนทำคีย์การ์ดหายอีก หรือไม่ก็เมาจนจำรหัสเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นประจำตั้งแต่พวกเขาแยกตัวออกมาอยู่ที่ห้องชุดของคอนโดมิเนียมสุดหรูที่พ่อแม่ซื้อให้แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูต้อนรับพี่ชายฝาแฝดซึ่งเกิดก่อนเขาเพียงห้านาทีก็ต้องตกใจ เมื่อในอ้อมแขนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนอนหลับไม่ได้สติความจริงมันไม่แปลกที่พี่ชายของเขาจะหิ้วผู้หญิงซึ่งเจอกันในผับกลับมานอนที่ห้อง แต่ที่มันไม่ปกติจนเขาต้องตกใจคือผู้หญิงคนนั้น เป็นเพื่อนร่วมคณะของเขา แถมยังได้ตำแหน่งดาวคณะคู่กับเขาอีกต่างหาก“ไอ้ฟืน มึงเอาของขวัญมาได้ยังไงวะ”ที่ต้องถามออกไปแบบนั้นเพราะของขวัญกล่องนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถแกะเธอออกชื่นชมของด้านในได้ ภายใต้ใบหน้าสวยงามและรอยยิ้มหวานๆ นั้น เธอเป็นคนค่อนข้างถือตัว เข้าหายาก พูดน้อย ออกจะสวย เลิศ เชิด หยิ่ง ตามสไตล์ลูกคุณหนูไฮโซทายาทเพียงคนเดียวของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์หรูที่กำลังรุ่งเ
“ไฟ..”เธอชี้นิ้วไปที่เพื่อนร่วมคลาส เอ่ยเรียกชื่อเขา แล้วชี้นิ้วไปยังผู้ชายรูปหล่ออีกคนที่เหมือนเขาทุกกระเบียดนิ้วซึ่งน่าจะเป็นภาพสะท้อนจากกระจกเงา แต่ไหนล่ะ..กระจก“ผมไฟถูกแล้ว แต่นั่น ฟืน พี่ชายฝาแฝดของผม”“ฟืน พี่ชายฝาแฝดหรือ”“ใช่”จริงสิ เธอลืมความจริงข้อนี้ไปได้อย่างไร ก็สาวๆ ทั้งในและนอกคณะลือกันให้แซดว่าเขามีฝาแฝดที่ทั้งหล่อและเท่ไม่ต่างจากเขา ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยได้เจอหน้าสักครั้งจนลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้วแต่ที่จะแตกต่างออกไปจนสามารถแยกฝาแฝดคู่นี้ออกและเป็นที่โจษจันไปทั่วเห็นจะเป็นความเจ้าชู้ ร้ายกาจ และดิบเถื่อนตามสไตล์หนุ่มวิศวะ ที่แค่มองเขาปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาเป็นเหมือนคำพูดพวกนั้นจริงๆ แค่เห็นหน้าก็ไม่ถูกชะตาเสียแล้ว“สวัสดีครับคุณหนูของขวัญ ไม่เคยได้ยินชื่อ ฟืน วิดวะ ผู้ชายที่ฮ็อตที่สุดในโยธาหรือไง ถึงเรียกฉันเป็นไอ้ไฟ”คนหล่อยืนกอดอกไขว้ขาเอนตัวพิงผนังห้องด้วยท่วงท่าสุดเท่ ดวงตาคมกริบดูดุดันมีเสน่ห์มองเธอไม่วางตา แถมยังยกยิ้มมุมปากอย่างกวนอารมณ์ที่สุดไอ้เรื่องหล่อ มันก็หล่ออยู่หรอก เพราะเขาสองคนหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่เธอสัมผัสได้เลยว่าลึกลงไปในดวงตาของผู้ชายสอง
กว่าที่เขาจะสอนเธอทำเมนูโปรดของตัวเองได้ก็ลุ้นเกือบตาย เห็นทีคุณหนูของขวัญคงเหมาะกับการชี้นิ้วสั่งและนั่งรอกินข้าวแบบสวยๆ มากกว่าจะเข้าครัวแบบนี้ แต่ถ้าเขายกเลิกคอร์สทำอาหารไปก็จะไม่มีโอกาสใกล้ชิดเธออีก“ไฟยังไม่มาอีกเหรอ”หลังจากที่แทบจะทำไฟไหม้ครัวของเขา คุณหนูของขวัญก็มานั่งชะเง้อคอจนแทบจะเป็นยีราฟรอคอยอัคคีกลับมาชิมอาหารฝีมือเธอ“ฉันว่ามันไม่กลับมาง่ายๆ แล้วล่ะ น่าจะดึก อย่ารอเลย เรากินข้าวกันก่อนเถอะ”“ฉันอยากรอไฟมากกว่า เหม็นตัวเองด้วย มีแต่กลิ่นกะเพรา”เธอยกแขนขึ้นมาดม มีแต่กลิ่นฉุนๆ ของใบกะเพราและเครื่องปรุงกลิ่นเค็มๆ การทำอาหารมันไม่เหมาะกับเธอจริงๆ แต่ก็อยากแสดงความสามารถให้อัคคีเห็น เผื่อเขาจะปลื้มเธอในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง“มันจะดึก ไม่หิวหรือไง”“ไม่หิว ดึกแค่ไหนก็รอได้ งั้นฉันไปอาบน้ำสระผมก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบมา”“ตามใจ งั้นเอาคีย์การ์ดไป เผื่อฉันยังอาบน้ำไม่เสร็จก็เปิดเข้ามานั่งรอแล้วกัน”“ขอบใจนะ”หลังจากที่เธอกลับไปอาบน้ำสระผม ทาโลชันกลิ่นดอกไม้จนหอมฟุ้งก็กลับมาที่ห้องของเขาอีกครั้ง เมื่อเดินเข้ามาก็สบตากับชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวผ้านุ่มสีเทาเข้มซึ่งกำ
“อีของขวัญ อีของขวัญอีกแล้ว มันออกไปจากบ้านแล้วทำไมยังตามมาเป็นมารของฉันอยู่ได้”กระเป๋าแบรนด์เนมไฮเอนด์ถูกทุ่มลงบนโต๊ะม้าหินข้างตึกคณะอักษรศาสตร์อย่างไม่ไยดี ทำเอาเพื่อนรักทั้งสองถลาเข้าไปกอดประคองปัดฝุ่นมันด้วยความทะนุถนอมแทบไม่ทัน“แกใจเย็นสิวะลัน แล้วของขวัญนี่มันเป็นใคร ใช่ดาวคณะบริหารอินเตอร์หรือเปล่า”ต้องตา เพื่อนรักที่เป็นลูกไล่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะคนที่สามารถปาดหน้าหนุ่มที่ชลันดาหมายปองไปก็ต้องเป็นคนระดับเดียวกันเท่านั้นถึงจะทำได้หลังจากที่ชีวิตของชลันดาดีขึ้นแบบ 300% ได้ใช้ชีวิตแบบลูกคุณหนูมานานร่วมสองปี เธอไม่เคยเอาเรื่องของขวัญชนกมาเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเจ้าหล่อนกระเด็นออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปนานแล้ว“ใช่ มันนั่นแหละ มันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณลุง”“อ้าว งั้นก็แปลว่าแกสองคนเป็นพี่น้องกันน่ะสิ”โซดา โพล่งออกมาประสาซื่อ ในเมื่อพ่อกับแม่มาแต่งงานกัน ลูกจากทั้งสองฝั่งก็ต้องเป็นพี่น้องกันไปโดยปริยาย แต่กลับถูกชลันดาตวัดสายตามองอย่างคาดโทษที่พูดจาไม่เข้าหู“โซดา ถ้าแกไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาให้ฉันอารมณ์เสีย นังนั่นมันไม่ใช่พี่น้องของฉัน เพราะมันเองก็ไม่เคยมองฉันกับพี่เ
ระหว่างที่ชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังพูดถึงสาวบริหารอินเตอร์ที่ทั้งสวยทั้งหอม สาวอักษรที่กำลังโด่งดังมากในหมู่ผู้ชายก็เดินเข้ามาในโรงอาหารของคณะวิศวะสาวสวยผิวขาวในชุดนักศึกษารัดรูปท่ามกลางเหล่าหนุ่มวิศวะเสื้อช็อปสีเลือดหมูที่นั่งอยู่เต็มโรงอาหาร จึงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปยังเธอเพียงผู้เดียวแม้ด้านหลังของเธอจะมีเพื่อนสนิทเดินตามมาด้วยอีกสองคนก็ตามเมธาใช้ศอกกระทุ้งชนาธิปที่นั่งอยู่ด้านข้างให้เงยหน้าขึ้นมามองสาวอักษรคนนั้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งกลุ่มหันไปมองด้วยความอยากรู้“ไอ้ธิป กูตาฝาดไปหรือเปล่าวะ ลัน สาวอักษร มาเดินอยู่ในดงวิศวะ”เมธาเอ่ยออกมาราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ฝันอีกครั้งเมื่อเจอสาวสวยคนดังของมหาวิทยาลัยสองคนติดๆ“มึงไม่ได้ตาฝาดไปหรอกไอ้ม่อน กูก็เห็น”ชนาธิปช่วยยืนยันในสิ่งที่เมธาเห็น ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง“เดี๋ยว นี่พวกมึงจะรู้จักสาวๆ ทุกคณะเลยหรือไงวะ”นริศรา สาวห้าวคนเดียวในหมู่หนุ่มห่ามพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้ ถ้าพวกนี้หัดสนใจและทุ่มเทเรื่องการเรียนให้เหมือนเรื่องสาวๆ ป่านนี้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งคงมารออยู่ตรงหน้า นี่กว่าจะเคี่ยวเข็ญกันให้เรียนผ่านมาจนถ
เสียงโหวกเหวกที่เหล่าลูกคุณหนูชนชั้นไฮโซของหนุ่มสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ไม่คุ้นเคย ดังมาจากกลุ่มของหนุ่มสาวเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ยืนอยู่ไม่ไกลขวัญชนกมองสบตากลับชายหนุ่มรูปหล่อที่โดดเด่นที่สุดนั้นกลุ่มนั้นแล้วลอบเบะปาก แม้ใบหน้าจะเหมือนกับผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับเธอทุกกระเบียดนิ้ว แต่เธอบอกแล้ว ว่าแววตาและมารยาทของเขามันไม่ใช่“อุ๊ย นั่นฟืนนี่นา หน้าเหมือนแกโคตรๆ อะไฟ แต่ฉันว่าเขาดูกร้าวใจชะมัด”อัจจิมา เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของขวัญชนกทำหน้าเคลิ้มฝัน เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอหล่อ แต่บุคลิกคุณชายที่เธอคุ้นเคยกับผู้ชายในคณะนี้มันทำให้เธอชินชา พอเจอสายตากร้าวดุของผู้ชายอีกคนที่หน้าเหมือนคนหล่อๆ ตรงนี้ มันทำให้หัวใจเธอสั่นอย่างไรชอบกลทั้งที่ปกติไม่เคยชอบผู้ชายคณะวิศวะเลยสักนิด“ชอบหรือไง หมอนั่นไม่ได้น่ารักเหมือนไฟหรอกนะยัยอ้อน ปากเสียจะตาย”ที่จริงขวัญชนกก็อยากจะใช้คำอื่นมากกว่าคำนี้ แต่แฝดผู้น้องของเขานั่งอยู่ทั้งคน และเธอจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูน่ารักเสมอในสายตาเขา จึงไม่กล้าพูดจาแรงๆ ออกมา แม้ผู้ชายปากเสียคนนั้นจะคู่ควรก็ตาม“ก็คงไม่เถื่อนขนาดนั้นมั้ง เขาเป็นแฝดกับไฟนี่นา”อัจ
“ไอ้ฟืน กูขอโทษที่เอาแฟนมึง ปอยมาอ่อย ลากกูเข้าห้องน้ำ กูเลยทนไม่ไหว”ชนาธิปเอ่ยขอโทษทันทีที่อัคราเดินเข้ามาในห้องเรียน เรื่องที่เขากับคนรักของเพื่อนแอบแซ่บกันในห้องน้ำล่วงรู้ไปถึงหู เขาโทรหาเท่าไรอัคราก็ไม่ยอมรับสาย เดือดร้อนวันนี้เลยรีบมาแต่เช้าเพื่อดักรอในคลาสเรียนเสียเลย“กูไม่ได้หวงผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่ชอบให้มึงมาทำอะไรลับหลัง ถ้ามึงอยากได้ทำไมไม่มาขอกันตรงๆ”แม้จะไม่เคยขอนอนกับผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแฟนเพื่อน แต่กับผู้หญิงชั่วคืนคนอื่นที่มีสถานะเป็นแค่ของเล่น พวกเขาเองก็เคยผลัดกันใช้ออกบ่อยไป“กูก็ไม่ได้อยากได้แฟนมึง ไม่ได้อยากนอนด้วย แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เล่นลากกูเข้าห้องน้ำแล้วถลกกระโปรงโชว์กู กูเลย..”ชนาธิปอึกอัก พูดไม่ได้เต็มปากนักว่าไม่อยากได้แฟนของเพื่อน เพราะน้องปอยคนนั้นก็ทั้งขาวทั้งอึ๋ม แถมพอได้ลองเข้าจริงๆ ก็โคตรเด็ดสมคำร่ำลือ“เออๆ ช่างแม่ง ทีหลังมึงต้องบอกกูสิวะ อย่าให้กูไปรู้จากคนอื่น มึงอยากได้ผู้หญิงคนไหนของกูมึงก็บอก เราสลับผู้หญิงกันใช้ออกบ่อย เรื่องแค่นี้อย่าให้มันมาทำลายความเป็นเพื่อนของเรา”“กูขอโทษ แต่นั่นแฟนมึงไง กูก็เลยกลัว..”“ที่จริงมึงแม่งก็ไม่ควรเอาแฟนก
“ว้าย..โอ๊ย..อ๊าย..”คือเสียงที่ดังออกมาจากห้องครัวเป็นระยะ นริศรามองไปยังหนุ่มสาวที่แทบจะหยุมหัวกันตลอดเวลา แต่แววตาของเพื่อนรักเธอที่ใช้มองไปยังผู้หญิงคนนั้นกลับอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยเห็นเขาใช้มองใครมาก่อน..แม้แต่เธอริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น หัวใจดวงน้อยปวดหน่วงแปลกๆ เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยมองเธอเป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่า แต่เธอกลับแอบชอบเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ“ไอ้ฟืนมันชอบผู้หญิงสวย”เสียงทุ้มของคนที่กำลังรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ดังขึ้น สายตาของเขาไม่ได้ละจากหน้าจอมามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้ว่าเธอกำลังทำและกำลังคิดอะไรอยู่“แล้ว..”“คนไม่สวยแถมยังกระโดกกระเดกเหมือนทอมก็ต้องทำใจนะ”“หุบปาก ฟืนมันจะชอบใครไม่ชอบใครก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”“หึ มองพี่ชายฉันซะตาปรอยขนาดนั้น อันที่จริงถ้าชอบคนหล่อๆ อย่างไอ้ฟืน ฉันก็พอแทนได้นะ เพราะหน้าเราเหมือนกัน ฉันจะหลับหูหลับตาทำให้ก็แล้วกัน ที่ห้องฉันหรือที่ห้องเธอดีล่ะ ยัยทอม”“ไอ้ทุเรศ ของขวัญน่าจะได้เห็นนะ ว่านายมันทุเรศ ไม่เหมือนภาพลักษณ์สุภาพบุรุษที่สร้างขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ตกผู้หญิ
คนตัวบางสะดุ้งโหยง หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วทั้งยังชี้ปลายมีดมายังเขา ดีที่เขากระโดดถอยหลังหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้นปลายมีดแหลมคมนั้นคงฝังเข้ามากลางหน้าอกของเขาไปแล้วแน่ๆ“เฮ้ย นี่จะฆ่าฉันเหรอ ของขวัญ”“ก็ใครใช้ให้นายมาเล่นบ้าๆ กับฉันแบบนี้ ถอยออกไปไกลๆ อย่าขยับมาใกล้ฉันอีก”“ฉันแค่จะมาดูว่าเธอหั่นผักเสร็จหรือยัง เห็นยืมงมอยู่ตั้งนาน จนฉันหุงข้าว หั่นหมู ทุบกระเทียมเสร็จแล้วเนี่ย”“ก็นายเข้ามาข้างหลังฉัน”“หึ คุณหนูของขวัญครับ ครัวนี้มันแคบ ถ้าฉันไม่เข้ามาดูเธอหั่นผักทางนั้น แล้วจะให้เข้าทางไหน”“ไม่ต้องพูดมาก คนอย่างนายเจตนามันไม่ดีตั้งแต่ต้น อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ ไอ้โรคจิต”“ทำไมมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”นิดหน่อยน่ะ เขาไม่คิดหรอก แต่คนอย่างเขามันคิดเกินเลยไปไกลแล้วต่างหาก ก็ใครใช้ให้เธอทั้งสวยทั้งหอมแบบนี้ล่ะ ยิ่งมองเธอจากด้านหลัง เห็นบั้นท้ายงอนๆ เรียวขาขาวเนียนพ้นชายกระโปรงสั้นๆ ออกมาอีก แถมยิ่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ เธอยิ่งดูน่ารักน่ากระแทกที่สุดจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“เชื่อนายก็ออกลูกเป็นควายแล้ว”“ยังไม่ทันมีผัวเลย จะมีลูกแล้วเหรอ”“ไอ้บ้
“เสร็จซะที เมื่อยจะแย่”คนตัวบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูกระโปรงบานสั้นเหนือเข่ามาเป็นคืบ หักนิ้วมือและบิดกายอย่างเมื่อยขบเมื่อต้องนั่งพิมพ์รายงานวิชาสำคัญตั้งแต่เช้าจรดเย็นแทบไม่ได้พัก“ขวัญเสร็จแล้วเหรอ ของผมยังไม่เสร็จเลย”“อีกเยอะไหม เอามาสิ ขวัญช่วยพิมพ์”“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่เยอะแล้ว ขวัญพักเถอะ”“คุณหนูของขวัญ มาช่วยฉันทำกับข้าวดีกว่า จะได้กินข้าวเย็นกัน เดี๋ยวไอ้นุ๊กก็ต้องกลับบ้านแล้ว”คุณหนูคนสวยหันขวับมองหน้าคนปากไม่ดีตาขวาง ในแววตาแทบไม่มีความเป็นมิตรหลงเหลืออยู่สักนิด แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจของคนที่ตั้งใจกวนประสาท“ทำไมมองฉันแบบนั้น อย่าบอกนะว่าคุณหนูของขวัญทำกับข้าวไม่เป็น”เธอไม่ตอบ แต่ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่องนั้นมองเขาราวกับกำลังจะขู่ให้เขาหุบปาก อย่าพูดมาก ถ้ายังไม่อยากโดนเธอฆ่าตาย“ทำไม่เป็นจริงๆ เหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ไอ้ไฟ มึงไม่คิดจะสอนเพื่อนมึงหน่อยเหรอ แบบนี้ใครจะเอาทำเมียวะ”“ไอ้เหี้ยฟืน มึงเลิกกวนประสาทขวัญซะที วันนี้เวรมึง ก็ทำไป อย่าลีลา”คนตัวร้ายมองสบตาน้องชายด้วยแววตาที่รู้กัน แฝดน้องถอนหายใจยาวในความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย สุดท้ายก็ต้องช่วย หมอนั่นป
ดวงตากลมโตลอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขนกระต่ายฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กราคาแพง วันนี้เธอกับเขามีนัดมาทำรายงานกันที่โต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟาในห้องรับแขกของคอนโดมิเนียมสุดหรูของเขาเหมือนเดิมนึกอยากขอบคุณคืนซวยๆ คืนนั้นที่เหวี่ยงให้เขาโผล่มาช่วยเธอจากผู้ชายเลวๆ นั่นได้ทัน และทำให้เธอกับเขาได้มาสนิทสนมกันจนถึงวันนี้สองปีแล้วสินะ ที่เธอได้นั่งเรียนข้างเขา พูดคุยกับเขาทุกวัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ รวมถึงตัวติดกันแทบจะตลอดเวลาอันที่จริงก็ไม่ได้มีแค่เธอกับเขาหรอก ที่ตัวติดกันตลอดเวลา ในกลุ่มของเธอยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ เกรซ เกศริน เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่พยายามอย่างยิ่งยวดในการยุยงส่งเสริมให้เธอบอกความในใจกับเขา แต่เธอก็ไม่กล้าเสียทีแม้จะไม่แน่ใจว่าเขาพอจะมองออกหรือเปล่า ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา แต่ในเมื่อเขายังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ได้ดูมีท่าทีคิดอะไรเกินเลยกับเธอแม้แต่น้อย ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสารภาพความในใจออกไป เพราะกลัวว่าถ้าเขาไม่คิดอะไร เธอจะสูญเสียเขาไปตลอดกาลความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธ